ความคิดเห็นที่ 1 1. ควรจะจด vat 7% หรือไม่ (ปัจจุบันไม่ได้จด vat 7%) - เรื่อง VAT ให้พิจารณา - ลูกค้ามี VAT หรือเปล่า ถ้าลูกค้าเป็นบุคคลธรรมดา จะทำให้สินค้าราคาสูงขึ้น แต่ถ้าลูกค้าเป็นองค์กรหรือบริษัทใหญ่ ๆ ที่เขาจด VAT อยู่แล้ว ควรจด VAT มากกว่า 2. ราคาเฉลี่ยที่จ้างสำนักบัญชีทำกันประมาณเท่าไหร่ครับ - ถ้ามี Stock มีการผลิต ราคาจะสูงกว่างานบริการธรรมดา ของผมธุรกิจบริการอย่างเดียวจ่ายเดือนละ 1500 ปลายปี 7000 3. การลงบัญชีจะต้องทำโดยผู้มีความรู้และได้รับอนุญาตจากสภาพวิชาชีพ ถ้าทำเองและไม่รู้หลักการบัญชีเดี๋ยวจะมีปัญหา 4. กำไรกี่เปอร์เซ็นต์บอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ต้องดูว่าคุณขายอะไร และในวงการคิดราคากันเท่าไหร่ 5. โดยหลักการแล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือต้นทุนของกิจการ จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 21:31:29

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : หา-สะ-จิต-โต เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 22:50:39

ความคิดเห็นที่ 3 ตาม  คห.1  ค่ะ 1.ถ้าเราไม่จำเป็นต้องใช้  Vat   หรือรายได้ยังไม่ถึงเกณฑ์  ไม่น่าจดค่ะ จด  vat  สำนักงานบางที่ จดกับไม่จดราคาต่างกันนะคะ ไม่จดไม่ต้องปิดภาษีรายเดือน     การทำงานจะง่าย  ความยุ่งยากจะน้อยลง แต่จะมีหัก  ณ   ที่จ่ายซึ่งไม่น่าจะเยอะ 2.รับจ้างผลิต  ดูว่าใครทำสต๊อคสินค้าให้ ปกติแล้วผู้ประกอบการจะทำเอง แล้วสำนักงานจะตรวจเช็ค เปิดบิลไม่มากเราทำเองไม่น่ายุ่งยากอะไร 3.ทำเองได้ค่ะ   แต่ได้แค่บัญชีเบื้องต้น คือลงบัญชีจดไว้แบบที่เข้าใจ  เราจะรุ้กำไรขาดทุน จริง    แต่บัญชีเขาจะทำบัญชีแบบกำไรขาดทุนแบบบัญชี อย่างเช่น  ง่ายๆๆ  ขายไปเท่าไหร่ต่อเดือน   ค่าใช้จ่ายที่เป้นต้นทุนต่อเดือน หักลบกันก้อขาดทนขั้นต้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ  เป้นบริการ พวกนี้เราลงเองได้   แต่ถ้าทำเป็นเรื่องเป็นราวถึงขนาดปิดงบ ให้บัญชีทำดีกว่าค่ะ  สงสารเค้าเถอะตอนเรียนยากจะตาย (ล้อเล่นนะคะ) ความจริงมันเป็นวิชาชีพค่ะ   ให้ใครทำไม่ได้ เพราะเวลาส่งงบ   หลักๆ   ต้องมี   1.คนเซ็นต์ทำบัญชี 2.คนเซ็นต์ตรวจสอบบัญชี สองคนนี้คนละคนกัน   ซึ่งกรรมการทำเองไม่ได้ค่ะ ลองขอต่อรองค่าทำบัญชีดู  ถ้าคิดว่าเอกสารเราน้อย แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนพวกนี้ลองปรึกษา สำนักงานบัญชีได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 55 23:32:13 จากคุณ : สี่สิบดีกรี เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 23:31:20

ความคิดเห็นที่ 4 กำไร อยู่ที่ตลาดครับ จากคุณ : high_voltage_XL เขียนเมื่อ : 12 ต.ค. 55 23:43:29

ความคิดเห็นที่ 5 ขอถามต่อนะครับ 1. มีปัจจัยอะไรบ้างครับที่ใช้ในการคิดกำไรแล้วให้ บริษัทอยู่รอด (ยกตัวอย่างก็ได้ครับ) (ปัจจุบัน ผมคิดที่ 20% เอามาจาก ขนมห่อละ 5 ครับเลยคิดว่าตลาดน่าจะคิดกำไรกันที่ประมาณเท่านี้) 2. เวลาผมซื้อของ ใบเสร็จเป็นบิลเงินสดธรรมดา ไม่มีชื่อร้านที่ซื้อ เอามาใช้เป็นหลักฐานได้หรือไม่ครับ แล้วถ้าไม่ได้ สามารถทำยังไงได้ ที่จะบอกว่าผมไปซื้อของนี้มาจริง ๆ ครับ (รวมถึงค่ารถด้วย /รถส่วนตัวผมคิดที่ 5บ./กม.) ขออนุญาตถาม คุณ สี่สิบดีกรี ต่อนะครับ  [ 3.ทำเองได้ค่ะ   แต่ได้แค่บัญชีเบื้องต้น คือลงบัญชีจดไว้แบบที่เข้าใจ  เราจะรุ้กำไรขาดทุน จริง    แต่บัญชีเขาจะทำบัญชีแบบกำไรขาดทุนแบบบัญชี อย่างเช่น  ง่ายๆๆ  ขายไปเท่าไหร่ต่อเดือน   ค่าใช้จ่ายที่เป้นต้นทุนต่อเดือน หักลบกันก้อขาดทนขั้นต้น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ  เป้นบริการ พวกนี้เราลงเองได้ ]    ถ้าผมทำแบบง่ายเลย 3 บัญชี คือ 1.รายจ่าย (วัตถุดิบ/ค่าแรง/ค่ารถ) 2.รายได้ 3.สต๊อคสินค้า   (ทั้งสามข้อผมซื้อเป็นเล่มที่ขายตามห้างฯ ครับ ใช้ได้หรือเปล่าครับ)       หมายความว่า ผมไม่ต้องให้สำนักบัญชีทำก็ได้ใช่มั้ยครับ แล้วเสียค่าใช้จ่ายตอนปิดงบ สิ้นปี ครั้งเดียว ถูกมั้ยครับ รบกวนด้วยครับ จากคุณ : หา-สะ-จิต-โต เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 08:38:20

ความคิดเห็นที่ 6 1.) เรื่องกำไรกี่ % ต้องดูหลายปัจจัย ได้แก่   - ถ้าสินค้าที่ขายคล่อง อาจไม่คิดกำไรสูงมาก แต่ถ้าสินค้านาน ๆ ขายที อาจต้องคิดกำไรสูง เช่น ขายข้าวสารอาจต้องการกำไรแค่ 2-3% แต่ถ้าขายเครื่องเพชร อาจคิดกำไร 40% เป็นต้น  - ถ้าสินค้าที่มีคุณขายอยู่คนเดียว อาจคิดกำไรสูงได้  - ลองดูราคาตลาดโดยที่ไม่ต้องสนใจต้นทุนก็ได้ 2.) ใบเสร็จธรรมดาสามารถลงค่าใช้จ่ายได้ แต่เคลม VAT ไม่ได้ 3.) เรื่องทำบัญชีเองและให้ผู้ตรวจสอบมาตรวจ คุณลองนึกถึงผู้ตรวจสอบบัญชีที่จะต้องไล่ดูบัญชีคุณตั้งแต่ต้น ถ้าเจอจุดผิดคงปวดหัวและเริ่มใหม่หมด คุณคิดว่าผู้สอบบัญชีจะคิดเงินคุณเท่าไหร่ ผมว่า 3-4 หมื่น น้อยกว่านี้คงไม่กล้ารับ นอกจากคุณจะต้องติดต่อกับผู้สอบบัญชีให้มาช่วยคุณตั้งแต่ต้น ซึ่งสุดท้ายอาจคิดว่าใช้สำนักงานบัญชีดีกว่า แต่ถ้าคุณใช้สำนักงานบัญชี พวกนี้เขาจะมีผู้สอบบัญชีที่ใช้ประจำอยู่แล้ว ซึ่งผู้สอบบัญชีคนนั้นจะไว้ใจการลงบัญชีของสำนักงานนี้หรือนักบัญชีคนนี้ การตรวจสอบจะไม่ใช้เวลามากทำให้สามารถคิดราคาถูกได้ ลองคิดดูว่าแบบไหนคุ้ม จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 10:12:33

ความคิดเห็นที่ 7 บ้านเราเป็นสำนักงานบัญชีคะ ขออนุญาตตอบบ้างนะคะ 1. เราสามารถอธิบายให้คุณฟังได้ ถึงข้อดีของการจดvat ข้อดีที่สำคัญสุดคือ การทำให้ต้นทุนของคุณลดลงคะ แต่ขออนุญาตไม่พิมพ์นะคะ เนื่องจากยาวจริง ๆ ต้องอธิบายทางคำพูดเท่านั้น 2. เปิดบิลเดือนนึงกี่ใบไม่สำคัญ สำนักงานบัญชีมองจำนวนเอกสารต่อเดือนเป็นหลักคะ บิลซื้อคุณอาจจะเยอะรึเปล่า เรามีลูกค้าเดือนนึงเปิดบิลขาย5-8แผ่นเอง แต่แต่ละใบมูลค่าเป็น10ล้าน และบิลซื้อเดือน ๆ นึง มี500แผ่นขึ้นไป นี่จึงเป็นเหตุผลที่ เขาเปิดบิลแค่8ใบ แต่เราคิดค่าทำบัญชีเขาเดือนละ8000คะ แล้วปลายปี12000 หมายถึงค่าผู้สอบบัญชีรึเปล่าคะ ผู้สอบเขาจะดูจากรายได้เป็นหลักนะคะ 3. บอกได้้ลยคุณทำบัญชีเองได้ แต่ไม่คุ้มเสี่ยง ถ้าคุณทำผิด จะมีผลกับภาษี และสรรพาดร ซึ่งเขาจะสุ่มตรวจบ่อย ๆ อยู่แล้ว และค่าปรับแพงมากนะคะ เป็นเท่าตัวกับสิ่งที่เราทำผิดพลาดนะคะ และข้อดีขิงการจ้างสำนักงานบัญชีคือ เขาจะวางแผนภาษีให้คุณได้ด้วย โดยที่มันถูกต้องตามกฏหมายคะ ไม่ใช่แค่มีภพ30.แต่เดี๋ยวคุณจะเจอ ถงด 51 50อีก แล้วภาษีบุคคลของกรรมการอีก สำนักงานบัญชีเขาจะจัดการให้คุณหมด ซึ่งไม่ต้องมากังวลว่า แล้วภาษีนี้ฉันต้องเสียไหม แล้วมันทำยังไง คุณจะหายห่วงไปเลย 4. กำไรของคุณนี่ต้องดูว่ารับจ้างผลิตอะไร ราคาตลาด ต้นทุน แนะนำให้ไปปรึกษาสำนักงานบัญชีที่คุณทำอยู่ เพราะรายละเอียดมันเยอะคะ เรามีลูกค้าที่ทำธุรกิจรับผลิตสินค้าอย่างเดียวกัน2บริษัท ทั้งที่ราคาขายและปริมาณขาย ดูไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ผลกำไรของบริษัทแรกได้ปีละเป็นสิบล้าน แต่บริษัทสองได้ปีละแค่1-2ล้าน สิ่งที่ต่างกันของ2บริษัทนี้คือต้นทุนคะ บริษัทแรกนำเข้ามาเอง ส่วนบริษัทสองซื้อในประเทศ 5. ค่าเดินทางไม่ถือว่าเป็นต้นทุนคะ แต่มันเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคะ ถ้าคุณจะคิดทุกอย่างมาเป็นต้นทุนหมด คุณจะคิดไม่ไหวเพราัมันจะยิบย่อยเหลือเกิน ต้นทุนคือสิ่งหลัก ๆ ที่ใช้ในการผลิตดีกว่าคะ รวมทั้งค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรด้วย ถ้ามีอะไรหลังไมล์คุยกันได้ ถึงคุณจะไม่ใช่ลูกค้าเรา แต่เราเต็มใจที่จะให้คำปรึกษานะ เราไม่อยากให้คุณมองสำนักงานบัญชีไม่ดี และไปทำบัญชีเองคะ เพราะมันไม่คุ้มจริง ๆ คะ เรื่องvat แนะนำให้จดคะ แต่สำนักงานบัญชีจะต้องไม่คิดค่าบริการเพิ่มนะคะ ถ้าคิดเพิ่มแนะนำให้ไปหาที่ใหม่ เพราะค่าบริการภาษีจะต้องรวมอยู่ในค่าบริการรายเดืินอยุ่แล้ว ถ้าคิดเพิ่มแสดงว่าเขาเคี่ยวเกินไปแล้ว จากคุณ : ฮิปโป้ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 10:24:15

ความคิดเห็นที่ 8 คำผิดเยอะ เพราะพิมพ์ในipad ขอโทษด้วยคะ จากคุณ : ฮิปโป้ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 10:26:30

ความคิดเห็นที่ 9 1. ควรจะจด vat 7% หรือไม่ (ปัจจุบันไม่ได้จด vat 7%)    - สำนักงานบัญชีที่ใช้บริการอยู่แนะนำว่า ไม่ต้องจด เพราะ รายได้ไม่ถึงที่จะต้องชำระภาษี    - คนรู้จักแถวบ้าน (เจ้าของธุกิจของใช้สิ้นเปลือง) แนะนำให้จด vat 7% เหตุผล ถ้าคิด จะทำธุรกิจ อย่าไปกลัวเรื่องภาษี และ ถ้าคิด จะมีรายได้เท่านี้ ก็กลับไปทำงานประจำเถอะ ans: ถ้ารายได้เกิน 1.8m ค่อยจดค่ะ ถ้าร้านขยายใหญ่ขึ้นค่อยมาจดได้ค่ะ 2. ราคาเฉลี่ยที่จ้างสำนักบัญชีทำกันประมาณเท่าไหร่ครับ (ปัจจุบันเดือนนึง ผมเปิดบิล ประมาณ 2 บิลมากสุดครับ)    - ปัจจุบันจ้างเดือนละ 3000 บาท และ สิ้นปีอีก12000 บาท ค่าเซ็นต์อะไรซักอย่าง ก็ตกเดือน ละ 4000 บาท (ส่วนตัวคิดว่าราคาสูงเกิน เพราะเมื่อหักลบแล้ว ผมว่าผมทำงานหาเงินให้เค้าอ่ะครับ) ans: ก็ประมาณนี้ค่ะ แต่ช่วงแรกที่คุณคิดว่าเปิดแค่ 2 บิล อาจจะขอต่อรองราคา แล้วถ้ามากขึ้นค่อยให้เขาขยับราคาค่ะ 3. คิดว่าจะทำบัญชีเอง สามารถทำได้มั้ยครับ ถ้าทำได้ สามารถหาข้อมูลได้ที่ไหนครับ (ไม่ได้จบบัญชีมาครับ) ans: ทำได้ค่ะ รับจ่าย แต่ปิดบัญชีเองไม่ได้ ทำงบไม่ได้ เพราะต้องมีคนเซ็นทำบัญชี และสอบบัญชีตาม พรบ.วิชาชีพบัญชีค่ะ 4. การคิดกำไร คิดกันประมาณกี่เปอร์เซนต์ของราคาต้นทุนครับ (ผมมีปัญหาเรื่องการตั้งราคาครับ ตอนนี้ผมให้ลูกค้าตั้งราคาครับ ถ้าทำได้ก็ทำครับ อยากได้ลูกค้าครับ แต่รู้สึกว่าได้ไม่คุ้มเหนื่อย) ans: คุณต้องรู้ต้นทุนของคุณทั้งหมดก่อน แล้วตั้งราคาเข้าไปอย่างน้อยเริ่มต้นที่ 5% ค่ะ 5. ปกติค่าเดินทางในการติดต่อ คิดเป็นต้นทุนหรือไม่ครับ (กว่าจะสรุปงานเดินทางติดต่อประมาณ 2 รอบ บวก ตอนส่งสินค้าอีก 1 รอบ ก็ประมาณ 3 รอบครับ เฉลี่ยค่าเดินทางประมาณ 500 บาท/รอบ) ans: เป็นค่ะ แต่ต้องมีเอกสารพิสูจน์ถึงการจ่ายเงินได้ เช่น บิลน้ำมัน บิลแท็คซี่ ซึ่งบิลเหล่านี้ต้องระบุชื่อผู้รับ และชื่อผู้จ่ายด้วยค่ะ หรือเรียกว่า ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี แต่ถ้าไม่มีก็ใ้ช้ใบสำคัญรับเงิน หรือถ่ายสำเนาบัตรประชาชนผู้รับเงิน  ซึ่งในเอกสารทั้งคู่ก็ต้องมีืชื่อผู้รับเงิน และผู้จ่ายเงินค่ะ จากคุณ : skyrocket เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 10:31:29

ความคิดเห็นที่ 10 คห.5   บอกไปแล้วค่ะ  เราทำเองได้ค่ะ   ทำไว้ดูคร่าวๆ   ประกอบการตัดสินใจเบื้องต้น แต่ทำเป็นเรื่องเป็นราว  ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้ประกอบการวิชาชีพบัญชี จากคุณ : สี่สิบดีกรี เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 10:47:28

ความคิดเห็นที่ 11 .:.  กรณีค่าใช้จ่ายที่เป็นบิลเงินสดธรรมดา    ต้องพิสูจน์ได้ว่ามีการจ่ายเงินจริง ผู้ขายมีตัวตนจริง   เช่น  บิลมีชื่อ  นามสกุลผู้ขาย  โดยการเขียน กรณีค้าขายกันบ่อย ให้ขอถ่ายสำเนาบัตรประชาชนแนบไว้ ครั้งเดียวพอ  เอาไว้อ้างอิง  ที่เหลือก้อให้บิลมีชื่อผู้ขาย มีที่อยู่ด้วยจะดีมาก   มีคนเซ็นรับเงิน   หรือ กรณีจ่ายเงินจ่ายเป็นเช็คลงชื่อบุคคล ถ่ายสำเนาเก็บไว้เป้นหลักฐานการจ่าย เข้าใจว่าบางธุรกิจซื้อขายกับบุคคลธรรมดาอาจจะไม่มีบิลอะไรให้ เราก็ทำใบรับเงินขึ้นมาเอง  เขียนชื่อ  ที่อยู่  ลงไปให้เขาเซ็นรับ ซึ่งวิธีพวกนี้เราขอคำแนะนำจากสำนักงานบัญชีได้ค่ะ จากคุณ : สี่สิบดีกรี เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 10:56:08

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกท่านมากครับ กระจ่างขึ้นเยอะเลยครับ คือผมรู้สึกดีกับสำนักบัญชีนะครับ แต่คิดอยากจะลดต้นทุนด้านนี้ดู (เพราะรายได้ผมไม่เยอะ) แต่อ่านแล้ว ถามเพื่อน ๆ แล้ว คงต้องรบกวนสำนักบัญชีต่อไปครับ ขอบคุณทุก ๆ ท่านครับ จากคุณ : หา-สะ-จิต-โต เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 55 17:27:12

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องจด VAT ขอให้คิดในใจว่าจดเพราะต้องการ VAT ซื้อ ไม่ใช่จดเพราะถูกบังคับให้จดเมื่อรายได้ถึง 1.8 ล้าน เมื่อคุณวางแผนจะจ่ายเงินก้อนใหญ่หรือซื้อสินค้าชุดใหญ่ที่มี VAT ให้คุณจดก่อนจะซื้อ แล้วจะคุ้มค่าที่สุด  เพราะจดแล้วเคลม VAT ซื้อได้ทันที บางคนตอนที่จ่ายเงินมาก ๆ ไม่มีเวลาสนใจเรื่อง VAT พอเวลาผ่านไปแล้วเริ่มกิจการค่อยดูเรื่องจด VAT เพิ่งจะรู้ว่าเสียโอกาสในการเอาเงินคืนไปอย่างน่าเสียดาย จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 55 09:37:01