ความคิดเห็นที่ 1 ให้เหล็กมันอ่อนตัวลงจะได้ตีเป็นรูปร่างต่างๆได้ครับ จากคุณ : -OmegA- - [ 12 เม.ย. 49 16:38:35 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพประกอบ ได้มาจากเมือง Toledo Spain http://www.knightsedge.com/spanish-toledo-swords.htm http://www.aceros-de-hispania.com/toledo-swords.htm แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 49 17:44:23 จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 16:43:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 . จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 16:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .. จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 16:46:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เท่าที่จำได้นอกจากทำให้เหล็กอ่อนตัวเพื่อง่ายแก่กันตีเหล้กแล้ว การเผาไฟยังมี ประโยชน์อีกอย่างนั้นคือ เป็นการเผาเอา ... สารอะไรสักอย่างออกไปจากเหล้กด้วย (กำมะถันมั๊งครับ ไม่แน่ใจนะครับ) ... มันเลยทำให้เหล้กมีความแข็งมากขึ้นด้วยอ่ะครับ ตีเหล็กเมื่อร้อน ได้ประโยชน์สองอย่างเลยเนอะ เหอะๆๆ ... จากคุณ : เด็กชายโลกน้ำเงิน - [ 12 เม.ย. 49 16:46:22 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคยเรียนแต่ลืมไปแล้ว แต่ไม่เป็นไรหรอกผมต้องเรียนใหม่อีกรอบเพราะติดf...555+ จากคุณ : tHeNuT - [ 12 เม.ย. 49 16:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ... จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 16:49:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับในไทยที่นี่ช่างตีเหล็กทำมาประมาณ 40 ปีแล้ว และปัจจุบันยังใช้วิธีที่ได้รับจากบรรพบุรุษอยู่ เหล็กที่ใช้ส่วนมากจะทำมาจากแหนบรถยนต์ แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 49 17:37:37 จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 17:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 . จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 17:38:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 .. จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 17:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ... จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 17:40:28 ]

ความคิดเห็นที่ 12 .... จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 17:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 13 . จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 17:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 .. จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 17:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Annealing ครับ จากคุณ : phonetics - [ 12 เม.ย. 49 17:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 16 รูปคุณ Komi สวยครับ ไม่รู้ว่านิยมมีดเหมือนกัน เคยเข้าใจว่า เพื่อให้โมเลกุลของเหล็กมันเรียงตัวเหมาะสม แต่ตอนหลังเข้าใจว่าเพื่อให้ มี ธาตุ คาร์บอนด์แทรกเข้าไปในเนื้อเหล็กมากขึ้นเพื่อเพิ่มความแกร่ง ตกลงเข้าใจถูกมั้ยเนี่ย เพราะว่าเห็นเหล็กทำมีดดี อย่าง Damasteel นี่ผมเคยซื้อมาฟุตนึง เกือบหมื่น ตีมีดออกมาแล้วสวย แกร่ง ครับ http://www.damasteel.biz/ จากคุณ : -=Jfk=- - [ 12 เม.ย. 49 17:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ให้โมเลกุลเหล็กมันชิดติดกันมากขึ้น โดยเฉพาะตรงส่วนคม sword pounding|forge @ google จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 12 เม.ย. 49 18:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 หลักการ ผมไม่ทราบแน่ชัด แต่ถ้าไม่เผาจนแดงๆ ก็จะตีขึ้นรุปไม่ได้อะคับ ต้องดูวิธีผลิตดาบญี่ปุ่นคับ แบบสุดยอดมากๆ เขาจะตีแบบกลับไปกลับมา เหมือนนวดเหล็กมั้ง ไม่แน่ใจว่าทำเพื่ออะไรคับ แล้วจะตีทีนึงเป็น 10 เป็น 100 เล่ม แล้วยังไม่เข้าด้าม จะเอาดาบนั้นไปตากแดดตากฝนเป็นปีๆ ว่าดาบเล่มไหนทนได้ แล้วที่เสียก็เอาทิ้งไป แล้วเล่มที่ดี ก็จะเอามาตี + แต่ง และลับคม + เข้าด้าม คับ เล่มละหลายแสนคับ ยิ่งถ้าคนตีถือศีลด้วยยิ่งสุดยอด (ช่วยอะไรว้า ให้นิ่งขึ้นหรอ - -") คมมากๆ เห็นในหนังที่เห็นฟันง่ายๆ ทำได้จริงนะคับ แต่ไม่คมขนาดนั้น - - บางเรื่องมันเวอร์ไป เหอๆ ความคม + ความเร็วในการฟัน ทำให้ของแข็งๆขาดได้ง่ายๆคับ จากคุณ : Jet_XP - [ 12 เม.ย. 49 18:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เป็นเพราะรุ่นพี่ของ คุณหมอ -=Jfk=- นั่นแหละ ชอบสะสม มีด ปืน พอดีมีโอกาสไปไหนๆมาบ้าง ของฝากเขาจึงเป็นประมาณนี้ค่ะ และของขวัญวันเกิดที่เขาให้เราก็เป็น Sig. P230 อิอิ ขอนอกเรื่องเจ้าของกระทู้นิดหนึ่งค่ะ มีดเล่มนี้มาจากอำเภอแม่สะเรียง ช่างที่ทำชื่อ ช่างตอง มี running number ด้วย จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 18:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้มาจากพม่า จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 19:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ยาวค่ะ จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 19:02:06 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณสำหรับภาพประกอบครับ *0* คือผมเคยเอาใบมีดคัทเตอร์มาลนกับไฟ (เอาไปตัดพลาสติก) พอจะหักมัน ดันหักไม่ได้ ใบมีดมันเหนียวขึ้นน่ะครับ ไม่แน่ใจว่า ถ้ามีการตีมันด้วย จะทำให้มีดแข็งขึ้นด้วยใช่มั๊ยครับ จากคุณ : สวรรค์รำไร (สวรรค์รำไร) - [ 12 เม.ย. 49 19:02:36 ]

ความคิดเห็นที่ 23 การเผาไฟตอนตี มีจุดประสงค์เพื่อทำให้เนื้อเหล็กอ่อนลง(การเผาเพื่อเอา carbon ใส่เพิ่มเข้าไปในเหล็กก็อาจเป็นไปได้ ใส่carbon หรือถ่านเพื่อทำให้เหล็กแข็งขึ้น แต่ก็จะเปราะขึ้นเช่นกัน) พอเผาแล้วเนื้อเหล็กอ่อนลงก็จะสามารถตีให้แบน ให้คมได้ง่ายขึ้น (เหล็กอุณหภูมิสูงขึ้น> ขยายตัว> ความหนาแน่นลด> อ่อนลง) แต่จริงๆแล้วถ้าเปรียบเทียบความแข็ง ความแข็งของเหล็ก ที่ไม่ได้เผา แล้วไปตีใ้ห้บาง จะแข็งมากกว่า (ลองดูคำ่ว่า cold working นะครับ) แต่ก็จะมีความเปราะมากกว่าเป็นผลเสียตามมา ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นช่างตีดาบ ตีดาบได้โดยไม่เผาให้แดงก่อนนะครับ คงตีไม่ได้หรอก มันแข็งเกิน ส่วนถ้าลนไฟหลังตีเสร็จแล้ว คือ heat treatment ครับ (อาจจะเป็นอย่างคุณ คห ข้างบน ที่ลนคัตเตอร์ทำ) เราทำ heat treatment ให้กับเหล็กที่ผ่าน cold working เพื่อลดความเปราะให้มัน แต่ความแข็งก็อาจจะลดลงบ้างบางส่วน การทำ heat treatment ต้องทำในอุณหภูมิที่เหมาะสมนะครับ ถ้าอ่านแล้วงงๆสงสัยอะไร ก็ถามต่อได้นะครับ (พิมตอนง่วงแล้ว) จากคุณ : Vagabundo - [ 12 เม.ย. 49 19:58:43 ]

ความคิดเห็นที่ 24 มีดคุณ komi rep19  ด้ามทำจากเขากวางใช่ป่าวครับ คุ้นๆเหมือนจะมีเก่าเก็บอยู่เล่มนึง จำนัมเบอร์ไม่ได้ แต่ แก่รง + ทนมากเลยครับ จากคุณ : NoOscar - [ 12 เม.ย. 49 20:06:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ NoOscar ด้ามมีด  ทำมาจากเขากวางค่ะ สมัยก่อนแถบลุ่มน้ำ สาละวิน ( original คนแม่สะเรียงเรียกว่า ซา ลา วิน)ยังมีสัตว์ป่าอยู่ แต่สมัยนี้เป็นสัตว์สงวนแล้ว เป็นของขวัญแต่งงานจากครอบครัว พร้อมกับช้างอีกสองเชือกค่ะ(ช้างไม้สักเน้อ) จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 20:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 สวยๆทั้งน้านเลยครับ คุณKomi ว่างๆต้องแวะไปชมกันหน่อยแล้ว (จริงๆ จะไปขอข้าวกินนั่นแหละ ) จากคุณ : -=Jfk=- - [ 12 เม.ย. 49 20:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ด้วยความยินดี จากคุณ : Komi (komi_to) - [ 12 เม.ย. 49 21:22:46 ]

ความคิดเห็นที่ 28 http://bronksknifeworks.com/Knife_Articles.htm จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 12 เม.ย. 49 21:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 Forging ครับ  เป็นกระบวนการทุบขึ้นรูปขณะร้อนทำให้เนื้อเหล็กมีค่า Hardness สูงขึ้น ค่า Physical Properties ทั้งหลายทั้งปวงดีขึ้นทุกตัว  ถ้าดาบทำจากเหล็กหล่อเฉยๆมันก็ได้เป็นแค่เสียมแหล่ะครับ จากคุณ : Peet - [ 12 เม.ย. 49 22:49:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ดาบซามูไรญี่ปุ่นเขาตีจนในแหล็กแผ่เป็นแผ่นบางๆแล้วตีพับอีกที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ หลายๆปี แล้วแต่ความอึด ต้องเผาในเตาถ่านครับเพราะคาร์บอนจากถ่านจะซึมเข้าไปในเหล็กช่วยเพิ่มความแข็งแรง ยังไม่เคยเห็นที่ไหนเอาเตาแก๊สตีเหล็กเลย ตอนเรียน ปวช ตะใบค้อนพอเสร็จแล้วต้องเอาไปเผาในเตาถ่านแล้วเอาออกมาจุ่มน้ำเพื่อชุบแข็ง จากคุณ : ราชสีห์ในเงาหมอก - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 00:31:25 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เพราะตีรอบเดียว ยังไม่เสร็จ จากคุณ : napatn - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 00:43:25 ]

ความคิดเห็นที่ 32 การเผาให้ร้อนเพื่อลดแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของเหล็กให้ลดลง ทำให้ขึ้นรูปง่ายขึ้นครับ ผมเคยดูสารคดีการตีดาบของญี่ปุ่นเขาจะตีเหล็กพับไปพับมาหลายๆรอบ จากน้ันค่อยตียืดความยาวของแท่งเหล็กจากโคนดาบไปหาปลายดาบ ภาษาทางวิชาการเรียก Forging วิธีการนี้เป็นการรีดให้โครงสร้างของเหล็กจากเม็ดกลมๆ กลายเป็นแผ่นวงรีซ้อนติดกัน เพื่อเพิ่มความเหนียวให้กับเหล็ก (ภาพเม็ดเหล็กที่เรียงติดกันนี้ ภาษาทางวิชาการเรียกเม็ดเกรนครับ) เมื่อผ่านการตีขื้นรูปแล้วข้ันตอนที่ขาดไม่ได้คือต้องทำการชุบให้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการขังผลึกคาร์บอนที่แทรกตัวอยู่ในเม็ดเกรนของเหล็กให้คงสภาพ เพิ่อเพิ่มความแข็งของเหล็ก (Hardening) หรือภาษาไทยเรียกว่าการชุบแข็ง แต่ข้อเสียคือหากไม่ระวังมันจะแข็งทั้งชิ้นแล้วทำให้เปราะ ผลที่ต้องการจริงคือ ตรงพื้นผิวภายนอกของดาบต้องแข็ง แต่เมื่อเลยช้ันผิวบางๆเข้าไปแล้ว ข้างในต้องเหนียว  ที่ข้างนอกแข็งเพราะต้องการความสามารถในการตัดเฉือน ส่วนข้างในเหนียวเพื่อป้องกันการแตกหักจากแรงกระแทก ดังน้ันจึงเกฺิดกรรมวิธีอบอ่อนขึ้น คือการเอาดาบกลับไปเพิ่มความร้อนอีกคร้ังหนื่งในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อให้คาร์บอนในเนื้อเหล็กใต้ผิวดาบละลายตัวสลายผลืกเพื่อลดความแข็งและเพิ่มความเหนียว ที่กล่าวท้ังหมดนี้ผมดูสารคดีแล้วมาวิเคราะห์จากทฤษฏี และของจริงที่เห็นจากงานพวกทำเฟืองรถยนต์ในปัจจุบัน ซึ่งจริงๆ แล้วช่างทำดาบโบราณสมัยก่อนเขาอาจเรียกกรรมวิธีที่ผมเล่าให้ฟังไม่ถูก แต่เขารู้ว่าเมื่อตีดาบได้รูป เผาให้ร้อน แล้วเอาไปเสียบต้นกล้วย มันจะทำให้ดาบแข็งขึ้น คนรุ่นหลังมาศึกษาจากเทคนิครุ่นก่อนแล้วค่อยเอาหลักวิทยาศาสตร์มาให้คำตอบว่าทำไมต้องทำอย่างน้ันครับ หากคำอธิบายใด ผมพูดผิดไปช่วยแก้ให้หน่อยนะครับ คือผมเรียนเรื่องนี้มานานแล้ว และส่วนตัวไม่ได้ทำงานด้านนี้โดยตรง อาจจะจำผิดบ้างบางข้ันตอนครับ จากคุณ : BoydKansasCity - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 13:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาช่วยเติมครับ การทำให้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว เรียกว่า Quenching โดยสารชุบที่ใช้ทำให้เย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว มีได้หลายอย่าง อากาศก็จัดเป็น Quenching Medium ด้วยเช่นกัน ในสมัยโบราณ ดาบบางประเภท มีวิธีการตีที่พิสดารล้ำลึก ใช้เลือดหมาดำเป็นสารชุบ คนตีดาบต้องถือศีล8 ตีในคืน15ค่ำ ฟืนที่ใช้ต้องไม้สักฟ้าผ่าแห้งตาย โลหะที่ใช้ ส่วนผสมเป็นตะปูโลงผีตายโหง มันออกแนวแฟนตาซีไปนะครับ พยายามหาเหตุผลมาประกอบ บางอันมันหาเหตุผลไม่ได้เลย การให้ความร้อนกับโลหะที่ตี เพื่อให้แรงทางกลเพื่อแปรรูปโลหะน้อยลงครับ รูปร่างของผลึกโลหะ (Grain) มีด้วยกันหลายรูปร่าง ซึ่งแต่ละรูปร่างจะมีคุณสมบัติต่างๆกันไป การเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว ผลึกโลหะจะมีขนาดเล็ก มี Stress สูง ความแข็งสูง ส่วนที่ลึกๆเข้าไป อัตราการเย็นตัวต่ำกว่าผิว ทำให้ความแข็งน้อยกว่า เปอร์เซ็นคาร์บอนในโลหะก็มีส่วนสำหรับการชุบแข็งเช่นกัน การที่โลหะส่วนแกนๆอ่อน เพื่อให้มีความยืดหยุ่นดี ไม่หักง่ายๆ เพราะวัสดุแข็งจะเปราะ ส่วนคมดาบ ต้องแข็งเพื่อไม่ให้เสียทรงเมื่อเจอของแข็ง จากคุณ : โลหการ4 - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 17:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ซาดาอิจิ กัซซัน จากคุณ : ดาบซามูไร (Regent) - [ วันเนา (14) 00:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 35 นึกถึง ฮัตโตริ ฮันโซ ขึ้นมานิดๆ แหะๆ จากคุณ : เหมี่ยวMiaow - [ วันเนา (14) 06:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 36 -ทำไมเวลาทำดาบถึงต้องเอาไป ลนไฟ เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของเหล็ก ให้มี modulus น้อยลง ทำให้ขึ้นรูปได้ง่าย -แล้วก็ตี ๆๆๆ หลายๆ รอบด้วยครับ เพราะขึ้นรูปรอบเดียวไม่เสร็จน่ะสิครับ แรงคนตีนะครับ ไม่ใช่ค้อนไฮโดรลิก นอกจากนี้ การยืดเหล็กเร็วเกินไปก็จะทำให้ขาดได้ -วิธีนั้นทำให้เนื้อดาบแข็ง หรือว่าเหนียวขึ้นครับ มีผลน้อยมากครับ คุณสมบัติของวัสดุ จะขึ้นกับองค์ประกอบในเหล็ก และการทำ haet treatment -แล้วส่วนมากพวกดาบนี่เค้าใช้พวกธาตุอะไร เป็นส่วนประกอบครับ หลักๆก็ C ครับ รองลงมาก็ Mn V Mo Si และ Cr ครับ แต่ถ้ามีดสั้นลงมา ก็อาจจะเพิ่ม Cr ได้อีก -ดาบแฟนตาซีของท่าน komi นั้น ผมไม่แน่ใจว่าทำจากสเตนเลสหรือเปล่า ทางที่ดีอย่าเอาไปทดสอบฟันของแข็ง เพราะถ้าหัก ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ -ช่างมีดในภาพนั้น อยู่ที่ไหน ชื่ออะไรครับ -เหล็กจาก http://www.damasteel.biz/ มีหลายเกรดนะครับ แบบที่ใช้ทำช้อน ส้อม จะชุบแข็งไม่ได้ก็มี เคยมีช่างเอาเหล็กแบบนี้มาทำมีดขาย (แพงด้วย) ถึงกับเสียชื่อไปเลย -คุณหมอ jfk ได้แวะเข้าไปที่ www.thaiblades.com บ้างไหมครับ จากคุณ : PUFF - [ วันเนา (14) 13:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณคุณโลหะการ4 มากครับที่มาช่วยเสริมความรู้ ผมขอเพิ่มเติมจากประสบการณ์ของผมนะครับ เผอิญได้เห็นรูปในความเห็นที่ 2 แล้วฉุกคิดขึ้นมาได้ หากสังเกตุดีๆ รูปน้ันที่กลางดาบจนถึงปลายดาบ จะเห็นร่องบุ๋มเล็กๆ เป็นทางยาวๆ อันนี้เป็นหลักการเพิ่มความแข็งแรงให้กับตัวดาบครับ มันเป็นหลักการของการทำให้เกิดแรงตกค้างในวัสดุ (Residual Stress) เป็นหลักทางกลศาสตร์ว่าด้วยการใส่แรงในทิศที่ตรงกันข้ามกับภาระ (Load) ที่กระทำต่อวัสดุ (จริงๆ แล้วไม่ใช่แรงซะทีเดียว มันเรียก Stress แต่เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น ผมเรียกว่าแรงแล้วกันนะครับ) อธิบายง่ายๆ ว่า หากดาบเล่มนี้ทนแรงได้ 100 kg หากเราใส่แรงตกค้างเข้่าไปในทิศตรงกันข้ามกับ load อีก 10 kg หมายถึงว่าจะต้องใช้แรงภายนอกถึง 110 kg เพื่อจะหักดาบเล่มนี้ลงได้ครับ คล้ายๆ เวลาเขาพับเหล็กสังกะสีหลังคาบ้าน เขาต้องทำเป็นลอนลูกคลื่น เพื่อเพิ่มความแข็งแรง เพราะถ้าเป็นแผ่นเรียบๆ บางขนาดนี้แค่เอาไปพาดกับโครงหลังคาก็แอ่นแล้ว แต่หากทำเป็นลอนช่างทำหลังคาสามารถยึนบนแผ่นสังกะสีได้ และการที่ต้องตีดาบซ้ำไปซ้ำมา ส่วนหนึ่งก็ช่วยเสริม Residual Stress เป็นจุดเล็กๆ ทั่วๆ ไปของตัวดาบ เทคโนโลยีนี้เขาใช้ในการเสริมความแข็งแรงตามจุดที่มีโอกาสแตกหักได้สูงในงานหล่อโลหะ พวกขอบมุมต่างๆ โดยเขาจะใช้เม็ดโลหะขนาดเล็กๆ พ่นใส่เข้าไปด้วยความดันสูง คล้ายๆ การตีดาบครับ สุดท้ายถ้าใครสังเกตดาบอัศวินยุโรปยุคกลาง และดาบญี่ปุ่น จะเห็นการใช้เทคนิดนี้ครับ ดาบไทยผมไม่เคยเห็น ผมเดาว่าเพราะความหนาของสันดาบหนากว่าดาบญี่ปุ่น ทำให้มีความแข็งแรงพอ เลยไม่ต้องใช้เทคนิดนี้ครับ จากคุณ : BoydKansasCity - [ วันเถลิงศก (15) 00:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 38 - การที่ต้องตีพับ เพราะวัสดุไม่ดีพอครับ จึงต้องเพิ่มคาร์บอนและไล่มลทินออก อาวุธไทยสมัยก่อน ก็จะเห็นร่องรอยการตีพับครับ - การทำ peening นั้น มักทำหลังจาก heat treatment ครับ ถ้าทำก่อน heat treatment ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ครับ จากคุณ : PUFF - [ วันเถลิงศก (15) 20:51:16 ]