ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากนั้น ผมก็ได้คุยกับแฟนผม เล่าเรื่องทั้งหมด จนแฟนผมเอาทองของแม่ไปซ่อน และผมก็ถามแฟนว่า ขายตรงเป็นของอะไร แฟนผมบอกว่า เป็นของ BHIP อยู่ตึกเอมไพร์สาทร ชั้น 36 หรือว่า 38 นี่แหละครับ ผมก็เลยหาข้อมูลใน google ก็ไปเจอแต่คนบ่นว่าหลอกลวง เสียเงินไปเยอะทั้งนั้น เพราะมันจะมีกลุ่มคนที่ชักชวนนั่นแหละ ผมก็เลย print ไปให้แม่แฟนและน้องแฟนอ่าน ตอนที่น้องแฟนอ่าน ก็หัวเราะ หึๆๆๆ (เหมือนโดนอะไรสิงเลย)  แล้วก็ทำเป็นไม่สนใจ และเรื่องก็เงียบไป จนถึงวันนี้ เมื่อครู่ แฟนผมโทรมาร้องไห้ ว่าน้องแฟนบอกให้แม่ไปกู้นอกระบบที่บ้าน (บ้านแฟนอยู่ตจว.จะกลับช่วงสงกรานต์นี้) และแม่แฟนยอมจะไปกู้ให้ก่อนอาทิตย์นี้  กู้อีก 20000-30000 ซึ่งมันจะคิดดอกเป็นรายวัน ผมก็จะไปคุย ซึ่งมันก็คงได้คำตอบเดิมคือ แม่ก็หนักใจ จะให้แม่ทำยังไง ว่าผมไม่เข้าใจแม่หรอก และลงเอยด้วยการตามใจลูกชายคนโปรด และของก็ตุนอยู่ในบ้านนั้นเป็นหลายสิบชุด น่าจะเกือบๆ 40-50 ชุดได้ ขอคำแนะนำครับช่วยที ผมควรจะไปที่Bhipเองเลยหรือเปล่า เพราะสงสารแฟนมาก ไม่อยากให้มาหมดตัวกับของแบบนี้เลยครับ เงินที่ครอบครัวแฟนเก็บกันมา จะต้องมาหมดกับอะไรแบบนี้เหรอ ช่วยหน่อยนะครับเพื่อนๆ  ขอบคุณครับ จากคุณ : จอมยุทธหมูบิน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:51:13

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าคุณยังห่วงสถานะภาพของตัวเองในครอบครัวนี้อยู่ ให้ถอนตัวออกมาซะ ของแบบนี้ต้องให้เรียนรู้เองเจ็บเอง ยิ่งคุณไปพูดมากมายน้องแฟนจะมองว่าคุณถ่วงความเจริญเค้า ส่งผลต่อความสัมพันธ์กันในอนาคต ถ้าไม่ถึงกับขายบ้านขายที่ ก็ปล่อยมันไป จากคุณ : Natural29 เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:52:55

ความคิดเห็นที่ 3 ขอโทษค่ะ แฟนหรือเมียคะ  ถ้าเป็นแค่แฟน เราว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวเขานะคะ ถึงแม้คุณจะพูดด้วยความหวังดี แต่คุณก็ได้สร้างศัตรูไปแล้ว คือน้องแฟน  แต่ถึงแม้เป็นเมีย เราก็ยังว่าไม่เหมาะที่จะไปพูดเอง นอกจากพูดกับเมีย แล้วให้เมียไปพูดกับแม่ ถ้าเขาฟังก็ดี แต่ถ้าไม่ฟัง ก็คงต้องปล่อยไป เพราะรักและตามใจกันมากเหลือเกินนี่นา คุณก็ดูแลตัวเองและแฟนให้ดีนะคะ เรื่องเงินที่แม่ให้ไป รวมทั้งไปกู้นอกระบบด้วย คุณก็เตรียมตั้งรับให้ดี ดูว่าช่วยอะไรได้แค่ไหน เอาแค่ที่เราไม่เดือดร้อน นอกนั้นให้เขาจัดการกันเองเถอะค่ะ ว่าแต่ พ่อเขาไม่ว่าอะไรเลยรึ.... จากคุณ : เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:59:03

ความคิดเห็นที่ 4 ค.ห.2 กำลังจะแต่งงานครับ ต้นปีหน้า ลืมเล่าเรื่องพ่อเค้าไปครับ แฟนไม่ให้พ่อรู้ครับ เพราะพ่อจะด่าหรืออาจะทำรุนแรงกับแม่ สุดท้าย แม่ก็จะแอบเอาเงินให้น้องอีก ไม่มีวิธีหยุดน้องเลยเหรอครับ แฟนผมเครียดมากเลย ผมก็จะให้แฟนผมไปพูดครับ มีแค่ผมพูดกับแม่เค้าแค่นั้น ยังไงก็ขอบคุณนะครับ ตอนนี้มันจวนตัว ไม่อยากให้กู้นอกระบบจริงๆ จากคุณ : จอมยุทธหมูบิน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:04:28

ความคิดเห็นที่ 5 น้องแฟนคุณโดนล้างสมองซะแล้ว พูดอะไรก็ไม่ฟังหรอกตอนนี้ จริงๆ แล้วก็ไม่รู้จะช่วยเค้าได้ยังไงอ่ะนะ กู้เงินนอกระบบน่ากลัวจะตาย เราว่าคุณพยายามเต็มที่แล้วล่ะที่จะช่วยเค้า ปล่อยไปตามเวรตามกรรมละกัน เงินที่ลงทุนไปแล้วนั่นอ่ะ มันสูญเปล่าแล้วละ ไม่ได้ทุนคืนหรอก เมื่อไหร่ขายตรงหลอกลวงพวกนี้จะหมดไปซะทีก็ไม่รู้ ตำรวจน่าจะกวาดล้างให้หมด จากคุณ : ผู้หญิงร้าย เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:04:56

ความคิดเห็นที่ 6 ผมอ่านดูแล้ว เหมือนครอบครัวเค้า มีปัญหาหนักหนาสะสมอยู่หลายอย่าง แต่ละอย่างแก้ไขยาก ๆ ทั้งนั้น และบางอย่างเราได้แต่คิด แต่จะทำเองเลยก็ไม่ได้ แนะนำให้ หลบ ให้ หนี ให้หลีกเลี่ยงให้มากที่สุด มันไม่ใช่หน้าที่ ว่าที่ลูกเขยที่จะต้องตามไปแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ต้องแบ่งกันส่วน อย่าให้มารบกวนถึงเรา และแฟนเราได้เป็นดี มองดูแล้วคุณเข้าไปยุ่งมากไป จะเสียหายมากกว่าจะได้ผลดีอะไรกลับมา คุณทำดีก็ได้แต่แนะนำเท่านั้น การตัดสินใจ ขึ้นอยู่กับคนในบ้านเค้า แต่ผมอยากให้ กระซิบบอกพ่อเค้าเหอะครับ แม่จะโดนไปบ้างก็ต้องยอม ไม่งั้น แม่จะได้ใจ ให้ลูกชายจนหมดตัว อันตรายหนักกว่าที่เราคาดอีก หลังจากนั้นพ่อจะฆ่าแม่ตายอีก ........... คุณดูละกัน นี่ผมแค่สมมุติเท่านั้น มันน่ากลัวแค่ไหน ผมจึงแนะนำว่า หลบ หลีก หนี อยู่ให้ห่าง ๆ ไว้ พูดแนะนำเบา ๆ แค่นั้นพอครับ ถ้าคิดว่าเริ่มมีปัญหาหนักจนเรารับไม่ไหว เผ่นครับ.. น้องแฟนคุณกับแม่แฟน หลังจากเรื่องนี้ ในอนาคตน่าจะก่อเรื่องอื่ืนต่อได้อีกครับ เตรียมใจไ้ว้บ้างก็ดี ขอให้โชคดีมีชัย จากคุณ : เต่าน้อย/taonoi_@hotmail.com (เต่าน้อย) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:48:36

ความคิดเห็นที่ 7 บอกพ่อแฟนครับ ปัญหานี้ มันหนักเกินกว่า คุณจะแก้ปัญหาแล้ว หรือไม่ก็ บอกคุณแม่ดูก็ได้ ว่า แม่สนใจขายบ้านขายรถไหม จะได้เอาไปให้ลูกชายลงทุน จะทำทั้งที เอาให้สุดๆไปเลย ห้ามไม่อยู่แล้วเนี่ย เช๊คดูว่า ที่บ้านแฟนมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ประกาศขายให้หมด เอาให้สะใจ จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:32:16

ความคิดเห็นที่ 8 ช่างเขาเถอะครับ คุณ จขกท เก็บเงินไว้เลียงดูแฟนก็พอ ไม่ต้องไปเลี้ยงดูทั้งครอบครัวแฟน จากคุณ : เอกกับส้ม เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:01:29 A:58.8.201.181 X: TicketID:355089

ความคิดเห็นที่ 9 ปล่อยให้เจ็บเอง ถึงจะรู้สึกครับ555+ วางเฉย เก็บเงิน ขอแฟนแต่งานเถอะครับ สู้ๆ ปล่อยวางนะครับ จากคุณ : Julia-RoboT.JR เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:46:44

ความคิดเห็นที่ 10 เดี๋ยวอีกหน่อยพอแต่งงานอยู่กันไปแม่แฟนคุณเริ่มเงินหมดไม่มีให้น้อง ทีนี้แหละแฟนคุณก็จะมาเอาที่คุณคนในบ้านนั้นก็จะมาพึึ่งคุณ จากคุณ : เบบี้ดอลล์ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 00:49:42

ความคิดเห็นที่ 11 เพื่อนแฟนเรา หมดเนื้อหมดตัวกับขายตรงไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็ยังไม่เข็ด ตอนแรกขับรถเก๋ง  หลังๆขับกะบะ สักพักขายกะบะ ขับมอไซค์ เมียทิ้ง การงานไม่ทำ แต่ก็ยังไม่ยอมเลิกขายตรงอีก คงถูกล้างสมองจริงๆ ตอนนี้ก็ได้ข่าว หาสมบัติเก่าขายมาลงทุนอีก ตอนแรกเช่าห้องเปิดเป็นสำนักงาน หลังๆ ก็เห็นคืนห้องเค้าไป มีความฝันแต่ว่าจะหา ดาวไลน์ ดีๆมาต่อตัวเอง เราว่าคนที่หลงขายตรง จะมีความโลภอยู่ในตัว  เค้าจึงใช้ คำว่า รายได้ หลายหมื่นต่อเดือนมาล่อไงคะ หรือประมาณว่าอยู่สบายไม่ต้องทำไรเลยให้เงินทำงาน โอ้  เรากลัวจริงๆคนแบบนี้ v v ข้างบนนี้เล่าให้ฟังเฉยๆค่ะ ส่วนเรื่องเจ้าของกระทู้ เราว่าคนที่ลำบากใจคงเป็นแม่ แต่แม่น่าจะเด็ดขาดกว่านี้นะคะ เงินเราถ้าไม่ให้เสียอย่าง วุฒิภาวะน้องเค้าก็ยังไม่พร้อมนะ  มีแต่ไฟ แต่ขาดประสบการณ์   ส่วนคุณเราว่าอยู่ในตำแหน่งคนนอกอยู่นะ ถ้าให้ดี เราว่าให้แฟนคุณเป็นคนบอกพ่อ แทนที่จะเป็นคุณดีกว่านะ เรื่องเงินเรื่องทอง  ไม่ใช่หากันมาได้ง่ายๆ ลองให้น้องแฟนลองไปรับจ้างทำงานดูสิ จะรู้ว่ามันหายากขนาดไหน ลองให้มันเอาวุฒิ ม 6 นี่แหล่ะ ไปสมัครดู เรียนก็จะไม่เรียน ยังจะเอาเงินไปผลาญอีก เราว่าคนที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด คงเป็นแม่แล้วล่ะ ต้องเด็ดขาด ต้องแข็งบ้าง ดีไม่ดีอีกหน่อยเจ๊งขึ้นมา ยอมรับความผิดหวังไม่ได้ พาลฆ่าตัวตายจะทำไง เราว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนะ เด็ก ม 6 เอาเงินไปละลาย หลายๆ หมื่น โดยที่ไม่รู้เลยว่า เงิน มันหายากแค่ไหน แต่ถ้าแม่ไม่สามารถแข็งได้  ก็บอกพ่อเหอะค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 01:08:59 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 01:07:13 จากคุณ : lemoncheeze เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 00:53:19

ความคิดเห็นที่ 12 มันมีครับ คนทำได้นะ แต่ยากมาก พวกที่ชักชวนก็เอาแต่พร่ำเพ้อให้ฟัง ว่าสบายอย่างงู้น รวยอย่างงี้ ผมรู้สึกเหมือนไม่ได้ฟังเรื่องจริง เอาง่ายๆ คนรอบตัวผม(มีหลายคน) ที่เคยทำ ยังไม่เห็นใครทำและรวยสักคน ยังไม่เห็นทำได้อย่างปากว่า ว่าจะใช้เงินทำงาน ไม่ได้ใกล้เคียงเลย 55+ แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 06:23:08 จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 06:22:28

ความคิดเห็นที่ 13 รู้ว่ายังเล่าไม่จบ แต่ทำไมคุณไม่ไปคุยกับน้องแฟนก่อน(ถ้าหวังดี) ปล..คติสอนใจ พ่อแม่ลูก พี่น้องในสายเลือดตัดกันไม่ขาด สามีภรรยา เขยสะใภ้ เลิกกันไปมันก็เป็นคนอื่น จากคุณ : อ่อน (augaug) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 08:31:03

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกค.ห.นะครับ ส่วนค.ห.13 ผมคุยแล้วครับ แต่น้องแฟนไม่มองหน้าผม แล้วไม่รับฟังอะไรเลย พยายามเลี่ยงหนีทุกคนที่มาเตือน คนในครอบครัวเตือนไม่เชื่อซักคน จากคุณ : จอมยุทธหมูบิน เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 08:46:56

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนบางคนถึงหลงกับธุรกิจพวกนี้ เราเคยไปนั่งฟังครั้งหนึ่งดูก็รู้ว่าหลอกชัดๆ แต่ทำไมบางคนถึงหลงงมงายกับมันนัก ดูๆไปยิ่งกว่าติดพนันซะอีกนะนี่ หมดเนื้อหมดตัวไปไม่รู้กี่คนแล้ว อาจมีคนทำได้มั้งแต่คนที่เรารู้จักไม่เคยมีใ:-)กับธุรกิจพวกนี้ซักคน เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่ามั้ย เราเห็นด้วยกับความเห็นที่ให้บอกคุณพ่อแฟนนะคะ ช้าเร็วท่านก็ต้องทราบ บอกให้ท่านทราบตอนนี้อาจช่วยให้ อะไรๆมันไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 10:43:54 แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 10:43:13 จากคุณ : DekWidWa เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 10:36:20

ความคิดเห็นที่ 16 ต้องเตรียมยอมทำใจแล้วครับ ความยุ่งยากจะตามมาในอนาคต ใครผูกปม ก็ให้แก้กันเอง จากคุณ : ปันปัน (Super.Pan.) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 10:59:28

ความคิดเห็นที่ 17 บอกให้พ่อเค้ารู้เถอะค่ะ จากคุณ : golove2 เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 11:41:57

ความคิดเห็นที่ 18 บอกพ่อแฟนให้ทราบครับให้หัวหน้าครอบครัวตัดสินใจ จากคุณ : Eastern rising เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 11:49:17

ความคิดเห็นที่ 19 (ปล. เราเคยเข้าไปฟัง แต่ไม่ได้สนใจจะทำ แต่เข้าไปเพราะ มีคนออกตังค์ให้ คนออกตังค์ให้ เค้าให้เราเข้าไปฟัง เพื่อยับยั้งไม่ให้เพื่อนๆ เค้าเข้ามาทำใน ธุรกิจนี้) อยากจะบอกว่า ตอนนี้ น้องแฟนคุณ ยังไม่รู้สึกอะไรหรอก จนกว่าจะหมดตัว คุณเคยเข้าไปฟังไหม ถ้าเคยเข้าไปฟังจะเข้าใจว่าทำไม น้อยชายแฟนคุณเป็นแบบนี้ มันเป็นการสัมมนาในห้องประชุมใหญ่ ทุกครั้ง ที่มีการเชิญ ให้ "สารเลว" ขึ้นมาพูด พวกลิ้วล้อ "สารเลว" ( คือ พวกที่เป็นสมาชิกไปแล้ว และต้องการหาสมาชิกต่อ) จะตบมือ ตะโกน ให้กำลังใจ ให้ "สารเลว" ขึ้นไปพูด "สารเลว" จะมีตั้งแต่ ระดับ หัวหน้า ซึ่งเป็นพวกมาจาก สาขาอาชีพต่างๆ พนักงานบริษัท แม่บ้าน นักศึกษาแพทย์ ฯลฯ ที่เคยเข้าไปฟัง จะมีนักศึกษาแพทย์ คนหนึ่งเป็น ไฮไลท์ เอารูป ก่อนที่จะเข้ามาทำธุรกิจนี้ให้ดู ว่า ผอม ยากจน พอทำธุรกิจนี้ มีรถเบนช์ หน้าตาหล่อ มีราศี ขึ้นมาทันที เชื่อไหม ว่า เค้าพูด ขนาดที่ว่า ตอนนั้นเค้ายากจน ไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อเสื้อผ้าดีๆ แต่เค้ายอม ยืมเงินเพื่อน ให้พ่อแม่ญาติทำบัตรเครดิต เพื่อเข้ามาทำธุรกิจนี้ เค้าไม่ได้แนะนำให้ คุณไปยืมเงินหรอก (แต่เค้าบอก กลายๆ ว่าเค้าทำแบบนี้) เท่าที่สังเกต คนที่เข้ามาฟัง ส่วนใหญ่ ขาดสติ อยากรวย ในงานสัมมนา "สารเลว" จะบอกว่า อยากเป็นผู้จัดการไหม "สารเลว" จะเปรียบเทียบเลยว่า ซื้อ ต่อเดือนเท่านี้ จะได้ตำแหน่งอะไร เทียบเท่ากับในบริษัท เช่น ยอดขาย หลักพัน ก็แค่เซลล์ ยอดขายหลักหมื่น ก็ ซีเนียเซล หลักแสน ก็ผู้จัดการ และ จะเชียร์ ให้ซื้อ จำนวน แปดหมื่นบาท เพื่อ จะได้ตำแหน่งผู้จัดการในเดือนนั้น โดยจะล่อ ว่า ปรกติ การจะเป็น ผู้จัดการต้องหลักแสน แต่ในงานสัมมนานี้ มีโปรโมชัน ว่า แค่คนสองคนจับคู่กัน ออกคนละ แปดหมื่น จะได้เป็นผู้จัดการทั้งคู่ โดย ทาง"สารเลว" จะเป็นคน เลือกของให้เอง (คุณไม่มีสิทธิ์เลือกสินค้าเลยนะ "สารเลว" มัน จะเลือกของอย่างละชิ้นสองชิ้น ให้คุณ สุดท้าย คุณก็ต้องเอาไปใช้เอง เพราะ ต่อมามันจะบอกว่า ถ้าคุณไม่มีความ มั่นใจในสินค้า แล้วคุณจะขายได้อย่างไร ..............ดู ความเลว ของ "สารเลว") แน่นอน ค่าใช้จ่ายไม่ใช่แค่ แปดหมื่นบาท คุณอยากได้ ลูกค้าไหม เรามี รายชื่อลูกค้า มาขาย (ดูมัน) ราคารายชื่อลูกค้า มีหลายระดับ ลูกค้า ที่อยากลองใช้สินค้า เท่านั้น (หลักพันบาท) ลูกค้าที่อยากเป็นสมาชิก ด้วย (หลักหมื่นบาท) รายชื่อ ลูกค้าเหล่านี้ ไม่ใช่ว่า ทุกรายต้องการซื้อสินค้าทันที หรือ ต้องการเป็นสมาชิกทันที แต่เป็นเพียง ความประสงค์ของเค้า ซึ่ง "สารเลว" มันได้ทำหน้าเว็บ ลิงค์โฆษณา จากเว็บ ชื่อดังต่างๆ ที่โฆษณา ว่า "อยากมีรายได้หลักแสนไหม" "อยากทำงานผ่านเว็บไหม" "นั่งทำงานที่บ้านได้หลักแสน" (ทำนองนี้) ซึ่งก็มีคนเข้าไปคลิก แล้วก็กรอกข้อมูลไว้ และ "สารเลว" ก็เอาข้อมูลนี้ออกมาขาย ให้ พวกคุณอีกที วันที่เราเข้าไป(เราไปแทนคนชื่อ "บี") จะมีเพื่อน ชื่อ "เอ" ไปด้วย ซึ่งทั้งสองคน ถูกเพื่อน ชื่อ "ซี"  ชวนไป (แต่ "บี" ไม่ไปให้เราไปแทน) ซึ่ง "ซี" ถูก สารเลวชื่อ ":-)แตก" ชวน "อีกนรกแตก" รู้ว่า บ้าน "ซี" มีฐานะ และ "ซี" ก็เบื่อ กับการที่ต้องทำกิจการที่บ้าน แล้วแบ่ง กงสี กับ พี่ชาย เลยอยากหาธุรกิจ ที่ในบั้นปลายออกดอกออกผล ซึ่ง ":-)แตก" ก็บอก "ซี" ว่า ธุรกิจนี้ไง ที่จะทำให้ บั้นปลายเธอไม่ต้องทำงาน แค่หาสมาชิกมาเท่านั้น "ซี" เชื่อมันในตัวเอง ว่าฉลาด เข้าไปศึกษา และ เล่าให้ฟังว่า ที่บริษัท จะมี "สารเลว" มาช่วย มาอบรม (ในกรณี ที่คุณ ซื้อ รายชื่อลูกค้ากับเค้า เท่านั้น) ซึ่งคุณควรซื้อรายชื่อ ลูกค้ากับเค้า มันดีกว่า การที่คุณจะ ไป ปริ้น กระดาษ ทำแผ่นพับ (แน่นอน คุณได้ตังค์นิ) สุดท้าย ด้วยความที่ "ซี" อยากออกจากธุรกิจ ครอบครัว  เลยลงมาทำ (ทะเลาะกับ แม่เค้าด้วย ) โดยลงเงินไปหนึ่งแสนบาท ค่าของ กับ ค่า รายชื่อ ตัว ":-)แตก" บอกว่า มันทำมาได้สามเดือน ทุกเดือนได้หลักหมื่นบาท เราถาม มันว่า แล้ว พี่ได้กำไรสุทธิเท่าไหร่ มันมองหน้าเรา แล้วก็ "เฉ" ไปเรื่องอื่น เราถามมันว่า พี่ลงค่าของไป สองพัน ขายได้ สองพันห้า หักค่ารายชื่อโฆษณา ไปหรือยัง มันมองหน้าเรา ไม่ตอบ มันพยายาม จะไม่คุยกับเรา (มันบอกว่า ดูหน้าเราแล้วรู้ว่า เราไม่มีศรัทธา เสียเวลาพูดด้วย) แต่พยายามจะคุยกับ "เอ" เพราะ รู้ว่า "เอ" มีฐานะ และเพื่อนสนิทกับ"ซี" ในงานสัมมนา อย่างที่บอก พยายามจะให้ทุกคนที่สมัคร จ่ายแปดหมื่น เพื่อเป็น ระดับผู้จัดการ (ควายๆ) สุดท้าย พอเราออกจากงานไป "ซี" ก็กล่อมให้ "เอ" จ่ายแปดหมื่นได้ สมใจ ":-)แตก" วันรุ่งขึ้น "เอ" โทรมาหาเรา บอกว่า จ่ายไปแล้ว แปดหมื่น เพราะ "เกรงใจซี" อีกสามวัน บอกว่า ได้ของมาแล้ว เหมือนได้ของ มาใช้เอง เพราะ ผลิตภัณฑ์ละ สอง สาม อย่าง เช่น เชครสช็อด สตอ ครีมทาหน้า ผ่านไปอีกอาทิตย์ "ซี" โทรตาม "เอ"ทุกวัน ให้มาฟังอบรม ให้ซื้อรายชื่อ ซึ่ง "เอ" ก็บอกไปว่า จะลองขายเอง จะลองบอกผ่านพี่ชายของเอ "ซี" โกรธ "เอ" ที่ไม่มีศรัทธา ไม่ตั้งใจทำ เรื่องตอนจบ คือ ทั้ง "เอ" และ "ซี" เลิกขายทั้งคู่ สิ่ง ที่ สัมมนาไม่บอก คือ การเป็น ผู้จัดการ "ต้องรักษายอดขาย" นั่นหมายความว่า คุณและขา สมาชิกขาของคุณ ต้องขายสินค้าให้ได้ หลักแสนทุกๆเดือน "ซี" เลิกขาย กลับไปขอโทษที่บ้าน และทำกิจการที่บ้านต่อ ส่วน "เอ" เอาของที่ได้ มา ให้ญาติพี่น้องกินฟรี ไป เรา เอามาเล่าให้ฟัง เพราะ "ซี" พยายามสุดตัว เข้าบริษัทตลอด ซื้อรายชื่อลูกค้า แต่ "ซี" ก็กำหนดเงินลงทุนไว้ที่ สองแสนห้า สุดท้ายก็หมดไปสองแสนห้า โดยไม่ได้อะไรกลับมา และ "ซี" ก็มาสารภาพว่า ตอนนั้นมันไม่มีสติ อยากรวย อยากเลิกงานที่บ้าน อยากมีรายได้สม่ำเสมอ แบบไม่ต้องทำไร ส่วน "เอ" หมดไปแปดหมื่น แล้วไม่ได้ซื้ออะไรอีก แต่ ทั้งสองคน ที่บ้าน มีพื้นฐาน พอสมควร เค้าจึงไม่ได้เดือดร้อนมากมาย จากเงินจำนวนี้ (เงินเก็บเค้านั่นแหละ) แต่ถ้า คุณ ยืมเงินเค้ามา ไปกู้เงินมา คุณ ตายแน่ "สารเลว" ":-)แตก" มันไม่สนใจหรอก ว่าคุณจะได้เงินมาแบบไหน ขอให้คุณมีเงินมาให้มัน และคุณ ก็ตกลงซื้อสินค้ามันเองโดย "สมัครใจ" มันไม่ได้หลอกคุณ แต่ คุณ "สมัครใจ" ในกลุ่มสารเลว จะมี "สารเลว" บางคน ที่จะบอกว่า ตัวมันเอง เกลียดขายตรง ตลาดเครือข่าย แต่สุดท้าย มัน ก็เข้ามาพบว่า สิ่งนี้ดีจริงๆ (ก็แน่นอน ผีเปรต มาเจอ ผีเปรต ด้วยกัน) สุดท้าย ความจริง ทั้งหมด เอามาลงให้แล้ว ลองอ่านดู ให้แม่แฟน ให้แฟนอ่าน แต่ไม่ต้องให้น้องแฟนอ่าน เพราะ น้องแฟน กำลัง เป็น "ซี" อยู่ รอให้หมด สองแสนห้า แล้วได้ "โง่" กลับมา ถึงจะรู้สึก จากคุณ : สายฝนในสายหมอก เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 11:53:41

ความคิดเห็นที่ 20 เจ๊ง จากคุณ : ชอบเลี้ยงปลา เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 12:57:30

ความคิดเห็นที่ 21 โดนชักจูงและงมงาย เหมือนน้องเราเลยผู้ชายด้วยจบ ม.6 ไม่เรียนต่อเหมือนกันเดี๊ยะ เลยมีพวกขายฝันกลางอากาศเอารูปที่ถ่ายคู่กับรถเบนซ์ รถสปอร์ต มาให้น้องดู ว่าอยากเป็นแบบนี้ไหม อยากได้ไหม ถ่อกันเข้ามาในกรุงเทพ มาฟังแล้วก็หลงไปกับลมปาก บอกเท่าไรก็ไม่ฟัง ให้ไปหาอ่านในอินเตอร์เน็ต ยังไม่ยอมดู หาว่าเราขัดขวางความเจริญมัน แหนะ!!! ชี้ทางให้ดันหาว่ายุ่ง แต่ดีว่าน้องเราเขาลืมง่าย พอมีเรื่องอื่นเขาก็ไปสนใจอย่างอื่นแทนเรื่องเลยจบง่ายๆแบบยังไม่ได้โดนตบทรัพย์ ของน้องเรา M star ต้องให้เลิกเองค่ะแต่กว่าจะถึงวันนั้นจะล่มจมกันอีกเท่าไรก็ไม่รู้ เราเห็นน้ำใจของคุณ จขกท.นะคะ แต่สุดท้ายถ้าเขาไม่เชื่อต้องวางอุเบกขาค่ะ จากคุณ : ไอศครีมกะทิ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 14:59:56

ความคิดเห็นที่ 22 จะว่าไปตัวน้องแฟน  เรียกได้ว่าเป็นปัญหาของครอบครัว ตอนนี้ก็ดึงแม่แฟนพี่  ไปเอี่ยวด้วย จริงๆ  ถ้าพ่อรู้  ผมก็ว่าดีนะ  แม่จะได้มีอะไรมายั้งๆไว้บ้าง   (ก็ใช้ไม้อ่อนแล้วนี่นา) ยังไม่แต่งพี่ก็รู้ถึงปัญหาแล้ว  ถ้าแต่งไป  ผมเชื่อว่าสักวันนึง   มันจะต้องกลายเป็นปัญหาของพี่ไปด้วย ถ้าเป็นผม  คงเข้าไปคุยเอง  กับแม่แฟน  เพราะถ้าจะทะเลาะกัน จะได้ขาดกันไปเลย  555  ไม่ต้องมารับรู้อะไรอีก คุยกับแฟนให้รู้เรื่อง  ว่ารักกันนะ  แต่เรื่องนี้  มันมีลิมิตในการเข้าไปเกี่ยวข้อง ทุกอย่างควรให้เขารับรู้  และตกลงกันว่า  จะเข้าไปยุ่งแค่ไหน ถ้าเค้าต้องการความช่วยเหลือจริงๆ  แม่แฟนพี่น่าจะเดินเข้ามาหา แต่นี่ไม่  ไว้เค้าต้องการค่อยช่วยดีกว่า  ทำเท่าที่ทำได้  แต่เรื่องเงินอย่า   ตกลงกับแฟนให้ดี   เข้าใจว่าครอบครัวมันตักกันไม่ขาด  แต่ก็ได้ทำทุกอย่างที่ควรจะทำไปแล้ว ไม่อย่างนั้น  แฟนพี่ก็น่าจะแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องร้องขอให้ช่วย อีกอย่าง  แฟนพี่ต้องวางตัวให้เป็น เพราะปัญหานี้  ถ้าแก้ไม่ได้ในอนาคตมันจะกลายเป็นปัญหาครอบครัว ถ้าแฟนพี่ยังเข้าไปวุ่นวายกับปัญหาเหล่านี้  มันจะบั่นทอนความสัมพันธ์ของพี่กับแฟนไปเรื่อยๆ  จนท้ายที่สุด.... อย่างน้อย  เค้าก็ต้องเลือกว่าจะรักษาชีวิตครอบครัวของเค้ากับพี่ไว้  หรือจะห่วงกับปัญหาที่บ้าน ผมหมายถึง  ถ้าเค้าจะกลับบ้าน  ก็ปล่อยไป  แต่อย่าเอาเรื่องเข้าบ้านเรา ค่าใช้จ่าย  ก็กระเป๋าเค้า  ไม่กวนกระเป๋าเรา เพราะถ้าผิดไปจากนี้  มันก็จะเป็นเรื่องของเรา  ที่เราไม่ได้ก่อ  และพยายามแก้  แต่กลายเป็นคนต้องรับผิดชอบไปซะเกือบทั้งหมด  โดยมีความสัมพันธ์ของครอบครัวเราเป็นเดิมพัน จากคุณ : COLORS (DBSK) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 15:37:27

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนนี้แฟนผมกับผมตัดใจไม่ยุ่งแล้วครับ ถ้ามีปัญหาก็แก้กันเอง และแฟนขอเลือกไม่บอกพ่อครับ บอกว่าให้รู้เองทีหลัง ถึงบอกไปก็ไม่ช่วยอะไร เพราะยังไงแม่ก็ต้องแอบให้เงินลูกชายคนโปรดอย่างดี ถึงตัวพ่อไปว่าน้องเค้า น้องเค้าก็จะเดินหนี ไม่รับฟัง ทำหูทวนลม ใครเตือนไม่ได้แล้วล่ะครับ และผมก็บอกแฟนไปแล้วว่า ถ้ามาขอความช่วยเหลือจากเราทีหลัง เราช่วยได้แค่เอาของไปขายในราคาที่ถูกสุดๆ ใครจะซื้อไม่ซื้อไม่เกี่ยวกับเรานะ ไม่รับประกันว่าจะขายได้ น้ำว่านหางจระเข้ขวดละ1400 จะมีใครซื้อก็ไม่รู้ ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆท่านมากนะครับ แค่ผมเห็นแฟนผมหายเครียด ผมก็ดีใจแล้ว จากคุณ : จอมยุทธหมูบิน เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 15:49:11

ความคิดเห็นที่ 24 ผู้เป็นแม่ให้ๆๆจน หน้ามืดตามัว เขาเรียกว่า แม่ รักแกลูกชัดๆๆ   เป็นผมจะเบิ้ลกระโหลก ตามด้วยตบสัก 2 3 ที แล้วบอกด่าสักชุด จากคุณ : หวานแซบ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 16:03:31

ความคิดเห็นที่ 25 ควรบอกพ่อ แต่เป็นการบอกแบบปรึกษา เราว่าถ้ารู้จักเข้าหาพูดคุยกับพ่อน่าจะทำอะไรได้ ส่วนที่สอง ให้แฟนคุณประกาศอย่างชัดเจนว่าหนี้สินใดๆ ที่แม่กับน้องจะสร้าง แฟนคุณจะไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่ชดใช้ให้เป็นอันขาด ถ้าใครคิดว่าจะให้แม่กับน้องกู้แล้วจะได้เงินคืนก็คิดให้ดี อย่าคิดจะมาทวงนะ ไม่งั้นมีขึ้นโรงพักแน่ อันนี้คือสิ่งที่เราทำ ตอนแม่กะน้องเราทำ MLM อะ ของ herb..life คือไปบอก ญาติสนิท คนรู้จักทุกคนว่า ถ้าอยากช่วยเรา ขอแค่อย่าให้แม่กับน้องเรายืมเงิน เพราะเราไม่มีเงินใช้คืน (ได้ผล แม่เราก็ทำได้แค่เบี้ยแชร์ หาเงินทุกทางที่เค้าจะหาได้นั่นแหละ เราก็ไม่รู้ว่าพวกนอกระบบมันให้กู้ง่ายขนาดไหน แต่ดูแล้วแม่ของแฟนคุณ น่าจะเป็นแม่บ้าน ไม่น่ามีอะไรไปทำให้มีเครดิตได้หรอก) แล้วสัมทับคุณแม่ไปอีกว่าน้องเรายังเด็ก ไอ้เงินเดือนเดือนละหมื่นไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับน้อง สิ่งที่น้องเราต้องการคือทำงาน แล้วจะได้เป็นคนมีคุณภาพ มีสังคม มีวัยวุฒิและคุณวุฒิที่สมวัย เพราะเรารู้สึกว่าปัญหาของน้องเราคือกลัวการทำงาน เพราะบริษัทแรกที่เข้าทำงานเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่ น้องเราเลยกลัว ส่วนแม่เราก็อยากได้เงินเดือนเดือนละหมื่นให้น้องเราแหละ เพราะบริษัทมันบอกนี่ว่าทำถึงเพชยมุงกุฎอะไรเนี่ยจะได้เงินเดือนไปตลอดชีพ (โคตรหลอกลวงเลย) ปัญหาของครอบครัวเราหมดแล้ว เพราะน้องเราทำสองปีไม่ประสบผลเท่าไหร่ แล้วพอดีได้งานที่เค้าชอบเหมาะกับเค้า มีความสุขกับงาน กับสังคมไปแล้ว แต่กว่าจะผ่านปัญหามาได้ก็สูญไปเยอะนะ เงินเก็บของน้องเราหมดบัญชี เป็นเงินที่เราเก็บไว้เพื่อให้น้องไปจ่ายคืนเงินกู้เพื่อการศึกษา แต่น้องมาหมดกับตรงนี้ แล้วก็ต้องหาเงินมาจ่ายเงินเอง แต่เราว่าคุ้มกับทัศนคติเรื่องงานของน้องเรา น้องเรามีภูมิต้านทานแล้วต่อไปเค้าจะไม่หลงกลอีก บางอย่างต้องให้ความสูญเสียเป็นบทเรียน อ๋อ สุดท้าย เราว่าน้องชายของแฟน จขกท ขาดความเคารพในตัวเอง พอไปเจอสังคมที่เยินยอยกย่องเลยหลงง่าย จากคุณ : dot_face เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 18:03:18

ความคิดเห็นที่ 26 อยากบอกว่า หลานเราก็โดนค่ะ ขนาดจบจากเมืองนอกนะ เพื่อนชวนอีกที และตัวเองก็ชวนเพื่อนไปทำ ลาออกจากงานประจำทั้งคู่ สุดท้ายเป็นหนี้บัตรเครดิตเป็นแสน เพราะรูดไปซื้อของ "ยูนิซิตี้" พอเลิก ของเต็มบ้านเลย ขายไม่ออก ตกงานทั้งคู่ ต้องไปเริ่มต้นหางานใหม่ พร้อมทั้งให้แม่ผ่อนหนี้แบงค์ เพราะตัวเองเอาตัวไม่รอด เฮ้อ...... จากคุณ : ging_gong_kaew เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 18:14:44

ความคิดเห็นที่ 27 ค.ห. 25 ใช่ครับ คุณแม่แฟนเป็นแม่บ้าน แม่เค้าไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย เกรงใจและเหมือนเกรงกลัวกระทั่งผม (ไม่ทราบเหมือนกันว่าเพราะอะไร) วันนี้ผมกะจะบอกพ่อแฟนแล้วครับ แต่แฟนขอร้องผมว่าอย่าบอก เค้ารับไม่ได้ถ้าหากแม่โดนพ่อรุนแรงใส่ อาจจะถึงขั้นลงมือลงไม้ และแฟนบอกว่า เมื่อก่อนแม่เคยแอบไปกู้ยืมเงินเค้ามา พอพ่อรู้ บ้านแตกเลยครับ มันเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องชายแฟนไม่คุยกับพ่อครับ ผมก็เพิ่งรู้วันนี้แหละ และที่บอกว่า สุดท้าย เราว่าน้องชายของแฟน จขกท ขาดความเคารพในตัวเอง พอไปเจอสังคมที่เยินยอยกย่องเลยหลงง่าย ใช่อีกครับ น้องเค้าเหมือนหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ มักใฝ่สูง อยากมีอยากรวย แต่ไม่อยากทำอะไรลำบากๆ พอเจอคำโฆษณาในเนทว่าทำงานง่าย อยู่กับบ้านหน่อย หลงเลยครับ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 55 01:12:24 จากคุณ : จอมยุทธหมูบิน เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 01:10:10

ความคิดเห็นที่ 28 เราว่าน้องเค้ายังเด็ก โลกยังแคบ เพิ่งจบม.6 เองนะ ประสบการณ์ชีวิตยังน้อยมาก หลงอะไรง่ายๆ ผู้ใหญ่บางคนโตจนแก่ก็ยังโดนพวกขายตรงหลอก มีหนี้สินให้ลูกคอยตามใช้ (เพื่อนเราเอง) เราสงสารเพื่อน ทำงานได้เงินเดือนมาก็ต้องมาใช้หนี้ให้พ่อแม่   ไม่ทราบว่าตอนนี้คุณแม่กู้นอกระบบไปรึยัง?  ถ้าน้องเค้าอยากทำก็ให้ทำแค่ที่ตรงนี้ก่อน คือขายของที่มีอยู่ให้หมดก่อน หาดาวไลน์ให้ได้จริงๆจังๆ ซัก 10 คนก่อน ไม่ใช้ไปลงทุนอะไรไม่รู้ ไอ้ที่ออกเงินไปแล้วยังไม่ได้ทุนคืนเลย ยังไปกู้มาอีก น้องเค้าอาจจะยังไม่รู้ผลร้ายของการกู้นอกระบบ เราเป็นผู้ใหญ่ ต้องช่วยเตือนสตินะ น้ำว่านหางจระเข้อาจมีประโยชน์ก็จริง แต่ต้นทุนๆจริงๆ เราว่า 30-40 บาทเหอะ ต่อให้ใส่วิตามินบำรุง หรืออะไรวิเศษวิโส  ยังงี้ไปซื้อวิตามินรวมกินเองยัง ไม่ดีกว่าเหรอ ถูกกว่าตั้งเยอะ เอาใจช่วยคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ จากคุณ : pink bubblegum เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 04:25:15

ความคิดเห็นที่ 29 เข้าใจปัญหาเลยค่ะ โดนมาก่อน คุณสามีเลยค่ะ บริษัทเดียวกันเป๊ะ เราห้ามแล้วว่าอย่าไปยุ่ง(พวกขายตรงนี่) เหมือนกันหมด เขาก็ไม่ฟัง บอกลองเข้าไปฟังดู แถมชวนเราอีกต่างหาก(ก็บอกแล้วว่าไม่ชอบ ไม่ไป) เราก็ย้ำแล้วอ่ะ ถ้าอยากไป ก็ไปฟังอย่างเดียวนะห้ามเสียเงิน (แต่ค่าฟังก็ 200 ล่ะ)พอกลับมาเราก็ไม่สนใจถาม แต่ตกค่ำ นังอัพไลน์ขับเก๋งหรูตรงดิ่งมาที่บ้าน พร่ามจนสามีหลวมตัวรูดบัตรจ่ายซะ 2ขา (ร่วม หกหมื่นบาท อยากรวยเร็ว) ซึ่งเราไม่รู้เรื่องเลย รู้อีกทีมียอดเรียกเก็บบัตรเครดิต แถบช๊อค ทะเลาะกันบ้านแตก ถามหาของยังไม่ได้รับอีกต่างหาก ทนไม่ไหวเราโทรด่านังอัพไลน์ยกใหญ่ มันบอกว่าไม่ต้องกลัวของขายได้แน่นอนเดี๋ยวมันจะเอาไปช่วยขายให้ ขอเวลาหน่อย เดือนนึงผ่านไปถึงเห็นของยิ่งปวดใจ จะให้ชั้นอยู่เฉยได้อย่างไร โทรหามันอีก มันบอกว่าขายวันละขวดก็หมดแล้ว แล้วของมาอยู่กะชั้นแล้วบอกจะช่วยขาย ไม่เห็นได้ยินเสียงโทรศัพท์มันโทรเข้ามาสักสาย สุดท้ายเหลือทนต้องเอาไปขายเอง ขายต่ำกว่าทุนเยอะเลย(ให้มันหมดๆไป เพราะเห็นทีไรรมณ์เสียทุกที พาลทำครอบครัวมาคุไปนาน) เข็ดขยาดตลอดชีวิต จากคุณ : เจ็บต้องจำ (ผีเสื้อหลากสี) เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:18:19

ความคิดเห็นที่ 30 ขายตรง ปลอมๆ อัพไลน์จะบอกว่าได้กำไร 40% จากราคาขาย แต่ดาวไลน์ ไม่เคยรู้เลยว่าของมันขายยากแค่ไหน ราคาก็โคตรจะแพง น้ำต้มเห็ดขวดล่ะ 3000 ใครจะซื้อกิน สุกท้ายคนโง่ก็คือ ดาวไลน์ ซื้อของมาตุนไว้ เหอะๆ ขายตรงจริงๆ ไม่ต้องสต๊อกสินค้า มียอดแล้วค่อยสั่ง เงินลงทุน 5-6 หมื่น เอาเงินไปซื้อทองเกร็งกำไรดีกว่าไหม?? จากคุณ : คุนิมิตสึ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 15:26:39

ความคิดเห็นที่ 31 น่ากลัวมากเลย หลอกลวงกันชัดๆ แฟนรุ่นพี่ก็โดนไปเป็นแสน เห็นพี่เค้ามาบ่นๆ จบโทแล้วด้วย รุ่นพี่เราห้ามก็ไม่ฟัง เอาเงินไปซื้อของมาตุน รุ่นพี่เราเครียดเลย จากคุณ : mamonly เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 20:12:05