Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมื่อดิฉันขอจบชีวิตคู่ที่แต่งงานกันมา 10 ปี ติดต่อทีมงาน

วันนี้ดิฉันเห็นคนขายส้มตำเด็ดดอกไม้จากในป่าข้างทางมาฝากเมียที่คอยอยู่ที่รถ
รู้สึกสะเทือนใจจนน้ำตาซึม เพราะตัวเองไม่เคยได้รับสิ่งนี้เลย
ไม่เคยได้ของขวัญใดๆ ไม่เคยมีดอกไม้สักช่อ แหวนซักวง ไม่เคยมีแม้การ์ดสักแผ่น
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ดิฉันได้ขอเลิกกับสามี เพราะตระหนักว่าเขาไม่ได้รักดิฉันมากพอที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกันอีกต่อไป

ดิฉันแต่งงานมาสิบปี ก่อนหน้านี้คบกันมาก็สิบปี รวมๆ แล้วก็เป็นเวลา 20 ปีพอดี
ปัจจุบันเรามีลูกด้วยกันสองคน คนเล็กเพิ่งจะหกเดือน ส่วนคนโตแปดขวบ
ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาสามีไม่เคยช่วยงานบ้านเลยแม้แต่น้อย ลูกๆ ก็แทบไม่ช่วยดูแล
บางวันไม่อุ้มลูกเลยด้วยซำ้ มาถึงบ้านก็ทำงาน นั่งจิบเบียร์ ดูทีวี เล่นไอโฟน อ่านเฟสบุ๊คหัวเราะกิี๊กกั๊ก คุยโทรศัพท์
เขาจะทำแต่เฉพาะงานของเขา ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยหยิบยื่นเงินทองให้แม้แต่บาทเดียว
จนเมื่อสามปีที่แล้วเราทะเลาะกันด้วยเรื่องบ้าบอคอแตกมาก
และดิฉันขอเลิกเพราะรู้สึกไม่อยากอยู่ในสภาพนี้อีกต่อไปแล้ว
เนื่องจากเหนื่อยกับทุกสิ่งทุกอย่าง ไหนจะงานนอกบ้าน งานในบ้าน อารมณ์เกรี้ยวกราดจากสามี
แต่เขาขอให้เราเริ่มต้นใหม่และขอให้ดิฉันลาออกจากงานมาดูแลลูกดูแลบ้านอย่างเดียว
โดยเขาจะให้เงินเดือนเท่ากับที่ดิฉันได้รับ (ประมาณสามหมื่นบาท)
ซึ่งตลอดสามปีที่ผ่านเขาก็ไห้ตามนั้นจริงๆ ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่บาทเดียว
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี หรือเขาจะมีรายได้เพิ่มมากมายแค่ไหนก็ตาม
เงินจำนวนนี้ดิฉันต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมด ค่ารักษาตัวเองยามเจ็บป่วย
รวมทั้งค่ารถโรงเรียนลูก เสื้อผ้าลูก อาหารเย็นของครอบครัว
ก่อนที่จะออกจากงาน ดิฉันก็หวั่นใจว่าวันหนึ่งเขาอาจจะข่มดิฉันและอ้างว่าเขาหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว
แต่เอาเถอะ เราอาจมองเขาผิดก็ได้ ลองเสี่ยงดูก็แล้วกัน ลองวัดใจกันดูซักตั้ง
ซึ่งก็ปรากฎว่าที่คิดไว้นั้นไม่ผิดเลย เขามักพูดทำนองว่า ให้ช่วยกันทำมาหากิน หรือยืนให้ได้ด้วยขาของตัวเองสิ ฯลฯ
ดิฉันเคยได้ยินเขาพูดว่า "อยู่บ้านเฉยๆ งานก็ไม่ได้ทำ" ฟังแล้วเสียใจมาก
เพราะทุกวันนี้เหนื่อยมาก ทั้งเลี้ยงลูกเล็กๆ ดูแลลูกคนโต ทำงานบ้านเองทุกอย่าง เลี้ยงหมา
บางวันได้นอนเที่ยงคืนตีหนึ่ง บางวันเหนื่อยหลับไปกับลูกแต่ก็ต้องตื่นมารีดผ้าถูบ้านตอนตีสอง
แต่เขากลับมองว่าดิฉันอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร คำพูดเห็นใจสักนิดก็ไม่เคยได้ยิน
เวลาไปเที่ยวดิฉันจะกลัวมากว่าตัวเองอาจพูดจาหรือทำอะไรให้เขาโมโหและพาลทำให้บรรยากาศเสียตลอดทริป
ตอนที่ท้องแก่ เขาเคยโกรธดิฉันและขับรถเร็วกระโชกโฮกฮากจนน่ากลัวจะเกิดอุบัติเหตุตายทั้งกลม

ดิฉันเคยรักเขามาก แต่วันนี้ความรู้สึกนั้นมันเบาบางจนแทบสัมผัสไม่ได้
ดิฉันถามตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าชีวิตคู่แบบนี้หรือที่เราตัองการ
และเมื่อมองไปในอนาคต ก็พบว่าดิฉันไม่อยากมีชีวิตแบบนี้ไปจนแก่ตาย
ดิฉันต้องการอยู่กับคนที่เอาใจใส่ดิฉันมากกว่านี้ คนที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
มีอะไรปรึกษาหารือ จูงมือกันเดินยามแก่เฒ่า
ดิฉันไม่อยากเป็นผู้หญิงแก่ที่ถูกสามีตะคอกไม่ไว้หน้า หรือทิ้งให้ดิฉันวิ่งตามหลังเวลาไปไหนด้วยกัน
ดิฉันต้องการของขวัญในเทศกาลสำคัญ ต้องการได้รับดอกไม้จากสามี
ถึงแม้จะเป็นดอกหญ้าเหี่ยวๆ ที่เขาดึงมาจากข้างทางดิฉันก็พอใจ
เพราะนั่นคือการแสดงออกว่ารักและเอาใจใส่
หากหาคนๆ นั้นไม่เจอ ดิฉันก็ยินดีที่จะอยู่คนเดียวลำพัง

ดิฉันต้องการมากเกินไปหรือเปล่า

จากคุณ : จะไม่รออีกต่อไป
เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 00:27:54 A:110.169.240.92 X: TicketID:368813




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com