ความคิดเห็นที่ 1 ข้อแนะนำของผมนะครับ 1. หัวเรื่อง (subject) - ควรกระชับ เข้าใจได้ทันทีว่าเกี่ยวกับอะไร อย่างเช่น Subject: Board meeting rescheduled for 10 Aug - ถ้าไม่ด่วนจริง อย่าใช้ Urgent , Attention หรือคำที่มีความหมายทำนองนี้ - ไม่ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด   2 ใจความ - ย่อหน้าแรก ควรเข้าใจความสำคัญ (อย่าง I will be out of office from 10 Aug to 12 Sep.  During this period, please contact my assistant Khun Ped at tel. ... or ped@cocoa.go.th ) เว้นแต่จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องบอกอย่างอ้อมๆ - ไม่ควรใช้ประโยคที่เยิ่นเย้อ (หรือเป็น pattern พวก cliche) อย่าง I am now in a position to inform you that ... - ถ้า email มีข้อความเก่าติดมาด้วย ควรตัดออกบ้าง จะได้ไม่ยาวเกินไป 3. ลงท้าย บางครั้งเราอาจส่ง email ไปให้ผิดคน เพราะงั้นหลังจากลงชื่อ ควรใส่ประโยคบอกประมาณว่า "email นี้ หรือไฟล์ที่ส่งมาพร้อมกับ email นี้ อาจมีข้อมูลเฉพาะบุคคล หรือข้อมูลปกปิด ถ้าคุณไม่ใช่ผู้รับ แต่ได้รับ email นี้เพราะเกิดความผิดพลาด กรุณาลบ email นี้ทิ้ง และแจ้งผู้ัส่งด้วยครับ" ^ ^ email ติดต่องานของผมจะลงท้ายแบบข้างล่างนี้ จะ copy ไปปรับใช้ก็ได้ครับ This e-mail and any files transmitted with it may contain privileged or confidential information. It is solely for use by the individual for whom it is intended, even if addressed incorrectly. If you received this e-mail in error, please notify the sender; do not disclose, copy, distribute, or take any action in reliance on the contents of this information; and delete it from your system. Any other use of this e-mail is prohibited. Thank you for your compliance. มารยาท - ถ้าเขาส่งข้อมูลมาให้ ควรตอบกลับ เพื่อให้คนส่งรู้ว่าเราได้รับแล้ว สั้นๆ อย่าง Thank you for your email. หรือ This is to acknowledge the receipt of your email. - ถ้าจะตอบ ไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปนาน ตอบยิ่งเร็ว ยิ่งดี อ้อ ไม่ควร attach file ที่ใหญ่มากถ้าไม่จำเป็น จะทำให้ inbox ผู้รับเต็มเอาง่ายๆ Hope this helps (at least for now) ^^ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 22:26:45 จากคุณ : Just wonder เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:36:02

ความคิดเห็นที่ 2 อ้อ ก่อนส่ง email พึงเช็คความถูกต้องของ attachment กับ email address ทุกครั้ง ผมเคยได้ email จากคนรู้จักในที่ทำงานคนนึง (เป็นผู้หญิง แถมผมไม่สนิทเลย) พอเปิดไฟล์ที่แนบมา กลับเป็นรูปหลุดเรท X (ตอนนั้นกำลังดังมากๆ ลงหน้า 1 ไทยรัฐ) เอ่อ งงแต่ก็ save ไว้นะ 555 พอโทรไปถาม ก็ถึงบางอ้อ เขากะจะส่งให้เพื่อนเขาที่ชื่อคล้ายๆผม แต่คลิกในชื่อ mailing list ผิด ^^ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 52 21:44:27 จากคุณ : Just wonder เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 21:43:03

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณ คุณ Just Wonder ครับ ท่านอื่นมีอีกไหมครับ จากคุณ : ของแรง (Samja) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 22:26:13

ความคิดเห็นที่ 4 1. ชื่อผู้รับ ควรเป็นชื่อผู้รับที่เกี่ยวข้องตรงเท่านั้น 2. ถ้ามีผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น แผนกอื่น หัวหน้า ฯลฯ ควรใส่ไว้ช่อง cc: 3. คำขึ้นต้น    ควรขึ้นต้นด้วยชื่อผู้รับ แล้วตามด้วยคนอื่นๆ หรือแผนก/ฝ่าย ไม่ควรใช้คำสามัญในการขึ้นต้น เช่น - ถ้ารู้จักชื่อ ให้เขียนชื่อไปเลย - ถ้าไม่รู้จักชื่อ ให้ขึ้นต้นด้วยตำแหน่ง - ถ้าไม่รู้อะไรเลย ให้ขึ้นต้นด้วยอีเมล์ หรือ "ท่านผู้เกี่ยวข้อง, เจ้าหน้าที่ฝ่าย..." 4. ข้อความสั้น กระชับ ได้ใจความ 5. ถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ใช้ไฟล์แนบ 6. มีคำลงท้าย เช่น ด้วยความนับถือ, ขอแสดงความนับถือ 7. ลงชื่อ และมีข้อมูลผู้ส่งติดไปด้วยเสมอ เพื่อผู้รับจะสามารถติดต่อกลับได้ง่าย เมื่อค้นหาอีเมล์ภายหลัง เช่น ชื่อ - นามสกุล อีเมล์ ... โทรศัพท์ ... ่บริษัท ... จากคุณ : RobinTh เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52 23:02:13

ความคิดเห็นที่ 5 ขึ้นอยู่กับใครเป็น target recipientครับ ภายในองค์กร 1)ส่งหาตำแหน่งสูงกว่า 2)ส่งหาตำแหน่งระดับเดียวกัน หรือพนักงาน 3)ส่งให้เป็นกลุ่มพนักงานในองค์กร ภายนอกองค์กร ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจด้วย เช่น โรงแรม โรงงาน ธนาคาร ค้าปลีก เป็นต้น formal + very formal polite + very polite English + USA very polite เช่น Would you please ..., Can you please ..., polite เช่น please, can you ...., kindly ... formal เช่น Best regards, we would like to confirm recieved your email with thanking you. as soon as possible informal เช่น B.rgds, Rgds, Warm rgds., Kind rgds., Cfm rec'd your email w/ thks. ASAP สั้นๆก่อนล่ะกันครับ จากคุณ : Coach The Lead เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 52 03:00:41