ความคิดเห็นที่ 1 อีกนิด ผมสนใจทั้งถุงหูหิ้ว  ถุงสกินลาย ถุงร้อน ถุงกระดาษ  กะว่าจะทำแบบครบวงจรผู้ใช้จะได้สะดวก จากคุณ : ค้างคาวปีกเขียว (ค้างคาวปีกเขียว) - [ 2 ก.ย. 48 14:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยังไม่ได้เป็นแม่ค้าค่ะ แต่กำลังคิดจะเป็น ถ้ายังไม่มีคนอื่นทำก็น่าสนใจนะค่ะ ขายทั้งปลีก ทั้งส่งเลย ว่าแต่อยู่ที่ไหนอ่ะ บางทีอาจได้ไปอุดหนุน จากคุณ : yanet - [ 2 ก.ย. 48 15:02:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถุงพลาสติกส่วนใหญ่เขาขายเป็น กก. หมายถึงว่าใบใหญ่ขึ้น จำนวนใบลดลง ราคาจำไม่ได้ มีหลากหลาย ว่างๆไปดูแถวตลาดไทสิ จะได้เห้นภาพ จากคุณ : แมวเกเร - [ 2 ก.ย. 48 16:14:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนใหญ่จะมีขายกันทุกที่แล้วน่ะ ลองสำรวจดูจะดีกว่ามั้ย จากคุณ : เอาใจช่วย - [ 2 ก.ย. 48 17:38:07 A:58.11.72.113 X: TicketID:065275 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สนใจด้านนี้เหมือนกัน จากคุณ : รูปหล่อ_พ่อคนดี - [ 2 ก.ย. 48 18:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็เคยเห็นเวลาแม่ค้าเค้าซื้อกันอะนะ ตะโกนปุ๊บ ได้ถุงปั๊บ ประมาณว่าซื้อง่ายได้เร็ว ทันท่วงทีเวลาที่เค้าใช้จะ ได้เปรียบอ้ะ เคยเห็นที่ตลาดนัดหน้าเซน รังสิต ยังมีร้านขายได้เลย ขอให้โชคดีน๊า จากคุณ : คนฤดูเหงา (plawan131) - [ 2 ก.ย. 48 19:48:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เคยถามเพื่อน เพื่อนบอกว่ากำไรน้อยมาก โลละบาท การจะได้ต้นทุนถูก ต้องซื้อลอตใหญ่มาก เป็นตันๆ แล้วก็ต้องเข้าถึงลูกค้าเลย แบบเช้าเดินถามเลย แล้วส่งกันประจำ ถ้ารอมาซื้อก็ต้องทำเลดี เพราะถุงที่ไหนก็เหมือนกันเอาใกล้ สะดวก และราคาก็ต้องถูกด้วย ต้องดูที่โรงงานอีกว่าใหญ่หรือเล็ก(เพื่อนบอกโรงงานใหญ่แพง โรงงานเล็กถูก ดูแปลกๆ แต่เพ่อนบอกว่าใหญ่เลี่ยงภาษีไม่ได้เลยแพง) จะมีกำไรดีก็ตอนถุงราคาขึ้นพรวดพราดแล้วตุนไว้เยอะ ผมอยู่ในตลาดเห็นมีถุงขายรอบตลาด หลายสิบร้าน รวมๆก็คงไปได้ เพราะก็เห็นอยู่ได้กัน เพื่อนเล่าให้ฟังคร่าวๆแค่นี้ครับ จากคุณ : เลขสาม - [ 2 ก.ย. 48 20:21:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ความเสี่ยง เทียบกับเอาเงินออกดอก กับ ลงทุนขายถุง เราว่า เราขายถุงดีกว่าสมัยนี้ สำคัญที่ money และ ความหลากหลาย เพื่อเติบโตเป็นแหล่ง packing ชั้นดี สังเกตร้านขายถุงในเจเจ สำเพ็ง และโรงงานพลาสติกในประเทศ และ ประเทศจีน ชีวิตนี้ถ้าชอบธุรกิจpackingอย่างนี้ โอเคเลยจ้า จากคุณ : punya miraclecraft (rampaii) - [ 2 ก.ย. 48 21:42:00 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กำไรน้อย  แต่ความเสี่ยงน้อยคะ ตั้งนะตั้งได้  แต่ถ้ามีรถเข็นแล้วส่งก็ดีคะ  ขนาดกุยแกไปเดินสำเพ็ง  บางทียังขี้เกียจซื้อสำเพ็งเลยคะ  เพราะต้องเดินไปที่ร้านแล้วก็หอบกลับอีก (หนักอะ) ตรงตลาดนัดมีรถเข็นเดินเข็นไปเรื่อย ๆ คะ  ใครจะเอาอะไรก็เรียกเอาคะ...  @^_^@ แพงกว่าบาทสองบาทนะเจ้า จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 3 ก.ย. 48 00:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ้อ  ยกเว้นบางร้านที่ซื้อแบบเยอะ ๆ อะคะ  เค้าจะไปซื้อที่แหล่งเอง....  เพราะมีของให้เลือกเยอะกว่า  ราคาถูกกว่าคะ   แต่กุยแกว่านะ  แฮะ ๆ ๆ เค้ามาบอกถูกกว่าเนี่ย  เราก็นั่งคิด  คุณขา  ค่ารถเมล์ไปกลับก็ไม่คุ้มแล้วคะ  ไม่ต้องคิดค่าเสียเวลาเลยด้วยคะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 3 ก.ย. 48 00:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แม้เป็นเพียงถุงพลาสติก ทุกข้อดีหมดตามหัวข้อ แต่ของดีก็มีคู่แข่งเสมอ สำคัญว่าทำยังไงให้ขายอยู่ได้โดยไม่วืดเพราะคู่แข่งค่ะ จากคุณ : นักกินหมูกระทะ - [ 3 ก.ย. 48 02:12:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อื่ม เรื่องถุงนี่มันขึ้นกับตัวสินค้าด้วยนะครับ ว่าเค้าขายสินค้ากันแบบไหน ถ้าเป็นอาหาร ก็เป็นถุงร้อนถุงเย็น ถ้าเป็นขนมหรือของใช้ก็อาจจะถุงพลาสติก ก๊อบแก๊บ ถ้าเสื้อผ้าก็อาจจะใช้ถุงที่ดูดีหน่อยก็ได้ หรือถ้าเป็รองเท้าก็อาจจะต้องการถุงใหญ่เป็นพิเศษ ผมว่า ลองเดินๆมองๆให้ทั่วๆตลาดแล้วก็จดใส่กระดาษเป็นข้อมูลไว้ก่อนก็ดีนะครับ ว่าเค้าใช้ถุงแบบไหนกันบ้าง แล้วมีคนขายอยู่แล้วหรือยัง ถ้าเราจะหาของเข้ามาสต๊อคต้องใช้ปริมาณมากน้อยแค่ไหน แล้วช่งแรกที่เปิดร้านใหม่ๆก็คงยังไม่ค่อยมีคนรู้จักร้านเท่าไหร่มั้งครับ ก็ต้องหาวิธีทำให้พ่อค้าแม่ค้ารู้จักเราด้วยเพราะดูท่าว่าตลาดจะค่อนข้างใหญ่มาก ซึ่งหากคุณทำแล้วไปได้ก็ต้องพยายามหาวิธีดึงลูกค้าให้เข้ามาซื้อที่ร้านของคุณให้ได้ด้วย เพราะถ้าใครสักคนที่เห็นคุณขายดี ถ้าในย่านนั้นไม่มีคนทำอยู่เลยเค้าก็อาจจะสนใจมาแบ่งตลาดของคุณไปก็ได้ ก็ควรจะวางแนวทางไว้ก่อนนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : ryuhi - [ 3 ก.ย. 48 04:37:04 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เออ  ขอโทษนะคะ  ขอแย้งคุณ ryuhi นิดคะ แบบให้ลูกค้าเดินมาซื้อที่ร้านเราเสียเปรียบคะ เราต้องส่งคนเดินไปแล้วเอาถุงไปขายเลยคะ  ถ้าพ่อค้าแม่ค้าคนไหนอยากได้ถุงที่แปลกหน่อย  เช่น  จะเอามีลาย  จะเอาถุงแก้ว  เราก็ค่อยเอากลับไปให้เค้าอีกทีคะ ต้องไปให้ถึงที่  ที่เค้าขายของเลยคะ จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย - [ 4 ก.ย. 48 04:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แต่ก่อนเคยคิดว่าขายถุงพลาสติกไม่น่าจะรุ่งอะค่ะ มีคนข้างบ้านชวนไปขาย แต่จริง ๆ แล้วกำไรดีพอสมควร เค้าเช่าร้านที่สำเพ็ง เดือนละ 5-6 หมื่นบาท เป็นล็อกเท่ารูหนู แถมแถวนั้นยังมีคู่แข่งอยู่ด้วยค่ะ ปกติที่เราใช้อยู่ก็ซื้อประจำกับคนข้างบ้าน พอดีบ้านอยู่ติดกันเค้าก็เลยเอาจากร้านกลับมาให้ได้ สั่งทีก็ 20-30 โล อะค่ะ แต่ก่อนโลละ 30 กว่าบาท (ถ้าจำไม่ผิด) หลังจากวิกฤตน้ำมันผันผวน โรงงานพลาสติกปิดไปหลายร้อยโรง ค่าถุงก็เพิ่มขึ้นเกือบ 100 % -*- แต่ก็ต้องใช้อะค่ะ ทำไงได้ แต่ประหยัดหน่อย อย่างเรามีลูกค้าฝรั่งฝากให้ซื้อประจำด้วยค่ะ ทีละร้อยโล (ถุงแก้ว) อ้อ อยากแนะนำ ถ้าเปิดร้านขายถุงนะคะ แนะนำให้มีของจุ๊กจิ๊กอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องกันด้วย เช่น ซองกระดาษ สก๊อตเทป มีดคัตเตอร์ ลวดสี ป้ายกระดาษ ปากกาเมจิก ฯลฯ เพราะยังไงร้านค้าก็ต้องใช้ของพวกนี้ประกอบด้วยอะค่ะ จากคุณ : ไคลี่ มีหนอก - [ 4 ก.ย. 48 21:23:06 A:61.91.117.197 X: TicketID:069018 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณอย่าลืมว่า ถุงพลาสติกถือเป็นสินค้าต้นทุนของร้านค้า ไม่ใช่สินค้าที่ถึงมือผู้บริโภคคนสุดท้าย ดังนั้นสินค้าต้นทุน จะขายแพงไม่ได้ ยิ่งถุงพลาสติกถือว่าเป็นของฟุ้มเฟือย ใช้แล้วทิ้งด้วย เหมือนกับหนังยาง หรือว่าหลอดกาแฟ สินค้าพวกนี้จำเป็นต้องราคาถูก ทำให้ร้านค้ากำไรน้อย แต่ว่ายอดขายดี เพราะคนขายจำเป็นต้องใช้ ต้องซื้อประจำ เมื่อก่อนถุงพลาสติกราคาไม่แพงนะ แต่เดี๋ยวนี้ขึ้นมาเยอะ ราคาถุงพลาสติก มีขึ้นมีลง ตามวัตถุดิบคือเม็ดพลาสติก ที่บางทีก็ขึ้นลงตามกระแสน้ำมัน เหมือนกับที่ผ่านมา เจอวิกฤตน้ำมันหน่อย ขึ้นน่าดูเชียว สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือ 1. สถานที่ เพราะสินค้าพวกนี้ใช้ที่เก็บจำนวนมาก หมายถึงมันเปลืองที่ 2. ถุงพลาสติกมีหลายขนาด ถ้าเป็นแหล่งขายส่งอย่างที่ ท่าน้ำราชวงศ์ ก็จะมีแทบทุกขนาด แต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ ในปริมาณการซื้อของลูกค้า คุณควรจะลงแค่บางขนาดที่ คนใช้จำนวนมากๆ หรือว่าบ่อยๆ เช่น ขนาด 6x9 ที่เป็น ขนาดใส่อาหาร ตามร้านข้าวแกงถุง หรือว่า ถุงหิ้วขนาด 8x16 ที่เป็นถุงหิ้ว ขนาดใส่กล่องโฟมได้พอดี 3. ราคา ถุงพลาสติกจะขายเป็นกิโล หรือว่าเป็นห่อ ร้านทั่วไป ก็จะขายแพงกว่าร้านขายส่งอยู่ไม่กี่บาท ค่อนข้างจะมีราคา มาตราฐานที่เหมือนกันทุกร้าน ดังนั้นคนซื้อมักจะเอาสะดวก คือที่ไหนใกล้ก็เอาที่นั้น เพราะจะได้ไม่เหนื่อยเดินทางขนย้าย แต่ถ้าราคาต่างกันมาก แม่ค้าที่เค็มๆหน่อยก็จะยอมเสียค่า เดินทางเพื่อไปหาแหล่งที่ถูกกว่านะ ถ้าคุณคิดจะขายถุงพลาสติก นั้นหมายถึงคุณกำลังจะขาย อุปกรณ์หรือภาชนะในการบรรจุอาหาร ดังนั้น สิ่งที่คุณต้อง มีควบคู่กันไป คือสินค้าประเภทด้วยกัน เช่น ไม้เสียบลูกชิ้น แก้วพลาสติกใส หนังยาง ถุงใส ถุงหูหิ้ว ตราช่าง กล่องโฟม กล่องพลาสติกใส เพราะเวลาลูกค้าใช้ ไม่ได้ใช้ถุงอย่างเดียว นอกจากใส่ถุงแล้ว ยังต้องรัดหนังยางด้วยเป็นต้น ยกเว้นว่าคุณจะทำเป็นร้านค้าส่ง ถุงอย่างเดียว อย่างอื่นก็ ไมต้องสนก็ได้ แต่ร้านค้าส่งส่วนใหญ่จะมีโรงงานพลาสติก เป็นของตนเองนะ จึงเน้นที่ปริมาณการขายถุงเป็นหลัก แต่ถ้าคุณจะขายปลีก ก็ควรมีอุปกรณ์อื่นๆเพิ่มเข้ามาด้วย เพราะคนซื้อแก้วกาแฟ ก็เข้าร้านเดียวกันซื้อถุงพลาสติกแหละ อย่าลืมดูแลเรื่องการเก็บรักษาด้วยนะคะ ถึงแม้ว่าถุงพลาสติก จะไม่เน่าไม่เสีย แต่ว่าโดนแดดมากๆก็เปลื่อยไวนะ แล้วถ้า ทับกันมากๆ ถุงบรรจุก็อาจจะแตกได้ ทำให้ถุงข้างในหลุด ออกมา เกิดความเสียหาย ขายไม่ได้อีก จากคุณ : ..ฟ้าใส.. - [ 5 ก.ย. 48 01:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อีกนิดนึง เรื่องร้านค้าที่ขายเสื้อผ้า คุณต้องดูลุกค้าดีๆนะ เพราะร้านค้าที่ขายเป็นร้านเช่า ที่ไม่ได้ขายเสื้อยี่ห้อตัวเอง หรือขายเสื้อตัวละ199 คุณก็ลงถุงพลาสติกสำหรับใส่เสื้อได้ แต่ถ้าเป็นร้านยี่ห้อดัง มีแบรนด์ของตนเอง เขาจะไม่มาซื้อ ถุงพลาสติกของคุณใส่หรอกนะ เพราะเขาจะต้องมีถุงที่ พิมพ์ยี่ห้อตนเองเอาไว้แล้ว ดังนั้นก่อนจะขาย ควรสำรวจร้านค้าใกล้เคียงสักนิดนึงดูว่า มีร้านประเภทไหนเยอะกว่ากัน ร้านอาหารใส่กล่องหรือว่า นั่งกิน ถ้าร้านนั่งกินก็ไม่ต้องเอากล่องโฟมไปขายหรอก เพราะเขาไม่จำเป็นใช้ ถ้าร้านเสื้อผ้าเยอะ ถุงพลาสติใส ทีจะต้องใช้ ก็คือขนาดที่ใส่เสื้อโชว์ได้ ไซด์ใหญ่ๆ แล้วถ้าเป็นกิ๊ฟช๊อป ก็จะใช้ถุงแก้วเยอะ ขนาดเล็กๆ พอดีกับกิ๊บหรือว่าตุ๊กตา  แล้วก็จะต้องขายอุปกรณ์ที่ เป็นเหล็กเสียบแขวนของได้กับตะแกรงเหล็ก อย่าลืมสำรวจร้านค้าก่อนลงสินค้านะคะ เอาให้ตรงกับ ความต้องการร้านค้าระแวกนั้น เพราะสินค้าต่างประเภทกัน ความต้องการใช้ถุงก็ต่างขนาด ต่างรูปแบบกันไป จากคุณ : ..ฟ้าใส.. - [ 5 ก.ย. 48 01:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จากประสบการณ์ที่ที่บ้านขายของกินนะคะ อย่างหนึ่งที่คุณต้องพิจารณาด้วยก็คือคุณภาพ หรือความหนาของถุงค่ะ ยกตัวอย่างถูกก๊อบแก๊บนะคะ อย่างที่บ้านใช้ใส่ของเบา ๆ ก็จะใช้ถุงก๊อบแก๊บแบบบางหน่อย แต่ถ้าของมันมีน้ำหนักก็จะเลือกใช้แบบหนาแทนขึ้นมาหน่อย ดีกว่าต้องซ้อนถุง นอกจากนี้ถุงก๊อบแก๊บแบบบางยังมีหลายยี่ห้อให้เลือกอีกต่างหาก บางยี่ห้อขายถูกแต่เสียซะส่วนใหญ่ (หูมีข้างเดียวบ้าง, ไม่ปั๊มหูบ้าง, ก้นถุงทะลุบ้าง) ซื้อมาใช้แล้วเข็ดเลยค่ะ จากคุณ : Moar - [ 7 ก.ย. 48 16:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ จากคุณ : ค้างคาวปีกเขียว (ค้างคาวปีกเขียว) - [ 7 ก.ย. 48 17:59:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าสนใจติดต่อที่ผมครับ ผมมีโรงงานขายส่งถุงพลาสติกทุกชนิด ถ้าสนใจที่จะทำจริง ๆ ผมจะให้เครดิตเลย 1 เดือน ติดต่อผมได้ที่ 01-6591587 รับรองของผมคุณภาพดี ราคาถูก ขายได้กำไรครับ จากคุณ : พิภพ (Sugar Free) - [ 20 ก.ย. 48 12:50:28 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นอกจากถุงพลาสติกแล้วผมยังมีกล่องโฟม ถาดโฟม แก้วน้ำ พลาสติก กระดาษครับ ยังไงติดต่อมาน่ะครับ จากคุณ : พิภพ (Sugar Free) - [ 20 ก.ย. 48 12:51:50 ]