ความคิดเห็นที่ 1 จากประสบการณ์ตรงเลยนะจ้ะ ตอนเราเดินไปบอกนายเราเขาก็บอกให้ไปคิดดูทั้งนั้นละ 90%1 เขาจะบอกอย่างนี้ถ้าเราคิดว่าเราจะออกจริงๆ ให้เดินไปยืนยันอีกทีค่ะ เขาจะรู้ว่าเราอาจจะออกจริงๆ เรื่องเปลี่ยนงานเป็นธรรมดา เราเข้าใจเจ้าของกระทู้นะ เคยเป็นมาก่อน แต่ถ้าที่ใหม่ดีกว่าจริงๆ ก็ไปเถอะจ้ะ จากคุณ : คุณแม่น้องชิน - [ 9 เม.ย. 51 14:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าอยู่ต่อแล้วรับเงินเพิ่ม  ก็โดนพวกปากหอยปากปูนินทากระแนะกระแหนเอาอีก ถ้าอยู่ต่อแต่ไม่รับเงินเพิ่ม   ..แล้วจะอยู่ไปทำไมคะในเมื่อคุณอยากลาออกแล้วนิ่ จากคุณ : ทังโคริริน - [ 9 เม.ย. 51 14:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แจ้งเพื่อรับทราบ ไม่อนุมัติก็ออกได้ ถ้าลาถูกต้อง แก้วมันร้าวตั้งแต่คุณไปบอกเจ้านายคุณแล้ว ตอนอยู่ไม่ขึ้นเงินให้แต่ลาออกจะดึงตัวไว้ ต้องใช้เหตุผลคุยครับ ตอนที่ลาออกก็มาถามเหมือน จขกท ในสีลมเหมือนกัน ถูกเจ้าของเรียกคุย 3 รอบ รอบแรกเหมือน จขกท เลย รอบสอง ผมเข้าไปคุยเองบอกเหตุผลด้วยตนเองว่า ต้องการหาประสบการณ์ใหม่ ที่เขารับก็เพราะอยู่กับเก่ามานาน ต้องการเจริญก้าวหน้าในสายงาน รอบนี้ก็ไม่ยอมให้ออก รอบสาม เจ้าของให้เสนอว่าอยากได้อะไรบ้าง เขาจะให้แต่ผมไม่รับ ไม่อยากติดหนี้บุญคุณ ถ้าจะออกจริงใครก็ห้ามไม่ได้ครับถ้าทำถูกต้อง ตอนนี้ออกมาแล้วแต่ต้องมาช่วยที่เก่าวันเสาร์ แต่ก็ดีได้เงินทั้ง 2 ที่เพราะผมไม่ทิ้งงาน ไม่ทำให้เขาเสียหายฝึกคนใหม่จนกว่าจะเก่ง ออกมาแล้วเขาก็ยังคิดถึง จากคุณ : JIRASAK1459 - [ 9 เม.ย. 51 15:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อย่างที่คุณ Jirasak1459 แจ้ง และที่เซ็นต์ไว้แล้วสำหรับที่ใหม่ กฎหมายแรงงานแจ้งว่า สามารถยกเลิกได้ ไม่มีความผิดทางกฎหมาย ซึงบ.ส่วนใหญ่ไว้ขู่แค่นั้น จากคุณ : ป้อม - [ 9 เม.ย. 51 15:29:49 A:125.24.79.240 X: TicketID:118603 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ออกเลยค่ะไม่ต้องคิดมาก ใจมันไปซะแล้ว จากคุณ : ป้าบางแค (ป้าบางแค) - [ 9 เม.ย. 51 15:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ใจอ่อน ละสิ จากคุณ : กาฟิว - [ 9 เม.ย. 51 15:42:13 A:10.11.12.3 X:203.155.9.163 TicketID:155104 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เคยครับแต่ผมออกเพราะตอนนั้นผมลาออกไปเรียนต่อโทที่ต่างประเทศ ก็เลยบอกตรงๆไปเลยครับ ตอนแรกทางหัวหน้าไม่อยากให้ออก ก็เลยเสนอให้เรียน ป โทในประเทศ วันเสาร์อาทิตย์แทนและอนุญาตให้ลางานไปเรียนทุกวันเสาร์ได้ด้วย แถมยังบอกว่าถ้าอยากพัฒนาภาษาก็จะอนุญาตให้ิลาไปไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศได้แต่อยากให้กลับมาทำงานให้บริษัท แต่ผมก็เลือกที่จะไปเรียนต่อโทต่างประเทศอยู่ดี สุดท้ายเค้าก็ไม่ว่าอะไร แค่เสียดายแล้วบอกผมว่าขอให้โชคดี นี่เป็นอนาคตของคุณ ถ้าคุณไปแล้วได้ดีกว่าผมก็รั้งคุณใว้ไม่ได้ จากคุณ : tjonline - [ 9 เม.ย. 51 16:07:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เกิดขึ้นหมาดๆเลยค่ะ  ยื่นใบลาออกแล้วก็ต้องออกเลยค่ะ ไม่คิดจะกลับหลังหัน  การถูกเรียกไปคุย แล้วยื่นข้อเสนอต่างๆให้ มันไม่สามารถลบล้างความรู้สึกเดิม  หรือปัญหาเดิมๆได้ บุญคุณก็ส่วนบุญคุณค่ะ  เราไม่ใช่คนรับใช้เค้าไปทั้งชีวิตหรอก ไม่ได้ยุนะคะ  แต่ตัวคุณจะทราบเองว่าอยู่ต่อแล้วเป็นอย่างไร จากคุณ : ปอ (Midori_C) - [ 9 เม.ย. 51 16:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากๆ ครับทุกคห. เอาว่ะ ตัดสินใจออกก็ต้องออกเนอะ จากคุณ : Beloved_ - [ 9 เม.ย. 51 16:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เราเคยเจอเหตุการณ์นี้ค่ะ เค้าขึ้นเงินเดือนให้หมื่นกว่าบาท เราตัดสินใจอยู่ต่อ เพราะเราไม่ได้มีปัญหาเรื่องงาน แต่มีปัญหาเรื่องเงิน เราทำงานเยอะหลายส่วน แต่ได้เงินเดือนนิดเดียว เราเลยรับไม่ได้ พอนายปรับเงินเดือนให้เราก็อยู่ต่อ แต่หลังจากนั้นนายคนนี้กลับประเทศไป ก็เปลี่ยนนายใหม่ นายใหม่ห่วยแตกรับไม่ได้ เลยลาออกจริงๆซะเลย ปล. ถ้าจะอยู่ต่อ ควรรับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นมา ไม่งั้นจะอยู่ทำไมคะ ?? จริงป่ะ จากคุณ : สุดสวยแห่งสีลม - [ 9 เม.ย. 51 16:48:54 A:58.136.207.120 X: TicketID:151743 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าผมจะอยู่ต่อ มันคงไม่ใช่เพราะจะได้เงินเพิ่มหรอกครับ มันเพราะผมเกรงใจและนึกถึงบุญคุณมากกว่า แต่คงทำงานอย่างอึดอัดแน่นอน จากคุณ : Beloved_ - [ 9 เม.ย. 51 16:52:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เพิ่งหมาดๆ เมื่อวานนี้เองค่ะ แต่สุดท้ายก้อ Confirm ค่ะ ว่าออกแน่นอน เค้าก้อมีต่อว่าเราก้อต้องทำใจนะค่ะ แต่ถ้าที่ใหม่ดีกว่าก้ออย่าให้อารมณ์มาดึงอนาคตคุณไว้ค่ะ ยังไงเราก้อรู้ปัญหาแล้วว่าที่นี่เป็นอย่างไรไม่ใช่เหรอค่ะ ถ้าไปที่ใหม่แล้วมีปัญหาก้อต้องคิดว่าเราตัดสินใจที่จะมาแล้ว ก้อต้องสู้ต่อไปนะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : Apple (Apple-CX) - [ 9 เม.ย. 51 17:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่า ทางที่ดี คุณออก แต่คุณบอกที่เก่าว่า มาช่วยงานช่วงเสาร์อาทิตย์ หรือเอางานไปทำบ้านในช่วงแรกๆก่อนก็ได้  จะได้รายได้สองทางด้วย แล้วที่เก่าก็มีเวลาให้เขาปรับตัว เขาจะได้ไม่เคืองคุณมาก   แล้วถ้าที่ใหม่ไม่ดีอย่างที่คาด  อาจจะกลับมาทำงานที่เก่าได้โดยไม่ต้องเคืองกันมาก จากคุณ : ป้อม (Bgate) - [ 9 เม.ย. 51 17:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 9 เม.ย. 51 17:33:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 อย่างต่อไปนี้จะเกิดขึ้นทันทีที่พนักงานคนหนึ่งยื่นใบลาออกจากบริษัท: A. นายจ้างเซ็นอนุมัติใบลาทันที (ด้วยความโล่งใจว่าไปได้ซะทีคอยมานานแล้ว!) ถ้าเกิดกรณีเช่นนี้ก็คงต้องรีบเดินหน้าออกจากบริษัทฯ แบบไม่ต้องเหลียวหลังกลับมามองด้วยความอาลัยอาวร B. นายจ้างรั้งตัวไว้ให้พิจารณาทบทวนพร้อมกับเสนอค่าตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น ถ้าเกิดกรณีเช่นที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณ Beloved_ ขอให้คุณ List คำถามต่อไปนี้ และตอบคำถามเหล่านั้นให้กับตัวเองก่อนตัดสินใจขั้นเด็ดขาด แล้วลาออกจากบริษัทแบบไม่เหลือเยื่อใย 1. ปัญหาเดิม ๆ ที่คุณกลัวว่าจะกลับมาและทำให้คุณคิดจะลาออกอีกนั้นมีอะไรบ้าง 1..2..3..4 .? 2. ปัญหาทั้งหมดในข้อ 1 เคยมีการหยิบยกขึ้นมาหารือกันเพื่อหาทางแก้ไขหรือไม่? 3. ถ้ายังไม่เคยจะลองยกขึ้นมาหารือกับส่วนงานต่าง ๆที่เกี่ยวข้องได้ไหม? 4. ถ้าเคยแล้วแต่ในระดับหัวหน้างานหรือผู้จัดการนั้น ๆ ไม่สามารถช่วยได้เพราะติดเรื่องของระบบ หรือความสามารถของบุคลากรแล้วละก็   ตอนนี้เป็นโอกาสของคุณที่จะหยิบยกปัญหาเหล่านั้นขึ้นมาคุยกับเจ้านายหรือผู้ใหญ่ และชี้แจงให้ท่านเห็นถึงปัญหาที่เป็นสาเหตุทำให้คุณต้องลาออก ไม่แน่นะ ปัญหาที่คุณคิดว่าอัดอั้นตันใจมานานอาจจะได้รับการแก้ไขภายในชั่วพริบตาเดียว ด้วยวิสัยทัศน์และประสบการณ์ที่โชกโชนของเจ้านายก็เป็นได้ 3. “ตอนนี้เครียดพอสมควร ใจหนึ่งก็อยากไป อีกใจก็อยากอยู่” อะไรคือสาเหตุที่ทำให้อีกใจหนึ่งของคุณอยากอยู่? ให้ List สาเหตุที่ทำให้คุณอยากอยู่ออกมาให้หมด แล้วตอบคำถามว่า “คุ้มค่า” กับการที่คุณจะอยู่ต่อหรือไม่? 4. ตำแหน่งและหน้าที่ที่ทำอยู่ในปัจจุบันมีโอกาสก้าวหน้าหรือไม่อย่างไร? 5. ธุรกิจที่บริษัทที่คุณทำอยู่มีโอกาสเติบโตแค่ไหน หรือมีโอกาสที่คุณจะเรียนรู้เพิ่มขึ้นเพื่อเปิดธุรกิจในลักษณะเดียวกันในอนาคตหรือไม่? 6. “แถมถ้าอยู่ต่อ ผู้ใหญ่จะมองว่าเราเห็นแก่เงินหรือป่าวที่อยู่ต่อ” ผู้ใหญ่จะไม่มองว่าคุณเห็นแก่เงินแน่นอน เพราะคุณมีคำตอบอยู่แล้วว่า  “สุดท้ายถ้าผมจะอยู่ต่อผมคงไม่ขอรับเงินส่วนเพิ่มดีกว่าเนาะ รับเท่าที่เคยได้ก็พอ สบายใจกว่า” นั่นแสดงว่าปัญหาของคุณไม่ได้อยู่ที่รายได้เลย และหากคุณตัดสินใจจะอยู่ต่อและบอกเจ้านายไปตามที่คุณคิด (เรื่องไม่ขอรับเงินส่วนเพิ่ม) ละก็ คุณจะได้ใจเจ้านายไปเต็ม ๆ เลย.. เจ้านายอาจจะไม่ขึ้นค่าตอบแทนให้คุณตอนนี้เพื่อทำให้คุณรู้สึกสบายใจ แต่รู้ไหมว่าเจ้านายอาจจะปรับเงินเดือนของคุณในรอบการปรับเงินเดือนครั้งต่อไป เพื่อตอบแทนความเป็นบุคลากรที่มีทัศนะคติที่ดีเลิศเช่นคุณอย่างไม่ต้องสงสัย === “ถ้าผมไป ผมก็รู้สึกสงสารและเห็นใจเจ้านายเหมือนกัน ที่ผ่านมา ท่านก็มีบุญคุณช่วยเหลือผมมา ความคุ้นเคย ความสนิททำงานรู้ใจกัน คิดไปก็อดใจหายแว่บไม่ได้   แต่ถ้าผมใจอ่อนอยู่ต่อ ” === ข้อความข้างต้นทำให้มองว่าใจของคุณยังอยู่ที่บริษัท คุณมีความกตัญญูรู้คุณและพร้อมที่จะใจอ่อนอยู่ต่อหากปัญหาได้รับการแก้ไข เมื่อเป็นเช่นนี้ขอให้คุณรีบนำปัญหาทั้งหมดที่ list ในข้อ 1 ขึ้นมาหารือกันเพื่อหาทางแก้ หากการรั้งตัวคุณของเจ้านายในครั้งนี้ทำไปด้วยเห็นคุณค่าในตัวคุณจริง ๆ โดยที่ไม่มี Hidden agenda อื่น เช่นต้องการหาคนมาประกบ เพื่อเรียนรู้วิทยายุทธจากคุณแล้วหาทางบีบออกภายหลัง (ซึ่งไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น) นับว่าคุณโชคดีมากที่นายจ้างเห็นคุณค่าในตัวคุณ ความสุขอันสูงสุดของลูกจ้างหรือคนทำงานก็คือการที่นายจ้างเห็นคุณค่านี่แหละ อีกข้อคิดหนึ่งในกรณีของคุณก็คือ.. หากคุณตัดสินใจไม่ลาออกและอยู่ทำงานต่อโดยไม่รับค่าตอบแทนเพิ่ม สิ่งที่คุณจะได้รับนอกจากความภาคภูมิใจส่วนตัวว่าไม่ได้ถูกมองว่าเป็นคนเห็นแก่เงินแล้ว คุณจะได้รับความรู้สึกที่ดี ๆ จากนายจ้างเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเห็นคุณค่าในตัวคุณเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกมาก ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า! แต่ก็อย่าเหลิงนะ.. ขอให้โชคดี.. ป.ล.  ที่จริงมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับเรื่องนี้มามากและอยากจะนำมาเล่าสู่และแลกเปลี่ยน แต่ตอนนี้งานยุ่งมากขนาดกระทู้ที่ตั้งไว้เองยังไม่ได้เข้าไปเขียนต่อได้ตามใจคิด แต่อ่าน case ของคุณแล้วโดนใจมาก ๆ อยากจะแชร์ความเห็นแต่ก็กังวลกับงานที่คั่งค้าง ทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิและอาจจะเขียนวกไปวนมาต้องขออภัยด้วย จากคุณ : "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme) - [ 9 เม.ย. 51 19:54:35 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคห.นะครับ อ่านคห.คุณ "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme) แล้วรู้สึกดีจังเลยครับ ถ้าว่างจากงานแล้วอยากอ่านประสบการณ์ตรงของคุณนะครับ เป็นข้อคิดที่ดีมากเลยครับ ขอบคุณจริงๆ ผมเป็นคนขี้เกรงใจคน และใจอ่อนแบบนี้แหละ ตอนนี้กำลังตัดสินใจอีกครั้งว่า จะเอาไงดี เจ้านายก็บอกว่า หยุดสงกรานต์ก็ไปพักผ่อนและคิดทบทวบดูก่อนได้ แต่วันศุกร์นี้บริษัทใหม่นัดเข้าไปเซ็นสัญญาจ้างงานแล้ว ส่วนปัญหาต่างๆ ที่สะสมอัดแน่น และกดดันทำให้ผมอยากออกจากที่นี่ ก็พอสมควรครับ เคยหยิบขึ้นมาถกกันหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เคยแก้ไขได้จริงจังเลย ผมทำตำแหน่งผช.ผจก.ฝ่ายขาย แต่เอาเข้าจริง ต้องรับผิดชอบงานรอบด้าน สารพัดสากกะเบือยันเรือสำเภา  ทั้งจัดซื้อ(สินค้าบางรายการ-วัตถุดิบบางรายการ, ทั้งฝ่ายขายออกไปติดต่อลูกค้ารายใหญ่ๆ, ทั้งดูระบบคอมสำหรับเปิดบิลขาย-สต๊อค, แล้วก็งานอื่นๆ จิปาถะ เรียกว่า นอกจากมีตำแหน่งผู้ช่วยผจก.แล้ว ยังเป็น ผู้ช่วยพนักงานทุกท่านพ่วงอีกตำแหน่งด้วย ต้องคอยประสานงานให้ทุกฝ่าย พอมีปัญหาก็ต้องมาวิ่งตามแก้ไขให้ ทีนี้พออยู่นานเข้าๆ ด้วยความที่เป็นขี้เกรงใจคน ใครขอให้ทำไรให้ก็ทำ บางครั้งเรายุ่งงานของตัวเองจะตายอยู่แล้ว ก็เอางานอะไรมาขอให้ช่วยเพิ่มอีก บ่อยๆ มากๆ มันก็อึดอัดนะ ตัวเจ้านายก็ค่อนข้างสนิทกัน แต่เคยน้อยใจเจ้านายอยู่หลายครั้งเหมือนกันครับ เพราะเราทำงานขึ้นตรงกับเขา มีอะไรช่วยได้ก็ทำทุกอย่างไม่ว่าเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวเขา แต่พอมีปัญหา เขากลับไม่สามารถมาช่วยเราแก้ไข และปกป้องเราได้ในหลายๆ เรื่อง เหตุผลที่ทำให้ผมอยากอยู่ต่อ ก็อย่างที่บอกว่า เกรงใจและสำนึกบุญคุณผู้ใหญ่ และผมก็เสียดายและคงคิดถึงบรรยากาศ ในที่ทำงาน ความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมงาน (แปลกมั้ยผมสนิทสนมกับแม่บ้าน มากที่สุดในบริษัท555) ตำแหน่งงาน, ความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ที่เราได้รับด้วย ที่ใหม่ที่จะไปทำ องค์ใหญ่ขึ้น ได้รายได้มากขึ้น สวัสดิการดีขึ้น แต่ตำแหน่งงานลดลงนิดหนึ่ง ผมบวกลบคูณหารแล้ว โอกาสเติบโตยังพอมองเห็นแสงสว่างบ้างจึงอยากไปทำ เข้ามาในห้องนี้ก็ได้ระบายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากเพื่อนๆ บ้าง ก็ทำให้ความอีดอัดทุเลาลง ไว้คืบหน้าจะมารายงานผลให้ทราบนะครับ ขอบคุณมากครับ แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 51 21:42:33 จากคุณ : Beloved_ - [ 9 เม.ย. 51 21:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ที่สุดท้ายที่ทำงานเจ้านายก็รั้งไว้และยื่นข้อเสนอให้เหมือนกัน แต่ตอนนั้นตั้งใจมาทำกิจการของตัวเองจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แต่ก็ได้เข้าไปช่วยที่บ.วันเสาร์,อาทิตย์ จนบ.หาพนักงานใหม่และเข้าไปช่วยเทรนให้ ทุกวันนี้ก็ยังติดต่อกับเจ้านายเก่าอยู่และยังปรึกษาเรื่องอื่นๆได้อีกด้วยเพราะยังมีความรู้สึกที่ดีให้กันอยู่ค่ะ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองนะคะ เคารพการตัดสินใจของคุณค่ะ :)) แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 51 22:09:08 จากคุณ : สู้ต่อไป..ไอ้มดแดง (mpl2004) - [ 9 เม.ย. 51 22:04:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าคุณสามารถเลื่อนการเซ็นต์สัญญาจากวันศุกร์นี้ไปหลังสงกรานต์ ช่วงวันหยุดหลายวันเป็นช่วงเวลาที่คุณจะมีสมองปลอดโปร่ง ช่วยให้สามารถคิดพิจารณาและตัดสินใจกับปัญหาที่จะมีผลต่ออนาคตในครั้งนี้ได้ดีกว่า ลองติดต่อขอเลื่อนการเซ็นต์สัญญาดูก็ไม่เสียหายนะ ถ้าเจ้านายหรือผู้ใหญ่ที่บริษัทของคุณมีโอกาสได้อ่านความในใจของคุณในกระทู้นี้ และถ้าบริษัทเห็นคุณค่าและต้องการคุณจริง ๆ มั่นใจเหลือเกินว่าปัญหาของคุณที่สะสมมานานจะได้รับการแก้ไข คุณอาจจะมีความสุขกับการทำงานในที่เก่าในบรรยากาศใหม่ ๆ ภายใต้ความรู้สึกที่ดีและการให้เกียรติที่คุณอาจจะคาดไม่ถึงก็ได้... ขอตัวไปพักผ่อนก่อนละ.. จากคุณ : "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme) - [ 9 เม.ย. 51 22:06:09 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าไม่คิดเลิกกับแฟน อย่าพูดคำว่าเลิก ถ้าไม่คิดลาออก  อย่ายื่นใบลาออก ถ้ายื่นใบลาออก ก็อย่าคิดจะอยู่ต่อ ผมไม่รู้คุณทำงานแนวไหนนะ แต่ถ้างานแนวๆผม   ตามนั้น เดินหน้าแล้วฆ่ามัน ถอยหลังแล้วหกล้ม ยอมประนีประนอมถึงที่สุด แต่ถ้าต้องแตกหัก ก็จะไม่ลังเล จากคุณ : drof - [ 9 เม.ย. 51 22:35:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ครับ ในช่วงก่อนยื่นใบลาออก ก็คิดทบทวนหลายครั้งเหมือนกัน แต่พอเหมือนกับว่า ใจมันเอนอยากออกไปครึ่งหนึ่ง พอมีเรื่องหรือปัญหาอะไรถาถมเข้า บางทีอาจเป็นเรื่องเล็กๆ ไร้สาระ เช่น บริษัทที่ผมทำไม่มีที่จอดรถให้พนักงาน ต้องไปหาจอดกันเองตามอัฒภาพ  บางทีขับรถมาทำงานอารมณ์แจ่มใสเช้าๆ แต่ไม่มีที่จอดรถ ก็เสี่ยงจอดไว้ริมถนน แถวบริษัท เที่ยงลงมาทานข้าว เจอใบสั่งแปะกระจก แทบสิ้นสติ เป็นต้น555 บริษัทที่ผมทำงานอยู่เป็นบริษัทขนาดกลางที่บริหารงานด้วยระบบครอบครัว เจ้าของ มีน้องสาว-น้องชาย ก็นั่งคุมตำแหน่งในฝ่ายต่างๆ เจ้านายผมก็เป็นน้องชายคนเล็กของบ้านนี้  บางทีการทำงานมันข้ามกันไปข้ามกันมาไม่มีระบบที่แน่นอน โอกาสโตกว่านี้ก็คงไม่ค่อยมีนะผมว่า ิ จากคุณ : Beloved_ - [ 9 เม.ย. 51 23:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เปิดใจคุย และบอกความจริงแก่เจ้านายทั้งหมดครับ... นอกจากเป็นเจ้านายลูกน้องแล้ว ทำงานกันมานานขนาดนี้ยังน่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันได้ด้วยซ้ำ ผมเคยตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหมือนกัน เจ้านายขอแล้วขออีก จะให้เงินเดือนเท่ากับหรือมากกว่าด้วยซ้ำ สุดท้ายรั้งไม่อยู่จริงๆ แก ก็ไปศึกษาถามเพื่อนในวงการให้ว่า ตำแหน่งที่ผมจะไปทำเป็นอย่างไร ดีมั๊ย? แล้วก็แนะนำฝากฝังต่างๆนาๆ แถมมีเงินขวัญถุงให้อีก...ซึ่งใจมากมายครับ... เจ้านายคนเก่า ก่อนหน้านี้ ก็ติดต่อไปมาหาสู่กันเสมอ.. แก อวุโสกว่าผมมาก แต่ก็ให้เกียรติผมมากมาย... สำหรับคุณความผูกพันธ์ 6 ปี อย่าให้มีแค่คำว่าเจ้านายกับลูกน้องครับ จากคุณ : MESMERIC - [ 10 เม.ย. 51 01:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับ "คุณเลขาตัวแสบ!" ครับ ขอเสริมนิดนึงว่า ... เป็นเรื่องธรรมดามากครับเวลาคนจะลาออก บ.ต้องพยายามรั้งไว้ก่อน ถ้าคนๆนั้นยังทำประโยชน์ให้เค้าได้อยู่ ซึ่งตรงจุดนี้มันจะเป็นการเปิดประเด็นว่าปัญหาคืออะไร ทางออกมีอะไรบ้าง ปัญหาของคนส่วนใหญ่อาจจะเป็นเรื่องเงิน ซึ่งพอคุยเสร็จก้ออาจมีการปรับนู่นปรับนี่ให้ ตราบใดที่เค้ามองว่าคุณทำประโยชน์ให้เค้าได้มากกว่า เค้าก้อให้ได้ ดีกว่ามาหาคนใหม่ ไม่มีใครมองว่าคุณเป็นพ่อพระหรอก ถ้าหากคุณจะรับเงินเดือนเท่าเดิม วันนึงถ้า บ.ไม่ต้องการคุณ เค้าก้อคงไม่มามองว่าเมื่อคราวที่แล้วคุณได้แสดงสปิริตอะไรไว้ นี่คือชีวิตลูกจ้างครับ ผมว่าถามใจตัวคุณเองก่อนดีกว่า แล้วค่อยเอาเหตุผลต่าง ๆ มา trade off กัน แล้วเลือกทางที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : Remember the Titans - [ 10 เม.ย. 51 01:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ผมทำงานมานาน( 6ปี) ไม่อยากให้ออก มีปัญหาอะไรให้คุยกัน จะหาคนมาช่วยงาน และจะเพิ่มผลตอบแทนให้ ให้ผมลองทบทวนอีกที ... แต่ถ้าผมใจอ่อนอยู่ต่อ ผมก็กลัวว่า เดี๋ยวปัญหาเดิมๆ ที่ทำให้ผมคิดลาออก ก็ต้องกลับมาสักวัน แล้วก็ต้องอยากลาออกอีกสักวันนั่นแหละ ความคิดเห็นที่ 9 เอาว่ะ ตัดสินใจออกก็ต้องออกเนอะ ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าผมจะอยู่ต่อ มันคงไม่ใช่เพราะจะได้เงินเพิ่มหรอกครับ มันเพราะผมเกรงใจและนึกถึงบุญคุณมากกว่า แต่คงทำงานอย่างอึดอัดแน่นอน ความคิดเห็นที่ 16 ผมทำตำแหน่งผช.ผจก.ฝ่ายขาย แต่เอาเข้าจริง ต้องรับผิดชอบงานรอบด้าน ... เหตุผลที่ทำให้ผมอยากอยู่ต่อ ก็อย่างที่บอกว่า เกรงใจและสำนึกบุญคุณผู้ใหญ่ และผมก็เสียดายและคงคิดถึงบรรยากาศ ในที่ทำงาน ความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมงาน ... ที่ใหม่ที่จะไปทำ องค์ใหญ่ขึ้น ได้รายได้มากขึ้น สวัสดิการดีขึ้น แต่ตำแหน่งงานลดลงนิดหนึ่ง ผมบวกลบคูณหารแล้ว โอกาสเติบโตยังพอมองเห็นแสงสว่างบ้างจึงอยากไปทำ ความคิดเห็นที่ 20 ในช่วงก่อนยื่นใบลาออก ก็คิดทบทวนหลายครั้งเหมือนกัน .... บริษัทที่ผมทำงานอยู่เป็นบริษัทขนาดกลางที่บริหารงานด้วยระบบครอบครัว ... บางทีการทำงานมันข้ามกันไปข้ามกันมาไม่มีระบบที่แน่นอน โอกาสโตกว่านี้ก็คงไม่ค่อยมีนะผมว่า คำแนะนำ ถ้าอยู่ต่อ นายจะปรับเงินเดือนให้ และจะปรับระบบงานให้ดีขึ้น ก็รับโดยดุษฎีเถอะครับ ห้ามไม่รับการปรับเงินเดือน เพราะสัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาต่างตอบแทนใหม่แล้ว แต่ดูแล้วน้ำหนักของเหตุผลที่ลาออกน่าจะอยู่ที่ได้งานใหม่ที่ท้าทายมีโอกาสเติบโตมากกว่า ทุกบริษัทมีปัญหาเหมือนกันครับไม่มากก็น้อย ไปที่ใหม่ก็มีปัญหาครับ อยู่ที่เดิมถือว่าได้โอกาสก้าวหน้าทางการเงินแม้ว่าจะตัดสินใจให้ตอนลาออก ถือว่าทำสัญญาจ้างใหม่ ให้คุณกลับมาทำงานใหม่ด้วยอัตราจ้างใหม่ก็แล้วกันครับ ถ้าจะไปที่ใหม่ก็ขอให้โชคดี สู้ๆครับ จากคุณ : Coach The Lead - [ 10 เม.ย. 51 04:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG - [ 10 เม.ย. 51 09:01:50 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ช่ายเป็นธรรมดาที่บริษัท ต้องรั้งไว้ก่อน เพราะการรับคนใหม่มาแทน บริษัท ต้องเสียหลายอย่าง ทั้งเวลา และการฝึกอบรม ส่วนการที่เราไปได้ดีกว่าที่เก่า หรือคิดว่าดีกว่า เชื่อว่าไม่มีบริษัทไหน ที่จะรั้งไว้หรอกค่ะ คุยกันตรงๆ ดีที่สุด + + + บุญรักษาค่ะ + + + จากคุณ : เฒ่าเจ้าอุบาย - [ 10 เม.ย. 51 09:36:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ด้วยหน้าที่ของเจ้านายต้องพยายามรั้งตัวลูกน้องเก่าที่"เป็นงาน" เอาไว้มากที่สุด โดยเฉพาะลูกน้องที่รอบรู้ และทำได้ทุกเรื่องเช่นคุณ ย่อมจะเป็น "ผลประโยชน์" ซึ่งทางบริษัทใช้คำว่า "ทรัพยากรที่มีคุณค่า" คุณ Beloved กำลังอยู่ในสถานการณ์เหมือนผมเปี๊ยบเลยน่าแปลกจัง สิ่งที่ผมอยากจะออกก็คือ แฟนเจ้านายผมนี่แหละครับ ตั้งแต่เจ้าหล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้บริษัท เธอก็วางอำนาจเต็มที่ ผิดกับเจ้านายที่เป็นคนก่อตั้งบริษัทง่ายๆ ติดดิน แต่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ผมอคติกับแฟนเจ้านายหรอกนะครับ แค่เธอไม่ได้เกิดมาเป็นคนที่มี ภาวะผู้นำเพียงพอเท่านั้นเอง  เวลาสั่งงานเนี่ยไม่ได้ก็เอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรเสนอไปก็ไม่เอา แก้ใหม่หมดตลอด ทั้งที่แก้แล้วแย่กว่าเดิม เมื่อวานนี้ไป meeting กับลูกค้า พอเสร็จงาน เราก็เหนื่อยมาก เพราะว่าเตรียมงานตั้ง 2 วัน ทั้งงาน create งาน document งาน presentation เราเตรียมให้หมดเพระว่า ผู้ช่วยคุณเธอ เพิ่งจะมาใหม่เมื่อต้นเดือนยังไม่เป็นงานเท่าไหร่ ขากลับพอขึ้นรถ เธอชมผู้ช่วยเธอใหญ่ ว่าทำได้ดีมาก แล้วหันมาทางเราแล้วถามว่าเป็นอะไร เงียบๆ  เราก็บอกไปว่าเหนื่อย  คุณเธอตอบกลับมาว่า เหนื่อยอะไร งานก็ไม่ได้เยอะ และหนักหนาอะไร  เรางี้ได้แต่ยิ้มแต่ในใจนะแบบว่าสุดๆแล้วอ่า แต่ก็จะลองดูซักพัก เอาไว้ร่างจดหมายลาออกเรียบร้อยก่อน แล้วว่ากันอีกที  หุหุ จากคุณ : bluegamete - [ 10 เม.ย. 51 11:30:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ในอนาคตก็คงจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้เหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ยังไม่สำเร็จกับการหาที่ใหม่ T_T จริงๆแล้วผมลาออกจากที่ที่ทำอยู่มา 3 รอบละ รอบแรกเพราะรู้สึกว่า งานที่ทำกับเงินที่ได้มันไม่ fair อย่างแรง คือว่า senior ลาออกไป แล้วงานที่เขาโยนมาให้ผมทำมันเป็นงาน senior แต่ว่าเงินเดือนเท่าเดิม ครั้งนี้ก็ได้เงินเดือนเพิ่มมาครับก็เลยอยู่ต่อ ครั้งที่ 2 คือเบื่อเจ้านายมาก ทะเลาะกันบ้าๆบอๆเลยลาออก ยังจำได้เลยว่าเจ้านายบอกว่าถ้าคุณใช้อารมณ์แบบนี้ ผมจะ sign ใบลาออกให้เลย ก็ตอบกลับไปทันควันว่า ดีครับ sign เลย ผ่านไป 3 ชั่วโมงก็ไม่ sign แต่เจ้านายเรียกไปคุยในห้องปิด บอกว่าเราดีอย่างโน้นอย่างนี้ บลาๆๆๆ อยากให้เราอยู่ต่อ ก็โอเคอยู่ต่อก็ได้วะ จริงๆ ครั้งนี้เราผิดนะ มานั่งคิดๆดูยังขำตัวเองอยู่เลย ว่าทำไมเรามันเลวแบบนี้ ครั้งนี้ไม่ได้เงินเดือนเพิ่มครับ เพราะจริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากออกหรอกแค่ประชดเฉยๆ ครั้งที่ 3 ลาออกเพราะเบื่อระบบมาก เบื่อนโยบายที่ไม่แน่นอน ชัดเจนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ครั้งนี้ไม่ได้ยื่นใบเป็นทางการ แค่บ่นๆ สุดท้ายไม่ได้ออกเพราะบริษัทไม่สามารถหาคนมาแทนได้ อีกอย่างช่วงนั้นลูกค้าน่ารักมาก ก็ไม่อยากทิ้งลูกค้าด้วย ประเมินปีนั้นได้ A ทั้ง 4 Q เลยอยู่ต่อจนถึงปัจจุบัน ดูแล้วไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้เลย แต่อยากเล่าครับ จากคุณ : Blancpain - [ 10 เม.ย. 51 11:52:04 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามาอ่านแล้วขอฟันธงตัวเองด้วยคน ออกไปน่ะดีแล้วเรา จากคุณ : ก่อนจะไม่อยากเป็นคนดี - [ 10 เม.ย. 51 22:11:17 A:125.25.53.70 X: TicketID:172139 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เคยเหมือนกันครับ เข้าใจเลยครับว่าเป็นยังไงแต่ถ้าเรายืนยันว่าจะออกจริงๆ ก็ไม่มีใครสามารถทานได้ครับ อย่างผมโดนเรียกคุยอยู่ 3- 4ครั้งจนถึงวันสุดท้ายครับ สุดท้ายก็ยังยืนยันคำตอบเดิมครับออกครับ จากคุณ : SGKENG - [ 11 เม.ย. 51 18:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 บุญคุณอะไรก็ทดแทนไปแล้ว ต่างจ้างต่างทำงานตอบแทน ก็เหมาะสมแก่กันแล้ว ****ถ้าออกไปที่ใหม่แล้วมันดีกว่าเดิมก็ออกไปเลยครับ**** (ผมก็จะไปแล้วเหมือนกัน) ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายครับ ดีซะอีกทำที่ใหม่ไฟจะได้ลุกโชนอีกครั้ง ที่เก่าอยู่ต่อคนอื่นมีอคติต่อเราแน่นอนครับ ถึงเราไม่ใช่คนกลับกลอกหรือเห็นแก่เงิน (พี่น้องท้องเดียวกันมันยังไม่รู้สึกดีกับเราเลยเวลาเราโลเล เพื่อนร่วมงานจะสนิทแค่ไหนคุณจะรู้ใจเค้าหรือ)  ........จากประสบการณ์จริง คนที่มีปัญหาแล้วไม่ได้รับการแก้ไข มันก็คงเจอแต่เรื่องวเดิมๆ ออกไปเลยครับ สบายใจกว่า จากคุณ : 711 (DEUC) - [ 12 เม.ย. 51 14:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอรบกวนถามนะคะว่า ถ้าเหลือวันพักร้อน ลาป่วยได้ รวมๆ 10 วันนี่จะต้องทำไงค่ะ ต้องเขียนหรือแจ้งล่วงหน้ามั้ยค่ะว่าเราจะลากิจวันไหน แล้วถ้าลาป่วย 3 วันก่อนถึงวันสุดท้ายของการทำงาน จะต้องมาเขียนใบลาป่วยย้อยหลังมั้ย คือเรากำลังตัดสินใจเรื่องลาออกช่วงหยุดสงกรานค่ะ กะว่าเปิดทำงานแล้วจะยื่นเลย (มีปัญหาวันศุก ยื่นใบลาออกวันนั้นคงดูไม่มี หนีปัญหา ใจร้อน เลยขอคิดดูก่อนช่วงนี้) ยังไงรบกวนใครที่ทราบตอบด้วยนะคะ ไม่อยากกลั้นน้ำตาไป ทำงานไปแล้ว - จากคุณ : คนอยากลาออก - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 02:41:57 A:58.9.33.95 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ร้องไปเถิด.. ถ้าร้องเพื่อล้างลูกตา.. เพื่อหลับแล้วตื่นขึ้นมา.. ลูกตาจะได้สวยใส.. เคยได้ยินเพลงนี้ไหม? ช่วงนี้มีวันหยุดยาวหลายวันหากอยากจะร้องไห้ก็ร้องให้หนำใจ แล้วใช้เวลาหลายวันนี้ค่อย ๆ คิดพิจารณาให้รอบคอบ ปัญหาบางอย่างสามารถใช้กาลเวลาช่วยเยียวยาหรือแก้ไขได้ เคยมีความรู้สึกเหมือนคุณเช่นกัน ซึ่งโชคดีว่าหลาย ๆ ครั้งจะเกิดในวันศุกร์ พอได้หยุดเสาร์อาทิตย์และพยายามคิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งบ่อยครั้งก็จะพบว่าเป็นความเข้าใจผิดคิดไปเองข้างเดียวของเราทั้งสิ้น โดยที่คนอื่นเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรากำลังคิดอะไรหรือมีปัญหาอะไร บางครั้งถ้าเรายอมลด ego ลงบ้าง ยอมเสียฟอร์มเพื่อให้คนอื่นได้ประโยชน์ได้หน้าบ้าง ไม่ได้ทำให้เราเสียเกียรติเสียหน้าจนต้องตัดสินใจด้วยการเอาอนาคตมาเสี่ยงเช่นนี้เลย ถ้าปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณไม่ได้ร้ายแรงขนาดคอขาดบาดตาย ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ค่อย ๆ คิดค่อย ๆ พิจารณา และถ้าทำได้วันที่เปิดงานก็นำปัญหาไปปรึกษาหารือเพื่อหาทางแก้ไข การทำงานทุกที่ทุกคนมักจะมีปัญหาไม่มากก็น้อย ผู้ที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่สามารถแก้ปัญหานั้น ๆ ได้ หากคุณหนีปัญหาจากที่นี่ในวันนี้โดยไม่หาทางแก้ ไปอยู่ที่ใหม่ปัญหาเดิม ๆ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากตัวเราหรือวิธีคิดของเราก็จะเกิดขึ้นอีก ดังนั้นจึงต้องเริ่มต้นการแก้ปัญหาที่ตัวคุณเองก่อน แต่ถ้าปัญหาเกิดจากคนอื่นซึ่งกระทบถึงคุณและคุณช่วยเขาแก้ไม่ได้ คุณอาจจะต้องเข้าพบผู้ใหญ่เพื่อขอคำแนะนำ หรือถ้าคุณถูกกลั่นแกล้งก็ยิ่งไม่ควรจะเป็นฝ่ายยื่นใบลาออกเอง คอยให้เป็นหน้าที่ของบริษัทซึ่งจะต้องจ่ายค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฏหมายแรงงานต่อไป ส่วนเรื่องการลา หากเป็นการลาพักร้อนหรือลากิจต้องแจ้งและขออนุมัติล่วงหน้า แต่ถ้าเป็นลาป่วยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า ให้โทรมาแจ้งในวันที่หยุด และหากลาป่วยมากกว่า 3 วันต้องนำใบรับรองแพทย์ไปแนบกับใบลาป่วยในวันที่กลับไปทำงานด้วย คุณคนอยากลาออกอาจจะลองตั้งกระทู้เองพร้อมเล่ารายละเอียดปัญหาที่เกิดขึ้น เผื่อว่าความคิดเห็นและคำแนะนำจากเพื่อน ๆ จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกทางเดินที่เหมาะสมกว่า.. ขอให้โชคดี.. ป.ล. ขออภัยคุณ Beloved_ ที่มาใช้พื้นที่ในกระทู้นี้ แล้วกรณีของคุณไปถึงไหนแล้วล่ะ อย่าลืมมา update ให้เพื่อน ๆ ทราบด้วยนะ.. จากคุณ : "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 11:28:21 ]

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีครับเพื่อนๆ และคุณ "เลขาฯ ตัวแสบ!" ขอบคุณมากครับ ที่ยังติดตามถามไถ่ถึงเรื่องผม 555 ช่วงนี้ผมก็ยังคงคร่ำคิดตัดสินใจอยู่ ว่าจะไปหรือจะอยู่ ถ้าถามใจผม ณ ตอนนี้ (13 เม.ย.51 วันสงกรานต์) ใจผมเอนไปทาง "อยู่" ซะ70% แล้ว หลายคนคงคิดว่าผมโลเล ใจอ่อน ครับยอมรับเลย5555  ใครไม่เป็นตัวผมก็คงไม่รู้หรอกว่าผมลำบากใจแค่ไหน ทำงานที่เดิมนี่อย่างที่บอกว่า 6 ปีแล้ว กับเจ้านาย กับเพื่อนร่วมงาน มันมากกว่าคำว่า "ผู้ร่วมงาน, เจ้านาย-ลูกน้อง" แล้วครับ มันสามารถใช้คำว่า "ครอบครัว" ได้เลย ผมยังสำนึกบุญคุณเจ้านาย และผู้ใหญ่ในบริษัทอยู่ตลอดเวลา พวกท่านเคยช่วยเหลือผม ตอนที่ผมตกที่นั่งลำบาก เมื่อหลายปีก่อน ผมประสบอุบัติเหตุ รถชนมีคดีต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ด้วยความโง่และไม่มีประสบการณ์ หลงเชื่อประกัน(ชั้น 1เสียด้วย) ว่าเราไม่ผิดเลยสู้คดี ผลปรากฎว่า ศาลชั้นตนตัดสินให้ผิดฐาน "ขับรถโดยประมาท" และให้ "จำคุก 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา" ก่อนหน้าศาลตัดสิน ผมไม่เคยปรึกษาใคร ตัดสินใจด้วยตัวเอง แม้แต่ครอบครัวก็ไม่รู้เรื่อง ไม่กล้าบอกเพราะกลัวคุณพ่อคุณแม่ท่านเป็นห่วง  ตอนนั้น มืดแปดด้านไม่รู้จะพึ่งใคร ในใจคิดว่า ต้องติดคุกแน่นอน   ที่สุดก็ได้ทางบริษัท เจ้านาย เจ้าของบริษัท ช่วยเหลือวิ่งเต้นหาคนรู้จักที่เขาพอมีประสบการณ์ด้านนี้ ต่อรองประกันของฝ่ายเรา จ่ายค่าเสียหายแก่คู่กรณี (บาดเจ็บ ไม่ถึงกับเสียชีวิต) และดำเนินเรื่องยื่นอุทธรณ์ ต่อศาล ตอนนั้นผมก็ได้ที่บริษัทอีกนั่นแหละ ที่ใจดีให้ยืมเงินก้อนหนึ่งมาร่วมจ่ายให้กับคู่กรณี และผ่อนชำระคืนบริษัทโดยหักจากเงินเดือน โดยไม่มีดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว คดีผมเบ็ดเสร็จรวมแล้วใช้เวลาพิจารณาเกือบ 3 ปี เพิ่งจบเมื่อต้นปีที่แล้ว (2550) ศาลอุทธรณ์ ตัดสินยืนตามชั้นต้น แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี รายงานตัว 4 ครั้งในปีแรก และปรับเงินเพิ่ม 6 พันบาท ช่วงระหว่างตัดสินคดี ผมไม่มีความสุขกับชีวิตเลยจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเทศกาลอะไร ปีใหม่ สงกรานต์ ใครจะสนุกแค่ไหน ผมก็เก็บตัวเงียบคนเดียวไม่สุงสิงกับใคร เข้าวัดไหว้พระทำบุญทุกเสาร์ หรือวันว่าง (จนติดเป็นนิสัยถึงทุกวันนี้เลย) พอผ่านพ้นคดี ไปได้ ก็รู้สึกดีใจ และเพิ่งเข้าใจว่ายกภูเขาออกจากอก มันมีความรู้สึกแบบนี้นี่เอง ถึงวันนี้ผมรายงานตัวครบแล้ว 4 ครั้ง แต่ยังเหลือรอลงอาญา อีก 1 ปี ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกวันนี้ผมขับรถอย่างระมัดระวัง และไม่เคยไปชนใครอีกเลย  มีแต่เขามาชนผม 555 อีกเหตุผลที่จะทำให้ผมอยู่ต่อนอกจากสำนึกบุญคุณผู้ใหญ่แล้ว ก็คือ ความไว้วางใจ ที่ผู้ใหญ่มอบให้เรา, เพื่อนร่วมงาน พี่ๆ น้องๆ ในบริษัทที่คุ้นเคยกันอย่างดี, งานที่ผมรัก, ลูกค้าและ Supplier ที่ผมติดต่อคุ้นเคยอยู่ ถ้าไปเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ ก็ไม่รู้ว่าผมจะได้ครึ่งหนึ่งของที่นี่หรือป่าว ส่วนปัญหาต่างๆ ที่กดดันทำให้ผมอยากจะไป ณ ตอนนี้ก็เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี แหมเหมือนบริษัท เอาใจเรามากเลย ช่วงนี้ปัญหาอะไรก็แก้ไขได้แบบผ่านฉลุยตลอด ทีแต่ก่อนละยากนัก มันน่าน้อยใจจริงๆ 5555 ลูกน้อง-เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งเจ้านายเรา ก็ทำตัวน่ารักกันทุกคน  แล้วแบบนี้ใครบ้างไม่คิดอยากจะอยู่ต่อละครับ ก็คิดว่าเปิดงานสงกรานต์มา คงมีคำตอบที่ชัดเจนให้กับตัวเอง, เจ้านาย และบริษัท ครับ ส่วนบริษัทที่ใหม่ ความจริงนัดเข้าไปเซ็นต์สัญญาจ้างงานเมื่อวันศุกร์ แต่ผมโทรไปขอโทษเขาและขอเลื่อนไปหลังสงกรานต์ ทางบริษัทเขาก็ใจดีมากเลยครับ อนุญาตและบอกว่าไม่มีปัญหาถ้าคอนเฟิร์ม ก็เข้ามาวันที่ 26 ซึ่งเป็นวันอบรมงานทีเดียวเลย คุณเลขาฯ ครับ ผมขอถามแบบไม่อายเลยนะครับ ถ้าผมตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ ผมควรโทรไปแจ้งที่ใหม่อย่างไรครับ กลัวโดนต่อว่าจังครับเหอๆๆๆๆ ปล.ร่ายยาวไปนิด และจะมาอัพเดทการตัดสินใจที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง สวัสดีปีใหม่ไทยครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ มีความสุขมากๆ ทุกท่านนะครับ ไม่ไปแอ่วไหนหรือครับ คุณเลขาฯ แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 51 13:11:44 แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 51 13:07:54 จากคุณ : Beloved_ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 12:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีปีใหม่ไทยครับ จากคุณ : Beloved_ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 13:09:03 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอแสดงความยินดีด้วยที่คุณ Beloved ตัดสินใจอยู่ทำงานที่เดิมต่อ การตัดสินใจเช่นนี้ไม่ได้ทำให้คุณถูกมองว่า โลเล ใจอ่อน  เลย และการที่คุณตัดสินใจเช่นนี้แสดงว่าใจคุณยังมีความผูกพันธ์กับบริษัทและนายจ้างอยู่ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่หลาย ๆ คนควรเอาอย่าง การเห็นแก่เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นโดยที่คุณยังไม่รู้ว่าเมื่อเข้าไปแล้ว คุณจะเจออุปสรรคหรือปัญหาอะไรที่ซับซ้อนจนแก้ไขไม่ได้ แล้วถึงตอนนั้นคุณก็อาจจะทนไม่ได้และต้องลาออกอีก การหวังน้ำบ่อหน้าในกรณีนี้จึงไม่ควรเสี่ยง ในเมื่อบริษัทเดิมเห็นฝีมือและรู้คุณค่าของคุณจึงน่าจะทำให้คุณภูมิใจและทำงานอย่างมีความสุขมากกว่า เชื่อมั่นเหลือเกินว่าการตัดสินใจของคุณในครั้งนี้จะสร้างความปลาบปลื้มให้กับเจ้านายและผู้ใหญ่อย่างแน่นอน และการได้แจ้งความประสงค์เรื่องการลาออกให้แก่บริษัทในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทเพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติกับคุณมากกว่าเดิมถ้าไม่อยากเสียคุณไปจริง ๆ ในขณะเดียวกันตัวคุณเองก็ต้องปฏิบัติตนให้เหมือนเดิมเสมอต้นเสมอปลายหรือให้ดียิ่งกว่าเดิม เพื่อมิให้นายจ้างมีความรู้สึกว่าคุณเกิดอาการเหลิงที่บริษัทต้องร้องขอให้อยู่ต่อ การที่คุณได้ทำงานในบริษัทครอบครัวและได้ใกล้ชิดกับเจ้าของกิจการ นับเป็นโอกาสที่ดีในเรื่องของการเจริญเติบโตในองค์กร "เลขาฯ ตัวแสบ!" เองถึงแม้จะอยู่บริษัทมหาชน แต่ก็มีการบริหารจัดการเหมือนบริษัทครอบครัวเช่นกันเพราะ CEO และภรรยามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ซึ่งหากมีผลงานและทัศนคติดีเข้าตากรรมการคุณก็จะมีคนคอยปกป้องและมีโอกาสรุ่งได้ดีกว่า คุณอาจจะลองพิจารณาแจ้งยกเลิกการทำสัญญาทำงานกับบริษัทใหม่ โดยการเขียน e-mail ขอบคุณที่บริษัทให้โอกาสในการทำงาน แต่เนื่องจากนายจ้างเดิมไม่อนุญาตให้ลาออกจึงไม่สามารถไปร่วมงานได้ พร้อมกับการขออภัยที่ทำให้เสียเวลา ตบท้าย e-mail ว่าหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมกันกับบริษัทในโอกาสต่อไป ถ้าไม่สะดวกแจ้งทาง e-mail ก็คงต้องโทรแจ้งในลักษณะเดียวกัน เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเสมอในทุกองค์กร บริษัทใหม่ไม่มีสิทธิ์ต่อว่าคุณและไม่ต้องกลัวว่าเขาจะต่อว่า คุณควรกลัวนายจ้างปัจจุบันที่ทำงานด้วยกันมานานต่อว่ามากกว่า ขอให้โชคดีและมีความสุขกับการทำงานที่ใหม่ในบริษัทเก่า! จากคุณ : "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 13:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณ คุณ"เลขาฯ ตัวแสบ!" มากๆ เลยนะครับ สำหรับคำเสนอแนะที่ดีและมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ คุณเลขาฯ และเพื่อนๆ ทราบมั้ยครับว่า ถึงวันนี้ ซึ่งผมเอาก็ยังไม่ได้คอนเฟิร์มกับบริษัทเก่าว่า จะ "อยู่" หรือจะ "ไป" งานที่รับผิดชอบก็ยังเคลียร์ และสะสางไม่เรียบร้อย  ทางบริษัทฯ ยังไม่คิดที่จะหาใครมารับงานต่อจากผมเลย ด้วยที่ว่าบริษัท ยังเชื่อมั่นและหวังว่าผมจะ "อยู่ต่อ"  แล้วแบบนี้ผมจะใจดำทิ้งงาน ทิ้งบริษัท ที่ผมรักไปได้ไงจริงมั้ยครับ จากคุณ : Beloved_ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 13:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จริง! จากคุณ : "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 13:20:27 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ^___^ จากคุณ : Beloved_ - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 13:36:31 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เฮ้อ.....อ่านมาตั้งนาน.....ตาลาย..... ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ แล้วมีครอบครัวหรือเปล่า แล้วคิดว่าบุญคุณของนายเก่า คุณจะชดใช้หมดเมื่อไหร่ครับ คุณจะทำงานกับเค้าไปตลอดเลยเหรอครับ....... เค้าขาดคุณ เค้าก็อยู่ได้ แล้วอนาคต ความก้าวหน้าคุณล่ะ..... คนเราไม่เปลี่ยน ไม่เสี่ยง ชีวิตจะดีขึ้นหรือ เค้าอาจลำบากช่วงแรก ๆ คุณก็มาช่วยเค้า สอนงานให้คนใหม่ เค้าก็รู้สึกได้ว่าคุณดีกับเค้า ถ้าคุณตัดสินใจอยู่ต่อ คุณจะอยู่อย่างอึดอัดใจนะ ถ้าไม่คิดจะลาออกจริง ๆ อย่ายื่นใบลาออกครับ ผมเห็นด้วยกะ คห 19 เหตุการณ์มันเกิดขึ้นไปแล้ว ทุกคนรับรู้แล้ว บรรยากาศในทุก ๆ วันต่อมา มันคงไม่เหมือนเดิมแล้วมังครับ คิดเอาเองเถอะครับ ผู้ที่แสดง คห ในนี้ ไม่ได้อยู่กับคุณเวลาที่คุณอึดอัดใจในการทำงานนะ.....คุณเองเท่านั้นที่รู้ดี หรือว่าคุณทนได้ ก็ทนไปละกันครับ จากคุณ : ผียุง - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 22:29:14 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ คุณผียุง ตอนนี้ผมอายุจะ 30 แล้วครับ ยังไม่มีครอบครัวครับ ดูยังไม่ลงหลักปักฐาน ถ้าผมเลือกจะอยู่ต่อก็เพราะเห็นผลข้างบนที่ได้กล่าวไว้ บุญคุณไม่มีวันหมดหรอกครับ และอีกส่วนหนึ่ง ต้องยอมรับว่าผมเป็นใจอ่อนและโลเลพอสมควร ผมยังรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะไปเริ่มที่ใหม่ในสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอนแบบนี้ ยอมรับว่า ถึงตรงนี้กลัวหนีเสือไปปะจระเข้  นั่นแหละครับ ถ้าผมอยู่ต่อ ผมวางแผนไว้ว่าจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ที่ผ่านมาช่วง 1-2 ปีให้หลังมานี้ผมไม่ค่อยมีพลังในการทำงานเท่าไหร่เนื่องจากมันรู้สึกเฉี่อยชา และไม่กระตือรือร้นในงาน  แต่หลังจากนี้ผมจะพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการทำงานให้เป็นระบบที่ดีขึ้น และจะขอความร่วมมือจากผู้ร่วมงานด้วย ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจริง คงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางทีดีไม่มากก็น้อยบ้างล่ะครับ เรื่องอนาคตและความก้าวหน้า จริงอยู่ครับที่เราต้องมองและคำนึงถึง ผมก็ไม่ได้อยู่ไปวันๆ หนึ่งนะครับ ก็พยายามอยู่ ตอนนี้ตั้งใจไว้ว่า จะลงเรียนภาษาอังกฤษธุรกิจเพิ่มเติม ช่วงตอนเย็นหลังเลิกงาน และสะสมประสบการณ์ให้แน่นกว่านี้ ถึงตอนนั้นเมื่อผมพร้อมกว่านี้ และบริษัทมีระบบการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น ค่อยขยับขยายโอกาสทางการงานต่อไปก็ได้นะครับ ผมเชื่อมั่นว่าผู้ใหญ่คงให้โอกาส ก็คงอย่างที่คุณบอกไว้ในตอนท้ายนั่นแหละครับว่า "ผู้ที่แสดง คห ในนี้ ไม่ได้อยู่กับผมเวลาที่ผมอึดอัดใจในการทำงานนะ"  อย่างน้อยผมก็ยังมีทางเลือกให้ชีวิตไม่ใช่หรือครับ เลือกในสิ่งที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเอง จะผิดหรือจะถูก จะดีหรือร้าย ท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นตัวเราที่เลือกเองอยู่ดี เพราะฉะนั้นผมก็จะยอมรับสิ่งที่ผมเลือกอย่างเต็มใจครับ มีความสุขวันสงกรานต์ครับ^___^ จากคุณ : Beloved_ - [ วันเนา (14) 09:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ^^^ "ถ้าผมอยู่ต่อ ผมวางแผนไว้ว่าจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน ที่ผ่านมาช่วง 1-2 ปีให้หลังมานี้ผมไม่ค่อยมีพลังในการทำงานเท่าไหร่ เนื่องจากมันรู้สึกเฉี่อยชา และไม่กระตือรือร้นในงาน   แต่หลังจากนี้ผมจะพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการทำงานให้เป็นระบบที่ดีขึ้น และจะขอความร่วมมือจากผู้ร่วมงานด้วย ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจริง คงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไปในทางทีดีไม่มากก็น้อยบ้างล่ะครับ เรื่องอนาคตและความก้าวหน้า จริงอยู่ครับที่เราต้องมองและคำนึงถึง ผมก็ไม่ได้อยู่ไปวันๆ หนึ่งนะครับ ก็พยายามอยู่ ตอนนี้ตั้งใจไว้ว่าจะลงเรียนภาษาอังกฤษธุรกิจ เพิ่มเติมช่วงตอนเย็นหลังเลิกงาน และสะสมประสบการณ์ให้แน่นกว่านี้ ถึงตอนนั้นเมื่อผมพร้อมกว่านี้ และบริษัทมีระบบการทำงานที่ชัดเจนมากขึ้น ค่อยขยับขยายโอกาสทางการงานต่อไปก็ได้นะครับ ผมเชื่อมั่นว่าผู้ใหญ่คงให้โอกาส" ===== >>>สุดยอดแห่งทัศนคติของคนทำงานที่นายจ้างทุกคนปรารถนา!! เป็นทัศนคติเชิงบวกที่มีอนาคตทางการงานที่สดใสรอต้อนรับอยู่ข้างหน้า แค่มีความคิดแบบนี้และเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ คุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน.. ขอให้โชคดี.. จากคุณ : "เลขาฯ ตัวแสบ!" (Destinyhurtsme) - [ วันเนา (14) 10:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เข้ามาขอบคุณคุณ เลขาฯ อีกครั้งครับ อ่านคห.คุณเลขาฯ แล้ว ทำให้ผมมีกำลังใจและฮึกเหิมมากขึ้นครับ ขอบคุณจริงๆ นั่นแน่ คุณเลขา ไม่ได้ไปแอ่วไหนหรือครับ เอ...หรือว่าไม่ได้อยู่เมืองไทย พอดีผมเพิ่งเข้ามาเล่นห้องนี้ได้ไม่นาน เลยไม่ได้ติดตามกระทู้คุณเลขาฯ เท่าไหร่ ยังไงซะก็มีความสุขมากๆ กับปีใหม่ไทยๆ เรานะครับ ^____^ จากคุณ : Beloved_ - [ วันเนา (14) 12:23:02 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอให้โชคดีครับ แต่อย่าลืมนะครับว่าคุณได้ปล่อยโอกาสหลุดลอยไปแล้ว ขาดคุณไปอย่างเก่งเจ้านายคุณก็วุ่นวายแค่ 1-2 เดือน บริษัทก็ยังอยู่ต่อไปได้ จากคุณ : ีืundertaker (Undertaker) - [ 16 เม.ย. 51 10:53:06 ]