 |
ย้อนรอย ไดโดมอน กรุ๊ป วันนี้ยังมืดแปดด้าน โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"อีกนานแค่ไหนจะกลับมาเทรดได้อีกครั้งคงจะกำหนดวันเวลาแน่นอนไม่ได้ ระหว่างนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกายเพราะเราเบื่อห้องไอซียูเต็มทน"
ไดโดมอน กรุ๊ป เป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนดโดยกลุ่มทองแตงผู้ถือหุ้นใหญ่ยังไม่สามารถหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ได้ ทำให้อนาคตไดโดมอนยังมืดแปดด้าน
และวันนี้ยังมี "หนี้สินล้นพ้นตัว" โดยงบการเงิน ณ สิ้นปี 2551 ไดโดมอนมีผลขาดทุนสะสม 1,556 ล้านบาท โดยหุ้น DAIDO ถูกสั่งพักการซื้อขายมาแล้วกว่า 6 ปี
แม้ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นในเครือไดโดมอนจะแตกเป็น 4 แบรนด์ขายทั้งประเภทยากิ (ปิ้ง-ย่าง) และชาบู (ต้ม-ลวก) คือ ไดโดมอน, ยาสุกิ, อูมามิ และมิตะเกะ ซึ่งแต่ละแบรนด์มีรูปแบบของร้านที่แตกต่างกัน แต่จนถึงทุกวันนี้ไดโดมอนก็ยังไม่ฟื้นกลับมา
ตามแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทต้องเพิ่มทุนจาก 26 ล้านบาทเป็น 191 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 33 ล้านหุ้น หุ้นละ 4.21 บาท แต่การเพิ่มทุนไม่สำเร็จทำให้ต้องตีโอนสิทธิการเช่าเพื่อชำระหนี้ 111 ล้านบาทให้กับธนาคารธนชาต และธนาคารกรุงไทย ทำให้บริษัทเหลือกิจการเพียง 3 สาขา (จาก 16 สาขา) และมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2551 ลดจาก 156 ล้านบาท เหลือเพียง 94 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะต้องหาผู้ร่วมทุนครั้งที่ 2 ภายใน 180 วัน โดยบริษัทต้องเพิ่มทุน 33 ล้านหุ้น ลดราคาเหลือหุ้นละ 1.06 บาท และเพิ่มทุนครั้งที่ 3 เพื่อรองรับการแปลงหนี้เป็นทุนในอัตรา 5 บาท ต่อ 1 หุ้น ให้แก่เจ้าหนี้อีกกลุ่มซึ่งมียอดหนี้เงินต้น 297 ล้านบาท โดยให้ดำเนินการภายใน 60 วัน
ชนินทร์ เย็นสุดใจ ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.ไดโดมอน กรุ๊ป เปิดห้องบัญชาการอาคาร 1 ชั้น 5 โรงพยาบาลพญาไท เล่าให้กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟังว่า ความจริงเกือบได้ผู้ร่วมทุนรายใหม่แล้วมีการคุยกับนักลงทุนจากเกาหลี และนักลงทุนในไทยมาระยะหนึ่ง แต่เมื่อเกิดวิกฤติค่าเงินวอนตก 10-20% เขาก็โทรมาขอชะลอการลงทุนออกไปก่อน
ส่วนนักลงทุนในไทยเขามีเครือข่ายร้านอาหารหลายแห่ง แต่เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้ก่อน ส่งผลให้ต้องเข้าสู่แผนที่ 2 นั่นคือ การตีโอนสิทธิการเช่าเพื่อชำระหนี้ วิธีนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อธนาคารเจ้าหนี้มาก เพราะจะได้ค่าเช่าจากบริษัททุกเดือนเฉลี่ย 1,000-2,000 บาทต่อตารางเมตร
ชนินทร์ ซึ่งทนายวิชัย ทองแตง ส่งมาฟื้นฟูกิจการทำใจไว้แล้วว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้ คงหาผู้ร่วมทุนได้ยากจนกว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวจริงๆ หากบริษัทได้รับการฟื้นฟูอย่างถูกวิธีบริษัทนี้ยังมีอนาคต
"อยากบอกนักลงทุนที่ติดหุ้น DAIDO ว่าเราจะพยายามประคับประคองฐานะการเงินไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้ แต่จะพลิกจากขาดทุนมาเป็นกำไรสุทธิได้หรือไม่ ขอดูภาพชัดๆ ในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ก่อน หากสามารถตีทรัพย์ชำระหนี้ได้ครบถ้วนจะทำให้เราลดภาระค่าเสื่อมได้จำนวนมาก"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) ไดโดมอน กรุ๊ป บอกว่า ตอนนี้มีความคิดจะเปิดรับนักลงทุนรายย่อยที่สนใจทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นมาร่วมลงทุนกับบริษัทไม่เชิงเป็นแฟรนไชส์ เพราะบริษัทยังสามารถกำกับดูแลสาขานั้นๆ ได้ โดยนักลงทุนจะลงเงิน แต่บริษัทจะสนับสนุนทุกอย่างทั้งคน อุปกรณ์และโนว์ฮาว
ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 3-4 สาขา เริ่มที่สาขาหลักสี่เป็นแห่งแรก แต่ละสาขาจะลงทุน 4-5 ล้านบาทไม่สูง ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายสวนกลางได้จำนวนมาก และทำให้ฐานะการเงินของแต่ละสาขาดีขึ้นด้วย เรียกว่า Win-Win กันทั้งสองฝ่าย
"ผมมองว่าวิธีนี้ยอดเยี่ยมสุดแล้ว ปีนี้ก็ตั้งเป้าเบื้องต้นว่าจะเปิดสาขาร่วมกับนักลงทุนรายย่อยไม่ต่ำกว่า 5 สาขา มีคนสนใจร่วมธุรกิจกับเราค่อนข้างมาก แต่บริษัทมีกำลังคนค่อนข้างน้อยทำให้ขยายเร็วไม่ได้ จึงต้องค่อยๆ ทำไป เมื่อไรที่เศรษฐกิจดีขึ้น เราคงเดินหน้าเต็มที่"
คนสนิททนายวิชัย ทองแตง บอกว่า ธุรกิจร้านอาหารทุกวันนี้ยังแข่งขันกันดุเดือดไม่แพ้ธุรกิจอื่นๆ ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีโปรโมชั่นเรียกเงินลูกค้าก็มากขึ้น ปีก่อนธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นเหมือนสนามเลือด (เรดโอเชี่ยน) มีแบรนด์เปิดใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ ตั้งแต่ในโมเดิร์นเทรดไปจนถึงในโรงแรมหรู ซึ่งต้องยอมรับว่าอาหารญี่ปุ่นเป็นที่นิยมของคนไทย
"ตอนนี้เรามี 4 แบรนด์ ไดโดมอน, ยาสุกิ, อูมามิ ขายพวกซาชิมิ ซูชิ และดอนบูริ และมิตะเกะ จะเน้นอาหารประเภทปันยากิ สุกี้ญี่ปุ่น และชาบูต้นตำรับ เรายังขายซอสปรุงรสบรรจุขวด (Bottled Sauce) ทั้งปลีกและส่งด้วย"
อีกนานแค่ไหนที่ไดโดมอน กรุ๊ปจะมีโอกาสกลับมาเทรดในตลาดหุ้นอีกครั้ง ชนินทร์ ชี้ว่า จนกว่าบริษัทจะมีส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก (สิ้นปี 2551 ส่วนผู้ถือหุ้น -1,106 ล้านบาท) และมีกำไรสุทธิติดต่อกัน 3 ไตรมาส จะให้กำหนดวันเวลาแน่นอนคงตอบไม่ได้ ระหว่างนี้อยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกายเพราะเบื่อห้องไอซียูเต็มทน ถ้าการเพิ่มทุนและลดหนี้สำเร็จคงกลับมาซื้อขายได้ในเร็ววัน
เราสัญญาว่าจะต้องกลับมาด้วยภาพลักษณ์ใหม่ และจะไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง สิ่งหนึ่งที่อยากเรียนให้ทุกท่านทราบเราไม่ได้นิ่งนอนใจหรือปล่อยให้ธุรกิจนี้ตายไป ตระกูลทองแตงมุ่งมั่นในธุรกิจอาหารจริงๆ" มือขวาทนายวิชัย ทองแตง กล่าวปิดท้าย
จากคุณ |
:
สบายดีหรือเปล่า
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ต.ค. 53 22:17:49
|
|
|
|
 |