ความคิดเห็นที่ 1         ชาลส์ ดาร์วินเกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1809 ที่เมืองชรูเบอรี่ (Shrubbvery) ชรอพไชร์ (Shrophire) ประเทศอังกฤษ (England) ในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยและมีชื่อเสียงครอบครัวหนึ่งของอังกฤษ บิดาของดาร์วินเป็นนายแพทย์ชื่อว่า โรเบิร์ต วอริง ดาร์วิน (Robert Waring Darwin) บิดาของดาร์วินต้องการให้เขาศึกษาวิชาแพทย์ เพื่อเป็นแพทย์ แต่ดาร์วินไม่สนใจการศึกษาไม่ว่าจะวิชาอะไร เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเที่ยวเล่นยิงนก ตกปลาไล่จับแมลงชนิดต่าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บิดาจึงบังคับให้ดาร์วินเรียนวิชาแพทย์ ถึงแม้ว่าดาร์วินจะไม่ต้องการแต่บิดาของเขาก็ยังบังคับให้ดาร์วินเรียนแพทย์ จนได้ ขณะเดียวกันดาร์วินก็ยังคงศึกษาวิชาต่าง ๆ ที่เขาสนใจต่ออีก 1 ปี แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 52 04:37:21 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 52 04:33:53 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 52 04:33:29 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 52 04:32:19 จากคุณ : Cepa - [ 12 ก.พ. 52 04:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ทางราชนาวีอังกฤษมีโครงการจะออกเดินทางสำรวจสภาพภูมิประเทศ บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้และมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยทำการสำรวจมาก่อน โดยจะใช้เรือหลวงบีเกิ้ล (H.M.S.Beagle) เป็นเรือที่ใช้ในการเดินทางสำรวจ พร้อมกับกับกัปตันวิทซ์รอย (Captain Witzroy) เป็นผู้บังคับการเรือ กัปตันวิทซ์รอยต้องการนักธรรมชาติวิทยาเดินทางไปกับคณะสำรวจครั้งนี้ด้วย กัปตันได้ประกาศรับอาสาสมัครอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่มีผู้ใดสนใจการเดินทางไปกับเรือลำนี้จะต้องออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ครั้งนี้เองทั้งหมด กัปตันจึงเดินทางไปพบกับศาสตราจารย์เฮนสโลว์ เพื่อขอร้องให้ช่วยหา และศาสตราจารย์เฮนสโลว์จึงนำข่าวนี้มาบอกแก่ดาร์วิน และรับอาสาออกสำรวจดินแดน ทั้งเขาต้องขอค่าใช้จ่ายในการเดินทางในครั้งนี้อีกด้วย แต่พ่อเขาจึงไม่อนุญาตให้เดินทาง ด้วยความเป็นห่วง เขาจึงเดินทางไปหาโจเซียร์ เวดจ์วูด (Josiah Wedgwood) ลุงของเขาจึงไปพูดขอร้องแทนกับพ่อของดาร์วิน ในที่สุดพ่อเขาก็อนุญาตให้ดาร์วินออกเดินทางไปกับเรือหลวงบีเกิ้ลได้ จากคุณ : Cepa - [ 12 ก.พ. 52 04:36:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เส้นทางการเดินทางสำรวจของเรือหลวงบีเกิ้ลเรือหลวงบีเกิ้ลออกเดินทางจากท่า เรือเมืองดาเวนพอร์ต (Davenport Harbor) เมืองพลายเมาท์ (Plymount) ประเทศอังกฤษในวันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 1831 โดยแล่นเข้ามหาสมุทรแอตแลนติกเลียบไปตามชายฝั่งทางทิศตะวันตกของทวีปแอฟริกา โดยเข้าสู่หมู่เกาะคานาร์ ต่อจากนั้นจึงข้างฝั่งไปยังทวีปอเมริกาใต้เข้าสู่ประเทศบราวิลที่เมืองเรซิ เฟ(Recife) ซัลวาดอร์( Salavdor) และริโอเดอ จาเนโร ( Rio de Janeiro) เพื่อสำรวจลุ่มแม่น้ำอะเมซอน ( Amazon) ต่อจากนั้นก็เข้าสู่ประเทศต่าง ๆ ในทวีปอเมริกาใต้โดยแล่นอ้มไปทางแหลมฮอร์น (Cape Horn) เพื่อเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ เข้าสำรวจประเทศซิลี ( Chile) เมืองวาลปาเรส (Valparais) จากคุณ : Cepa - [ 12 ก.พ. 52 04:39:04 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรือบีเกิ้ลแล่นเรียบชายฝั่งไปจนถึงประเทศเปรู ซึ่งระหว่างทางเรือได้แวะตามเกาะต่าง ๆ มาโดยตลอด เมื่อสำรวจประเทศเปรูเสร็จ เรือบีเกิ้ลออกเดินทางไปยังเกาะตาฮิติ (Tahiti Island) ต่อจากนั้นก็เดินทางสำรวจต่อไปยังตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้ เข้าสู่ประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) ต่อจากนั้นก็เข้าสู่เกาะแทสมาเนีย (Tasmania Island) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะออสเตรเลีย และเข้าสำรวจประเทศออสเตรเลียในเวลาต่อมา หลังจากเรือได้เดินทางเพื่อเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย ผ่านเกาะสุมาตราและชวา เข้าสู่แหลมมะละกา (Malaga Cape) จากนั้นจึงเข้าสู่เกาะมอริเทียส (Mauritius Island) ซึ่งตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย และเดินทางต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงเมืองปอร์ต หลุยส์ (Port Louis) ผ่านแหลมกูดโฮป (Cape of Good Hope) เข้าสู่เกาะเซนต์เฮเลนา (St. Helena) และเข้าสู่ประเทศบราซิลอีกครั้งหนึ่ง ที่เมืองเปอร์นัมบูโก ( Pernumbugo) ต่อจากนั้นเรือบีเกิ้ลได้เข้าจอดที่อ่าวเปอร์โต ปาร์ยา (PortoPraya) ในหมู่เกาะเคปเวิร์ด (Cape de Verd) และแวะที่เมืองอาโซส (Azores) เป็นแห่งสุดท้ายก่อนเข้าจอดเทียบท่าที่เมืองฟอลมัธ (Falmouth) เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ใช้เวลาในการเดินทางครั้งนี้ทั้งหมด 5 ปี โดยถึงประเทศอังกฤษในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1836          การเดินทางครั้งนี้ดาร์วินต้องเผชิญกับอาการเมาคลื่น และอาการเจ็บป่วยอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวัน และสภาพอากาศที่แตกต่างไปจากที่ดาร์วินคุ้นเคย จากการเดินทางครั้งนี้เขามีโอกาสได้พบเห็นพิช สัตว์สภาพภูมิประเทศที่แปลกตา รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่แตกต่างกันออกไป เช่น เมื่อเรือบีเกิ้ลเดินทางไปถึงหมู่เกาะเคปเวิร์ด และจอดที่ท่าเรือเมืองปราเวีย (Pravia)ดาร์วินได้พบกับพืชเขตร้อน ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น กล้วยหอม ปาล์ม และต้นมะขาม เป็นต้น อีกทั้งเขายังได้เห็นหินสีขาวที่แข็งมาก และจากการวิเคราะห์ดาร์วินสรุปว่าหินสีขาวนี้เกิดจากซากหอย และปะการังจากทะเล ซึ่งต่อมาถูกลาวาไหลลงมาทับอีกชั้นหนึ่ง ทำให้หินมีความเข็งมากเป็นพิเศษต่อจากนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวโลก ทำให้หินสีขาวดันขึ้นมาอยู่เหนือสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 45 ฟุต          เมื่อดาร์วินกลับบ้านเขาก็ยังหมกหมุ่นอยู่กับการศึกษาแยกหมวดหมู่ ให้กับซากพืช ซากสัตว์ ที่เขาเก็บมา และในปีเดียวกันได้ตีพิมพ์ผลงานของเขาออกมาเล่มหนึ่งชื่อว่า A Naturalist's Voyage Around the World เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพบเห็นมาตลอดระยะเวลา 5 ปี ในการเดินทางสำรวจโลกไปกับเรือบีเกิ้ล จากคุณ : Cepa - [ 12 ก.พ. 52 04:44:51 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หนังสือเล่มสุดท้ายก่อนที่ดาร์วินจะเสียชีวิตในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1882 ศพของเขาถูกฝังอยู่ที่วิหารเวสเตอร์ ผลงานหนังสือที่ตีพิมพ์ของดาร์วินเป็นผลงานที่มีประโยชน์อย่างมากทั้งทางชีววิทยา และมนุษยวิทยา โดยเฉพาะทฤษฎีวิวัฒนาการถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญในวงการชีววิทยา อ้างอิง wikipedia ค.ศ. 1862 พิมพ์หนังสือชื่อว่า The Fertilization of Orchids        - ค.ศ. 1868 พิมพ์หนังสือชื่อว่า The Variation of Animal and Plants under Domestication        - ค.ศ. 1871 พิมพ์หนังสือชื่อว่า The Descent of Man and Selection in Relation to Sea        - ค.ศ. 1872 พิมพ์หนังสือชื่อว่า The Expression of the Emotion in Man and Animal        - ค.ศ. 1875 พิมพ์หนังสือชื่อว่า The Effect of Cross and Self - Fertilization in the Vegetable Kingdom        - ค.ศ. 1877 พิมพ์หนังสือชื่อว่า Different Forms of Flower and Plant of The Same Species        - ค.ศ. 1880 พิมพ์หนังสือชื่อว่า The Power of Movement in Plants        - ค.ศ. 1881 พิมพ์หนังสือชื่อว่า The Formation of Vegetable Mould Through The Action of Worms รูปข้างล่างเล่มสุดท้าย แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 52 05:02:47 จากคุณ : Cepa - [ 12 ก.พ. 52 04:51:58 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ของ google จากคุณ : Cepa - [ 12 ก.พ. 52 05:08:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณ คุณ Cepa ที่ตั้งกระทู้นี้ครับ ทฤษฎีวิวัฒนาการของ ดาร์วิน อยู่มาร้อยห้าสิบปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ รวมทั้งที่อเมริกา ที่คนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่เชื่อทฤษฎีนี้ จากคุณ : Geneticist - [ 12 ก.พ. 52 08:12:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมรูปประกอบ จากคุณ : Geneticist - [ 12 ก.พ. 52 08:13:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 . ครับ อายุผม ก็มากขึ้นอีกปีหนึ่ง อืมม . จากคุณ : ศาสตราจารย์ ดร. สติแตก (Thai_DeSeRT) - [ 12 ก.พ. 52 09:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากนะครับ ที่เห็นว่าทฤษฎีวิวัฒนาการไม่น่าเชื่อถือในหลายๆ จุด ลองเข้าไปดูได้ใน http://www.dissentfromdarwin.org/  นะครับ จากคุณ : PureTruth - [ 12 ก.พ. 52 12:27:49 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ | มาอีกแระ จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ - [ 12 ก.พ. 52 12:44:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 10 นักวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยาเกือบทั้งหมด เชื่อและเห็น"ความจริง"ของวิวัฒนาการครับ รายชื่อที่คุณให้มา เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับ Discovery Institute ซึ่งบอกว่าทำวิจัย intelligent design (ทุกอย่างเกิดจากสิ่งทรงปัญญาสร้าง) แต่ไม่เคยมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ครับ จากคุณ : Geneticist - [ 12 ก.พ. 52 12:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ "ความจริง"ของวิวัฒนาการที่คุณกล่าวถึง คืออะไรครับ ขอหลักฐานด้วยครับ       ประเภทแบคทีเรียกลายพันธุ์อะไรพวกนี้ไม่เกี่ยวนะครับ เพราะมันก็ยังเป็นแบคทีเรีย ไม่ได้กลายไปเป็นอย่างอื่นอย่างที่ทฤษฎีวิวัฒนาการกล่าวอ้าง จากคุณ : PureTruth - [ 12 ก.พ. 52 13:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ที่คนส่วนหนึ่งไม่เชื่อทฤษฎีนี้ ก็เนื่องจากความเชื่อทางศาสนา เพราะทฤษฎีนี้ได้ขัดแย่งกับบางศาสนาโดยตรง ซึ่งถ้าทฤษฎีวิวัฒนาการเป็นจริง ก็จะทำให้ความเชื่อของบ้างศาสนาลดลงด้วย จึงทำให้พวกที่เคร่งศาสนาไม่เชื่อในทฤษฎีนี้ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 00:35:41 จากคุณ : Cepa - [ 12 ก.พ. 52 15:48:04 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ความจริงก็คือ ความจริง ไม่ว่าอย่างไรความจริงตรงนี้ก็จะต้องปรากฏออกมา และทฤษฏีนี้จำนวนคนเชื่อ ก็มากขึ้นเรื่อยๆครับ ผกผัน กับความศรัทธาในศาสนาครับ จากความเห็น 14. คนส่วนน้อยครับ ที่ไม่เชื่อ จากคุณ : anitjung - [ 12 ก.พ. 52 16:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น่านนะซีี๊ จากคุณ : เนสซึ - [ 12 ก.พ. 52 17:18:55 A:192.168.0.17 X:172.168.1.146, 58.9.46.244 ]

ความคิดเห็นที่ 17 #14-16 ตอบคำถามของผมไม่ได้เลยครับ จากคุณ : PureTruth - [ 12 ก.พ. 52 17:45:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ Geneticist # 12 ครับ ขอหลักฐานที่คุณอ้างว่า "......รายชื่อที่คุณให้มา เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับ Discovery Institute"  ด้วยครับ   การกล่าวหาแบบเลื่อนลอยเป็นสิ่งที่ไม่ดีนะครับ จากคุณ : PureTruth - [ 12 ก.พ. 52 18:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ หายไปซะนานเลย ในที่สุดก็กลับมาจนได้ -_-** จากคุณ : Smart Prince of dark castle - [ 12 ก.พ. 52 21:14:48 A:192.168.0.17 X:114.128.244.37 TicketID:203774 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ความสัมพันธ์ของ Michael Egnor กับ Discovery Institute http://en.wikipedia.org/wiki/Michael_Egnor เปเปอร์ล่าสุดใน Science ที่พบว่า mutation ในยีนไม่กี่ตัวทำให้เกิดสปีชี่ส์ใหม่ในแมลงหวี่ http://www.sciencemag.org/cgi/content/full/323/5915/779 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 52 22:04:20 จากคุณ : Geneticist - [ 12 ก.พ. 52 21:58:59 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คำถามต่อไปที่คุณ PureTruth จะถามคงประมาณว่าแล้วไง แมลงหวี่ก็ยังเป็นแมลงหวี่ ผมลองถามคุณบ้างว่าเชื่อไหม 1) หินงอกหินย้อยเกิดจากตะกอนในหยดน้ำที่ซึมผ่านเพดานถ้ำลงมาเป็นเวลาร้อยปีพันปี 2) หินที่กลมเกลี้ยงที่พบในลำธารเกิดจากการกัดกร่อนของน้ำ ถ้าคุณเชื่อ คุณเห็นกับตาหรือเปล่าว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างไรทุกขั้นตอน เพียงแต่คุณรู้ว่าน้ำเป็นตัวทำละลาย และเมื่อน้ำระเหยก็จะทิ้งสารที่ละลายอยู่เป็นตะกอน เมื่อกระบวนการเหล่านี้เกิดซ้ำแล้้วซ้ำเล่าเกินกว่าชั่วอายุคน ก็สร้างหินงอกหินย้อยยาวหลายเมตรได้ เช่นเดียวกันทฤษฎีวิวัฒนาการ พันธุศาสตร์ และชีววิทยาสาขาต่างๆ สามารถอธิบายขั้นตอนเล็กๆ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในสิ่งมีชีวิตต่างๆ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ก็จะทำให้เกิดสปีชีส์ที่ต่างกันมากๆ ได้ เรามีคำอธิบายและหลักฐาน เช่น 1) ยีนใหม่ที่เป็นประโยชน์เกิดขึ้นได้เองจากการคัดเลือกโดยธรรมชาติ http://www.pnas.org/content/105/23/7899.abstract 2) การผ่าเหล่าในยีนบางตัวตามเปเปอร์ที่ผมให้มา สามารถทำให้เกิดสปีชี่ส์ใหม่ 3) ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่เอาสัตว์มาเลี้ยง เอาพืชมาปลูกสามารถทำให้เกิดสปีชี่ส์ใหม่ได้ แลัวทำไมธรรมชาติจะทำเองไม่ได้ แม้จะใช้เวลานานกว่าหน่อย 4) และอื่นๆ แต่ถ้าคุณยืนยันที่จะเห็นกบกลายเป็นลิงในชั่วชีวิตคุณถึงจะเชื่อทฤษฎีนี้ผมก็จนปัญญา ขออ้่างคำพูดของ Richard Dawkins จาก The God Deulsion มาว่า ตอนที่จะทำความเข้าใจว่าวิวัฒนาการทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตต่างที่คุณเห็นจากต้นกำเนิดเดียวกัน เหมือนกับการพยายามปีนหน้าผาที่สูงชัน แต่ถ้าคุณอ้อมไปอีกทางคุณจะเห็นทางลาดอยู่อีกด้านของหน้าผา ที่คุณสามารถเดินทีละก้าวช้าๆ ก็ขึ้นถึงยอดของหน้าผาได้เช่นกัน สุดท้าย ถ้านักชีววิทยาจะศึกษาวิจัยโดยไม่ใช้ทฤษฎีวิวัฒนาการ ก็เหมือนการสร้่างเครื่องบินเร็วกว่าเสียงโดยไม่รู้จัก Aerodynamics ครับ จากคุณ : Geneticist - [ 12 ก.พ. 52 23:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ู^ ^ เจ๋ง เปเปอร์อันนึงที่สนัยสนุนทฤษฎีวิวัฒนาการได้อย่างยอดเยี่ยมคือ การศึกษาวิวัฒนาการของนกฟินแห่งเกาะกาลาปาโกส การศึกษานี่พบว่า จริงๆวิวัฒนาการไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน นกฟินแห่งเกาะกาลาปาโกสสามารถวิวัฒนาการให้มีรูปแบบปากที่เปลี่ยนไปโดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 ปี คห 13 "ประเภทแบคทีเรียกลายพันธุ์อะไรพวกนี้ไม่เกี่ยวนะครับ เพราะมันก็ยังเป็นแบคทีเรีย ไม่ได้กลายไปเป็นอย่างอื่นอย่างที่ทฤษฎีวิวัฒนาการกล่าวอ้าง  " ไม่ทราบว่าทฤษฎีวิวัฒนาการไปกล่าวอ้างอะไรอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงๆแล้วคุณไม่รู้จักทฤษฎีนี้จริงๆมากกว่า ลองเปิดใจศึกษาดูอาจจะเห็นอะไรบางอย่างก็ได้ อีกอย่าง วิวัฒนาการไม่ใช่การเกิดสิ่งมีชีวิตใหม่ (Specieation) แต่การเกิดสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่เป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการ แล้วลักษณะของวิวัฒนาการไม่ได้เป็นแบบ Discrete แต่เป็นแบบ Continuous ซึ่งไม่สามารถกำหนดเส้นแบ่งได้ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 12 ก.พ. 52 23:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ใช่เรื่องวิววัฒนาการ แต่อยากให้ได้อ่าน ก๊อบจากในนี้แหล่ะ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/12/X7300995/X7300995.html 21. The Synthetic Organism สิ่งมีชีวิตสังเคราะห์ (synthetic life) เกิดขึ้นแล้วในห้องแล็บของ "เครก เวนเทอร์" (Craig Venter) ผู้ริเริ่มโครงการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์จนสำเร็จ และตอกย้ำความสามารถอีกครั้ง ด้วยการสังเคราะห์สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวขึ้นในห้องปฏิบัติการ            เบื้องต้นทีมงานของเขา "สร้าง" แบคทีเรียก่อโรคในคน ให้เกิดใหม่อย่างไร้พิษสงได้ ก้าวต่อไปอาจสร้างสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้น หรือออกแบบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ได้ตามต้องการก่อนสร้างขึ้นมาเป็นตัวเป็นตน และได้รายงานความสำเร็จครั้งนี้ในวารสารไซน์ (Science)            เวนเทอร์ เปิดเผยว่า เขาและทีมวิจัยในสถาบันเจ เครก เวนเทอร์ (J.Craig Venter Institute) สังเคราะห์แบคทีเรีย "ไมโคพลาสมา เจนิทาเลียม" (Mycoplasma genitalium) ได้แล้วในห้องปฏิบัติการโดยการสังเคราะห์สารพันธุกรรมของแบคทีเรียชนิดนี้ขึ้นมาจากสารเคมีต่างๆ            แบคทีเรียชนิดนี้นับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความซับซ้อนของพันธุกรรมน้อยที่สุด คือมียีนประมาณ 580 ยีน ประกอบด้วยรหัสพันธุกรรมไม่ถึง 600,000 รหัส และมียีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตราว 300 กว่ายีน            "เรากำลังก้าวจากการอ่านรหัสพันธุกรรมได้ไปสู่การเขียนมันขึ้นมา ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถทำสิ่งที่เคยเป็นเพียงสมมติฐานให้เป็นจริงได้และไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน" เวนเทอร์กล่าว            โครงการนี้ริเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2545 และหมดเงินวิจัยไปหลายล้านบาทเลยทีเดียวกว่าจะสำเร็จ โดยเมื่อปี 2549 ทีมของเวนเทอร์สามารถถอดรหัสจีโนมทั้งหมดของ ไมโคพลาสมา เจนิทาเลียม ได้สำเร็จและทำสำเนาของจีโนมทั้งหมดขึ้นมาได้            และอีกหนึ่งปีให้หลังเขาสามารถสังเคราะห์จีโนมของแบคทีเรียดังกล่าวขึ้นมาเองได้โดยใช้สารเคมีมาสร้างเป็นรหัสดีเอ็นเอที่มีเบส A, C, G และ T จากนั้นทำให้แต่ละรหัสมาเรียงต่อกันเป็นสายดีเอ็นเอที่ยาวประมาณ 5,000 - 7,000 เบส ได้ทั้งสิ้น 101 สาย            ในสายดีเอ็นเอทั้งหมดนี้จะมีบางสายที่ถูกแทรกไว้ด้วยลำดับเบสซึ่งนักวิจัยเรียกว่า "วอเตอร์มาร์ก" (watermark) จากนั้นสายดีเอ็นเอทั้งหมดถูกนำไปใส่ในเซลล์แบคทีเรีย อี.โคไล (E. coli) เพื่อให้กลไกในเซลล์เชื่อมทั้ง 101 สายเข้าด้วยกัน ซึ่งในเซลล์ของ อี.โคไล ทั้ง 101 สายถูกเชื่อมต่อกันจนได้เป็นดีเอ็นเอสายยาวขึ้นจำนวน 4 สาย            ขั้นสุดท้ายนักวิจัยย้ายชิ้นส่วนจีโนมทั้ง 4 สาย จากเซลล์ อี.โคไล มาใส่ในเซลล์ยีสต์และเกิดกระบวนการเชื่อมชิ้นส่วนจีโนมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนกลายเป็นโครโมโซมของ ไมโคพลาสมา เจนิทาเลียม ที่สมบูรณ์แบบซึ่งประกอบได้ด้วยรหัสพันธุกรรมจำนวน 582,970 คู่เบสโดยมีวอเตอร์มาร์กแทรกอยู่ในจีโนม http://www.thaibme.org/news_detail.php?news_id=141 จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 13 ก.พ. 52 04:12:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ Geneticist #20 ครับ ในรายชื่อนั้นมีแค่บางคนที่มีความสัมพันธ์กับ Discovery Institute แล้วมันถูกต้องหรือไม่ครับที่คุณไปพูด discredit อย่างนั้น คือเหมารวมไปทั้งหมดโดยกล่าวหาว่า "......รายชื่อที่คุณให้มา เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์กับ Discovery Institute" จากคุณ : PureTruth - [ 13 ก.พ. 52 08:19:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โอเคผมผิดครับ รายชื่อของนักวิทยาศาสตร์ที่คุณให้มาอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Discovery Institute โดยตรงทุกคน แต่รายชื่อนี้จัดทำโดย Discovery Institute ลองดูที่นี่ http://www.dissentfromdarwin.org/contact.php มีคนลองตรวจสอบรายชื่อ พบว่ามีนักวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยา์จริงๆ ไม่กี่คนที่ลงชื่อ ส่วนใหญ่คนที่ลงชื่อไม่ใช่เพราะมีหลักฐานว่าทฤษฎีวิวัฒนาการผิด แต่เพราะขัดกับความเชื่อของศาสนาที่ตนนับถือ http://scienceblogs.com/pharyngula/2006/02/the_di_and_the_astonishingly_t.php http://pandasthumb.org/archives/2006/02/few-biologists.html http://www.nytimes.com/2006/02/21/science/sciencespecial2/21peti.html?ei=5088&en=de5bd718715864a0&ex=1298178000&adxnnl=1&partner=rssnyt&emc=rss&pagewanted=all&adxnnlx=1140525926-MipGMvjXJBSRVayGwI1KqA แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 52 10:09:15 จากคุณ : Geneticist - [ 13 ก.พ. 52 09:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ู^ ^ โดนอีก จากคุณ : ชาลีฟ - [ 13 ก.พ. 52 10:35:16 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามาลงชื่อ จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 13 ก.พ. 52 14:30:07 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตอบคุณ Geneticist #25 ครับ "โอเคผมผิดครับ" Ans. แฟร์ดีครับ โอเคเลย "มีนักวิทยาศาสตร์ด้านชีววิทยา์จริงๆ ไม่กี่คนที่ลงชื่อ" Ans. มีอย่างต่ำก็เป็นร้อยนะครับ "ส่วนใหญ่คนที่ลงชื่อไม่ใช่เพราะมีหลักฐานว่าทฤษฎีวิวัฒนาการผิด แต่เพราะขัดกับความเชื่อของศาสนาที่ตนนับถือ" Ans. คุณอาจจะรีบอ่านไปหน่อยเลยแปลออกมาไม่ตรง เขาไม่ได้เขียนอย่างนั้นนะครับ จริงๆ แล้วคือ "most defend their doubts on scientific grounds but also say that evolution runs against their religious beliefs."  ซึ่งแปลว่า "ส่วนใหญ่คนที่ลงชื่อนั้นอธิบายความสงสัย(ต่อทฤษฎีวิวัฒนาการ)โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็บอกด้วยว่าทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นขัดแย้งกับความเชื่อทางศาสนาของพวกเขา"    ดังนั้น ที่ถูกต้องคือ ส่วนใหญ่นั้นก็ใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในการแย้งทฤษฎีวิวัฒนาการนะครับ แล้วอีกอย่างก็คือ มีบางคนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียน(หรือศาสนาอื่นๆ ที่เชื่อในพระเจ้า) ลงชื่อด้วยนะครับ จากคุณ : PureTruth - [ 13 ก.พ. 52 16:07:36 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ตลกดี ประเด็นที่ตัวเองผิดไม่มีการกล่าวถึง แต่พยายามจับผิดประเด็นคนอื่นโดยใช้ช่องว่างทางภาษา "ไม่กี่คน" เป็นการเทียบกับนักวิทยาศาสตร์ขาง Darwinism ซึ่งจะนับก็มีหลายพัน หรือหลายหมื่นคน ดังนั้น หลายร้อยคนจึงใช้คำว่า ไม่กี่คน ก็ไม่น่าจะผิด ประเด็นข้างบนก็ตรงกับคำว่า Bias นั่นเอง การใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งใดต้องปราศจากความเชื่อ ไม่ใช่หรือ ขอทราบชื่อนักวิทยาศาสตร์ในส่วนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าหน่อยครับ อยากรู้จักประวัติ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 13 ก.พ. 52 21:35:47 ]

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ PureTruth ไปอ่านลิงก์ที่ให้มาดีๆ มีคำตอบหมด โดยเฉพาะ Pharyngula ที่บอกว่าคนที่อ้างว่าเป็น Atheist แล้วลงชื่อ จริงๆ แล้วไม่ได้รู้จริงอะไรเลย ตกลงจะถกกันเรื่องวิวัฒนาการ หรือทำไมนักวิทย์ไม่กี่ร้อยคนจากนับหมื่นนับแสนคนไม่เชื่อวิวัฒนาการ ถ้าเป็นประเด็นหลังผมไม่มีอะไรจะต้องตอบแล้ว จากคุณ : Geneticist - [ 13 ก.พ. 52 22:00:25 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตอบคุณชาลีฟ #29 ครับ "ประเด็นที่ตัวเองผิดไม่มีการกล่าวถึง" Ans. ประเด็นไหนที่ผมผิดเหรอครับ ถ้าคุณหมายถึงเรื่องแบคทีเรียกลายพันธุ์ล่ะก็ อันนั้นคุณคงจะเข้าใจผิดไปเองน่ะครับ ผมหมายความว่า ทฤษฎีวิวัฒนาการอ้างว่า แบคทีเรียเคยมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น**ได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ใดเกี่ยวข้อง**  แต่นักวิวัฒนาการไม่เคยแสดงหลักฐานได้ว่าเป็นอย่างที่กล่าวอ้างครับ "คุณเองยังแต่พยายามจับผิดประเด็นคนอื่นโดยใช้ช่องว่างทางภาษา "ไม่กี่คน" เป็นการเทียบกับนักวิทยาศาสตร์ข้าง Darwinism ซึ่งจะนับก็มีหลายพัน หรือหลายหมื่นคน ดังนั้น หลายร้อยคนจึงใช้คำว่า ไม่กี่คน ก็ไม่น่าจะผิด" Ans. ถ้านับจำนวนนักวิทยาศาสตร์ที่ลงชื่อ ฝ่ายแย้งทฤษฎีวิวัฒนาการมีจำนวน 514 คน (เกี่ยวข้องกับชีววิทยา 154 คน)  ฝ่ายสนับสนุนวิวัฒนาการมี 700 คน (ไม่ทราบจำนวนนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยา)    ส่วนถ้านับแบบรวมทั้งหมด คือรวมผู้ที่ไม่ลงชื่อเข้าไปด้วย  จำนวนของทั้งสองฝ่ายก็จะเพิ่มขึ้น ส่วนที่คุณอ้างว่าฝ่ายสนับสนุนวิวัฒนาการมีเป็นพันเป็นหมื่นก็เป็นความเชื่อของคุณครับ อย่าลืมว่าคุณไม่สามารถนับจำนวนผู้สนับสนุนวิวัฒนาการโดยดูจากชื่อของนักวิทยาศาสตร์ที่เขียนเปเปอร์เกี่ยวกับวิวัฒนาการได้ เพราะผู้แย้งวิวัฒนาการนั้นแย้งในส่วนข้ออ้างที่สำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการ ส่วนอื่นๆ ที่เล็กน้อยนั้นนักวิทยาศาสตร์ที่แย้งวิวัฒนาการไม่ได้โต้แย้งอะไร ก็สามารถเขียนเปเปอร์ในส่วนที่เล็กน้อยของวิวัฒนาการได้ ดังนั้น จึงไม่สามารถนับจากชื่อนักวิทยาศาสตร์ที่เขียนเปเปอร์เกี่ยวกับวิวัฒนาการได้   ส่วนจำนวนรวมทั้งหมดของฝ่ายแย้งวิวัฒนาการก็อาจมีเป็นพันก็ได้เช่นเดียวกันนะครับ "ประเด็นข้างบนก็ตรงกับคำว่า Bias นั่นเอง การใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์สิ่งใดต้องปราศจากความเชื่อ ไม่ใช่หรือ" Ans. คำตอบข้างบนของผม ได้แยกแยะออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าการวิเคราะห์แบบตรงไปตรงมา ไม่มี Bias นั้น สามารถทำได้อย่างไร ซึ่งไม่เหมือนกับการวิเคราะห์ของคุณนะครับ "ขอทราบชื่อนักวิทยาศาสตร์ในส่วนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าหน่อยครับ อยากรู้จักประวัติ" Ans.   Dr.Stanley N. Salthe แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 52 23:05:57 จากคุณ : PureTruth - [ 13 ก.พ. 52 23:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 32 อ่านข้างบนแล้วขำ แสดงว่าคุณ PureTruth ไม่รู้เลยว่าวิธีประกาศความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นอย่างไร อยากเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว คนทั่วไป รวมถึงนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า โรคกระเพาะเกิดจากความเครียด กินอาหารรสจัด กินไม่ตรงเวลา จนมีนักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียคนหนี่งพบว่ามีแบคทีเรียที่ทนกรดในกระเพาะอาหารได้ และมักจะพบในชิ้นเนื้อของคนที่เป็นโรคกระเพาะ เขาเลยตั้งสมมติฐานว่าเจ้าแบคทีเรียตัวนี้น่าจะเกี่ยวกับโรคกระเพาะ ตอนที่เค้านำเสนอเรื่องนี้แรกๆ โดนต่อต้านมากมาย ไม่มีใครเชื่อแต่เมื่อเขาตีพิมพ์เปเปอร์ออกมา แม่้กระทั้งลองดื่มเจ้าแบคทีเรียตัวนี้เข้าไปทำให้เป็นโรคกระเพาะเอง ไม่นานนักกระแสต่อต้านทำให้คนลองทดสอบสมมติฐานเขา ผลทดลองปรากฎว่าสนับสนุนสมมติฐานนั้น มีเปเปอร์ตามมามากมาย จนในที่สุดทุกคนก็ยอมรับเขา (แต่คาดว่าคนไทย แม้แต่หมอไทยหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าสาเหตุหลักของโรคกระเพาะคือการติดเชื้อแบคทีเรียตัวนี้) นี่เป็นเรื่องจริงของ Barry Marshall ที่ได้รับรางวัลเจ้าฟ้ามหิดล และรางวัลโนเบลทางการแพทย์ปี 2005 ถ้าพวกนักวิทยาศาสตร์ที่คุณอ้างมามีหลักฐานจริงๆ ว่าทฤษฎีวิวัฒนาการผิดก็ต้องมีเปเปอร์ออกมาในวารสารที่มีชื่อเสียง แต่นี่ไม่มีเลย เป็นเวลาร้อยกว่าปีแล้ว วิทยาศาสตร์พิสูจน์กันด้วยหลักฐาน ไม่ใช้พวกมากลากไปนะครับ จากคุณ : Geneticist - [ 14 ก.พ. 52 00:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ ปัญหาก็คือ เรื่องของการกำเนิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่กับการ "ตีความ" หลักฐานต่างๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ครับ ไม่ได้มีหลักฐานอะไรชัดเจน จึงไม่เหมือนกับเรื่องที่คุณกล่าวถึง (ไม่สามารถนำเรื่องนั้นมาอ้างอิงได้) เมื่อมันขึ้นอยู่กับการตีความ ก็เป็นไปได้ง่ายที่ฝ่ายสนับสนุนวิวัฒนาการที่ครองเสียงข้างมากอยู่ในปัจจุบัน จะกดอีกฝ่ายไว้ คือคุมกำเนิดไว้ไม่ให้โผล่ขึ้นมาเป็นเปเปอร์ได้ จะได้อ้างได้ว่า "นี่ไง อีกฝ่ายไม่เห็นมีเปเปอร์อะไรเลย" โดยการปัดเปเปอร์ให้ตกไปโดยใช้เหตุผลง่ายๆ (เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตีความข้อมูล) ว่า "เหตุผลไม่ดีพอ"    ทั้งๆ ที่พอเป็นฝ่ายตัวเอง (ฝ่ายสนับสนุนวิวัฒนาการ) กลับมีเปเปอร์ที่ใช้เหตุผลประหลาดๆ ออกมาอยู่เป็นระยะๆ  เช่น เหตุผลที่คิดเดาขึ้นมาเองโดยไม่มีข้อพิสูจน์อะไร ว่าทำไมเด็กผู้ชายชอบสีฟ้า เด็กผู้หญิงชอบสีชมพู (แล้วก็เดาไปเรื่อยเปื่อยว่าระหว่างช่วงที่วิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ มีสาเหตุอย่างโน้นอย่างนี้ คือเดาไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเข้าท่าก็ได้ เพราะไม่ต้องมีข้อพิสูจน์อะไร)  หรือเรื่องว่า ขนนก เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ก็ใช้เหตุผลที่ไม่เข้าท่า ว่า อาจเป็นเพราะร่างกายจะได้อุ่นขึ้น...... แต่เนื่องจากหลายคนไม่รู้หรือไม่ได้ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างเรื่องวิวัฒนาการกับตัวอย่างทั่วไปอื่นๆ ทำให้หลงเข้าใจไปว่าทฤษฎีวิวัฒนาการมีหลักฐานแน่นหนาเหมือนกับวิทยาศาสตร์แขนงอื่นๆ ครับ   แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเขารู้เรื่องในรายละเอียดตรงนี้ดี เขาก็เลยเห็นแย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการในหลายๆ จุดที่มันเป็นเพียงการคาดเดาเข้าข้างตัวเองของทฤษฎีนี้ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิสูจน์อะไรครับ จากคุณ : PureTruth - [ 14 ก.พ. 52 01:24:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ Geneticist (#32) จริงๆ แล้วผมควรจะขำคุณมากกว่านะครับ เพราะไม่ว่าคุณจะพูดอะไรมันก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงไปซะเกือบทุกที อย่างเช่นใน #30 คุณอ้างว่า "โดยเฉพาะ Pharyngula ที่บอกว่าคนที่อ้างว่าเป็น Atheist แล้วลงชื่อ จริงๆ แล้วไม่ได้รู้จริงอะไรเลย"  ตรงไหนใน Pharyngula ที่พูดอย่างนั้นครับ ??  แล้วหลักฐานที่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างนี้ได้คือ ?? จากคุณ : PureTruth - [ 14 ก.พ. 52 01:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 "ทฤษฎีวิวัฒนาการอ้างว่า แบคทีเรียเคยมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น**ได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ใดเกี่ยวข้อง**" อยู่ตรงส่วนไหนของทฤษฎีวิวัฒนาการหรอคับ หัวใจของทฤษฎีวิวัฒนาการคือ การกลายพันธุ์ และการคัดเลือกตามธรรมชาติ ซึ่งทั้งสองอย่างได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีอยู่จริง ซึ่งทฤษฎีนี้ไม่ได้ใช้แค่คำกล่าวอ้างลอยๆอย่างที่บางคนอาจจะอ้างถึง แต่ใช้ทั้งคณิตศาสตร์ สถิติ และตรรกะ สังเกตว่า ผู้ต้อต้านทฤษฎีวิวัฒนาการส่วนใหญ่ พยายามหาหลักฐานมาหักล้างในจุดที่ทฤษฎีวิวัฒนาการยังอธิบายไม่ได้ แต่มิได้มีการเสนอหลักฐานสนับสนุนทฤษฎีอื่นใดขึ้นมามาทดแทน ซึ่งเหตุนี้เองทำให้ทฤษฎีวิวัฒนาการยังเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ย้อนกลับไปสมัยทฤษฎีวิวัฒนาการถูกเสนอใหม่ๆ มีจุดช่องว่างมากมาย ที่ยังอธิบายได้ไม่ดี เมื่อวิทยาการก้าวหน้ามากขึ้น หลักฐานสนับสนุนมากขึ้น ทฤษฎีนี้จึงเป็นที่ยอมรับมากขึ้น หลักฐานทางพันธุศาสตร์เป็นกุญแจาสำคัญที่ทำให้วิวัฒนาการดูมีเหตุมีผล ทุกวันนี้ทฤษฎีวิวัฒนาการกลายเป็นเครื่องมือในการศึกษาวิทยาการสาขาอื่นอีกมากมาย รวมไปถึงเศรษฐศาสตร์ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 14 ก.พ. 52 02:38:27 ]

ความคิดเห็นที่ 36 PureTruth 1) อ่าน Phalyngula ที่ comment แรก เกี่ยวกับ Stanley Salthe http://scienceblogs.com/pharyngula/2006/02/the_di_and_the_astonishingly_t.php เค้าบอกว่าลงชื่อเพราะรำคาญ (หมั่นไส้) ทั้งทฤษฎีวิวัฒนาการ และ Intelligence Design ไม่ได้บอกเลยว่าเกิดจากความสงสัยทางวิทยาศาสตร์ 2) จาก คห ที่ 23 most defend their doubts on scientific grounds but also say that evolution runs against their religious beliefs. คุณยกมาไม่ครบนะครับ ประโยคเต็มคือ "Of the signers who are evangelical Christians, most defend their doubts on scientific grounds but also say that evolution runs against their religious beliefs." สังเกตคำว่า evangelical Christians คนที่จะเรียกตัวเองว่าเป็น evangelical Christians ได้ ต้องมีอยู่อย่างนึงคือ a high regard for Biblical authority หรือ ยึดไบเบิลเป็นหลักการอย่างที่สุด อย่างนี้แสดงอคติอย่างเต็มที่อยู่แล้ว คุณจะเข้าใจวิวัฒนาการได้อย่างไร ในเมื่อเริ่มต้นมันก็ขัดกับสิ่งที่คุณยึดถือเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว 3) ถ้าคุณเชื่อพวกมากลากไป ไปที่นี่ http://www.religioustolerance.org/ev_publi.htm เลื่อนลงไปตรงกลางๆ หน้า จะมีโพลของ Gallup ในปี 1997 นักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการมี 95% ครับ (ไม่ว่าพระเจ้าจะมาเกี่ยวหรือไม่ก็ตาม) แต่วิทยาศาสตร์ไม่ถือ Consensus เป็นหลักฐานนะครับ 4) คุณพูดถึงเรื่องกำเนิดชีวิต แสดงธาตุแท้ว่าคุณไม่เข้าใจวิวัฒนาการเลย ทฤษฎีวิวัฒนาการไม่ได้แตะต้องเรื่องกำเนิดชีวิต แต่เริ่มจากส่ิงมีชีวิตแรก มาเป็นหลายหลากพันธฺุ์ในปัจจุบันอย่างไร กระบวนการเกิดสารอินทรีย์ เกิดดีเอ็นเอ เกิดเซลล์แรกอยู่นอกเหนือทฤษฎีวิวัฒนาการในตอนนี้ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 04:47:52 จากคุณ : Geneticist - [ 14 ก.พ. 52 03:25:13 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ต่อครับ อยากให้คุณ PureTruth ไปที่นี่ http://www.talkorigins.org/indexcc/list.html เรื่องของการตีพิมพ์ หรือตีความ มีคนตอบไว้ให้ในนั้นแล้วผมขอไม่ตอบอีก เรื่องตีความ http://www.talkorigins.org/indexcc/CA/CA230.html http://www.talkorigins.org/indexcc/CA/CA230_1.html เรื่องตีพิมพ์ http://www.talkorigins.org/indexcc/CA/CA325.html เรื่องพวกมาลากไป http://www.talkorigins.org/indexcc/CA/CA111.html http://www.talkorigins.org/indexcc/CA/CA111_1.html ถ้าข้อแย้งของคุณต่อๆ ไป มีอยู่ในนี้แล้ว ผมขออนุญาตลงลิงค์ไว้ให้แล้วกัน แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 52 10:47:38 จากคุณ : Geneticist - [ 14 ก.พ. 52 10:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตอบคุณชาลีฟ #35 ""ทฤษฎีวิวัฒนาการอ้างว่า แบคทีเรียเคยมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น**ได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ใดเกี่ยวข้อง**" อยู่ตรงส่วนไหนของทฤษฎีวิวัฒนาการหรอคับ" Ans.   ยกตัวอย่างนะครับ ถ้าเชื่อตามทฤษฎีวิวัฒนาการก็จะได้ว่า http://www.foosci.com/taxonomy/term/221/0   "แบคทีเรียสามารถทำให้เลือดและพลาสมาของมนุษย์แข็งตัวได้โดยตรง ซึ่งกลไกนี้ถูกคิดว่าสูญหายไปเมื่อเกิดวิวัฒนาการเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง" (นั่นคือ ถ้าเชื่อตามทฤษฎีวิวัฒนาการก็จะได้ว่า แบคทีเรีย --> วิวัฒนาการไปเรื่อยๆ เป็น --> สัตว์มีกระดูกสันหลัง,  ซึ่งก็แปลว่าแบคทีเรียเคยเปลี่ยนแปลง(วิวัฒนาการ)ไปเป็นอย่างอื่น) และทุกกลไกที่ทฤษฎีวิวัฒนาการอ้างว่าทำให้เกิดวิวัฒนาการขึ้นนั้น เป็นกลไกธรรมชาติที่ไม่มีผู้ใดเกี่ยวข้อง นั่นคือ ตรงที่กับผมบอกว่า "ทฤษฎีวิวัฒนาการอ้างว่า  แบคทีเรียเคยมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น**ได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ใดเกี่ยวข้อง**" ครับ จากคุณ : PureTruth - [ 14 ก.พ. 52 12:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ตอบคุณ Geneticist #36 "1) อ่าน Phalyngula ที่ comment แรก เกี่ยวกับ Stanley Salthe http://scienceblogs.com/pharyngula/2006/02/the_di_and_the_astonishingly_t.php เค้าบอกว่าลงชื่อเพราะรำคาญ (หมั่นไส้) ทั้งทฤษฎีวิวัฒนาการ และ Intelligence Design ไม่ได้บอกเลยว่าเกิดจากความสงสัยทางวิทยาศาสตร์" Ans. ทำไมเขาจะไม่ได้บอกล่ะครับว่าเกิดจากความสงสัยทางวิทยาศาสตร์ เขาพูดอยู่ชัดเจนว่า "Dr. Salthe said he did not find intelligent design to be a compelling theory, either."  "From my point of view," he said, "it's a plague on both your houses."  แปลว่า เขาเห็นว่า Intelligent Design ไม่ได้เป็นทฤษฎีที่น่าเชื่อ (เช่นเดียวกับที่เขาเห็นว่าทฤษฎีวิวัฒนาการก็ไม่น่าเชื่อด้วยเช่นเดียวกัน)  คือ มันก็แย่ด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งนี่ก็เป็นความสงสัยทางวิทยาศาสตร์ของเขาครับ   "2) ......คนที่จะเรียกตัวเองว่าเป็น evangelical Christians ได้ ต้องมีอยู่อย่างนึงคือ a high regard for Biblical authority หรือ ยึดไบเบิลเป็นหลักการอย่างที่สุด อย่างนี้แสดงอคติอย่างเต็มที่อยู่แล้ว คุณจะเข้าใจวิวัฒนาการได้อย่างไร ในเมื่อเริ่มต้นมันก็ขัดกับสิ่งที่คุณยึดถือเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว" Ans. คุณกำลังหลงประเด็นจากเนื้อหาของสิ่งที่เขาพูด ไปเป็นเรื่องความเชื่อส่วนตัวของคนคนนั้น และนี่เป็นการหลงประเด็นอย่างแรง เพราะมีนักวิทยาศาสตร์ชีววิทยาที่เก่งๆ หลายคนที่เป็นคริสเตียนที่เชื่อในไบเบิ้ล เขาก็เข้าใจทฤษฎีวิวัฒนาการ ("เข้าใจ" ไม่ได้แปลว่า "เชื่อตามทั้งหมด" นะครับ คือเข้าใจว่าทฤษฎีว่ามันเป็นอย่างไร ถูกตรงไหน ผิดตรงไหน) ที่แน่ๆ ก็คือเข้าใจในรายละเอียดต่างๆ ได้มากกว่าคุณก็แล้วกัน แล้วก็ถ้าจะพูดเรื่องนี้ ก็ต้องมองในมุมกลับกันด้วยนะครับ ซึ่งก็จะได้ว่า **Atheist ยึดความเชื่อที่ว่า ไม่มีพระเจ้า เป็นหลักการอย่างที่สุด อย่างนี้แสดงอคติอย่างเต็มที่อยู่แล้ว คุณจะเข้าใจว่าวิวัฒนาการมันไม่ถูกต้องได้อย่างไร ในเมื่อเริ่มต้นคุณก็ชื่นชอบและยึดมั่นถือมั่นกับทฤษฎีนี้เพราะมันเผอิญไปตรงกับสิ่งที่คุณยึดถือเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว** "3) ถ้าคุณเชื่อพวกมากลากไป ไปที่นี่ http://www.religioustolerance.org/ev_publi.htm เลื่อนลงไปตรงกลางๆ หน้า จะมีโพลของ Gallup ในปี 1997 นักวิทยาศาสตร์ที่เชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการมี 95% ครับ (ไม่ว่าพระเจ้าจะมาเกี่ยวหรือไม่ก็ตาม) แต่วิทยาศาสตร์ไม่ถือ Consensus เป็นหลักฐานนะครับ Ans. เห็นด้วยว่าวิทยาศาสตร์ไม่ถือ Consensus เป็นหลักฐานครับ ดังนั้น ควรที่จะพิจารณาที่เนื้อหาของฝ่ายที่เห็นแย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการครับ "4) คุณพูดถึงเรื่องกำเนิดชีวิต แสดงธาตุแท้ว่าคุณไม่เข้าใจวิวัฒนาการเลย" Ans. คุณเข้าใจผิดอีกแล้วครับ  ใน #33 ผมพูดว่า "การกำเนิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ"  นั่นคือ  หมายถึงว่าสิ่งมีชีวิต**ชนิดต่างๆ** เกิดขึ้นมาได้อย่างไรครับ  ไม่ได้หมายถึง การกำเนิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตตัวแรก จากคุณ : PureTruth - [ 14 ก.พ. 52 13:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 40 คห#38 อายเค้าว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ Bacteria are also well known to directly initiate coagulation in some organisms, such as horseshoe crabs, but this mechanism of controlling infection is believed to have been lost during the evolution of vertebrates ลองแปลใหม่มั้ย แล้วเข้าใจใหม่ หลักการของวิวัฒนาการ ไม่ใช่ว่าแบคทีเรีย วิวัฒนาการไปเป็นแมงกะพรุน แล้ววิวัฒนาการไปเป็นคน แต่แบคทีเรีย แมงกะพรุน และคนต่างมีบรรพบุรุษร่วมกัน สิ่งมีชีวิตที่เห็นอยู่ทุกวันนี้มีวิวัฒนาการแยกออกมาเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครเป็นบรรพบุรุษของใคร เนื่องจากไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดที่มีพันธุกรรมคงที่ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 14 ก.พ. 52 15:41:56 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ^ ^ "สิ่งมีชีวิตที่เห็นอยู่ทุกวันนี้มีวิวัฒนาการแยกออกมาเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครเป็นบรรพบุรุษของใคร" Ans. อ๋อ เข้าใจละ    Archaea ก็ไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของใคร ใช่ไหม ? แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 52 01:58:08 แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 52 01:55:23 จากคุณ : PureTruth - [ 15 ก.พ. 52 01:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถูก จากคุณ : ชาลีฟ - [ 15 ก.พ. 52 11:58:57 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ แต่ผมว่าความคิดแบบคุณเนี่ย มันไม่ใช่สิ่งที่ทฤษฎีวิวัฒนาการสอนอยู่นะ 1. สิ่งที่นักวิวัฒนาการเชื่ออยู่ตอนนี้ คือ สัตว์ต่างๆ (Eukaryote) มีวิวัฒนาการมาจากแบคทีเรีย หรือไม่ก็ Archaea   ดังนั้น ที่คุณบอกว่า "สิ่งมีชีวิตที่เห็นอยู่ทุกวันนี้มีวิวัฒนาการแยกออกมาเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครเป็นบรรพบุรุษของใคร" จึงผิดจากความเชื่อของนักวิวัฒนาการครับ 2. แล้วก็ใน #40  "Bacteria are also well known to directly initiate coagulation in some organisms, such as horseshoe crabs, but this mechanism of controlling infection is believed to have been lost during the evolution of vertebrates." ถ้าเขาไม่ได้เชื่อว่า Bacteria เป็นบรรพบุรุษของ vertebrate แล้วล่ะก็ เขาจะโยง mechanism นี้ (ซึ่งมีอยู่ในแบคทีเรีย)  ไปถึงเรื่องของ vertebrate ทำไมล่ะครับ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจนะครับ ผมว่าอย่างน้อยๆ คุณก็ควรเลิกว่าผม ทั้งๆ ที่ตัวคุณเองนั่นแหละที่ผิด (....อายเค้าว่ะ) จากคุณ : PureTruth - [ 15 ก.พ. 52 15:29:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เอาใหม่ๆ 1. นักวิวัฒนาการเชื่อว่า Eukaryote วิวัฒนาการมาจาก Prokaryote แบคทีเรียยุคนี้ กะสัตว์มีกระดูกสันหลัง มีบรรพบุรุษร่วมกัน ซึ่งอาจเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตใกล้เคียงแบคทีเรีย นี่ตะหากที่ผมพยายามสื่อ แล้วอีกอย่าง แบคทีเรียที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ผ่านวิวัฒนาการมายาวนานเช่นกัน ไม่ได้หยุดอยู่กะที่ 2. ส่วนข้อนี้อายซ้ำ 2 คำว่า "this mechanism of controlling infection" นั่นหมายถึง coagulation ของพวก invertebrate ที่ใช้ควบคุมไม่ให้แบคทีเรียแพร่กระจาย โดยการทำให้เลือดแข็งซะ แล้วที่สำคัญ เค้าใช้คำว่า  "the evolution of vertebrates" ซึ่งเป็นคำที่ดีมาก เนื่องจากเค้าไม่ได้หมายความว่า invertebrate ที่เห็นทุกวันนี้ เป็นบรรบุรุษของ vertebrate แหม ทีหลังดูตาม้าตาเรือหน่อยนะ จะยกอะไรมาอ้างเนี่ย ระวังหน่อย ยังอ่านของเค้าไม่รู้เรื่องแล้วยกมาอ้างมั่วๆอย่างนี้ ใครจะเชื่อถือเนี่ย หนักใจ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 15 ก.พ. 52 20:35:58 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ อืม คุณนี่มั่วได้ใจจริงๆ คุณกล่าวหาว่าสิ่งที่ผมพูดนั้นผิด (ผมพูดว่า "ทฤษฎีวิวัฒนาการอ้างว่า แบคทีเรียเคยมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น**ได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ใดเกี่ยวข้อง**")     โดยคุณพูดใน #35 ว่า "ทฤษฎีวิวัฒนาการอ้างว่า แบคทีเรียเคยมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น**ได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ใดเกี่ยวข้อง**" อยู่ตรงส่วนไหนของทฤษฎีวิวัฒนาการเหรอคับ"   แล้วคุณก็ย้ำต่อใน #40 ว่า "แล้วเข้าใจใหม่ หลักการของวิวัฒนาการ ไม่ใช่ว่าแบคทีเรีย วิวัฒนาการไปเป็นแมงกะพรุน แล้ววิวัฒนาการไปเป็นคน" ซึ่งต่อมาคุณก็ยอมรับว่า "นักวิวัฒนาการเชื่อว่า Eukaryote วิวัฒนาการมาจาก Prokaryote"                         ... Prokaryote ประกอบไปด้วย แบคทีเรีย และ Archaea ดังนั้น สิ่งที่นักวิวัฒนาการเชื่อก็คือ แบคทีเรีย (และ/หรือ) Archaea เป็นบรรพบุรุษของ Euraryote (แมงกะพรุน, มนุษย์ , other Animals, Plants, etc.)  นั่นเอง  ดังนั้น สิ่งที่ผมพูดไว้จึงถูกต้องตามนั้น นั่นคือ "ทฤษฎีวิวัฒนาการอ้างว่า แบคทีเรียเคยมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น**ได้เองโดยไม่ต้องมีผู้ใดเกี่ยวข้อง**"   ส่วนการที่คุณพยายามเถียงโดยใส่คำว่า "(แบคทีเรีย)ยุคนี้" หรือ (invertebrate) "ที่เห็นอยู่ทุกวันนี้" เข้ามานั้น คุณมั่วใส่ของคุณเข้ามาเองเฉยเลย ผมไม่เคยพูดอย่างนั้น('ยุคนี้'/ 'ที่เห็นทุกวันนี้') แล้วคุณดันมากล่าวหาว่าผมพูดผิด (อย่าทำอย่างนี้อีกเลยครับ  ... อายเค้าเปล่าๆ)   คุณเอาแต่พูดจามั่วๆ อย่างนี้ ใครจะเชื่อถือเนี่ย หนักใจ แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 52 01:54:15 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 52 00:54:34 จากคุณ : PureTruth - [ 16 ก.พ. 52 00:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แหม ยกชาร์ตแผ่นใหญ่โตมาแล้วยังไม่เข้าใจอีกหรอ สังเกตว่า 3 domain มีสีต่างกัน แล้วมีบรรพบรุษเป็นสีดำ เนื่องจากบรรพบุรุษร่วมของสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน ไม่ใช่ทั้งแบคทีเรีย และอาร์เคีย แต่เป็น Prokaryote อีกพวกหนึ่ง แล้วนี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรอ ที่ผมว่าคุณมั่ว เพราะคุณยกขอความซึ่งแปลผิดมา อ่อนภาษาอังกฤษก็ไม่บอก แหงล่ะ อ่านแต่ภาษาไทยความรู้เลยแคบอย่างนี้ อ่านภาษาอังกฤษไม่ออกนี่เอง ฮ่าๆๆๆ แปลให้นะ "Bacteria are also well known to directly initiate coagulation in some organisms, such as horseshoe crabs, but this mechanism of controlling infection is believed to have been lost during the evolution of vertebrates." แปลว่า เป็นที่รู้กันดีว่า แบคทีเรียสามารถเหนี่ยวนำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดได้โดยตรงในสัตว์หลายชนิด อย่างเช่น แมงดาทะเล ซึ่งคุณสมบัติในการควบคุมการติดเชื้อนี้ (ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีในสัตว์ ไม่ใช่คุณสมบัติของแบคทีเรีย) เชื่อว่าหายไปในกระบวนการวิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง แปลผิดๆมาได้ว่า "mechanism นี้ (ซึ่งมีอยู่ในแบคทีเรีย)" อย่างนี้ไม่น่าอายหรอ ก็ไม่แปลกที่จะไม่เข้าใจทฤษฎีวิวัฒนาการ เพราะหนังสือภาษาไทยมีไม่เยอะนี่เอง จากคุณ : ชาลีฟ - [ 16 ก.พ. 52 05:40:36 ]

ความคิดเห็นที่ 47 จะไปเถียงกับมันทำไม เสียเวลาเปล่าๆนะ จากคุณ : ชาเขียวเข้มๆ - [ 16 ก.พ. 52 06:15:34 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ^ ^ 555 เชียร์แบบหลับหูหลับตาเชียร์ ไม่ได้รูัเรื่องเลยว่าฝ่ายตัวเองผิดอะไรตรงไหน จากคุณ : PureTruth - [ 16 ก.พ. 52 09:47:37 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ชาลีฟ #46 โอเคครับ ผมแปลผิดในจุดนั้น ส่วนคุณชาลีฟ ผิดตรงหลักการใหญ่เลย แถมอธิบายไปหลายครั้งก็ยังไม่ยอมเข้าใจให้ถูกต้อง เนี่ยแหละครับ ความผิดพลาดของผู้ที่นิยมวิวัฒนาการ เป็นความผิดพลาดที่เกิดจากความเข้าใจผิดๆ ว่าเมื่อตนเองศึกษาในรายละเอียดทางวิชาการของทฤษฎีนี้แล้ว จะเข้าใจในทฤษฎีได้ถูกต้องกว่าคนอื่น ทั้งๆ ที่ในหลายครั้ง แม้จะมีความรู้ในรายละเอียด (ความรู้แบบทางลึก) แต่ก็ยังเข้าใจผิดในเรื่องง่ายๆ ที่เป็นหลักการสำคัญอยู่ดี แล้วก็ไม่รู้ตัว ไม่ยอมรับความจริง ชอบไปต่อว่าว่าฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิด ดังเช่นที่คุณชาลีฟเป็นอยู่นี่แหละครับ คุณหลงประเด็นโดยพูดล่าสุดใน #46 ว่า "สังเกตว่า 3 domain มีสีต่างกัน แล้วมีบรรพบรุษเป็นสีดำ เนื่องจากบรรพบุรุษร่วมของสิ่งมีชีวิตในปัจจุบัน ไม่ใช่ทั้งแบคทีเรีย และอาร์เคีย แต่เป็น Prokaryote อีกพวกหนึ่ง"   เราไม่ได้กำลังพูดถึงบรรพบุรุษร่วมของสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันนะครับ เรากำลังพูดถึงบรรพบุรุษของ Eukaryote ซึ่งเป็น Prokaryote (ตามความเชื่อของทฤษฎีวิวัฒนาการ)  แต่คุณกลับบอกว่าแบคทีเรียและ Archaea ไม่ได้วิวัฒนาการมาเป็น Eukaryote  ผมขอหลักฐานอ้างอิงเพื่อพิสูจน์คำพูดนี้ของคุณด้วยครับ ว่าแบคทีเรียและ Archaea ไม่ใช่บรรพบุรุษของ Eukaryote จากคุณ : PureTruth - [ 16 ก.พ. 52 10:27:53 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มีการบ้านมาให้ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16834776 ... and, together with phylogenetic evidence that archaebacteria are sisters not ancestral to eukaryotes, implies that the root is not within the neomura. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/sites/entrez?Db=pubmed&Cmd=ShowDetailView&TermToSearch=6161309&log$=activity The differences between archaebacteria and true bacteria are so great, both quantitatively and qualitatively, that the two bacterial groups should be considered as representing separate primary lines of descent, each tracing directly back to the universal ancestor. แถม http://www.pnas.org/content/95/12/6854.full สรุปให้ฟังว่า ทั้ง 3 โดเมนมีบรรพบุรุษร่วมกัน ซึ่งบรรพบุรุษของทั้ง 3 โดเมนไม่ใช่ทั้งแบคทีเรีย และอาร์เคีย แหม ตกข่าวตกยุคก็ไม่บอก จากคุณ : ชาลีฟ - [ 16 ก.พ. 52 12:22:49 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ อืม น่าสนใจ ขอบคุณครับ แล้ว invertebrate เป็นบรรพบุรุษของ vertebrate หรือไม่ครับ หรือทั้งสองกลุ่มแค่มีบรรพบุรุษร่วมกัน จากคุณ : PureTruth - [ 16 ก.พ. 52 12:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52 invertebrate เป็นบรรพบุรุษของ vertebrate และ invertebrate มีบรรพบุรุษร่วมกับ vertebrate ถูกทั้ง 2 อย่าง เนื่องจากคำว่า vertebrate เป็นคำที่กว้างมาก Poriferan บางตัวเป็นบรรพบุรุษของ Chordate แต่ไม่ใช่ Poriferan ทุกตัวที่เป็นบรรบุรุษของ Chordate ซึ่งหมายถึง Poriferan (โดยเฉพาะที่พบเห็นในปัจจุบัน) มีบรรพบุรุษร่วมกับ Chordate คุณต้องเข้าใจ concept ก่อนว่า ไอ้การที่เราเรียก vertebrate,  invertebrate, Poriferan หรือ Chordate  เนี่ย มันเป็นการกำหนดคำขึ้นมาเพื่ออธิบายลักษณะทางกายภาพ ไม่ใช่วิวัฒนาการ แต่พูดไปก็งั้น ในเมื่อเบสิคคุณไม่เชื่อในทฤษฎีวิวัฒนาการ  หลักฐานมากมายไปก็เท่านั้น ไม่มีประโยชน์ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 16 ก.พ. 52 13:23:05 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ^ ^ 1) แล้ว Poriferan ตัวที่เป็นบรรพบุรุษของ Chordate   มันเป็นบรรพบุรุษของ Poriferan (ที่พบเห็นในปัจจุบัน) ที่ไม่ได้เป็นบรรพบุรุษของ Chordate ด้วยหรือเปล่าครับ ?   Thanks. 2) มี Chordate บางชนิด ที่เราไม่รู้ว่าบรรพบุรุษของมันคืออะไร ใช่ไหมครับ ? จากคุณ : PureTruth - [ 16 ก.พ. 52 18:15:59 ]

ความคิดเห็นที่ 54 แล้วมันก็วนไปมา 1) คุณ PureTruth บอกว่า มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนไม่เชื่อทฤษฎีวิวัฒนาการ ผมก็เอาลิงค์ เอาข่าว เอาหลักฐานมาให้ดูว่าลายชื่อนี้เชื่อถือไม่ค่อยได้ แถมเป็นแค่ส่วนน้อยนิดของนักวิทยาศาสตร์ที่ลงชื่อ (ไปดูที่ http://www.talkorigins.org/indexcc/CA/CA111_1.html ) 2) คุณก็บอกว่าในรายชื่อนั้นก็มีนักวิทยาศาสตร์อยู่บ้าง ที่ไม่เชื่อทฤษฎีนี้เพราะความรู้่ทางวิทยาศาสตร์ ผมก็ถามไปว่าทำไมไม่มีเปเปอร์ออกมาหล่ะ ถ้าคุณรู้ว่ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่หนาแน่นจริงๆ ที่จะล้มทฤษฎีนี้่ ถ้าได้ตีพิมพ์ออกมา คงจะได้ตังค์จาก Discovery Institute โบสถ์ของพวก Evangelical หรือสถาบันที่สนับสนุน Creationism มาวิจัยเยอะแยะ 3) คุณก็บอกว่าโดนกีดกันไม่ให้ตีพิมพ์ ผมก็ทั้งเล่าเรื่อง ทั้งโยนลิงค์มาให้ (http://www.talkorigins.org/indexcc/CA/CA325.html ) ว่าจริงๆ แล้ว ไอเดียอะไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีใครยอมรับเลยในตอนแรก แต่ถ้ามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียงพอก็ได้ตีพิมพ์ 4) คุณก็บอกว่าเป็นคนละเรื่อง เพราะวิวัฒนาการเป็นการตีความหลักฐานมั่วๆ เข้าข้างตัวเอง ผมโยนลิงค์ไว้ให้ คุณเข้าใจใหม่เรื่องการตีความ (http://www.talkorigins.org/indexcc/CA/CA230.html ) ไม่รู้ได้อ่านหรือยัง 5) ต่อมาคุณก็บอกประมาณว่า แล้วไงมีนักวิทยาศาสตร์ ที่รู้ว่าทฤษฎีนี้ผิดตรงไหน แล้วก็ย้อนไปที่ข้อ 1) วนครบ loop ถ้าคุณจะให้ผมวนกับคุณอีก คงไม่สนุกแล้ว ขอร้องเหอะ ที่ว่ามีหลักฐานเอามากางให้ดูได้ไหม ไม่ใช่่อ้างว่าคนนู้นคนนี้รู้ว่ามีหลักฐาน แต่คืออะไรไม่รู้ ไม่ต้องเป็นเปเปอร์ก็ได้ เป็นหนังสือที่"นักวิทยาศาสตร์" ของคุณเขียนก็ได้ แต่หวังว่าไม่ใช่ Darwin's Blackbox ของ Michael Behe เพราะรายนั้นโดนชำแหละในศาลที่ โดเวอร์ เพนซิลเวเนีย โดย Kenneth Miller นักวิทยาศาสตร์ที่เป็น christian จำไว้ทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ เป็นทฤษฎีที่ถูกที่สุด ณ เวลานั้นๆ ถ้ามีหลักฐาน(ที่เชื่อถือได้)ว่าผิดเมื่อไหร่ ตรงไหน ก็จะถูกแก้ไขเพิ่มเติมทันที แต่ถ้าผิดที่ Core of Theory ก็จะถูกล้ม แต่ทฤษฎีวิวัฒนาการไม่ถูกล้มแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 02:17:45 จากคุณ : Geneticist - [ 17 ก.พ. 52 02:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ^ ^ "ถ้าผิดที่ Core of Theory ก็จะถูกล้ม แต่ทฤษฎีวิวัฒนาการไม่ถูกล้มแน่ๆ " Ans. แน่ใจหรือครับว่าจะไม่ถูกล้ม   ...อะไรคือ Core ของทฤษฎีวิวัฒนาการ ? แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 20:31:42 จากคุณ : PureTruth - [ 17 ก.พ. 52 14:08:45 ]

ความคิดเห็นที่ 56 555 อยากให้ถามอยู่พอดี จะให้โจทย์คุณ PureTruth ไปคิด ต่อไปนี้คือ นิยาม หรือแก่น(core)ของ วิวัฒนาการ 1) Evolution consists of changes in the heritable traits of a population of organisms as successive generations replace one another. It is populations of organisms that evolve, not individual organisms. (จาก U.S. National Academy of Sciences. ) 2) In biology, evolution is change in the inherited traits of a population of organisms from one generation to the next. These changes are caused by a combination of three main processes: variation, reproduction, and selection. (จาก Wikipedia) ขอแปลของ Wikipedia แล้วกัน เพราะน่าจะเข้าใจง่ายกว่า (ข้อความในวงเล็บคือส่วนขยายเพิ่มเต็มให้คุณเข้าใจ) วิวัฒนาการคือการเปลี่ยนแปลงของลักษณะที่ถ่ายทอดได้ในกลุ่มประชากรของสิ่งมีชีวิต (ในแง่ของความถี่ของลักษณะนั้นๆ ที่ถูกพบในประชากร หรือลักษณะใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมา) จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นด้วยสามสาเหตุรวมๆ กันคือ ความหลากหลาย(ทางพันธุกรรม) การสืบเผ่าพันธุ์ และการคัดเลือก (ตามธรรมชาติ ด้วยมนุษย์ หรือสุ่ม [genetic drift]) ลองหาหลักฐานว่า นิยามข้างบนผิด ถ้าทำไม่ได้คุณก็ล้มทฤษฎีนี้ไม่ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องจากลิงเป็นคน ไดโนเสาร์เป็นนกนะ เอาแค่พิสูจน์นิยามข้างบนก่อน ถ้ายอมรับว่าล้มนิยามข้างบนไม่ได้ ผมจะมาอธิบายต่อว่าทำไมนิยามข้างบนถึงเอามาใช้อธิบายวิวัฒนาการจากสปีชี่ส์หนึ่ง เป็นอีกสปีชี่ส์ได้ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 00:17:40 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 00:12:02 จากคุณ : Geneticist - [ 18 ก.พ. 52 00:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้านิยามของทฤษฎีวิวัฒนาการคือแค่นั้น ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วครับ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่มีใครจะไปล้มทฤษฎีที่พูดถึงสิ่งธรรมดาพื้นๆ ข้างบนนี้หรอกครับ แต่การที่นักวิวัฒนาการอ้างอย่างอื่นด้วย ที่นอกเหนือไปจาก Core นี้น่ะสิครับ ที่เป็นปัญหา เชิญอธิบายต่อได้เลยครับ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 00:52:57 จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 00:49:32 ]

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ PureTruth จำความเห็นที่ 57 ของตัวเองดีๆ นะว่ายอมรับอะไรออกไปบ้าง ทีนี้ลองกลับไปอ่าน ความคิดเห็นที่ 21 ของผม ถ้าคุณยอมรับนิยามนี้ เท่ากับว่าคุณยอมรับกระบวนการเล็กๆ ของวิวัฒนาการว่าเกิดขึ้นจริงนะครับ ปัญหาที่ผมจะถามคุณต่อไปคือ เมื่อคุณยอมรับว่า mutation มีจริง ธรรมชาติหรือมนุษย์หรือ genetic drift ทำให้ ความถี่ gene ในประชากรเปลี่ยนไปจริง และความถี่ที่เปลี่ยนไปทำให้ประชากรของสิ่งมีชีวิตนั้นปรับตัวได้ดีขึ้นกับธรรมชาติจริง แล้วคุณมีเหตุผล หรือหลักฐานอะไรที่ไม่เช่ือว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานเกินกว่าช่วงชีวิตของคุณจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ไม่ได้ วิวัฒนาการที่เกิดขึ้นอาศัยกระบวนการที่คุณออกปากยอมรับไปแล้ว โดยไม่ต้องอาศัยกระบวนการพิศดารอื่นใดอีก คนกับชิมแปนซีมีดีเอ็นเอต่างกันไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์ เราสามารถจับดีเอ็นเอของทั้งสองมาเทียบกันได้เลยว่าต่างกันตรงไหน ต้องเกิดอะไรบ้างที่ทำให้ต่างกัน เช่น point mutation invertion deletion duplication และอื่นๆ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ก็เกิดขึ้นตลอดเวลากับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แม้แต่มนุษย์เอง คนที่เป็นโรคทางพันธุกรรมบางอย่างก็มีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นในดีเอ็นเอทั้งนั้น จากคุณ : Geneticist - [ 18 ก.พ. 52 01:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 59 "ไม่มีใครจะไปล้มทฤษฎีที่พูดถึงสิ่งธรรมดาพื้นๆ ข้างบนนี้หรอกครับ แต่การที่นักวิวัฒนาการอ้างอย่างอื่นด้วย ที่นอกเหนือไปจาก Core นี้น่ะสิครับ ที่เป็นปัญหา" สามวันก่อนหน้านั้น "เพราะผู้แย้งวิวัฒนาการนั้นแย้งในส่วนข้ออ้างที่ สำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการ ส่วนอื่นๆ ที่เล็กน้อยนั้นนักวิทยาศาสตร์ที่แย้งวิวัฒนาการไม่ได้โต้แย้งอะไร" ขำได้อีก ... แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 01:58:31 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 01:53:25 จากคุณ : ชาลีฟ - [ 18 ก.พ. 52 01:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ^ ^ อืม.... ขำได้อีกจริงๆ ด้วย คุณชาลีฟ    ขำจริงๆ กับการที่นักวิวัฒนาการอธิบายแบบอ้างนู่นอ้างนี่สลับกันไปมาจนตัวเองก็สับสน แถมยังไม่รู้ตัวซะด้วย ลองดูให้ดีๆ นะครับ   คำพูดของผมคือ (ใน # 57) "ไม่มีใครจะไปล้มทฤษฎีที่พูดถึงสิ่งธรรมดาพื้นๆ ข้างบนนี้หรอกครับ"  สิ่งธรรมดาพื้นๆ ที่ผมกล่าวถึงอยู่นี้คืออะไรครับ มันคือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเป็น “Core” นั่นเอง พูดอีกอย่างได้ว่า Core ของทฤษฎีวิวัฒนาการเป็นสิ่งที่เล็กน้อย ธรรมดาพื้นๆ  ดังนั้น จึงไม่มีใครที่จะไปเห็นแย้งอยู่แล้วครับ  ซึ่งก็ตรงกับที่ผมพูดไว้ใน # 31 ว่า “ส่วนอื่นๆ ที่เล็กน้อยนั้นนักวิทยาศาสตร์ที่แย้งวิวัฒนาการไม่ได้โต้แย้งอะไร" (สิ่งที่เล็กน้อยนี้ ก็คือสิ่งที่นักวิวัฒนาการบอกว่าเป็น Core ของทฤษฎีวิวัฒนาการครับ) ต่อนะครับ ใน # 57  ผมพูดว่า “แต่การที่นักวิวัฒนาการอ้างอย่างอื่นด้วย ที่นอกเหนือไปจาก Core นี้น่ะสิครับ ที่เป็นปัญหา"   ซึ่งก็หมายถึงการอ้างประเภทที่ว่า ไดโนเสาร์วิวัฒนาการเปลี่ยนเป็นนกได้ ฯลฯ  และการอ้างประเภทนี้ก็เป็นส่วนสำคัญของการอ้างในทฤษฎีนี้ ที่พยายามจะบอกให้ทุกคนเชื่อว่าทฤษฎีนี้สามารถอธิบายการกำเนิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดได้ (อย่าลืมนะครับว่า การอ้างที่สำคัญนี้ มันไม่ใช่ Core ของทฤษฎี) นี่ก็ตรงกับที่ผมพูดใน # 31 ว่า "เพราะผู้แย้งวิวัฒนาการนั้นแย้งในส่วนข้ออ้างที่สำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการ ส่วนอื่นๆ ที่เล็กน้อยนั้นนักวิทยาศาสตร์ที่แย้งวิวัฒนาการไม่ได้โต้แย้งอะไร" (ส่วนที่เล็กน้อยนั้น คือ Core ของทฤษฎีวิวัฒนาการครับ) จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 11:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ แล้วตอบมาสิครับว่าทำไมไดโนเสาร์เป็นนกไม่ได้ บอกเหตุผลหลักฐานมาด้วย อะไรที่คุณคิดว่าห้ามการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณยอมรับว่าเกิดขึ้นจริง ไม่ให้รวมๆ กันในเวลาที่ยาวนานจนเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ เช่น จากไดโนเสาร์เป็นนก อะไรที่คุณคิดว่า "การเปลี่ยนแปลงของลักษณะที่ถ่ายทอดได้ในกลุ่มประชากร ของสิ่งมีชีวิต (ในแง่ของความถี่ของลักษณะนั้นๆ ที่ถูกพบในประชากร หรือลักษณะใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมา) จากรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นด้วยสามสาเหตุรวมๆ กันคือ ความหลากหลาย(ทางพันธุกรรม) การสืบเผ่าพันธุ์ และการคัดเลือก (ตามธรรมชาติ ด้วยมนุษย์ หรือสุ่ม [genetic drift])" ไม่สามารถทำให้ไดโนเสาร์กลายนกได้ มีกระบวนการอะไรที่ขาดหายไปเหรอ มีกระบวนการคอยตรวจเช็คเหรอว่า mutation เกินไปแล้วไม่ให้ไปต่อ มีกระบวนการคอยตรวจเช็คเหรอว่าสิ่งมีชีวิตควรจะมีหน้าตาอย่างนั้นอย่างนี้ถ้าเปลี่ยนมากเกินไป เช่น ลิงเริ่มเดินสองขาเหมือนคนได้ ไดโนเสาร์เริ่มมีขนเหมือนนก ก็จะถูกสาปให้หายไปทันที ในเมื่อคุณยอมรับแก่นของทฤษฎีนี้ เท่ากับคุณต้องยอมรับว่าวิวัฒนาการจากสปีชี่ส์หนึ่งเป็นอีกสปีชี่ส์เกิดขึ้นได้ เช่น จากหมาป่าเป็นหมาบ้านในปัจจุบัน ถ้าคุณยอมรับว่าสปีชี่ส์ใหม่เกิดขึ้้นได้ เมื่อสืบย้อนกลับไปสิ่งมีชีวิตทุกชนิดก็มาจากต้นกำเนิดเีดียวกัน อย่างที่ผมบอกหลักการแค่ในแก่นหรือนิยามที่ผมบอกก็เพียงพอที่อธิบายวิวัฒนาการของมนุษย์ว่ามีบรรพบุรุษร่วมกับชิมแพนซี ไม่ต้องเอากระบวนการพิศดารใดๆ มาเพิ่มเติมเลย ถ้าน้ำหนึ่งหยดในแก้วระเหยไปในเวลาไม่กี่นาที ทำไมน้ำเต็มแก้วจะระเหยไปหมดไม่ได้ ถ้าน้ำหนึ่งแก้วระเหยไปหมดได้ในเวลาหลายชั่วโมง ทำไมน้ำในตุ่มเปิดฝาจะระเหยไปหมดไม่ได้ ถ้าน้ำในตุ่มเปิดฝาระเหยหมดได้ในเวลาหลายวัน ทำไมน้ำในทะเลสาบกลางทะเลทรายที่ไม่มีฝนตกจะระเหยไปหมดไม่ได้ มีอะไรเป็นตัวห้ามอย่างนั้นเหรอว่าน้ำแค่หนึ่งหยดระเหยหมดได้ แต่น้ำหนึ่งตุ่มไม่มีวันระเหยหมด สุดท้าย คุณก็ยังไม่เอาหลักฐานมากางให้ดูซักที อย่างที่บอกไป ไม่ต้องคิดเองก็ได้ ไปเอาหนังสือของพวก Creationist/IDist มากางดูแล้วโพสก็ได้ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 12:06:12 จากคุณ : Geneticist - [ 18 ก.พ. 52 11:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ตอบคุณ Geneticist #58 "แล้วคุณมีเหตุผล หรือหลักฐานอะไรที่ไม่เช่ือว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานเกินกว่าช่วงชีวิตของคุณจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ไม่ได้ วิวัฒนาการที่เกิดขึ้นอาศัยกระบวนการที่คุณออกปากยอมรับไปแล้ว โดยไม่ต้องอาศัยกระบวนการพิศดารอื่นใดอีก" Ans.  เพราะนักวิวัฒนาการพูดถึงการกลายพันธุ์ เช่น การที่แบคทีเรียกลายพันธุ์แล้วดื้อยา โดยอ้างว่าการกลายพันธุ์นี้เมื่อเกิดขึ้นนานๆ หลายชั่วอายุ จะทำให้เกิดการวิวัฒนาการระดับใหญ่ถึงขนาดที่ว่าเปลี่ยนจากชนิดนั้นเป็นชนิดอื่นได้ แต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็คือว่า แบคทีเรียอยู่บนโลกมาตั้งเป็นพันล้านปีแล้ว กลายพันธุ์มาตลอด แต่มันก็ยังคงเป็นแบคทีเรียอยู่ ไม่สามารถวิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น "คนกับชิมแปนซีมีดีเอ็นเอต่างกันไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์" Ans. แล้วถ้าดีเอ็นเอต่างกันเกิน 5% ล่ะครับ คุณจะยังอ้างอยู่หรือไม่ว่าวิวัฒนาการของสองชนิดนี้เกิดขึ้นจริง "เราสามารถจับดีเอ็นเอของทั้งสองมาเทียบกันได้เลยว่าต่างกันตรงไหน ต้องเกิดอะไรบ้างที่ทำให้ต่างกัน เช่น point mutation invertion deletion duplication และอื่นๆ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ก็เกิดขึ้นตลอดเวลากับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แม้แต่มนุษย์เอง คนที่เป็นโรคทางพันธุกรรมบางอย่างก็มีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นในดีเอ็นเอทั้งนั้น" Ans. ลักษณะที่ดีที่จะมีผลถึงขนาดทำให้ดำรงชีวิตอยู่รอดได้ดีขึ้นนั้น บางอย่างก็เกิดจากความต่างของดีเอ็นเอจำนวนมาก เปรียบได้กับความแตกต่างระหว่าง WINDOWS XP กับ WINDOWS VISTA   ซึ่งไม่ใช่ว่าการเปลี่ยนแปลงแค่จาก 0001 เป็น 0111 จะสามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงระดับที่ทำให้เกิดผลต่างๆ ที่ดีขึ้นได้ ฟังก์ชั่นบางอย่างที่ดีขึ้นมันก็เกิดจากการเปลี่ยนแปลงรหัสเป็นจำนวนมากในคราวเดียวกัน ดังนั้น จึงไม่สามารถเอาการเปลี่ยนแปลงของดีเอ็นเอทีละนิดมาอ้างว่าทำให้เกิดลักษณะที่ดีขึ้นได้ทุกๆ อย่าง แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 13:45:30 จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 12:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณ PureTruth ยังไม่เข้าใจวิวัฒนาการอยู่หลายจุด 1) วิวัฒนาการไม่ได้หมายความว่าสปีชีส์ A เป็น B แล้ว A ต้องหายไป หมาบ้านตอนนี้ก็มาจากหมาป่า ไม่เห็นว่าหมาป่ามันจะหายไปไหนเลย กล้วยหอมกล้วยน้ำว้าที่กินกันทุกวันนี้ก็มาจากกล้วยป่า แต่กล้วยป่าก็ไม่ได้หายไปไหน ดังนั้นเรื่องสัตว์เซลล์เดียวอย่างแบคทีเรีย ก็มีส่วนหนึ่งของ"ประชากร" ที่วิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนขึ้น แต่ก็มี "ประชากร" อีกส่วนที่ยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมได้อย่างเหมาะสมแล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงให้ซับซ้อนขึ้น แต่ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 2) เรื่อง 5 % ที่ผมมาบอกไม่ได้เกี่ยวอะไรที่ กับเหตุผลที่คุณยกมา ผมเอามาเพราะ 5% มันใกล้เคียงมากที่จะเอามานั่งเทียบดูกันอักษรต่ออักษรของดีเอ็นเอ วิวัฒนาการจากลิงเป็นคนจะไม่จริงเลย ถ้าเอาดีเอ็นเอของคนกับชิมแปนซีมาเทียบกัน แล้วเจอยีนซักตัวที่ทำหน้าที่เดียวกัน เช่น Estrogen receptor แต่หน้าตาไม่คล้ายกันเลย เช่น ของลิงคล้ายกับจรเข้  แต่ของคนคล้ายแมลงหวี่ 3) เรื่องที่คุณคิดว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยทำให้เกิดลักษณะที่ดีไม่ได้ ไปที่นี่ http://microbiology.suite101.com/article.cfm/hiv_protection Deletion ของ DNA 32 เบสในยีน CCR5 ทำให้คุณไม่ติด HIV 4) ที่คุณอ้างว่าลักษณะดีๆ ที่เกิดจากความต่างของดีเอ็นเอจำนวนมากๆ ขอ เปเปอร์ หรือหนังสือสนับสนุนความคิดเห็นนี้ของคุณด้วย เพราะลักษณะที่คุณว่ามาเราสามารถสืบย้อนหลังได้ว่ามันมีอยู่แล้วในสปีชี่ส์อื่นที่ใกล้เคียงกันในสายวิวัฒนาการ จะมีกรณีพิเศษ คือ Horizontal transfer เช่น เราพบยีนบางตัวที่มีเฉพาะในมนุษย์ แต่ก็พบในแบคทีเรีย แต่ก็ไม่มียีนใดๆ ที่อยู่ดีๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้ ไม่เคยพบในสิ่งมีชีวิตไหนเลย กรุณาอย่าเอาสิ่งที่ไม่เกี่ยวกันอย่าง Windows มาเกี่ยว ถ้าจะยกเอาโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาเปรียบให้ไปอ่านเรื่อง Genetic Algorithms มา จากคุณ : Geneticist - [ 18 ก.พ. 52 13:46:10 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ^ ^ " วิวัฒนาการไม่ได้หมายความว่าสปีชีส์ A เป็น B แล้ว A ต้องหายไป" Ans.  ก่อนจะบอกว่าผมไม่เข้าใจทฤษฎีวิวัฒนาการ คุณ Geneticist ช่วยกลับไปอ่านดูดีๆ อีกรอบว่าผมไปพูดตอนไหนว่า A ต้องหายไป "ดังนั้นเรื่องสัตว์เซลล์เดียวอย่างแบคทีเรีย ก็มีส่วนหนึ่งของ"ประชากร" ที่วิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนขึ้น" Ans. แบคทีเรียไม่เคยวิวัฒนาการเป็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ซับซ้อนขึ้นนะครับ คุณชาลีฟก็เขียนไว้แล้วที่ความเห็น 40  " ไม่ใช่ว่าแบคทีเรีย วิวัฒนาการไปเป็นแมงกะพรุน แล้ววิวัฒนาการไปเป็นคน " แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 15:35:53 จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 14:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 65 คห#60 แถได้ใจจริงๆ จะมีใครซักกี่คนแปล Core ว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย แล้วไอ้ไดโนเสาร์วิวัฒนาการเปลี่ยนเป็นนกได้เนี่ย มันก็อ้างมาจาก Core นั่นคือถ้าไม่ยอมรับก่อนว่า Core เป็นจริงแล้วก็อ้างไม่ได้ คห#62 นี่อย่านะครับ อย่างมาโชว์โง่อีก อยู่ดีไม่ว่าดีเหวี่ยงมาเรื่องแบคทีเรีย ถ้าไม่ได้ศึกษามานะ อย่ายกมาอ้างดีกว่า จะเข้าตัว ไอ้ที่คุณว่าแบคทีเรีย ยังไงมันก็เป็นแบคทีเรียอยู่ดี แต่คุณลืมไปหรือปล่าวว่า แบคทีเรียเนี่ย มันทั้งโดเมนนะครับ แล้วเป็นโดเมนที่มีความหลากหลายสูงที่สุดในทั้ง 3 โดเมน จะบอกให้ว่า Spirulina กะ Escherichia เนี่ย ความแตกต่างมันมากกว่าคนกะไดโนเสาร์ซะอีกนะครับ ฉะนั้นที่ใช้คำว่า "แบคทีเรียอยู่บนโลกมาตั้งเป็นพันล้านปีแล้ว กลายพันธุ์มาตลอด แต่มันก็ยังคงเป็นแบคทีเรียอยู่ ไม่สามารถวิวัฒนาการไปเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น" เนี่ย มันก็เหมือนคุณจะพูดว่า "ฟองน้ำ วิวัฒนาการมากี่ร้อยล้านปี มันก็ยังเป็นสัตว์อยู่ดี"  ส่อให้เห็นมากๆว่าไม่ได้รู้อะไรเล้ย จากคุณ : ชาลีฟ - [ 18 ก.พ. 52 14:32:52 ]

ความคิดเห็นที่ 66 แล้ว คห#64 น่าเกลียดมาก ยกมาไม่หมด ขาดคำว่า "เนื่องจากไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดที่มีพันธุกรรมคงที่" หนือจะเถียงว่าในธรรมชาติ มีประชากรสิ่งมีชีวิตไหนที่มี Gene Pool คงที่ เมื่อประชากรแยกออกมาเป็น 2 กลุ่ม Gene Pool ก็ต่างกันแล้ว จึงใช้คำว่าประชากรนี้ เป็นบรรบุรุษของประชากรนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกะสปีชีส์ เนื่องจากพื้นฐานการเกิดสปีชีส์มาจากการแยกกลุ่มประชากร แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 15:11:56 จากคุณ : ชาลีฟ - [ 18 ก.พ. 52 15:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ชาลีฟ  #65 "คห#60 แถได้ใจจริงๆ จะมีใครซักกี่คนแปล Core ว่าเป็นสิ่งเล็กน้อย แล้วไอ้ไดโนเสาร์วิวัฒนาการเปลี่ยนเป็นนกได้เนี่ย มันก็อ้างมาจาก Core นั่นคือถ้าไม่ยอมรับก่อนว่า Core เป็นจริงแล้วก็อ้างไม่ได้" Ans. แถตรงไหนครับ คุณนั่นแหละที่มั่ว ผมพูดผิดตรงไหนว่ามาเลยดีกว่า อย่ามาอ้างนู่นนี่เฉไฉเรื่อยเปื่อย ผมไม่ได้บอกว่า Core แปลว่าสิ่งเล็กน้อย แต่ว่าเจ้าสิ่งที่นักวิวัฒนาการถือว่าเป็น Core นั้น มันเป็นแต่เพียงอะไรที่ธรรมดา เล็กน้อย   เหมือนถ้าหากผมบอกว่าผมตั้งทฤษฎีความเปลี่ยนแปลง โดยบอกว่า Core ของทฤษฎีนี้คือสิ่งต่างๆ ในโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แล้วผมก็อ้างแบบเสียงดังต่อไปอีกว่า ดังนั้น จาก Core ของทฤษฎีนี้ คนเราจะมีปีกที่บินได้ขึ้นมาเองตามธรรมชาติ !!  อย่างนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่า Core ของทฤษฎีนี้เป็นสิ่งที่ธรรมดาพื้นๆ ไม่มีอะไรใหญ่โต แต่การเอา Core ของทฤษฎีนี้ไปอ้างต่อไปนั่นแหละที่เป็นการอ้างที่ใหญ่โต จากตัวอย่างนี้ก็เห็นได้ชัดเจนอีกอย่างว่า ถึง Core จะเป็นจริง แต่การอ้างก็ใช่ว่าจะต้องเป็นจริงด้วยเสมอไป  ในกรณีของทฤษฎีวิวัฒนาการ Core = สิ่งมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นอะไรที่ธรรมดาพื้นๆ   เช่น แม้แต่ความคิดที่ว่า "หมากลายพันธุ์อย่างไร ก็ยังเป็นหมาอยู่ดี" นั้นก็ยังโอเค ยังสอดคล้องกับ Core ของทฤษฎีวิวัฒนาการอยู่เลยนะครับ ดังนั้น การที่หมากลายพันธุ์แล้วจะกลายเป็นสัตว์ชนิดอื่น หรือว่ากลายพันธุ์ยังไงก็ได้ออกมาเป็นหมาอยู่ดีนั้น อย่างน้อยๆ ก็ต้องไปศึกษากันต่อครับ ไม่ใช่จะเอา Core มาอ้างว่าเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะทั้งคู่สอดคล้องกับ Core ด้วยกันทั้งคู่ครับ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 15:28:19 จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 15:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ชาลีฟ #66 ถ้าคุณไม่ชอบใจ งั้นผมตัดประโยคก่อนหน้า ที่คุณชาลีฟพูดว่า "สิ่งมีชีวิตที่เห็นอยู่ทุกวันนี้มีวิวัฒนาการแยกออกมาเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครเป็นบรรพบุรุษของใคร" ทิ้งไปเลยก็ได้ (#64)  โอเคแล้วนะ         (Note : ผมไม่ได้บิดเบือนความหมายของคำพูดคุณเลย แต่ถ้าคุณพยายามจะพูดนั่นพูดนี่เพื่อให้เป็นประเด็นขึ้นมา เพื่อให้ดูเหมือนว่าผมทำอะไรที่มันไม่ดี ผมก็ลบประโยคนั้นของคุณทิ้้งไปก็ได้ ขี้เกียจต้องมาเถียงกับคุณในประเด็นที่ไร้สาระ) แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 15:49:49 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 15:42:44 แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 15:34:55 จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 15:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 69 "โดยบอกว่า Core ของทฤษฎีนี้คือสิ่งต่างๆ ในโลกนี้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แล้วผมก็อ้างแบบเสียงดังต่อไปอีกว่า ดังนั้น จาก Core ของทฤษฎีนี้ คนเราจะมีปีกที่บินได้ขึ้นมาเองตามธรรมชาติ !!" 1. Core ของคุณได้รับการพิสูจน์ หรือมีหลักฐานรองรับหรือไม่ 2. สิ่งที่คุณอ้างต่อมามีหลักฐานหรือไม่ กายวิภาคเชิงเปรียบเทียบ ชี้ให้เห็นว่าไดโนเสาร์และนก มีความน่าจะเป็นที่จะมีความสัมพันธ์กัน มี 2 คำถามเกิดขึ้น 1. มันคล้ายกัน เพราะมีใครสร้างให้มันคล้ายกัน 2. มันคล้ายกัน เนื่องจากมีวิวัฒนาการเกิดขึ้น หาทางตอบคำถาม 1. ไม่มีหลักฐานหรือทฤษฎีที่มีเหตุผล สนับสนุนว่ามีใครสร้างให้มันคล้ายกัน 2. หลัหฐานทางบรรพวิทยา และ Core ของทฤษฏีวิวัฒนาการ สนับสนุนแนวคิดที่ว่า นก วิวัฒน์มาจาก ไดโนเสาร์ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 18 ก.พ. 52 15:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 70 (ประเด็นแบคทีเรียไม่มีการพูดถึงหรือแก้ตัว???!!! ฮ่าๆๆๆ) จากคุณ : ชาลีฟ - [ 18 ก.พ. 52 15:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ^ ^ อืม สงสัยจะเครียดมากเลยต้องพยายามหัวเราะด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง   อิอิ (ถ้าใช้สมองดูซักนิด ก็จะเห็นว่าผมจะตอบประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาประมาณหนึ่ง เนื่องจากมีงานทำอยู่  ดังนั้น เรื่องไหนยังไม่ได้ตอบ ก็ไม่ได้แปลว่าตอบไม่ได้ แต่จะตอบเมื่อมีเวลา และก็ไม่ได้ค้างตอบเป็นวันๆ   นี่คุณก็เพิ่งเขียนมาเมื่อ 2.32 pm  ยังไม่ถึง 2 ชั่วโมงเลย แต่ก็คงเป็นเพราะคุณชาลีฟโดนไปเยอะ ก็เลยใจร้อนซะขนาดนี้) จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 16:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมเป็นนักคณิตศาสตร์ บังเอิญผ่านมา คณิตศาสตร์ชั้นสูงสอนให้นักคณิตศาสตร์ยอมรับความจริงเบื้องต้น (Axiom) อะไรก็ได้ คือคุณจะบอกว่า จริงๆ แล้วดวงอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกก็ได้ หรือคนสามารถบินได้ ก็ได้ เราสามารถทำใจยอมรับในเบื้องต้นได้ทั้งหมด ซึ่งในที่นี้ เราก็สามารถวางใจเป็นกลาง ยอมรับได้ทั้งสองโมเดลว่า พระเจ้ามีจริง และเป็นผู้สร้างทุกสิ่ง หรือจะให้เชื่อว่า สิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการมาจากชีวิตปฐมมูลก็ได้ (แต่เชื่อทีละอย่าง) ทีนี้ การจะดูว่า ความจริงเบื้องต้นชุดใด น่าสนใจ เราจะไม่พูดถึงสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ เช่น "บอกว่าเราไม่เคยเห็นพระเจ้า พระเจ้าจึงไม่มีจริง" อันนี้เป็นเหตุผลที่นักคณิตศาสตร์ไม่ยอมรับ หรือจะบอกว่า" ไดโนเสาร์ไม่มีทางกลายเป็นนกได้ เพราะกระบวนการทีละเล็กทีละน้อย ไม่ควรเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตได้ขนาดนั้น" เหตุผลแบบนี้ก็ฟังไม่ขึ้น เพราะไม่เป็นการพิสูจน์อะไรเลย แต่เราจะบอกว่าความจริงเบื้องต้นชุดนี้ไม่น่าสนใจ ก็ต่อเมื่อ ความจริงเบื้องต้นนั้นก่อให้เกิด "ข้อขัดแย้ง" ขึ้น ซึ่งสำหรับทฤษฎีวิวัฒนาการนั้น ผมยังมองไม่เห็นข้อขัดแย้ง อาจเป็นเพราะผมค่อนข้างเชื่อก็ได้ เลยไม่ค่อยได้จับผิด (แต่ที่อ่านข้อโต้แย้งของคุณ PureTruth มา ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อขัดแย้งอะไร) แต่สำหรับการสร้างของพระเจ้านั้น ด้วยคุณสมบัติของพระเจ้าสี่ประการ คือ omnipotence ทำอะไรก็ได้ omnipresence อยู่ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ omniscience รู้ทุกอย่าง และ benevolence คือ เมตตาสูงสุดนั้น ถ้ามีคุณสมบัติสี่ประการนี้ พระเจ้าก็ไม่น่าจะสร้างคนให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเป็นล้านได้เหมือนที่เกิดในเยอรมัน เขมร หรือรวันดา นับว่าเป็นข้อขัดแย้ง จริงๆ แล้วเอาหลักคณิตศาสตร์มาใช้กับเรื่องพวกนี้ไม่ได้หรอก เพราะมันไม่ได้เป๊ะๆ แล้วเอามาพูดทำไม? อืม จะบอกว่า จะเถียงกันทำไม ไม่น่าสนใจ ไร้ประโยชน์ จากคุณ : พาสเทล - [ 18 ก.พ. 52 17:09:04 A:161.200.255.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 73 แหมๆๆ ให้ใครเข้ามาอ่านเค้าก็ประเมินได้ ว่าใครกันแน่ ที่กะลังหลังชนฝา หลักฐานแก้ต่างซักชิ้นยังไม่มี มีแต่คำพูดลอยๆ กับตรรกะแปลกๆ จะค้านอ่ะ ค้านแบบสร้างสรรค์หน่อย ยกหลักฐานข้อมูลดีๆมาแย้งกันบ้าง จะรวมประเด็นที่ติดค้างอยู่ รอให้คุณมาตอบหรือหาหลักฐานมาหักล้าง 1.  "เพราะผู้แย้งวิวัฒนาการนั้นแย้งในส่วนข้ออ้างที่สำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการ"  ส่วนสำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการคืออะไร เอาหลักการณ์ทางวิทยาศาสตร์อันไหน แย้งตรงไหน ยังไง 2. "แล้วคุณมีเหตุผล หรือหลักฐานอะไรที่ไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานเกินกว่าช่วงชีวิตของคุณจะทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ไม่ได้ วิวัฒนาการที่เกิดขึ้นอาศัยกระบวนการที่คุณออกปากยอมรับไปแล้ว โดยไม่ต้องอาศัยกระบวนการพิศดารอื่นใดอีก" อันนี้คุณยังไม่มีหลักฐานมาหักล้าง 3. "เราสามารถจับดีเอ็นเอของทั้งสองมาเทียบกันได้เลยว่า ต่างกันตรงไหน ต้องเกิดอะไรบ้างที่ทำให้ต่างกัน เช่น point mutation invertion deletion duplication และอื่นๆ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ก็เกิดขึ้นตลอดเวลากับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แม้แต่มนุษย์เอง คนที่เป็นโรคทางพันธุกรรมบางอย่างก็มีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นในดีเอ็นเอ ทั้งนั้น" อันนี้คุณยังไม่มีหลักฐานมาหักล้าง 4. คห#69 จากคุณ : ชาลีฟ - [ 18 ก.พ. 52 17:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ^ ^ 1. "เพราะผู้แย้งวิวัฒนาการนั้นแย้งในส่วนข้ออ้างที่สำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการ"  ส่วนสำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการคืออะไร เอาหลักการณ์ทางวิทยาศาสตร์อันไหน แย้งตรงไหน ยังไง Ans. ข้ออ้างที่สำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการ(ซึ่งอยู่นอกเหนือไปจาก Core ของทฤษฎี) คือ สิ่งมีชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นอะไรก็ได้ **ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่โตพิสดารระดับไหนก็ตาม**   ข้อมูลทางวิทยาศาตร์ที่ขัดแย้งกับข้ออ้างข้างต้นนี้ สามารถพบได้ใน Link  http://www.discovery.org/a/2177  (รู้สึกจะเปเปอร์ที่ผ่าน Peer reviewed แล้ว แต่พอนักวิวัฒนาการเห็นก็รับไม่ได้ เลยรวมหัวกันเอาออกจากเล่มไปในที่สุด)   ขออภัยที่ไม่ได้สรุปออกมาให้ ช่วงนี้งานเข้าครับ (งานจริงๆ) จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 17:43:33 ]

ความคิดเห็นที่ 75 ^ ^ http://pandasthumb.org/pt-archives/000430.html เอาไปอ่านซะว่าทำไมเปเปอร์ของ Stephen C. Meyer ไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์"จริงๆ" วิเคราะห์ด้วยวิทยาศาสตร์ล้วนๆ ความน่าเชื่อของ Proceedings of the Biological Society of Washington http://www.geocities.com/lclane2/pbsw.html แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 21:58:42 จากคุณ : Geneticist - [ 18 ก.พ. 52 21:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 76 "There is nothing wrong with challenging conventional wisdom continuing challenge is a core feature of science.  But challengers should at least be aware of, read, cite, and specifically rebut the actual data that supports conventional wisdom, not merely construct a rhetorical edifice out of omission of relevant facts, selective quoting, bad analogies, knocking down strawmen, and tendentious interpretations.  Unless and until the intelligent design movement does this, they are not seriously in the game. They're not even playing the same sport." ดีมากๆ แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 52 22:21:29 จากคุณ : ชาลีฟ - [ 18 ก.พ. 52 22:15:23 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ^ ^ อย่าเลี่ยงประเด็นครับ สิ่งที่เรากำลังพูดกันอยู่คือ ข้อมูลหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่แย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการ ซึ่งผมยกเปเปอร์นี้ขึ้นมาเพราะมันมีเขียนไว้ในเปเปอร์นี้   (อย่าเบี่ยงเบนประเด็นไปพูดถึงเรื่องทฤษฎี Intelligent Design) จากคุณ : PureTruth - [ 18 ก.พ. 52 22:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ^ ^ อ้าวก็นาย Stephen C. Meyer เป็น IDiot เอ้ย IDist จาก Discovery Institute เป็นถึงรองประธานด้วย http://www.discovery.org/scripts/viewDB/index.php?command=view&isFellow=true&id=11 ในเปเปอร์ที่คุณยกมาตรง Conclusion An experience-based analysis of the causal powers of various explanatory hypotheses suggests purposive or >>intelligent design<< as a causally adequate--and perhaps the most causally adequate--explanation for the origin of the complex specified information required to build the Cambrian animals and the novel forms they represent. เห็นคำที่ว่าไหม จากคุณ : Geneticist - [ 19 ก.พ. 52 00:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ู^ ^ ^ เบี่ยงประเด็นตรงไหนครับ ที่เปเปอร์ที่คุณยกมาไม่ได้ตีพิมพ์ ก็เพราะ omission of relevant facts, selective quoting, bad analogies, knocking down strawmen, and tendentious interpretations นั่นแหละครับ ตรงประเด็นมากๆ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 19 ก.พ. 52 00:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ^ ^ ตรงไหนในเปเปอร์ที่เป็นอย่างนั้นครับ ? จากคุณ : PureTruth - [ 19 ก.พ. 52 05:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 81 คุณ Geneticist #78 จากคำตอบของคุณ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าคุณนั่นแหละที่ Idiot        เอ๊ย... คุณไม่ใช่ IDist   ผมบอกใน #77 ว่าอย่าเลี่ยงประเด็นไปพูดเกี่ยวกับ Intelligent Design  แต่คุณก็ไม่สามารถเข้าใจประโยคง่ายๆ นี้ได้ จากคุณ : PureTruth - [ 19 ก.พ. 52 05:47:18 ]

ความคิดเห็นที่ 82 ยกจุดสำคัญๆ ที่ทำให้เปเปอร์ไม่ได้ตีพิมพ์มาให้ดู 1. Meyer พยายามประเมินวิวัฒนาการโดยการนับจำนวน Taxa โดยลืมไปว่า Taxa เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา 2. Meyer ดึงเปเปอร์ที่เกี่ยวกับช่องว่างของฟอสซิลจากยุค Paleozoic มาสนับสนุนความคิดของตัวเอง โดยลืมไปว่าในยุค Paleozoic นั้น สิ่งมีชีวิตสามารถกลายเป็นฟอสซิลได้ง่ายกว่า Cambrian ซึ่งสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ไม่มีโครงสร้างแข็งที่จะกลายเป็นฟอสซิล ดังนั้นช่องว่างของฟอสซิลทั้ง 2 ยุคจึงเป็นคนละกรณีกัน ใช้อ้างอิงไม่ได้ 3. "many scientists and mathematicians have questioned the ability of mutation and selection to generate information in the form of novel genes and proteins"  ไม่มีการอ้างอิง 4. Meyer อ้างถึง Denton (1986) ซึ่งในปี 1998 นั้น Denton ได้ออกมาปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวของตัวเองไปแล้ว แต่ Meyer เลี่ยงที่จะพูดถึงเปเปอร์ของ Denton ในปี 1998 5. Meyer หลีกเลี่ยงการอ้างเปเปอร์เกี่ยวกับการกำเนิดยีนใหม่ ซึ่งทางผู้รีวิวพอว่ามีอย่างน้อย 183 เปเปอร์ ุ6. Meyer อ้างเปเปอร์ของAxe (2004) โดยเขียนว่า " probability of finding a functional protein among the possible amino acid sequences corresponding to a 150-residue protein is similarly 1 in 10^77." ทั้งที่ในความเป็นจริง Axe ได้ใช้คำว่า "in the range of one in 10^77 to one in 10^53" ซึ่งเห็นได้ชัดว่า Meyer พยายามตัดตัวเลขในส่วนมากออก บิดเบือนค่าความน่าจะเป็นให้ลดลงได้ถึง 10^24 เท่า นี่คือส่วนหนึ่ง อยากเห็นจุดอ่อนมากกว่านี้ก็ไปอ่านที่คุณ Geneticist ให้มา ถ้ายังไม่อ่านก็อย่ามาเถียงข้างๆคูๆ แล้วคุณก็ไม่เข้าใจประโยคง่ายๆของคุณ Geneticist ซะด้วย อย่างที่เค้าบอกว่า คนที่เริ่มพูดเรื่อง Intelligent Design คือ Meyer คนที่เขียนเปเปอร์ที่คุณยกมา แล้วก็เขียนใน Conclusion ซะด้วย ซึ่งเราก็กำลังพูดถึงเปเปอร์นั้นอยู่ไม่ใช่หรอ ถ้าจะบอกว่ามีใครเบี่ยงประเด็น ก็ต้องเป็น Meyer นั่นแหละ ที่กล่าวอ้างขึ้นมาก่อน แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 08:11:45 จากคุณ : ชาลีฟ - [ 19 ก.พ. 52 08:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ^ ^ "แล้วคุณก็ไม่เข้าใจประโยคง่ายๆของคุณ Geneticist ซะด้วย" Ans. แหม พยายามช่วยกันจริง เห็นใจครับ แต่ยังไงก็ไม่ได้หรอกครับ คุณเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าประเด็นที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่คืออะไร ตัวคุณชาลีฟเองตอบได้ตรงประเด็นใน #79   ส่วน #78 นั้น เอ่อ...  ไม่พูดแล้วดีกว่า จากคุณ : PureTruth - [ 19 ก.พ. 52 08:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 84 คุณ PureTruth เปเปอร์ทีั่คุณยกมาโปรโมท ID ซะชัดๆ อย่างนั้น แม้ึคุณไม่พูดเอง ก็เหมือนเป็นคนเริ่มก่อนซะอีก ความคิดเห็นที่ 82 ของคุณชาลีฟ ก็เอามาจากลิงค์ที่ผมโพสไว้ให้ ในความคิดเห็นที่ 75 (ขอบคุณที่แปลให้นะครับคุณชาลีฟ) จะว่าผมตอบไม่ตรงประเด็นก็ใช่ที่ ถ้าคุณไม่เชื่อวิวัฒนาการ ไม่ยอมระบุตัวเองว่าเป็น IDist แลัวผมเคยอ่านจากกระทู้ของอาจารย์ Prac หรือใครซักคนว่าคุณประกาศว่าไม่ได้เป็น Young Earth creationist แล้วทฤษฎีของคุณเป็นยังไง ทุกสปีชี่ส์หน้าตา้เป็นอย่างนี้ตั้งแต่โลกกำเนิดหรือ แต่ไม่มีพระเจ้ามาเกี่ยวข้องเหรอ ลองบอกทฤษฎีของคุณมาให้พวกเรารู้บ้างสิ หรือคุณมีแต่ Negative Argument หรือ เป็นคนที่รำคาญมันทุกทฤษฎีแบบ Dr. Salthe ที่คุณยกมาตอนต้นๆ จากคุณ : Geneticist - [ 19 ก.พ. 52 09:44:13 ]

ความคิดเห็นที่ 85 สรุป คือ ทฤษฏี วิวัฒนาการ ยังตอบไม่ได้ว่าใครเป็นผู้สร้างชีวิต ใช่ไหมครับ ประมาณว่าเหมือนจักรวาลที่ไม่รู้ว่าก่อน Bigbang เป็นยังไงอะไรทำให้เกิด Bigbang งั้นความเชื่อของทางศาสนา ก็ไม่น่าจะขัดกับทฤษฏีนี่ครับคือ ผมไม่เข้าใจว่า มันไปขัดยังไง จากคุณ : ZGMF-X10A - [ 19 ก.พ. 52 09:48:17 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ้าวงงๆ คห#79 ตอบไปแล้วใน คห#82 และในบทความที่คุณ Geneticist ยกมา ว่าแล้วเชียว ยังไม่ได้อ่านจริงๆด้วย ไม่ทำการบ้านแบบนี้แล้วจะมาข้างๆคูๆไม่ได้นะ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 19 ก.พ. 52 10:06:56 ]

ความคิดเห็นที่ 87 คุณ PureTruth ลองบอกผมหน่อยสิครับ ว่าบทความที่คุณยกมาเนี่ย ข้อสรุปของเค้าคืออะไร จากคุณ : ชาลีฟ - [ 19 ก.พ. 52 10:09:49 ]

ความคิดเห็นที่ 88 คุณ ZGMF-X10A ที่เกิดปัญหาเพราะ มุสลิมเคร่งศาสนา Orthodox Jew และพวก Evangelical Christian ตรงการตีความคำภีร์ของพวกเขาตรงตามทุกตัวอักษรไงครับ อย่างเช่นในไบเบิล มนุษย์เป็นรูปของพระเจ้า (God's image) การบอกว่าเมื่อล้านปีก่อนไม่มีมนุษย์ แล้วมนุษย์วิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษร่วมกันกับลิง เท่าเป็นดูถูกคำภีร์ไงครับ เอารูปของพระเจ้า สิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสนใจที่สุด ไปเทียบกับลิงโสโครกได้ไง ส่วน Catholic เอง Pope องค์ก่อนก็ได้ประกาศยอมรับทฤษฎีวิวัฒนาการไปแล้ว ก็ไม่มีการขัดแย้งอะไร จากคุณ : Geneticist - [ 19 ก.พ. 52 10:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ไม่เบื่อกันบ้างฤา? จากคุณ : Cryptomnesia - [ 19 ก.พ. 52 10:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่เสนอความเห็นนะครับ แค่อยากบอกว่า พอผมอ่านชื่อกระทู้นี่ นึกเลยว่าเดี๋ยวต้องมีแบบนี้ ความน่าจะเป็น ที่จะมีภาวะนี้เกิดขึ้น ผมว่าใกล้เคียง 1 แล้วมังครับ จากคุณ : Oj - [ 19 ก.พ. 52 10:54:45 A:124.120.74.63 X: TicketID:204146 ]

ความคิดเห็นที่ 91 อับราฮัม มีบุตรอยู่ 7 คน บุตร 7 คน มีบิดาชื่อ อับราฮัม ....คนหนึ่งตัวเล็ก...คนหนึ่งตัวใหญ่.....ไม่มีใคร แข็งแรงซักคน... ความจริงที่ชัดเจนก็คือ โลกเกิดขึ้นมาก่อน และทันใดนั้น มนุษย์คนแรกก็เกิดขึ้นมา ซักประมาณ ห้าหกพันปีที่แล้วนี่เองครับ จากคุณ : Oj - [ 19 ก.พ. 52 10:58:19 A:124.120.74.63 X: TicketID:204146 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เอ่อ...... ผมเห็นเป็นกระทู้แนะนำ เลยเข้ามาดู อยากดูรูปนก หนู กระต่ายมั่งครับ เฮ้อ.......อ จากคุณ : gidd009 - [ 19 ก.พ. 52 11:06:27 ]

ความคิดเห็นที่ 93 การทะเลาะ กันของนักวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย ยิ่งทะเลาะ ยิ่งได้ความรู้ และใครผิด ถูก ไม่ได้อยู่ที่มีพวกมาก มีกำลัง มีชื่อเสียงหรืออื่นใด อยู่ที่หลักฐานล้วนๆใครมีหลักฐานล้มล้างอีกฝ่ายได้ก็ชนะ ตรงกันข้าม กัน ปุถุชน เช่นเราที่นอกจากจะน่าเบื่อ และอาจเจ็บตัว จากคุณ : ZGMF-X10A - [ 19 ก.พ. 52 11:14:11 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ตามคำขอของคุณ gidd009 ครับ รูปใหญ่ดูได้ที่นี่ http://www.bordalierinstitute.com/images/animalsEvolution.jpg จากคุณ : Geneticist - [ 19 ก.พ. 52 11:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 95 นึกว่าจะได้เข้ามาอ่านประวัติ Charles Darwin แต่มีแค่ 6 คห.เอง กลายเป็นว่าเข้ามางงกับ ทฤษฎีวิวัฒนาการ -..- เ็ด็กชายตัวน้อยๆความรู้น้อยๆมึนไปเลย จากคุณ : อ้ายคนเมือง - [ 19 ก.พ. 52 12:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ผมอยากเห็นเปเปอร์ที่สนับสนุนความคิดของคุณ PureTruth จังครับ จากคุณ : กระดาษไม่มีเยื่อ - [ 19 ก.พ. 52 12:37:02 ]

ความคิดเห็นที่ 97 จริงๆ ผมไดยินว่า หลักฐานใหม่ บอกว่า มนุษย์ ไม่ได้มาจากลิง แต่ ลิงแยกตัวออกจากมนุษย์ อยากขอความเห็นเพิ่มเติมน่ะครับ จากคุณ : ZGMF-X10A - [ 19 ก.พ. 52 12:47:41 ]

ความคิดเห็นที่ 98 เป็นกระทู้ที่ความคิดเห็นเยอะ แต่คนตอบน้อย -_- ' แต่อ่านแล้วมันดีแฮะ หนุก ๆ จากคุณ : งงนิดหน่อย มึนมากหน่อย (AlternateX) - [ 19 ก.พ. 52 13:05:23 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ท่าทางจะยังยาวได้อีกครับ ว่าแต่ ถ้า สิ่งมีชีวิต ถูกสร้างโดยผู้ทรงปัญญา แล้ว ใครเป้น คนสร้างผู้ทรงปัญญาครับ จากคุณ : vn, man - [ 19 ก.พ. 52 13:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 100 อ่านแล้วหัวปวดเลย - -! จากคุณ : Choco-Mix - [ 19 ก.พ. 52 14:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 101 99# ผมก็อยากรู้เหมือนกัน จากคุณ : กระดาษไม่มีเยื่อ - [ 19 ก.พ. 52 15:18:24 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ชื่อล๊อคอินเหมือนตั้งเข้ามาเพื่อตอบกระทู้นี้โดยเฉพาะเลย คุณ Geneticist และคุณ Puretruth จากคุณ : vandalism - [ 19 ก.พ. 52 15:18:49 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ตอบคุณชาลีฟ #86   ไม่ทราบว่าคุณบ่นอะไรเหรอครับ ผมพูดใน #83 บอกว่าคุณตอบได้ตรงประเด็น (ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือครับ ? ) คนที่งงควรจะเป็นผมมากกว่าว่าคุณโวยวายขึ้นมาทำไม   (เมื่อคุณเข้าใจผิดไปเองอย่างนี้ ก็เก็บคำว่า ข้างๆ คูๆ เอาไว้ใช้กับคนอื่นเถอะครับ) ขอถามความเห็นต่อนะครับ ทุกอย่างเป็นไปตามในรูป #94 หรือเปล่าครับ ? จากคุณ : PureTruth - [ 19 ก.พ. 52 15:34:18 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ที่ผมบอกว่า ตอบไปแล้วใน คห# 79 คือประเด็นที่คุณ Meyer สรุปว่า Intelligent Design ทำให้เกิด Cambrian Explosion ซึ่งคุณบอกว่าอย่าลากประเด็น ID มาเกี่ยว แต่คุณไม่ได้เห็นเลยว่า คนที่ลากเข้ามาคือ Meyer ต่างจากงงานของ Salthe ซึ่งค้านทฤษฎีวิวัฒนาการแต่ไม่อ้างถึง ID ส่วนความเห็น 94 จากหลักฐานที่มีอยู่ทุกวันนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามรูปครับ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 19 ก.พ. 52 17:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ไปกันได้ยาวดีนะครับ ไม่คิดว่าจะไปได้ยาวขนาดนี้ แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 17:55:01 จากคุณ : Cepa - [ 19 ก.พ. 52 17:48:45 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ยกมาให้อีกรอบ จะรวมประเด็นที่ติดค้างอยู่ รอให้คุณมาตอบหรือหาหลักฐานมาหักล้าง 1.  "เพราะผู้แย้งวิวัฒนาการนั้นแย้งในส่วนข้ออ้างที่สำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการ"  ส่วนสำคัญของทฤษฎีวิวัฒนาการคืออะไร เอาหลักการณ์ทางวิทยาศาสตร์อันไหน แย้งตรงไหน ยังไง 2. "แล้วคุณมีเหตุผล หรือหลักฐานอะไรที่ไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ เหล่านี้เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานเกินกว่าช่วงชีวิตของคุณจะทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ ไม่ได้ วิวัฒนาการที่เกิดขึ้นอาศัยกระบวนการที่คุณออกปากยอมรับไปแล้ว โดยไม่ต้องอาศัยกระบวนการพิศดารอื่นใดอีก" อันนี้คุณยังไม่มีหลักฐานมาหักล้าง 3. "เราสามารถจับดีเอ็นเอของทั้งสองมาเทียบกันได้เลยว่า ต่างกันตรงไหน ต้องเกิดอะไรบ้างที่ทำให้ต่างกัน เช่น point mutation invertion deletion duplication และอื่นๆ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ก็เกิดขึ้นตลอดเวลากับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แม้แต่มนุษย์เอง คนที่เป็นโรคทางพันธุกรรมบางอย่างก็มีกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นในดีเอ็นเอ ทั้งนั้น" อันนี้คุณยังไม่มีหลักฐานมาหักล้าง จากคุณ : ชาลีฟ - [ 19 ก.พ. 52 18:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 107 95#ตอนแรกผมก็กะยาวแหละ แต่พอดีมีข้อถกเถียงเรื่องทฤษีวิวัฒนาการซะก่อน เลยไม่ได้ลงต่อไว้ เดี๋ยวโอกาสหน้านะครับ จากคุณ : จขกท (Cepa) - [ 19 ก.พ. 52 18:12:32 ]

ความคิดเห็นที่ 108 #107 ตั้งกระทูู้้ใหม่เลยครับ รอให้ Give เหอๆ จากคุณ : อ้ายคนเมือง - [ 19 ก.พ. 52 18:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 109 หนังสือ On the Origin of Species ฉบับ 1985 เป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรก ลองอ่านดูนะครับเผื่อใครสนใจ มี 556 หน้า http://darwin-online.org.uk/pdf/1859_Origin_F373.pdf # 108 คงต้องรอหน่อยนะครับ ช่วงนี้งานผมเยอะมาก ทำจะไม่ทันแล้ว แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 18:51:46 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 18:49:39 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 18:38:53 แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 18:33:24 จากคุณ : Cepa - [ 19 ก.พ. 52 18:31:29 ]

ความคิดเห็นที่ 110 คุณชาลีฟ #104 ตัวที่อ้างว่าเป็นบรรพบุรุษของปลาและสัตว์อีกตั้งมากมายหลายชนิด (นับจากซ้ายมา อยู่แถวที่ 3  ที่เขียนให้มีสายวิวัฒนาการแยกออกไป 6 สาย) คือ ตัวอะไรครับ ?? แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 18:47:30 จากคุณ : PureTruth - [ 19 ก.พ. 52 18:46:46 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ยาวไปเล้ยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : christ church - [ 19 ก.พ. 52 21:45:15 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ความคิดเห็นที่ 99 ท่าทางจะยังยาวได้อีกครับ ว่าแต่ ถ้า สิ่งมีชีวิต ถูกสร้างโดยผู้ทรงปัญญา แล้ว ใครเป้น คนสร้างผู้ทรงปัญญาครับ จากคุณ : vn, man - [ 19 ก.พ. 52 13:28:37 ] ^ ^ ^ ผมทราบครับ ท่านคือ "เทพมังกร" ไงครับ เทพมังกรอวยชัย เอนมา จากคุณ : เถ้าลอย - [ 19 ก.พ. 52 22:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 113 1 กับ 2 ต่างกันเกือบ 100% ใช่มั้ยครับ แล้ว 1 กับ 1.0001 ต่างกันแค่ 0.01% ใช่มั้ยครับ ถ้าคุณเชื่อว่า variation ระดับ 0.01% นั้นเชื่อได้ แล้วทำไมถึงไม่เชื่อว่า เมื่อผ่านกระบวนการนับพันๆครัง จาก 1 จะเป็น 2 ไม่ได้ล่ะครับ จากคุณ : เถ้าลอย - [ 19 ก.พ. 52 22:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 114 #109  ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ ^_______^ จากคุณ : อ้ายคนเมือง - [ 19 ก.พ. 52 22:41:58 ]

ความคิดเห็นที่ 115 555 จากความคิดเห็นที่ 102 ก็จริงน่ะแหละครับ ผมสมัครล็อกอินนี้เมื่อประมาณแปดปีก่อน เพื่อมาตอบปัญหาวิวัฒนาการโดยเฉพาะ ตอนนั้นคนที่มาค้านเป็นชาวคริสเตียนเปิดไบเบิลมาข่มกันเลย นำโดย คุณนาวี มั้ง จริงๆ มีคนที่น่าจะตอบได้ดีกว่าผม คือ อาจารย์ Practical x2 แต่อาจารย์คงเบื่อมั้งเพราะมันก็วนอยู่เดิมๆ หรือยุ่งกับงานสอนเลยไม่เข้ามาตอบกระทู้อย่างนี้อีก ปล. สำหรับคนที่่สนใจชีวประวัติของ ดาร์วิน ปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า จะมีหนังเรื่อง Creation ออกฉายครับ (แต่บ้านเราอาจรอลงซีดีเลยมั้ง) คอยติดตามดูแล้วกัน (http://creationthemovie.com/ ) แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 23:12:09 จากคุณ : Geneticist - [ 19 ก.พ. 52 23:08:15 ]

ความคิดเห็นที่ 116 กระทู้ดีๆ มันจะกลายเป็นขยะเพราะความเขิ่อ ทำไมคุณ PureTruth ไม่ไปตั้งกระทู้เอง หรือแตกกระทู้ไปละครับ ทำอย่างนี้โคตรน่ารำคาญ จากคุณ : ps_addict - [ 19 ก.พ. 52 23:54:29 ]

ความคิดเห็นที่ 117 เรื่อง Creation น่าสนใจนะครับคุณ Geneticist แต่อีกนานเลยกว่าจะฉาย รอจนลืม ถ้าสนใจเกี๋ยวกับ Charles Darwin ขอแนะนำเว็ปนี้เลยครับ http://darwin-online.org.uk/ มีหนังสือที่เกี่ยวกับ ดาวิน ทั้งการเดินเรือ และก็ ทฤษฎีต่างๆให้อ่าน online ด้วยนะครับ จากคุณ : Cepa - [ 20 ก.พ. 52 00:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ^ ^ (ชี้ไป #116) อ้าว ไหงพูดจาอย่างนั้น คุณกำลังดับเบิ้ลสแตนดาร์ดนะครับ พอฝ่ายตรงข้ามทฤษฎีวิวัฒนาการตั้งกระทู้ขึ้นมาทีไร ก็เห็นฝ่ายวิวัฒนาการเข้ามาโต้แย้งในกระทู้เหล่านั้นทุกที ทำไมคุณไม่เห็นไปว่าล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 00:19:53 แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 00:18:21 จากคุณ : PureTruth - [ 20 ก.พ. 52 00:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ตอบ คห#110 ตัวนั้นคือบรรพบุรุษของ Deuterostome ซึ่งเชื่อว่ามีชีวิตอยู่ในช่วง Precambrian ในเมื่อคุณ PureTruth ไม่ตอบคำถามหรืออธิบายอะไรให้ตรงประเด็นซักที ผมก็จะเล่าให้ฟังละกัน ว่าจุดอ่อนของทฤษฎีวิวัฒนาการแท้จริงแล้วอยู่ตรงไหน จุดอ่อนของทฤษฎีนี้อยู่ที่ยุค Cambrian นั่นเอง เนื่องจากยุคนั้นเป็นยุคที่สิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการมาอย่างเชื่องช้านับพันล้านปี ได้เกิดการวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายมาก หรือที่เรียกว่า Biological Bigbang หรือ Cambrian Explosion ซึ่งในขณะนี้ ยังไม่มีทฤษฎีหรือสมมุติฐานใดที่น่าเชื่อถือ ที่จะสามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ รวมไปถึงทฤษฎีวิวัฒนาการเอง ที่สำคัญ มีการค้นพบฟอสซิลของสัตว์ชั้นสูงบางชนิด ก่อนยุค Cambrian จุดนี้เองเป็นจุดที่ทฤษฎีวิวัฒนาการโดนโจมตีมากที่สุด อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบคำถามนี้ ได้มีการศึกษาความมีอยู่จริงของ Cambrian Explosion 1.  Butterfield (2007) ได้อธิบายว่า จริงๆแล้ว Cambrian Explosion เป็นเพียงการเพิ่มความหลากหลายทางสัณฐานวิทยาเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบความหลากหลายทางพันธุกรรมแล้ว สิ่งมีชีวิตในยุค Cambrian ไม่ได้มีความหลากหลายทางพันธุกรรมเพิ่มมากขึ้นจนผิดปกติ http://www3.interscience.wiley.com/cgi-bin/fulltext/118531929/HTMLSTART 2. การศึกษาของ Bengtson (2002) พบว่า มี Predatory Pressure เกิดขึ้นกับ Stromatolites และ Acritarchs ตั้งแต่ประมาณ 1.25 พันล้านปีก่อน ก่อให้เกิดสมมุติฐานที่ว่า สิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนบางชนิด ได้เกิดขึ้นมามากมายตั้งแต่ก่อนยุค Cambrian อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานฟอสซิลที่สนับสนุนสมมุติฐานนี้ http://www.nrm.se/download/18.4e32c81078a8d9249800021552/Bengtson2002predation.pdf การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในยุคก่อนหน้ายุค Cambrian นั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากสิ่งมีชีวิตในยุคนั้นยังไม่มีโครงสร้างแข็งอย่างเปลือก หรือกระดูก ที่เอื้ออำนวยให้เกิดฟอสซิล จากคุณ : ชาลีฟ - [ 20 ก.พ. 52 00:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ^ ^ ผมก็ได้พยายามตอบคำถามเหล่านั้นไปแล้วในบางส่วน แต่ถ้าคุณจะคิดว่ายังไม่ตรงประเด็นก็แล้วคุณละกันครับ ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับเรื่องของหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ข้างบนนี้ที่ไม่สอดคล้องกับทฤษฎีวิวัฒนาการ ขอบคุณครับ จากคุณ : PureTruth - [ 20 ก.พ. 52 00:38:25 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ^ ^ จะให้ตรงประเด็นได้ไงละครับ แถมาจนกระทู้ 120 ยังไม่ได้กล่าวถึงประเด็นหลักอย่าง Cambrian Explosion ซักกระทู้ สงสารเลยเอามาให้อ่าน อย่างไรก็ตามหลัฐานที่ผมยกมาไม่ได้ขัดกับทฤษฎีวิวัฒนาการนะครับ อ่านดีๆ อย่ามาแปลผิดๆ ที่ผมพูดไปผมบอกว่า ทฤษฎีวิวัฒนาการไม่สามารถอธิบาย Cambrian Explosion ได้ ไม่ได้หมายความว่าขัดกัน ครั้งหนึ่งทฤษฎีวิวัฒนาการไม่สามารถอธิบายการถ่ายทอดลักษณะของสิ่งมีชีวิตได้ จนมาวันนึงได้มีการนำความรู้จากงานของเมนเดลเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ และการค้นพบ DNA มาประยุกต์เข้าด้วยกัน จนทุกวันนี้เป็นที่เข้าใจกันแล้ว ว่าสิ่งมีชีวิตมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมอย่างไร จากคุณ : ชาลีฟ - [ 20 ก.พ. 52 00:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ทำไมต้องมีเหน็บๆตอดๆกันด้วย (แต่ก็มันดี) จากคุณ : งากิ๊ง - [ 20 ก.พ. 52 01:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 123 อาจารย์ Practical X2 รวบรวมเรื่องทฤษฎีวิวัฒนาการที่่โดนถามหรือคัดค้่านในห้องหว้่ากอ ห้องสมุด(สมัยยังไม่แยกห้องศาสนา) และห้องศาสนาของพันทิปไว้ที่นี่ครับ http://evidence-evolution-theory.pantown.com/ ไม่ได้อัพเดทมาสักพัก (แต่ก็ไม่เป็นไรครับข้อมูลของคนที่มาเถียงก็ไม่ค่อยได้อัพเดทเหมือนกัน) น่าสนใจมาก ปล. อ่านแล้วอาจจะเกิดอาการ Deja vu กับกระทู้นี่้ได้ จริงไหมครับคุณ PureTruth แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 03:54:50 จากคุณ : Geneticist - [ 20 ก.พ. 52 03:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ผมว่าตาหมอนั้นก็วิวัฒนาการมา จากคุณ : ท่านประธานบริษัท - [ 20 ก.พ. 52 04:08:24 ]

ความคิดเห็นที่ 125 คุณ PureTruth ครับ จะเป็นการรบกวนไหม ผมขอ paper หนึ่งฉบับอ้างอิงที่คุณพูดมาน่ะครับ ผมขอที่ตีพิมพ์ ใน science หรือ nature หรือ วารสารในระัดับเดียวกันหรือสูงกว่า เท่านั้นน่ะครับ เพราะทางฝั่ง ที่เชื่อ มี paper ตีำิำพิมพ์ในวารสารระดับนี้มากมาย ดังนั้นถ้าจะให้ผมอ่านแล้วทำการเปรียบเทียบผมขอจากวารสารระดับเดียวกันเท่านั้นครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า เพราะถ้ายังไม่มี paper ตีพิมพ์ ผมคงยากที่เชื่อ อยู่ดีๆมาบอกให้เชื่อ ใครมันจะเชื่อครับ จากคุณ : kanoomtan - [ 20 ก.พ. 52 05:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ^ ^ คุณ kanoomtan ระวังเค้าจะพาย้อนกลับไป ความคิดเห็นที่ 33 นะครับ จากคุณ : Geneticist - [ 20 ก.พ. 52 05:26:44 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ---------------------------------------------------------------------- ปัญหาก็คือ เรื่องของการกำเนิดขึ้นของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่กับการ "ตีความ" หลักฐานต่างๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ครับ ไม่ได้มีหลักฐานอะไรชัดเจน จึงไม่เหมือนกับเรื่องที่คุณกล่าวถึง (ไม่สามารถนำเรื่องนั้นมาอ้างอิงได้) เมื่อ มันขึ้นอยู่กับการตีความ ก็เป็นไปได้ง่ายที่ฝ่ายสนับสนุนวิวัฒนาการที่ครองเสียงข้างมากอยู่ใน ปัจจุบัน จะกดอีกฝ่ายไว้ คือคุมกำเนิดไว้ไม่ให้โผล่ขึ้นมาเป็นเปเปอร์ได้ จะได้อ้างได้ว่า "นี่ไง อีกฝ่ายไม่เห็นมีเปเปอร์อะไรเลย" โดยการปัดเปเปอร์ให้ตกไปโดยใช้เหตุผลง่ายๆ (เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตีความข้อมูล) ว่า "เหตุผลไม่ดีพอ"    ทั้งๆ ที่พอเป็นฝ่ายตัวเอง (ฝ่ายสนับสนุนวิวัฒนาการ) กลับมีเปเปอร์ที่ใช้เหตุผลประหลาดๆ ออกมาอยู่เป็นระยะๆ  เช่น เหตุผลที่คิดเดาขึ้นมาเองโดยไม่มีข้อพิสูจน์อะไร ว่าทำไมเด็กผู้ชายชอบสีฟ้า เด็กผู้หญิงชอบสีชมพู (แล้วก็เดาไปเรื่อยเปื่อยว่าระหว่างช่วงที่วิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ มีสาเหตุอย่างโน้นอย่างนี้ คือเดาไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเข้าท่าก็ได้ เพราะไม่ต้องมีข้อพิสูจน์อะไร)  หรือเรื่องว่า ขนนก เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ก็ใช้เหตุผลที่ไม่เข้าท่า ว่า อาจเป็นเพราะร่างกายจะได้อุ่นขึ้น...... แต่ เนื่องจากหลายคนไม่รู้หรือไม่ได้ตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างเรื่อง วิวัฒนาการกับตัวอย่างทั่วไปอื่นๆ ทำให้หลงเข้าใจไปว่าทฤษฎีวิวัฒนาการมีหลักฐานแน่นหนาเหมือนกับวิทยาศาสตร์ แขนงอื่นๆ ครับ   แต่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเขารู้เรื่องในรายละเอียด ตรงนี้ดี เขาก็เลยเห็นแย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการในหลายๆ จุดที่มันเป็นเพียงการคาดเดาเข้าข้างตัวเองของทฤษฎีนี้ทั้งๆ ที่ไม่มีข้อพิสูจน์อะไรครับ จากคุณ : PureTruth - [ 14 ก.พ. 52 01:24:05 ] -------------------------------------------------------------- คุณ Geneticist รบกวนช่วยแปลไทยเป็นไทยให้ผมทีครับ อ่านแล้ว งง มากๆ ผมสรุปได้ว่าออกมาได้ประมาณว่า บทความทางวิชาการที่ตีพิมพ์ในปัจจุบันนั้นไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะทำโดยบุคคลแค่เพียงกลุ่มหนึ่ง??? อ้าวงานเข้าแล้วกรู แล้วนี่ทุกวันนี้ไอ้คนกลุ่มนั้น ไม่ใช่คนที่วิจัย เทคโนโลยี ต่างๆ ที่คุณใช้ในชีวิตประจำวันเหรอครับ -*- สรุปผมคงโง่ไปหรือเปล่า เลยอ่านที่ คุณ PureTruth เขียนไม่ค่อยรู้เรื่องเลย เหมือน กับคุยกันคนละเรื่องเดียวกัน @_@ จากคุณ : kanoomtan - [ 20 ก.พ. 52 06:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ^ ^ รอเจ้่าตัวเค้ามาแปลดีกว่าครับ เดี๋ยวแปลให้จะโดนด่าอีก 555 จากคุณ : Geneticist - [ 20 ก.พ. 52 06:09:08 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ถึงได้บอกไงว่าไม่เบื่อกันบ้างฤา เห็นหัวกระทู้วิวัฒนาการ เห็นความเห็นเยอะๆ แต่คลิกเข้ามาพบกับอะไรก็ไม่รู้ ซ้ำซากเรื่องเดิม เดจาวูหนึ่งพันล้านหน จากคุณ : Cryptomnesia - [ 20 ก.พ. 52 09:15:05 ]

ความคิดเห็นที่ 130 คุณ PureTruth นี่เหมือนกับอีกหลายๆคนในหลายๆเรื่องครับ ที่เอาความเชื่อของตัวเองเป้นที่ตั้งหลัก แลวไม่ยอมรับในเรื่องที่แตกต่างเลย สำหรับเรื่องนี้ผมคงไม่มีความเห็นครับ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสื่อสาร+คลื่น ค่อยมาถกกัน 55+ จากคุณ : หวาก - [ 20 ก.พ. 52 09:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ^ ^ ฝ่ายวิวัฒนาการก็ไม่ต่างกันครับ  นักวิวัฒนาการก็เอาความเชื่อของตัวเองเป็นหลักว่า ถึงแม้จะมีหลักฐานที่ขัดแย้งอยู่ก็ตาม ยังไงฉันก็จะเชื่อว่าทฤษฎีวิวัฒนาการจะมีคำตอบให้ในที่สุด นี่เป็นความเชื่อของนักวิวัฒนาการครับ และก็เหมือนกับที่คุณพูด ก็คือว่า คนพวกนี้ก็เอาความเชื่อนี้ของตัวเองเป็นหลัก และไม่ยอมรับว่า หลักฐานที่ขัดแย้งนั้นเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับทฤษฎี จากคุณ : PureTruth - [ 20 ก.พ. 52 11:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ตอบคุณชาลีฟ #121 ผมตอบตามข้อมูลวิทยาศาสตร์ต่างๆ ที่ผมค้นเจอมา ถ้าคำถามไหนที่ผมยังไม่มีเวลาไปหาข้อมูลมาตอบ ผมก็ไม่ได้ตอบนี่ครับ ดังนั้น จะมาต่อว่าผมว่า "แถ" คงจะไม่เหมาะนะครับ ส่วนถ้าจะเถียงกันไปเรื่อยๆ เรื่องแถไม่แถเนี่ย ในกระทู้นี้ก็มีบางส่วนที่คุณใช้การแถนะครับ แต่ผมว่าเราอย่าเถียงกันเรื่องนี้เลย คุยกันแต่เฉพาะประเด็นทางวิทยาศาสตร์ดีกว่านะครับ คุณบอกว่า "มีการค้นพบฟอสซิลของสัตว์ชั้นสูงบางชนิด ก่อนยุค Cambrian" อันนี้เป็นหลักฐานที่ขัดแย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการ เพียงแต่ว่าคุณเชื่อว่าทฤษฎีวิวัฒนาการจะไปหาคำตอบมาให้คุณได้ แต่นักวิทยาศาสตร์บางท่านก็ไม่ได้คิดอย่างนั้นนะครับ จากคุณ : PureTruth - [ 20 ก.พ. 52 11:35:48 ]

ความคิดเห็นที่ 133 ตอบคุณ kanootan #127 "อ้าวงานเข้าแล้วกรู แล้วนี่ทุกวันนี้ไอ้คนกลุ่มนั้น ไม่ใช่คนที่วิจัย เทคโนโลยี ต่างๆ ที่คุณใช้ในชีวิตประจำวันเหรอครับ -*-  " Ans. ไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกันครับ     คนที่วิจัยเทคโนโลยีต่างๆ ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันนั้น ผลที่ได้ออกมามันจับต้องได้ รู้ได้ชัดเจนว่าถูกหรือผิด ได้ผลหรือไม่ได้ผล เพราะถ้าวิจัยผิด ก็ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ แต่คนที่วิจัยทางด้านวิวัฒนาการ ***ประเภทที่อ้างว่าสัตว์ชนิดนี้วิวัฒนาการมาจากสัตว์ชนิดนั้น***  สามารถที่จะเปลี่ยนผลลัพธ์ไปๆ มาๆ ได้ เพราะมันไม่มีอะไรที่จะเห็นผลออกมาชัดเจนว่ามันถูกหรือผิด  พอนักวิวัฒนาการบอกว่า A  คุณก็เชื่อตามว่าเป็น A   ฝ่ายที่โต้แย้งบอกว่าไม่ใช่ A คุณก็ไม่ฟังแถมบางคนยังไปต่อว่าเขาด้วย   พอนักวิวัฒนาการบอกว่าไม่ใช่ A แล้วนะ ต้องเปลี่ยนเป็น B  คุณก็เชื่อตามไป (เดี๋ยวก็เปลี่ยนเป็น C เป็น D แล้วอาจกลับมาเป็น B อีก แล้วก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ) แล้วเคยนึกไหมครับว่า ตอนที่เถียงกันว่าเป็น A หรือไม่นั้น ใครที่เป็นฝ่ายที่คิดถูก หลายคนไม่เคยตระหนักถึงตรงนี้กันเลย ไม่เคยฟังเหตุผลที่ถูกต้องของอีกฝ่ายแถมยังไปต่อว่าอีกฝ่ายว่าไม่ได้ใช้เหตุผลซะอีก  อืม.... จากคุณ : PureTruth - [ 20 ก.พ. 52 11:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 134 ^ ู^ คุณ Cryptomnesia ครับ ผมยังไม่เบื่อหรอกครับ แต่คนอ่านจะเบื่อหรือเปล่าอีกเรื่องหนึ่ง ถือว่าเป็นการฝึกเขียน และหาความรู้ไปในตัวด้วย ความคิดเห็นที่ 133 ถูกต้องครับคุณ PureTruth ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ เมื่อมีหลักฐานใหม่ที่น่าเชื่อถือกว่า เมื่อก่อนคนอาจจะคิดว่าปลาโลมาเป็นปลา อย่างอริสโตเติลเหมารวมว่าสัตว์ที่อยู่ในน้ำเป็นพวกเดียวกันหมด ต่อมาเราศึกษาดีๆ พบว่าโลมาเลี้ยงลูกด้วยนม ตอนนี้โลมาก็ไม่ใช่ปลาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ช่างโลเลจริงนะครับ เมื่อมี"หลักฐานที่น่าเชื่อถือใหม่"เราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เลยไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำแบบ Proceedings of the Biological Society of Washington ต้องไปตีพิมพ์ในวา่รสารที่ไม่น่าเชื่อถือ(สำหรับคุณ PureTruth) อย่าง Nature, Science และ PNAS เรานักวิวัฒนาการไม่หนักแน่นเหมือน Creationist/IDist นะครับ ที่ทฤษฎีของพวกนี้เหมือนเดิมตลอด แม้ว่าจะมีหลักฐานใหม่ๆ ที่ขัดแย้ง โผล่ออกมาทุกๆ วัน พวกเค้าเลือกที่จะ Discredit & ignore เพื่อรักษาทฤษฎีของตัวเองไว้ อย่างมั่นคงและน่าภูมิใจ Case study คือ ตอนที่ Michael Behe อ้างว่าระบบภูมิคุ้มกันซับซ้อนเกินกว่าวิวัฒนาการจะสร้างได้ในศาลที่โดเวอร์ ปรากฎว่าโดนทนายฝ่ายวิวัฒนาการโยนเปเปอร์เป็นปึกๆ ไว้ตรงหน้า แล้วถามคุณไม่เคยอ่านเปเปอร์พวกนี้เลยเหรอ ช่างเป็นตัวอย่างของ IDist ที่ดีมาก ว่าแต่คุณ PureTruth คงไม่ใช่ Creationist/IDist มั้งเพราะเห็นแสดงความไม่พอใจทุกทีเวลาโยงเข้าเรื่องนี้ ผมสนใจความคิดเห็นที่ 133 ของคุณมากกรุณายก Case study นั้นมาให้ดูด้วยนะครับ ผมกลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าคุณนั่งคิดขึ้นมาเอง สำหรับเรื่อง Cambrian explosion นั้นในฐานะที่ผมไม่ใช่ Paleontologist ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่เท่าที่อ่านลิงค์นี้ http://pandasthumb.org/pt-archives/000430.html เค้าก็อธิบายได้ดีแล้วว่ามันไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับทฤษฎีวิวัฒนาการเลย ปล. ผมกำลังรอหลักฐานที่คุณบอกว่าขัดแย้งนะครับ เปเปอร์ที่คุณเอามาให้โดนชำแหละซะแล้ว ขอเปเปอร์ใหม่ด้วยครับจะรอ รวมทั้งอยากฟังทฤษฎีของคุณด้วยว่าคุณไม่เชื่อวิวัฒนาการ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับ Creationist/IDist แล้วมันจะเป็นยังไง แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 13:28:38 จากคุณ : Geneticist - [ 20 ก.พ. 52 13:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 135 Journal อย่าง Nature, Science ไม่น่าืเชื่อถือ -*- ผมขอซักครั้งจะไม่ลืมพระคุณเลย ไม่ต้อง 1st author หรอกครับ จะชื่ออันดับไหนๆ ก็ได้ ทุกวันนี้ IF ถ้าได้เกิน 5 ก็แทบจะปิดซอยเลี้ยงแล้ว T_T การตีพิมพ์ผลงานในวารสารระดับโลกแบบนั้น มันไม่ใช่ส่งไปแล้วจะตีได้เลยน่ะครับ ทำไมถึงคิดว่า มันไม่น่าเชื่อถือซะล่ะครับ (แต่บางงานนี่แอบมั่วมาแบบ บก.หลับตาปล่อยผ่านมาหรือไง  - -'') paper ส่วนใหญ่ที่ตีพิมพ์ในวารสารพวกนี้ ส่วนได้รับการ cited เป็นหลักร้อย บางฉบับเป็นหลักพันเลยน่ะครับ บางอันนี่ยกให้เป็นเดชคัมภีร์เทวดาเลยน่ะครับ (ขอขอบคุณ Prof. Gratel สำหรับงานดีๆมากมายที่ให้ผมได้ cited ทุก paper ของผมเลย) ผมคิดว่าทางกองบรรณาธิการต้องมีการคัดกรองที่ดีอยู่แล้ว และถ้าเป็นอย่างที่คุณ PrueTruth บอกว่า มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับ ทฤษฏีวิวัฒนาการ นั้นก็แสดงว่าอย่างน้อยๆ ก็ต้องมี Reviewer/Referee หรือ Editorial Board บางคนแน่ๆ ที่อยู่ฝ่ายนี้ ดังนั้นแล้วคงเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะโดนกลั่นแกล้ง จนไม่สามารถที่จะมีงาน ตีพิมพ์ออกมาได้เลย อีกอย่าง ถ้าคิดว่าใครที่จะมาเป็น Referee ของ paper เราแล้ว และจะกลั่นแกล้งไม่ให้ตีพิมพ์ เราก็สามารถเสนอชื่อ คนเหล่านี้ให้ ทางกอง บ.ก. ตัดออกจาก คนที่จะมา referee ได้ ในทางตรงข้าม เราก็สามารถที่จะเสนอชื่อคนที่คู่ควรจะมาอ่านของเราได้ เช่นกัน ดังนั้นแล้วผมว่ามันค่อนข้างที่จะยุติธรรมอยู่แล้ว ผู้เสนองาน มีสิทธิ์ที่จะบอกไม่เอาใคร และเอาใคร มาเป็นคนอ่านได้ (แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ดุลย์พินิจของกองบรรณาธิการ ว่าจะให้ใครอ่าน, แต่โดยปกติ ถ้าบอกว่าไม่เอาใคร เค้าก็จะไม่เอาคนนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้าบอกไปว่าให้เอาคนใคร อาจจะได้หรือไม่ได้ก็ได้) ผมรออ่าน paper อยู่น่ะครับ ถ้าจะให้ดีขอเป็น review article เลยจะดีมากครับ จะได้ one stop paper เลย อ่านอันเดียวจบ จากคุณ : kanoomtan - [ 20 ก.พ. 52 13:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 136 จากความคิดเห็นของผม คนที่ใช้ชื่อPureTruthตะแบง แถๆไปเรื่อย ตรงๆอย่างนี้เลย จากคุณ : tanakeme - [ 20 ก.พ. 52 17:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เออ ไม่ได้เรียนจบทางวิทยาศาสตร์ แต่เห็นชื่อชาร์ล ดาวินส์เลยเข้ามาดู แต่ผมรู้สึกไม่ได้อะไรเลย คือเถียงกันไปกันมา ไอ้พวกสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นชนิดนี้ โห มันซับซ้อนเกิน ทำไมกลายเป็นกระทู้แนะนำได้นะ จากคุณ : Mr.Learning - [ 20 ก.พ. 52 19:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 138 คุณบอกว่า "มีการค้นพบฟอสซิลของสัตว์ชั้นสูงบางชนิด ก่อนยุค Cambrian" อันนี้เป็นหลักฐานที่ขัดแย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการ ทำไมไม่ต่อให้จบล่ะคับ มีแต่ค้าน ไม่ได้มีอธิบายหรือเสนอเลยนิ จากคุณ : ชาลีฟ - [ 20 ก.พ. 52 21:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ^ ^ ก็มันเป็นประเด็นที่เราคุยกันอยู่ตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอครับ คือ ประเด็นที่คุณ Geneticist และคนอื่นๆ บอกว่าไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ใดเลยที่ขัดแย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการ ผมก็แค่จะบอกว่ามันมีหลักฐานวิทยาศาสตร์ที่ขัดแย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการนะ ส่วนถ้าจะเปิดประเด็นต่อไปว่าจะให้เสนออะไรนั้น ขอเป็นโอกาสหน้าแล้วกันครับ อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ช่วงนี้งานเข้าครับ งานเยอะจริงๆ เสาร์-อาทิตย์นี้ก็มีอีกงานนึงอีก  (ไม่ต้องกลัวว่าผมจะหนีไปไหนหรอกครับ ผมอยู่ห้องหว้ากอนี้ตลอดอยู่แล้ว) แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 23:03:21 จากคุณ : PureTruth - [ 20 ก.พ. 52 23:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ตอบคุณ tanakeme #136 จากความคิดเห็นของผม คนที่ใช้ชื่อ tanakeme คิดอะไรไม่เป็นเลยสักนิด เวลาต่อว่าคนอื่นก็ไม่มีเหตุผลอะไรมารองรับทั้งสิ้น แย่มาก ตรงๆอย่างนี้เลย จากคุณ : PureTruth - [ 20 ก.พ. 52 23:11:35 ]

ความคิดเห็นที่ 141 ^ ^ เฮ้อ บอกให้อยากแล้วจากไป สงสัยจะเจอกันอีกทีตอนฉลองครบรอบ 150 ปี "On the Origin of Species" เดือนพ.ย.นี้เลยมั้ง ปล. ขอบคุณคนที่โหวตขึ้นกระทู้แนะนำ แล้วก็ขอโทษคนที่เข้ามาอ่านแล้วเบื่อ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าคุณ PureTruth เอาหลักฐานมากกางกันให้เห็นๆ ดี กว่าอ้างว่านักวิทย์คนนั้นคนนี้มีหลักฐานว่าวิวัฒนาการไม่จริง แต่ไม่มีเปเปอร์ดีๆ สนับสนุน ที่สำคัญขอโทษคุณ Cepa ด้วยที่ทำให้กระทู้กลายพันธุ์ (มันอดใจไม่ไหวจริงๆ เวลาเจอคห แบบ PureTruth อ่ะครับ) จากคุณ : Geneticist - [ 20 ก.พ. 52 23:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 142 เพื่อเป็นการไถ่โทษ ผมเอาสารคดีเกี่ยวกับดาร์วินมาฝาก สารคดีนี้ได้รางวัล Best Documentary Series' ของ the British Broadcast Awards 2009 ครับ ถ้าจะดูต่อให้ครบเข้าไปที่นี่แล้วดูตรง playlist http://www.youtube.com/watch?v=SfAS2kBJDBw&feature=PlayList&p=88951FA0A2BE9A1C&index=0&playnext=1 จากคุณ : Geneticist - [ 20 ก.พ. 52 23:45:50 ]

ความคิดเห็นที่ 143 คุณ Geneticist ไม่เป็นไรครับ เรื่องกลายไม่กลายผมไม่ได้ว่าอะไร แค่ได้เห็นคนให้ความสนใจในเรื่องนี้ก้โอเคแล้วครับ ผมว่าดีซะอีก เป็นการโต้กันด้วยเหตุผลทาง วิทยาศาสตร์มีการหาเหตุผลมาหักล้างกัน ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ ส่วนในเรื่องที่โต้กันก็ยังเป็นปัญหาที่ หลายประเทศยังโต้เถียงกันอยู่ เพราะเรื่องดังกวล่าวนั้นขัดต่อหลักความเชื่อของศาสนาบางศาสนาอย่างเห็นได้ชัด  เรื่องวิวัฒนาการเราก็ต้องหาคำตอบกันต่อไป เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ที่มาของสิ่งมีชีวิตให้มากขึ้นกว่านี้ ไว้โอกาสหน้าผมจะนำเรื่องที่น่าสนใจมานำเสนออีก และในเดือนพ.ย. ผมคงไม่พลาดเรื่อง On the Origin of Species อย่างแน่นอนครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.พ. 52 00:32:20 จากคุณ : Cepa - [ 21 ก.พ. 52 00:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 144 แถมเรื่อง Evolution Ep1: Darwin's Dangerous Idea จากคุณ : Cepa - [ 21 ก.พ. 52 00:45:35 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ถามความเห็นของคุณชาลีฟหน่อยครับ เรื่องยีน (gene) เข้าใจอย่างนี้ถูกหรือไม่ครับ ? "เราพบยีนบางตัวที่มีเฉพาะในมนุษย์ (คือไม่พบในลิงหรือสัตว์ชนิดอื่นๆ) แต่ก็พบในแบคทีเรีย     นั่นคือ ไม่มียีนใดๆ ที่อยู่ดีๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากไหนไม่รู้ แบบที่ไม่เคยพบในสิ่งมีชีวิตไหนมาก่อนเลย" จากคุณ : PureTruth - [ 21 ก.พ. 52 08:20:09 ]

ความคิดเห็นที่ 146 อย่างนี้แล้วกัน เอาเป็นว่าอนูนากิจากดาวนิบิรุได้มาทำการตัดต่อ DNA ของลิงชิมแปนซีแล้วสร้างเป็นมนุษย์คู่แรกขึ้นมา อย่างนี้ทฤษฎิวิวัฒนาการก็ไม่ผิดเลยทีเดียว พระเจ้าก็มีจริง(คือเอเลี่ยน) win-win situation จบ! จับมือกันได้แล้ว จากคุณ : เข้ามาป่วน - [ 21 ก.พ. 52 09:07:05 A:67.180.17.217 X: TicketID:161509 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ^ ^^ ^^^ ระวัง เดี๋ยวเขาหาว่ามั่วนะ จากคุณ : KiDMaIOoK - [ 21 ก.พ. 52 10:21:25 ]

ความคิดเห็นที่ 148 คุณ PureTruth ผมเพิ่งเช็ค Paper ของ Human Genome Project อีกที จริงๆ ก็มี Human specific genes นะ แบบไม่พบที่ไหนเลย ประมาณ 1% (http://www.nature.com/nature/journal/v409/n6822/full/409860a0.html รูป ที่ 38) คุณอ่านแล้วคงดีใจว่ามีหลักฐานที่ขัดวิวัฒนาการที่อยู่ดีๆ มียีนที่เหมือน"สร้างมาให้มนุษย์" แต่ก็มีเปเปอร์ที่ศึกษายีนพวกนี้ พบว่าจริงๆ มียีนพวกนี้อยู่ในสัตว์อื่นเช่น ชิมแปนซี แต่ยีนพวกนี้ไม่แสดงออก เลยเรียกว่า Pseudogene (ยีนปลอม) แต่ช่วงการเกิดวิวัฒนาการยีนปลอมเหล่านี้เกิด Fusion กับยีนตัวอื่นกลายเป็นยีนที่พบในมนุษย์โดยเฉพาะ (http://www.sciencemag.org/cgi/content/full/309/5741/1693 ) จากคุณ : Geneticist - [ 21 ก.พ. 52 11:17:09 ]

ความคิดเห็นที่ 149 เห็นโปสเตอร์อันนี้เท่ดี เอามาฝากครับ จาก http://www.mikero.com/blog/2009/02/20/more-darwin จากคุณ : Geneticist - [ 21 ก.พ. 52 11:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 150 อ่านแล้วเชื่อว่า PureTruth มีบรรพบุรุษร่วมกับ โจ้69 จากคุณ : Autster - [ 21 ก.พ. 52 13:49:46 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ^ ^ ^ มุขราชดำเนินมาก จากคุณ : เทราสเฟียร์ - [ 21 ก.พ. 52 21:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 152 ^ ^ อ่านแล้วเชื่อว่า Autster มีบรรพบุรุษร่วมกับ ดวงเฉลิม จากคุณ : PureTruth - [ 21 ก.พ. 52 21:28:16 ]

ความคิดเห็นที่ 153 ใครคือโจ้69 แล้วทำไมต้องดวงเฉลิมอะครับ ไม่เก็ทอย่างแรง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน - [ 21 ก.พ. 52 22:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 154 เดจาวูรอบที่ 1000 จากคุณ : Vellyz - [ 22 ก.พ. 52 00:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 155 สิ่งมีชีวิตไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ สิ่งมีชีวิตที่หยุดอยู่กับที่คือสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์เสียแล้ว ปวงมันดิ้นรนต่อสู่กับความต้องดับสิ้น ด้วยความดับไม่สิ้น คือเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย หมายความว่าดับเพียงเล็กน้อย แต่เล็กน้อยนั้นเล่า เมื่อรวมกันย่อมหาใช่เล็กน้อยดังเดิม หากความคิดที่ว่า ต้องมีจุดเริ่มต้น ครอบงำความคิดของทุกท่าน ท่านทั้งหลายย่อมประสบกับความปวดเศียรอยู่ร่ำไป ด้วยคิดหาเหตุผลให้อธิบายความจริงของตนเอง จากคุณ : กัลลอร์ง - [ 22 ก.พ. 52 11:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 156 ยังเข้ามาตามอ่านอยู่นะ เข้ามารอดูหลักฐานของ pt ด้วยอีกคน แต่ตะลึงมากที่ทราบว่า pt คิดว่า paper ที่ตีพิมพ์ลง science nature ไม่น่าเชื่อถือ แถมหาอีกว่ามี mafia คอยกั้นไม่ให้ ID มาลง journal ชั้นนำ อ้อ อ. pract นั่นเขาเบื่อไปแล้ว ประกอบกับงานแยะมาก ส่วนคุณ geneticist ยังไม่เบื่อ ผมก้เห็นว่าดีจะได้มีคนมาคอยยัน ยังดีนะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีพวกคลั่งศาสนาตรงๆเข้าแหยม ถ้าเป็นช่วงแรกๆละก็มากันแบบยก bible หรือตีความ bible มากันเปรี้ยงๆเชียว ประเภทให้ไปดูหลักฐานได้เลยว่าผู้ญิงถูกสร้างมาจากกระดูกซี่โครงผู้ชายทำให้กระดูกซี่โครงผู้ชายมีน้อยกว่าผู้หญิง 1 ชิ้น ทำให้ต้องไปสแกนตำราอนาโตมี่มาให้ดูกันจะๆว่ามันเท่ากัน ขออีกอย่างได้มั้ยว่าให้ pt แสดงจุดยืนตัวเองออกมาหน่อยว่าที่ไม่เชื่อ evolution theory นี่เพราะขัดกับความเชื่อทางศาสนาหรือเปล่า จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 22 ก.พ. 52 15:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 157 อ่านแล้วเชื่อว่า Autster มีบรรพบุรุษร่วมกับ ดวงเฉลิม จากคุณ : PureTruth - [ 21 ก.พ. 52 21:28:16 ] -------------------------------------------------------- แน่นอนครับ เพราะผมเชื่อในทฤษฎีวิวัฒนาการ จากคุณ : Autster - [ 22 ก.พ. 52 15:27:37 ]

ความคิดเห็นที่ 158 ^ ^ ดูจากการพูดจาแล้ว   Autster มีบรรพบุรุษร่วมกับ โจ้69 แน่นอน จากคุณ : PureTruth - [ 22 ก.พ. 52 16:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 159 คุณชาลีฟ ขอทราบความเห็นหน่อยนะครับ ที่ผมถามไปใน #145   ขอบคุณครับ จากคุณ : PureTruth - [ 22 ก.พ. 52 16:36:53 ]

ความคิดเห็นที่ 160 ถกวิชาการกันอย่าให้มีอารมณ์ เอ้า เอานี่ไปอ่านเล่น ๆ ขำ ๆ http://www.darwinawards.com/ จากคุณ : proudtobethai - [ 22 ก.พ. 52 19:36:18 ]

ความคิดเห็นที่ 161 คห#145 คุณ Geneticist ตอบไปใน คห#148 แล้วคับ ผมว่าคุณPureTrue จะสื่ออะไรจะบอกอะไร จะยกหลักฐานอะไรมาก็ตรงๆเลยดีกว่า เพราะปาเข้ามา 160 แล้วยังไม่มีหลักฐานไหนที่ชัดเจนเลยครับ เอาแบบตรงไปตรงมาดีกว่ามั้ย อ้อมโน่นอ้อมนี่ไม่ได้สาระซักที จากคุณ : ชาลีฟ - [ 22 ก.พ. 52 21:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 162 ประเด็นที่บอกว่าฟอสซิลอะไรนั่นขัดกับทฤษฏี  ผมว่าไม่เห็นจะขัดกันมากเท่าไรเลยครับ เหมือนกับ f = ma ของนิวตัน กับ f = ma หารอะไรซักอย่างของไอนสไตน์   (หรือแปลง่ายๆคือต่อให้ที่อ้างนั้นจริงก็ตาม ก็เพียงแค่ทฤษฏีวิวัฒนาการแค่ไม่ครอบคลุมตรงนั้นเท่านั้นเอง ไม่ใช่ผิดแบบ 180 องศา) แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 52 22:09:03 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 52 22:08:03 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 52 22:03:58 จากคุณ : Munch - [ 22 ก.พ. 52 22:03:08 ]