เดี๋ยวนี้เห็นบริษัทประกัน มักจะออกผลิตภัณฑ์ ที่ควบกันระหว่างประกันกับการออม ผมว่าทำให้ประเด็นเรื่องการประกันเพี้ยนไป ความสำคัญของการประกัน คือ เมื่อมีเหตุกับผู้ทำประกันแล้ว บริษัทประกันก็จ่ายสินไหมให้เพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อน มันคนละอย่างกับการออม ส่วนตัวผมจึงไม่เคยทำประกันลักษณะนี้เลย ขอให้พิจารณาแยกเป็นส่วนๆ ดังนี้ครับ
1 ถ้าผู้ทำประกันเป็นอะไรไป ผู้อยู่ข้างหลังเดือดร้อนหรือไม่ ถ้าเดือดร้อนควรทำ ถ้าไม่ก็ไม่ควรทำ ตัวอย่างเช่น ผู้ทำประกันมีทรัพย์สิน 50 ล้านบาท อย่างนี้ผู้อยู่ข้างหลังไม่เดือดร้อนไม่ควรทำครับ
2. การออม ถ้าคำนวณโดยใช้ Net Present Value ย้อนกลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน เท่าที่ผมเคยลองคำนวณ พบว่าผลตอบแทนไม่ถึง 2 เปอร์เซนต์ ในช่วงระยะเวลาที่นำเงินของเราไป 10 ปีหรือกว่านั้น
3 ลดภาษี ลดได้เท่าไหร่ แล้วต้องเอาเงินไปจมไว้ 5 ปี 10 ปี คิดว่าคุ้มหรือไม่ คิดผลตอบแทนแล้วคุ้มก็ทำ ไม่คุ้มก็ไม่ต้องทำ เพราะบางท่านได้ลดภาษี 30 เปอร์เซนต์
ส่วนการคืนก็ทำได้ครับ เขาเรียกว่า เวนคืนกรมธรรม์ แต่อาจจะไม่ได้ครบทั้ง 50000 บาทต้องอ่านสัญญาให้ละเอียดครับปกติจะมีกำหนดไว้
แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 19:04:38
แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 17:57:31
แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 17:56:04
แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 17:55:14