ความคิดเห็นที่ 1 ก็ว่ากันไป... จากคุณ : ple-ck. เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:20:30

ความคิดเห็นที่ 2 ก็เห็นมีแต่ต่อว่าผู้หญิงนี่ครับ อะไรๆ ก็โทษผู้หญิง ไม่เห็นจะไปโทษผู้ชาย ที่เป็น สาเหตุของความไม่บริสุทธิ์นั่นเลย สิ่งสำคัญคือความไม่เท่าเทียมกันของหญิงชาย ในสังคมต่างหาก ทำไมผู้หญิงจะต้องเป็นคนรับผิดไปเต็มๆ ด้วย ไม่มีใครว่าสักคน ว่าเรื่อง "รักนวลสงวนตัว" เป็นเรื่องไม่ดี แต่มาโทษผู้หญิงมันมาที่ปลายเหตุแล้ว กระทู้ก่อนมีความคิดเห็นไหนบ้างที่จะพูดว่า เอ้อ สาเหตุมันอยู่ที่ไหนจะแก้ไขอย่างไร กันดี คนโพสต์ความคิดเห็นอีกด้านเขาไม่เห็นด้วยที่ไปมีอคติต่อน้องผู้หญิง จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:25:56

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วเราสามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดได้ไหมล่ะครับ?? หรือใครจะตรัสรู้ได้ว่าอนาคตจะลงเอยกันอย่างไร?? เด็กหรือวัยรุ่น ก็คิดอีกอย่าง...คนโตก็คิดอีกอย่าง...คนแก่ก็คิดอีกอย่าง ถ้าคุณตั้งแง่แบบนี้และไม่พยายามเข้าใจ...ชาตินี้คุณก้ปัญหานี้ไม่ได้หรอกครับ.. จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:26:58

ความคิดเห็นที่ 4 ผู้ชายที่มั่วเราก็ไม่เข้าข้างนะ ไม่ชอบเลยด้วยคนพวกนี้น่ะ ถ้าคนพวกนั้นมาร้องหาความบริสุทธิ์เราคนนึงล่ะ ที่จะช่วยถล่มยํ่าให้จมดิน แต่ กระทู้นั้น มีความเห็นที่ออกมายืนยันว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่โพสว่าตัวเองเป็นคนนึงที่ไม่ใช่พฤติกรรมอย่างว่า แต่กลับโดนเหน็บว่า ไม่มีเงินไม่มีโอกาสเองแล้วมาทำคุยเท่ . . . แบบนี้มันก็ไม่ไหวอะนะ อย่างนี้เค้าเรียกเหน็บแนมโทษแต่ผู้ชายด้วยเหมือนกันรึเปล่าล่ะ . . . จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:30:27 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 5 อีกประเด็นการเอาเรื่องความรัก เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสองคน มาเป็น เกณฑ์ตัดสินความดีงามของคน มันเป็นเรื่องผิวเผินมองแต่เปลือกนอกเกินไป แบบอย่างในสังคมอะไรกัน? คู่ที่แต่งงานกันถูกต้องทุกอย่าง แล้วมีแต่ความหลอกลวงความไม่จริงใจแก่กัน ฝ่ายหญิงต้องทนทุกข์กับความเจ้าชู้ของฝ่ายชาย นี่น่ะหรือแบบอย่างในสังคม จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:31:00

ความคิดเห็นที่ 6 เออเราไม่ได้มีปัญหาอะไรเรื่องนี้นะ คุณพิงค์วู เราเข้าใจว่าอะไรมันพลาดไปแล้วมันย้อนเวลาไม่ได้ แต่ก็อย่ามาพยายามชี้นำสังคมให้ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดากันเลย . . . เท่าที่อ่านดูเราว่าคนที่เหน็บแนมว่า จขกท. กระทู้นั้นน่ะ ตัวเองพลาดพลังกันแล้วทั้งนั้น แล้วมารวมพลังกันกลับดำเป็นขาวแบบนั้นมันก็ไม่ไหวนะ เราไม่ใช่ร่างอวตาล ของใครสักคนในกระทู้นั้นนะ -*- จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:35:19 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 7 คู่ที่แต่งงานกันถูกต้องทุกอย่าง แล้วมีแต่ความหลอกลวงความไม่จริงใจแก่กัน ฝ่ายหญิงต้องทนทุกข์กับความเจ้าชู้ของฝ่ายชาย นี่น่ะหรือแบบอย่างในสังคม จากคุณ : FireFox_GT เราเคยบอกยังงั้นตรงไหนหรอ . . . แบบนั้นมันก็เลวร้ายนี่นา จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:37:19 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ได้เข้าข้างการชิงสุกก่อนห่าม หรืออะไรนะคะ แต่คห.2-3 ได้ให้คำอธิบายที่ดีทีเดียวในความคิดเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นความคิดเห็นที่ให้เกียรติผู้หญิง จากคุณ : ตามใจ อะไรก็ได้_แต่ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:38:11

ความคิดเห็นที่ 9 ใน คคห ที่ 56 ของกระทู้ก่อนการไม่เที่ยวสำส่อน ไม่เที่ยวหญิง เพราะเห็น ว่าเป็นเรื่องไม่ดีงาม เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญครับ แต่ถ้าด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่มีโอกาส ไม่มีเงิน และกลัวติดโรค มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะคิดในมุมกลับได้ว่า ถ้ามีโอกาส มีเงิน และไม่มีโรคล่ะ จะทำหรือเปล่า? จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:38:12

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ FireFox_GTC คุณกำลังป้ายสีและดูถูกคนคนนั้นมากเลยนะถ้าคิดยังงั้น ขอเทียบแบบนี้ คนจนบางคนอ้างว่าจนถึงปล้นลักทรัพย์ แล้วคนจนทุกคนรึเปล่าที่ทำตัวแบบนั้น? จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:40:22 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 11 กระทู้นั้นไม่มีใครบอกว่าเรื่องที่ทำ หรือสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เป็นสิ่งที่ดีหรืออย่างไร แต่มันต้องอยู่ในสภาวะใจจำยอมแล้วครับ แต่ละคนก็ต้องทนลำบากอยู่กับสภาวะที่ เป็นอยู่ทั้งสิ้น ความเศร้าใจมันมีในจิตสำนึกของผู้หญิงแต่ละคนที่ผ่านประสบการณ์ เหล่านั้นมาทั้งสิ้น แต่แทนที่จะได้โอกาสในการที่จะมีความรักได้อีกครั้ง กลับต้อง ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม จากคนที่แล้งน้ำใจ เหมือนหนีเสือปะจระเข้ มันสมควรแล้วหรือ ความเมตตาในสังคมนี้มันอยู่ที่ไหน? จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:43:56

ความคิดเห็นที่ 12 จขกท รู้หรือยัง หมดยุคกราบเท้าสามีก่อนนอนแล้ว เห็นตั้งคำถามเหมือนหลงยุค จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:45:29

ความคิดเห็นที่ 13 #10 การเปรียบเทียบแบบนั้นไม่ถูกต้องเลยครับ การเปรียบเทียบระหว่าง การลักทรัพย์ตามตรรกะในข้อ 9 คือ การไม่ปล้นลักทรัพย์เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เป็นสิ่งไม่ดี ย่อมเป็นเรื่องที่น่าสรรเสริญ แต่ถ้าด้วยเหตุผลที่ว่า เพราะยังไม่มีโอกาส กลัวติดคุก และไม่มียานพาหนะที่รวดเร็วพอในการหลบหนี ย่อมเป็นสิ่งที่ฟังไม่ขึ้น จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:47:52

ความคิดเห็นที่ 14 สังคมบ้านเรามีความเมตตาแน่นอนอยุ่แล้ว เราเชื่อว่าไม่มีใครดูถูกหรือด่าทอ ผู้หญิงเหล่านั้นเสียๆหายๆ หรือขับไล่ออกจากสังคมหรอกนะ แต่บางเรื่องความเมตตาก็ควรแสดงอย่างถูกที่ถูกเวลา ถ้ามีข่าวบ่อยๆว่าแม่จนที่ขโมยนมให้ลูกโดนจับแล้วปล่อยๆๆๆๆ มีทุกวันปล่อยทุกวัน วันนึงมันจะเป็นค่านิยมให้ใครๆก็คิด เออสังคมนี้ถ้าเราจนน่าสงสารทำผิดโดนจับเค้าก็ปล่อยแฮะไม่ค้องกลัวๆ เราเทียบกะอันนี้เพราะเราว่าตรงมาก ถ้าเด็กๆคิดว่ามั่วไปเลยยอมๆไปเถอะไม่ต้องใจแข็งกันหลอก ยังไงสังคมก็ต้องให้อภัย ใครกล้ามาต่อว่าจะมีคนช่วยรุมด่าจนพวกนั้นจมดินไปเอง . . . แบบนั้นจะดีจริงๆ หรอ จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:49:21 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ ขี้เหงา...เอาแต่ใจ อันนั้นเรารู้แล้วล่ะ แต่คุณน่ะหลงคิดว่ายุคนี้คือยุคไร้ยางอายไม่ต้องรักนวลสงวนตัวกันแล้วสินะ . . . จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:51:59 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 16 เสริมเพิ่มเติมใน #10 เรื่องฐานะของบุคคลใด บุคคลหนึ่ง ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องว่าเขาจะลักทรัพย์ หรือไม่ เพราะคนรวย คนจน ก็ลักทรัพย์ได้ เช่นเดียวกันกับ การไปเที่ยวสำส่อนหรือ เที่ยวผู้หญิง ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฐานะเช่นเดียวกัน คนที่ไปเที่ยวก็มีทุกระดับฐานะ จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:53:23

ความคิดเห็นที่ 17 ก็นั่นนะสิคุณ FireFox_GTC ถ้ายังงั้นก็อธิบายได้เหมือนกันว่าข้อแย้งที่คุณว่า ไม่มีเงินไม่มีโอกาสน่ะตกไป กลัวโรคก็ล้วนมีทางป้องกันถ้าระวังตัวกันจริงๆ แล้วทำไมคุณยังตั้งแง่กะ ความเห็นนั้นอยู่ล่ะ คห. นั้นชื่ออะไรเราก็จำไม่ได้แล้ว -*- จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:55:34 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 18 #14 คุณ Beato โยงเรื่องความสัมพันธ์ของบุคคลสองคนที่บรรลุนิติภาวะแล้ว (อายุ 21 และ 22 อ้างอิงจากกระทู้ก่อน) ที่ไม่ใช่อาชญากรรม ไม่ผิดกฎหมาย แต่อย่างใด เข้ากับเรื่องของการลักทรัพย์ที่เป็นอาชญากรรม ผิดกฎหมาย ย่อม ไม่ถูกต้องครับ จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:57:36

ความคิดเห็นที่ 19 เราเองก็ไม่ได้ซิงอะไรมาจากไหนหรอกค่ะ แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยเลยที่บอกว่าเพราะ ช เป็นเหตุให้ ญ ไม่บริสุทธิ์ ตอนเรามีอะไรกับแฟนเรา  เราก็เต็มใจเองค่ะ  ไม่ได้โดนข่มขืนใดๆทั้งสิ้น  ยินยอมพร้อมใจกันทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าถามว่าเราไม่บริสุทธิ์เพราะอะไร  ก็ขอตอบตรงๆค่ะ  ว่าเราเลือกที่จะใช้ชีวิตทางนี้เอง ชิงสุกก่อนห่าม  ไม่รักนวลสงวนตัว  หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่เค้าจะเรียกกัน  เรายอมรับได้ค่ะ ที่พิมพ์มาถ้ามีเยาวชนมาอ่านก็อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะค๊ะ ตัวเราโชคดี ช คนแรกกับ ช คนสุดท้ายเป็นคนคนเดียวกัน  แต่ใช่ว่า ญ คนอื่นจะโชคดีแบบนี้ บางคนท้องไม่มีพ่อ  บางคนติดเอดส์  ตัวอย่างก็มีให้เห็นเยอะแยะไปค่ะ ยังไงซะ ช ที่ยังไม่ได้แต่งงานกับเรา  มันยากค่ะที่เค้าจะรับผิดชอบชีวิตเราได้  ยากที่เค้าจะหยุดที่เราคนเดียว เพราะงี้แหละค่ะ  โบราณเค้าถึงสอนให้ ญ รักนวลสงวนตัว  เพราะปัญหาทุกอย่างมันตกไว้ที่ฝ่าย ญ คนเดียว เยื่อพรหมจรรย์มันเหมือนเป็นสัญลักษณ์ให้ ญ รักษาไว้ให้ได้ คำสอนของคนโบราณ  มักต้องเอาอะไรซักอย่างมาเป็นสิ่งให้คนยึดถือไว้เสมอ   จริงๆแก่นแท้ก็เพื่อให้ ญ ป้องกันตัวเองน่ะค่ะ เราก็ยังชื่นชม ญ ที่รักนวลสงวนตัวนะค๊ะ  รู้สึกว่าเค้ารู้จักคิด  เค้าหักห้ามใจในสิ่งที่ธรรมชาติเรียกร้องได้ แต่เราก็ไม่เคยว่าคนที่ชิงสุกก่อนห่ามแบบเรา  มันเหมือนกับว่า  มันชีวิตเค้า  เรื่องของเค้า   ขอแค่เค้าป้องกันไม่ให้ท้องทั้งๆที่ไม่พร้อม  เพื่อไม่ให้มีเด็กกำพร้าเป็นปัญหาสังคมต่อไป  แค่นี้ก็ดีแล้วค่ะ จากคุณ : เกล็ดขนมปัง เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:57:40

ความคิดเห็นที่ 20 #17 ความคิดเห็นไหน ผมก็จำไม่ได้แล้วครับ เพราะเยอะไปหมด แต่ใน คคห 56 ก็ไม่ได้บอกว่าโยงถึงความคิดเห็นไหนนี่ครับ?? จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 23:59:24

ความคิดเห็นที่ 21 แล้วมันผิดมากเลยหรอ ถ้าผู้หญิงที่ผ่านมาแล้วคนนึง จะได้แต่งงาน จะได้มีชีวิตครอบครัวอย่างที่เธอฝันหาซะที หลังจากได้ผ่านเรื่องเลวร้ายมา จะต้องไปตอกย้ำเค้าทำไม คนจะแต่งงานกัน ก้อเปนเรื่องน่ายินดีไม่ใช่หรอ คนจะรักกัน เค้าไม่ได้รักกันที่ซิงไม่ซิงหรอกนะ จากคุณ : ลูกแพร์ติงต๊อง เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:00:19

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ FireFox เอาเป็นว่าเรายกตัวอย่างผิดไม่อยากต่อประเด็นนั้นยาวมันนอกเป็นเด็น คุณถูก กรณีเาียความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงานไม่ผิดกฏหมาย แต่ผิดหลักศิลธรรม ขนบธรรมเนียมประเภณีอันดีงาม ซึ่งไม่ควรจะเป็นแบบอย่างของเยาวชน และไม่สมควรเห็นดีเห็นงามปกป้องกันจนออกนอกหน้าในเว็บบอดสาธารณะเช่นนี้ จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:01:35 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 23 จขกท  เป็นไรมากป่าวครับ จากคุณ : rabellu เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:03:56

ความคิดเห็นที่ 24 คุณลูกแพร มันไม่ผิดมากหรอกแต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกที่ควร เราก็ไม่ได้ต้องการตอกยํ้าเรื่องของ จขกท. อันนั้น ถ้ากระทู้นั้นส่วนใหญ่ให้ความเห็นแนวปลอบใจให้มองแต่แง่ดีใจเย็นๆ ค่อยคุยกับ จขกท. ด้วยเหตุด้วยผลมันอาจจะดีกว่านี้ไม่ใช่หรอ แต่นี่ กว่าร้อยความเห็นระดมด่า จขกท. ยับเยิน . . . เหมือนช่วยกันให้ท้ายรุม จขกท. จนเราอดสงสารไม่ได้ เฮ้อ จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:04:33 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 25 #19 ที่บอกว่าผู้ชายเป็นสาเหตุก็เพราะ โดยทั่วไปผู้ชายเป็นฝ่ายเริ่มกระตุ้นฝ่ายหญิง ก่อนครับ (แต่อาจจะกลับกันก็ได้นะ - คิดว่าเป็นส่วนน้อยมั้งครับ) ดังนั้นถ้าจะว่า หรือ จะตำหนิ ก็ต้องพูดถึงผู้ชายด้วย ต้องพูดถึงความไม่เป็นธรรม ที่ผู้ชายไปเที่ยวหญิง ได้นับไม่ถ้วนแต่ยังยิ้มระรื่นได้อย่างสบาย แต่ผู้หญิงพลาดกับผู้ชายคนเดียวกลับต้อง ถูกประณามชั่วชีวิต มันยุติธรรมแล้วหรือ จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:05:04

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ rabellu คำถามด้อยคุณภาพแบบนั้นเราคงไม่จำเป็นต้องตอบสินะ . . . จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:06:10 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 27 อ่อ มันมีเหตุก่อนหน้านี่เอง ไม่ได้ติดตามอ่ะค่ะ จากคุณ : ลูกแพร์ติงต๊อง เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:06:58

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ FireFox ทำไมคุณคิดว่าผู้ชายชั่วๆแบบนั้นไม่เคยโดนประณาม? จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:07:47 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 29 #22 ถ้าเยาวชนมาอ่านก็จะเห็นว่า พี่ๆ น้าๆ ต้องระทมทุกข์กันแค่ไหน อย่างของผม แต่งงานก็ไม่ได้แต่ง อยู่กับแม่น้องเมก็ไม่ได้ บอกใครในชีวิตจริงก็ไม่ได้ แค่นี้ยัง ทุกข์ไม่พออีกหรือครับ คนอื่นๆ ก็เศร้าเสียใจกันทั้งนั้นที่ไม่อาจเป็นคนแรกให้คนรัก ที่แท้จริงได้ แม้กระทั่งแม่น้องเม แล้วใยต้องซ้ำเติมกันอีก ด้วยคำว่า ใจง่าย คำว่า สำส่อน? จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:08:38

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ค่อยเกี่ยวกับประเด็นกระทู้ แต่อยากแสดงความคิดเห็นนิดนึง เรื่อง ช ที่อยากได้เจ้าสาวบริสุทธิ์เนี่ย ส่วนหนึ่งมันก็มาจากการปลูกฝังค่านิยมโดย ญ นั่นแหละ ไม่ต้องไปโทษใคร อย่างเพื่อนผมมันบอกถ้าจะเลือกเลือกเจ้าสาวคงเลือกคนที่บริสุทธิ์เพราะเกรงใจแม่ ถ้าจะให้แฟร์ๆ เวลาคนเป็นแม่จะสอนลูกชายให้เลือกคนที่จะมาแต่งงานด้วย ก็บอกไปเลยสิครับว่าให้ดูที่นิสัยใจคอว่าเข้ากันได้หรือไม่ ส่วนเรื่องความบริสุทธิ์ไว้เป็นเรื่องรอง จะได้ไม่ต้องทำตัวเป็นเกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ถ้าชั้นไม่บริสุทธิ์ไม่ห็นเป็นไร แต่ลูกชายชั้นต้องแต่งงานกับคนบริสุทธิ์เท่านั้น แบบนี้ จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:10:45

ความคิดเห็นที่ 31 อ่อ คุณ FireFox คือขาประจำเรื่องแม่น้องเมย์นี่เอง เราชื่นชมคุณนะ ติดตามเรื่องของคุณมานานมาก เราไม่ได้มีเจตนาจะมีเรื่องกับคุณเลย ขออภัยด้วยที่เราขอรักษาจุดยืนที่เห็นแย้งกับคุณในรายละเอียดปลีกย่อยนิดหน่อย เราไม่ได้ต้องการให้สังคมประณามผู้หญิงที่เคยพลาดพลั้ง เราเข้าใจ . . . แค่ไม่อยากให้ช่วยกันปกป้องจนทำให้สมดุลของสังคมเสียไปยิ่งกว่าเดิม จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:11:58 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 32 #28 กระทู้ก่อนเห็นได้ชัดว่าเน้นไปที่น้องผู้หญิงแทบทั้งนั้นเลย (ในส่วนที่ตำหนิด่าว่า) ครับ จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:13:03

ความคิดเห็นที่ 33 อ้าว แล้วผู้ชายบริสุทธิ์ด้วยหรือเปล่า ถ้าผู้ชายไม่บริสุทธิ์แสดงว่าคุณก็ต้องเคยไปทำลายความบริสุทธิ์ผู้หญิงมา แล้วจะหาสาวบริสุทธิ์จากไหนละคะ จากคุณ : น้ำชายามเย็น เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:14:03

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องในมุ้ง เจ้าบ่าวเขายินยอม  ผมไม่กล้าเข้าไปสอด จากคุณ : <<First>> เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:15:21

ความคิดเห็นที่ 35 คุณนํ้าชายามเย็น เราก็เห็นด้วยกับที่คุณว่าเต็มๆเหมือนกันนะ จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:15:55 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 36 #31 ลองกลับไปอ่านดู ดูเหมือน คคห อันที่ผมไปติงเข้า จะคุ้นๆ ว่าเป็นชื่อที่ต้องมาคู่ กับคุณ Beato อยู่แล้วหรือไม่ ก็ต้องขออภัยด้วยครับ เพราะอ่านแต่เนื้อความแล้วตอบ ไม่ได้ดูชื่อผู้โพสต์ คคห ส่วนตัวคิดว่าสมดุลคงไม่เสียหรอกครับ เพราะในโลกข้างนอก มีคนไม่มากที่จะยอมรับ ในหลายๆ เรื่อง ที่โพสต์กันอยู่นี้ได้ อย่างที่แม่น้องเมเคยบอกว่าจะหาคนที่คิดอย่างผม แล้วยังมารักเธอ คงมีน้อยมากๆ จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:21:21

ความคิดเห็นที่ 37 ....เที่ยวไปว่าคนที่เห็นต่างแต่กลับอวยพวกเดียวกันที่ใจแตกทำตัวเป็นแบบอย่างไม่ดีต่อสังคม .....ตัวเองทำตัวไม่ดีใจแตกเลยเป็นปมในใจอยากเหน็บแนมคนที่เค้ามีค่านิยมที่ดีงามกันใช่ไหม . .     ต่างคนต่างความคิด ตัวคุณเองก็กำลังว่าคนที่เค้าคิดต่างจากคุณ แล้วยังไปว่าเค้าใจแตกอีก บางความคิดเห็นที่คุณได้อ่านไป มันอาจเป็นแค่ความคิดของคนๆ นึง เค้าอาจจะไม่ได้ใจแตกอย่างที่คุณเข้าใจ แต่มองเห็นความจริงที่เป็นไปในสังคมปัจจุบันนี้มากกว่า จากคุณ : jazz_swn เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:36:09

ความคิดเห็นที่ 38 ไปเจอลิ้งกระทู้ก่อนหน้านั้นที่เว็บ ชอบดูคนตีกันแห่งนึง . . . คาดว่าหลายควาามเห็นที่เข้ามารุมประณาม จขกท. อาจเป็นคนจากที่นั่นรึเปล่านะ . . . เพราะแต่ละความเห็นที่บอดนั้นแรงๆทั้งนั้นเลย -*- ไปทางเดียวกันหมด อยากน้อยก็ทำให้ใจชื้นหน่อยว่าพันทิพยังพอมีคนใจเป็นธรรมไม่สุดโต่งอยู่จำนวนนึง จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:37:25 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 39 คุณ Jazz บางข้อความของเราอาจดูแรงต้องขออภัยด้วย เราต้องการสื่อประเด็นออกมาอย่างชัดเจนไม่อ้อมค้อมไม่ได้มีเจตนาดูถูกเหยียดหยามผู้พลาดพลั้ง . . . ถ้าหากความจริงในปัจจุบันเป็นเช่นที่คุณว่า พวกเราควรยอมรับความจริงโดยไม่พยามต่อสู้ชักนำสังคมกลับสู่วิถีทางแห่งความดีงามเช่นนั้นหรือ? จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:41:21 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 40 เราเป็นคนนึงที่ไปต่อว่าเจ้าของกระทู้นั้น (ต่อว่าฝ่ายชายน่ะนะ) แต่เราไม่ใช่พวกใจแตกมาเหน็บคนอื่นนะคุณ เรายังบริสุทธิ์อยู่ คือส่วนตัวเรามองว่า ค่านิยมเรื่องผู้หญิงที่ดีควรจะรักนวลสงวนตัว กับผู้หญิงที่ดีควรจะบริสุทธิ์เนี่ยมันไม่เหมือนกันนะ บริสุทธิ์คือไม่เคยให้ใครเลยใช่ปะ  ถ้าเกิดผู้หญิงให้คนรักไปแล้ว แต่เธอมีคนรักคนเดียว ไม่สำส่อน เราก็ว่าเธอรักนวลสงวนตัวพอสมควรกับยุคสมัยนะคะ ไม่งั้นพวกแม่หม้ายจะทำไงอะ เราไม่ชอบค่านิยมนี้เลยนะ มันเป็นค่านิยมของผู้ชายเห็นแก่ตัว เราว่าถ้าจะนับจริงๆ งั้นขอผู้ชายบริสุทธิ์ด้วยได้มั้ย อย่าตอบนะว่าไม่ได้ ธรรมชาติของผู้ชายต้องระบาย  เราไม่เชื่อหรอก รู้มั้ย เราทำใจกล้าถามพ่อไปว่า แม่ไม่ใช่คนแรกของพ่อใช่มั้ย  พ่อบอกว่า แม่เป็นคนแรก และครั้งแรกในคืนส่งตัว ทีแรกเราอึ้ง เฮ้ย พ่อแม่เราซิงจนวันส่งตัว  สุดยอด ก็เลยแกล้งถามซ้ำอีกว่า พ่อไม่เคยเที่ยวเลยจริงอะ พ่อเราหันมาตอบนิ่งมาก "ของแบบนี้มันอยู่ที่ความยับยั้งชั่งใจ" ชัดมั้ยคะคุณผู้ชาย  มันอยู่ที่ความยับยั้งชั่งใจนะ  ดังนั้นอย่ามาพูดว่าผู้ชายโดยธรรมชาติต้องปลดปล่อย  อย่าได้เที่ยวไปว่าผู้หญิงเขาปล่อยตัวง่าย ถ้าตัวเองยังทำไม่ได้ สำหรับค่านิยมของสังคม เราต้องยอมรับว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว เดี๋ยวนี้อยู่ก่อนแต่งกันบ่อย ถ้าเขาอยู่กันไม่ได้แล้วเลิกรากันไป จะไปโทษว่าเพราะหญิงไม่รักนวลสงวนตัวมันไม่ได้หรอก เกิดแต่งก่อนไม่ยิ่งถูกตราหน้าว่าเป็นแม่หม้ายเหรอ จะโทษต้องโทษทั้งสองฝ่าย ถ้าเอาตัวเราเป็นหลักเลย ต้องบริสุทธิ์ ต้องรักนวลสวงนตัว ทั้งสองฝ่ายด้วยนะ ซึ่งมันจะมีมั้ยละคู่แบบพ่อ-แม่เราน่ะ เราเปลี่ยนโลกไม่ได้ แต่เปลี่ยนมุมมองตัวเองได้ มองให้บวกไว้ อย่าไปซีเรียสกับมันมากค่ะ  เรื่องสอนผู้หญิงให้รักนวลสงวนตัวแบบที่คุณว่ามันก็ถูก แม่เราก็สอนเรามาแบบนั้น แต่แม่เราก็สอนด้วยว่า เพื่อนเราที่มีอะไรกับผู้ชายก่อนแต่งก็ไม่ผิด ค่านิยมสังคมมันเปลี่ยนไป มันเริ่มยอมรับเรื่องพวกนี้ได้แล้ว ถึงตัวเราเองไม่ยอมรับ ก็จงเก็บความไม่ยอมรับนั้นไว้เตือนใจตัวเองไม่ให้ทำ แต่อย่าไปด่าว่า ไปดูถูกเขาว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี ถึงเราจะไม่ยอมรับเรื่องนั้น แต่เราไม่จำเป็นต้องขวางโลกตราบใดที่มันไม่ผิดศีลธรรม ถ้าเขามีอะไรกับคนรักโดยปกติไม่ได้เป็นชู้เป็นกิ๊กหรือมั่วไปทั่ว ก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ คิดมากเราก็เครียดเปล่าๆ จากคุณ : Avanyere เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:47:55

ความคิดเห็นที่ 41 มั่วเซ็กส์ก็เรื่องนึง มีอะไรกับคนที่เค้ารักกันมันก็อีกเรื่องนึง เอามาปนกันว่าเป็นแบบเดียวกันมันก็ผิดแล้ว เราว่าไม่ค่อยมีใครเค้าว่าคนที่เก็บความบริสุทธิ์ไว้จนแต่งงานหรอกนะ เข้าข่ายใจใครใจมันน่ะ ที่โบราณเค้าสอนให้รักนวลสงวนตัวเนี่ย เพราะว่ายุคไหนๆก็มีพวกเจาะแล้วทิ้ง / ได้แล้วปากสว่าง ทั้งนั้นรึเปล่า เค้าก็แบบว่าเป็นห่วงลูกหลานไม่อยากให้เสียใจ หรือลำบาก ไม่น่าจะคิดว่าเพื่อความขาวสะอาดของสังคมอะไรแบบนั้นหรอกมั้งคะ เรื่องของเรื่องถ้าเราจะประนามก็คงเป็นพวกผู้ชายที่ "เอา" แฟน แล้วพบว่าแฟนไม่ได้ซิงมาก่อน (ทั้งๆที่ถ้าเค้าซิงมา เอ็งก็มาเจาะอยู่ดี) แล้วมาร้องแรกแหกกระเชอน่ะค่ะ เพื่ออะไร ต้องซิงมาให้พวกเอ็งเจาะหรือไง? จากคุณ : azur เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:51:37

ความคิดเห็นที่ 42 เราก็เห็นด้วยในแนวทางเดียวกับคุณ Avanyere นะ ผู้ชายชั่วๆแบบที่คุณว่าเราด่ามานักต่อนักแล้วบางคนไม่กล้าด่าต่อหน้าก็ด่าให้คนอื่นฟัง T^T แล้วที่คุณไปว่า จขกท. นั้นน่ะ ตกลง จขกท. นั้นเค้าเป็นพวกสำส่อนมาก่อนหรอ เราไม่เจอความเห็นไหนเค้าบอกยังงั้นนะ . . . สุดท้ายก็คงอย่างที่พ่อคุณบอกนะ มันอยู่ที่ความยับยั้งชั่งใจ มันใช้ได้ทั้งชายและหญิง . . . จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 00:58:05 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 43 เยอะแยะยาวมาก สรุปนะคะ คุณจขกท อยากจะโวยวายเรื่องเยื่อพรหมจรรย์ต่อว่างั้นเห๊อะ เราไม่รู้หลอกนะคคว่าคุณนะเป็นหญิงหรือชาย แต่เรื่องหลักๆ มันขึ้นอยู่กับ ความพอใจ และการรับกันได้มากกว่า ไม่มีผุ้หญิงที่ไหน เค้าอยากจะไปนอนกับผู้ชายที่ไม่ได้ฝากอนาคตไว้ด้วยหลอกนะคะ ที่สำคัญคือค่านิยม ที่ต้องโทษพวก รุ่นพ่อ รุ่นตา นั่นแหละที่ผู้ชายมักง่ายเห็นแก่ตัวและไม่ให้เกียรติผู้หญิง ก่อน กับการอบรมสั่งสอนของครอบครัวไทยที่ไม่พยายามพัฒนาตามสื่อตามเด็ก ปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวี อยู่กับสื่อ โดยที่ตัวเองไม่มีเวลาจะอบรมหรือสั่งสอน และให้ความสนใจใดๆ สื่อมีทั้งอินเตอร์เนท หนังสือการ์ตูน นิตยสาร บทความคอลัมน์ในนิตยสารบางประเภท เทป ซีดี วีซีดี ซึ่งเด็กเข้าถึงได้ง่าย โดยที่ไม่มีผู้ใหญ่คอยให้ความรู้และการแนะนำ การที่ยิ่งไปห้ามโดยไม่บอกเหตุผล ยิ่งเป็นการส่งเสริมผลักดันให้เด็กอยากรู้อยากเห็นและประพฤติตัว นอกกรอบมากขึ้น (ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ) ทั้งเด็กหญิงและเด็กชายเมื่อเข้าถึงสื่อพวกนี้ หลายๆคน อาจจะหลงผิด ด้วยอารมณ์ชั่ววุบ รวมไปถึงวัฒนธรรม ทางตะวันตกที่เราไปรับเค้ามาแบบผิดๆ ทั้งวัฒนธรรมการเสียสาวในคืนวาเลนไทน์ และการปลูกฝังความเชื่อเรื่องการเสียความบริสุทธิเพื่อแสดงรักแท้ ก็เป็นเพราะ การปลุกฝังจากคำพูดมักง่ายของผุ้ชายห่วยๆ ที่อยากจะหลอกฟันไม่ใช่เหรอคะ โดยปรกติ ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความละอาย และส่วนมากจะหวาดกลัวการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกันมากๆ ถ้าไม่สามารถเข้าถึงสื่อ และไม่มีการชักนำ จากฝ่ายชาย คุณคิดว่า ผู้หญิงบริสุทธิ์จะอยากนอนกับผู้ชายเหรอ เท่าที่เรา รู้จัก ผู้ชายส่วนใหญ่ สารเลวกับเรื่องนี้ ชั่วและเห็นแก่ตัวมากถึงมากที่สุด เพราะคนที่รูจักส่วนใหญ่เป็นเช่นนี้จริงๆ โดยเฉพาะ พี่คนหนึ่งที่เราให้ความเคารพเค้าเหมือนพี่ชายแท้ๆ เค้าก็มีลักษณะนิสัยที่เห็นแก่ตัว ห่วยแตกและสารเลว เรื่องเซ็กซ์มากๆ จะขอเล่าให้ฟัง คือพี่แก จะชอบหลอกฟันสาวๆในอินเตอร์เนทโดยผ่านโปรแกรมแชท MSN โดยการฝากเมลล์ไว้ที่ siamza.com ลองไปดูกัน เอา เค้าเล่าให้ฟังว่า คนบางคน เด็กบางคนแค่เหงา เพราะพ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลา แค่อยากหาคนพูดคุยให้กำลังใจ มันก็แกล้งคุยกับเค้าไปแล้วชวนออกอ่าว คุยไปเรื่องแล้วก็นัดเจอนัดกินข้าว แล้วก็หลอกฟัน ทั้งที่เด็กบางคนแค่ 13-15 เองเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเราเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่สามารถบอกเตือนเด็กกลุ่มนั้นได้ .......................................................................................................... ปัจจุบันต้องยอมรับว่า สภาพครอบครัว ไม่ได้อบอุ่นเหมือนเมื่อสมัยก่อนนี้ ที่พ่อแม่ให้การอบรมสั่งสอนและคอยเฝ้าดูลูกๆอยู่เสมอๆ การแต่งงานเมื่อสมัยก่อนเป้นการคลุมถุงชน อายุ 13ปีก็แต่งงานมีลูกเต้ากันเต็มบบ้านช่องไปหมดแล้ว ซึ่งแตกต่างกับปัจจุบันนี้ การแต่งงานบางคน 35 - 50ปี ถึงจะแต่งงานก็มี ซึ่งวัยเจริญพันธ์ของมนุษย์เรา เริ่มตั้งแต่ 11-13 ปีเท่านั้น ซึ่งเมื่อสมัยก่อน มันจะไม่มีปัญหาชิงสุกก่อนห่าม เพราะ ปู้ย่าตายาย เค้าแต่งกันตั้งแต่หะมอยยังไม่ทันขึ้น อารมณ์ทางเพศยังไม่ทันมีเสียด้วยซ้ำ  พอเข้าสู่วัยเจริญพันธ์ก็มีสามีภริยากันพอดี . . . ส่วนในปัจจุบันนี้ กว่าจะแต่งกัน โน่น เกือบแก่ วิ่งตามลูกกันแทบจะไม่ทัน แล้วสภาพครอบครัวที่ ขาดความอบอุ่น และสัณชาติญาณ (ซึ่งปรกติจะอยู่เหนือจิตใจเมื่ออยู่ในสภาวะอารมณ์ดังกล่าว) ทำให้ถูกล่อลวงได้ง่ายๆ จากคำว่ารัก ...... สำหรับผู้หญิงบางคน ที่รักผู้ชายคนหนึ่งมากๆ เค้าก็ยินยอมให้ผู้ชายคนนั้นทุกอย่าง แม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งเพียงเพื่อนรักษาความรักไว้ ซึ่งอาจจะดู "โง่" และสมควรประณามอย่างคุณ จขกท .คิด ซึ่งเราก็เคยเห็นคนแบบนี้เหมือนกัน รักเค้ามาก ยอมให้หมด เป็นกระสอบทรายเป็นทาสก็ยอม (เข้าใจใหมว่าความรักสำหรับผู้หญิงบางคนมันยิ่งใหญ่ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม) (อกทะเลไปเยอะ ไปพักแปบ เดี๋ยวมาต่อ) จากคุณ : บุหงาราตรี เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:02:43

ความคิดเห็นที่ 44 คุณบุหงาผู้ชายห่วยๆแบบที่คุณว่าเราก็รู้จักสารเลวชั่วช้าไม่แพ้พี่คนนั้นของคุณหรอก . . . เห็นชัดเจนเต็มสองตา มันชั่วช้าจนเล่ายาวได้หลายสิบบรรทัด ส่วนนึงเราคิดเหมือนคุณและเพื่อนหลายๆคน ณ ที่แห่งนี้ เราแค่อยากจะติงว่า อย่าไำปตามนํ้ากันจนเกิงามเพราะจะเป็นการช่วยเสริมสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีต่อเยาวชน ซึ่งเราก็พยายามชี้แจงหลายความเห็นแล้ว . . . เข้าใจเราบ้างสิ T^T ขอยืนยันตรงนี้ชัดๆ เราไม่ได้ต้องการให้ประณามผู้มี พสผ ก่อนแต่ง แต่ก็ไม่ต้องการให้มีการสนับสนุนให้ท้ายกันจนเกินพอดี . . . จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:12:42 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 45 ปรบมือให้ คุณ FireFox_GTC ค่ะ แมนมั๊กมาก จากคุณ : pure_zento เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:18:43

ความคิดเห็นที่ 46 เปล่าค่ะ ไม่ได้ว่าเพราะเขาสำส่อน แต่ที่เราต่อว่าเขาเพราะเราว่าเขาใจแคบและไม่รักแฟนของเขาจริงค่ะ ถ้าเขารักจริง เยื่อบางๆ ตรงนั้นไม่ควรทำให้สองคนทะเลาะกัน เพราะการที่ผู้หญิงไม่ซิง ไม่ได้แปลว่าเขาปล่อยตัวนะ เขาอาจจะโดนข่มขืนมาก็ได้ หรืออย่างในกระทู้นั้น แฟนเขาก็เสียให้คนที่รัก(ในอดีต) ซึ่งเราไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเสื่อมเสียขนาดที่จะรับกันไม่ได้ ถ้าผู้หญิงเป็นพวกชอบเที่ยว พวกล่าแต้มอะไรงี้ก็ว่าไปอย่างนะ ประเด็นสำคัญคือ รักเพราะอะไรมากกว่าค่ะ ถ้าสมมติว่าผู้หญิงคนนั้นบริสุทธิ์ แล้วฝ่ายชายบอกรักมาก ภูมิใจมากด้วยที่ได้เป็นคนแรก แต่ถึงเวลาอยู่กันไม่ยืดขึ้นมาทำไงคะ ผู้ชายจะไปหาหญิงที่บริสุทธิ์คนใหม่หรือเปล่า แล้วผู้หญิงละ ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงใจง่ายเหรอ สรุปว่าถ้าปากบอกว่ารักจริง อย่าสนใจเยื่อตรงนั้นค่ะ  หรือจะสนก็ได้นะ แต่ไม่ใช่ขนาดหาเรื่องทะเลาะกันหรือรู้สึกว่าผู้หญิงเป็นของมีตำหนิ (แบบในบางคห.) เพราะถ้ามีความรู้สึกว่า "รับไม่ได้" ขึ้นมาก็แปลว่าไม่รักจริงค่ะ จากคุณ : Avanyere เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:19:02

ความคิดเห็นที่ 47 เอ่อ แล้วไอ้ที่เค้าพลาดจากการข่มขืนมาล่ะคะ ไม่เห็นจะมีใครพูดกัน สรุปว่าคนที่ไม่บริสิทธิ์ก่อนแต่งจะผิดทุกคน มีปมด้อยทุกคนหรือไงคะ ที่อยากจะด่าๆบ่นๆแพร่มๆกันเนี่ย คิดบ้างไรบ้าง เพราะฉันเป็นมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินธรรมดา ไม่มีใครที่อยากพลาดหรืออยากมีสามีหลายหลอกนะคะ เพียงแค่ การคาดหวัง และการเชื่อถือคนที่คุณรัก หรือจะการที่คุณไปสังสรรค์แล้วโดนมอมเมา ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่ทำให้ผู้หญิง "เสียสาวก่อนแต่ง" ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวและเหตุผลส่วนตัวของเขา และเขาเอาก็ไม่ได้ชอบที่จะต้องเป็นแบบนี้ ไม่อยากเปลี่ยนแฟน หรือเปลียนสามี แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ถ้าผู้ชายห่วยเกินรับ และเราพลาดไปแล้ว เราจะทนไปทำไม แล้วไอ้ที่มาพูดเรื่องการประณามผู้หญิงที่เค้าเคยมีสามี เนี่ยะ คุณมีคุณสมบัติข้อไหนที่ดีกว่าคนพวกนี้ไม่ทราบ  เคยสำรวจตัวเองหรือยังคะ สำหรับผู้หญิง(บางคนปที่ออกมากระแนะกระแน ตัวคุณเองดีพร้อมากแค่ไหน (หรือดีแค่มีเยื่อพรหมจรรย์) สำหรับคุณผู้ชายที่ออกมาด่าๆ  คุณน่ะซิงสำหรับเมียคุณหรือเปล่าล่ะคะ เราว่าไม่แฟร์กับไอ้ผู้ชายห่วยๆ ที่ฟันผู้หญิงมาเป็นร้อย แล้วออกมาพูดมาด่าผู้หญิงที่เค้าไม่ได้ซิงก่อนแต่ง (เพราะพวกมรึงไม่ใชเหรอคะ) กับคนอื่นเราไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรหลอกนะคะ แต่ไอ้ความคิดชั่วๆของใครบางคนที่ออกมาพูดพล่อยๆ ว่า คนที่เค้าไม่บริสุทธิเค้าจะไปเสี้ยมสอนความคิดไม่ดีให้ผู้หญิงคนอื่นน่ะ กลับไปถาม แม่คุณดูนะคะ ว่า ถ้าแม่คุณโดนฟันแล้วทิ้ง เค้าจะสอนลูกสอนเพื่อนเค้าอย่างไร ตัวเรา ไม่บริสุทธิ และเราไม่เคยคิดเรื่องแต่งงาน เพราะว่า ผู้ชายสมัยนี้ห่วย เฮีย ได้อีก และก็โอกาสที่เราจะเจอคนที่ดีๆ ดูและเราได้นั้นน้อยมากๆ เราจึงไม่คิดที่จะแต่งงานเพียงเพื่อปรนเปรอใคร หรือเพียงเพื่อพึ่งพาใคร และที่สำคัญ ถึงเราจะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่เราไม่เคยแนะนำหรือสอนให้เด็กหรือน้องคนไหน ทำตามอย่างเพราะเรารู้ว่า ผลของการกระทำ มันทำร้ายตัวเอง และคนรอบข้างแค่ไหน การที่ผู้หญิงมีความเชื่อในคำว่ารัก และถูกผู้ชายที่รัก หักหลัง ทั้งที่ตัวเอง"เสียสาว" ให้เค้าไปแล้ว มันจะเสียใจยิ่งกว่าการอะไรทั้งหมด ซึ่งบางคนก็รับไม่ได้ถึงขึ้น "ฆ่าตัวตาย" ก็มี และเราก็สอนน้องๆที่เรารู้จักทุกคนในเรื่องนี้เสมอ เพราะเราไม่อยากให้มีใคร จะต้องเจ็บใจเพราะความห่วยแตกของผู้ชายบางกลุ่ม ไม่ได้ว่านะคะ ดิฉันว่าบางครั้งการเก็บพรหมจรรย์ไว้ให้สามีที่ไม่ซื่อสัตย์กับเรา มันก็ไม่ได้มีคุณค่าอะไรมากมายนักหลอกค่ะ เพราะ ผู้ชายมันก็เห็นค่าของผู้หญิงเพียงแค่ "ปลดปล่อยอารมณ์เท่านั้น" นอกเสียจากคุณจะได้เจอกับคนที่เค้า รักคุณจริงๆ อันที่จริงไม่อยากจะพูดว่า พรมหจยย์ไม่ใช่คำตอบของคำว่ารัก ถ้าคุณรักษาตัวรักษาพรมหจรรย์เพียงเพื่อไปสนองตันหา ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าสามี แต่เห็นแก่ตัว เจ้าชู้ มักง่าย สำส่อน  สู้คุณไม่แต่งงานจะดีกว่าใหม!!! ......................................................................................................... เพิ่มอีกนิด ขนาดทอมแถวบ้าน(เป็นทอมโดยกำเนิด) มันยังพลาดท่าตั้งท้องได้เลย แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิง -  - จากคุณ : บุหงาราตรี เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:28:02

ความคิดเห็นที่ 48 จขกท. ว่าคนปัจจุบันนี้แต่งงานกันอายุเท่าไร กว่าจะแต่งกัน 25 30 35 แต่คนเราเป็นหนุ่มเป็นสาว ตั้งแต่อายุ 17-18 ทีนี้ตามธรรมชาติแล้ว ฮอร์โมนเพศช่วงนี้ และความอยากรู้อยากเห็นของวัยรุ่นมันก็เยอะ การจะมีพลาดพลั้งกันบ้างสำหรับบางคน ผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเรื่องที่ต้องประณามกันหรอก ไอ้การที่ไม่บริสุทธิ์แล้ว มันไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นต้องไม่ดี คบไม่ได้ ให้เป็นพ่อ เป็นแม่ ของลูกตัวเองไม่ได้ ยอมรับใน ธรรมชาติ บ้าง จากคุณ : chanin007 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:30:25

ความคิดเห็นที่ 49 เราพอเข้าใจ จขกท นะคะ แต่ว่า ยุคสมัยเปลียนไปจริงๆ แล้วก็ตามที่คุณ Avanyere ว่า คือมันเป็นความจริงในสังคมปัจจุบันนี้ค่ะ เยื่อพรหมจรรย์ เค้าได้คุณไปก็แค่ความภูมิใจชั่วคราว (ที่ได้ฟันคนแรก) แต่ถ้า เราต้องเลิกกับเขา  ถ้าเขาไม่ดีจริงอย่างที่คิด เราก็ต้องมีชีวิตต่อไป เลิกกัน อาจจะมีแฟนใหม่ แต่งงาน เราก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว จริงใหม มันหาความพอดีให้สังคมไม่ได้หลอกค่ะ ความพอดี ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่า ที่สำคัญ อย่างที่บอก ว่าเยื่อพรหมจรรย์ไม่ใข่คำตอบของคำว่ารัก เพราะปัจจุบัน ทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายต้องผ่านอะไรมากมากต่อมาก และพบเจอต่างเพศมากกว่าเมื่อก่อน จริงใหมคะ เมื่อก่อนผู้หญิงไม่ได้เรียนหนังสือไม่ได้ทำงาน เป็นแม่บ้านอยู่กับบ้านเรือน โอกาสที่จะได้เจอผู้ชายมันน้อย แต่ในปัจจุบันโอกาส ที่จะเจอกันมันมีมากขึ้น ง่ายขึ้น ไม่ใช่ว่า เป็นการสนับสนุน แต่ในบาง คห.ที่กล่าเพียงแค่สั้นๆ อาจจะทำให้คิดไปอย่างนั้น นั้นเพราะ เป็นการต่อว่าโดย ไม่บอกเหตุผล แต่ในส่วนตัวของทุกคน คิดว่าความรู้สึก ก็คงไม่ผิดไปจากคุณ Avanyere สักเท่าไร เพียงแต่ แสดงความเห็นสั้นๆ เนื่องจากบาง คห.เค้าได้พูดถึงเหตุผลไปแล้ว ส่วนเรื่องเยาวชน คงห้ามได้ยาก บอกได้ยาก ด้วยโครงสร้างครอบครัวในปัจจุบันที่ห่างเหินกันมากขึ้น ยิ่งทำให้ตัวเด็กมีโอกาสเสี่ยงมากยิ่งขึ้นค่ะ ทำได้อย่างดีก็แค่ บอกกล่าวคนรอบข้าง พี่ๆน้องๆของเราหรือน้องผู้หญิงที่เรารู้จัก ให้ระวังตัวเอาไว้เท่านั้น จากคุณ : บุหงาราตรี เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:39:48

ความคิดเห็นที่ 50 บาง คห. ก็เหมือนคุยกันคนละเรื่อง -*- เอาเหอะ คนบางคนก็ยังมากระแนะกระแหนเพศตัวเองที่ทำตัวดีๆว่า (ดีแค่มีเยื่อพรหมจรรย์) และเหยียดหยามต่อด้วยการว่า (ก็แค่เก็บไว้สนองตันหาสามี) แถมยังอคติกับเพศตรงข้ามว่า มันก็เห็นค่าของผู้หญิงเพียงแค่ "ปลดปล่อยอารมณ์เท่านั้น" . . . แปลกจังอยู่โลกใบเดียวกันแท้ๆแต่คุณกลับเห็นแต่ความทมืดมิด ทั้งๆที่ก็มีมุมดีๆตั้งมากมาย. . . จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:39:55 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 51 ขอโทษคุณบุหงาด้วยนะ เราเปลี่ยนแปลงข้อความตัวเองไม่ได้ ตะกี้เราอ่านความเห็นของคุณแล้วรู้สึกว่ามันแรงมากๆ ก่อนจะเห็นความเห็นล่าสุดของคุณ ขอโทษนะที่เราโพสข้อความประชดประชันคุณข้างบนนั้น จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:43:18 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 52 คหสต.สมัยก่อนผู้หญิงสำส่อนก็มีครับไม่งั้นจะมีพวกไนท์คลับหรือย่านโคมเขียวโคมแดงเหรอะครับ...เพียงแต่ว่าสมัยก่อนไม่ได้มาเผยแพร่ในสื่อเหมือนอย่างทุกวันนี้ที่มีทั้งเนททั้งบล๊อคทั้งอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะไปหมด สาธารณะรู้เห็นหมด สมัยก่อนอาจจะมีก็ได้แต่เขาไม่ได้เปิดเผยกันเหมือนขนาดนี้ แล้วสมัยก่อนสิ่งเร้าก็มีไม่เหมือนสมัยนี้ห้างสรรพสินค้า สยาม ก็ไม่มีคนก็อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนโอกาสจะเจอกันก็ตามงานวัดงานบุญ... เพราะฉนั้นมองว่ายุคสมัยเปลี่ยนไปโอกาสเจอกันมีมากขึ้นโอกาสที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์สปาร์คก็มีมากขึ้นครับ... จากคุณ : ผ่านมา-ผ่านไป (Come N Go) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:46:12

ความคิดเห็นที่ 53 หรือว่า จขกท. เป็นอีกคนที่ จะหาแฟนเวอร์ คะ จากคุณ : noneonly เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:48:42

ความคิดเห็นที่ 54 แน่ะคุณ noneonly แค่นี้เราก็1ต้านหลายสิบแล้วอย่าเรียกแขกเพิ่มให้เราอีกเลย -*- จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:51:10 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นเรื่องปรกติค่ะ แต่ที่เราพูดไป เพราะผูชายส่วนใหย่ที่เรารูจัก จะมองแบนี้กันจริงๆ ไม่แปลกที่ เราจะมองผูชายแบบมืดมน เพราะ พ่อ ที่ให้กำเนิดเรา ท่านก็นับว่าเป็นผูชายเห็นแก่ตัว อย่างที่ได้พูด คือเห็นอู้หญิงเป็นที่ปลดปล่อย เห็นใครสวยก็จีบ ก็ล่ามาหมด ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ป่านนี้ (60กว่า) มีโอกาสครั้งใด ก็ไม่เคยพลาดที่จะไปจีบไปล่อลวงเขา  เวลาที่เบื่อเขาก็ทิ้งขว้าง ด่าว่าอย่างไม่ใยดี พอจีบไม่ได้ ก็ว่าเขาดูถูกเขาอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าใครลองมีบุพการี ที่น่ารักอย่างพ่อเรา จะรู้ค่ะ ว่า มันมืดมน จริงๆ จากคุณ : บุหงาราตรี เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 01:53:09

ความคิดเห็นที่ 56 เราขอตัวไปนอนก่อนละนะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมสายๆจะมาตอบไม่ได้หนีไปไหนน้า จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 02:06:54 A:223.207.38.49 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 57 พิมพ์ไว ตกไปหลายคำเลยลืมเช็ค !!! จากคุณ : บุหงาราตรี เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 02:10:52

ความคิดเห็นที่ 58 โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าคุณยังมีความคิดที่ต้านกับความเปลี่ยนแปลงคุณก็จะคิดแล้วเหนื่อยไปคนเดียว ความเป็นจริงมันต่างกับอุดมคติ ลองหันมองดูรอบข้างแล้วคิดดีๆ คนเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆในโลก ทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งสมมุติ รวมถึงกฏประเพณีวัฒนธรรมค่านิยมต่างๆ จะเอาความคิดตัวเองไปยัดใส่คนอื่นคงไม่ได้ ดีของคุณกับดีของคนอื่นไม่เหมือนกัน ทำชีวิตตัวเองให้ดี เอาตัวเองให้รอดก่อนจะตัดสินชีวิตคนอื่นดีกว่าค่ะ เราว่าในโลกของความเป็นจริงคุณก็ไม่ได้ดีเหนือกว่าคนอื่นหรอก ทำมาเป็นห่วงสังคมในเรื่องส่วนบุคคลของคนอื่น คิดให้ตายคุณก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอก จากคุณ : จะเอาอะไรกับลมปาก เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 02:50:21

ความคิดเห็นที่ 59 >>ประเด็นที่แท้จริงของคนด่าเรื่องนี้ คือไม่ใช่ผู้ชายฟันแล้วเลว คบไปเรื่อยๆแล้วชวนมีอะไรด้วยเลว แต่เลวเพราะรับเรื่องนี้ไม่ได้ต่างหาก ถ้ารับได้การกระทำเหล่านั้นก็ไม่เลว ไม่ควรประณามอย่างที่อ้างแต่อย่างใด กลับได้รับการชื่นชนว่า ดี แฟร์แทน<< มันถึงง่ายไงที่จะด่าว่าคนที่รับไม่ได้อย่างเดียว จากคุณ : รักเมืองไทย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 02:50:57 A:125.25.32.127 X: TicketID:304332

ความคิดเห็นที่ 60 สำหรับค่านิยมของสังคม เราต้องยอมรับว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว เดี๋ยวนี้อยู่ก่อนแต่งกันบ่อย ถ้าเขาอยู่กันไม่ได้แล้วเลิกรากันไป จะไปโทษว่าเพราะหญิงไม่รักนวลสงวนตัวมันไม่ได้หรอก เกิดแต่งก่อนไม่ยิ่งถูกตราหน้าว่าเป็นแม่หม้ายเหรอ จะโทษต้องโทษทั้งสองฝ่าย ......................ค่านิยมเปลี่ยนไปแล้วแต่เห็นชอบอ้าง ทำนองว่าค่านิยมเหมือนเดิมแต่ที่ทำเพราะ "ผิดพลาด" ต่างหาก นี่ก็เป็นการพูดความจริงเสี้ยวเดียว ......................ก็ถูก แม้จะบอกว่าโทษสองฝ่ายแต่มันก็ไม่ใช่โทษสองฝ่ายจริงๆ เพราะอะไร เพราะ โทษผู้ชาย ผู้ชายคนนั้นไปไหนแล้วก็ไม่รู้ จะไปโทษอย่างไร คนพูดเรื่องนี้เขาไม่ได้จะแต่งงานกับผู้ชายนี่นา เขาก็ต้องพูดเรื่องคนที่เขาพบคนที่เขาเลือก ซึ่งก็เหลือฝ่ายเดียวก็ถูกแล้ว จะโทษตอนที่คบกันหรือก็แปลกไม่ใช่อีกคนสองคนเขาเต็มใจมีความสัมพันธ์กันคนนอกจะไปโทษอะไรเขาว่าเขาผิดได้หรือ นาย ก นาย ข ต้องไปโทษ นาย ค นาย ง ที่มีอะไรกับแฟนและแฟนเต็มใจหรือก็ไม่ใช่อีก ผู้หญิงโทษผู้ชายก็ไม่ใช่อีก เพราะ(ส่วนมากที่เห็น)ผู้หญิงไม่แคร์เรื่องนี้ (เท่าไรก็ได้ขอมีฉันเป็นคนสุดท้าย) และก็กลายเป็นการโทษด้านเดียวอีก เพราะผู้หญิงบางส่วนที่เห็นมักจะด่าเฉพาะผู้ชายที่รับไม่ได้เรื่องนี้อย่างเดียว ไม่ได้โทษสองฝ่ายอย่างที่ว่า ก็เป็นอย่างที่เห็น ไมใช่การโทษสองฝ่ายต่อย่างใด ที่เห็นคือ ฝ่ายที่ทำตามประเพณีค่านิยมเดิมไม่ได้ออกมาด่าแรงๆหยาบคาย โทษด่าว่าคนที่รับไม่ได้ซะมาก ฝ่ายที่ด่าญิงแบบแรงๆก็มี (แต่ที่มีไปเรื่อยๆคบไปเรื่อยๆนี่ลอยตัว ไม่ได้ถูกด่าว่าทำเสียหายหรือทำตราบาปอย่างที่รุมสกรัมด่าคนที่รับไม่ได้แต่อย่างใด) ถ้าจะด่าอีกด้านก็พูดเวอร์ๆเกินจริงว่าต้องเลวสุดขั้ผ่านมาเยอะฟันเป็นร้อย (ถ้าผ่านมาห้าคนสิบคนมีอะไรด้วยกับแฟน หรือชักจูงหลอกล่อแฟนตนเองให้มีอะไรกันไปทีละคนนี่ก็ ไม่ได้ผิดอะไรใช่หรือไม่) น่าจะเปรียบเทียบกับสองกรณ๊นี้มากว่าจะพูดสุดโต่ง เมื่อก่อนนานมาแล้วไม่เคยคิดว่าใครเลยนะ ใครจะทำอะไรก็เลือกทำไป คนจะเลือกคบคนใหม่ตามที่ตนเองต้องการก็มีสิทธิ แต่ความจริงที่เ็ห็นคือ สิ่งที่เลือกทำไปเองบบนั้น ปัญาคือ ถึงเวลาก็ไม่ยอมรับโกหกหลอกลวงปิดบังสวมเขากัน ส่วนที่ทำไปแล้วก็มาพาลพะโลด่าว่าคนที่เขารับไม่ได้อย่างไม่แฟร์อย่างสิ้นเชิง เลือกทำเองก็หาคนแบบที่ตนเองต้องการสิมาด่าว่าคนอื่นทำไม จากคุณ : รักเมืองไทย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 03:08:28 A:125.25.32.127 X: TicketID:304332

ความคิดเห็นที่ 61 คนสมัยก่อนที่เขารักนวลสงวนตัวนี่เขาไม่รักกันจริง เขามองที่เยื่อบางๆอย่างที่พวกคุณว่าหมดทุกคนเลยหรือไรครับ เขาก็รักกันจริงแต่เพราะพวกคุณไม่ทำตัวแบบนั้นจึงอ้างแบบนั้นกันไม่ใช่หรือ ผมละไม่ชอบพวกที่พยายามพูดความจริงเสี้ยวเดียวแบบนี้จริงๆ ทำอะไรยอมรับทั้งชายหญิง เจอคนใหม่ก็บอกความจริงไปไม่ปิดบัง นี่สังคมมีปัญหาแบบนี้เพราะความสุขทางเพศก็จะเอา ความรักนวลสงวนตัวก็จะเอา ค่านิยมลักลั่นกล้าทำไม่กล้ารับก็เลยมีปัญหา จากคุณ : รักเมืองไทย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 03:21:47 A:125.25.32.127 X: TicketID:304332

ความคิดเห็นที่ 62 ใจเย็นๆครับคุณบุหงาราตรี ผมว่าความเห็นของคุณออกจะรุนแรงและเหมารวมไปนิดนึงนะครับ ใช่ว่าคนที่มาออกความเห็นเรื่องนี้จะต้องเป็นผู้ชายที่ผ่านผู้หญิงมาเป็นร้อยสักหน่อยนี่ครับ บางคนอาจจะยังวัยรุ่น และที่บ้านปลูกฝังแนวความคิดมาอย่างนั้น ผมคิดว่าเจ้าของกระทู้ต้นเรื่องนั้นน่าจะอยู่ช่วงวัยรุ่นหรือ 20 ต้นๆ มั้งครับ (อันนี้ดูจากคำพูด อาจจะแค่คิดไปเอง - -") บางทีถึงใจจะรู้และพยายามยอมรับ แต่ด้วยประสบการณ์ชีวิตหรือมุมมองที่ยังไม่เหมือนผู้ใหญ่เต็มตัว หรือตั้งความคาดหวังไว้แล้วผิดหวัง ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะช็อคกับเรื่องแบบนี้บ้าง ผมว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เอามาตำหนิกันขนาดนี้นะครับ เมื่อเวลาผ่านไปได้เรียนรู้และเข้าใจโลกมากขึ้น แนวความคิดของเขาก็อาจจะเปิดกว้างยอมรับได้ก็เป็นได้ นอกจากนี้ผมคิดว่าผู้ชายที่ผ่านศึกมาเป็นร้อย ไม่มานั่งบ่นเรื่องซิงไม่ซิงหรอกครับ เผลอๆ พวกเขาจะเอาเวลาที่มาบ่นไปหลอกฟันสาวๆ กันมากกว่าครับ ---------------------------------------------------------------------- เข้าเรื่องกระทู้ละกันครับ ผมว่าเนื้อความของเจ้าของกระทู้เหมารวมไปหน่อยนะครับ ผู้หญิงดีๆ ที่เขายอมมีอะไรกับคนรักเก่าเพราะรักก็มีไม่น้อย ใช่ว่าพวกเธอเหล่านั้นจะใจแตกเสียทั้งหมดนะครับ บางคู่มีเหตุจำเป็นที่ต้องห่างกันและจำต้องเลิกไป เพื่อเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเจอคนที่รัก และสามารถดูแลได้ดีกว่าตัวเองก็มี บางคู่ที่ฝ่ายชายไปมีคนอื่นก็ใช่ หรือบางทีฝ่ายหญิงไปมีคนอื่นเองก็ไม่น้อย ไม่ก็เป็นไปได้ว่าฝ่ายชายเสียชีวิต ซึ่งสาเหตุที่เลิกกันมันมีร้อยแปดพันเก้าครับ บางคู่ที่เลิกกันอาจจะวางแผนไปจนถึงแต่งงานด้วยซ้ำครับ ยังไม่รวมถึงเหยื่อของการข่มขืนหรือมอมยาอีก ดังนั้นผมจึงไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ เกี่ยวกับการเอาเรื่องที่เคยหรือไม่เคยมาเป็นประเด็นให้เลิกกัน เรื่องแบบนี้ควรที่จะเปิดใจ และเห็นใจกันครับ แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการไปยุยงให้คนอื่นมีอะไรกันง่ายๆ เพียงเพราะสังคมเปลี่ยนไปนะครับ โดยส่วนตัวสนับสนุนค่านิยมเรื่องการรักนวลสงวนตัวครับ บางครั้งต่อให้ฝ่ายชายรุก แต่ถ้าฝ่ายหญิงปฏิเสธเป็นก็ยังพอป้องกันได้บ้าง (ถ้าฝ่ายชายยังดื้อดึงอันนั้นก็เข้าข่ายขืนใจแล้วครับ) ดังนั้นค่านิยมนี้ควรมาพร้อมกับการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา สอนให้รู้เล่ห์เหลี่ยมของผู้ชาย และการป้องกันตัวไม่ให้ไปอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง ไม่ใช่การปิดกั้น หรือมองว่าเป็นสิ่งน่าอายแบบปัจจุบัน (ผมคิดว่ายังงั้นนะ) สุดท้ายแล้วใครจะเชื่ออย่างไรก็เป็นเรื่องของคนคนนั้นครับ คนที่เราสามารถบังคับให้เปลี่ยนความคิดได้ก็มีแค่ตัวเราเองเท่านั้นล่ะครับ จากคุณ : Laevateinn เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 03:29:29

ความคิดเห็นที่ 63 คนที่รักษาพรหมจรรย์ไว้ก็มีแนวคิดของตัวเองอ่ะค่ะ    แต่จะบอกว่า มันดีงามกว่าคนอื่นมันก็ไม่ถูกนะ   เราไม่ควรเอาจุดนี้มาเป็นมาตรฐานวัดความดีงาม   เราเองส่งเสริมการรักษาเนื้อรักษาตัวนะ  แต่มันคือ ทางเลือกของคนบางคนที่จะทำแบบนั้น  มันไม่ควรมาเป็นมาตรฐานดีงามในสังคม   ถ้าสังคมจะตัดสินผู้หญิงด้วยพรหมจรรย์เราว่ามันกดขี่เพศหญิงเกินไป   นั่นคือสาเหตุที่ทำให้มีคนจำนวนมากเกร้ี้ยวกราดนะ  ผู้หญิงบางคนเขาบริสุทธิ์แต่เขาก็ทนเห็นการตัดสินผู้หญิงคนนึงด้วยการบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิืไมไ่ด้เหมือนกัน ความบริสุทธิ์อยุ่ได้จนถึงวันที่เราตัดสินใจมี พสพ. เท่านั้นเอง  ความประพฤติต่างหากที่อยู่กับเราไปจนตายน่ะ จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 04:21:26

ความคิดเห็นที่ 64 ส่วนตัวผมไม่มีปัญหากับมุมมองค่านิยมให้รักนวลสงวนตัว ห้ามมีอะไรกันก่อนแต่งนะครับ ตราบใดที่คุณถือบรรทัดฐานนั้นเท่าเทียมกันทั้งหญิงและชาย ไม่ใช่ว่าถ้าผู้หญิงนอนกับแฟนแล้ว ถือเป็นตราบาปลดคุณค่าความเป็นคน แต่ถ้าผู้ชายทำการกระทำเดียวกัน กลับมองว่าเฉยๆ ไม่เสียหายอะไร สำหรับผม ผมมองว่านี่เป็นเรื่องอคติและความเหลี่ยมล้ำทางเพศมากกว่าที่จะเป็นแค่นิยามของการรักนวลสงวนตัว สมัยโบราณมีการรุมปาก้อนหินใส่ผู้หญิงที่ท้องก่อนแต่งถึงตาย เป็นการลงโทษ (แล้วตัวผู้ชายที่ลักลอบทำให้ผู้หญิงท้อง โดนหินปาด้วยหรือไม่ ผมสงสัยทุกครั้งที่ศึกษาเรื่องเหล่านี้ในประวัติศาสตร์) ถามว่า ปัจจับันนี้เปลี่ยนไปมากหรือไม่? ผมว่าไม่ แค่มันเปลี่ยนรูปแบบไปไม่อยู่ในความรุนแรงป่าเถื่อนแบบปาก้อนหิน แต่ยังคงมีรูปแบบของการรังเกียจเหยียดหยาม ผมมองว่าการรักษาความบริสุทธิ์ไว้ไม่ใช่ปัจจัยบ่งบอกความเป็นคนดี(หรือเลว)แต่อย่างใด มันเป็นม่านทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง แน่นอนว่า ถ้ามีการพรากลูกพรากเมียคนอื่น ขีนใจกัน นอกใจ หรือสำส่อน คบกันคืนเดียวนอนกับคนไม่เลือกหน้า อันนั้นแน่นอนว่าผมไม่เห็นด้วยและเป็นสิ่งไม่ดีแน่นอน แต่คนที่เสียความบริสุทธิ์ไปก่อนจะแต่งงานไม่ได้แปลว่าทุกคนเป็นคนสำส่อนทางเพศนี่ครับ บางครั้งคบกับแฟนแบบจริงใจ รักจริงหวังแต่งหลายๆปี ผู้ใหญ่รับรู้ ทั้งสองฝ่ายเต็มใจไม่มีการบังคับกัน แล้วคนเหล่านี้ทำอะไรผิดหรือครับ ถึงจะมาถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดี? ไม่มีใครหยั่งรู้อนาคตได้ คนแต่งงานแล้วยังมีต้องหย่ากัน คนคบกันเป็นแฟนก็มีเลิกกันได้ครับ เมื่อความสัมพันธ์ของคนสองคนไปไม่รอด คำถามของผมในประเด็นนี้คือ ทำไมถ้าเป็นผู้หญิงถึงเป็นเรื่องเสียหายราวกับมีตราบาปติดตัวว่าไปฆ่าคนมา แต่ผู้ชายกลับจะลอยลำ? มีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ให้คนสองกลุ่มผลัดกันเข้าไปในห้องทีละกลุ่มแล้วดูพฤติกรรมของเด็กแบเบาะ ซึ่งเด็กในการทดลองนี้กำลังเล่นของเล่นอยู่ ก็หยิบของเล่นขึ้นมาเขย่าๆ โยนใส่กำแพงเล่นตามประสาเด็ก ผู้ทดลองบอกกับคนกลุ่มที่หนึ่งว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กผู้ชาย คนกลุ่มแรกพูดไปในทำนองเดียวกันว่า "โอโห น่ารักจังเลย ร่าเริงสดใสเชียว" ในขณะเดียวกันเมื่อคนกลุ่มที่สองเข้ามา ผู้ทดลองบอกว่าเด็กคนนี้เป้นเด็กผู้หญิง ความเห็นของคนกลุ่มที่สองกลับกลายเป็น "ทำไมก้าวร้าวรุนแรงแบบนี้" ...ทั้งๆที่เด็กคนเดียวกัน พฤติกรรมเดียวเป๊ะๆ ผมมองว่าประเด็นรักนวลสงวนตัวก็จัดอยู่ในข่ายนี้่เช่นกัน คือ คนจำนวนมากเอาเพศกำเนิดของคนมาใส่เป็นอคติ อย่างที่บอกตั้งแต่ต้น ผมไม่มีปัญหากับค่านิยมแบบดั้งเดิมให้รักนวลสงวนตัวไปจนถึงวันแต่งงาน ตราบใดที่ค่านิยมนั้นถูกใช้กับทั้งหญิงและชายอย่างเท่าเทียม แต่่เทาที่เห็นมารอบตัวทั้งชีวิต ผมเจอแค่ว่า "ผู้หญิงทำไม่ได้ เลว" แต่ "ผู้ชายทำได้ ไม่เป็นไร" เพศของคนเป็นเหตุผลอย่างไรหรือที่ทำให้การกระทำเดียวกันถูกหรือผิดมากน้อยไปกว่ากันได้? หรือตกลงว่าเรายังอยู่ในยุคที่เชื่อว่าผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิงอยู่กันแน่? สุดท้าย เรื่องของการได้เสียกันก่อนแต่งงานเกิดขึ้นมาทุกยุคทุกสมัยแหละครับ แค่สมัยปัจจุบันสังคมเปิดกว้าง ข้อมูลข่าวสารไม่เป็นความลับกันอีกต่อไป งานแต่งงานก็เป็นแค่ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรม เรื่อง sex เป็นเรื่องที่ธรรมดามากในความสัมพันธ์ของคนสองคนที่คบกันอย่างจริงจังและจริงใจ ตราบเท่าที่ไม่มีการมั่วหรือนอกใจกัน หรือพรากลูกพรากเมียคนอื่น ผมมองไม่เห็นว่าเป็นความเลวแต่อย่างใด แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 05:01:58 จากคุณ : Baritone เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 04:59:07

ความคิดเห็นที่ 65 ผมเป็นคนหัวโบราณ เห็นด้วยกับ จขกท ครับ ตรงใจผมจริงๆ จะมี Sexกันไม่มีใครว่าหรอกครับ แต่ขอให้หมั้นหมายกัน หรือรอแต่งงานกันก่อนได้ไหม จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 06:20:45

ความคิดเห็นที่ 66 ไม่รู้สิ...เมียผมไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกของผม... ผมก็เลยไม่ได้ใส่ใจว่าผมเป็นผู้ชายคนแรกของเธอหรือเปล่า ไม่เคยถามอะไรเขา ไม่เคยสืบประวัติว่าในอดีตเธอสำส่อนหรือเปล่า เธอเสียตัวเมื่ออายุ 15 หรือไม่่ มีประโยชน์อะไรล่ะ.. วันนี้ผมรักเธอก็น่าจะเพียงพอแล้ว ผู้ชายบางคนสำส่อนมาตั้งแต่ 15 แล้ว.. เวลาจะมีเมีย หนอย..จะเอาสาวบริสุทธิ์... หารู้ไม่ว่า...ที่เมิงเที่ยวไปสำส่อนกับสาวๆนั้น... มานทำให้สาวบริสุทธิ์ลดหน้อยลงทุกวัน... สาวบิสุทธิ์ตามกระทู้ก่อนนี้... เข้าใจได้ว่าไม่ได้หมายถึงสาวสำส่อนหรือเสียตัวตั้งแต่อายุ 15 นาผมว่า ประเด็นก็คิอว่าฝ่ายชายรังเกียจสาวไม่บริสุทธิ์ ไม่ได้พูดถึงสาวสำส่อนตั้งแต่อายุ 15 ปี หากเยาวชนได้อ่านกระทู้น่าจะเข้าใจเช่นเดียวกับผม ก็ลองตั้งกระทู้ดูว่าผู้ชายจะมีเมียที่สำส่อนทางเพศมาตั้งแต่ 15 ปี มีผู้ชายเป็นสิบๆคนผ่านเข้ามา...ผู้ชายจะเอาเป็นเมียไหม... ผมว่าเนื้อหาของกระทู้คงจะเปลี่ยนไป...เพราะมานคนล่ะเรื่องกัน จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 06:27:31

ความคิดเห็นที่ 67 ถามตัวเองกันให้ดีก่อนได้ไหม ว่าแต่งงานเพราะรัก  หรือแค่อยากมีอะไรกัน ถ้ารักก็ไม่ต้องถามเรื่องอดีต  (แค่พากันไปตรวจเลือดก็พอ) แต่ถ้าอยากมีอะไรกัน  ก็มีทางเลือกอีกเยอะ  เช่นช่วยตัวเอง ผมว่านะ ผมอ่านความคิดเห็นบางท่านตรงประเด็นดีกว่าจะมาฟูมฟายตอนจะแต่งงาน ก็คือแก้ที่ไอ้คนที่ไปจิ้มเขาก็คือผู้ชาย ว่าแล้วก็อยากเปิดกระทู้  "เรียกร้องให้คนในคณะรัฐบาลเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องเพศ โดยไม่เรียกเด็กนักศึกษาไปใช้บริการทางเพศ" แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 06:47:20 จากคุณ : Ramas เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 06:38:21

ความคิดเห็นที่ 68 แล้วไอ้ที่ทำให้ผู้หญิงเสียความบริสุทธิืนี่ ควายมั้งครับ มันก็ผู้ชายทั้งนั้น แล้วจะมาตีโพยตีพายทำไม??? จากคุณ : คุณชายทหารไทย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 06:41:00

ความคิดเห็นที่ 69 ความคิดเห็นที่ 63 คุณก็พูดไม่หมด ผู้หญิงบางคนเขาบริสุทธิ์แต่เขาก็ทนเห็นการตัดสินผู้หญิงคนนึงด้วยการบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิืไมไ่ด้เหมือนกัน ถ้าจะพูดให้ครบก็ต้องบอกอีกด้านด้วยว่าเพราะบางส่วนทำตัวอย่างไรมาจึงโมโหด้วยเหมือนกัน ผู้หญิงจำนวนมากที่ตัดสินผู้ชายที่ หน้าตา สูบบุหรี่ ไม่สูบบุหรี่ กินเหล้า หน้าตา อายุ ฐานะ การศึษา แม้กระทั่ง เล็บดำ ปากเหม็น มีขนที่นิ้ว ฯลฯ คนเหล่านั้นเลวทรามตัดสินคนด้วยเรื่องไร้สาระสมควรเกรี้ยวกราดด้วยหรือไม่ ความคิดเห็นที่ 68 คนละคนกัน พูดยิ่งกว่าหมาป่ากับลูกแกะ แกไม่ผิดพ่อแกก็ผิด พ่อแกไม่ผิดแกก็ผิดเพราะเป็นผู้ชายเหมือนกัน เกี่ยวไหมนี่ตรรกกะแบบนี้ ความคิดเห็นที่ 66 ผู้ชายบางคนสำส่อนมาตั้งแต่ 15 แล้ว.. เวลาจะมีเมีย หนอย..จะเอาสาวบริสุทธิ์... หารู้ไม่ว่า...ที่เมิงเที่ยวไปสำส่อนกับสาวๆนั้น... มานทำให้สาวบริสุทธิ์ลดหน้อยลงทุกวัน... ....................ผมไม่เข้าใจจริงๆนะ ทำไมคนที่ว่าเรื่องนี้ทั้งชายหญิงต้องไม่มีความจริงใจ ยกตัวอย่างสุดโดต่งดื้อๆแบบนี้้ด้วย มีผู้หญิงมีแต่รักนวลสงวนตัวผิดพลาดกับสำส่อน ผู้ชายมีแต่ไม่ทำกับสำส่อน ไม่ทราบทำไมถึงได้พยายามบิดเบือนให้เหลือประเภทแบบจงใจให้บิดเบี้ยวบูดเบี้ยวแบบนั้น บางคนที่สำส่อนครั้งเดียวแล้วเลิกก็มี บางคนก็มีอะไรกับเพื่อนกับกิ๊ก บางคนคบทีละคนแต่มีอะไรกันเร็วผ่านมาเยอะก็มี บางคนอยู่เมืองไทยทำแบบนึงไปเมืองนอกทำแบบนึงก็มี ฯลฯ ไม่ทราบจะจัดในประเภทไหนทำไมต้องบิดเบือนให้เหลือแค่สองประเภทด้วย ถ้าพูดประเภทจริงอีกมากมายมหาศาลเหล่านั้นมาจะทำให้ดูไม่ดีหรือย่างไร ถึงต้องพยายามบิดเบือนว่าถ้าไม่รักนวลสงวนตัวมีน้อยก็สำส่อน ไม่มีความจริงใจในการพูดเลยแบบนี้ จากคุณ : รักเมืองไทย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 08:12:48 A:125.25.32.127 X: TicketID:304332

ความคิดเห็นที่ 70 ความคิดเห็นที่ 67 ผมว่านะ ผมอ่านความคิดเห็นบางท่านตรงประเด็นดีกว่าจะมาฟูมฟายตอนจะแต่งงาน ก็คือแก้ที่ไอ้คนที่ไปจิ้มเขาก็คือผู้ชาย .....นี่ก็ยังไม่เข้าใจที่ผู้หญิงส่วนมากด่าหรือคนส่วนมากด่า ก็ไม่ได้จะคิดจะแก้ตรงนี้ แต่เน้นจะแก้ตรงให้รับได้อย่างเดียวต่างหาก ลองแก้อย่างที่ว่า มันก็แก้ได้ไม่จริงคนที่ทำเขามาหลายคนก็แก้ไม่ได้ ผู้หญิงที่เปลี่ยนแฟนมาก็แก้อดีตไม่ได้ ทำอย่างไรก็ได้ไม่ต้องแก้ดีแล้วแค่รับได้ตรวจเลือดก็พอ ไม่สนอดีต คำพูดแบบนี้คือแก้ที่ต้นเหตุอย่างที่ว่าหรือแก้ที่ให้รับได้ภายหลังกันแน่ น่าจะรู้ แก้ที่ผู้หญิงกับด่าคนที่รับไม่ได้อันไหนง่ายกว่ากัน แก้ที่ผู้ชายกับด่าคนรับไม่ได้อันไหนง่ายกว่ากัน เพราะมันง่ายดีไง จากคุณ : รักเมืองไทย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 08:19:01 A:125.25.32.127 X: TicketID:304332

ความคิดเห็นที่ 71 สรุปแล้วถ้าผู้หญิงทำตัวดีๆไม่ไปนอนกับผู้ชายตั้งแต่ยังเรียนหนังสืออยู่มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ ถึงไม่ได้บริสุทธิ์ก่อนที่จะแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวเราก็รับได้ หากแต่ว่าไปนอนกับผู้ชายตั้งแต่ยังไม่ถึงวัยอันควรนี่เราบอกตรงๆว่ารับไม่ได้อ่ะ พ่อแม่อุตส่าห์ทำงานหาเงินส่งให้ลูกเรียนคาดหวังว่าลูกจะเป็นเด็กที่น่ารัก เป็นความหวังที่น่าชื่นใจของพ่อกับแม่แต่ลูกกลับตอบแทนความเหนื่อยยากของพ่อกับแม่ด้วยการหาความสุขส่วนตัวไปมีแฟนไปนอนกับผู้ชายเนี่ยมันเหมาะสมหรือ ไม่ว่าสังคมจะเปลี่ยนไปอย่างไร ค่านิยมจะเป็นไปในทางไหน... แต่ถ้าเราพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเราไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายไปมีอะไรกับผู้ชายตั้งแต่ยังเรียนไม่จบอ่ะ มันน่าภาคภูมิใจจะตาย จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ทำได้ และถ้าเราทำได้มันก็น่าจะเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจมิใช่หรือ ปล.เราไม่ใช่คนหลงยุคนะคะแต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่หยิ่งและภาคภูมิใจในคำว่า...ศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงค่ะ จากคุณ : น้องใหม่ร้ายยซะ... (น้องใหม่ร้ายยซะ...) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 08:20:46

ความคิดเห็นที่ 72 จะด่าผู้ผู้ชาย ที่มันไปทำลายความบุริสิทธิ์ใครก็ด่าไปสิครับ แต่นี้หลายคนจะพาลไปด่าผู้ชายที่เค้ามีแฟนบริสุทธิ์ หรือแคร์ความบริสุทธิ์ทำไมกันครับ จากคุณ : D.Boro เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:43:37

ความคิดเห็นที่ 73 ซิง ไม่ซิง บริสุทธิื ไม่บริสุทธิ์ ไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับผม การจะเริ่มต้นกับใครสักคน สิ่งแรกที่คิดคงไม่ใช่ซิงไหมวะ และเมื่อคบหาดูใจกันมา ซิง หรือ ไม่ซิง มันจะเข้ามามีผลอะไรหรือ ผมให้ความสำคัญกับปัจจุบัน และอนาคต มากกว่ามองไปในอดีต เพราะงั้น ถ้าผู้ชายมาบอกว่าแฟนที่เค้าคบหาดูใจมาจนจะแต่งงาน ปรากฎว่าไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ แล้วมันมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเค้า ผมก็จะด่ามันเช่นเดิมนั้นแหละ จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:45:33

ความคิดเห็นที่ 74 แล้วถามจขกท.จริงๆเหอะ ถ้ากระทู้มันเกียวเนื่องกัน ทำไมไม่แตกกระทู้ แล้วไปบอกในกระทู้โน้นล่ะครับ เหมือนผมมา...เมื่อสายยยย จากคุณ : D.Boro เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:46:30

ความคิดเห็นที่ 75 ความคิดเห็นที่ 66 ผู้ชายบางคนสำส่อนมาตั้งแต่ 15 แล้ว.. เวลาจะมีเมีย หนอย..จะเอาสาวบริสุทธิ์... หารู้ไม่ว่า...ที่เมิงเที่ยวไปสำส่อนกับสาวๆนั้น... มานทำให้สาวบริสุทธิ์ลดหน้อยลงทุกวัน... ....................ผมไม่เข้าใจจริงๆนะ ทำไมคนที่ว่าเรื่องนี้ทั้งชายหญิงต้องไม่มีความจริงใจ ยกตัวอย่างสุดโดต่งดื้อๆแบบนี้้ด้วย มีผู้หญิงมีแต่รักนวลสงวนตัวผิดพลาดกับสำส่อน ผู้ชายมีแต่ไม่ทำกับสำส่อน ไม่ทราบทำไมถึงได้พยายามบิดเบือนให้เหลือประเภทแบบจงใจให้บิดเบี้ยวบูดเบี้ยวแบบนั้น จากคุณ : รักเมืองไทย   เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54   """""""""""""""""""""""""""""""""" คห. 66 ของผม... ทำไมคุณหยิบเฉพาะตรงนั้นมาคิดล่ะครับ.. อ่านทั้งหมดน่าจะได้ความหมายมากกว่านั้นนะครับ... ผมน่ะพูดถึงความเห็น จขกท. และกระทู้เก่า ผมแค่จะบอกว่า ตามกระทู้เก่าไม่มีประเด็นเรื่องสำส่อน ไม่มีประเด็นเรื่องเสียตัวตอนอายุ 15 ปี ที่จะทำให้เยาวชนเข้าใจผิดได้ว่า การเสียตัวแต่อายุน้อยๆไม่ใช่เรื่องร้ายแรง คือ กระทู้เก่าผู้ตั้งกระทู้บอกว่าเพิ่งรู้ว่าคนรักไม่บริสุทธิ์แล้วรับหรือทำใจไม่ได้... แล้วก็มีความเห็นของจขกท. มาพูดในทำนองว่าสังคมนี่เพี้ยนไปแล้ว ด่าผู้ชายที่ที่รับไม่ได้ทำไม... ผมก็มาตอบ...จขกท....ลักษณะว่าคนล่ะประเด็นกัน และยกตัวอย่างให้เห็นว่า...ไม่ใช่เรื่องเพี้ยนอะไร ส่วนที่บอกว่าการเสียตัวหรือการบริสุทธิ์ของผู้หญิงก็เพราะผู้ชายนี่แหละ มีส่วนร่วมอยู่ด้วย....ผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์ก่อนแต่ง.. ก็เพราะผู้ชายอีกคนทำไม่ใช่หรือ...มานสุดโต่งตรงไหน.. แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 10:03:00 จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 09:56:15

ความคิดเห็นที่ 76 คุณโบโร่ เราไม่เคยตั้งกระทู้แตกประเด็น เลยลืมนึกไปน่ะ . . . ขอโทษด้วยนะ เท่าที่อ่านส่วนมากจะมีคนมาด่าว่าผู้ชายฟันไปทั่วรุกฝ่ายหญิง แต่กลับไม่ค่อยโทษฝ่ายหญิงที่ยอมตามนํ้า หรือใช่คำว่าให้เพราะรัก แทนที่จะยอมรับว่าใจแตกอยู่ดี . . . สรุปพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านสอนยังไงไม่สนชั้นรักเค้าชั้นยอมหนักหัวใคร? จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:02:57 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 77 ตกลงเราจะมาคุยกันเรื่องผู้หญิงใจแตกก่อนวัยอันควร... ผู้ชายรับได้ไหม...ดีกว่านะ... .......... ผมตอบก่อนเลย... ผมรับไม่ได้.. ผมจะหลีกเลี่ยงผู้หญิงอย่างนี้ ..แต่หากผมรัก...ก็คงไม่หนักหัวใครจริงๆนะ จากคุณ : ข้างบูรพา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:06:33

ความคิดเห็นที่ 78 ขอแชร์ประสบการ ของผมหน่อยละกัน ผมเคยคุยเรื่อง ประมาณกระทู้นี้กับแฟนผม ผมบอกเทอว่า ผมไม่แคร์ว่าคนที่ผมรักจะซิงหรือไม่ ขอแค่เรารักกันก้อพอ เทอบอกว่าเหมือนผมไปดูถูกเทอ เพราะไปหาว่าที่เทอรักนวลสงวนตัวนั้นไม่สำคัญ ผมว่า ที่แฟนผมพูดก้อจริงนะ จากคุณ : Arkkara เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:28:30

ความคิดเห็นที่ 79 ยาวจริง อ่านมั้งไม่อ่านมั้งค่ะ เราก็มีแฟนตอนอายุ 18 ค่ะ แต่โชคดีก็คือ คนในอดีตคือคนในปัจจุบันค่ะ เห็นด้วยกับ จขกท.บางอย่าง แต่ปัจจุบันความคิดวัยรุ่นสมัยนี้เปลี่ยนไป มีสื่อ มีสิ่งยั่วยุอะไรมากมาย แต่เราก็คิดว่าผู้ชายสมัยนี้ก็ไม่บริสุทธิ์เหมือนกันจะไปเรียกร้องให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว มันดูแปลกๆ ทั้งที่สิทธิเราเท่าเทียมกันแล้ว ปล่อยมันไปตามยุคสมัยเถอะค่ะ....ปลง จากคุณ : แค่นี้เหละ (Decemberka) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:29:27

ความคิดเห็นที่ 80 พูดยากนะ ถ้าจะบอกว่าคนที่มีอะไรกันวัยเรียนแต่คบมา้าหกปี (สมมติ) แล้วรักกันจริงจนแต่งงาน ในขณะที่มีวัยทำงานแต่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วบอกว่า วัยทำงานสำส่อนน้อยกว่า ผมว่าไม่สามารถฟันธงแบบนั้นได้หรอก จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:32:45 A:125.25.50.91 X: TicketID:304345

ความคิดเห็นที่ 81 อย่าเราไม่ได้ยอมแต่ถูกขืนใจโดยคนที่เรารัก โดยที่เราไม่ยินยอมละ พอได้แล้วมันก็ไม่รับผิดชอบ คุณจะว่าไงค่ะ มีไหมผู้ชายที่บริสุทธิไม่เคยผ่านมือหญิงใดมาจนถึงวันแต่งงาน ทุกครั้งผู้หญิงไม่ได้เป็นฝ่ายอยากเริ่มก่อแน่ๆ ลองไปอ่านคลินิคคุณหมอนพพรบ้างนะคะ ผู้หญิงเรามีอารมณ์ยากค่ะโดยส่วนใหญ่ต้องบิวเยอะๆกว่าจะยอม ไม่ใช่หนังไทยแค่ไซร์ซอกคอแล้วถ่ายรูปดอกไม้หัวเตียงนะคะ ถามคุณเจ้าของของกระทู้ ทุกวันนี้คุณยังเก็บความบริสุทธิ์ไว้เพื่อรอวันผัวเดียวเมียเดียวหรือเปล่า เราไม่ได้ส่งเสริมให้เด็กเสียตัว แต่ถ้าพลาดมาแล้วความคิดโบราณพวกนี้นี่แหละที่ฆ่าชีวิตหลายคนมาแล้ว จากคุณ : sherykik เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:33:49 A:118.174.174.4 X: TicketID:252138

ความคิดเห็นที่ 82 ก็ดีนะ  มาตรฐานสังคมรักนวลสงวนตัว    สอนลูกชายให้เกียรติไม่ทำลายผู้หญิง  สอนลูกสาวให้อยู่ห่างผู้ชายให้มาก ..ดิฉันมีลูกชาย  ปัจจุบัน    โลกมันเปลี่ยน  ดิฉันกลัยคิดว่าควรจะสอน   ว่า    ต้องระมัดระวังตัวในการมีเพศสัมพันธ์ไม่ให้ติดโรค     ไม่ให้เกิดปัญหาท้องก่อนวัยอันควร.......เพราะในโลกปัจจุบัน.....ดิฉันเชื่อว่า   มันยากที่จะห้ามไม่ให้เด็กผู้หญิง   เด็กผู้ชาย   มีเพศสัมพันธ์   เลยมานั่งขบคิดใหม่ว่า   จะทำอย่างไรให้เด็กๆ    วางตัวได้เหมาะสม   มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย    ปลอดจากภาวะท้องก่อนวัยอันควร เพราะหากการสอนให้รักนวลสงวนตัวในทั้งผู้ชายและผู้หญิง  ไม่ได้ผล    เราควรสอนอะไรต่อไปดีล่ะ ..............คิดๆๆๆๆๆ..........หรือจะพูดเป็นแผ่นเสียงตกร่องให้รักนวลต่อไป    ในเมื่อมันไม่ได้ผล    เราก็ต้องปรับตัวให้อยู่รอดได้ในสังคม.... ...แปลกนะ ....อ่านๆไปทุกความเห็น   ดิฉันกลับอยากได้มาตรฐานการวัดคนที่ความรัก   จิตใจ  นิสัย    เปิดกว้างมากกว่าสังคมที่รักนวลสงวนตัว     ดิฉันคิดว่า    เมื่อเมืองไทย     เปิดโลกกับเซ็กซ์เป็นเรื่องทั่วไปที่ต้องปลอดภัยเป็นมาตรฐานแล้ว    สิ่งที่จะกลับคืนมา   คือความงดงามของจิตใจ    ที่แต่ละคนจะมองหา    โดยมองข้ามผ่านเพศ   ผ่านเซ็กซ์   ไป เคยอ่านทัศนคติเรื่องจิตใจของเกย์  เค้ามีมุมมองความรักที่สวยงามมาก    ไม่ใช่เซ็กซ์เป็นตัวกำหนด   ไม่ใช่การแต่งงาน   ไม่ใช่สังคม  ไม่ใช่ร่างกาย    แต่เป็นจิตใจที่อยู่เป็นเพื่อน    จิตใจที่ได้รักคนดีๆ   สักคน      ข้ามผ่านไปหมดแล้ว     เพียงแค่มีรักดีๆ   มีนิสัยดีๆ   เมื่อวันนึง     เป็นมาตรฐานนั้น     คงจะงดงาม....... จากคุณ : หญิง (น้องหญิงอนัตตา) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:37:40

ความคิดเห็นที่ 83 งดงาม    มากกว่า     มาตรฐาน   ด่าผู้หญิงไม่บริสุทธิ์   ด่าผู้ชายฟันไปทั่ว    ....   มองหาผู้หญิงนิสัยดีๆ   มีความอบอุ่น  พร้อมที่เติมความอ่อนหวานให้ผู้ชาย   มีผู้ชายดีๆ   ที่เข้มแข็ง    ใจดี    ปกป้องดูแลเพศหญิง    เติมเต็มความสมบูรณ์ให้กันและกัน จากคุณ : หญิง (น้องหญิงอนัตตา) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:45:41

ความคิดเห็นที่ 84 ตอบคุณ sherykik ก็ได้นะ จริงๆ ไม่อยากตอบเด๋วจะหาว่าแบ่งฝ่ายชัดเจน -*- แต่ก็ตอบละกันใช่ . . . เรารอวันนั้น :3 ผ่านความเสี่ยงมาเยอะแต่ก็รอดมาได้ตลอด เพราะมีสติมีความยับยั้งชั่งใจคิดถึงพ่อแม่ ไม่ใช่คนไร้โอกาส หรือของเกรดตํ่าที่ไม่มีคนสนใจแต่อย่างใด . . . ปล1. อย่าเอาเรื่องเรามาเป็นประเด็นเพิ่มเติมในกระทู้นี้เลยนะ . . . ปล2. คุณLaevateinn ทายอายุเราได้ใกล้เคียงทีเดียว ^w^ จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:46:47 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 85 ผมว่าสังคมสำส่อนส่วนมาก(หรือเปลี่ยนคู่เป็นปรกติ) ไม่ได้ต้องการผู้ชายให้เกียรติผู้หญิงแต่ต้องการผู้ชายที่รับได้ที่ผู้หญิงผ่านมาก่อนต่างหาก ตรงนี้ต่างหากคือสิ่งที่พยายามสื่อ การที่บอกว่าให้เท่าเทียมกันก็ไม่จริง เป้าหมายก็เอามาอ้างเพื่อให้รับตรงนี้ได้เท่านั้น ความคิดเห็นที่ 82 ผมว่าคนที่รักนวลสงวนตัวหรือคนสมัยโบราณเขาก็รักกัน บริสุทธิ์มากกว่าสมัยนี้ด้วยซ้ำ อัตรการหย่าร้างก็น้อยกว่าเยอะ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:48:38 A:125.25.50.91 X: TicketID:304345

ความคิดเห็นที่ 86 ความคิดเห็นที่ 81 ปรึกษาครอบครัวไปแจ้งความสิครับ ผมว่าต้องแยกกันนะ พวกผ่านมาเป็นเรื่องธรรมดารือคบกันมีอะไรกันเป็นเรื่องธรรมดานี่ ชอบมาอ้างเหมารวมตีเนียน เหมารวมกับพวกที่ผิดพลาดจริงๆอยู่เรื่อย จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 10:50:54 A:125.25.50.91 X: TicketID:304345

ความคิดเห็นที่ 87 ประเด็นของ จขกท ก้คือ "ของแบบนี้อยู่ที่ทัศนคติส่วนตัว ชายใดอยากได้หญิงบริสุทธิ์ก็ไม่ควรโดนตำหนิ" -- เห็นด้วยค่ะ "รณรงค์ให้มี พสพ เมื่อถึงวัยอันควร เพื่อลดปัญหาสังคม" -- เห็นด้วย ถึงแม้จะเป็นประเด็นโดยอ้อม "ค่านิยมเรื่อง เพศ สมัยนี้เปลี่ยนไป ใครเห็นแบบไหนดีงามก็ทำ แ่ต่ก็ไม่ควรตำหนิคนที่คิดไม่เหมือนตัวเอง" -- เห็นด้วยค่ะ เรื่องแบบนี้เป็นปัจเจก ใครใคร่นอน..นอน ใครใคร่ซิง..ซิง ปล เพิ่มเติมให้กิฟคุณ Laevateinn ค่ะ ผ่านทางทู้นี้ พอดีกิฟหมด แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 11:31:57 จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:29:42

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่ว่ายุคสมัยจะก้าวล้ำไปแค่ไหนนะค่ะ แต่เราคนหนึ่งแหล่ะที่จะสอนลูกสาวของเราให้รักนวลสงวนตัวจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน ถ้าลูกเป็นเด็กดีและเชื่อฟังคำสอนแม่น่ะ ไม่ว่าลูกสาวจะไปไหนต้องมีพ่อกับพี่ชายเป็นบอดี้การ์ดเสมอ สู้ต่อไปเพื่อลูกสาวที่รัก จากคุณ : แม่มดน้อย (boontarika) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 11:41:40

ความคิดเห็นที่ 89 กลับไปอ่านทู้ต้นเรื่องก็วุ่นวายยังไม่จบ -*- สรุปแล้วตัวเองหรือคนที่ตัวเองรักเป็นคนประเภทไหนก็จะเชียร์ประเภทนั้น และพยายามมองคนฝ่ายตรงข้ามไม่ค่อยดีทั้งสองฝ่ายรึเปล่านะ เราก็อาจคิดแบบเดียวกันก็เป็นได้ เฮ้อ สุดท้ายมนุษย์ก็คงเห็นแก่ตัวเองมาก่อนเกือบทั้งนั้น . . . จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:01:09 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 90 เป็นธรรมชาติของมนุษย์นะ จขกท เราไม่สามารถบังคับความคิดคนอื่นๆ ได้ให้เห็นดีเห็นงามเหมือนเรา เราว่าสิ่งไหนดี ก็ทำไปเถิด ถ้าไม่ไปล้ำสิทธิ์ของใครเขา เริ่มจากหน่วยเล็กๆ หลายๆ หน่วย ก็คงพอช่วยสังคมได้บ้าง อย่างน้อยๆ เราก็พอรู้ว่า จขกท คงไม่ก่อปัญหาสังคมในเรื่อง เพศ หรือถ้าเกิดพลาดพลั้งก็สามารถแก้ไขได้อย่างมีสติแน่นอน จากคุณ : หวัดดีจ้ะ..ฉิงฉิง เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:05:11

ความคิดเห็นที่ 91 คุณความเห็นที่ 70 เมื่อก่อนผมก็คิดแบบคุณนั่นแหละ คุณรักเมืองไทย ผมจริงจังกว่าคุณสักร้อยเท่าละมั้ง   เคยจะพาผู้หญิงหนีออกจากซ่อง เมื่อตอนอายุ 19 ปี  ทั้งที่เพื่อนก็จ่ายเงินให้แล้ว แต่ก็ได้แต่เข้าไปนั่งคุย  พยายามเก็บรักษาความบริสุทธิ์ไว้  เพื่อคนที่เรารัก ผมมีอะไรกับผู้หญิงครั้งแรกอายุ 29 ปี และผู้หญิงคนนั้นก็เคยแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง ถึงไม่บอกก็รู้เพราะเธอมีลูกแล้ว  และผมก็ให้ลูกของเธอเรียกผมว่าเพื่อนตลอด พาไปเล่นว่าว ไปเที่ยว  เหมือนเป็นลูกเรา  ถามว่าผมไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาเลยก่อนหน้า เธอจะดีใจหรือเปล่าผมก็ไม่รู้  รู้แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเลย  รู้แต่ตอนเช้าไปทำงานไม่ไหวแค่นั้นเอง  และผมก็ไม่ได้บอกเธอเรื่องนี้ (แต่เธอคงรู้แล้ว  หรือไม่ก็เข้าใจว่าผมแกล้งแอ๊บ) ผมไม่อยากอธิบายให้คุณฟังแล้วละ  เชื่อว่าคุณฉลาดพอที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ดี คุณต้องเริ่มที่ความรัก  แต่ไม่ใช่มาเที่ยวบังคับให้ใครต่อใครทำนั่นทำนี่  หรือเป็นให้ได้เหมือนในอุดมคติของคุณ  และคุณก็ต้องเหลือที่ว่างให้กับคนที่ทำผิดพลาดไว้ด้วย เพื่อให้เขาสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข  อย่าลืมนะครับว่าสิ่งที่คุณอยากให้เป็นสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามมันเกิดขึ้นแล้ว   คำถาม  คุณจะทำอย่างไรให้พวกเขาใช้ชีวิตได้ต่อไปอย่างมีความสุข สุดท้าย  คุณต้องมีความรักจริงๆเป็น  ที่ไม่ใช่คนมองอะไรที่ไม่ครบถ้วนและขาดๆด้วนๆแบบนี้  อย่ามองโลกออกจากตัวเองมากไปนักเลย  ... หอกเอ๊ย  มันจะเข้าใจไหมเนี่ย จากคุณ : Ramas เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:25:08

ความคิดเห็นที่ 92 ยิ่ง ผญ ไม่ บริสุทธิ์ มาก ยิ่งแปล ว่า ผช เหี่ย เยอะมาก ไง จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:27:22

ความคิดเห็นที่ 93 นั่นไงมาอีกคนแล้วโยนความผิดทั้งหมดให้ผู้ชายรับไปฝ่ายเดียว . . . นี่หรือความเท่าเทียมที่พยายามรณรงค์กัน จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:34:49 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 94 หน้าตารูปร่างทรัพย์สินเงินทองพฤติกรรมเช่นไรก็คนเหมือนกัน ดีชั่วทางโลก กฏหมายตัดสิน ดีชั่วทางธรรม จารีตศิลธรรมเป็นเกณฑ์ จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:41:22 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 95 แล้วผู้หญิงที่เสียความบริสุทธิ์เพราะถูกข่มขืนหละคะ  ควรถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงใจแตกหรือเปล่า ทั้งที่อยากเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้ไอ้แก่ใจจะขาด  แต่มันเก็บไว้ไม่อยู่ มันพลาดไปแล้ว  มันเสียไปแล้ว  มันเรียกร้องกลับคืนมาไม่ได้ เสียใจกับอดีตที่ผ่านมาทุกวัน  สงสารไอ้แก่ก็สงสาร  ดีที่เค้าไม่ถือไม่สาเพราะก็ไม่บริสุทธิ์เหมือนกันอะนะ จากคุณ : Hank-junk เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:46:47

ความคิดเห็นที่ 96 คุณ Beato พยายามสรุปประเด็นในกระทู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ผมสรุปช่วงนี้ด้วยเพลงละกันครับ แด่ผู้ที่ถูกจงเกลียดจงชัง จากคนที่รักครับ ยิ่งกว่าการฆ่า ถ้าเธอเกลียดฉันแล้วลวงฉันฆ่า ฉันจะไม่ว่า ไม่ว่าอะไรสักนิด เพราะค่าการเกลียด จะต้องล้างกันด้วยชีวิต ฉันจึงขอมอบอุทิศให้ชีวิตที่เธอต้องการ แต่นี่บอกรัก รักฉันล้นใจ แล้วจึงทำไม แล้วจึงทำไมประหาร หรือรักเธอข้น จึงต้องค้นหาสิ่งต้องการ สำเร็จรักด้วยประหารเมื่อวายปราณก็สมรัก ถ้าฉันตายแล้วทำให้เธอเป็นสุข   ฉันก็พร้อมจะสุข สุขเพราะตายให้กับคนรัก แต่นี่ไม่ตาย ไม่ตาย ไม่ตาย มันทรมานนัก ทรมานเพราะรัก  มันทรมานยิ่งกว่าโดนฆ่า แต่ก่อนถ้าฉันรู้ใจของเธอ   ฉันจะไม่เผลอให้เธอทำลายหรอกหนา หัวใจคงหยิ่ง ไม่ต้องสิงซากสิ่งทรมา แม้หนึ่งของหยดน้ำตา ไม่หยาดมาให้ใครเย้ยใจ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 12:52:14 จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 12:51:44

ความคิดเห็นที่ 97 ค่านิยม เรื่องรักนวลสงวนตัว มันเหมือนเป็นดาบสอง ถ้าใช้ไม่ถูกทาง มันจะเป็นอาวุธที่ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น...       คมด้านหนึ่ง อาจช่วยให้ปัญหาสังคมน้อย  แต่คมอีกด้านหนึ่งล่ะ...       คิดง่ายๆ สมมุติว่า ผู้หญิง 70% ในสังคม รักงวนสงวนตัว ไม่ชิงสุกก่อนห่าม โดยถือว่ามันแบบอย่างของผู้หญิงที่ดี และ 30% ที่เหลือล่ะ (อาจพลาดท่าเสียตัวโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้ง) ผู้หญิงเหล่านั้นจะยืนอยู่ในสังคมยังไง เมื่อถูกตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีไปแล้ว             ใช่ว่า...ใม่ควรมีค่านิยมนี้ในสังคม แต่มันควรถูกใช้อย่างเหมาะสม และมีเหตุผล โดยใช้เป็นข้อเตือนใจ มากกว่ามาใช้ตัดสินคน         เรื่องความบริสุทธิ์ ไม่สิ่งสำคัญสำหรับการใช้ชวิตคู่ ความรัก ความเข้าใจ และการยอมรับซึ่งกันและกันต่างหาก ที่จะทำให้ชีวิตคู่ยืนยาวไปจนตลอดรอดฝั่ง แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 14:26:25 จากคุณ : Trata เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 14:25:22

ความคิดเห็นที่ 98 หญิงกับชาย ต่างกันแค่ การอุ้มท้อง จะบอกว่าหญิงมีเซ็กก่อนแต่งไม่ได้  ชายมีได้ มันจะไม่เอาเปรียบกันมากไปหรือ เป็นสิทธิส่วนบุคคล  นะครับ   ส่วนใครจะเลือกเวอรจิน  ก็เลือกไปไม่มีใครเขาว่าครับ แต่อย่าว่า  คนอื่นที่ไม่เวอร์จิน   ความเห็นแก่ตัวอย่างนี้ ไม่ควรมีในสุภาพบุรูษ จากคุณ : แดงเนินพระ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 14:45:31

ความคิดเห็นที่ 99 ผมยังไม่เปลี่ยนความคิดครับ.... (ก็อบมาจาก คอมเม้นต์เก่าในปีที่แล้ว จากกระทู้หนึ่ง) สรุปได้สั้นๆคือ ผมรังเกียจคนมักง่าย แต่ไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจคนที่บริสุทธ์ หรือไม่บริสุทธิ์ คนมักง่ายพวกนี้แหละ ที่เพิ่มปัญหาให้สังคมไม่รู้จักจบจักสิ้น เพราะถ้าเขาพลาดท่าท้องขึ้นมา เชื้อก็ย่อมไม่ทิ้งแถว ลูกเขาก็อาจจะไปทำใครต่อใครท้องอีก หรือไม่ก็ท้องไม่มีพ่อเสียเอง และก็จะเป็นวงจรแบบนี้ ต่อไปอีก เรื่อยๆ ---------------------------------------------------------------------- เห็นความคิดผู้หญิงในนี้หลายคนแล้วอึ้งครับ วัฒนธรรมอยู่ก่อนแต่งบ้าบออะไร เรื่องเพี้ยนๆแบบนี้กลายเป็นวัฒนธรรมไปแล้วหรือ ไม่รู้น่ะ.. เดี๋ยวนี้สำหรับผู้หญิงมันไม่มีแล้วหรอครับ ความคิดที่ว่า ของขวัญชิ้นสำคัญ ฉันจะมอบให้เป็นของขวัญในวันแต่ง หรือ ถ้าเขารักฉันจริงเขาต้องรอได้  หรือการที่เขาแต่งงานกับฉัน หมายความว่าเขาพร้อมที่จะรับผิดชอบฉัน เพราะอย่างน้อยการแต่งงานก็เป็นหลักประกันได้ว่าทุกสิ่งที่เขาทำมา มันก็มาจาก "ความรัก" มากกว่าอารมณ์หลงชั่ววูบ อีกอย่าง เมื่อถึงวันแต่ง ถ้าหากคนที่คุณแต่งด้วย มันไม่ใช่คนเดียวกับคนที่คุณเสียไปครั้งแรก ถ้าเขาคนนั้น เป็นคนแบบที่ผู้หญิงเรียกว่าใจกว้างก็แล้วไป.. แต่ถ้าเขาเป็นแบบที่ผู้หญิงเรียกว่าใจแคบ (ซึ่งน่าจะมีอยู่มากซะด้วยในสังคมนี้..) คุณจะกล้าบอกความจริงกับเขาไหมว่าฉันไม่ซิง แน่นอนว่าหลายๆคนคงเลือกที่จะไม่บอก แต่จะไม่รู้สึกอะไรกันเลยหรอครับ จะไม่ทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ที่ต้องปกปิดเรื่องนี้ให้เป็นความลับเลยหรือ หรือว่าการที่ได้เห็นสามีตัวเองเป็นควาย มันเป็นความสุขอย่างหนึ่ง หรือเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่ง วกมาที่อยู่ก่อนแต่งอีกที ถามว่าดีไหม.. สำหรับฝ่ายชายดีแน่ครับ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก เบื่อก็เลิก หาใหม่ ไม่มีข้อผูกพันธ์ เหอๆๆ สำหรับหญิงล่ะ ดีไหม ถ้าถามผม ผมก็ว่าดีเช่นกันครับ เพราะผมไม่อยากขัดใจใคร แต่ถ้าคนถามเป็น พี่สาว น้องสาว หรือลูกสาว ผมจะตอบว่า ไม่ดีที่สุดครับ แต่ถ้าเป็น คบหาดูใจกันก่อนแต่ง แบบนี้จะดีทั้งสองฝ่าย... ไม่ต้องเสียหาย ไม่ต้องผูกมัด และยังได้ศึกษากันไปด้วย ว่าเข้ากันได้หรือไม่ คนสมัยนี้ เพราะใจกันง่ายจนเกินไป เห็น sex เป็นเรื่องสนุก เป็นเรื่องธรรมชาติ เลยปล่อยให้สัญชาติญานมันอยู่เหนือเหตุผล สามัญสำนึก ปัญหาครอบครัวมันถึงได้วิกฤตเหมือนเช่นทุกวันนี้ ก็นั่นแหละ.. เธอก็มันส์ฉันก็ชอบ จะคิดให้ปวดหัวทำไม... แต่ถ้าหากทุกอย่างมันไม่ลงเอย ไปแบบที่คาดหวังหล่ะ ใครล่ะซวย ฝ่ายหญิงหรอ ไม่หรอก ฉันก็มันส์เหมือนกันนี่ ชายหรอ ไม่หรอก หาใหม่ได้ ผู้หญิงบนโลกมีมากกว่าชาย 3เท่า ชิลๆ ไม่มีใครซวย น้ำแตกแยกทาง แตกก็แตกด้วยกันทั้งคู่ เว้นเสียแต่ว่าจะมีลูกด้วยกันแล้ว  นั่นแหละ คือ คนที่ซวยตัวจริง เพื่อนๆผมที่เคยๆเห็นอยู่กันก่อนแต่ง คบกันในวัยเรียน ประเภทที่ว่า แบมือขอตังค์พอแม่แล้ว ยังมาแบให้้ให้แฟนเอาอีก จนถึงวันนี้  มากกว่า 90%  เลิกรากันไปหมดแล้ว ข้อเท็จจริงนี้ ช่วยยืนยันทฤษฎีของผมได้ ว่าการอยู่ก่อนแต่ง ส่วนใหญ่ มันเป็นความต้องการที่เกิดจากความใคร่ ไม่ใช่ความรัก เน่าพอแล้วหรือยังครับ สังคมวันนี้... ลองตรองดู วัฒนธรรมมักง่ายแบบฝรั่ง มันช่วยให้สังคมไทยๆ น่าอยู่ขึ้นมากมายจริงๆ หรือเปล่าครับ วัฒนธรรมไทยที่ดีอยู่แล้ว ถูกมองว่า ไอ้หัวโบราณ ไอ้เชย ดักดานอยู่ได้ เปิดตาขึ้นมาดูความจริงซะเถอะ  เอาเข้าไปสิ..... ปู่ผม ย่าผม ตาผม ยายผม และพ่อผม แม่ผม ก็เพราะวัฒนธรรมดักดานพวกนี้แหละ เขาถึงได้อยู่กันจนตายไปข้าง โดยที่แต่งงานกันครั้งเดียว... สำหรับผู้ชายอย่างผม ถ้าให้ต้องแต่งงานผู้หญิงที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ แต่งกับกระหรี่ยังดีกว่าครับ ถ้าคิดว่าความสำคัญของภรรยามีแต่เรื่องอย่างว่า แต่งกับมืออาชีพดีกว่า.. อย่างน้อยๆ เธอก็ยังรู้จักเอาอกเอาใจ กว่าคนธรรมดาหลายขุม และที่สำคัญไม่ต้องมาคอยนึกระแวงว่า ยังมีเรื่องอะไรเขาปกปิดเราอยู่อีกว่ะ หลับหลังเรา เขาจะเปิดท้ายครัวให้ใครตี หรือเปล่าว่ะ ฯลฯ ปัญหาการเสียตัวก่อนแต่ง มันไม่ได้เกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มก่อน เริ่มทีหลัง... แต่มันเกิดจากความต้องการของสองฝ่าย คือฝ่ายชายไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิง แล้วฝ่ายหญิงก็ไม่ให้เกียรติตัวเอง  ทุกอย่างมันเลยไปลงเอยที่บนเตียง.... 4 เมษายน 2553 แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 15:16:15 จากคุณ : สหายกุนเชียง เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 15:04:01

ความคิดเห็นที่ 100 คุณสหายกุญเชียงเขียนได้ดี ตรงไปตรงมากว่าที่เราโพสๆไปตั้งเยอะ . . . คนเราส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิดกันหรอก ย่อมหาข้ออ้างมาอธิบายการกกระทำของตัวเองต่างๆนาๆ สุดท้ายสาวๆทั้งหลายที่เถียงว่าตัวเองไม่ผิดพวกชั้นไม่ผิด เคยตามพ่อแม่ปู่ย่าตายายหรือ เคยบอกพวกท่านไหมว่า หนูจะ xxx กะแฟนแล้วนะคุณแม่ไม่ว่านะ มันเป็นเรื่องธรรมดาใครๆ เค้าก็ทำกันไม่ต้องรอแต่งหรอก โอ้ยแต่งไปถ้ามันจะเลิกก็ต้องเลิกอยู่ดีแหละน่า คุณแม่ไม่ต้องห้ามหนูนะอย่าหัวโบราณนักเลยหนูรักเค้าหนูไม่ผิดน้า . . . จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 15:13:20 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 101 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ ต้องแยกแยะประเด็นให้ออกครับ จขกท. ต้องการสื่ออะไร จากคุณ : ทางผ่าน เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 16:03:29 A:124.120.42.236 X: TicketID:274062

ความคิดเห็นที่ 102 Beato แกยังเคยบอกว่าแกเสียภาษีให้ทหารแล้วทหารรักษาฐานแคนี้ทำไม่ได้ ทีแกยังคิดยังงี้เลยแล้วทำไมคนอื่นจะมีความคิดต่างหลากหลายไมได้ฟร่ะ จากคุณ : ผมจะมีแฟนสิบคน เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 16:31:38

ความคิดเห็นที่ 103 ถ้าลูกผม ผมจะบอกว่าถ้าช่วงเรียนอยู่ ห้ามมี แกยังใช้ตังค์ชั้นอยู่ แกยังดูแลตัวเองไม่ได้เลย อย่าสะเออะเอาตังค์ชั้นไปหลงระเริง จำไว้ จบแล้ว ทำงาน เอาเล้ยยแต่คิดให้ยาวละกัน และยอมรับผลที่ตามมาด้วยนะ สิ่งสำคัญที่สุดที่ห้ามลืม แกไม่ได้อยู่อเมริกา แกอยู่ในสังคมกดขี่หญิงที่ฝังรากมาเป็น 100 ปีแล้ว มันขมขื่นแต่มันเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ยอมรับตรงนี้ซะก่อนจะไปมีอะไรกะใคร แค่เนี้ยะ เชิญญญ จากคุณ : la..la..means เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 17:24:01

ความคิดเห็นที่ 104 จะว่าไปผมก็ยินดีกับเจ้าของกระทู้นะครับที่มีแนวทางที่ดีในการดำเนินชีวิต แต่อย่าไปจริงจังให้มากนะครับ  การเข้ามาโพสต์ในที่ที่ไม่ได้ห้ามคนนอกอ่านหรือเขียนตอบ โดยมีการแสดงทรรศนะ  เชื่อว่า ณ ที่นี้คงไม่ได้ข้อสรุปในเชิงปฏิบัติ  แต่อาจจะได้ข้อสรุปในเชิงความคิด  ซึ่งทุกๆท่า่นที่เข้ามาอ่านก็จะได้แง่ที่เราหลงลืมหรือไม่เคยได้รับรู้กลับไปคิดต่อ ....ยาวไปแล้วละ...ไม่อยากพิมพ์แล้ว แต่อย่างที่บอกนะครับ  บางครั้งเราผ่านจุดที่คุณกำลังคิดอยู่มาแล้วช่วงนึง  มันก็เหมือนน้องชายมาขอคำปรึกษาว่า  "จะทำอย่างไรดีพี่  ผมรักผู้หญิงคนนึงแต่เขาเคยมีแฟนแล้ว เธอจะยังบริสุทธิ์หรือเปล่า" ผมก็จะตอบว่า  หอกเอ้ย  เองไปอยู่ถ้ำไหนมา  ถ้ารักกันจริงก็แค่ตรวจเลือดก็พอแล้ว ทางผ่านไม่สำคัญเท่าสิ่งที่ฝากเอาไว้ในเลือดหรอก  มันรีแพร์ได้ อยากได้บริสุทธิ์ผุดผ่องก็ หอยกระป๋องกับตุ๊กตายาง  สั่งทางเน็ตให้เกลื่อน ถ้าความคิดของเจ้าของกระทู้ไม่ใช่การต่อต้านอย่างรุนแรง  แต่เป็นแนวทางแนะนำให้เราเห็นดีเห็นงาม  ผมก็ชื่นชมครับ  ก็อยากให้น้องชายเป็นแบบนี้เหมือนกัน  ก็คงต้องให้เขาเข้าใจด้วยตัวเอง  เราบอกไปก็ไม่เท่ากับเจอด้วยตัวเอง ขออวยพรให้เจ้าของกระทู้เจอผู้หญิงที่ดีจนทนไม่ได้ที่จะต้องขอแต่งงาน...แต่ไม่ซิง จากคุณ : Ramas เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 17:24:58

ความคิดเห็นที่ 105 แต่ที่ผมอ่านมานะ ผมเห็นด้วย กะ จขกท 100% ผมไม่ได้ต้องการสาวซิง แต่ผมแค่อยากรู้เหตุผล ว่าเหตุใดถึงไม่ซิง(อันนี้ส่วนตัว อาจจะไม่ถูกใจใคร) ผมเป็นสุภาพบุรุษพอตัว ที่จะไม่ต้องการผู้หญิงเวอร์จิ้น เพราะผมถือว่าเท่าเทียมกัน แต่ก็ไม่ชิลล์ถึงขนาด เธอผ่านมาเป็น 10 เป็น 100 (จากความสนุกสนานของเธอ)แล้วรับได้ พวกที่บอกว่า ชิลล์ๆสวยๆเริ่ดๆอย่าได้แคร์ ไม่มีแล้วสาวบริสุทธิ์ แบบนี้ แล้วพยายามยัดไอเดียนี้ลงในบอร์ดสาธารณะ ผมว่า....เค้าหาพวกและปลอบใจตัวเองรึป่าว จากคุณ : la..la..means เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 17:34:25

ความคิดเห็นที่ 106 สำหรับหลายๆ คน การแต่งงานกลายเป็นสิ่งจอมปลอมเสียแล้ว เพราะไม่ได้เป็น หลักประกันอะไรทั้งสิ้น ดูจากหลายๆ กระทู้ที่ปรากฏในห้องศาลาประชาคม ใน เวปบอร์ดต่างๆ ตามหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่คนรอบข้างของเรา ที่มีชีวิต การแต่งงานที่ล้มเหลว แม้แต่ราชวงศ์อังกฤษ กรณีของฟ้าหญิงไดอาน่าก็ตาม ผู้หญิงหลายๆ คนจึงมองข้ามการแต่งงานไป เพราะไม่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์อะไร ความไม่เชื่อใจในความซื่อสัตย์ของผู้ชาย คำพูดที่ว่าจะได้สามีดีๆ สักคนก็เหมือนกับ ถูกหวย ความเจ้าชู้ประตูดินของผู้ชายไทยสมัยก่อน การเผยแพร่ของวัฒนธรรมเสรี จากสื่อต่างๆ การเอาอย่างต่างๆ ข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ การบีบบังคับของครอบครัว ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคู่รักในปัจจุบันไม่เลือกที่จะแต่งงานอีกต่อไป โลกในความเป็นจริงไม่ใช่เทพนิยาย อัศวินขี่ม้าขาวมีแต่ในความฝัน เมื่อมองตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสมัยอดีตหรือปัจจุบันการที่คู่แต่งงานจะอยู่ ด้วยกันจนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ไม่ใช่เรื่องง่าย คนสองคนถูกเลี้ยงมา จากครอบครัวที่เหมือนกันยังมีความคิดเห็นที่ต่างกัน นับประสาอะไรกับคนสองคน ที่เพศ ต่างกัน แล้วครอบครัวก็ต่างกันด้วย จะมีความคิดเห็นที่ลงรอยกัน คุยกันรู้เรื่อง อุปนิสัย หลายๆ อย่าง ที่ไม่ได้เห็นกันก่อนแต่งงาน ก็เริ่มเผยออกหลังแต่งงาน ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็ต้องทนอย่างเดียว เพราะทางเลือกมีไม่มากสำหรับผู้หญิง แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว เมื่อผู้ชายไม่ดี ก็ไม่จำเป็นต้องทน ท้ายสุดวัดกันที่ว่าแต่ละคู่มีความรักที่ให้ต่อกันมากน้อย แค่ไหน ไม่ว่าจะแค่เป็นแฟนกัน หรือแต่งงานกันแล้ว ความเสี่ยงเรื่องเงิน ชื่อเสียง หน้าตา ของฝ่ายหญิงดูจะน้อยกว่า ถ้ายังเป็นแค่แฟนกัน เพราะถ้าแต่งงานแล้วหย่า เสียไปหลายเรื่อง แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงินค่าจัดงานแต่งงาน ชื่อเสียง หน้าตาที่ป่าวประกาศบอกชาวบ้านเขาไป ทั่วตอนแต่งงาน ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้หลายคู่เลือกที่จะอยู่กันก่อนแต่ง เป็นอีกรูปแบบ หนึ่งของการเรียนรู้ชีวิต การเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ในสังคมปัจจุบัน จากคุณ : ก (FireFox_GTC) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 17:35:00

ความคิดเห็นที่ 107 หวาดดี คุณผมจะมีแฟนสิบคนคิดไว้เหมือนกันว่าคงมีโอกาสเจอคุณในกระทู้นี้ เพราะคุณประกาศจองเวรเราเอาไว้นี่นา :3 คนอื่นเห็นต่างเราก็ไม่ได้ด่าทอเค้าแบบที่คุณด่าเรา ไม่ได้ขู่อาฆาตจองเวรคนเห็นต่างเหมื่อนที่คุณประกาศจะจองเวรเรา . . . ยังไงก็ยินดีตอนรับจ้า จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 18:04:32 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 108 คุณ FireFox เอาแต่ประสบการณ์ตัวเองมาตัดสิ้นคนทั้งโลกคงไม่เหมาะเท่าไรมั้ง คู่ที่สมหวังยังมีอยู่มาก อัศวินม้าขาวก็ยังมีอยู่จริง ผู้ชายดีๆ ผู้หญิงดีๆ ก็ยังมีอยุ่จริง อย่าเอาสีดำในใจตัวเองมาป้ายให้สังคมสิ . . . แทนที่จะยกตัวอย่างคู่ดีๆ มาให้สังคมเห็น กลับยกแต่ตัวอย่างแย่ๆ มาแล้วบอกว่าสังคมนี้มันเน่าเฟะ หรือนี่จะเป็นยุคถิ่นกาขาว กระเบืองลอยนํ้า นํ้าเต้าจมนํ้าจริงๆ จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 18:09:02 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796

ความคิดเห็นที่ 109 ถ้าเป็นสมัยก่อนรุ่นคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย การอยู่ก่อนแต่งมีน้อยกว่าในปัจจุบัน แน่ เพราะมีวัฒนธรรมการคลุมถุงชน ที่ผู้ใหญ่เลือกคู่ให้ลูกหลานได้แต่งงานกัน ด้วย วัตถุประสงค์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านธุรกิจ (ขยายหรือผนวกกิจการครอบครัว) ด้านความมั่นคงในอนาคตของลูก (จากการมีข้อมูล ครอบครัวของอีกฝ่าย ดูแล้วว่าน่า จะเลี้ยงดูลูกสาว หรือเป็นศรีภรรยาให้กับลูกชายได้) หลายคู่อาจได้อยู่อย่างมีความสุข จากการจับคู่คลุมถุงชนแบบนี้ แต่บางคู่ก็ไม่ใช่ เพราะถือว่าไม่ได้รักกัน แต่ถ้าความเชื่อ คนสมัยก่อนคืออยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเองแหละ ข้อดีของการมีผู้ใหญ่เลือกให้แบบนี้ก็มี อยู่ เพราะเป็นการพิจารณาของคนหลายคน มักจะเลือกจากความเหมาะสมเป็นสำคัญ จริงๆ อาจจะดีสำหรับการอยู่ด้วยกันในระยะยาว เพราะมีโอกาสสูงที่อุปนิสัยจะไปกันได้ แต่ก็ไม่จริงเสมอไป ส่วนในยุครุ่นพ่อ และรุ่นแม่ ความอิสระเสรีมีมากขึ้น วัฒนธรรมการคลุมถุงชน กลาย เป็นสิ่งโบราณ ชายหญิงสามารถเลือกคู่รักได้เอง แต่อย่างไรก็ตามทางเลือก การพบ- ปะผู้คนหลากหลายก็ยังมีจำกัด ด้วยข้อจำกัดทางด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และข้อ บังคับทางสังคม การใช้ชีวิตของคู่แต่งงานที่ฝึนใจอยู่เพื่อลูกเริ่มเป็นที่รับรู้ในสังคมวง กว้าง จากการพัฒนาสื่อสารมวลชน อย่างสื่อโทรทัศน์ ส่วนในยุคของรุ่นเราและลูกหลานเรา ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีเป็นไปอย่างก้าว กระโดด ช่องทางการติดต่อสื่อสาร เป็นไปอย่างฉับไว ไร้พรมแดน เกิดการแลกเปลี่ยน วัฒนธรรมอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์อะไรหรือแนวความคิดอะไรจากมุมโลกหนึ่งสามารถ ถูกส่งต่อไปถึงอีกมุมโลกหนึ่งได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที ทางเลือกในการดำเนินชีวิตมี มากมายหลากหลายแบบ แนวคิดสังคมทุนนิยมและวัตถุนิยมแพร่กระจายไปอย่างกว้าง ขวาง แต่น่าเสียดายที่่จิตใจคนก็ไม่ได้พัฒนาตามทันไปด้วย ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องด่วน ไปหมด การตัดสินใจเร็วๆ มักจะได้อะไรที่ไม่ดี การเลือกคู่ครอง คนรักอย่างฉาบฉวย ดูเพียงผิวเผิน ย่อมเพิ่มโอกาสของความล้มเหลว แต่มีดีอยู่อย่างหนึ่ง คือได้เลือกเอง ได้ตัดสินใจเอง และมีส่วนรับผิดชอบต่อการตัดสินใจนั้น ไม่ว่าจะส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 18:15:13

ความคิดเห็นที่ 110 ความเห็นส่วนตัว.. ไม่อยากขวางกระแสน้ำเชี่ยวกรากเลย แต่ก็ไม่อยากให้คุณ Beato โดดเดี่ยวเพียงลำพัง ผู้ชายที่ต้องการผู้หญิงบริสุทธิ์ ไม่ใช่คนใจแคบ --  เค้ามีสิทธิ์เลือกเจ้าสาวของเค้า ผู้หญิงที่เคยผ่านผู้ชายมาแล้ว ก็ไม่ใช่คนเลว -- เพราะนั่นคือการตัดสินใจของเธอเอง คนสองคนจะมีอะไรกัน..มันเป็นความยินยอมพร้อมใจ..มิใช่หรือ... ตอนมีอะไรกัน ก็สุขซึ้งตรึงใจ กำซาบซ่านในความรัก..มิใช่หรือ เมื่อผู้หญิงเรา..เลือก..ที่จะมีอะไรกับผู้ชายก่อนแต่งงาน ก่อนการผูกมัดกันทางสังคมและประเพณี.. ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่า..สังคมนี้ไม่ได้มีผู้ชายที่ "รับได้" ทุกคน... นั่นคือ..ผู้หญิงยอมรับแล้วไม่ใช่หรือว่า..หากในอนาคต ความรักของคุณกับผู้ชายที่คุณเคยมีอะไรด้วยไม่ไปถึงฝั่งฝัน.. แล้วต้องเลิกรากัน อนาคตเธออาจจะพบเจอใครคนใหม่ที่รักได้มากกว่า.. แต่ก็มีความเสี่ยงว่า ผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนที่ "รับ" ในแบบที่เธอเป็นได้หรือไม่... หากเธอได้พบเจอกับคนที่รักเธอได้ในแบบที่เธอเป็น ก็สร้างชีวิตคู่ขึ้นมาใหม่อย่างมีความสุข หากไม่.. เธอก็ควรจะต้องตัดใจจากชายคนน้น...และจากไปโดยดี..ไม่ใช่หรือ.. ทำไมผู้หญิงถึงต้องทำราวกับตัวเองช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน ราวกับได้ประสบชะตาชีวิตเลวร้ายมาแล้วยังถูกคนที่เธอรักซ้ำเติม... หรือกระทั่งก่นด่าผู้ชายที่เค้าไม่ได้เปิดกว้างในเรื่องนี้ว่าใจแคบด้วยล่ะคะ... ตลกน่า ทั้งนี้..หากในกรณีที่ผู้หญิงถูกข่มขืนมาก่อน นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่งนะคะ.. ซึ่งเราว่า..ผู้ชายทุกคนย่อมเข้าใจได้ว่า.. กรณีเช่นนี้เป็นเหตุสุดวิสัย และสมควรได้รับความเข้าใจและเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง.. เราคิดว่า..ผู้ชายบางคนที่พยายามอธิบายในกระทู้ก่อนๆ นี้ไม่ได้แคร์ไอ้เยื่อบางๆ นั่นหรอกค่ะ ไม่แคร์หรอก.. มันจะขาดหรือมันจะยังอยู่ ...ที่เค้าแคร์มากกว่า ก็คือ..แนวความคิดของผู้หญิงที่เค้าคบด้วยต่างหาก... เค้าไม่ได้ต้องผู้หญิงที่มีเยื่อบางๆ นั้นไว้สำหรับผ่านเข้าไป.. แต่เค้าต้องการผู้หญิงที่มี "วิธีคิด" ในอีกแบบเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ได้มาจากแนวคิดแบบนั้นต่างหากที่ทำให้ผู้หญิงบริสุทธิ์ยังคงบริสุทธิ์อยู่จนถึงวันที่เค้าได้เจอ... ........................................ หรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกัน.. จะไปต่อว่าคนที่มีรสนิยมความชอบต่างจากคุณไปทำไมกันคะ เรื่องของความรัก..มันไม่ใช่เรื่องปัจเจกหรอกหรือ.. ใคร..ใคร่รัก...รัก ใคร..ใคร่ชัง..ชัง เหตไฉนจึงยังต้องคอยชี้นิ้วบอกใครต่อใครว่า.. ถ้าคิดอย่างนี้ ใจกว้าง ถ้าไม่คิดอย่างนี้ ใจแคบ ตลกน่า   จากคุณ : เจ้าหญิงน้อยรสส้ม เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 18:19:12

ความคิดเห็นที่ 111 #108 ทุกอย่างเป็นตามที่เห็นและเป็นไปจากประสบการณ์ครับ และเป็นการพยายามอธิบาย "ปรากฏการณ์" ที่หลายท่านสงสัยว่า ทำไมหลายคนถึงเลือกที่จะอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง ทำไมถึงไม่แต่งงาน แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วการอยู่ด้วยกันก่อนแต่งนั้น จะนำมาซึ่งความ- ทุกข์ใจอย่างที่สุดก็ตาม แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 54 18:27:43 จากคุณ : FireFox_GTC เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 18:25:03

ความคิดเห็นที่ 112 ดีใจจัง ที่มีคนเข้าใจเรา ขอบคุณมากจริงๆ T^T ขอบคุณหลายๆ ความเห็นที่แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่ก็เข้าใจสิ่งที่เราสื่อไปถึุง แต่สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจสิ่งที่เราพยายามจะสื่อออกไป เถียงหัวชนฝา ฝ่ายตัวถูกเสมอ ฝ่ายตรงข้ามต้องใจแคบเห็นแก่ตัวเสมอ ขอความกรุณา ให้อ่านที่เราโพสทุกโพสดีๆนะคุณคนที่เข้ามาด่าว่าทั้งหลาย ว่าเราต้องการสื่ออะไร . . . ถ้าไม่เข้าใจยังไงก็คุยกันดีๆได้ เราพร้อมคุยด้วยเหตุด้วยผล เราไม่ใช่คนไร้เหตุผลไม่ใช่คนที่ผลักฝ่ายตรงข้ามให้เป็นคนชั่วคนเลว คุยกันดีๆ ก็ได้ ^w^ จากคุณ : Beato เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 54 18:28:30 A:223.206.218.168 X: TicketID:285796