Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แฉ!!!! กลกลวง ตลาดเมเจอร์-รัชโยธิน  

ถ้าใครเคยไปเดินช้อปปิ้ง  หรือ ดูหนังที่เมเจอร์รัชโยธิน  จะเห็นว่ามีตลาดนัดเป็นล็อก ๆ  ขายของอยู่ข้างหน้าห้าง
ตลาดนัดนี่แหละคะ  ที่ดิฉันจะมาแฉให้ฟัง ถึงความเน่าเหม็น คละคลุ้ง  เอารัดเอาเปรียบ  กินนอกกินในกัน ว่าเมเจอร์ทำอย่างไร    ตลาดที่นี่ ส่วนใหญ่ คนภายนอกจะมองว่า ขายดี  เป็นตลาดคนรวย  หมายถึง เป็นตลาดนัดที่ของราคาค่อนข้างแพง  และคนขายก็มีฐานะดีเป็นส่วนใหญ่  เพราะเมเจอร์คิดค่าเช่า เท่าไหรร่รู้มั้ยคะ 20000/เดือน ค่ะ   ซึ่งจริงๆ แล้วดิฉันก็ไม่ใช่คนทำสัญญากับเมเจอร์หรอกค่ะ    เมเจอร์จะเอาเปรียบโดยระบุในสัญญาว่าห้ามปล่อยล็อกให้คนอื่น  ขายได้หรือไม่ได้ ก็ต้องขาย และมีเงินมาจ่ายค่าเช่า 20000/เดือนให้เมเจอร์  ซึ่งบางทีฝนตกบ้าง  ไฟดับบ้าง ก็จะไม่ได้ขายกัน  พ่อค้าแม่ค้าเค้าก็จะอยู่ไม่ได้กัน   ทีนี้พอคนที่ทำสัญญาแรกเริ่มอยู่ไม่ได้  แต่ก็ต้องจ่ายเงินให้เมเจอร์ทุกเดือน ๆ   เค้าก็เลยแอบปล่อยล็อกต่อคนให้อื่น  คนมาต่ออยู่ไม่ได้อีก  ก็ปล่อยล็อกต่อไปอีก   และก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย  ๆ  เรียกว่า การสวมล็อก   หรือ  เช่าช่วง  ไปเป็นทอด ๆๆ  ดิฉันก็ไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นช่วงที่เท่าไหร่  และในสัญญาระบุอะไรไว้บ้าง  และล็อกขายของที่เมเจอร์ส่วนใหญ่ หรือ เกือบทั้งหมด ก็เป็นเช่าช่วงต่อกันทั้งนั้น   เรื่องนี้ทางเมเจอร์เองก็รู้   แต่...  ถ้าใครเลีย  ใครประจบ  ใครมีใต้โต๊ะ  ก็รอด  
เรื่องมาเกิด(วันพฤหัส ที่ 19 พ.ย.52)  เพราะว่า  ขายไม่ดีนี่แหละ  บางวันได้ 1 ตัว 2 ตัว   เรียกว่าเข้าเนื้อ ยัง ไม่หลุดค่าจ้างเด็กต่อโครง   ค่าขนของ เลยคิดว่า  จะเซลของในร้าน โดยขายตัวละ 100 บาท ทั้งร้าน  โดยไม่สนต้นทุน  เรียกว่ากระเสือกกระสน ให้มีเงินจ่ายค่าที่ 20000  ก็พอ   ดิฉันก็ติดป้าย ว่า ลดทั้งร้าน 100 บาท    ตอนติดป้าย  พ่อค้าแม่ค้าด้วยกันก็เห็น  แต่เชื่อมั้ยคะ  ไม่มีใครบอกดิฉันเลย ว่าเค้ามีกฎห้ามติดป้ายลดราคา (อันนี้ดิฉันไม่รู้จริงๆ)  แถมบางคนยังมาคุยดีกับดิฉันอีก  โดยไม่บอกอะไรสักคำ   แต่...นู้นค่ะ   ไปบอกเจ้าหน้าที่เมเจอร์แทน    
ดิฉันติดป้าย ลดราคา  ก็เป็นธรรมดาที่ลูกค้าจะสนใจมากกว่าร้านอื่น   (เข้าใจว่าร้านอื่นคงไม่พอใจ   แต่ ของที่ขายไม่ซ้ำร้านใครนะคะ)  ติดป้ายและขายไปไม่ถึง 10 นาที  มีผู้ชายคนนึง มายืนหน้าร้าน ดิฉันเข้าใจว่าเป็นลูกค้า  ก็เรียกลูกค้าไป  ทีนี้ เขาก็พูดกับดิฉันว่า  น้องขายล็อกนี้หรอ   ก็ตอบว่าใช่  เป็นเจ้าของหรอ  ก็บอก ป่าว มาช่วยพี่สาวขาย   เค้าก็บอก       ”แสดงว่าเรา มาสวมล็อกใช่มั้ย เลยไม่รู้กฎว่า เค้าห้ามติดป้าย  เอาลงเดี๋ยวนี้เลยนะ”  ดิฉันก็หน้าเสีย  ตกใจ  ไม่เคยรู้มาก่อน ว่ามีกฎอย่างนี้  ก็ตอบว่า  ค่ะ  ค่ะ   แล้วถามไปว่า  เซลได้แต่ห้ามติดป้ายใช่มั้ย  เค้าบอก ใช่  ดิฉันก็กำลังจะเอาป้ายลง  เจ้าหน้าที่คนนั้น ก็ยังพูดไม่หยุด  เริ่มพูดเสียงดังขึ้นๆ  พูดอยู่แต่ว่า เนี่ยสวมล็อก ๆๆๆ ไม่รู้กฎๆๆๆ  แล้วยังมาโกหกอีก พอพูดมากเข้าๆ  แถมมาบอกว่าดิฉันโกหกอีก  ดิฉันก็เริ่มโมโห   เพราะตอนนั้นก็มีลูกค้าเต็มร้าน  ดิฉันคิดว่าพูดดี ๆ  ว่าเอาป้ายลงนะ  อะไรนะ ก็ว่าไป  แต่ไม่เลย  พูดไม่ดีเลย น้ำเสียงข่มขู่  ดิฉันก็บอกว่า ไม่ทราบ  ถ้าทราบก็คงไม่ทำ เพราะไม่ได้อยากมีปัญหา  ป้ายที่ทำมาก็เสียตังค์ด้วย   ดิฉันก็เริ่มเสียงดังใส่บ้าง  พอดิฉันเสียงดังใส่  เค้าก็ออกอาการไม่พอใจ  ดิฉันก็นอตหลุด ใส่เป็นชุดเลยทีนี้  บอกไปว่า  “จะเรียกว่าโกหกได้ยังไง  ก็คนไม่รู้  ไม่ต้องมาพูดหรอก ว่าโกหก “   ทีนี้ เค้าก็คงเริ่มอายคน เพราะดิฉันใส่เป็นชุด  คนมองเป็นตาเดียวเลย  และเถียงสู้ดิฉันไม่ได้   ก็ขู่ดิฉันว่า  ทำอย่างนี้มีสิทธิ์โดนตัดล็อกได้ (ตัดล็อก คือ  ตัดสิทธิ์ไม่ให้มาขายอีกแล้ว)  ซึ่งพวกพ่อค้าแม่ค้าจะกลัวกันมาก  เพราะหมายถึง การหมดช่องทางทำมาหากิน   แต่ดิฉันไม่กลัว  ไม่ใช่ว่าจะรวยนะคะ  แต่ศักดิ์ศรีมันมีมากกว่า  แค่คิดว่า พูดดี ๆ ก็ได้ ไม่ต้องมาข่มขู่กัน  ดิฉันเลยตอบไปว่า  “ก็ดี  เพราะยังไงก็ขายไม่ดีอยู่แล้ว”  เค้าก็หน้าชา  เพราะปกติ ถ้าบอกโดนตัดล็อกเนี่ย  เรื่องใหญ่นะคะ  แต่ดิฉันกลับไปตอบกลับเค้าแบบนั้น  เค้าเลยไม่พอใจ
แต่...ดิฉันก็เอาป้ายลงแต่โดยดี  และใช้ปากเรียกลูกค้าแทน  ไม่เท่าไหร่ ก็มีคนของเมเจอร์มาหาดิฉันอีก  คงเป็นลูกน้องคนเมื่อกี้  เอาใบอะไรมาให้ดิฉันเซ็นต์ บอกว่า จะตัดล็อกดิฉันแล้ว ให้เวลาเดือนนึง  ออกสิ้นเดือนธันวาคม  ดิฉันบอก ”ได้  ไม่มีปัญหา  ออกตอนนี้เลยก็ได้  แต่ถามหน่อย ความผิดอะไร”   เค้าบอก  “แค่พี่เช่าช่วงก็ผิดแล้ว  เค้ามีกฎห้ามเช่าช่วง”  ดิฉันเลยบอก  อ้าว งั้น ร้านอื่นก็ผิดด้วยสิ  เพราะก็เช่าช่วงกันมาทั้งนั้น   เค้าก็เปลี่ยนคำพูดใหม่  พี่ติดป้ายราคาเซล   ดิฉันบอก  “ก็เอาออกแล้วไง   แล้วจริงๆ  ก็ต้องมีใบเตือนมาล่วงหน้า  ถ้าทำผิดอะไรก็ต้องมีใบเตือนมาก่อน  เตือนครั้งที่ 1  ที่ 2 ที่ 3 ก็ว่าไป  นี่อยู่ ๆ บอกมีความผิด  ให้ออกเลยได้ไง”  แล้วดิฉัน ก็เอาใบที่จะให้ดิฉันเซ็นต์มาดู   ก็จริงๆ ด้วยค่ะ  หัวกระดาษพิมพ์ไว้ว่า  การแจ้งเตือนเรื่องการทำผิดในการ.....  แต่ข้อความนี้โดนขีดฆ่าออก   แล้วเขียนด้วยปากกาใหม่ว่า
แจ้งเรื่องการขอตัดล็อกพื้นที่ขาย   พออ่าน  ดิฉันก็  “อ้าว  ทำไมทำงี้ล่ะ   ไม่พอใจเป็นการส่วนตัว หรือป่าว งั้นพี่ไม่เซ็นต์  ให้คนเมื่อกี้มาคุยกับพี่เอง  จะตัดก็ตัดได้  แต่ให้มีเหตุผลหน่อย  อย่ามาทำเป็นเด็ก ๆ  อย่ามาตลก”  น้องเจ้าหน้าที่ก็บอก  “งั้นพี่ไปคุยที่โต๊ะนะ  ผมมาใหม่ เค้าให้มาแทน ไม่ค่อยรู้เรื่อง”  ดิฉันก็เลยบอกว่า “มีอะไรมาคุยที่นี่สิ  พี่ต้องขายของนะ”   จากนั้นน้องเค้าก็เดินไป
พอสักทุ่มครึ่ง น้องเจ้าหน้าที่คนเดิม ก็เดินมาอีก  แต่เข้าร้านไม่ได้  เพราะลูกค้าเต็มร้าน  ก็บอกดิฉันว่า “พี่จะมาขายเซลอย่างนี้ไม่ได้  ร้านอื่นเค้าไม่ได้ขายเลย  ใครๆ เค้าก็รู้กัน”  ดิฉันก็นึกในใจว่า  แล้วทำไมตอนแรกมันบอกกูว่าเซลได้ แต่ห้ามติดป้ายราคาวะ กูเอาป้ายออกแล้ว  มันยังรังควาญกูไม่เลิกอีก    แต่ไม่ได้พูดนะคะ   ดิฉันพูดว่า “แล้วเวลาพี่ไม่เปิดบิลเลย  มีใครมาสนใจบ้างมั้ยล่ะ   แล้วทีร้านนี้เซล (ร้านข้าง ๆดิฉัน)  ทำไมไม่มีปัญหา”  ไม่เปิดบิล หมายถึง  ขายไม่ได้สักตัวค่ะ    น้องเค้าก็พูดว่า  “ผมให้พี่วันสุดท้าย  พรุ่งนี้พี่ไม่ต้องมาแล้ว  แล้วเดี๋ยวผมมาใหม่” ดิฉันก็นึกในใจเป็นรอบที่ 2 ว่า  อะไรวะ  เมื่อกี้มันบอกให้กูออกสิ้นเดือนธันวาคม  พอตอนนี้ให้ออกวันนี้เลย  แต่ไม่อยากมากความ เพราะจะขายของ  ลูกค้าเต็มร้านเลย  เลยตัดรำคาญไปว่า  ได้ ได้     นี่แหละค่ะ เรื่องจริงที่เมเจอร์ทำกับดิฉัน   ดิฉันได้แต่งงว่า  แล้วตกลงระเบียบมันคืออะไรกันแน่  ตกลงดิฉันทำผิดอะไรกันแน่ ถึงโดนให้ออกเลย   ก็คิดได้อย่างเดียวว่า  
1. พ่อค้าแม่ค้า ร้านข้างๆ ไม่พอใจดิฉันที่ขายถูก และขายดี (ทั้งๆ ที่ของคนละแนวกันเลย  ประมาณหมั่นไส้ อิจฉา)  เลยไปฟ้องเมเจอร์   (แต่ต่อหน้าดิฉัน มาพูดดีมาก ๆๆ)  แต่เมเจอร์ก็ทำอะไรดิฉันไม่ได้ พอพูดอะไรมา ดิฉันย้อนไป ก็หาเหตุผลมาตอบดิฉันไม่ได้สักข้อ  
2. ผู้ชายที่เดินมาตอนแรก  ไม่พอใจที่ดิฉัน “ไม่เลีย”      ก็อย่างที่บอกไงคะ  การขู่ว่าจะตัดล็อกนี่ร้ายแรง  พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ แม้จะรู้ว่าโดนเอาเปรียบเรื่องค่าที่บ้างอะไรบ้าง  ก็ไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเมเจอร์  เรียกว่า ต้องเลีย  ต้องประจบเข้าไว้  เพราะกลัวโดนเจ้าหน้าที่ไม่พอใจ  แล้วหาเรื่อง ตัดล็อก แบบกรณีดิฉัน
ดิฉัน ลืมบอกไปว่า  ค่าที่ที่เมเจอร์จะจ่ายก่อนต้นเดือน แล้วค่อยขาย หมายความว่า ต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ดิฉันจ่ายไปแล้ว 20000  ยังขายได้แค่ครึ่งเดือน  เมเจอร์ ไม่รู้ใช้กฎข้อไหน มาให้ดิฉันออกเลย  โดยยังเหลืออีกตั้งครึ่งเดือน  อยากจะถามผู้รู้เหมือนกันว่า   ดิฉันร้องเรียนกับ สคบ. ได้มั้ยคะ
ดิฉันเอาเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง เพราะว่า  คนที่คิดอยากจะมีร้าน จะเปิดร้านเป็นของตัวเองมีเยอะ  ก็ต้องดูให้ดี  คิดให้ดีก่อนนะคะ   คนเอารัดเอาเปรียบมากมายเหลือเกินค่ะ  อาศัยช่องทางทำมาหากินของคนอื่น มาเอาประโยชน์ใส่ตัว  ไม่มีกฎระเบียบชัดเจน  ใช้ความรู้สึกตัดสิน   ซึ่งมันไม่ถูก
แต่...ดิฉันจะไม่ยอมแพ้แค่นี้นะคะ  อะไรที่ไม่ยุติธรรมไม่ถูกต้อง ก็ต้องว่าไปตามกฎระเบียบ ซึ่งต้องปฏิบัติให้เหมือนกัน ไม่ใช่เลือกปฏิบัติตามความรู้สึกส่วนบุคคล  ก้าวต่อไปดิฉันจะไปปรึกษาที่ สคบ. ค่ะ  ว่ามีหนทางที่จะเอาผิดทางเมเจอร์ได้หรือไม่  อย่างนี้เรียกว่าเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่

จากคุณ : bacillus sp.
เขียนเมื่อ : 28 พ.ย. 52 16:04:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com