Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ข้อเขียนล่าสุดของ พี่ Prettypetite น่าสนใจมากเลย ขออนุญาตพี่คนสวยเอามาลงน่ะครับ

    สวัสดีค่ะ

    เมื่อวานนี้ ตลาดโลกต่างพากันลง ยกเว้นประเทศไทย  และช่วงกลางคืนบ้านเรา ตลาดหุ้นฝั่งตะวันตกแดงหมด  และเช้านี้ ตลาดส่วนใหญ่ก็ยังปรับฐาน  โดยจีนลงมาหลายวันแล้ว (ตาม target peak ของจีนคือ 19-21 กันยา) และฮ่องกงก็ลงมั่ง

    ประเทศไทยเปิดตลาดลงมาก่อน ดิฉันคนที่ไม่เคยลุกมาดูหุ้นช่วงเช้า พอเข้ามาช่วงบ่ายก็ตกตะลึง  ไทยเรานำเขียวมาเลย และพาเอาอินโดนีเซียและฮ่องกงตามเขียวขึ้นมา  

    น้องชายดิฉันเริ่มฝันถึงกระทิงในรอบ 14 ปีอีกครั้งหนึ่ง  เนื่องจากคิดง่ายๆว่า เมื่อค่าเงินสหรัฐอ่อนลง หุ้นเขาก็ตีขึ้นทันทีเพราะราคาหุ้นถูกลง  จึงต้องทำไล่ราคาขึ้นไป  และเมื่อดูจาก chart ปรากฎว่า  ค่าเงินบาทไทยนั้น  ได้อ่อนค่าลงมายิ่งกว่าเงิน US$  และเขาบอกว่ามีแนวโน้มว่าจะอ่อนค่าไปถึง 40 บาทภายในต้นปีหน้า  ทำให้เศรษฐกิจไทยพุ่ง เนื่องจากการส่งออก   ทำให้หุ้นไทยดูแล้ว ยิ่งถูกลง  และต่างชาติจะต้องรีบมาไล่ซื้อ  

    ก็ไม่ผิดที่จะคิดเช่นนี้  เพราะคนส่วนใหญ่ก็คิดเช่นนี้  โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย  ที่ต้องเล่นแบบ "ปั่น และมั่ว"  เก็งกำไรกันสุดกู่ลูกเดียว  แบบไม่ต้องรู้อะไรมาก"  ดิฉันเคยอ่านบทสัมภาษณ์เซียนหุ้นท่านหนึ่งบอกว่า ตอนที่ไทยประกาศลอยค่าเงินบาท  เขา (คงมีคนอื่นๆด้วย) กู้เงินเต็มกำลังเข้ามาไล่ซื้อหุ้น จนหุ้นขึ้น ceiling ทั้งกระดาน 3 วันซ้อน  และกลุ่มสถาบันการเงินยังขึ้นต่อเนื่องอีก   ดิฉันไม่คิดว่ารายใหญ่กลุ่มนั้น  คิดจะถือยาวแล้ว  เพราะหากเป็นเช่นนั้น คงสิ้นเนื้อประดาตัวตั้งแต่ตอน SET ลงมาเหลือ 200 จุดต้นๆในปีต่อมา  ไม่ได้มาเป็นเซียนพันล้านดอก

    แล้วดิฉันมาเขียนอะไรก็ไม่รู้ให้อ่านอีกแล้ว  แต่...เดี๋ยวก่อน ดิฉันจำได้ว่าเคยเขียนเรื่องอเมริกาจะปล่อยให้ค่าเงินเขาอ่อนเมื่อราวๆสัก ปีกว่าๆ และได้บอกเหตุผลในนั้น  ขณะนี้ กำลังเข้าสู่กระบวนการที่ว่า  ตอนนั้นก็ไม่ได้ไปเที่ยวหาอ่านบทวิเคราะห์ของท่านใด  เพิ่งมา searched เมื่อเกิดเรื่อง subprime นี่เอง  

    ถ้าจะเอาตามเหตุผลและความเป็นจริง

    Recession in USA is just begun.... Subprime Mortgage Loans เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่เรามองเห็นเท่านั้น  ดิฉันคิดว่า อเมริกันเห็นแก่ตัว และมีเล่ห์เหลี่ยมมาก  เอาตัวรอดด้วยวิธี  กวาดขยะไว้ใต้พรม

    รอบที่แล้ว ในปี 1997 ปัญหาการเงินเริ่มที่ประเทศเล็กๆคือไทย และลามไปทั่วเอเซีย  พอปี 1998 มีเพียง Hedge Fund รายเดียวที่มีปัญหา  น้ำมันยังราคาถูก  แต่หุ้นก็ตกกระหน่ำทั้งโลก  FED จึงมีการลดดอกเบี้ยหลายครั้ง  จนเกิดการกู้เงินเพื่อเก็งกำไรในตลาดหุ้น  ในครั้งนั้น ไล่เก็งกำไรใน .COM กันสุดขีด  แต่แค่กลางปี 2000 จากนั้นก็ทรุดตัวลงไปอีก ก็ใช้การลดดอกเบี้ย จนต่ำที่สุดในประวัติศาตร์โลก  ทำให้มีการกู้เงินมหาศาลเพื่อเก็งกำไรกันยิ่งกว่าเดิม  สร้าง credit bubble ลูกใหม่ที่ใหญ่กว่าเก่า  

    ปี 2007 ปัญหาการเงิน  เริ่มจากประเทศที่ได้ชื่อว่า มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด บริโภคน้ำมันสูงที่สุดในโลก  ตลาดหุ้นใหญ่กว่ายุโรปทุกประเทศรวมกัน 2 เท่า  ใหญ่กว่าจีน 8 เท่า  ต่างชาติ เป็นเจ้าของ assets and investment ในสหรัฐ 42%  คนของเขาเอง 40%  มีแค่ 18% เท่านั้นที่เป็นของรัฐบาลกลาง

    DOT COM bubble ปี 2000 ตลาด A Shares ยังไม่เป็นที่สนใจเท่าไร  รายย่อยจีนเก็บออมเงินสด  แต่ครั้งนี้ พวกเขาได้ถอนเงินมาลงทุนในตลาดหุ้น  แม้ทางการจีนจะออกมาตรการมากมาย  ก็ไม่อาจจะเหนี่ยวรั้งความโลภได้  ยังโชคดีที่จีนมีระเบียบวินัย และกฎเคร่งครัดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ  (ไว้รออ่านหุ้นจีนตอนที่ 3)

    รอบนี้ ปัญหาด้านการเงินเกิดกับ Hedge Funds นับ พันๆราย  รวมทั้งสถาบันการเงินทั่วโลกอีกนับไม่ถ้วน  ที่เข้าไปมีเอี่ยวด้วย  Subprime Mortgage ถูกเสริฟมาเป็นออเดิฟ   ลดดอกเบี้ย  อัดเงินกงเต๊ก  ยิ่งทำให้ค่าของเงินยูเอสอ่อน  assets and stocks ด้อยค่าลง  ไม่เป็นไร  เอาเงินกระดาษปั่นมันขึ้นมา  ทีนี้ ก็เกิดการขึ้นอย่างบ้าคลั่งของ soft commodities (ดูรูปที่แนบมา) โดยเฉพาะอาหารที่จำเป็น  เช่น ข้าวสาลี  ขึ้นมาตั้ง 81% ในครึ่งปี /26.7% ในเดือนหลังสุดเดือนเดียว  ยังมีถั่วเหลือง น้ำมันถั่วเลือง น้ำตาล กาแฟ ข้าวโพด  น้ำมันและทองคำ ถือว่า ขึ้นน้อยที่สุด  เพราะใช้น้ำมันน้อยลงได้  หรือไม่มีทองคำก็ไม่เป็นไร

    ช่องว่างระหว่างคนรวย และคนจนจะยิ่งถ่างกว้างมากขึ้น  คนจีน 800 ล้านคน ยังมีสภาพที่ ยากจนเกินขีดกำหนด  และอาหารที่จีน ราคาพุ่งขึ้นอย่างเหลือเชื่อ เช่นเนื้อหมู ราคาขึ้น 70%  

    อินเดีย  อินโดนีเซีย  คนยากจนมากมาย  ที่อินโด คนจนกินข้าวคลุกเต้าหู้หมักพริก  ที่พม่าเด็กกำพร้าตัวเล็กๆกินข้าวสวยคลุกเม็ดถั่วเหลือง  แสดงว่า ถั่วเหลืองเป็นอาหารสำคัญของคนจน และกากถั่วเหลือก็เป็นอาหารสำคัญในการเลี้ยงสัตว์

    การพยายามใช้จ่ายภาครัฐ  ด้วยการสร้างสาธารณูปโภคที่ต้องใช้เงินมากๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  มันเป็นภาพมายา  เป็นการแสดงปาหี่ในยามที่เงินเป็นสิ่งจำเป็น  ไม่ได้ทำให้ประชาชนผู้ยากไร้ส่วนใหญ่มีชีวิตที่ดีขึ้น หรือแม้แต่จะอิ่มท้อง  



    กลับมาที่ประเทศไทยและตลาดหุ้นไทย    

    บัญชีเงินฝากยอดเงินเกิน 1 ล้านบาท มีเพียง 10000 บัญชีเท่านั้น  บัญชีที่เงินเกิน 1 ล้านจึงไม่ต้องคุ้มครอง

    อเมริกาและจีน เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย จีนนำเข้าสินค้าวัตถุดิบจากไทยแล้วผลิตส่งอเมริกา  หากกำลังบริโภคของอเมริกาลดลง ย่อมส่งผลกระทบ 2 ด้าน  EU ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ก็ได้รับผลกระทบจาก credit cresis ครั้งนี้อย่างหนักด้วย  ยังมีบรรดาประเทศเจ้าหนี้ทั้งหลาย เช่น ญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่  งานนี้ มีหนี้สูญแน่  

    ใครอยากลงทุนถือหุ้นและสินทรัพย์ในสกุลเงินที่กำลังลดค่า???  ดิฉันว่าขาดสติแน่ๆ  เพราะขาดทุนเห็นๆ  

    ยิ่งหากเงินบาทอ่อนลงไปถึง 40 บาท  ภายในไม่กี่เดือน ในช่วงที่น้ำมันกำลังขึ้นอย่างบ้าเลือด  เงินเฟ้อร่วมกับเงินฝืดจะมาเยือนประเทศไทย  เพราะเรานำเข้าน้ำมัน ไทยต้อง export สินค้าราคาถูกๆมากสักเท่าไร จึงจะสามารถ cover ค่าน้ำมัน

    ต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นไทย นอกจาก capital gain แล้ว ก็เพราะหวังเก็งกำไรค่าเงินบาทด้วย  ถ้าบาทไม่แข็งต่อ  แถมยังมีแนวโน้มว่าจะอ่อนลง  เขาจะขาย ..ทุกราคา  และรออย่างใจเย็น  จนกว่าค่าเงินจะเสถียร  วกกลับแข็งขึ้นมาใหม่

    และ BOTคงกระอักแน่ เพราะไม่รู้ว่าจะไปหา US$ ที่ไหนเพียงพอมาคืนให้เขา  (อาจจะต้องไปขอยืม IMF อีกครั้ง)  เพราะเขาขนเงินมาแลกซื้อบาทแค่ 3 แสน 6 หมื่นล้าน  แต่ตอนนี้พวกเขาถือหุ้นที่มีมูลค่าสูงกว่า 6 เท่า แถมหุ้นส่วนใหญ่ ยังหนักไปทางกลุ่มพลังงานน้ำมันและถ่านหิน  ซึ่งมี market cap 70% ของตลาด  ส่วนหุ้นตัวอื่นๆนั้น เห็นพยายามไล่แจกอยู่

    หุ้นนำตลาดกลุ่มพลังงาน  นอกจากจะไม่ได้บ่งบอกถึงสภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง  ยังจะออกมาตรงกันข้ามอีกด้วย  SET ขึ้นเพราะน้ำมันแพง  (ทั้งที่เราต้องไปซื้อมา)  แต่เศรษฐกิจจะยิ่งย่ำแย่  ผลประกอบการของบริษัทก็จะไม่ดี

    จากคุณ : JR_Handsome - [ 22 ก.ย. 50 11:17:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom