 |
ดังนั้นพวกนี้จะไม่ฟ้องง่ายๆ หรอกครับ พวกนี้จะพยายามตะล่อมให้ทำอยู่ 2 อย่างดังนี้
1. ให้จ่ายจำนวนเล็กๆ เช่น 500-1,000 โดยอ้างว่าเพื่อรักษาบัญชีไม่ให้ถุกส่งฟ้อง อันนี้เรียกว่าการจ่ายหยอดครับ สำหรับคนที่ กลัวโดนฟ้องและจ่ายหยอดแบบนี้ เงินที่จ่ายไปจะถูกนำไปตัดดอกก่อน ที่เหลือตัดเงินต้น ถ้าดอกเดือนละ 400 จ่าย 500 ก็จะตัด เงินต้นเดือนละ 100 บาท 16,000 ก็จ่ายไป 160 เดือน หรือประมาณ 13 ปี
หรือเป็นเงินประมาณ 80,000 (จากเงินต้น 16,000 นะครับ) ใครกลัวโดนฟ้องแต่ไม่กลัวเป็นทาสไปอีกเป็นสิบปีก็เอาเลยครับ
2. ชักชวนให้ทำประนอมหนี้ การประนอมหนี้คือการทำสัญญากู้ยืมกันใหม่ จัดดอกเบี้ยใหม่ (โดยอ้างว่าดอกจะถูกลง) แต่จริงๆ แล้วคือการเอายอดหนี้ซึ่งเป็นเงินต้น+ดอก+ค่าธรรมเนียม+ค่าติดตามทวงถาม มาตั้งเป็นเงินต้น
ซึ่งถ้าหากถึงตอนนั้นจริงๆ ยอดหนี้คุณจะงอกไปที่สามสี่หมื่นแล้ว และจะถูกนำไปตั้งเป็นเงินต้นทั้งหมด ก็จะกลายเป็นหนี้ที่สาม สี่หมื่นทันที (พร้อมดอกที่เดินติ๊กๆๆ ใหม่) และถ้าหากผิดนัดชำระอีก คราวนี้มันจะฟ้องอย่างไว เพราะศาลจะมองว่าสามสี่หมื่นนี่ คือเงินต้นเต็มๆ ตัดอะไรออกไม่ได้เลย
ดังนั้นที่อยากจะบอกก็คือว่า ถ้าจ่ายไม่ไหวจริงๆ ไม่ต้องกลัวขึ้นศาลครับ ยิ่งขึ้นศาลสิยิ่งดี ยิ่งได้ประโยชน์ ศาลมีเมตตาและให้ ความยุติธรรมเสมอครับ คุณไม่ได้ทำผิดคิดร้ายกับใคร แต่คุณกำลังพึ่งศาลเพื่อขอความยุติธรรมในการต่อสู้กับพวกฉวยโอกาส ขูดรีดประชาชนต่างหากครับ (พูดถึง สนง.กฏหมายครับไม่ใช่แบงค์)
การขึ้นศาลไม่ได้ทำให้เป็นมลทินติดตัวหรอกครับ ชีวิตคนเราผิดพลาดกันได้ แต่ก็ต้องรู้จักแก้ไขให้ถูกทางนะครับ
แต่แน่นอนว่า คนเราอยู่ดีๆ ก็ไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาลกันหรอก ถ้าต้องการหาทางออกที่ดีกว่านี้ ลองหาแหล่งเงินกู้ที่ดอกเบี้ย ถูกกว่ามาปิดยอดดีกว่าครับ ถ้าหาไม่ได้ก็ลองถามไถ่กู้เงินจากญาติพี่น้อง แล้วเอารถหรือของมีค่าไปจำนำไว้ แล้วให้ดอกเค้า สักหน่อยนึง บอกไปตรงๆว่าเอาไปปิดบัตร แทนที่จะเอาดอกให้แบงค์ เอาให้คนกันเองดีกว่า อะไรแบบนี้ครับ แนะนำให้ทำแบบ นี้มากกว่า เพราะยอดก็ไม่เยอะมากด้วย
จากคุณ |
:
คุณปลาไฮโซ
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.ย. 55 17:10:09
A:223.206.177.173 X: TicketID:340620
|
|
|
|
 |