 |
ครั้งหนึ่ง เฮนรี่ ไกเซอร์ กล่าวไว้ว่า คุณจะฝึกฝนมนุษยสัมพันธ์ที่ดีได้โดย
อัตโนมัติ ถ้าคุณจะจดจำเอาไว้ว่า ทุก ๆ บุคคลนั้นมีความสำคัญ
เพราะแต่ละคนล้วนเป็นบุตรแห่ง พระเจ้า
สิ่งนี้คือรากฐานอันแท้จริงของความเคารพตัวเองด้วย ชายหรือหญิงที่
ตระหนักว่าตัวเองคือ " บางสิ่งที่มีความหมาย " มิใช่เพราะสิ่งที่เขากระทำ
หรือการที่เขาเป็นคนดี แต่เป็นเพราะความกรุณาจากพระจ้าในการ
ประสิทธิ์ประสาทคุณค่าไว้ตั้งแต่ถือกำเนิด มักพัฒนาความเคารพตนเอง
ที่ก่อให้เกิดสุขภาพจิตที่ดี ส่วนชาย- หญิงผุ้มิได้ตระหนักสิ่งนี้ พยายาม
สร้างความสำคัญให้ตนเองด้วยการเงินอย่างไม่ลืมหูลืมตา, แสวงหาอำนาจ
สร้างชื่อให้ปรากฏในหนังสือพิมพ์ หรือใช้วิธีการอื่น ๆ อีกหลากหลาย
เขาไม่เพียงเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า " คนเห็นแก่ตัว " เมือใช้คำนั้นด้วยความ
รู้สึกเลวร้าย แต่ความหิวโหยต่อการเคารพตัวเองที่เป็นความทุกข์
อย่างต่อเนื่องซ้ำซากไม่รู้จักพอนั้น ยังเป็นสาเหตุให้เกิดความยุ่งเหยิง
ที่สุดขึ้นในโลกอีกด้วย
สัจธรรม 4 ประการแห่งชีวิต
ถ้าคุณกำลังติดต่อกับผุ้คน ไม่ว่าพวกเขาเป็นเด็ก ภรรยา สามี เพื่อนบ้าน
เจ้านาย ลูกน้อง หรือนักโทษ คุณจงประทับสิ่งต่อไปนี้ไว้ในจิตใจ
ไม่มีวันลืมเลือน และปฏิบัติออกมาอย่างคล้องจองกัน
1. พวกเราทั้งหลายล้วนเห็นแก่ตัว
2. พวกเราทั้งหลายล้วนสนใจในตัวเองมากกว่าสิ่งใดในโลก
3. ทุก ๆ คนที่พานพบต่างต้องการมีความสำคัญและ " มีความหมาย "
4. มนุษย์ทุกผู้ทุกนามล้วนปรารถนาให้ผู้อื่นยอมรับ เพื่อให้เขา
สามารถยอมรับตัวเอง
พวกเราทั้งหลายทั้งมวลมีความโหยหิวในอัตตา ความเป็นตัวกูของกู
ด้วยกันทั้งสิ้น เเละเมื่อความโหยหิวบางส่วนได้รับการตอบสนอง
ในที่สุดแล้วเท่านั้น เราจึงสามารถ " ลืมเลือนตัวเอง " เบี่ยงเบนควาสนใจ
ไปยังสิ่งอื่น ๆ... เขาผู้ซึ่งเรียนรู้ที่จะชมชอบตัวเองเท่านั้น จึงจะสามารถ
มีใจกว้างและเป็นมิตรกับผู้อื่นได้
ถ้าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง คุณก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นด้วย
โบนาโร โอเวอร์สตรต ก้าวไปไกลกว่านั้นอีก เมื่อกล่าวว่าทุก ๆ ตัวเอย่าง
ที่บุคคลขัดแย้งกับตนเอง และทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่นนั้น
พิสูจน์แล้ว่า มีปัญหามาจากขาดความเคารพตนเองที่แท้จริง
และการบำบัดรักษาในทุก ๆ กรณี คือการฟื้นฟูความเคารพตนเอง
เพราะขณะที่บุคคลผู้หนึ่งเริ่มชมชอบตนเองมากขึ้น ต่อมาเขาก็จะสามารถ
ชมชอบผู้อื่นเพิ่มมากขึ้นด้วย ขณะที่หายป่วยจากความไม่พึงพอใจตนเอง
เขาก็จะวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิผุ้อื่นน้อยลง และมีความอดทนมากขึ้น
การใช้ประโยชน์จากระดับความนับถือตนเอง
ลองมาพิจารณาถึงวิธีการที่คุณสามารถปรับปรุงสัมพันธภาพ
กับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณจะจดจำเอาไว้ให้ขึ้นใจว่า
ความนับถือตนเองต่ำนั้นหมายถึงความขัดแย้งและยุ่งยาก
เมือความนับถือตนเองอยู่ในระดับสูง ก็เข้ากันได้ง่ายกับผู้คน
พวกเขาล้วนใจกว้าง ร่าเริง มีความอดทนอดกลั้น
เต็มใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น พวกเขาดูแลความต้องการ
พื้นฐานของตัวเองอย่างครบถ้วนแล้ว และสามาถรคำนึงถึงความปรารถณา
ของผุ้อื่น บุคลิกภาพของพวกเขาเข้มแข็งน่าเชื่อว่า สามารถจัดกาีร
กับความเสี่ยง ความผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้น เป็นบางครั้งบางคราวได้
พวกเขาสามารถยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าตัวเองได้ทำผิดพลาด
รวมทั้งยอมรับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ ดูถูกเหยียดหยาม และก้าวเดินไปข้างหน้า
เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดริ้วรอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น บนความนับถือ
ตัวเองซึ่งยังมีอยุ่อีกมากมาย
เป็นความจริงที่ตะนหนักกันเป็นอย่างดีว่า บุคคลระดับสูงนั้นติดต่อข้องเกี่ยว
ง่ายกว่าบุคคลระดับล่าง มีเรื่องราวสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เกี่ยวกับพล
ทหารผุ้หนึ่งซึ่งปากไวตะโกนถ้อยคำไม่สุภาพออกไป แล้วจึงทราบ
อย่างเสียใจว่า ผู้ที่ยืนอยู่แถวหน้าคือ นายพล " แบล็ค แจ็ค " เพอร์ชิง
เมือพลทหารพยายามกล่าวคำขอโทษอย่างตะกุกตะกัก นายพลเพอร์ชิง
ก็ตบหลังเขาพร้อมกับกล่าวว่า " ไม่เป็นไรหรอก ไอ้ลูกชาย ดีใจได้เลย
ที่ฉันไม่ใช่นายร้อยโท "
สถานภาพของนายพลผุ้หนึ่งนั้น มิได้ถูกคุกคามโดยคำพูดของพลทหาร
แต่อย่างใด ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับคุณลดตัวเองลงสู่ระดับใจคอคับแคบ
เมือความนับถือตนเองลดน้อยถอยลง ความยุ่งยากและความขัดแย้ง
ก็สอดแทรกเขามาอย่างง่ายดาย เเละเมื่อความนับถือคนเองลดต่ำ
ถึงระดับพอเพียง สิ่งใด ๆ ก็สามารถกลายเป็นการคุกคามได้ทั้งสิ้น
ที่มา : พลังมนุษยสัมพันธ์
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 03:38:12
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 55 03:36:45
จากคุณ |
:
แล้วทำไม12
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ย. 55 03:36:11
|
|
|
|
 |