ความคิดเห็นที่ 1 แปะให้ครับ ^^ จากคุณ : palovema เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 12:08:21

ความคิดเห็นที่ 2 ชุดที่ดีที่สุดของบราซิล.......ที่ไม่เคยได้แชมป์โลก ซิโก้, โซเครติส ...... จากคุณ : มาตรฐานชายไทย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 12:24:00

ความคิดเห็นที่ 3 ฟุตบอลโลกนัดแรกในชีวิตที่ได้ดูกับตาตัวเองก็ทีมนี้ล่ะครับ บราซิล 2 -สหภาพโซเวียด 1 : บอลโลก 1982 จากคุณ : 9ho เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 12:34:45

ความคิดเห็นที่ 4 เป็นบอลโลกหนแรกที่ผมดู บราซิลชุดนั้นไม่มีจุดอ่อนนะครับ!!! จะมีก็แต่ผู้รักษาประตูที่สู้ชาติอื่นไม่ได้ในเวลานั้น สาเหตุประการเดียวที่พวกเขาไม่ได้แชมป์โลก เพราะฟุตบอลโลกครั้งนั้น... "ฟ้า" ส่ง Paolo Rossi มาเกิดพอดี นี่คือ นักเตะที่ดับฝันของเต็งหนึ่ง (บราซิล) และเต็งสอง (เยอรมันตะวันตก) โดยสิ้นเชิง เป็นนักเตะที่เกือบไม่ได้มาฟุตบอลโลกอยู่แล้ว ... จากคุณ : Oh God เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 12:47:08

ความคิดเห็นที่ 5 คิดถึงสมัยที่ฟุตบอลยังเป็นฟุตบอล ไม่ใช่ธุรกิจหรือแท็คติคจัด บราซิลปี 1986 ก็เล่นสวยนะครับ แต่โชคไม่เข้าข้างตอนเจอฝรั่งเศส จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:02:04

ความคิดเห็นที่ 6 ใครคือ paolo rossi หล่ะครับ ขอประวัติความเก่งกาจหน่อย จากคุณ : Jikko_B@by เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:33:48

ความคิดเห็นที่ 7 ปีนั้นเล่นกันที่สเปน...มีประเด็นเรื่อง air horn ของสเปน ไม่ต่างจากวูวูเซล่าเลย... แต่ประเด็นคือ อิตาเลียเท่านั้นจริงๆ แล้วนัดที่บราซิลชุดปีนี้เล่นกับอิตาเลียนี่ถือว่าเป็นแมทช์สุดยอดที่สุดในยุคเลย เพราะเล่นกันด้วยทักษะสุดยอด อิตาเลียมาโชคดีที่มีซอร์พช่วยชีวิตเยอะ บราซิลควรจะกลับไปเล่นสไตล์เดิมคือเน้นความสวยงามในเรื่องรูปเกมส์การเข้าทำสไตล์บราซิลแท้ๆ แล้วเน้นเกมส์รับ ไม่ใช่ปรับทีมมาเป็นยุโรปแล้วมาสู้กับยุโรป ของปลอมทำมาเหมือนเขาให้อย่างไรก็ไม่เหมือนเขา กลับไปเป็นแบบยุคก่อน 98 นั่นแหละ คือสิ่งที่ควรทำไม่ใช่มาเน้นทำบอลสไตล์ยุโรป มันเป็นสไตล์เก่าที่ไม่ควรเอาพวกสไตล์ยุโรปมาให้ทำทีม เน่าแล้วมันก็เน่ายาว ดีไม่ดีจะยุดสไตล์เก่าก็จะขุดไม่ได้แล้ว... เสียดายพวกสายบู๊สไตล์บราซิลแบบเก่า มีคนบอกว่าเอาสไตล์บราซิลล้วนๆ มาก็ไม่ได้แชมป์ แต่เขาก็ได้แชมป์แบบสไตล์เก่ามาเสริมเกมส์รับ ไม่ใช่มาทำแบบยุโรป เล่นแบบยุโรป สไตล์ยุโรปเลยในช่วงบอลโลกสองปีหลังนี้... มันตอบโจทก์ไปหมดแล้ว จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:36:02

ความคิดเห็นที่ 8 Rossi เป็นดาวซัลโวสูงสุดของฟุตบอลโลกครั้งนั้น ยิงสามนัด 6 ประตู ยิงบราซิล 3 โปแลนด์ 2 และเยอรมันตะวันตก หนึ่ง (ถ้าความทรงจำสีจางๆ ของผมจำไม่ผิดนะครับ) จากคุณ : Oh God เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:48:41

ความคิดเห็นที่ 9 ความสวยงามของ ทีมกาแฟ (บราซิล) ยุคนั้น ทำให้ผมนึกถึงทีม "ต่างดาว" บาร์ซ่าขึ้นมาเลย พวกเขาเล่นบอลกับพื้นได้อย่างสวยงาม  ต่อบอลตามช่อง มีศิลปินลูกหนังอยู่ในทีม เกินครึ่ง บราซิลยุคนั้นก็มี จูเนียร์ ฟัลเกา เอเดอร์ คุณหมอ โซคราเตส ซิโก้ ... ทีมอย่างบราซิล 1982 และบาร์ซ่ายุคนี้ ทีมที่จะหยุดพวกเขาได้ต้องมีนักเตะ ที่ฟอร์มมาพีคถึงขีดสุดในนัดนั้นๆ อย่างที่ Rossi ยิงแฮตทริคใส่ บราซิลเมื่อปี 1982 ... จากคุณ : Oh God เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:57:47

ความคิดเห็นที่ 10 โคตรทีมบราซิล นัดนั้น ยิงอิตาลีได้ 2 ลูก แต่โคตรคน เปาโล รอสซี่ ยิงบราซิลได้ 3 ลูก บราซิลชุดที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดในประวัติศาสตร์จึงตกรอบ ปล่อยอัซซูรี่เข้าไปคว้าแชมป์ครับ จากคุณ : Sitdown เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 13:59:07

ความคิดเห็นที่ 11 ซิโก้ โซคราเตส ชอบมาก2คนนี้ จากคุณ : LnTan เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:09:00

ความคิดเห็นที่ 12                                           จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:40:17

ความคิดเห็นที่ 13 ดูคลิป คุณ palovema แล้วนึกถึง winning ภาคแรกๆ เลย :D จากคุณ : boy_kung เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:49:19

ความคิดเห็นที่ 14 อิตาลีชุดนั้นนอกจากรอสซี่แล้วยังมีโคตรบอลอย่าง อันโตโญนี่ คอนติ คอยสนับสนุนแกอยู่ในแดนกลางกับริมสนามครับ นอกจากนี้แผงกองหลังก็ทั้งโหดทั้งตุกติก จำได้ว่าแมทช์ที่พวกเค้าชนะอาร์เจนติน่า ทั้งมาราโดน่า ทั้งอาร์ดิเลส ถูกกองหลังอิตาลี่ นำโดยเจนติเล่ ไล่ฉุดไล่ดึงจนเสื้อขาดกระจุย แบบว่าอาร์ดิเลสนี่หัวนมโผล่เลย   บราซิลชุดนั้นสุดยอดจริงๆครับ แต่ไปแพ้ในนัดที่ไม่ควรจะแพ้เท่านั้น ที่จริงพวกเค้าเล่นแค่เสมอก็เข้ารอบแล้ว เพราะประตูได้เสียดีกว่าอิตาลี แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 15:12:40 จากคุณ : meteorite เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:54:30

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบ คห.6 ครับ ประวัติคงต้องค้นเองครับ แต่อยากเล่าเกร็ดให้ฟัง อ่านจากไหนมาจำไม่ได้แล้วครับ เขียนจากความทรงจำล้วน ๆ เปาโล รอสซี่ เนี่ย เล่นให้ยูเวนตุสครับ เป็นศูนย์หน้าพรสวรรค์ ว่ากันว่าเก่งมาตั้งแต่บอลโลกปี 78 ที่อาร์เจนติน่าแล้วครับ เป็นตัวความหวังของ เอ็นโซ แบร์ซ๊อต กุนซืออิตาลี ในขณะนั้น แต่พอปี 80 รอสซี่ เกิดมีปัญหาเกี่ยวกับคดีล้มบอล โดนสั่งห้ามเล่น (รู้สึกจะ 2 ปี) เรียกว่าพ้นกำหนดโทษแบนก่อนบอลโลกปี 82 ไม่กี่เดือน สื่อมวลชนก็กดดันแบร์ซ็อตว่าให้เรียกศูนย์หน้าคนอื่นไปติดทีมแทนรอสซี่ ซึ่งไม่ได้เล่นบอลในระดับชั้นนำเลย แต่กุนซือเฒ่าของอิตาลีไม่ฟัง มั่นใจในตัวของรอสซี่ ดึงดันจะเอาไปด้วยให้ได้ แถมให้ลงเล่นเป็นตัวจริงด้วย ฟอร์มในรอบแรกก็กระท่อนกระแท่น เกือบจะตกรอบ แต่พอเข้ารอบสองไปเจอบราซิล รอสซี่ก็กดแฮททริคดับฝันของคนทั้งโลกที่อยากจะเห็นฟุตบอลสวยงามอย่างบราซิลได้แชมป์ รอบรองก็ดับโปแลนด์ของโบเนี๊ยก รอสซี่ยิงไปอีก 2 ลูก รอบชิงก็ยิงเยอรมัน ต.ต. อีก 1 ลูก คว้าแชมป์โลกพร้อมกับดาวซัลโวไปครอง เรียกว่า รอสซี่ เกิดมาเพื่อดับบราซิลปี 82 โดยเฉพาะ... จากคุณ : ยัยตัวดีกับคนขี้เหงา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 14:59:03

ความคิดเห็นที่ 16    ดูการเข้าทำของบราซิลชุดนี้ ผมว่าเทียบเท่าหรือดีกว่าชุด 1970 ยุคเปเล่น่ะ   คือเป็นบอลเหนือชั้นไปแล้ว เอนเตอร์เทนสุดๆ เดินหน้าฆ่ามานลูกเดียว    บุกมาแต่ละที กองหลังคู่แข่งจับทางยากมากๆ    เวลานึกถึงบอลโลกปี 1982 หรือดูในยูทูบ    ผมคลิกดูบราซิลมากกว่าอิตาลีเสียอีก    การแพ้อิตาลี ผมถือว่าเป็นอุบัติเหตุแค่นั้น แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 16:15:57 จากคุณ : Rarm41 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:14:00

ความคิดเห็นที่ 17 บราซิลชุดนี้ เริ่มน่ากลัวมาตั้งแต่ทัวร์ยุโรปในปี 1981  ชนะทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมันตะวันตก แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 16:35:32 จากคุณ : Rarm41 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:25:27

ความคิดเห็นที่ 18 ชนะฝรั่งเศสที่นำโดยพลาตินี 3-1 จากคุณ : Rarm41 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:27:30

ความคิดเห็นที่ 19 ปิดท้ายด้วย ชนะเยอรมันตะวันตก 2-1    คลิปมีแค่ฟรีคิกของเอดอร์เท่านั้นครับ จากคุณ : Rarm41 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:32:10

ความคิดเห็นที่ 20  แถมด้วยนัดพบเยอรมันตะวันตกที่สนามมาราคาน่า ต้นปี 1982 ก่อนบอลโลก  ก็เอาชนะเยอรมันได้อีก 1-0 นัดนี้เป็นนัดแจ้งเกิดรอบสองของ โลธาร์ มัทเธอุสด้วยครับ หลังจากหลุดทีมชาติไปนาน หลังจากนัดที่ทำเยอรมันเสียจุดโทษในบอลยูโร 1980   โดยเล่นได้ดี ตามประกบซิโก้ได้หนึบๆ จนได้รับคำชมอย่างมาก แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 16:46:15 จากคุณ : Rarm41 เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 16:34:57

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาระลึกความหลังก็ดีเหมือนกัน มาเสริมครับว่า บราซิลชุดนั้น นำโดย โค๊ช เทเล่ ซานตาน่า ที่ล่วงลับไปแล้ว ผู้ยึดสไตล์ เดินหน้าบุกแหลก ในขณะที่ผู้เล่นทั้งทีม  สมบูรณ์ทุกตำแหน่งจริงๆ ครับ  ( ใน 9  ตำแหน่ง) ยกเว้น ผู้รักษาประตู คือ ไอ้เหม่ง วัลดีร์ เปเรซ  กับ หน้าเป้า คือ เซอร์จินโญ  มีคนว่ากันว่า ถ้าเปลี่ยนหน้าเป้าเป็น รอสซี และเปลี่ยนประตูเป็น ไรนาต ดาซาเยฟ  ประตูรัสเซีย ที่เข้าฟอร์มในบอลโลกคราวนั้นพอดี  นี่แหละครับ ดรีมทีมของแท้ ในยุคนั้น บราซิล มีปัญหากับผู้รักษาประตูมาก  มือ 1 เดิม ที่พอไว้ใจได้อย่าง อีเมอร์สัน ลีโอ ที่เล่นในปี 1978 ก็บังเอิญร่างกายไม่สมบูรณ์ ต้องเป็นตัวสำรอง แต่ดันไปยื่นคำขาดกับซานตาน่าว่า ถ้าติดไปบอลโลกต้องให้เป็นตัวจริง เลยถูก ซานตาน่า ดร็อป จากทีม  เหลือวัดกัน 2 คน ระหว่าง วัลดีร์ เปเรซ กับคาร์ลอส (ประตูตัวจริงปี 1986)   จริงๆ ฝีมือก็พอๆกันแหละครับ ช่วงอุ่นเครื่องก่อนบอลโลก ซานตาน่า ก็ เลือกใช้สลับกัน ซึ่งตอนนั้น ยังไม่ทราบแน่ว่า ในบอลโลกใครจะเป็นมือ 1 จนกระทั่ง นัดสุดท้าย บราซิลไปอุ่นเครื่องกับเยอรมัน ตาม  # 19  ซึ่ง เปเรซ เป็นตัวจริงในนัดนั้น   แล้วดัน (เจือก) ผีเข้า เซฟประตูสวยๆ ได้หลายลูก รวมถึงเซฟจุดโทษในเกมได้ถึง 2 ลูก ทำให้ บราซิลชนะไป 2-1 อย่างที่ว่า  พอจบเกมนี้ ก็เลยการันตี เปเรซให้เป็น มือ 1 ในบอลโลก ปี 1982ไป  โดยมีสถิติลงสนามทุกนัด ถูกยิงแบบเสียฟอร์ม แทบทุกนัด  (โดยเฉพาะนัดแข่งกับ สก็อตแลนด์ และอาร์เยนติน่า ) มีนัดเดียวที่เปเรซไม่เสียประตู ก็คือนัเที่ชนะนิวซีแลนด์   4-0  (ควรจะภูมิใจไหมเนี่ย) สำหรับ เซอร์จินโญ  ก็ไม่ได้เป็นหน้าเป้าที่เลวร้ายอะไรมาก เพียงแต่ว่า ตอนนั้น กาเรก้า  (หน้าเป้าตัวจริงในปี 1986 และ 1990 ดันเจ็บ)  ซานตาน่า เลยเลือกเซอร์จินโญ่มาแทน  ซึ่งผลงานก็คือ ยิงให้บราซิลไป 3 ประตู จากจำนวน  15 ประตูที่บราซิลทำได้ ซึ่งถือว่า น้อยมากสำหรับหน้าเป้าตัวหลัก แถมยังไม่ค่อยมีส่วนกับเกมเท่าไร ช้อตที่แฟนๆ ทีมบราซิล คงไม่ลืมก็คือ จังหวะที่เจ้าตัว แย่งบอลจากเท้า ของซิโก้ ที่กำลังได้จังหวะจะยิงแบบชัวร์ๆ  ตรงประตู  เอาไปยิงดื้อๆ แล้วหลุดออกนอกกรอบไปเป็นวาๆ  ในนัดที่แพ้อิตาลี 2-3 นั่นแหละครับ   ....ถ้าเป็นสมัยนี้ เห็นลูกนี้ แล้ว คงต้องมาตั้งกระทู้ถามครับว่า  เมื่อคุณเห็นเซอร์จินโญ่ทำแบบนั้น แล้ว คุณอุทานว่า อะไร  อิ..อิ...อิ.. เขียนมายาวมากครับ อาจเรียบเรียงอักษรดูลานตาไปบ้าง ถือว่า เล่าสุ่กันฟังครับ ยินดีแลกเปลี่ยนความเห็นกับทุกท่านครับ จากคุณ : อาร์คีมิดิส เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 17:04:58

ความคิดเห็นที่ 22 จาก คห.21 ช่วงวินาทีที่ 35 อ่ะครับ  ที่แย่งกันยิง  จนซิโก้โวยใส่เลย ( โล่งๆแต่ยิงออกแบบน่าเกลียดอ่ะ ) จากคุณ : ชาวบางนา เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:23:25

ความคิดเห็นที่ 23 ลุงอาร์คีมาแล้ว พี่ล่องแม่ปิงไปไหนน้อ กระทู้รวมแฟน ลา เซเลเซาแท้ๆ อิอิ เย้ย เพิ่งดูคลิป ฟรีคิก ของเอเดอร์ นี่มันบานาน่าชู๊ตสูตรต้นตำรับเลยนี่น่า เลี้ยวกว้างเกินไป ไม่กี่มิลลิเมตร แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 54 18:43:08 จากคุณ : ข้าวแดงแห่งลาดยาว เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 18:34:23

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามารำลึกความหลังด้วยคน ถ้าจำไม่ผิด ในปี 1982 เด็กน้อยมาราโดน่า ในวัย 18 ( รึป่าว ) ก็ติดทีมชาติอาร์เจนตินาไปเล่นบอลโลกเป็นครั้งแรก นัดที่อาร์เจนตินาเจอบราซิล มาราโดน่าโดนใบแดงด้วย ฟุตบอลสมัยก่อนมันก็ตื่นตาตื่นใจไปอีกแบบ มีลีลาสวยๆให้ดูมากมาย ฟุตบอลสมัยใหม่ เน้นประสิทธิภาพ เน้นแทคติกกันมาก ตั้งรับกันทั้งทีม เสียลูกเตะมุม กองหน้าตัวเป้ายังต้องลงมาช่วยทีม การได้ประตูส่วนใหญ่จึงออกมาในรูปตั้งรับเหนียวแน่นแล้วเล่นสวนกลับเร็ว อะไรประมาณนี้ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 21:43:54

ความคิดเห็นที่ 25 เปาโล รอสซี่มาเล่นให้แมนยูพักนึงหนิคับ :p จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 23:05:10

ความคิดเห็นที่ 26 บราซิลชุดไหนก็สุดยอดทั้งนั้นแระคับ ขนาดชุดลุยแอฟริกาใต้ที่ว่าขี้เหร่ที่สุดในประวัติศาสตร์ถ้าไม่ร่วงเพราะเจอลูกโหดของฮอลแลนด์ สเปนหนาวแน่อะ จากคุณ : รูปของเธอ เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 54 23:41:24

ความคิดเห็นที่ 27 เฮ้ยย นั่นมัน วาเลนติโน่ รอซซี่ ที่อยู่บียารีลตะหาก จากคุณ : Kill11by1pass เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 00:20:18

ความคิดเห็นที่ 28 บราซิล ยังไงก็บราซิล อีกชาติที่ควรได้รับคำยกย่องเช่นนี้คือ เยอรมันอีกทีม จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 01:58:42

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าบอกว่า บราซิล  ไหนก็สุดยอดเหมือนกัน  เท่าที่ดู  ตั้งแต่ ปี 1990 เป็นต้นมา  บราซิลเปลี่ยนไปครับ เป็นทีมที่เล่นแบบยุโรปและเน้นแท็กติก     เกิดไม่ทันปี 1982  เห็นการส่งบอล  การเคลื่อนที่  ทั้งคนมีและไม่มีบอล   ในแต่ละประตู    ลองดูดีๆ แล้วจะรู้ว่าสุดยอดขนาดไหน เพิ่งเคยเห็น  ซิโก้  ของแท้    ก่อนจะมาเป็นฉายาของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ จ่ายบอลทะลุโคตร  ยิงเฉียบขาด  และไม่โชว์เดี่ยวด้วย การ หลอกยิง มุมแคบ  ของ คุณหมอ โซเครติส (8)  นัดอิตาลี   อย่าดูแค่ตอนยิง ให้ดูตอนทำทางไปยิงด้วย   รวมทั้งทำไม ดิโน่ ซอฟ จึงป้องกันไม่ได้ เหตุผล เพราะคิดว่าจะส่งไงครับ       ความคลาสสิค ของ เอเดอร์   (อ่านถูกมั๊ยไม่รู้) ความขยันของ  ฟัลเกา   จูเนียร์ สรุปแล้วการเคลื่อนที่ของทุกคนมันเนียนตาจริงๆ  ต่อให้โดนประกบ คนอื่นก็ทำได้ จากคุณ : พญาปักษี เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 09:14:51

ความคิดเห็นที่ 30 #27 วาเลนติโน่  รอสซี่ คนนั้น มันแชมป์ Moto gp หลายสมัย  ไม่ใช่เหรอครับ  น่า จะเป็น จูเซปเป้ รอสซี่ นะ จากคุณ : jerman555 เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 54 20:20:47