ความคิดเห็นที่ 1 สำหรับผมมองว่า "ไม่" ครับ ทุกคนถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องเป็นอย่างไร เช่นไร ทำงานให้ตายก็ไม่รวย ทำธุรกิจให้ตายยังไงก็ไม่รวย แต่หลายคนซื้อหวยแบบไม่ตั้งใจ ไม่เคยซื้อ ดันถูกซะงั้น ผมเองแหละ แหะ แหะ คือว่ารอรถอยู่ มีป้าเดินเข้ามาขายล็อตเตอร์ลี่ด้วยความสงสารก็ซื้อ 80 บาท ถูกมาก ดันถูกซะงั้น คนเราเกิดมามีเวรกรรมติดตัวมาครับ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่มันมีอยู่จริง ถ้าคนไทย 60 ล้านคนประสบความสำเร็จทุกคนในความหมายของ จขกท หรือสังคมทั่วไป จะมีคนเข็นขยะ มีแม่ค้าขายหมูย่าง มี รปภ. มีแม่บ้านทำความสะอาดหรอ เพราะฉะนั้น จะประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ (จริง ๆ แล้วคำนี้วัดยากว่าอะไรคือประสบความสำเร็จ) ถ้ามีกิน ไม่เดือดร้อน แค่นี้ก็พอแล้วครับ ถามว่าจนอะ มันก็ยังจนอยู่ แต่พอมีกินก็พอแล้วแหละ บางทีมานั่งคิดจะเรียนสูง ๆ ทำไม ทำไมต้องเรียนมหาลัยดี ๆ แพง ๆ ทำงานตึกสูง ๆ บริษัทดัง ๆ ทำงานก็มาเจอพวก fake ใส่หน้ากาก งานกดดัน เจ้านายด่า แต่พอจะออกไปขายของ อยากทำธุรกิจแต่ไม่กล้า อายเค้า สู้ไม่ต้องเรียนสูงไม่มีหัวโขนแล้วขายของ ทำธุรกิจ หน้าด้าน ๆ หรือไม่ก็ไปอยู่ในที่ที่คนไม่รู้จัก ไปเป็น รปภ งานไม่กดดัน แถมเงินเดือนพอ ๆ กับเด็กจบตรีสตาร์ทใหม่ดีกว่า คือคนมันก็มีอยู่แค่นี้แหละครับ ถ้าปลงจริง ๆ พวกแต่งตัวดี ๆ ตอนเช้า ๆ ไปทำงานนั่นแหละ ใครจะไปรู้ว่าเงินติดกระเป๋ามีอยู่แค่ 20 บาท ไหนจะพวกบัตรเครฯต่าง ๆ โทรมาทวง สรุป สำเร็จไม่สำเร็จ มันวัดยาก เค้ากำหนดมาแล้วว่าคนนี้ต้องรวย คนนี้ต้องจน อย่าไปอะไรกับมันมากเลย ปลงเหอะ ปล. กรูเป็นอะไรไปแย้ววววว....... จากคุณ : ปีเตอร์นอร์ธ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 22:54:07

ความคิดเห็นที่ 2 เกิดมา"จน" มันคือ การมีแหล่งสนับสนุนปัจจัยในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเงินทุนหรืออื่นๆ น้อยกว่าคนที่เกิดมารวย คนเกิดมามีฐานะดี หรือมีฐานะระดับหนึ่ง เวลาเรียน ไม่ต้องหาตังค์เรียนเอง ค่าใช้จ่ายส่วนตัวก็ที่บ้านจ่าย มีเวลาอ่านหนังสือ หรือไปเที่ยวเล่นได้เต็มที่ พอจบมาไม่มีงานทำ ที่บ้านก็มีเงินสนับสนุน ตกงานได้หลายๆ เดือนโดยไม่เดือดร้อน หรือเดือดร้อนน้อยกว่าคนจน อยากได้ของแพงกว่าเงินเดือนตัวเอง ก็ขอที่บ้านส่วนหนึ่งได้ อยากมีธุรกิจของตัวเอง ก็มีเงินที่บ้าน สนับสนุน ไปได้เร็วกว่าคนไม่มีอะไรเลย แต่สำหรับคนเกิดมาจน .... เรียน ก็ต้องทำงานพิเศษ เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอม ค่ากิน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เรียนจบ ต้องรีบหางานทำ เพราะต้องกิน ต้องใช้ ต้องให้พ่อแม่ ที่บ้านด้วย อยากได้ของแพงๆ ก็ต้องเก็บออมหลายเดือนกว่าจะได้ พอจะซื้อก็เสียดายตังค์อีก เพราะเก็บมานาน อยากมีธุรกิจของตัวเอง ก็ต้องวางแผนเก็บเงินอย่างจริงจัง จากเงินเดือน กว่าจะเริ่มธุรกิจได้ บางทีมีไอเดีย มีลู่ทาง แต่ไม่มีทุน ก็ทำไมได้ เก็บเงินได้อยากทำธุรกิจ ก็กลัวว่า ถ้าล้มเหลว แล้วเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต ต้องศูนย์ไปอีก ดังนั้นคนเกิดมาจน โอกาส จึงน้อยกว่า คนเกิดมารวย แน่นอนครับ ยกเว้นพูดถึงโอกาส การพัฒนาความอดทน หรือโอกาส สู้ชีวิต อันนี้อาจมากกว่า จากคุณ : M style เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 23:08:03

ความคิดเห็นที่ 3 อันนั้นเหมือนมองโลกในแง่ดีเกินไปครับ บางคนจนถึงขนาดแม้แต่โอกาสก็ยังไม่มี โครงการเรียนฟรีมีจริง แต่ก็ไม่มีโอกาสไปเรียน เพราะบ้านจนต้องออกมาทำงานหาเลี้ยงชีพ หาเลี้ยงครอบครับ ถ้าไม่ทำก็ไม่มีกิน ถ้าเจอแบบนี้ผมก็คงไม่กล้าพูดหรอกว่าเขาจนเพราะเขาไม่ไขว่คว้าเอง คนเราเกิดมาต่างคน ต่างสถานะกัน โอกาสที่ได้รับย่อมต่างกันครับ จากคุณ : เดือนนี้ไม่มีวันหยุด เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 23:23:06

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าคุณเกิดมาครบ 32 ไม่พิกลพิการ .. คำว่า "ทำไงได้ เกิดมาจน" เป็นข้ออ้างของพวกขี้เกียจครับ คนขยันไม่มีวันจนตลอดไป ไม่มีวันโง่ตลอดไป เชื่อผม จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 23:29:23

ความคิดเห็นที่ 5 เกิดมาจน ผมว่ามันเป็นข้ออ้างที่ดีเวลาคุณ รวย ขึ้นมาได้ครับ ไม่ใช่ รวย จากพ่อแม่หาให้ รวยมาจากไม่มีอะไรเลยนิ่สิ เก่งของจริง จากคุณ : Mbell เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 23:32:29

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับผมแล้ว คนจะรวย ต้องประกอบด้วย "ความคิด ความมุ่งมั่น และโอกาส" ครับ ซึ่งคนที่มีครบทั้งสามอย่างนี้ บ้านเรามีน้อย คนจนเลยกลายเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ จากคุณ : ดอกไม้ทะเล เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 23:33:27

ความคิดเห็นที่ 7 ความรวย มันต้องใช้หลายอย่าง บางคนเกิดมาก็รวยเลย บางคนต้องทำงานหนักพักนึง แต่ทุกคนที่รวยต้องมี "โอกาส" คนอยู่ในบางประเทศ รวยง่ายกว่า เทียบ เมกา กับ พม่า ถ้าเราเป็นคนจีน เมือ 60 ปีก่อน กับ 20 ปีก่อน โอกาสรายต่างกันมาก รวยคือ หาทรัพยาการ์มาได้ โดยไม่ต้องเหนือยมาก ดังนั้นมันต้องพึงสิ่งอื่น ๆ ภายนอก การที่บอกว่า ลงมีความตั้งในซะอย่าง ต้องรวยแน่(ขึ้นอยู่กับตัวเอง) อันนั้นคุณไร้เดียงสาเกินไปแล้ว อีกอย่างรวยคือ มัเงิน(อิทธิพล)มากว่าคนอื่น ดังนั้นไม่มีทางที่เราจะรวยกันหมดทุกคน ดังนั้น ถ้าทุกคน ขยันฉลาดประหยัด เท่ากันหมด คนรวย คือคนที่ เฮงกว่าคนอื่น แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 00:54:36 จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 00:35:24

ความคิดเห็นที่ 8 เรามันเกิดมาจน .. เพราะฉะนั้น เราต้องหาทางไปให้พ้นจากความจน จากคุณ : aumpaump12 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 01:23:26

ความคิดเห็นที่ 9 ประชากรเกินครึ่งของคนไทย ล้มเหลวหมดเลย เพราะเขาไม่อดทน ไม่ขยัน ไม่พยายาม ^^ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 03:07:46

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าเป็นปมในใจ หรือข้ออ้าง เมื่อไม่ประสบความสำเร็จมากกว่า แต่มันไม่มีทางเป็นประเด็นเดียวที่ทำให้คนสำเร็จหรือไม่สำเร็จอย่างแน่นอนครับ ทุกอย่างมีมุมดีมุมไม่ดี บ้านรวยก็อาจจะดีหรือไม่ดี บ้านจนก็อาจจะดีหรือไม่ดี จากคุณ : numkaochina (ikki) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 03:13:32

ความคิดเห็นที่ 11 แต่ที่รู้ๆๆมีคนพอใจในความจน และภูมิใจด้วย "นายตายแน่ มุ่งมาจน" สุดยอด จากคุณ : จิลาร์ดิโน่11 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 05:04:35

ความคิดเห็นที่ 12 เพราะจนกว่า โอกาสจึงน้อยกว่า ดังนั้น คนรวยมักเอาเปรียบคนจน เพราะเรียนน้อยกว่า ความรู้จึงน้อยกว่า ดังนั้น คนที่เรียนสูง มักจะไม่เข้าใจ หรือ ดูถูกคนที่มีการศึกษาต่ำกว่า จึงคุยกันไม่รู้เรื่อง เป็น logic ที่พบเห็นได้ทั่วไปครับ จากคุณ : นักการตลก สีหวาน (Dr. Will) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 06:17:14

ความคิดเห็นที่ 13 อยากให้กิ้ฟท์ คห. 12 แต่หมดพอดี ^_^ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 07:14:27

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับเรา ความจนไม่ใช่กรรมพันธุ์นะ พ่อแม่จนใช่ว่าลูกออกมาจะต้องยากจนเหมือนพ่อแม่ เราว่าอยู่ที่วิธีการคิด การกระทำ การให้โอกาสตัวเราเองมากกว่า จากคุณ : ตองภัทร เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 07:28:33

ความคิดเห็นที่ 15 ข้ออ้างเวลาพวกหาเช้ากินค่ำตรวจล็อตเตอรี่ไม่ถูกรางวัลเท่านั้นล่ะครับ จากคุณ : Schweissnaht เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 07:32:30

ความคิดเห็นที่ 16 ก็ถือว่าเป็นปัจจัยนึงครับ เพราะต้องเริ่มจากศูนย์ ถ้าคนพอมีฐานะสักหน่อยก็พอเริ่มนิดๆหน่อยๆ ได้มากกว่า คนไม่มีครับ จากคุณ : Subject เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 08:33:37

ความคิดเห็นที่ 17 จริงๆแล้วมันออกแนว ศาสนา ไปหน่อยนะ คือเป็นเหมือนลัทธิที่เรียกว่า ลัทธิกรรมเก่า ถ้างั้นขอพูดเกี่ยวเนื่องกับศาสนาแบบเปรียบเทียบให้นะ เมื่อกี้นี้เองเลยสดๆร้อนๆ เพิ่งฟังธรรมะมา(MP3) หลวงพ่อพูดเรื่องการปฏิบัติว่าทำได้ทุกคน ช้าเร็วเท่านั้น ไอ้ที่ช้าอย่าไปโทษบารมีเก่านะ ท่านว่าอย่างนี้ ถ้าใครไปโทษว่าทำบุญมาน้อยบารมีมาน้อยอย่างนี้ใช้ไม่ได้ มันไม่ใช่บารมี มันเป็นกำลังใจ กำลังใจคืออะไร กำลังใจคือยอมตายเพื่อให้ได้(อันนี้คือขั้นสุดๆ) มีอิทธิบาท ๔ เป็นกำลัง คำว่าตัดสินใจ มันแปลว่า ตัดทุกๆอย่างเพื่อการๆนั้น คนไปเชียงใหม่ไม่ได้มีสองอย่างคือ ไปไม่เป็น กับ เลิกไป ไปเป็นก็ไปก็อปปีคนอื่นสิว่าเขาไปกันยังไง ไม่เลิกไป... ต้องอธิบายมั้ย จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 08:37:18

ความคิดเห็นที่ 18 พยายามมุ่งมั่น ตั้งใจ เอาจริง ในสิ่งที่ถูกต้อง ในจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ด้วยความรู้ที่ดีพอ มันไม่จนหรอกครับ ที่สำคัญ อยู่อย่างพอเพียง ครับ (พอเพียงตามที่มี) จากคุณ : วาซุตะคุง v( ^o^ )v เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 08:37:19

ความคิดเห็นที่ 19 อยู่ที่มุมมองนะ หากว่าคนเรามีฐานะความเป็นอยู่ที่ เท่าเทียมกัน ก็จะไม่มีคำว่า รวย จน แค่หา"ความพอดี พอเพียง" และความสุขให้เจอ ก็อาจจะถือว่าเป็นความรวย ได้แล้ว "รวยความสขุ" ไม่จำเป็นต้องมีเงินมากๆก็ได้ จากคุณ : dido เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 09:21:51 A:118.175.88.138 X: TicketID:223978

ความคิดเห็นที่ 20 คห 13 ติดไว้ให้เดือนหน้าก้อได้ครับ  ;-) จากคุณ : นักการตลก สีหวาน (Dr. Will) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 09:28:01

ความคิดเห็นที่ 21 ขึ้นอยู่กับคำจำกัดความของแต่ละคนครับ ว่าเท่าไรถึงรวย เท่าไรถึงจน ผมเคยเห็นคนที่เค้าได้เงินเดือนเดือนละสี่แสน คอนโด2ที่ รถรุ่นท๊อป 3 คัน บ่นว่าเมื่ไรจะรวยๆซักที ผมเคยเห็นคนที่ใส่เสื้อม่อฮ่อม บ้านไม้ยกพื้น ขี่จักรยาน ขายของแบบขายบ้างแถมบ้าง เค้าบอกว่าไม่รู้จะขายแพงๆไปทำไม ตอนนี้ก็รวยพอแล้ว ผมเคยเห็นคนรายรับปีนึงเกิน 100 ล้าน แต่ไม่เคยพูดว่าตัวเองรวยหรือจน เพราะเวลาหมดไปกับงาน ไม่มีเวลาจะมาคิดว่าตัวเองรวยหรือจน ขอคำตอบข้อนี้ก่อนครับ ผมถึงจะสามารถตอบคำถามของเจ้าของกระทู้ได้ :) จากคุณ : basicball เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 09:49:36

ความคิดเห็นที่ 22 มันมีทั้ง 2 แบบ นั่นล่ะคะ่ ไม่เห็นคิดยากเลย แต่ที่เห็นได้ง่ายๆ คนรวย คนที่มีโอกาสในสังคมมากกว่าคนอื่น มักจะไม่เคยเข้าใจเสมอ ว่าทำไมถึงไม่กระตือรือร้น ไม่แสวงหาโอกาส แต่จิงๆปัยจัยอะไรรอบข้าง มันมีมากกว่านั้นค่ะ จากคุณ : อย่าจำชื่อฉันเลย เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 09:52:21 A:119.160.212.161 X: TicketID:119530

ความคิดเห็นที่ 23 มันอยู่ที่มุมมองมากกว่านะคะ บางคนเชื่อว่าถ้าขยัน คงมีสักวันเป็นของเรา บางคนเชื่อว่า ดวง  มีส่วนอย่างมาก บางคนเชื่อว่า พ่อแม่มีส่วนอย่างมากต่อความสำเร็จของลูก ไม่ว่าใครจะคิดยังไง ขอให้เดินตามฝันของเราค่ะ อาจมีหลงทางบ้าง อ้อมไปบ้าง แต่เมื่อถึงวันหนึ่งที่เราหมดแรงเดิน จะได้ไม่มานั่งเสียใจว่า ทำไมเราถึงไม่ลองดูนะ จากคุณ : แฮม (noopin) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 10:28:23

ความคิดเห็นที่ 24 มองในแง่ของโอกาส คนจน โอกาสน้อยกว่าคนรวยครับ คนยิ่งรวย สายป่านยิ่งยาว คุณเกิดมาจนๆ คุณจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อที่ดินมาทำมาหากิน ถ้าสมมติ เค้าขายไร่ละ หมื่นสอง แต่ขายทีละ ห้าสิบไร่ คนจนๆ มีเงินอยู่ สามหมื่น อด คนรวยๆ มีเงินอยู่ สิบล้าน โอ้ว สบาย ซื้อมาปลูกยางสักร้อยไร่ รวยเละยิ่งกว่าเก่า คนเกิดมาจนๆ เก็บเงินแทบตายได้ห้าพัน กำลังจะเอาไปลงทุนขายไก่ย่าง เผอิญป่วย เข้าโรงพยาบาล เงินหมด จนยิ่งกว่าเดิม คนเกิดมารวยๆ อยู่เฉยๆ พออายุสัก 22 เรียนจบ มีเงินในบัญชีสักห้าแสน หรือล้านนึง พ่อแม่สมทบให้อีกไปเปิดธุรกิจ สบาย ป่วยก็มีประกัน แล้วมันจะจนได้ไง? คำว่า รวย กับ จน มันคือ โอกาส การจะรวยได้ อยู่ที่ว่า ใครไขว่คว้าโอกาสได้ดีกว่ากัน การจะไขว่คว้าโอกาสได้ มันต้องมีโอกาสที่ไขว่คว้าถึงมาให้คว้าด้วย ใครบอกว่า รวยจนไม่เกี่ยว ขอดูหน้าหน่อย คำพูดนั้นใช้ได้กับคนส่วนน้อยมากๆ บ้านผมก็เกิดมาจนมาก ตอนนี้แค่อยู่ในฐานะ เกือบพอมีพอกินเอง ซึ่งการจะขึ้นมาถึงระดับนี้จากฐานะยาจก ครอบครัวเราพยายามกันเลือดตาแทบกระเด็น เทียบกับบ้านที่เค้าเกิดมามีมรดกตกทอด แล้วลูกหลานไม่ได้เฮงซวยจนเกินไป ดูตอนนี้ซิว่า ทรัพย์สินทั้งประเทศส่วนใหญ่ อยู่ในกำมือใครมากกว่ากัน ระหว่างพวกที่เกิดมารวย หรือว่าพวกที่เกิดมาจน อากงอาม่าเค้าอย่าไปพูดถึง นั่นมันสมัยเมื่อก่อนที่ทุกๆ คนที่เข้ามา จนๆ เหมือนๆ กัน ซึ่งส่วนนั้นก็มีบางส่วนที่มีความเหลื่อมล้ำของฐานะอยู่เช่น เจ้าสัวคนหนึ่งของจังหวัดบ้านเกิดผม ซึ่งเป็นเจ้าของทีดินเกือบทั้งอำเภอให้คนอื่นเช่า (ไม่บอกละกันนะว่าเค้ารวยมาจากอะไร?) เพราะอะไร ก็เพราะเค้ามีเงินมากกว่าคนอื่นไง จากคุณ : กุ้งเต้นชามะนาว เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 10:36:52

ความคิดเห็นที่ 25 บางครั้ง ก็อย่ามองแค่นั้น คนรวยก็เอาเปรียบคนจนได้ (หรือคนที่มีเงินน้อยกว่า สายป่านสั้นกว่า เช่นดั้มราคาตัดขาเป็นต้น) จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 11:05:12

ความคิดเห็นที่ 26 ประการแรก กว่าเขาจะรวย เขาก็ผ่านอะไรมาเยอะกว่าคนจน เงินมันหายากเท่าๆ กันหมดน่ะแหละ พ่อแม่รวยๆ ก็ต้องเก่ง ก็สอนลูกให้เก่งได้อยู่ดี ถ้ารวยแล้วไม่เก่ง ก็สามล้อถูกหวยไง รวยได้สองวันก็จนเหมือนเดิม เพราะไม่ฉลาดพอจะรักษาความรวยได้นานๆ ----------------------------------------- อีกอย่าง คนเกิดมารวย กับคนเกิดมาจน โอเค คนเกิดมารวย มีอะไรซัพพอร์ทมากกว่า แต่อุปสรรคก็เยอะกว่า มีเงินเที่ยวผับ กินเหล้าได้ทุกคืน ต่างกับคนจนที่ต้องสู้ชีวิต สังเกตุง่ายๆ นักเรียนคนไหนบ้านไกล จะมาแต่เช้า...บางทีมาก่อน 7 โมง นักเรียนบ้านใกล้จะมาริมๆ ปริ่มๆ 8 โมงเช้า และนร มาสายประจำคือนร ที่บ้านใกล้ๆ นี่แหละ (ไม่เกี่ยวกับรวยกับจนด้วยนะ เป็นในโรงเรียนทุกระดับ) เพราะฉะนั้น คนจนที่ถีบตัวเองขึ้นมารวยได้ ก็เก่งพอๆ กับคนรวยที่รักษาความรวย และเพิ่มความรวยได้ครับ จากคุณ : เด็กสร้างบ้าน คนสร้างภาพ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 11:32:07

ความคิดเห็นที่ 27 ใครไม่ได้เกิดมาจน   คงยากที่จะเข้าใจว่ามันเป็นยังไง บางคนบอกฉันก็เคยจน  ล้มละลาย  ธุรกิจล้ม   หนีสินรุงรัง ยังไงก้เทียบไม่ได้กับการเกิดมาจนหรอกคับ แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถนำมาใช้เป็นข้ออ้างเมื่อไม่ประสบความสำเ็ร็จได้คับ คนเกิดมาจนต่สามารถถีบ่งตัวเองให้รวยขึ้นมาได้มีเยอะแยะไป แต่แน่นอนว่าการเกิดมาจนนั้นเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งยวด  ต้งใช้ความมุมานะและอดทนอดกลั้น มากกมายกว่าคนที่ไม่ได้เกิดมาจนมากมายหลายเท่านัก แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 54 13:32:51 จากคุณ : zolito22 เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 13:28:22

ความคิดเห็นที่ 28 คนรวยก็คือคนที่จนมาก่อน ไม่ว่าจะเจ้าของเซนทรัล เดอะมอล เป็นต้นอยู่ๆเขาสร้างตึกรอยล้านพันล้านได้เลยก็เปล่านิ ทำไมคนเหล่านั้นถึงรวยละเพราะเขาทำมาหากิน อดออม ทำไมคนจีนที่มาประเทศไทยตัวเปล่าๆถึงได้รวยกว่ามีที่ดินมากกว่าคนไทยท้องถิ่น การที่พวกคุณเกิดมาจนนะไม่ต้องไปโทษเทวดาพระผู้เป็นเจ้าเสกให้คุณเกิดใส่ท้องคนจนหรอก คุณต้องไปโทษพ่อแม่โครตเง่าบรรพบุรษของคุณอ่ะ ที่เศือกไม่ทำมาหากิน ลูกหลานออกมาเลยต้องลำบาก ทำไมคนจนประเทศนี้ถึงมีแต่คนไทยทำไมคนจีนถึงรวยละ ทำไม ????????? สิ่งเหล่านี้มันสะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์แต่ละสายพันธ์มีความฉลาดที่ไม่เท่าเทียบกัน แล้วอะไรละถึงจะแก้ความยากจน การศึกษา การศึกษาในที่นี้ไม่ใช่การเรียนเพื่อเอาวุฒิ คือการขอให้สอบได้สอบผ่านเอาวุฒิไปสมัครแต่คือการศึกษาเพื่อเรียนรู้ให้เกิดความรู้ที่แท้จริง นำเอาความรู้ไปประกอบอาชีพ ไปสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมคนประเทศนี้มันสร้างอะไรไม่เป็นเลย เพราะคนประเทศมันเรียนหนังสือเืพื่อเอาวุฒิ ใบปริญญามันแค่เศษกระดาษ แค่ประโยคที่พูดออกมาก็ส่อให้เห็นแล้วว่าคนประเทศโง่่แค่ไหน ทำไมชุมชนคนจีนเยาวราชกับชุมชนคนไทย คลองเตยมันต่างกันยังกับนรกกับสวรรค์ จากคุณ : คนชั้นกลาง เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 16:36:39 A:125.24.206.199 X: TicketID:278544

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ได้คิดว่าตัวเองรวยเลย ทุกวันนี้ก็เป็นหนี้ผ่อนบ้านอีกเป็นยี่สิบปี แต่ความสุขก็หาได้ทั่วไป ยังกลับบ้านไปว่ายน้ำสระในหมู่บ้าน(จ่ายค่าส่วนกลางล่วงหน้าไป 5 ปีแล้ว) กินข้าวฝีมือคุณแม่ แถมห่อกับข้าวไปกินที่บริษัทให้เพื่อนๆแย่งกินอีก หยุดเสาร์อาทิตย์ ก็ไปหาอะไรกินกับที่บ้าน อยากกินอะไรก็กิน (แต่ไม่แพงแบบต้องภัตตาคารหรือบุฟเฟท์โรงแรมห้าดาว) อยู่บริษัท เป็นประธานกิจกรรมอีก เหนื่อย ที่ผ่านไปอาทิตย์ที่แล้ว งานปีใหม่บริษัท อาหารโต๊ะจีน ได้กินห้อยจ้อไป 1 ลูก กับเหล้าปั่น 3 แก้วเล็กๆ วิ่งจัดประกวดเต้นแล้วก็จับไข่ชิงโชค ทำงานบริษัท ก็งานเร่งมาเพียบ ผลงานต้องมี ไม่งั้นก็โดนว่า สรุปว่า ยุ่งๆ วุ่นๆ ก็ถือว่า ประสบการณ์ชีวิตที่เอาไปเขียนไดอารี่ไว้อ่านตอนเบื่อๆ ท้อใจ (เขียนมาหลายปีแล้ว สนุกดี) จากคุณ : Christian Chang เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 54 22:18:12

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเป็นคนหนึ่งที่ต่อต้านเรื่องดวง พวกเอะอะก็อ้างดวงคือพวกขี้แพ้ และยอมรับในโชคชะตามากเกินไป ผมว่าจนไม่ใช่อุปสรรคเดียวที่จะทำให้ "ไม่ให้ประสบความสำเร็จ" ผมว่า "โอกาส" สำคัญที่สุด แน่นอนเราอาจเกิดมาฐานะต่างกัน แต่บางคนมีโอกาส ผมขอเปรียบเทียบ "เมล็ด" กับ "ดิน" เมล็ด คือ คน ดิน คือ สภาวะที่ก่อให้เกิดความเจริญเติบโต เมล็ดพันธุ์ดี - ดินดี มีโอกาสเติบโตได้เร็วทำอะไรก็ออกดอกออกผล เมล็ดพันธ์ุดี - ดินไม่ดี ก็ไม่โต แต่เมื่อไหร่ที่ได้รับดินดี ก็จะเติบโตได้เร็ว เมล็ดพันธ์ไม่ดี - ดินดี ก็พอไปได้เรื่อยๆ เมล์ดพันธุ์ไม่ดี - ดินไม่ดี ตายอย่างเดียว คนเราเกิดมาจน แต่เป็นคนมีสติปัญญาดี ก็ถือเป็นเมล็ดพันธ์ที่ดี แค่รอโอกาสในการลืมตาอ้าปากเท่านั้น แน่นอนบางคนเป็นเมล็ดพันธุ์ไม่ดี สติปัญญาไม่ค่อยดี แต่เอาตัวเองไปอยู่ในดินดีได้ ก็พอจะเอาตัวรอดได้ บางครั้งอาจจะพอๆ หรือดีกว่าเมล็ดพันธุ์ดีแต่ดินไม่ดีก็ได้ ต้องยอมรับว่า เราๆ ท่านๆ ก็มีสติปัญญาที่ไม่เท่ากัน และเป็นความจริงที่ว่าไม่ใช่ทุกคนจะไปถึงจุดสูงสุดได้ "เราเกิดมาจน" ไม่ควรเป็นข้ออ้างของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมันเหมือนพวกขี้แพ้ "เราเกิดมาจน" ควรจะเป็นข้อเตือนใจให้เราก้าวไปข้างหน้ามากกว่า และไม่ใช่ว่าความสำเร็จมันจะประเมินค่าเราได้ซะเมื่อไหร่ แต่มันอยู่ที่ว่าเราได้สู้ในขณะที่เรามีลมหายใจอย่างมีเป้าหมายต่างหาก จากคุณ : TurnTheLightOn เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 15:00:43

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นประโยคที่สะท้อน สภาพเศรษฐกิจ ระบบรัฐ และสภาะสังคมและทัศนคติส่วนตัวจองคนในสังคมนั้นๆ ประโยคนี้น่าจะพบบ่อยในประเทศกำลังพัฒนาช่องว่างระหว่างคนรวยจนค่อนข้างสุง ในขณะที่ทุนนิยมอย่างอเมริกาอาจจะไม่พูด หรือคนในยุโรประบบสัใคมนิยมนิดๆอาจจะฟังแล้วไม่ซื้ง จากคุณ : In Lost Angel'sList เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:39:45

ความคิดเห็นที่ 32 มันเป็นข้ออ้างซะมากกว่า..ยกตัวอย่าง เราเคยช่วยเด็ก 2 คนให้ได้เข้าทำงานพร้อมกันคนนึงจบม.6 คนนึงจบป.ตรี แต่น้องม.6 เนี่ยขยันทำงาน สอนให้ใช้คอมหัวไว ช่วยงานได้เยอะ น้องป.ตรีนี่ตรงกันข้าม ทำงานอืดอาด สอนอะไรก็ไม่รับไม่ขวานขวายที่จะเรียนรู้ ใช้คอมก็ไม่เป็น วันๆนั่งเมาท์คนอื่น น้องม.6 เป็นเด็กบ้านแตก ไม่มีพ่อแม่ที่เลี้ยงดู ต้องหางานทำส่งตัวเองเรียน น้องป.ตรี ฐานะทางบ้านยากจน ได้เรียนคนเดียวในบรรดาพี่น้องแต่ก็ไม่ได้กระตือรือร้น น้องม.6ก็สะสมประสบการณ์ งานออฟิศในโรงงาน พอเริ่มมีลู่ทางก็ไปหางานลูกจ้างหน่วยงานราชการเพื่อจะได้มีเวลาเรียนต่อเสาร์-อาทิตย์ ส่วนน้องป.ตรีนั่งขีดๆเขียนๆ หายใจทิ้งไปวันๆ จนวันนึงบริษัทถูกเทคโอเวอร์ เค้ารับคนเก่าทุกคนยกเว้นน้องป.ตรี ทุกวันนี้น้องม.6 เรียนจะจบแล้ว แถมยังมีรถเก๋งขับอีกต่างหาก เวลาว่างก็จะขายของไปด้วย ขายประกัน ขายเคื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ทัปเปอร์แวร์ แม้กระทั่ง หวยใต้ดิน ส่วนน้องป.ตรีก็ไปเป็นลูกจ้างร้านขายยาและก็อ้างว่า "เกิดมาจน" ไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่นเค้า แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 18:25:46 จากคุณ : =Le 29 juin= เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:24:46

ความคิดเห็นที่ 33 เกิดมาจนหรือเกิดมารวยนั้น ถ้าให้เทียบกับการทำธุรกิจแล้ว ก็เหมือนเงินลงทุนครับ   มีทุนมากก็ทำมีโอกาสอะไรได้มากกว่าอยู่แล้ว ธุรกิจที่เงินน้อย ต่อให้เจ้าของเก่งแค่ไหน ก็แพ้ธุรกิจที่เงินมากกว่า แต่เก่งน้อยกว่าด้วยซ้ำ จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:33:42

ความคิดเห็นที่ 34 เราคิดว่าคนที่คิดอย่างนั้นก็จะจนตลอดไป เพราะเค้าไม่มีพื้นฐานความคิดที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อให้ดีขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่ มีแต่โทษโชคชะตาอยู่อย่างนั้นแล้วจะรวยได้ยังไง จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:03:17

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่สำเร็จเพราะไม่รู้จักคิดครับ  และไม่หัดสังเกต เอาง่ายๆแค่เรื่องการเดินทาง   อย่างนังรถเมล์ ถามหน่อยเหอะว่า  มีกี่คนที่คอยสังเกตเส้นทางที่ตัวเองไป รู้ป่าวว่า  อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง  ไปยังไง  มีวิธีเลือกอื่นไหม ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่รับรู้ รู้แค่ว่า  กรูขึ้นตรงนี้  ไปลงตรงนั้น  พอแล้ว ไม่ก็มัวแต่มอง  คนนั้นหล่อ  คนนี้สวย ไม่ก็มัวแต่ใส่อารมณ์   เฮ้ย  นั่นนิโกร  เฮ้ย  ขี้เต่าเหม้นชิบ  เฮ้ย นั่นไม่มีมารยาทเลย โอย  กกระเป๋ารถเมล์กวนทีน โอย  แม่มขับเร็ววะ โว๊ย  แอร์ไม่เย็นเลยเว้ย จากคุณ : นางสเตนเลส เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:04:11

ความคิดเห็นที่ 36 มีคนเอาคนจีนมาเปรียบกะคนไทยแท้อีกและ คนจีนสมัยก่อนขยันจริง แต่ลูกคนจีนเดี๋ยวนี้กะโหลกกะลาก็เยอะ คิดว่าพ่อแม่มีเยอะแล้วไม่ทำอะไร จะมาเจ๊งก็รุ่นลูกเนี่ยแหละ คนเชื้อสายจีนจนๆก็มี คนไทยแท้รวยๆก็มี จะแบ่งแยกกันทำไมครับ เดี๋ยวนี้เชื้อสายมันก็ปนเปกันไปหมดแล้วครับ เรียกรวมๆว่า"คนไทย" จากคุณ : เพนกวินพเนจร เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 19:05:37

ความคิดเห็นที่ 37 จะมีกี่ที่เคยจนแล้วประสพความสำเร็จจนรวย ถ้าบ้านรวยพ่อแม่ส่งจนจบป.ตรี ป.โท ป.เอก แล้วมาเป็นลูกจ้างเขากมันไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก แบบไหนที่เรียกว่ารวยเหรอผ่อนรถหรูๆผ่อนบ้านสวยๆเนี่ยเขาเรียกรวยหรือป่าว คนจนค่อนประเทศทำนาแทบเป็นแทบตาย พ่อค้าคนกลางดันรวย เพราะคำว่่าโอกาสทุกวันนี่เราอายุุ33ก็สร้างจากไม่มีอะไรเลยจบก็แค่ม.6 ตอนนี่มีบ้านหนึ่่งหลังรถหนึ่งคันตึกแถวราคา3ล้านสองแสนหนึ่งห้อง ก็ไม่เรียกว่ารวยพอที่จะมาแดกดันคนจน แต่วลีนี้เราก็ยังใช้อยู่น่ะเพราะยังไม่รวย ไม่มีตังส์ขับเบนส์ราคา10ล้านก็ช่วยไม่ได้เราดันเกิดมาจน ขับแต่อัลติสราคาไม่ถึงล้านแต่ก็ยังไม่หยุดไขว่คว้าถ้ายังไม่ตายสะก่อน จากคุณ : คนไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 20:16:10 A:88.175.104.8 X: TicketID:240267

ความคิดเห็นที่ 38 คนจน    เปรียบเสมือน   ประเทศด้อยพัฒนา คนฐานะปานกลาง    เปรียบเสมือน   ประเทศกำลังพัฒนา คนรวย   เปรียบเสมือน   ประเทศที่พัฒนาแล้ว ------------------ เราเคยอยู่โรงเรียนประจำอำเภอมาก่อน  ซึ่งก็ประกอบไปด้วยคนที่มีฐานะยากจนคนมากมาย  เพื่อนของเราคนหนึ่ง ตอนเรียน ม.1 ขาดเรียนเป็นประจำ ครูก็แปลกใจว่าทำไมไม่มาเรียน จึงตามไปที่บ้าน  พอไปถึงจึงพบว่า เพื่อนคนนั้นไม่ไปเรียนเพราะ พ่อของเขาไม่สบาย เข้าป่าไปตัดไม้มา เผาเป็นถ่านไม่ได้ จึงต้องหยุดเรียน ดูแลพ่อและเข้าป่าไปตัดไม้  เขาเลือกที่จะทำแทนพ่อเขา  เพราะอะไร   เพราะครอบครัวไม่มีเงิน  อยู่บ้านไม้เก่าๆ วันนี้ไม่ตัดไม้มาเผาถ่าน ไม่มีถ่านไปขายก็ไม่มีเงิน  ไม่มีเงินก็ไม่มีข้าว ไม่มีเสื้อผ้าใส่   คนจนต้นทุนให้การพัฒนาตัวเองต่ำ  การจะไปต่อยอดไปได้ช้ากว่าคนรวย  จะทำอะไรก็ติดอยู่ตรงที่ไม่มีเงิน   ส่วนคำถามที่ว่า   "เรามันเกิดมาจน" วลีนี้ใช้เป็นข้ออ้างของคนที่ไม่ประสพความสำเร็จไม่ได้แล้วใช่ไหมครับ - การประสบความสำเร็จในที่นี้คืออะไร  ถ้าคือการมีเงินเยอะ มีหน้าที่การงานดีๆใช่มั้ย  >>> ตอบได้เลยว่า คนจนส่วนน้อยมากที่จะประสบความสำเร็จ แต่การประสบสำเร็จของคนจนก็มีนะ  การได้มีเงินซื้อข้าวกิน  ได้ทำงานแลกเงินในแต่ละวันก็คือการประสบความสำเร็จของคนที่เกิดมาจนแล้วคะ ปล. ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ จากคุณ : cottonhouse เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 20:16:47

ความคิดเห็นที่ 39 เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว “ลิขิตฟ้า"หรือจะสู้"มานะตน" จากคุณ : god04 (god04) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:02:51

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นด้วยที่ว่า "ลูกคนจน โอกาสน้อยกว่า ลูกคนรวย" แต่โอกาสน้อย ไม่ใช่ไม่มีโอกาส ซะเลย โชคดี = โอกาส+ความพร้อม ถ้าหากเรารู้ว่าโอกาสน้อย ก็ควรเตรียมความพร้อมให้มาก เมื่อวันหนึ่งโอกาสมาก็จะได้ไม่พลาดโอกาส    ที่สำคัญ โอกาสสามารถสร้างขึ้นได้ ส่วนตัวคิดว่า "เรามันเกิดมาจน"  มันเป็นข้ออ้างจริงๆ จากคุณ : scob1207 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 23:48:59

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าจะพูดกันถึงภาพรวม ระหว่าง คนรวย กับคนจน ก็ควรจะตัดคำว่าโชคทิ้งไป เพราะถ้าทุกคนมีโชคเหมือนกันหมดก็คงไม่มีคนจน เห็นด้วยกับประโยคนี้ - การประสบความสำเร็จในที่นี้คืออะไร  ถ้าคือการมีเงินเยอะ มีหน้าที่การงานดีๆใช่มั้ย  >>> ตอบได้เลยว่า คนจนส่วนน้อยมากที่จะประสบความสำเร็จ แต่การประสบสำเร็จของคนจนก็มีนะ  การได้มีเงินซื้อข้าวกิน  ได้ทำงานแลกเงินในแต่ละวันก็คือการประสบความสำเร็จของคนที่เกิดมาจนแล้วคะ จากคุณ : King Kop เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 01:07:38

ความคิดเห็นที่ 42 เกิดมาจนเป็นแค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้รวยอะไรมากมาย แต่จำได้ว่าเกิดมาก็มีแค่ห้องแถวเก่าๆที่ต้องเช่าเพื่ออาศัยและมอร์ไซค์แก่ๆหนึงคัน ซึ่งชีวิตที่ผ่านมาก็เห็นพ่อกับแม่ทำงานหนักมากเพื่อที่จะขยับเขยื้อนขึ้นมาลืมตาอ้าปากได้ ตอนนี้ชีวิตก็ค่อนข้างสบายแต่ก็ไม่เคยลืมว่าพ่อแม่ลำบากมายังไง จึงตั้งใจทำงานเต็มที่ จากคุณ : ขอแจมด้วย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 01:29:32 A:58.8.42.38 X: TicketID:286993

ความคิดเห็นที่ 43 คนที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะเกิดมาจนมีแต่น้อย แต่มีคนที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะเรายังพยายามไม่มากพอหน่ะเยอะ จากคุณ : @-อมยิ้มแก้มตุ่ย-@ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 02:47:00

ความคิดเห็นที่ 44 เกิดมาจนจริงๆค่ะ แต่ตอนนี้รวย จากคุณ : Superstarie เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 12:11:48

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้ามัวสนใจของในโลก ย่อมมีย่อมโศกทุกข์สุขสันต์ หัดสนใจในสิ่งในใจกัน จะพบซึ่งสวรรค์ แม้กายจน บทกวีนิพนธ์ ของ จิว ล่ง แห่งเขาหลานใคร อิอิ จากคุณ : ART_TRA_MAN เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 13:04:40

ความคิดเห็นที่ 46 จนหรือรวยมันอยู่ที่ ความคิดครับ คนคนหนึ่งไม่มีบ้านของตัวเองเช่าอยู่ไม่มีรถขึ้นรถเมล์ แต่มีเงินเดือนมีเงินเก็บ บางคนมองว่าคนนี้จน กับอีกคน มีรถหรูมีบ้านเดี่ยวแต่กิจการของตัวเองแต่มีหนี้ 100 ล้าน ไม่รู้จะล้มละลายเมื่อไร แต่คนก็มองว่าคนนี้รวย หรือ ครั้งหนึ่งสมัยอยู่หอหน้าราม ผมมีเงินติดตัวหลายร้อย เพื่อนมีเท่าไรไม่รู้ มันบอกว่า ไม่ค่อยมีเงิน ขอยังไม่จ่ายค่าห้อง ให้ช่วยออกให้มันก่อน พอจ่ายค่าห้องเสร็จก็ไปกินข้าวกัน ตอนจ่ายเงิน ผมเหลือไม่กี่ร้อย เพื่อนมันจ่ายแบงค์พัน กินเสร็จแล้วแฟนมันมาหา เรียกแทกซี่ออกไป จนหรือรวย อยู่ที่ความคิดเท่านั้นครับ จากคุณ : นายสบายสบาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 13:27:10

ความคิดเห็นที่ 47 เอาแค่นิยามจนรวยก็เถียงกันไม่รู้จบแล้ว       เห็นด้วยกับ คห.1...แต่มันก็ปนๆไปกับแรงกระทำต่างๆของคนเราด้วย     เรียกว่าเป็นทั้งแรงกรรมเก่า+แรงกรรมใหม่โดยมีสภาวะสิ่งแวดล้อมต่างๆและช่วงเวลาจังหวะหรือโอกาสด้วย...อยู่ที่ความฉลาดของคนๆนั้นด้วยนะ       นี่ยังไม่คิดถึงคนที่ประกอบงานทุจริตหรือออกกึ่งๆนะ...แต่ก็รวยในนิยามที่เรารู้ๆกัน          ไหนๆก็พูดถึงโอกาสแล้ว...ใครมีหรือรู้จักทำเลดีๆในห้างดังๆหรือทำเลทองก็ขอเช่าหน่อย+น้ำไฟเบ็ดเสร็จอย่างเกิน 3000     .......ขอโอกาสคนจนหน่อย...ขอกู้ด้วย...ดอกฟรี 12 เดือน จากคุณ : toytoytoy เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 15:15:10

ความคิดเห็นที่ 48 ใครที่พูดถึงเรื่อง คนจีน คนไทย อ่ะนะ... เราว่าลองไปหาหนังสือเรื่อง "เจ๊กบ้านนอก" ดูมั้ยอ่ะ แล้วจะรู้เลยนะว่า คนจีนบางคน ขยันมากมาย แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่รวยซะที ในความคิดเรา...ความรวย คือ โอกาส อย่างนึงเลยล่ะ จากคุณ : raku_z เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 15:37:12

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านหมดไม่ต้องแสดงความเห็นก็มีแนวคิดของบุคคลหลายๆ คนหลายๆ มุมมอง สำหรับผม คนที่ไม่ประสบความสำเร็จแล้วมีข้ออ้างต่างๆ นาๆ เกิดจาก ความตั้งใจที่จะทำไม่มากพอเจออุปสรรคเข้ามาก็มานั่งคิดทบทวนว่าที่ผ่านมา ทำไปเพื่ออะไร แล้วท้อเลิก (ทั้งที่อาจจะใกล้สำเร็จแล้ว) แ้ล้วมานึกได้ทีหลังว่า คราวนั้น (คราวโน้น) ถ้าไม่เลิกซะก่อนนะก็รวยแล้ว สรุปเกิดจากความคิดของตนเองทั้งนั้น คนที่อยากจะรวยก็มีจุดมุ่งหมายไว้ นะครับแล้วผลสำเร็จจะตามมาอย่าท้อนะ จากคุณ : noonin555 เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 15:41:12

ความคิดเห็นที่ 50 มันไม่ใช่แค่คนรวยเอาเปรียบคนจนหรอก... คนจนเองก็พยายามเอาเปรียบคนรวยเหมือนกัน... เพราะฉะนั้นมันขึ้นอยู่กับนิสัยถาวรของแต่ละคนมากกว่า ว่าจะโกงหรือไม่โกง... ลูกน้องที่บ้านบางคนก็ดี บางคนก็โกงทุกครั้งที่มีโอกาส... ส่วนเรื่องเกิดมารวยมันก็ได้เปรียบตรงที่มีโอกาสมากกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าใช้โอกาสที่มีเหลือเฟือนั้นไม่ได้ก็ต้องเรียกว่าเสียชาติเกิด จากคุณ : bermby38 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:36:31

ความคิดเห็นที่ 51 คนจนต้องขยันสิ สักวันต้องมีแบบพอเพียงคะ จากคุณ : mother-platinum เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:28:54

ความคิดเห็นที่ 52 เกิดมาจนเป็นแค่ข้ออ้างของคนเกียจคร้าน ไม่มีโอกาส เป็นข้ออ้างของคนขี้ขลาด...ที่ขาดความพยายาม เงินมีอยู่ทั่วไป ถ้ารู้จักหา รู้จักเก็บ รู้จักลงทุน รวยได้ไม่ยาก เรียนมาก โอกาสยิ่งมาก แต่เรียนน้อยใช่ว่าจะขาดโอกาส ระยะทางหมื่นลี้เริ่มต้นจากก้าวหนึ่งเสมอ... กำแพงเมืองจีนไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว... อยากรวย ต้องทำ ....ขอเอาใจช่วยนะครับ จากคุณ : พี่ชาลี เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 23:19:31

ความคิดเห็นที่ 53 เงินทองมีอยู่ทั่วไป มันขึ้นกับว่าใครจะคิดวิธีมาเก็บเกี่ยวได้ต่างหาก คนที่เกิดมาจน ก็ต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่น ความพยายามที่มี ต้องพยายามให้ถูกที่ถูกทางด้วย อย่าสักแต่ว่าทำๆ ไปให้มันจบๆ ถ้าสักแต่ว่าทำ ทำให้ตายก็ไม่รวยขึ้นมาหรอกนะ จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 54 05:14:24

ความคิดเห็นที่ 54 ขอต่อยอด คห. 38 นะครับ "คนจนต้นทุนให้การพัฒนาตัวเองต่ำ  การจะไปต่อยอดไปได้ช้ากว่าคนรวย  จะทำอะไรก็ติดอยู่ตรงที่ไม่มีเงิน" ยิ่งจนเท่าไรก็จะยิ่งทำให้โอกาสตัวเองน้อยลง พอโอกาสตัวเองน้อยลงก็จะทำให้พัฒนาตัวเองได้ช้าลง ยิ่งรวยเท่าไรก็ยิ่งทำให้โอกาสตัวเองมากขึ้น พอโอกาสตัวเองมากขึ้นก็จะทำให้พัฒนาตัวเองได้มากขึ้น ผมว่าเรื่องการศึกษาเกี่ยวข้องน้อยครับ เพราะเนื่องจากว่าคนรวยจะหาช่องทางโอกาสได้ ง่ายกว่าคนจนครับ ไม่เหมือนคนจนที่โอกาสมัน แทบจะไม่มีเลย คนรวยซื้อเอาได้ครับ ยกตัวอย่างง่ายมากๆ A เป็นคนรวยมีเงินอยู่ 50 ล้านบาท B เป็นคนจนมีเงินอยู่ 5 แสนบาท แค่ A เอาเงินไปฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยปีละ 1.25% ไม่ต้องทำอะไรเลยครับ ปีหนึ่งก็อยู่ได้สบายๆกับเงิน 625000 บาท แล้วถ้าเทียบกับคนจนละครับ มีเงินอยู่ 5 แสนบาท สมมติว่าฉลาดกว่า A ได้ช่องทางที่ดีกว่า ฝากธนาคารได้ ดอกเบี้ยปีละ 5.5% ถึงแม้ว่าดอกเบี้ยจะสูงกว่า A เกือบ 5 เท่าก็ตาม แต่ B ก็จะไม่สามารถอยู่ได้เลยถ้าเอาเงินไปฝากธนาคารหมด เพราะ B จะมีดอกเบี้ยแค่ปีละ 27500 บาทเท่านั้นครับ ยิ่งไปทำธุรกิจก็ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ ชัดเจนอยู่แล้วว่า A ยังไงก็ก้าวกระโดด ในขณะที่ B ก้าวแทบจะไม่ไหว ระยะห่างในความรวยมันก็ยิ่งต่างกันขึ้นไปเรื่อยๆ คนรวยก็จะรวยอยู่อย่างนั้นถึงแม้จะมีความฉลาดน้อยกว่า คนจนก็อาจจะรวยขึ้นมาได้แต่ก็ต้องใช้เวลานานมากๆ ตามตัวอย่างที่เห็นกันอย่างชัดเจนแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างหาความยุติธรรมได้ยากมากอยู่แล้วครับ ตั้งแต่เกิดมา ความยุติธรรมก็แทบจะหาไม่ได้แล้ว ปล.ประสบความสำเร็จตรงนี้วัดจากตัวเงินครับ จากคุณ : MindDriller เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 54 21:22:32

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้าจะพูดถึงเรื่องเกิดมาจน .. คงเหลือแต่คำว่าบุญกรรมเท่านั้นที่อธิบายได้ เพราะอธิบายไม่ได้จริง ๆ ว่าทำไมคนนี้ถึงเกิดมากับครอบครัวนี้ ใครโชคดีเกิดมากับครอบครัวขยัน ฉลาด มีฐานะ ก็มีโอกาสมาก ใครโชคร้ายเกิดมากับครอบครัวยากจน ไม่ว่าเพราะเหตุผลอะไร โอกาสก็น้อย ใครโชคดีมากกกกก ก็ไปเกิดประเทศที่สวัสดิการดี ๆ สาธารณูปโภคดี ๆ จะโอกาสมากหรือน้อย ก็สามารถสำเร็จกันได้ทุกคน ปัจจัยมันเยอะ ทั้งความพยายาม ความสามารถ และดวง จากคุณ : :: VamleS :: เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 14:04:21

ความคิดเห็นที่ 56 ผมว่าโลกปัจจุบัน ความขยันมันก็ไม่อาจจะทำให้รวยแล้วนะครับ มองง่ายๆอย่างการทำธุรกิจในสมัยก่อน คนขยันซื้อของมา ขายไป (พวกร้านโชว์ห่วย) อาศัยแค่ความขยันกว่าชาวบ้าน ปิดร้านช้ากว่าชาวบ้าน แค่นี้ก็ขายของได้มากกว่าคนอื่นเพราะความขยันแล้วครับ แต่มามองในปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆมันเปลี่ยนไป คุณลองขยันเหมือนเดิม แต่เจอโลกธุรกิจเงินทุนมหาศาลอย่าง 7-11 มาแข่ง คุณขยันกว่าเดิม 10 เท่า คุณก็ยังไม่รวยอยู่ดี จากคุณ : หล่อเซ็ง เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 14:47:07

ความคิดเห็นที่ 57 ทำไมไม่ลองคิดกันดูว่าทำงานเผื่อรุ่นต่อไปกัน รุ่นเรายากจน ก็รู้จักอดออมตั้งใจเรียน ทำงานไต่เต้าไปเรื่อยๆ พอถึงรุ่นถัดไปก็พอมีทุนสำรองไว้บ้าง พอรุ่นสองเก็สำรองมากขึ้นวางแผนให้รุ่น 3 ดีๆ อะไรๆมันก็จะดีขึ้นเอง หลายๆครอบครัวที่มีฐานะดีๆตอนนี้ก็เกิดจากการสั่งสมมาตั้งแตสองถึงสามรุ่นที่แล้ว ที่ช่วยสร้างรากฐานให้แข็งแรงและส่งต่อยังรุ่นถัดไป และในความจริงก็มีคนอยู่มากมายที่ประสบความสำเร็จได้เพียงชั่วรุ่นของตัวเอง ซึ่งลูกน้องเก่าๆที่เคยทำงานกับผมเค้าก็ออกไปตั้งตัวเริ่มทำอะไรจากเล็กๆน้อยๆเช่น นมข้าวโพด เต้าหู้นมสด ไอศกรีม แพ็คน้ำ ขายกันในท้องถิ่น มีเงินเก็บมากขึ้นก็เห็นเค้าก็เอาไปจ้างคนทำบางส่วนเพื่อขยายกิจการ ตอนนี้รายได้ก็ไม่ต่ำกว่า 5-6 หมื่นบาทต่อเดือน ทั้งๆที่อยู่ในอำเภอเล็กๆต่างจังหวัด อยากจะบอกว่าพวกเค้าเริ่มจากไม่มีอะไรเลยสมัยที่ทำงานอยู่กับที่บ้านผม ดังนั้นเกิดมาจนเป็นข้ออ้างจริงๆครับ อย่าใช้ความเห็นแก่ตัวและความขี้เกียจมาอ้างหน่อยเลยว่าเกิดมาจน จากคุณ : ขอแจมด้วย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 15:15:48 A:175.145.172.238 X: TicketID:286993

ความคิดเห็นที่ 58 นึกถึงตัวเอง บ้านผม คุณยาย แม่ เป็นคนต่างจังหวัดเข้ามาหากินที่กรุงเทพตั้งแต่ผมยังไม่เกิด ต้องเช่าบ้านอยู่ ต้องทำงานโรงงาน รับตัดเย็บเสื้อผ้า รวมถึงผ้าโหล ตั้งแต่จำความได้ ผมเกิดมาในช่วงที่ฐานะทางบ้านพอมีพอกิน เรียนโรงเรียนเอกชนราคาแพง เพื่อน ๆ ค่อนข้างรวย เวลาอยากได้อะไรที่เพื่อน ๆ มีกัน ยายชอบพูด ทำไมต้องอยากได้อะไรที่มันแพงขนาดนั้น "เรามันเกิดมาจน มีกินทุกมื้อ มีเงินจ่ายค่าน้ำไฟ ค่าเทอมแพง ๆ ของเราโดยไม่เดือนร้อนก็พอแล้ว อย่าไปฟุ่มเฟือยตามเค้า" ยายพูดยังงี้มาตลอดครับ ตั้งแต่เด็กยันโต ตอนนี้มีบ้าน 3 หลัง รถ 3 คัน ทองเส้นเท่าโซ่ มีเครื่องเพชรในกรุอีกจำนวนหนึ่ง ล่าสุด ผมเป็นคนชอบรถมาก ชอบแต่ง ชอบแข่ง(ในสนาม แข่งกันในคลับ ไม่ได้แข่งตามถนน) คันเก่าใช้มา 13 ปีตั้งแต่เรียนมหาลัย เลยอยากได้รถใหม่ในฝันสักคัน ผมจะออกรถราคาล้านนึง(ทำงาน หาเงินซื้อเองครับ ยังต้องผ่อน เป็นหนีหัวโต เหอๆ) ยายยังบ่นว่า ทำไมต้องไปเว่อร์ตามคนอื่นเค้า เอาแค่ใช้ได้ไม่กี่แสน ผ่อนสบาย ๆ ก็พอ "เรามันจน"  T____T ในที่สุดก็ดื้อออกมาจนได้ แหะๆๆ จากคุณ : เค้าเปล่านะ เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 54 23:26:01

ความคิดเห็นที่ 59 ถึงผมจะจน แต่ผมก็มีความสุขนะ มีครอบครัวที่อบอุ่น มีพี่น้องที่รักกัน ก็มีความสุขแล้ว เรื่องเงินก็ไว้ทีหลัง "- - จากคุณ : kloyman เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 15:26:44

ความคิดเห็นที่ 60 ชีวิตของเรากำหนดได้ด้วยตัวเราเองค่ะ !!! ยกตัวอย่าง 1.เพื่อนเราเห็นเราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีสามารถทำงานข้ามชาติได้เพื่อนเราก็บอกว่าอยากพูดและใช้ภาษาอังกฤษอย่างนี้ได้บ้างจัง แต่... วันๆไม่ทำอะไรเลยไม่เคยแม้แต่จะพยายาม แต่เราอ่านเวบอ่านข่าวฟังข่าวภาษาอังกฤษทุกวันตั้งแต่ตอนอยู่ ม ปลาย อย่างนี้ดวงหรอ ? 2.มีพี่ที่ทำงานเก่าเค้าเล่าให้ฟังว่าพ่อแม่ทำงานชนชั้นกรรมาชีพเค้าต้องไปอยู่วัดตั้งแต่เด็กตั้งใจเรียนจนเรียนจบช่างทำงานได้สักพักจบ ป ตรี(ต่อเนื่อง)แล้วตอนนี้อายุ 20ปลายๆได้เงินเดือนเกือบแสนแล้ว 3.พี่คนนึงทำงานมาสักพักแต่ไม่เคยพัฒนาตนเองจนโดนลดตำแหน่งบอกให้หางานใหม่ก็ไม่หา กลัวนู่นกลัวนี่สารพัดทั้งๆที่ๆอยู่ก็ไม่มีอะไรดีี 4.เร็วๆนี้แถวบ้านจะมีที่ว่างๆที่นึงตอนแรกก็ไมมีอะไรหรอกนะแต่ตอนนี้มีคนเอาซุ้มข้าวมันไก่มาขาย ขายดีมากกกกกกกกกกกกกกกก น่าจะได้วันหลายพันอยู่เหมือนกัน 5.ถ้าเกิดมาจนไม่มีโอกาสเรียนก็ไปทำค้าขายเก็บประสบการณ์แล้วไปเป็นเถ้าแก่ถึงแม้จะจบ ม6 ก็ไม่สาย--ค้าขายถ้าทำดีไม่ขี้เกียจยังไงก็ตั้งตัวได้ ถ้าอยากจะไต่ไปสายลูกจ้างชั้นดีที่จะสามารถไปต่อเป็นระดับบริหารได้ก็จงพัฒนาตนเองให้เก่งๆ ฉลาดๆมีความรู้เยอะๆ ไม่ใช่วันๆเอาแต่จับกลุ่มนินทา 6.อย่ารีบมีครอบครัวและสร้างหนี้ ---หนี้คือบ่อเกิดแห่งความจนค่ะ เอาไว้ตั้งตัวได้ค่อยซื้อบ้าน รถ หรือสิ่งฟุ่มเฟือยอื่นๆ ส่วนครอบครัวจะรีบมีลูกไปทำไมตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย สงสารเด็กเหอะ 7.เราไม่เชื่อเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ กฏแห่งกรรมนะ แต่เราเชื่อในพลังแห่งความดีถ้าเราทำดีไม่คดไม่โกงใครยังไงเราก็ไม่มีวันล่มจมหรอก ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน ทำตัวเลวๆไปเดี๋ยวสักวันก็โดนจับยัดซังเต จากคุณ : n-OO//bit-a เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 19:22:42

ความคิดเห็นที่ 61 เรามันเกิดมาจน เป็นคำพูดเชิงตอกย้ำและประชดชีวิตตนเอง ถ้าตระหนักแล้วแก้ไขเดินหน้าสู้นับว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ แต่ถ้าบ่นไปจนไป ไม่แก้ไขอะไรให้ชีวิตมันดีขึ้นก็ไม่รู้จะว่ายังไง พูดดังแค่ไหนก็ไม่ทำให้ใครมาสนใจหรอก ผมว่านะ จากคุณ : kennyG เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 54 23:08:20