ความคิดเห็นที่ 1 ผมก็เอะใจว่าทำไมมันเหมือนเครื่อง Dowsing ลวงโลก ที่เอาไว้ตรวจหาแหล่งน้ำบาดาลจัง หลักการทำงานคือ คุณถือไม้สองอันรูปตัว L โดยจับด้านที่สั้นกว่าของตัว L ให้ด้านที่ยาวกว่ายื่นออกจากตัว ขนานกับพื้น พยายามให้ไม้ทั้งสองอยู่ขนานกัน (เค้าบอกว่า)เวลาเราอยู่เหนือจุดที่มีน้ำใต้ดิน ไม้จะขยับแทนที่จะขนานกลับมาไขว้กันเป็นตัวเอ็กซ์ http://en.wikipedia.org/wiki/Dowsing แต่เนื่องจากผมไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีประเภทนี้ เลยได้แค่ตั้งข้อสงสัย เก็บไว้ในใจเท่านั้น จากคุณ : Geneticist - [ 31 พ.ค. 52 09:31:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 จนวันนี้ผมนั่งดู YouTube ไปเจอ Lecture ของ Michael Shermer ผู้ก่อตั้งสมาคม The Skeptics Society ที่ทำหน้าที่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เอ้ย ต้องแฉเรื่องราวลี้ลับ วิทยาศาสตร์จอมปลอม และเรื่องหลอกลวงต่างๆ (เช่น จาก FWD mail) เค้าหยิบเครื่องมือที่หน้าตาคล้ายกันกับเครื่องที่ผมเห็นในเรื่องเล่าเช้านี้ (นาทีที่ 1:05 ของคลิปข้างล่าง) แถมอธิบายการทำงานว่าเหมือนกันอีกว่า เอาไว้ใช้ตรวจสิ่งเสพติด ถ้าเจอเสาอากาสมันจะชี้ไปที่เป้า ราคาเครื่องนี้ก็ $900 ครับ เมื่อเค้าเอาไปทดสอบปรากฏว่ามันมีความแม่นยำสูงถึง 50% น่ามหัศจรรย์มาก แม่นพอๆ กับไปยืนหน้าเป้าหมายที่จะตรวจแล้วโยนเหรียญทายหัวก้อย จากคุณ : Geneticist - [ 31 พ.ค. 52 09:39:36 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้ดีพอ แต่จากสายตาคนนอก เครื่องมือเล็กๆ มีแค่เสาอากาศยื่นออกมา มันสามารถตรวจจับยาบ้าที่ห่ออย่างดี ซ่อนไว้ในรถได้ดีกว่าสุนัขตำรวจอีกเหรอ รบกวนผู้มีความรู้เรื่องนี้ช่วยตรวจเช็คด้วยครับ ถ้ามันทำงานได้จริงก็รบกวนช่วยอธิบายกลไกด้วยครับ ผมคงไม่สนใจหรอกถ้าเงินที่เอาไปซื้อเครื่องมือเหล่านี้เป็นภาษีอากรของประชาชน จากคุณ : Geneticist - [ 31 พ.ค. 52 10:02:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7915512/X7915512.html ของจริงครับ จากคุณ : โรคจิตแน่นอน - [ 31 พ.ค. 52 10:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 Dowsing ไม่มีหลักฐานและคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ครับว่าทำงานอย่างไร (จะจัดเป็นเรื่องลึกลับก็ได้) แต่ก็ใช้งานกันมาหลายศตวรรษแล้วในการค้นหาแหล่งน้ำและวัตถุโลหะ แต่ตัวเครื่องตาม #0 นี่ไม่ทราบนะครับ และใน #6 ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปการทำงานของเครื่องมือเลย แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 10:16:35 จากคุณ : Cryptomnesia - [ 31 พ.ค. 52 10:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พยายามโพสลิงค์ไปที่เค้าวิเคราะห์เครื่องนี้แล้วความเห็นโดนลบครับ ลองหาคำว่า sniffexquestions บน google ดูครับเค้าบอกว่ามันอาจจะลวงโลก คุณโรคจิตแน่นอนผมคงไม่สงสัยขนาดนี้ครับถ้าไม่ได้ดูคลิปใน คห. ที่ 2 จากคุณ : Geneticist - [ 31 พ.ค. 52 10:15:19 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ Cryptomnesia เครื่องเดียวกันครับ ผมเช็คแล้วมันคือ GT200 เหมือนกัน (พิมพ์บอกใน คห ที่โดนลบไป) รู้สึกรัฐบาลหลายประเทศ หลายหน่วยงานในไทยก็ใช้่ แต่มันน่าแปลกเพราะว่าเจ้า GT200 ตรวจได้ทั้งระเบิด และสิ่งเสพติดหลายชนิดเช่น ยาบ้า กัญชา ได้ในเครื่องเดียว ทำได้ไงหว่า แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 10:33:43 จากคุณ : Geneticist - [ 31 พ.ค. 52 10:32:48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ก็ไอ้เครื่องนี้แหละครับที่เคยลงหนังสือพิมพ์ ที่ตำรวจ จ. หนึ่งเอาไปตรวจรถขนกะหล่ำปลี (วงการยาเสพติดพัฒนาการเพื่อหลบตำรวจโดยการเอายาบ้า ไปหยอดไว้บนยอดกะหล่ำปลี ก่อนมันจะห่อ ทีนี้พอกะหล่ำเริ่มห่อใบ ยาบ้าก็จะถูกซ่อนไว้ในกะหล่ำ) เครื่องมันก็แจ้งว่าเจอ ตำรวจสั่งค้นรถ และกะหล่ำ โดยการผ่ากะหล่ำออกดู แต่.........ปรากฏว่าไม่เจอ (ข่าวไม่แจ้งนะว่าผ่าทุกอันหรือเปล่า) แต่ที่แน่ๆค้นทั้งคันยังไงก็ไม่เจอ สรุปต้องจ่ายค่ากะหล่ำทั้งคันรถกะบะเกือบๆ 50,000 บาท จากคุณ : sayanjo65 - [ 31 พ.ค. 52 10:34:08 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ...เสียค่าโง่กันแล้วสินะ ... รึว่าที่เสียไป ได้คืน มา 50% (เข้ากระเป๋าตัวเอง) -.- ใจร้อนไปหน่อย สรุปว่าของจริงสินะครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 13:57:37 จากคุณ : takana - [ 31 พ.ค. 52 11:18:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เครื่องที่ว่านั่น เวลาจะตรวจอะไรต้องใช้การ์ดตรวจแต่ละชนิดแตกต่างกันไปนะครับ ส่วนตัวไม่เคยใช้ไม่เคยเห็นกับตัว มีเพื่อนเป็น EOD ตอนนี้อยู่ปัตตานี ก็มีเครื่องนี้เอาไว้ตรวจระเบิดน่ะครับ เครื่องนี้ตรวจได้ทุกอย่างแม้แต่ศพนะครับ เวลาจะใช้ก็เปลี่ยนการ์ดเอา เห็นว่าราคาเครื่องไม่เท่าไร แพงที่การ์ด... จากคุณ : NoOscar - [ 31 พ.ค. 52 11:32:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ได้โดนตุ๋นครับ ของจริงล่ะ จากคุณ : perspeceviT - [ 31 พ.ค. 52 11:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ELECTRONIC NOSE จากคุณ : หมอแมว - [ 31 พ.ค. 52 11:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถาม : ขอความช่วยเหลือนักสืบหว้ากอทั้งหลายเกี่ยวกับเครื่องนี้หน่อยครับ ตร. ราชทัณฑ์ กับ ปปส. ไทยกำลังโดนตุ๋นรึเปล่า ? ตอบ : ประเทศไทย ไม่ได้โดนตุ๋น ต้องทำความเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่อง อุปกรณ์ นี้ หลายคนส่วนใหญ่มันจะทำได้จริงหรือ กกร่มขอยืนยันว่าใช้ได้จริง และใช้ได้จนเราทึ่ง! กับ GT-200 (Test Me) เทคโนโลยีสมัยนี้ มันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ในประเทศไทยมีอะไรอีกมากที่เราไม่รู้ GT-200  อธิบายแบบทั่วไป สุนัขยังมีจมูกรับกลิ่นที่ดีที่สุด แล้ว ทำมั้ย GT200 จะทำไม่ได้   สุนัข สามารถดมกลิ่น สารเสพติด วัตถุระเบิด การติดตามผู้ต้องหา การตามล่า  ก็มันได้รับการฝึกมาให้ดมกลิ่นๆและแยกประเภทได้อย่างชัดเจน GT-200 มันก็เหมือนสุนัข แต่ การแยกประเภทของมัน ใช้โดยการเปลี่ยน Sim ของแต่ล่ะประเภทที่มันตรวจจับ แล้วคุณคิดว่ามันจะรอดมั้ยล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน การใช้งาน GT-200 มันต้องได้รับการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ ความผิดพลาดอาจเกิดได้จาก ผู้ใช้งานเอง หรือ อุปกรณ์มีอะไรมารบกวนมัน Explosives  (สารประกอบ วัตถุระเบิด) Ammunition, black powder, propellants, C4, C1, C2, PE4, Semtex, RDX, TNT, PeTN, Nitroglycerine, Dynamite, Picric Acid, Tetryl, Hexogen, Octogen, Chlorates, Perchlorates, Slurry Explosives, Water gel explosives, Emulsion explosives, Rubber explosives, Nitroguandine, DNT, Ammonium Nitrate, AMFO, ANNIE, TATP, gunpowder, nitrate, MNX 194, PAX explosives 21/25/28/41, RSRDX, Amatol, Baratol, Comp A, Comp B, Comp B3, Comp A-5, TNB, CH6, Cyclotol, Detasheet, Gelatin, H6, HBX, Minol, Octol, PBX, Pentolite, Tetrytol, Torpex, HMX Narcotics (น่าจะพวกสารเคมี และ สสาร) Cocaine - Cocaine [ powder and liquid ], Crack, Cocoa Leaf, Cocaine based medicine.Heroin - Heroin, Heroin Based medicine.Cannabis - Marijuana, Cannabis, Hemp, Large tobacco shipments [ leaf and cigarettes ] Plant Amphetamine/D Methamphetamine/Ecstasy LSD, PCP, Shaking Head, Ecstasy, amphetamine, d-meth.Opium Opium based medicine, opiates, opium, morphine Poppy plant.Mesaklol. Mandrex. Kiptogan. Ketamine Customized (หรือจะกำหนดเอง) Uranium Acetate, Human Bodies, Gold, Ivory, Poison, Currency, Tobacco (จำไว้ว่า เพราะสารทุกชนิดระดับอะตอมจะมีการแพร่ของสนามไฟฟ้าเป็นค่าคงที่ของใครของมัน)  เราสามารถเห็นในระดับอะตอมได้ แล้วทำมั้ยเราจะหามันไม่เจอล่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อคนดีๆๆไม่มากก็น้อย ส่วนคนกระทำผิดคงต้องรอรับผลกรรมที่กระทำ สั้นๆ ง่ายๆ เข้าใจง่าย และ อ้างอิงวิชาการ ของ "GT-200" จากคุณ : กกร่ม - [ 31 พ.ค. 52 11:56:03 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพการปฏิบัติงานในพื้นที่เกิดเหตุจริง ( Sim ตรวจจับวัตถุโลหะ) จากคุณ : กกร่ม - [ 31 พ.ค. 52 12:10:04 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยืนยันว่าของจริงครับ ใช้หลักการของกระแสแม่เหล็ก เนื่องจากวัตถุแต่ละชนิดจะมีสนามแม่เหล็กแตกต่างกัน หากต้องการหาวัตถุใดก็สามารถเอาการ์ดอ่านข้อมูลของวัตถุนั้นมาใส่ได้ แต่หลักการจริงๆ ผมไม่ทราบครับ รอคุณกกร่มมาให้คำตอบอยู่เหมือนกัน ยังติดกันอยู่นะครับคุณกกร่ม ^^ บางอย่างก็น่าเหลือเชื่อจริงๆ บางครั้งมีรายงานว่าตรวจห่างไปเป็นกิโลได้เลย ปัจจุบันก็ใช้เครื่องนี้แหละครับ ตรวจตามเส้นทาง และตรวจโดยเฮลิคอปเตอร์ สรุป GT-200 ไม่ใช่เครื่อง Dowsing ที่ใช้หลักของพลังจิตนะครับ -_-' แก้ไข... คุณกกร่มมาตอบแล้ว ขอบคุณมากครับ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 12:30:00 จากคุณ : vandalism - [ 31 พ.ค. 52 12:28:27 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตั้งคำถามคุณ กกร่มหน่อยครับ 1) จาก list สารที่ตรวจจับได้ข้างบน สารที่ระเหยได้ไม่น่าสงสัยครับ แต่ "ทอง" เนี่ยสิ ทองเป็นโลหะที่เกิดปฏิกิริยาได้ยากมากๆ นักเคมีช่วยบอกหน่อยว่าทองระเหิด หรือระเหยได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้เครื่องนี้จะไปจับอะตอมของทองได้อย่างไร แล้วทองมีกลิ่นหรือเปล่า 2) หากเครื่องนี้ทำงานแบบ E-nose จริงๆ มันก็ควรจะเลียนแบบการทำงานของจมูกจริงๆ  ต้องมีช่องให้อากาศผ่านเข้าออก และควรจะมีพัดลมดูดอากาศด้วย ไม่ทราบว่าเครื่องนี้มีไหม แล้วอะตอมของสารที่ว่าผ่านเข้าออกทางไหน ถ้าเป็น E-nose ที่ตั้งอยู่กับที่ในห้องเพื่อตรวจจับว่ามีสารรั่วไหลก็ไม่จำเ็ป็นนัก เพราะแต่หนึ่งโลเลกุลลอยเข้ามาติดเครื่อง เครื่องก็ทำงาน แต่เจ้า GT200 เนี่ยมันต้องบอกทิศทางของแหล่งกำเนิดกลิ่น/โมเลกุล ดังนั้นควรจะมีการคำนวณ จำนวนโมเลกุลต่อปริมาตรของอากาศที่ผ่านเข้า ถ้าเราเข้าใกล้แหล่ง molecule/air vol ก็เพิ่ม ถ้าห่างไปก็ลด แต่เท่าที่สังเกตุเครื่องนี้ไม่น่าจะมีการให้อากาศไหลผ่าน 3) ต่อไปเป็นเรื่องฟิสิกส์ ซึ่งผมไม่สันทัดนัก (ไม่งั้นคงไปเรียนอย่างอื่นที่ไม่ใช่ชีวะแล้ว) ผมไม่เคยได้ยินว่าอะตอมทุกชนิดมีการแพร่สนามไฟฟ้าแบบคงตัว การที่ไอออนจะมีประจุเท่าไหร่ ไม่เกี่ยวกับมวล แต่เกี่ยวกับจำนวนอิเล็กตรอนที่หายไป หรือเพิ่มมา ส่วนสนามแม่เหล็กเท่าที่จำได้ โลกก็มีสนามแม่เหล็กเป็น Background ที่แรงพอสมควร ผมว่าสนามแม่เหล็กจากอะตอมเดียวมันคงอ่อนมากๆ จะแยกจาก background ได้ไง เครื่องมือที่ทำงานใกล้กับหลักการของ GT200 ที่สุด ที่ผมนึกออกคือเครื่อง Mass spectrometer ครับ ใช้ระบุอะตอมของสารที่เอามาตรวจเช่นกันครับ แต่สารนั้นก็ต้องผ่านเครื่องอยู่ดี หลักการคือมันจะตรวจประจุของสารที่ส่งเข้าไปในเครื่องจากความเร็วที่เปลี่ยนจากสนามไฟฟ้าในเครื่อง (+ ผลัก + หรือ - ผลัก - หรือ + ดูด -) ส่วนมวลหาจากวิถีที่อะตอมสารที่ส่งเข้าไปผ่านสนามแม่เหล็กว่าโค้งเท่าไหร่ อะตอมแต่ละชนิดมีมวลเฉพาะตัว ยิ่งรวมเข้ากับข้อมูลประจุทำให้รู้ชัดว่าสารนั้นคืออะไร http://en.wikipedia.org/wiki/Mass_spec แต่เครื่องนี้ใหญ่เทอะทะมาก ราคาก็แพงมหาศาล ไม่มีทางเอามาใช้ข้างนอกได้ แถมยังไม่มหัศจรรย์เหมือน GT200 ที่ไม่ต้องเอาสารเข้าเครื่องโดยตรง ถ้า GT200 มหัศจรรย์ขนาดนั้น แล็ปทั่วไปควรจะโละ Mass spec ทิ้งได้แล้วครับ หน้าตาเจ้าเครื่อง mass spec เป็นอย่างนี้ครับ 4) ไปอ่าน FAQ ของเจ้า GT200 เค้าบอกว่าใช้หลัก Para/diamagnetism ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของโมเลกุลจริง แต่การที่จะวัดค่าเหล่านี้ได้ต้อง เอาสารนั้นผ่านสนามแม่เหล็ก เท่าที่ผมพยายามทำความเข้าใจ สนามแม่เหล็กที่ใช้ต้องแรงมากๆ เพราะค่า Para/diamagnetism  มันน้อยเหลือเกิน (ถ้ามีนักฟิสิกส์ผ่านมา แล้วเห็นว่าผิดตรงไหนแก้ให้ด้วยก็ดีครับ) ผมว่าเครื่องขนาดเล็กๆ ที่ถือได้คงไม่มีสนามแม่เหล็กในตัวแรงขนาดนั้น แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 13:41:58 จากคุณ : Geneticist - [ 31 พ.ค. 52 13:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ใช้คำว่าจมูก น่าจะเป็นภาษาชาวบ้านมากกว่านะครับ เพราะมันทำงานด้วยกระแสแม่เหล็กและไฟฟ้าสถิตย์ล้วนๆ ดังนั้นสิ่งของชิ้นนั้นจึงไม่ต้องระเหยออกมาก็ได้ครับ จากคุณ : vandalism - [ 31 พ.ค. 52 13:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ถาม # 21 ตั้งคำถามคุณ กกร่มหน่อยครับ ตอบ กกร่ม หลับ........เย็นจะมาตอบให้กระจ่าง จากคุณ : กกร่ม - [ 31 พ.ค. 52 14:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ vandalism ถ้าคุณหมายความว่ามันไม่ใช่จมูก ไม่ต้องให้โมเลกุล หรืออะตอมของสารนั้นมาเข้าเครื่องก็วัดได้ ผมก็เริ่มเจอปัญหา 1) ไฟฟ้าสถิตย์ คุณคิดว่าการตรวจเจอไฟฟ้าสถิตย์อ่อนๆ ระยะไกลๆ เป็นไปได้เหรอครับ ถ้าผมเอาแท่งพลาสติกเหมือนกันสองอัน อันนึงถูกับเสื้อขนสัตว์ให้มีประจุ อีกอันปล่อยไว้เฉย ซ่อนไว้ในกล่องสองใบ ให้คุณหาว่ากล่องใบไหนมีแท่งพลาสติกที่มีไฟฟ้าสถิตย์ โดยห้ามเข้าใกล้กล่องเกินห้าเมตร คุณจะบอกได้ไหม 2) สนามแม่เหล็ก ฺสนามแม่เหล็กโลกเป็น Background แถมสิ่งที่ึคุณจะตรวจก็ไม่ได้สร้างสนามแม่เหล็กอย่างแรง การตรวจระยะไกลเป็นไปไม่ได้ 3) Dia/paramagnetism ที่อ้่างว่าเป็นหลักการทำงานของเครื่องนี้ จะวัดได้ก็ต่อเ้มื่อมีการส่งสนามแม่เหล็กแรงๆ ใส่วัตถุนั้น เครื่องนี้คงไม่มีปัญญาส่งสนามแม่เหล็กไปยังเป้าหมายเพื่อเหนี่ยวนำให้เกิด Dia/paramagnetism  หรอกครับ ไม่งั้นคงมีอะไรต่อมิอะไรที่เป็นโลหะ พุ่งเข้ามาใส่คนถือเครื่องนี้เรียบร้อย ถ้าเครื่องนี้ต้องมีการรับโมเลกุล หรืออะตอมของสารนั้นจริงปัญหา อย่างที่ผมบอกใน คห 21 ว่าไม่ให้จะมีที่รับอากาศเข้าออกเลย จากคุณ : Geneticist - [ 31 พ.ค. 52 14:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 25 กระทรวงยุติธรรมของอเมริกาก็เคยแถลงเตือนเรื่องนี้ด้วยครับว่า เค้าเอาไปทดสอบแล้วมันทำงานไม่ได้จริง แถมพอจะไปสืบผู้ผลิต บริษัทก็ปิดหนีไป http://www.ojp.usdoj.gov/nij/pubs-sum/178913.htm Sandia Laboratory ในอเมริกา เคยเอาเครื่องรุ่นแรกของ Global technical ชื่อ MOLE (เจ้าของเดียวกับ GT200) ผลปรากฏว่ามันตรวจจับได้แม่นยำถึง 50% เช่นกัน (เท่ากับโยนหัวก้อยเสี่ยงทาย) http://www.justnet.org/Lists/JUSTNET%20Resources/Attachments/440/moleeval_apr02.pdf ถ้าผมเป็นคนจัดซื้อ แล้วรู้ว่า Global Technical เคยผลิต MOLE ซึ่งเป็นแค่เรื่องหลอกลวง ผมถืิอว่าเสียเครดิตไปแ้่ล้วไม่มีทางซื้อ GT200 ซึ่งเป็นของอย่างเดียวกันจากบริษัทนี้เด็ดขาด หาคุณกกร่ม หรือคุณ Vandalism มีโอกาสได้ใช้เครื่อง GT200 จริง ลองทดลองตาม Sandia Lab ข้างบนหน่อยสิครับ แล้วดูซิว่ามันใช้ได้หรือเปล่า ผมเป็นห่วงภาษีอากรแผ่นดิน และชีวิตทหาร 3 จว. ชายแดนใต้ ที่เอาเจ้าเครื่องนี้ไปใช้ครับ แก้ไขเมื่อ 31 พ.ค. 52 14:49:36 จากคุณ : Geneticist - [ 31 พ.ค. 52 14:24:18 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ที่ จขกท ว่ามาก็มีเหตุผลนะผมว่า ยังไงรอท่าน กกร่ม มาอธิบายดีกว่า จากคุณ : AJ_da_NR - [ 31 พ.ค. 52 15:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่น่าเชื่อครับ ผมว่าฝึกน้องหมา ยังมีโอกาสเจอมากกว่า 50% จากคุณ : สมบัติดี - [ 31 พ.ค. 52 16:21:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 สงสัยเป็นเรื่องเบิกเนตร (แหกตา) อาจได้ผลทางจิตใจมากกว่าค่าความถูกต้อง 50 % โยนหัวก้อย ง่ายกว่ากันเยอะ จากคุณ : วิศวกรไฟฟ้า - [ 31 พ.ค. 52 17:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ^ ไม่เหมือนกันครับ 50% ที่ว่าเนี่ย เขาหมายถึง ถ้าชี้เป้าหมายแล้ว ลองค้นดู โอกาสถูก 50% หรือว่ามีโอกาสเจอครึ่งต่อครึ่ง แต่ถ้าเดินสุ่มไปโยนหัวก้อย ถ้าที่นั่นไม่มีของ โอกาสเจอมันก็เป็น 0% ครับ ในขณะที่เครื่องหนวดแมลงสาบจะพาไปที่ๆมีโอกาสมากกว่า แต่ผมก็ไม่เชื่ออยู่ดี และเชียร์น้องหมามากกว่า จากคุณ : สมบัติดี - [ 31 พ.ค. 52 17:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 50% แบบนี้ผมว่าไม่เสียหายครับ เพราะมันคือเครื่องฟ้องว่าเจอไป 100 ครั้ง มีของจริง 50ครั้ง ไม่ใช่ตรวจของ100 ชิ้นแล้วเครื่องตรวจเจอแค่ 50 ชิ้น ถ้าใช้กับการตรวจระเบิดหรือยาเสพติด ถ้าเครื่องมันฟ้องก็ตรวจค้นดูก่อนถ้าเจอก็ดี ไม่เจอก็แล้วไปครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ - [ 31 พ.ค. 52 18:38:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมว่าโจรใต้เห็นข่าว มันคงหัวเราะขำกลิ้ง จากคุณ : Professor - [ 31 พ.ค. 52 19:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 32 น้องหมูก็ดมกลิ่นเก่งนะ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 31 พ.ค. 52 22:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 33 นำเข้าจากอังกฤษ จากคุณ : หัวปลาทู - [ 31 พ.ค. 52 23:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ความแม่นยำ 50% มีปัญหาสิครับ ดูในรายงานผลการทดลองของ Sandia Lab ในคห. ที่ 25 สิครับ ความแม่นยำ 50% ที่ว่า เท่ากับโยนเหรียญหัวก้อยก็แม่นเท่ากัน แปลว่าเครื่องราคาเป็นแสนอย่าง GT200 ทำงานได้เท่ากับเหรียญสลึง คุณยังจะจ่ายเงินเป็นแสน เพื่อใช้งานเท่าของราคา 25 สตางค์เหรอครับ เครื่องตรวจหาสารต่างๆ ที่เป็น E-nose จริงๆ ก็มีนะครับ หน้าตาแบบข้างล่าง เรียกว่า  ion mobility spectrometry ที่เช็คดูตัวข้างล่างนี่ราคาอันละ $25,000 หลักการทำงานก็น่าเชื่อถือกว่า แต่ไม่มหัศจรรย์เท่า GT200 คุณต้องเข้าไปใกล้พอ และสารต้องมีการรั่วไหลจริงๆ ดังนั้นอาจจะต้องใส่ชุดอวกาศเวลาตรวจสารพิษ และก็ไม่ได้ตรวจได้สารพัดอย่างแบบ GT200 http://en.wikipedia.org/wiki/Ion_mobility_spectrometry จากคุณ : Geneticist - [ 1 มิ.ย. 52 00:24:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ด้วยความ เคารพ คุณ Geneticist  ครับ ที่ตั้งหัวข้อว่า :  ขอความช่วยเหลือนักสืบหว้ากอทั้งหลายเกี่ยวกับเครื่องนี้หน่อยครับ ตร. ราชทัณฑ์ กับ ปปส. ไทยกำลังโดนตุ๋นรึเปล่า ? กกร่มทำการวิเคาะห์ สิ่งที่คุณ จขกท.สงสัย >>ขอความช่วยเหลือนักสืบหว้ากอ >>ตร. ราชทัณฑ์ กับ ปปส. ไทยกำลังโดนตุ๋นรึเปล่า ? >>ผมก็เอะใจว่าทำไมมันเหมือนเครื่อง Dowsing ลวงโลก >>เครื่องที่ผมเห็นในเรื่องเล่าเช้านี้ (นาทีที่ 1:05 ของคลิปข้างล่าง) >>ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้ดีพอ แต่จากสายตาคนนอก เครื่องมือเล็กๆ มีแค่เสาอากาศยื่นออกมา มันสามารถตรวจจับยาบ้าที่ห่ออย่างดี ซ่อนไว้ในรถได้ดีกว่าสุนัขตำรวจอีกเหรอ >>รบกวนผู้มีความรู้เรื่องนี้ช่วยตรวจเช็คด้วยครับ ถ้ามันทำงานได้จริงก็รบกวนช่วยอธิบายกลไกด้วยครับ >>พยายามโพสลิงค์ไปที่เค้าวิเคราะห์เครื่องนี้แล้วความเห็นโดนลบครับ ลองหาคำว่า sniffexquestions บน google ดูครับเค้าบอกว่ามันอาจจะลวงโลกคุณโรคจิตแน่นอนผมคงไม่สงสัยขนาดนี้ครับถ้าไม่ได้ดูคลิปใน คห. ที่ 2 >>ตั้งคำถามคุณ กกร่มหน่อยครับ  ตั้งคำถาม 3 ข้อดังที่กล่าวมา >>ยังยืนในข้อความ ที่ ความคิดเห็นที่ 25  เรื่องผลการตรวจสอบของเครื่อง GT-200 ใช่มั้ยครับ? >>ถ้าผมเป็นคนจัดซื้อ แล้วรู้ว่า Global Technical เคยผลิต MOLE ซึ่งเป็นแค่เรื่องหลอกลวง ผมถืิอว่าเสียเครดิตไปแ้่ล้วไม่มีทางซื้อ GT200 ซึ่งเป็นของอย่างเดียวกันจากบริษัทนี้เด็ดขาด? สำหรับเรื่องหลักการในการตรวจสอบ เรื่อง สุนัข กับการดมกลิ่น กกร่มเปรียบเทียบ ว่ามันก็เหมือนกับจมูก ของสุนัข   แต่ไม่เกี่ยวกับหลักการของเครื่อง  GT-200 เปรียบเทียบแบบชาวบ้านให้เข้าใจง่ายครับ กกร่มขอรับผิดในข้อความนี้   ที่ทำให้ จขกท. มีคำถามต่อ........ ผมเป็นห่วงภาษีอากรแผ่นดิน และชีวิตทหาร 3 จว. ชายแดนใต้ ที่เอาเจ้าเครื่องนี้ไปใช้ครับ แล้วคุณ จขกท.นี้รู้มั้ยว่า ทหารที่เขาเสียใจที่มาอ่านข้อความเหล่านี้ โดยที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ในขณะที่พวกเขา ต้องปฏิบัติหน้าที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในพื้นที่  จาก จขกท. เขาจะเสียใจแค่นี้ ที่ได้ยินคำพูดหรือข้อความเหล่านี้  ทราบดีว่าจขกท. อยากที่จะรู้ว่าหลักการการทำงานของ GT-200  มันใช้ได้จริงมั้ย หรือว่า ไทยกำลังโดนตุ๋นรึเปล่า เรื่องข้อมูล ของ GT-200 จะเอาหลักการกลไก ด้วยหรือไม่ แล้วใครจะมาสืบได้ครับ ตรงนี้ กกร่มก็ไม่ตอบได้หรอกน่ะ จะให้อธิบายกลไกระดับลึกๆ จขกท. ยังยืนยัน และข้อความทุกความหรือไม่ ครับ ถ้ายืนยัน กกร่ม จะตอบเท่าที่ตอบได้ แต่จะตั้งกระทู้ใหม่เกี่ยวกับ ความรู้ เรื่อง GT-200 แต่เป็นข้อมูลพื้นฐานของเครื่อง และจะนำข้อความของจขกท. ขึ้นชี้แจ้งตอบที่ล่ะประเด็น ให้ชาวหว้ากอรับทราบข้อมูลกัน จะได้ไม่ต้อง ฟัง "เขาบอกว่า " ถ้ายังไม่หายสงสัย ให้หลังไมค์ มาก็ได้ครับ กกร่มได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญให้แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆๆ น่ะครับ สุดท้าย จขกท. เรื่อง ความแม่นยำ 50% ของ GT-200  จขกท.ก็ยังยืนใช่มั้ยครับว่า มันทำงานได้ 50% จริงๆๆ จากคุณ : กกร่ม - [ 1 มิ.ย. 52 01:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณกกร่มครับ 1) ตอนแรกผมอยากขอให้ชาวหว้ากอช่วยสืบ เพราะเคยอ่านเจอว่ามีผู้รู้ทางเทคโนโลยีทหารมาตอบบ่อยๆ แต่คำตอบที่ได้รับจากกระทู้นี้มีึคุณ กะคุณ Vandalism มาตอบ ซึ่งเป็นแนวสนับสนุนเครื่องนี้ แต่ไม่สามารถอธิบายหลักการฟิสิกส์ที่น่าเชื่อถือของเครื่องที่ว่าได้ ซึ่งน่าแปลก เพราะ ขนาดเครื่อง Mass spec ที่ดูซับซ้อนยุ่งยากกว่า แม้จะำทำงานเหมือนกับ GT200 แต่ก็มีหลักฟิสิกส์ที่น่าเชื่อถือมารองรับ ผมไม่ได้ต้องการอวดดี แต่ต้องการรู้เพิ่มเลยใช้ Google หาเองเท่าที่ทำได้ สิ่งที่ผมเจอก็ตามที่พิมพ์ไว้ข้างบน 2) ผมเขียนเรื่องนี้ ไม่ต้องการให้ทหารเสียใจ หรือใจเสีย แต่ต้องการให้ทหาร ตำรวจที่อ่านเรื่องนี้ลองเอาเครื่องไปทดลองตามแบบของ Sandia Lab ว่าจะเป็นอย่างไร ถ้ามันเป็นเรื่องหลอกลวงจริง ก็ขอให้ฟ้อง ปปช. เอาผิดหน่วยงานที่ซื้อ และฟ้องแพ่งบริษัทที่นำเข้าเจ้า GT200 ให้ล้มละลายไปเลย ให้เป็นคดีตัวอย่าง จะได้เข็ดไม่ทำอะไรอย่างนี้อีก กรณีก็ไม่ต่างจากที่หมอเจ เอาฟิลม์เอ็กซเรย์มายิงเมื่อนานมาแล้ว เพราะมีข่าวรับบริจาคฟิลม์ให้ทหารเอาไปทำเกราะกันกระสุน ถ้ามีใครบ้านจี้ไปทำเกราะจริงๆ ก็เท่ากับเอาชีวิตทหารตำรวจเหล่าันั้นมาเสี่ยงไม่ต่างกับเจ้า GT200 ที่อาจพิสูจน์ระเบิดไม่ได้จริง 3) Sandia Lab เชื่อถือได้แค่ไหน http://en.wikipedia.org/wiki/Sandia_National_Laboratories ก็เป็นแล็บของกระทรวงพลังงานของสหรัฐ ศักดิ์ศรี ก็ไม่ต่างจากการวิทยาศาสตร์การทหารของไทยหรอกครับ 4) เรื่องความแม่นยำเท่าเหรียญสลึง หรือ 50% ผมยืนยันตามผลการทดลองของ Sandia Lab และแถลงการณ์กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐครับ ุ 5) ผมจะส่งหลังไมค์ไปถามปัญหาที่ค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวกับคุณกกร่มแล้วกัน แต่ถ้าได้รับคำตอบที่เป็นประโยชน์มา ขออนุญาตมาลงแล้วกัน ปล. ให้ผมยืนยันที่พิมพ์ไปจะฟ้องผมป่ะเนี่ย สงสารเด็ก Grad ตาดำๆ เหอะครับ แค่สงสัยอยากให้พิสูจน์เฉยๆ แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 52 02:55:15 จากคุณ : Geneticist - [ 1 มิ.ย. 52 02:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ลงชื่อติดตามครับ  และโหวตด้วย ในประเด็นนี้ผมเห็นตามคุณ Geneticist นะครับ ที่ว่าความจริงต้องพิสูจน์ แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเกี่ยวกับความรู้สึกของผู้ปฏิบัติงานเท่าไหร่ครับ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องการดิสเครดิตพระเครื่องที่คนเชื่อว่าดีให้เสียกำลังใจ เพราะถึงจะเหนียวอย่างไรก็ตามก็คงไม่มีใครคนไหนจะห้อยไปรับกระสุนไรเฟิล แต่เป็นการดิสเครดิตอุปกรณ์ตรวจจับระเบิด ที่ถ้าทำงานไม่ได้จริงก็มีแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ปฏิบัติงาน ถ้าซึ่งผมอยู่ในฐานะนั้นก็จะยินดีมากกว่าที่จะมีคนมาพิสูจน์ให้ดูว่ามันใช้ไม่ได้ครับ ส่วนตัวไม่มีความรู้ที่จะช่วยถกประเด็นนี้ได้ครับ ขอติดตามอย่างต่อเนื่อง จากคุณ : PastelSalad - [ 1 มิ.ย. 52 08:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอโหวตด้วยคน และคุณกกร่มไม่จำเป็นต้องตั้งกระทู้ใหม่ ความจริงควรได้รับการพิสูจน์ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 1 มิ.ย. 52 08:56:06 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ PastelSalad กับ Cryptomnesia ครับ ผมคุยหลังไมค์กับคุณกกร่ม เขาขอเวลาศึกษาข้อมูลที่ผมให้ไป และติดต่อผู้เกี่ยวข้องด้วยครับ ซึ่งอาจจะกินเวลานานหน่อย ถ้ากระทู้นี้ตกไปก่อน ก็รอให้คุณกกร่มตั้งกระทู้ใหม่ก็แล้วกันครับ จากคุณ : Geneticist - [ 1 มิ.ย. 52 09:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มีคำตอบอยู่ในใจแล้วครับ แต่ต้องอ่านบทความการทดสอบ ที่จขกท.มาอ้างอิง บทความแรก 97 หน้า บทความที่สอง 11 หน้า และจนท. ผู้ใช้งานในพื้นที่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อมูลจะเป็นไปในละดับ User เท่านั้น น่ะครับ เพื่อความมั่นคง และตอบโจทย์ ตาม หัวข้อของกระทู้ แต่ในทางด้านเทคนิค กกร่มไม่สามารถเปิดเผยได้  ต้องไปติดต่อ บริษัทผู้ผลิต เองครับ เดี๋ยวจะให้ที่อยู่แนบไปด้วย รอสักครู่ .............................. จากคุณ : กกร่ม - [ 1 มิ.ย. 52 09:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ครับ จากคุณ : Cryptomnesia - [ 1 มิ.ย. 52 11:31:09 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 1 มิ.ย. 52 12:07:17 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เราก็ดูข่าวตาม คห 13 เหมือนกัน ถ้ามันตรวจได้จริงๆ น่าจะเอาไปตรวจหานักบินที่หายด้วยนะ แล้วทำไมตอนที่เอาไปตรวจซานติก้าเค้าหาข้อมือของอีกคนที่อยู่ชั้น 2 ไม่เจอล่ะคะ   (คนที่มาเข้าฝันยามน่ะ) จากคุณ : คิน * คาเนะ - [ 1 มิ.ย. 52 12:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 46 โดยส่วนตัว เห็นแล้วไม่อยากจะเชื่อครับ เพราะขนาดมันเล็กมาก ถ้าทำได้จริง ถือเป็นสุดยอดเทคโนโลยีแห่งโลกนี้เลย คุณกกร่ม พอให้ข้อมูลการทดสอบได้หรือเปล่าครับ เช่น เอาวัตถุใส่ในกล่องกระดาษธรรมดา แล้วลองตรวจดูว่าได้กี่% ถ้ากล่องกระดาษตรวจแล้วได้ไม่ถึง 100% มันก็คงเหมือนเครื่อง RANDOM แต่ถ้าได้ 100%  ก็จะสามารถเชื่อได้ว่า จะตรวจสอบที่ซ้ำซ้อนและมีเงื่อนไขได้ถึง 50% จากคุณ : MAX - [ 1 มิ.ย. 52 14:25:16 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ทำไมโพสไม่ได้หว่า... อ่านหลักการในหลายๆ เว็บแล้ว ผมก็รู้สึกว่มันไม่มีหลักการจริงๆ ด้วยแฮะ แต่จากการสอบถามหลายๆ หน่วยที่ใช้ พบว่ามันก็ได้ผลอยู่ เอาเป็นว่าไม่ว่าที่ผ่านๆ มามันช่วยเหลือเราโดยเหตุบังเอิญหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบก็กลัวเจ้าเครื่องนี้ด้วยเหมือนกัน สังเกตได้จากที่ตอนนี้ระเบิดที่ใช้เริ่มเปลี่ยนมาเป็นแบบที่ไม่สามารถตรวจจับได้แทนแล้ว ถ้าป็นเรื่องต้มตุ๋นจริง คงจะกลายเป็นข่าวใหญ่อยู่นะเนี่ย เพราะอเมริกาเองหมดไป 2 ล้านเหรียญกับเจ้าเครื่องนี้ในอิรัก จากคุณ : vandalism - [ 1 มิ.ย. 52 22:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ vandalism ตอบงี้ผมก็ยิ่งสงสัย 1) มีวัตถุระเบิดที่ GT200 ตรวจไม่เจอด้วยเหรอครับ ถ้ามี เหตุผลคืออะไรที่ GT200 ตรวจไม่ได้ ถ้าคุณไม่รู้บอกชื่อชนิด หรือสูตรเคมีมาก็ได้ ผมจะลองไปค้นดูว่า IMS ตรวจได้หรือเปล่า ถ้่าได้แปลว่า GT200 มีปัญหาแล้ว หรือกลไกการทำงานประหลาดมากๆ 2) ที่รู้ว่าผู้ก่อความไม่สงบเปลี่ยนไปใช้ระเบิดที่ GT200 จับไม่ได้ ใครเป็นคนบอก หรือรู้คนแรกครับ และรู้ได้อย่างไร เช่น 1 ไปจับกุมตัวผู้ร้ายมาได้แล้วสอบสวนเลยรู้ หรือรู้มาจากสายข่าว 2 GT200 ตรวจว่าไม่มีระเบิด แต่ระเบิดกลับทำงาน ทหารหรือตำรวจชุดนั้นเลยคิดว่า มีการใช้ระเบิดชนิดใหม่ 3 กรณีเหมือนข้อ 2 แต่มีคนสอบถามเรื่องที่ GT200 ตรวจไม่เจอไปยังผู้จัดจำหน่าย แล้วได้คำตอบว่าเป็นระเบิดชนิดที่ GT200 ตรวจไม่ได้ ถ้าเป็นกรณีที่ 2 และ 3 ผมว่ามีปัญหาแล้วล่ะ 3) เรื่องเป็นข่าว ไม่เป็นข่าว ผมว่าเรื่องนี้ Lobbyist อาจมีเอี่ยวครับ อเมริกาก็ไม่ได้โปร่งใส 100% นะครับ สมมตินะครับว่ามีคนของบริษัทที่จัดจำหน่าย GT200 ไปจ้างLobbyist ไป "คุย" กับนักการเมืองไม่ให้ยุ่งเรืื่องนี้ ก็ไม่มีทางเป็นข่าวครับ จากคุณ : Geneticist - [ 2 มิ.ย. 52 03:11:22 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ตอบหลังไมค์แล้วนะครับ ^^ จากคุณ : vandalism - [ 2 มิ.ย. 52 09:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เท่าที่รวบรวมข้อมูลหลังไมค์จากคุณ กกร่ม และคุณ vandalism ผมมีข้อสงสัยมากกว่าจะที่กระจ่างขึ้น แต่เนื่องจากทั้งคุณ กกร่ม และคุณ vandalism ไม่สบายใจที่จะเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง ผมก็จะไม่เปิดเผย ถ้าอยากรู้ให้สอบถามสองท่านทางหลังไมค์ครับ ผมขอร้องให้คนที่รู้จักคนที่จะจัดซื้อเจ้า GT200 และเครื่องที่หน้าตาเหมือนกันในอนาคต เตือนเรื่องนี้ และให้มีการจัดทดสอบตามแบบของ Sandia Lab ก่อนที่จะซื้อ ห้ามให้ตัวแทนจำหน่ายเป็นคนออกแบบการทดลองเองนะครับ ให้หา Third party มาช่วยทดลอง จัดให้เป็น Double-blind test (คือทั้งคนทดลอง และคนวางเป้าหมายไม่สามารถติดต่อกันได้ มีคนกลางที่ดูอยู่แต่ไม่อยู่ในขณะทดลองเท่านั้นที่รู้) ผมมีแบบการทดลองที่ดัดแปลงจากของ Sandia lab อยู่ในใจแล้ว ถ้าสนใจผมจะลองบอกให้ ถ้ามันทำงานได้จริงก็ซื้อได้ครับไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ได้ก็ยังมีเครื่องอย่าง Ion mobility spectrometry ที่ทำงานได้จริงๆ เพียงแต่ราคาจะแพงกว่าหน่อย แต่ยังไงผมยังรอคำตอบที่เหลือของคุณ กกร่ม แล้วกันครับ ปล. ผมไม่ใช่เซลล์ของเครื่อง IMS นะครับ เผื่อมีคนสงสัย จากคุณ : Geneticist - [ 2 มิ.ย. 52 10:26:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 มาดูอีกทีเป็นกระทู้แนะนำไปแหละ ท่าทางเจ้า GT-200 เจ้าที่แรงจริงๆ นับสืบหว้ากอท่านอื่นๆๆว่างั้ยครับ มีใครที่พอจะมีความรู้ ความารถ สามารถตามที่ จขกท. สงสัยเรื่อง GT-200 บ้าง ครับ ?      แต่คุณ ดูท่า คุณ จขกท. จะสนในเรื่องนี้เป็นพิเศษ-ถึงมาก...เดี๋ยวจะสืบให้เป็นฉาก ๆ เท่าที่จะสุดความสามารถครับ...............      ข้อมูลจะเป็นไปในระดับ User และทางด้านเทคนิค เท่าที่จะเปิดเผย และให้คนใหญ่ได้รับทราบ เรื่องนี้ต้องอาศัยเวลา      โดยส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยเชื่ออะไรที่ไม่ได้เห็นได้ลอง ? จากคุณ : กกร่ม - [ 2 มิ.ย. 52 14:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 53 คุณกกร่ม เครื่องนี้ใช่พัฒนามาจากจมูกอิเล็กทรอนิกส์มั้ย จากคุณ : DEXTERZ - [ 2 มิ.ย. 52 14:36:51 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เข้ามามุงครับ .... จากคุณ : vn, man - [ 2 มิ.ย. 52 14:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 55 น่าสนใจครับ ผมเคยเห็นทหารเดินถือมันตรวจหาอาวุธเหมือนกัน จากคุณ : unimox - [ 2 มิ.ย. 52 14:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามายืนยันว่าเครื่องนี้มีอยู่จริงครับ ตำรวจสุพรรณบุรีก็ใช้อยู่ ตรวจได้แม่นยำมากครับ แม้แต่จะซ่อนยาเสพติดไว้ที่ลึกลับแค่ไหนก็ตรวจพบ รัศมีกว้างมาก วันที่ถ่ายรูปนี้เดินลุยในหมู่บ้านเลยครับ บ้านไหนมียาเสพติดมันชี้เลย อิอิ แม่นมาก มีรูประกอบด้วยครับ จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า - [ 2 มิ.ย. 52 15:00:23 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ขอมุงด้วยคน รู้สึกว่า จขกท. นี้จะมุ่งมั่น สนใจ ขุดคุ้ย เจ้าเครื่องนี้เหลือเกิน ระวังไม่มีเวลาทำ Thesis เด้อ ^^ แถมเหมือนเห็นตั้งธงรำไรๆ ในใจว่าเครื่องนี้มันหลอกแหง๋มๆ ระวังอคตินี้มันบังตานะ แต่ก็ดีแล้วครับมีคนช่างสงสัยแบบนี้ คุณเป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศคนหนึ่ง ปล. 1 เพื่อนผมไปรบอยู่ใต้ มันได้ถือเครื่องนี้ด้วย มันเล่าให้ฟังผมก็ว่ามันโม้ แล้วมันโม้ต่อว่าเจอจริงๆ ป ลิง 2 หวังว่าเจ้าของกระทู้คงไม่ใช้แนวร่วมทางใต้มาหาข่าวนะ (ขำๆ นะครับ) จากคุณ : AtA (tan_prew) - [ 2 มิ.ย. 52 15:02:03 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เท่าที่เคยเห็นการใช้งานเครือง GT200 ในพื้นที่ จชต. มันไม่ใช่เครื่องมือสำหรับตรวจจับนะคับ เพราะมันมี error ได้ บางครั้งเครื่องชี้..อาจจะไม่เจอ หรือบางทีเครื่องไม่ชี้..ดันเจอ ดังนั้นการใช้งานก็เป็นตัวช่วยในการตรวจค้นให้ใช้เวลาน้อยลง หรือเพิ่มโอกาสในการตรวจพบมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม error มันก็ไม่ได้มากมายถึงขั้นไร้ประโยชน์ หรือไม่ถึงขั้นเรียกว่า "ถูกหลอกขาย" มามั้งคับ ส่วนเจ้า ion scan เนี่ย ก็นำมาใช้ร่วมกับเจ้า GT200 นะคับ จากคุณ : เก่งกว่าผมตายไปหมดแล้ว - [ 2 มิ.ย. 52 15:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ^^ จากคุณ : ช่อเอี้อง - [ 2 มิ.ย. 52 15:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เป็นกระทู้แนะนำจริงๆ ด้วยแฮะ... เพิ่งเห็น... จากคุณ : vandalism - [ 2 มิ.ย. 52 15:30:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เปิดโปงยังไง ก็ไม่มีทางสำเร็จครับ เพราะเงินเข้ากระเป๋า จากคุณ : วมแย์ราจาอ - [ 2 มิ.ย. 52 15:36:45 A:125.27.15.173 X: TicketID:199878 ]

ความคิดเห็นที่ 62 กกร่มพยายาม ถาม จขกท. ย้ำหลายๆรอบแล้ว ว่ายังยืนยันว่า ผลการตรวจสอบของ สถาบันที่ กล่าวมา ว่า GT-200 ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ไม่กกร่ม หรือ จขกท. คงต้องมีใครเป็นฝ่ายไป และจะได้เป็น บรรทัดฐานของชาวหว้ากอ ไปเลยดีมั้ยครับ ข้อมูลเสร็จหมดแหละ รอผู้เชี่ยวชาญ กรองเรื่องเอกสาร จากสถาบัน และวิศกร ของ TG อีกครั้งเพื่อความมั่นใจ รอไปกันก่อนน่ะครับ ใครเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็มาออกความเห็นกันได้ นี้แหละที่เขาเรียกว่า  " จิตสังหรณ์ " จากคุณ : กกร่ม - [ 2 มิ.ย. 52 15:37:29 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ตรวจสอบได้ 50 เปอร์เซนต์ เหมือนโยนหัว ก้อย แต่กับเหตุการณ์ในภาคใต้ ผมว่าตรวจได้ 50 เปอร์เซนต์ ก็ถือว่าเยอะนะ เดินผ่านรถไฟ แป๊บเดียว กรองได้ประมาณ 50 เปอร์เซนต์แล้ว จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) - [ 2 มิ.ย. 52 15:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 64 มุง จากคุณ : mr.social - [ 2 มิ.ย. 52 15:52:31 A:124.120.246.132 X: TicketID:194874 ]

ความคิดเห็นที่ 65 โหวตก่อนล่ะครับ จากคุณ : Pixzz - [ 2 มิ.ย. 52 15:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร แต่เครื่องนี้ ทำให้งมเข็ม แค่ครึ่งนึงของมหาสมุทร ผมว่าก็โอเคนะครับ ตรวจยาบ้า ตำรวจก็ไม่ต้องมาเรียกตรวจทุกคัน คนร้ายจะขน ก็ต้องมาวัดดวง (แต่จะขนกันจริงๆ เขาก็มีรถนำขบวนอะ 555) จากคุณ : A.R.T. - [ 2 มิ.ย. 52 15:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ตอบเพิ่มเติมนะครับ เครื่องนี้มันไวมาก ขนาดที่ว่าฟรอยที่ห่อยาบ้า หรือเสื้อที่ใส่ไปเสพยาบ้ามามันยังชี้เลยครับ ถ้ายาเป็นเม็ด ไม่มีทางหลุดผ่านไปได้แน่นอน แต่ตำรวจไม่ได้ใช้การที่เครื่องนี้ชี้เป็นพยานหลักฐานอะไรนะครับ แต่เราใช้นำไปสู่การตรวจค้นหาของกลางเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานครับ ถ้าถามว่าได้ผลมั้ย วันที่ผมถ่ายรูปที่โพสไว้ในความเห็น๕๖ นั้น จับได้ ๗ รายครับ ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า (แฉลบยอดหญ้า) - [ 2 มิ.ย. 52 16:18:26 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ที่บอก50%นี่หมายความว่าไงครับ คือจาก100ชี้ได้แค่50หรือจาก100ชี้ไป200 ยังไงเท่าที่ฟังคือพอชี้แล้วค้นจะเจอ50%ใช่มั๊ยครับ หมายความว่าจาก100ชี้200ใช่มั๊ย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหารึเปล่า เพราะถ้าัมันชี้มั่วจริงๆเปอร์เซ็นต์น่าจะต่ำกว่านี้ อย่าลืมว่าคนที่ไม่ได้พกยาเสพติดมีน้อยกว่าคนที่พกอยู่มาก อยากดูผลการทดลองเร็วๆจัง จากคุณ : donutpla2 - [ 2 มิ.ย. 52 16:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 69 จ้างผมก็ได้คับ  คิดหมื่นเดียว  จะค้นให้ทั่วทุกตารางมิลลิเมตรเลย  ... จากคุณ : La Gioconda - [ 2 มิ.ย. 52 16:31:54 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มาลงชื่อ รอข้อมูลครับ จากคุณ : อยากรู้เจิ๊น - [ 2 มิ.ย. 52 16:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้าทำให้ตำรวจทางภาคใต้ปลอดภัยได้ 50% ดิฉันก็ยินยอมจ่ายภาษีค่ะ บางครั้งคนปฏิบัติจริงเขาอาจไม่สามารถอธิบายให้เป็นหลักการณ์แบบนักวิทย์ได้มั้งคะ คุณจขกท.จึงยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่ในฐานะคนเสียภาษี หากมันรักษาชีวิตคนได้แม้เพียง 0.1% ดิฉันก็ยินยอมให้ใช้ภาษีได้ค่ะ ชีวิตมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด จากคุณ : setsu-chin - [ 2 มิ.ย. 52 16:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ผมว่าไม่ต้องลงลึกถึงเรื่องหลักการทำงานหรอกครับ มันจะเป็นการเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดี แค่ทดลองดูให้เห็นชัดว่ามัน Detect ได้กี่เปอร์เซ็นต์ก็พอ ไม่ต้องถึงกับทดสอบ Sensitivity ด้วย เอา "ของ" ใสกล่องวางสลับสัก 20 กล่องแล้วให้ชี้ว่ากล่องไหนมี "ของ" บ้างแค่นั้นก็พอ อย่างน้อยคนที่ใช้เครื่องนี้อยู่จะได้รู้ว่า เครื่องที่ถืออยู่ในมือ มันเชื่อได้กี่เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้า Accuracy มันไม่ถึง 100 % แต่คนใช้งานไปเชื่อมั่น 100 % อาจประมาทพลาดพลั้งถึงชีวิตได้นะครับ ผมก็ห่วงประเทศชาติและคนไทยทุกคนเหมือนกับทุกท่านครับ จากคุณ : AJ_da_NR - [ 2 มิ.ย. 52 16:54:59 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ขอทดสอบแบบ Radomize,  Double Blinde, Multi-Center, Third-Party ครับ ด้วยหลักการมันยังไม่ชัดเจน และพิสูจน์ได้ยาก กรณ๊ตรวจบ้านแล้วเจอนั้น (ความคิดเห็นที่ 56) เป็นไปได้อีกกรณีนึง คือมีหลายบ้าน หรือเกือบทุกบ้านที่มียาเสพติด ชี้ไปบ้านไหนก็เลยเจอ เพราะเป็นการเข้าตรวจค้น แหล่งต้องสงสัย ซึ่งปกติจะมีกันทั้งย่านอยู่แล้ว จากคุณ : อะธีลาส - [ 2 มิ.ย. 52 17:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ต้องตีความคำว่า "ความแม่นยำ 50%" ให้ดีครับ  เพราะผมว่าถ้าตีความผิดมันต่างกันเยอะเลย 1. เป้าหมาย 100 อันมีสารที่ต้องการ แต่เครื่องตรวจเจอแค่ 50 อัน......อันนี้หมายถึง false negative (มี...แต่ตรวจไม่เจอ) ถึง 50 %  ซึ่งกรณีนี้เทียบได้กับโยนหัว-ก้อย...ถือว่าใช้ไม่ได้ครับ 2. เป้าหมาย 100 อัน แต่มีสารที่ต้องการแค่ 50 อัน......แต่เครื่องตรวจฟ้องว่ามีทั้ง 100 อัน.........อันนี้แปลว่า false positive (ไม่มี....แต่เครื่องฟ้องว่ามี) 50% ซึ่งแบบนี้ยังถือว่าใช้ได้ในบ้างกรณี  เช่นการตรวจหาสารอันตราย หรือสารเสพติด ซึ่งกรณีแบบนี้ไม่ควรที่จะมีหลุดรอดไปได้ จากคุณ : CLK BRABUS - [ 2 มิ.ย. 52 17:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เอ่อ ผมว่าคงไม่ต้องถึงกับมีใครเป็น "ฝ่ายไป" หรอกนะครับ เพราะเราไม่ได้โจมตีตัวบุคคลกัน เรากำลังมาพิสูจน์สมมติฐานเกี่ยวกับเครื่องนี้กันเฉยๆ และสมมติฐานของแต่ละคนก็ไม่ได้แสดงถึงตัวตนของคนๆ นั้นด้วยครับ ถ้าจะให้ดีเรียกว่า "ฝ่ายที่คาดการณ์ผิด" ดีกว่าครับ อีกเรื่องหนึ่งนะครับ ความเห็นส่วนตัวนะ ข้อมูลของ user เนี่ย ใช้ประกอบการพิจารณาได้ แต่ไม่น่าจะใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ประสิทธิภาพของเครื่องได้นะครับ เพราะในแต่ละเหตุการณ์ตัวอย่างที่ยกมา มีตัวแปรอีกมากมายที่เราไม่ได้คำนึงถึง ทั้งด้านสภาพแวดล้อม เช่น แหล่งที่ตรวจเป็นที่ๆ มีความเสี่ยงจะเจอวัตถุพวกนี้อยู่แล้ว หรือมีข่าวนำมาก่อนแล้ว และทางด้านอคติของตัวผู้ใช้เอง ที่อาจมีหรือไม่มีความเชื่อมั่นในเครื่องนี้ ทำให้เกิดการจดจำมาเล่าต่อเฉพาะกรณีที่ใช้ได้/ไม่ได้ การพิสูจน์เรื่องนี้จึงควรทำโดยการทดลองควบคุม control experiment แบบที่ท่านๆ ด้านบนเสนอมาครับ จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 18:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ^ ^ ถึง 74 จะ negative หรือ positive ก็ดีกว่าไม่มีรึเปล่าครับ อาศัยแค่ให้เครื่องชี้ๆ (ซึ่งใช้เวลาไม่นาน) ก็เจอ 50 ใน 100 ดีกว่าไม่เจอทั้ง 100 เลย ถือว่าเพิ่มโอกาสที่ทำให้เจอได้ถึง 50% จะเหมาะกว่า จากคุณ : กุหลาบหลงเงา - [ 2 มิ.ย. 52 18:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ลองถามอากู๋ดู มันไปโยงเจ้า GT200 กับเครื่อง Sniffex ซึ่งมีคนพิสูจน์ว่าโม้ ใน Youtube มีคลิป sniffex หลายคลิปเลย ขนาดประธานบริษัทมาเอง คนทดสอบแอบขับรถใส่ระเบิดมาจอดข้างหลัง ยังตรวจไม่เจอ แต่พอรู้ว่าในตึกมีระเบิด เสาหันซะนี่ แล้วเจ้าบริษัท Sniffex ก็โดนจับเรื่องหลอกให้ลงทุน กับปั่นหุ้น หุหุ อ่านกลไกการทำงานแล้ว ก็งงๆ ใช้คุณสมบัติอะไรตรวจ อ่านกี่เที่ยวก็ไม่เข้าใจ รึผมโง่เกิ้น เอามาจากที่นี่ http://www.e-k9.net/gt200faq.php 4 - How does the GT200 work? The GT200 works on the principal of dia/para magnetism. All substances carry a magnetic charge that, when stimulated by an impulse of electricity, (static) creates an attraction between the substance being detected and the GT200 unit itself. This is called EMA or Electro Magnetic Attraction. The simple way to explain this technology is to take an inflated balloon and rub it on your hair. A static charge is being created making that balloon "attract" it to say, a wall. Provided that there is enough charge on that balloon, it will remain "attracted" to the wall for an indefinite amount of time. However, once the "charge" has dissipated, the balloon will then "unattached" between itself and fall to the ground. What the GT200 is doing is creating an "attraction" between itself and the substance it wants to detect. Through the Substance Sensor Card and the movement of an operator, an attracting field is created in the card reader that, in turn causes the Receiver"s antenna of the GT200 to “lock onto” a signal, indicating the direction in which the substance can be located. When the magnetic signal of the substance that the GT200 is searching for, is located within its detection range, the GT200 receiving antenna will move toward the direction that the substance exist. In essence the GT200 functions like a hyper sensitive receiver. อ่านสรุปความว่า ทำงานโดยเหนี่ยวนำให้เกิดแรงดึงดูดทางแม่เหล็กระหว่างสารที่จะตรวจหากับไอ้แท่งมหัศจรรย์ โดยใช้คุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กของสารต่างๆ ที่เมื่อถูกกระตุ้นด้วย กระแสไฟฟ้าสั้นๆ (ย่อหน้าหลังบอกว่ามาจากการเคลื่อนไหวของผู้ใช้) จะทำให้เกิดแรงดึงระหว่าเซนเซอร์กับของที่จะตรวจ งงมาก! คุณสมบัติ Diamagnetic นั่นหน่ะ มีจริง และสารเกือบทุกอย่างที่ไม่ใช่สารแม่เหล็ก ก็มีคุณสมบัตินี้ diamagnetism คือ เมื่อสารอยู่ในสนามแม่เหล็ก สารนั้นจะถูกเหนี่ยวนำให้สร้างสนามแม่เหล็กที่มีขั้วตรงข้ามกับสนามแรก ทำให้เกิดแรงผลักระหว่างสารนั้นกับสนามแรก คุณสมบัตินี้ที่ทำให้ superconductor ลอยในสนามแม่เหล็กได้ไง แต่สนามแม่เหล็กแรก ต้องแรงพอ ถึงจะสร้างสนามที่สองได้มากพอที่จะเกิดความเคลื่อนไหว ถ้าไม่มีสนามแรก ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ส่วน paramagnetism ก็เป็นสารแม่เหล็กนั่นแล เมื่อไปอยู่ในสนามแม่เหล็ก มันถูกเหนี่ยวนำให้สร้างสนามแม่เหล็กใหม่ขึ้นมา ในขั้วเดียวกับสนามแม่เหล็กแรก เหมือนกับคลิปหนีบกระดาษที่ติดกับที่แม่เหล็ก จะกลายเป็นแม่เหล็กไปด้วย ความเป็น dia/para magnetism จะแสดงคุณสมบัติต่อเมื่อมีสนามแม่เหล็กอยู่เท่านั้น ถ้าไม่มีสนามแม่เหล็ก ก็ไม่เกิด secondary field ไม่เกิดอะไรขึ้น คลิปหนีบกระดาษไม่ดูดกันเอง จนเมื่อเอาแม่เหล็กมาใกล้ๆมันถึงเริ่มดูดกันเอง เจ้าเครื่อง GT200 ไม่ต้องใช้พลังงานจากภายนอก (จากสเปคของผู้ผลิต) ดังนั้น มันไม่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กได้ ก็ไม่สามารถเหนี่ยวนำให้เกิดแรงดูด/ผลักได้ หรือจะบอกว่าใช้สนามแม่เหล็กโลก สนามแม่เหล็กโลกก็อ่อนมากอยู่แล้ว แล้วยังต้องไปเหนี่ยวนำให้เกิดสนามที่สองเพื่อมาดู/ผลักเสาอีก สนามที่สองต้องอ่อนมากลงไปอีก จะไปหันเสายังไงไหว ขนาดเอาแม่เหล็กแรงๆมาดูด พอระยะห่างหน่อย ก็ไม่มีผลแล้ว เพราะแรงแม่เหล็กเป็นแรงที่ระยะสั้นมาก พยายามอ่านในเวปที่ลิงค์มา ก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากไปกว่านี้ ไม่สามารถอธิบายกลไกให้พอเชื่อได้บ้างสักนิด เลยขอลงความเห็นว่า แ ห ก ต า จากคุณ : alan the lamb - [ 2 มิ.ย. 52 18:44:03 ]

ความคิดเห็นที่ 78 ราคาบอกถึงการฉ้อราษฎร์ มากหรือน้อยมากกว่ามั๊ง จากคุณ : เรือแจว - [ 2 มิ.ย. 52 19:14:09 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ด้วยความเคารพ จขกท. ผมก็รู้สึกว่า จขกท.มีอคติเกินไปครับ อย่างที่ #71 บอกครับ ทุกเครื่องมี Error ผมคิดว่าไม่มีเครื่องไหนในปัจจุบันไม่มี สมมติเป็นชายแดนใต้ การตรวจรถทุกคันคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าเครื่องนี้ช่วยได้แค่บางส่วน เช่น - บอกว่ามีแต่จริง ๆ ไม่มี - มี แต่ไม่ได้ชี้ - ไม่ได้เตือน เพราะ ไม่มี - เตือนและมีจริง ๆ อย่างน้อย ก็สามารถช่วยได้ในระดับนึงนะครับ ดีกว่าไม่มีเลย แล้วถ้ามีอุปกรณ์อื่น ๆ รวมกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติด้วยก็น่าจะช่วยเหลือได้เยอะขึ้น คุณอะธีลาส คห.73 ผมคิดว่าที่คุณตำรวจตรวจเจอนั้นมันไม่ได้ชี้แค่บ้านนะครับ มันชี้ไปถึงจุดที่พบเลย จากประโยคเหล่านี้ "เครื่องนี้มันไวมาก ขนาดที่ว่าฟรอยที่ห่อยาบ้า หรือเสื้อที่ใส่ไปเสพยาบ้ามามันยังชี้เลยครับ " คงต้องตั้งคำถามต่อว่า รู้ได้อย่างไรว่าฟรอยนี้ห่อยาบ้าไว้ หรือ เสื้อตัวนี้ที่ใส่ตอนเสพยาบ้า จากคุณ : Phoenix032 - [ 2 มิ.ย. 52 19:32:31 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เพิ่มเติม มีการตรวจสอบแบบ Blind-Test แล้วด้วย คราวนี้เป็นเครื่อง MOLE Programmable Detection System ซึ่งก็เหมือนกับ GT-200 และ quadro tracker โดย Sandia National Laboratories ทดสอบรอบแรก วางให้เห็นกันจะๆ % การตรวจพอ 100% รอบสอง ทีมนึงวางของ แล้วค่อยให้ทีมค้นหามาตรวจสอบ % การตรวจพบ สุงสุด 12% http://www.justnet.org/Lists/JUSTNET%20Resources/Attachments/440/moleeval_apr02.pdf (link ของ คห 25) จบข่าว ...... แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 19:54:42 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 19:53:52 จากคุณ : DOS Shell - [ 2 มิ.ย. 52 19:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ผมมาสรุปการทดลอง เครื่อง MOLE ที่ได้ลงลิงค์กันไว้ในคห. บนๆ ให้นะครับ - MOLE Remote Detection System เป็นอุปกรณ์ที่มีรูปแบบการใช้งานแบบเดียวกันกับ GT200 (มีเสาอากาศกับการใช้การ์ดซึ่งเปลี่ยนใช้ตามชนิดของวัตถุที่ต้องการค้นหา) โดยมีลักษณะภายนอกแตกต่างกันเล็กน้อย (MOLE มีตัวเหน็บเข็มขัดซึ่งใช้เสียบการ์ด) (ดูรูปที่ 1 ประกอบด้านล่าง) - หลักการใช้เครื่อง คือ ใส่การ์ดวัตถุที่ต้องการหา ผู้ใช้ถือตัวมือจับ ดึงเสาอากาศออกมา (แบบรูปตัวอย่างแถวบนๆ กระทู้) เคลื่อนที่เล็กน้อยเพื่อสร้างไฟฟ้าสถิต (ให้เครื่องใช้เป็นพลังงาน) จากนั้นก็เดินผ่านสิ่งที่ต้องการตรวจ ถ้าตรวจเจอ เสาอากาศจะหันไปทางวัตถุนั้น - ผู้แทนจำหน่าย เคลมว่าความแม่นยำของอุปกรณ์นี้คือ 95% - เครื่อง MOLE ผลิตโดยบริษัทเดียวกันกับที่ผลิต GT200 คือ บริษัท Global Technical จำกัด ซึ่งอยู่ที่ Kent อังกฤษ - การทดลองนี้ทำโดย Sandia National Laboratories ห้องปฏิบัติการในกำกับของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ - การทดลองกระทำร่วมกันโดยสามฝ่าย คือ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่ Sandia Lab และตัวแทนจำหน่ายเครื่อง MOLE Edit: แก้ไข format ครับ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 20:33:23 จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 20:32:22 ]

ความคิดเห็นที่ 85 - การทดลองนี้เป็นการทดลองแบบ double blind ดังที่จะได้อ่านต่อไป - สารตัวอย่างที่จะใช้ตรวจหา คือ  สาร C4 ปริมาณ 20 กรัม ในถุงพลาสติกที่มัดปิด และใส่ในตลับฟิล์มทรงกระบอกที่ปิดฝาอีกชั้นหนึ่ง - ออกแบบการทดลองโดย การเตรียมลังกระดาษเปล่าไว้ 4 กล่อง ตั้งกระจายแยกไว้ที่มุมตึกทั้ง 4 มุมของสำนักงานในตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นตึกออฟฟิศ - แต่ละกล่องจะเขียนเลขกำกับไว้พร้อมฉลากหัวก้อย (สำหรับการสุ่ม) นั่นคือ : กล่องที่ 1 มีฉลาก หัวหัว (HH) : กล่องที่ 2 มีฉลาก หัวก้อย (HT) : กล่องที่ 3 มีฉลาก ก้อยหัว (TH) : กล่องที่ 4 มีฉลาก ก้อยก้อย (TT) - สถานที่การวางกล่องจัดไว้ดังรูปที่ 2 (Mr. Reining คือคนจากกระทรวงยุติธรรม) ซึ่งแต่ละกล่องมีระยะห่างและมุมต่างเพียงพอสำหรับการใช้เครื่องระบุตำแหน่งสารตัวอย่างที่อยู่ข้างใน (ตัวแทนจำหน่ายยืนยัน) - ในระหว่างการทดลองแต่ละครั้ง จะสุ่มเลือกกล่องที่จะใส่สารตัวอย่าง (C4) หนึ่งกล่องโดยการทอยเหรียญสองครั้ง (ทอยแบบปล่อยตกพื้น) เช่น ถ้าได้ "หัวก้อย" ก็จะเป็นกล่องที่ 2 - กลุ่มคนใส่สาร กับกลุ่มคนตรวจหาสาร จะถูกแยกจากกันแบบเด็ดขาด ไม่เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง ไม่มีการสื่อสาร ตลอดการทดลอง แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 20:36:05 จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 20:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 86 - เริ่มต้นวันทำการทดลอง ตัวแทนจำหน่ายมาถึงที่นัดหมาย (คนละตีกกับที่ทำการทดลอง) และได้ทำการสาธิตการตรวจหากระสุนปืนที่เขานำมาด้วย โดยการวางกระสุนบนโต๊ะ และใช้เครื่อง ซึ่งเสาอากาศก็หันไปทางกระสุนนั้นจริงๆ - จากนั้นสาธิตต่อกับสารตัวอย่าง (C4) อันเดียวกับที่จะใช้ทดลองจริง โดยวางบนโต๊ะ ตัวแทนใช้เครื่อง และเสาก็ชี้ไปทาง C4 จริงๆ - จากนั้นจึงย้ายมาที่สถานที่ทดลอง เริ่มทำการทดลองขั้นบรรทัดฐาน (baseline phase) เพื่อยืนยันว่าสภาพแวดล้อมการทดลองเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย โดยการสุ่มเลือกกล่องที่จะใส่ตัวอย่างแบบซึ่งๆ หน้าให้ทุกฝ่ายเห็น (รวมถึงคนตรวจ) จากนั้นก็ทดลองตรวจจับกัน การใช้เครื่องตรวจจับนั้นกระทำโดยตัวแทนจำหน่ายเอง ผลการทดลอง 5 ครั้ง คือ ตรวจเจอกล่องที่ถูกต้อง 100% ตามตารางที่ 1 (คอลัมน์แรก คือ ครั้งการทำลอง สอง คือ กล่องที่ใส่สารตัวอย่างจริงๆ สาม คือ คือ กล่องที่เครื่องตรวจเจอว่ามีสาร) - ตัวแทนจำหน่ายยอมรับสภาพแวดล้อมการทดลอง แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 20:37:33 จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 20:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 87 - ต่อไปทำการทดลองจริง โดยแยกฝ่ายวางกับฝ่ายตรวจออกจากกันอย่างเด็ดขาด - ขั้นแรก ฝ่ายตรวจจะถูกกันออกไป ฝ่ายวางสุ่มเลือกกล่องหนึ่งกล่องโดยการทอยเหรียญ จากนั้นจึงนำสารตัวอย่างไปใส่ในกล่องนั้น พอวางเสร็จ ฝ่ายวางก็จะถูกกันออกไป - จากนั้นฝ่ายตรวจจะเข้ามาตรวจ และระบุว่ากล่องใดมีสารอยู่ โดยผู้ใช้เครื่องตรวจคือ ตัวแทนจำหน่ายเอง -ทำเช่นนี้ 20 ครั้ง ผลการทดลอง ทายถูก 6 ครั้ง จาก 20 ดังผลลัพธ์ในตารางที่ 2 (ดอกจันแสดงการทายที่ถูก) Edit: แก้คำผิดครับ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 22:30:46 จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 20:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 88 - จากการที่ความน่าจะเป็นในการทายถูกแต่ละครั้งคือ 0.25 (หนึ่งในสี่กล่อง) ผลลัพธ์จากการตรวจจับ หากทำได้จริง ควรจะมากกว่าครึ่ง (10 ครั้ง) หรือมากกว่าการทายสุ่ม (ซึ่งมีโอกาสถูก 5 ครั้ง) อย่างมีนัยสำคัญ - ตารางที่ 3 แสดงการคำนวณโอกาสที่จะทายถูกโดยการทายสุ่ม คอลัมน์แรกคือ จำนวนครั้งที่จะทายถูก (จากทั้งหมด 20 ครั้ง) คอลัมน์ที่สอง คือ ความน่าจะเป็นที่จะทายโดยการสุ่มถูกต้องเป็นจำนวนครั้งนั้นๆ - ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การทายถูกเพียง 6 ครั้ง จาก 20 ครั้งนั้น มีความแม่นยำเท่ากับการทายสุ่ม - ดังนั้น เครื่องตรวจจับ MOLE นี้ มีความแม่นยำเท่ากับการทายสุ่ม ไม่ใช่ 95% ดังที่ตัวแทนจำหน่ายโฆษณา จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 20:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 89 - หลังการทดลองจบลง ตัวแทนจำหน่ายบอกว่า ลังกระดาษหรือตัวผู้ทำการทดลอง อาจปนเปื้อนสารตัวอย่าง (C4 ซึ่งในที่นี้บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกมัดปากที่บรรจุอยู่ในกลักฟิล์มปิดฝาอีกชั้น) - ตัวแทนจำหน่ายจึงขอตรวจตัวผู้เข้าร่วมการทดลองทุกคน (ตรวจหา C4 บนตัวด้วย MOLE ที่เสียบการ์ด C4) - ผลปรากฏว่า ผู้ร่วมทดลองในทีมจัดวางตัวอย่างมีผลเป็นบวก (เสาอากาศของ MOLE ที่ใช้โดยตัวแทนจำหน่ายหันไปทางคนๆ นั้นเมื่อเข้าใกล้) ในขณะที่ทีมตรวจหามีผลเป็นลบ (เสาอากาศไม่หันไป) - แต่ในความจริง บุคคลหนึ่งในทีมจัดวางเป็นแค่ผู้ช่วยประจำสำนักงานที่มาช่วยงาน ซึ่งไม่ได้มีการสัมผัสทั้งกล่องและสารตัวอย่างเลย - หลังรู้เรื่องนี้ ตัวแทนจำหน่ายก็ขอทดสอบผู้ช่วยสำนักงานคนดังกล่าวอีกครั้ง ครั้งนี้ผลเป็นลบ แต่ตัวแทนฯ ไม่สามารถอธิบายความผิดพลาดในการตรวจครั้งก่อนได้ - ตัวแทนจำหน่ายจึงระบุความผิดพลาดไปที่ลังกระดาษที่ปนเปื้อน - ตัวแทนจาก Sandia Lab จึงนำลังกระดาษทั้งสี่ แพ็คใส่ถุงพลาสติกปิดผนึก ส่งไปทดสอบด้วยเครื่อง IMS (Ion Mobility Spectrometer) ความแม่นยำสูงที่ Sandia Lab ผลปรากฏว่าลังกระดาษทั้งสี่ ไม่ถูกปนเปื้อนด้วยสารประกอบ C4 เลย จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 20:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 90 . แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 20:43:57 จากคุณ : Kross_ISC - [ 2 มิ.ย. 52 20:41:07 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ตัวอย่างเครื่อง IMS จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 20:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 92 - สรุปผลการทดลอง... เครื่อง MOLE ... แหกตา (ผมบอกเองนะ รายงานการทดลองไม่ได้บอก เขาบอกแค่ "เทียบเท่าการทายสุ่ม") - ส่วนเครื่อง GT200 ใครในหว้ากอที่มีความสามารถ รบกวนจัดการทดสอบทีเถอะครับ รับรองสื่อเล่นข่าวกันอร่อยแน่ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 20:49:12 จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 20:48:56 ]

ความคิดเห็นที่ 93 เห็นกระทู้เรื่อง GT200 ทีไรแล้วขอบอกว่าหนักใจทุกที คือเข้าใจว่ามีคนสงสัยเกี่ยวกับมันเยอะว่ามันทำงานยังไง มันเอาไปหาของที่ต้องการได้ยังไง แต่พอมันเป็นเครื่องมือของทหารด้วย แล้วก็เอาไปใช้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ไอ้เราก็กลัวว่าอธิบายอะไรไปแล้วจะกลายเป็นช่องโหว่ให้ผู้กระทำผิดเอา บางครั้งก็เลยต้องปล่อยผ่าน ไม่พูดซะดีกว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้เกี่ยวกับ GT ที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาเลยมั้งคะ เห็นหลายคนที่เคยใช้เครื่องนี้จริงอธิบายไปแล้ว ก็ขอสนับสนุนคำพูดของคนเหล่านั้นด้วยคนค่ะ ------------------------------------- ในฐานะของคนที่ใช้เครื่องนี้จริงคนนึงแล้วก็ได้รับการเทรนจากฝรั่งตัวแทนจากบริษัทโดยตรง ขอบอกตรงนี้อีกทีว่าเครื่องนี้มันทำงานได้จริงค่ะ มันทำให้ทีมเราจับโจรที่ 3 จว. มาได้หลายคนแล้ว แต่ก็ต้องขออธิบายกันนิดนึงนะคะว่าการที่จะใช้ GT เนี่ยคนที่จะใช้เครื่องต้องได้รับการฝึกอย่างถูกวิธี คนจากทางบริษัทยังพูดเลยว่าปัญหาสำคัญของ GT ก็คือ 'It looks too simple!!' อันนี้เราเห็นด้วยค่ะ แว่บแรกที่เราเห็นไอ้เครื่องนี่นะ เรายังคิดเลยว่ามันเป็นของเด็กเล่นรึเปล่า [ตอนนั้นยังไม่รู้ราคา] แบบว่าหน้าตาก๊องแก๊งมาก ไม่ต้องใช้ไฟ ไม่ต้องใช้ถ่าน เอามาเขย่า ๆ ดูก็ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน มีแค่ไอ้เครื่องเนี่ยแล้วก็การ์ดอีกปึกนึง มันจะทำงานได้จริงเหรอ แต่พอได้ลองฝึกใช้เครื่อง และได้ลองเอาไปทำงานในพื้นที่จริง ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ค่ะว่าเครื่องมันทำงานได้จริงจริง ๆ นะ แต่ปัญหาที่เห็นว่าเกิดขึ้นอยู่หลายครั้งคือพอเครื่องมันดูหน้าตาเหมือนของเด็กเล่นแบบนี้ เวลามีคนเห็นคนอื่นใช้เครื่องนี้ทำงานก็ชอบคิดว่าโธ่เอ๊ย แค่นี้ใครก็ทำได้ มันก็แค่ถือเครื่อง แล้วก็เดิน ๆ ไป จบ! ไม่ซิคะ มันไม่ใช่แค่นั้น นี่ล่ะปัญหา เวลาที่เครื่องมันควรจะชี้มันกลับไม่ชี้หรือบางทีที่เครื่องมันไม่ควรจะชี้มันก็กลับชี้ก็เพราะคนพวกนี้แหล่ะ หลัง ๆ เวลาทำงานอยู่ในพื้นที่แล้วเห็นใครเดิน GT เก้ ๆ กัง ๆ พิกลเราต้องถามเลยว่าเคยเรียนใช้เครื่องมารึเปล่า เห็นอย่างงี้เราก็ห่วงความปลอดภัยของชีวิตตัวเองอยู่เหมือนกันนะ    -"- จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 2 มิ.ย. 52 21:34:15 ]

ความคิดเห็นที่ 94 งานนี้คงต้องมีคนรับผิดชอบแล้วหละครับ หากเป็นเรื่องหลอกลวง ไม่งั้นจะนำไปสู้การจับแพะอย่างมโหฬารและทำให้ปัญหาต่างๆ ในภาคใต้บานปลายยิ่งขึ้น จากคุณ : af (dxxa) - [ 2 มิ.ย. 52 22:10:58 ]

ความคิดเห็นที่ 95 มาแล้วผู้ใช้งาน จากคุณ : ยถา-ตถา - [ 2 มิ.ย. 52 22:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ทำไมผมรู้สึก ว่าเครื่องมันพึ่ง Sixth sense ของคนถือเลยแฮะ ใครเซ้น ไม่ดีถือไปหายังไงก็ไม่เจอ 555 จากคุณ : GeBaN - [ 2 มิ.ย. 52 22:31:33 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขอชี้แจงอันนี้นิดนึงนะคะ ======================= ความคิดเห็นที่ 45   เราก็ดูข่าวตาม คห 13 เหมือนกัน ถ้ามันตรวจได้จริงๆ น่าจะเอาไปตรวจหานักบินที่หายด้วยนะ แล้วทำไมตอนที่เอาไปตรวจซานติก้าเค้าหาข้อมือของอีกคนที่อยู่ชั้น 2 ไม่เจอล่ะคะ   (คนที่มาเข้าฝันยามน่ะ) จากคุณ : คิน * คาเนะ   - [ 1 มิ.ย. 52 12:47:58 ]   แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 52 12:25:30 จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 2 มิ.ย. 52 22:35:26 ]

ความคิดเห็นที่ 98 GT200 หาศพได้มั๊ย ลองย้อนกลับไปดูรูปประกอบใน คห.20 นะคะ การ์ดแถวกลางอันขวาสุดมันจะเขียนไว้ว่า Human สังเกตนะคะว่ามันไม่ได้เขียน Alive หรือ Dead ตอนฝึกใช้เครื่องนี้เนี่ย เราก็ไปถามคนของทางบริษัทเค้าว่าได้การ์ด Human เนี่ยมันใช้ยังไง มันเอาไว้ใช้หาศพได้มั๊ย เค้าตอบว่าได้ เราก็เลยถามต่อว่าแล้วตายไปนานขนาดไหนแล้วที่เครื่องมันยัง detect ได้อยู่ เค้าทำท่านึกแล้วก็ตอบว่าประมาณ 2 อาทิตย์ล่ะมั้ง เข้าทางเราเลยทีนี้ เราก็เลยถามต่อว่า 2 อาทิตย์นี่ศพอยู่ใน condition ไหน สำหรับเรา ถ้าศพ 2 อาทิตย์ที่อยู่บนผิวดินและแดดส่องถึง เค้าก็สามารถกลายเป็นกระดูกได้แล้วนะ แต่ถ้าเป็น 2 อาทิตย์ที่ถูกฝังดินหรืออยู่ในน้ำก็อาจจะยังเป็นแค่ศพเน่าอยู่ ทางนั้นเค้าก็เหมือนได้ความรู้ใหม่ตรงที่เราอธิบายไปด้วย เค้าก็บอกว่า เออ น่าสนใจ เค้าไม่เคยรู้เลยว่ามันต่างกัน แล้วเค้าก็อธิบายให้เราฟังว่าจริง ๆ แล้วการ์ด Human เนี่ยเค้าพัฒนาขึ้นมาเพื่อเอาไว้หาคนเป็น อย่างพวกที่หลงป่าหรือหิมะถล่ม แต่เค้าก็เคยลองไปเอาหาศพเหมือนกัน ซึ่งมันก็พอจะหาได้นะ แต่ว่าเค้าไม่ได้สนใจเรื่องศพเป็นหลักก็เลยไม่เคยทำวิจัยเรื่องนี้เลย แล้วเค้าก็ทิ้งท้ายว่าถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็ลองใช้ GT กับศพดู เราเองจะได้รู้คำตอบ แล้วได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงให้บอกเค้าด้วยเพราะเค้าก็อยากรู้เหมือนกัน ----------------------------- *ขออนุญาตลบข้อมูลบางส่วนออกนะคะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 52 12:30:14 จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 2 มิ.ย. 52 22:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ผมเพิ่งไปอ่านมาพบว่า ที่มีการพิสูจน์องค์ประกอบวัตถุระเบิดที่ตัวของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเสื้อเหลือง ก็อ้างอิงผลการตรวจสอบจากไอ้เครื่องนี้ด้วย!! ไปกันใหญ่แล้ว เรื่องนี้ควรได้รับการตรวจสอบโดยเร็ว จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 23:01:10 ]

ความคิดเห็นที่ 100 ขออนุญาตลบข้อความใน คห นี้นะคะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 52 12:32:47 จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 2 มิ.ย. 52 23:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ปูเสื่อ จากคุณ : pheebar - [ 2 มิ.ย. 52 23:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบคุณ มากๆๆเลยครับ  when i'm feeling .. blue อธิบายเข้าใจได้เห็นภาพ : GT-200 เครื่องพร้อม ใจต้องพร้อม  แสดงว่าได้รับการฝึกเป็นอย่างดี ไม่ใช่ บุคคล ธรรมดาอย่าเราๆไม่มีพื้นฐาน แล้วไปใช้งาน ได้ยินประโยค GT200 ที่ใส่การ์ด  Human  กกร่มว่าที่ผ่านให้ผ่านครับ คนที่เคยสัมผัสและทดลองใช้ จะรู้และเข้าใจ หลักสูตรนี้ ท่าทางคุณwhen i'm feeling .. blue  จะฝึมาเป็นอย่างดี   ในการฝึก ใจต้องนิ่ง มีสมาธิสูงมาก คนไม่เคยผ่านหรือได้ทดลองก็จะกล่าวต่างๆนา แต่มันก็สามารถช่วยชีวิต จนท .และคลี่คลายคดีหลายๆอย่าง >>>คนไทยเราก็แปลก พอเกิดเหตุการณ์กับ จนท. หรือศูนย์เสีย ก็หาว่าทำมั้ย จนท.ไม่หาเครื่องมือที่มันไฮเทคมาช่วยชีวิต   >>>แต่พอได้เครื่องมือที่ดีมา และ สามารถใช้รักษาชีวิตและป้องกันพิสูจน์ทราบเบื้องต้นได้อย่าง GT200 มา กับมาว่าซื้อมาทำมั้ย มันไม่ดี มันแพง เงินภาษีของประชาชน >>>ก็จนท.เขาบอกมันใช้ได้ และใช้ได้ดี แต่คนส่วนใหญ่ในที่นี้ไม่เคยได้ จับ ได้แตะ ได้สัมผัส ได้ทดลอง ได้ทดสอบ แต่ฟันธง หรือตั้งธง ไว้ก่อนแล้ว ว่าไม่ยอมรับการทำงาน >>>ขอบคุณอย่างสูงเลย ครับ PastelSalad ที่ช่วยแปล ทำให้ได้เห็นอะไรอีกเยอะเลย กกร่มพยายาม ย้ำอยู่หลายครั้งว่า จขกท.ดูดีๆๆน่ะ ถึงตอนนี้ก็ย้ำแล้ว  ว่าให้ดีๆๆ ว่าเรื่อง 50 % เรื่อง MOLE กับ GT200 เรื่องปีที่ทดสอบ การรายงานผลของ  Sandia National Laboratories   ปีที่รายงาน หลายคนที่เข้ามาอ่านคงจะรู้แล้ว ว่าหมายถึงอะไร ? จากคุณ : กกร่ม - [ 2 มิ.ย. 52 23:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขออนุญาตลบข้อความใน คห นี้นะคะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 52 12:33:36 จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 2 มิ.ย. 52 23:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 104 สงสัยเป็นอย่างมากว่าเวลาใส่การ์ด human แล้ว คนตรวจก็เป็น human นิ มันไม่รบกวนการตรวจเหรอ งงมาก แปลกใจอีกเหมือนกันว่า เครื่องมือมาขายกันอย่างนี้ high profile มากๆ แต่ข้อมูลที่หาได้จากเนต มันทะ:-)ๆหมดเลย มีทั้ง blog ที่ตั้งหน้าตั้งตาเปิดโปง ทั้ง Sniffex กับ GT200 แล้วเวปไซท์ของบริษัท http://www.globaltechnical.co.uk/index.asp ก็ห่วยแตก เมนูสั่งการไม่ได้ เพราะมี object ที่เป็น flash บัง จะเข้าไปขอดู product ต้องเข้าทาง sitemap เข้าไปได้ จะคลิกเข้าไปดู brochure ก็ให้ใส่พาสเวิร์ด ไปไหนก็ให้ใสพาสเวิร์ดหมด หุหุ นี่บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์สุดยอดไฮเทค แต่ทำเวปไซท์มีบักที่หน้าแรกเลย จากคุณ : alan the lamb - [ 2 มิ.ย. 52 23:26:31 ]

ความคิดเห็นที่ 105 หืมเรื่อง MOLE นั่น ผลลัพธ์การทดลองมีผลในการดิสเครดิต GT200 นะครับ ส่วนเรื่องผู้ใช้ต้องผ่านการฝึกฝนหรือไม่นั้น ผมว่าไม่เกี่ยวกับการที่เครื่องทำงานได้จริงหรือไม่ได้จริงเลยนะครับ เพราะในการทำการทดสอบ control experiment นั้น ให้ trainer มาใช้งานได้เลยครับ ตอนนี้ต้องการหาหน่วยงานที่สามารถให้ยืมเครื่อง GT200 มาทดสอบได้อยู่ครับ ผมจะพยายามติดต่อผู้เชี่ยวชาญในวงการวิชาการให้ จะได้ทดลองให้เรื่องจบๆ ไปเลย ไม่ทราบว่าคุณกกร่มหรือใครรู้จักหน่วยงานที่จะติดต่อให้ยืมเครื่องนี้ได้บ้างครับ จะให้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปก็น่าจะได้ แต่ตอนนี้ขอแย็ปๆ ชื่อก่อนครับ ส่วนคุณ Geneticist ก็น่าจะมีเส้นสายในวงการนี้เหมือนกันนะครับนี่ ไม่ได้ลองติดต่อใครเลยหรือครับ? Edit: ปล. รบกวนคุณ When I'm feeling Blue ช่วยดูหลังไมค์ด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 23:38:00 จากคุณ : PastelSalad - [ 2 มิ.ย. 52 23:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 106 คุณ PastelSalad คะ ที่เขียนไว้ใน คห.99 น่ะค่ะ พอจะมีหลักฐานอ้างอิงรึเปล่าเอ่ย คือว่าอยากจะอ่านเต็ม ๆ ค่ะ เผื่อมันจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรา เราจะได้อธิบายไว้ตรงนี้เลย ขอบคุณล่วงหน้านะคะ ========================== คุณกกร่มคะ ที่ว่าการจะใช้ GT เครื่องต้องพร้อม ใจต้องพร้อม  -- อันนี้เห็นด้วยค่ะ และอันนี้ >>>คนไทยเราก็แปลก พอเกิดเหตุการณ์กับ จนท. หรือศูนย์เสีย ก็หาว่าทำมั้ย จนท.ไม่หาเครื่องมือที่มันไฮเทคมาช่วยชีวิต >>>แต่พอได้เครื่องมือที่ดีมา และ สามารถใช้รักษาชีวิตและป้องกันพิสูจน์ทราบเบื้องต้นได้อย่าง GT200 มา กับมาว่าซื้อมาทำมั้ย มันไม่ดี มันแพง เงินภาษีของประชาชน >>>ก็จนท.เขาบอกมันใช้ได้ และใช้ได้ดี แต่คนส่วนใหญ่ในที่นี้ไม่เคยได้ จับ ได้แตะ ได้สัมผัส ได้ทดลอง ได้ทดสอบ แต่ฟันธง หรือตั้งธง ไว้ก่อนแล้ว ว่าไม่ยอมรับการทำงาน อ่านแล้วหน้าของพวกพี่ ๆ ทหารที่ทำงานด้วยกันที่ใต้ลอยมาในความคิดเฉยเลยค่ะ   ^^" จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 2 มิ.ย. 52 23:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เฮ้ย เข้ามาอีกทีกลายเป็นกระทู้แนะนำซะแล้ว Lab ไม่ต้องทำกันพอดี (อาจารย์เร่งงานซะด้วย) สิ่งที่ผมจะตอบต่อไปนี้ถ้ามีคนวงในไม่สบายใจในประเด็นไหน จะให้ลบกรุณาติดต่อหลังไมค์แล้วกันนะครับ 1) ผมมีอคติไหม ยอมรับว่าเอียงไปทางไม่เชื่อจริงๆ เหตุเพราะดูคลิปใน คห ที่ 2 ไงครับ 2) มั่นใจได้ 50% เนี่ยผมก็เอามาจากคลิป คห ที่ 2 ล่ะครับ ถ้ามีคนบอกว่ายอมเสียภาษี เพื่อซื้อความมั่นใจ 50% เนี่ยผมว่า ผมไปแอบตั้งบริษัทผลิตเครื่องหน้าตาคล้ายๆ กัน แล้วขายถูกกว่าร้อยเท่า แล้วเอากำไรไปทำบุญ คงจะช่วยชาติได้เยอะกว่านี้ เพราะ 50% มันเท่ากับเอาเหรียญสลึงไปโยนเสี่ยงทายหน้าเป้าหมายครับ ถ้าบอกว่าเครื่องมือไหนๆ ก็มี Error แต่ GT200 Error มันก็เท่าเหรียญสลึงไงครับ ราคาเกือบล้าน กับ 25 สตางค์จะเลือกอะไร แต่ถ้าดูการทดลองของ Sandia Lab เค้าสรุปว่า MOLE รุ่นพี่ของ GT200 แม่นเท่า Random selection ขนาดนั้นเลย 3) เครื่องนี้มันไม่มีหลักการทำงานทางวิทยาศาสตร์รองรับเลยครับ ลองดู คห ของ alan the lamb ดูสิครับ หลักการเดียวที่ผมรวบรวมข้อมูลมาได้คือ พลังจิต บวก สัญชาตญาณ บวก ประสบการณ์ผู้ใช้ บวก Placebo effect ที่เชื่อว่าเครื่องมันทำงานได้ เหมือนๆ กับ Dowsing ของฝรั่ง ล้างป่าช้าของจีน และเซียงข้องของทางอิสาน ซึ่งอาจจะมีหลักการทำงานจริงๆ ก็ได้ แต่ตอนนี้มันยังไม่เป็นวิทยาศาสตร์ คุณ when i'm feeling .. blue ลองไปทบทวนดูสิครับว่า วิธีีการใช้ผู้ใช้ต้องทำอย่างไรบ้าง ใช่ "ทำใจให้สงบ สูดหายใจลึกๆ อย่าคิดวอกแวก เดินช้าๆ" แล้วถามตัวเองว่ามีเครื่องมือวิทยาศาสตร์อะไรบ้าง ที่ต้องทำจิตให้เป็นสมาธิก่อนใช้ หากมันมีหลักการจริงๆ ขอให้ผู้รู้กรุณาเอาเลข Patent หรือ สิทธิิบัตรมาเผยแพร่ดูสิครับ หรือถ้าคิดว่าไม่ปลอดภัยส่งให้ทางหลังไมค์ก็ได้ ผมจะได้สรุปหลักการคร่าวๆ มาให้ (ไม่ทำระเบิดหรอกครับ ถ้าผมจะครองโลกขอใช้เชื้อโรค ไม่ก็สารเคมีดีกว่า คนตายหมด แต่ Infrastructure ไม่เสียหาย เหอๆๆๆ) 4) ข้อนี้ค่อนข้างอ่อนไหว ถ้ามีคนไม่สบายใจผมจะมาลบทีหลัง ผมว่าเรื่องนี้คงมีคนไม่อยากให้เอาไปทดสอบอย่างเปิดเผย เพราะระเบียบราชการไทยหากเครื่องนี้ทำงานไม่ได้จริง คนที่รับผิดชอบคือคนเซ็นต์อนุมัติ ซึ่งผมคิดว่าต้องมีคนที่มีชื่อเสียงที่ชาวหว้ากอรู้จักดีโดนด้วยแน่ๆ ถ้าเครื่องนี้ทำงานไม่ได้จริง ผมมองในแง่ดีไว้ก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากการทุจริต แต่เป็นการโดนหลอกมากกว่า เพราะบริษัทดูน่าเชื่อถือ เครื่องนี้มีการใช้ทั่วโลก เช่น จีน เม็กซิโก อินเดีย อิรัก ซาอุ และถ้าคุณเป็นผู้ซื้อที่ไม่ได้เรียนฟิสิกส์ มีฝรั่งมาทดลอง แถมอบรมให้ดูคงจะเชื่อได้ไม่ยาก ผมจึงเสนอให้มีการทดลองเงียบๆ ถ้ามันทำงานไม่ได้จริงก็ส่งหนังสือเวียนเตือนไม่ให้สั่งซื้ออีก เพื่อรักษาน้ำใจกัน ปล. ผมอยากให้สังคมไทย ไม่เชื่อต้องแฉครับ ไม่ใช่ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ จากคุณ : Geneticist - [ 2 มิ.ย. 52 23:54:24 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ผมไม่มีอคติส่วนตัวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างนะครับ ถ้าเครื่องมือ/บุคลากร นั้นๆ ใช้งานได้จริง (โดยเฉพาะเรื่องการทหาร ซึ่งถือเป็นความเป็นความตาย ผมก็เคยเป็นทหารมาก่อน เพื่อนที่อยู่ใต้อยู่เขมรตอนนี้ก็มี) แต่เรื่องนี้ เซนส์ทางด้านวิทยาศาสตร์ของผมบอกว่าไม่จริง และโดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวกับความเป็นความตายด้วยแล้ว ยิ่งอยู่เฉยไม่ได้ครับ ตอบคุณ ..blue http://www.waydownhere.com/2008/10/11/forensic-expert-and-renowned-author-dr-pornthip-investigating-pad-riot-scenes-determine-cause-injuries-pad-members/ http://news.mcot.net/politic/inside.php?value=bmlkPTU5NTgwJm50eXBlPXRleHQ= ผมว่าไม่มีความจำเป็นต้องชี้แจงถึงประสบการณ์จาก "ผู้ใช้" นะครับ เพราะอย่างไรเสียก็เหมือนที่ผมบอกไป คือ ผู้ใช้นั้นจะมีอคติ ไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือทางลบอยู่เสมอ อยากได้ผลการทดลองที่เป็นการทดลองควบคุม (ซึ่งจะทำให้อคติไม่มีผล) มากกว่าครับ จากคุณ : PastelSalad - [ 3 มิ.ย. 52 00:03:52 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ตอบคห. 107 คุณ Geneticist ผมว่าหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง น่าจะเป็นสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สตช. นะครับ แต่ผมรู้สึกว่าถ้าปล่อยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร หรือตำรวจ ที่มีผลได้ผลเสียในการสั่งซื้อหรือใช้งานอุปกรณ์ตัวนี้ ทำการทดสอบกันเองภายใน ผลลัพธ์ที่ได้จะไม่น่าเชื่อถือครับ เพราะบริษัทพวกนี้มี lobbyist อยู่แล้ว (เผลอๆ เราๆ ในกระทู้นี้อาจไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกันแล้วก็ได้- พูดเล่นครับ) หน้าที่การทดสอบจึงควรเป็นหน้าที่ของคนที่เป็นกลาง เช่นมหาวิทยาลัยมากกว่าครับ ซึ่งปัญหาก็คือ ถ้ามหาวิทยาลัยทดสอบ ก็ไม่มีอำนาจในการส่งหนังสือเวียนดังกล่าวครับ ต้องเป็นหน่วยงานภายในสตช. หรือ กห. โควตผลการทดลองแล้วส่งหนังสือเตือนกันเอง ซึ่งถ้าเกิดมี lobbyist เอี่ยวจริงๆ เรื่องนี้ก็อาจถูกตัดตอนครับ ดังนั้นผมยังเห็นความจำเป็นต้องพึ่งสื่ออยู่ ถ้าต้องการให้ผลการพิสูจน์นี้มีอิทธิพลต่อการสั่งซื้อหรือสั่งฟ้องจริงๆ จากคุณ : PastelSalad - [ 3 มิ.ย. 52 00:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 110 มาแปะรูปและสังเกตการณ์อย่างเงียบๆ ครับ จากคุณ : vandalism - [ 3 มิ.ย. 52 00:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 111 จนท.ที่ทำงานที่ใต้ ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว ครับ คงเข้าใจความรู้สึกน่ะครับว่าเขารู้สึกอย่างไร ? ทุกๆๆคน คงไม่ต้องบรรยาย กกร่มเองก็อึ้งแทบไม่เชื่อเลย ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ฝากความหวังไว้กับ เครื่องมือ ชนิดพิเศษต่าง ๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 00:23:21 จากคุณ : กกร่ม - [ 3 มิ.ย. 52 00:22:23 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ผมทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ได้ใช้เครื่องมือนี้แล้ว เพิ่มความมั่นใจในการทำงานให้ผมได้เยอะ ผมเป็นคนใช้เครื่องมือนี้เอง ผมรู้ว่ามันแม่นยำขนาดไหน โดยที่ไม่ต้องใช้หลักอะไรมายืนยัน เพราะผลที่ออกมา มันเป็นเช่นนั้น มันทำให้ผมทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัยขึ้น แต่เมื่อพอมีข่าวขึ้นมา และผมได้อ่านกระทู้นี้  แทบหมดกำลังใจทำงานเลยครับเมื่อได้เห็นความใจแคบของชาวหว้ากอหลายๆ คน ผมจะไม่มาตอบกระทู้นี้ถ้าไม่จำเป็นแล้วนะครับ เสียใจจริงๆ ขอทิ้งท้ายไว้นิดนึงนะครับ  "เกิดเป็นคนต้องใจกว้าง" จากคุณ : แฉลบยอดหญ้า - [ 3 มิ.ย. 52 00:44:02 ]

ความคิดเห็นที่ 113 แวะมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อประชาชนค่ะ ที่สำคัญ อยากบอกว่า Process ไม่สำคัญ เท่า Output ค่ะ จากคุณ : LovelyDetective - [ 3 มิ.ย. 52 00:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 114 จริงอยู่ที่หลักการของเครื่องมันกำกวม แต่ผมว่าไม่น่าแปลกนะครับ เพราะของแบบนี้ยากที่จะเปิดเผยข้อมูลกัน ไม่เช่นนั้นจะจะมีเครื่องแบบนี้ออกมาเกลื่อนตลาด ราคาถูก แต่คุณภาพต่ำ หรือ ของที่เลียนแบบเกือบเหมือน แต่ประสิทธิภาพแย่ ซึ่งทำให้นึกถึงสูตรน้ำอัดลมโค้ก เป๊บซี่ ที่ชาตินี้คงไม่มีการเปิดเผย แต่มีหลายรายทำเลียนแบบให้เหมือน แต่ขายแทบไม่ได้เป็นต้น ส่วนเจ้าเครื่องนี้มันจะจริงเท็จขนาดไหน ถ้ายังไม่มีผลการทดลอง ก็ไม่อาจฟันธงได้จริงๆครับ ผมว่า จขกท. ยึดติดกับคลิปมากไปหรือเปล่า เค้าเป็นสมาคม แต่มีความน่าเชื่อถือหรือแม่นยำได้ขนาดไหนครับ มีผลการตรวจสอบที่น่าเชื่อถือมายืนยันอีกหรือไม่ครับ ไม่ใช่ว่าผมเชื่อว่ามันทำงานได้ดีนะครับ แต่มันก็ยังไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เชื่อว่าเจ้าเครื่องนี้มันใช้ไม่ได้ อย่างน้อยๆ เครื่องนี้ก็ใช้ได้ผลมามากพอสมควร จนหลายประเทศต้องซื้อมาไว้ใช้ หรืออย่างไรครับ จากคุณ : Nettyna - [ 3 มิ.ย. 52 01:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 115 คุณ LovelyDetective ครับ หาก Process ไม่สำคัญ เท่า Output จริงๆ เราไปจ้างร่างทรงไม่ดีกว่าเหรอ เงินทองไม่ออกนอกประเทศด้วย ทั้ง GT200 และร่างทรง ทำงานด้วยหลักการที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ แต่ผลออกมา "ดูเหมือนน่าเชื่อถือ"เหมือนกัน ไม่เชื่อลองไปตามงานล้างป่าช้าสิครับ ชี้ตรงไหนเจอศพหมด ุถ้า GT200 เกิดทำงานได้จริงๆ เราก็ยังอาจจะถูกหลอกอยู่ดีนะครับ ถ้าหลักการมันคือ Dowsing ราคาของไม้ Dowsing จริงๆ ไม่กี่ตังค์ เอามาขายเกือบล้านได้ ขั้นต่อไปก็ต้องเอา GT200 ของจริง และ GT200 ปลอมที่ไม่มีอะไรอยู่ข้างในแต่ถ่วงน้ำหนักให้เท่ากัน แล้วเทียบผลใช้ได้เหมือนกัน เราค้นพบมนุษย์พลังจิตเข้าแล้วหล่ะ จากคุณ : Geneticist - [ 3 มิ.ย. 52 01:22:07 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ตอบคุณแฉลบยอดหญ้านะครับ ถ้าเป็นผมผมจะไม่ใส่เสื้อกันกระสุนที่กันกระสุนไม่ได้ไปออกรบหรอกครับ มันจะหนักทำให้เคลื่อนที่ช้า และเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเองย่ามใจซะเปล่าๆ ผมยินดีจะได้รับรู้ว่าเสื้อเกราะของผมมันใช้ไม่ได้จริง แล้วออกไปรบตัวเปล่าๆ ใช้สัญชาติญาณหลบหัวให้พ้นกระสุนดีกว่าครับ และผมก็จะบอกเพื่อนผมไม่ให้มันใช้ด้วยครับ จากคุณ : PastelSalad - [ 3 มิ.ย. 52 01:53:43 ]

ความคิดเห็นที่ 117 คุณ Nettyna ครับ 1) จาก Clip คุณ Shermer เขาได้รับเชิญจากรายการ NBC dateline ให้ทดสอบเครื่อง Quadro ทีหน้าตาคล้าย GT200 มากๆ NBC dateline มีศักดิ์ศรีแค่ไหน ก็ลองนึกถึงรายการข่าวของไทย ที่ทำรายงานพิเศษเจาะลึกดู Clip นี้ถือเป็นจุดเริ่มให้ผมมาตั้งกระทู้นี้ 2) ต่อมาคำตอบจากคุณ กกร่ม กับคุณ Vandalism ไม่กระจ่างผมไปสืบหาเองจาก Google ไล่ลิงค์ไปเรื่อยๆ จบที่รายงานของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเรื่องเครื่อง Quadro ที่ึคุณ​ Shermer เอามาพูด รายงานบอกว่าเค้าทดสอบแล้วมันแม่นเท่า Random Chance พอจะเรียกบริษัทที่ผลิตมาสอบ ก็ปิดตัวหนีไป เค้าเลยเตือนว่าถ้าจะซื้อเครื่องหน้าตาคล้ายๆ กันต้องทำการทดลองให้่แน่ใจก่อน 3) คุณอาจจะบอกว่า Quadro อาจจะหน้าตาคล้าย GT200 เฉยๆ แต่มาจากคนละบริษัท และไม่จำเป็นต้องทำงานเหมือนกันก็ได้ ผมไปสืบต่อจนเจอผลการทดลองของ Sandia Lab กับเครื่อง MOLE จาก Global Technical UK ที่ผลิต GT200 เหมือนกัน (อยู่ที่ คห 25) ปรากฎว่ามันทำงานเท่า Random selection Sandia Lab เชื่อได้แค่ไหน ก็เป็น Lab หลักๆ ที่กระทรวงพลังงานสหรัฐใช้ 4) ถ้าคุณจะซื้อเสื้อกันกระสุน คุณจะซื้อจากบริษัทที่เคยเอาเสื้อปลอมมาหลอกขาย โดยไม่มีการทำการทดลองเองก่อนซื้อเหรอครับ (ไม่ใช่ให้คนขายทำให้ดู) 5) เรื่องมันคงจบง่ายๆ ถ้ามีใครทดลองให้ดูจะๆ แบบถูกตามหลักวิทยาศาสตร์ว่า GT200 ทำงานได้จริง แม่นจริง การตรวจเป็นจากเครื่อง มิใช่ Unknown factor (พลังจิต Placebo effect หรือสัญชาตญาณ) ของคนใช้ แต่การเมือง และระบบราชการของไทยมิอำนวย ต้องลับ ลวง พรางกันต่อไป ใครอยากเห็นคนที่เป็นขวัญใจประชาชนโดน ปปช ฟ้องล่ะครับ 6) การบอกหลักการทำงานของเครื่องไม่จำเป็นต้องบอกหมด จนคนอ่านเอาไปประกอบเองได้ก็ได้ครับ แค่มีสิทธิบัตรให้ดูก็พอรู้ว่าทำงานอย่างใด อย่างเครื่องตรวจระเบิดแบบ IMS เค้่ายังบอกได้เลยว่าทำงานอย่างไร ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย ที่บอกว่าหลักการทำงานมันกำกวม ผมว่าไม่ใช่ เรียกว่าขั้นหลอกลวงเลยล่ะ เรื่อง Para/diamagnetism จาก Web ที่จำหน่าย GT200 อ้างว่าเป็นหลักการทำงาน โดนคุณ alan the lamb คลี่คลายให้แล้วว่าหลอกลวงชัดๆ ต่อให้เครื่องนี้มันทำงานได้จริง คนซื้อก็โดนหลอกเรื่องหลักการทำงานไปแล้ว ไม่ใช่อธิบายไม่ได้ด้วย แต่เห็นจะๆ เลยว่าหลอก เหมือนคุณขายโค๊กขายเป็ปซี่ แล้วไปบอกคนซื้อว่าที่มันซ่าๆ เพราะใช้ยิสต์หมักเหมือนเบียร์ คุณจะว่าเขาหลอกลวงไหมล่ัะ เพื่อนที่เป็นวิศวะฝากมาอีกจุดคือ ถ้าเครื่องไม่มีแบตเตอรี่ แล้วใช้ไฟฟ้าจากไหนอ่านแถบแม่เหล็ก หรือ SIM ที่อยู่ใน card ครับ คุณ PastelSalad อยากมีเส้นเหมือนกันอ่ะครับ แต่ที่พอรู้จักมีแต่แวดวงนักวิชาการมากกว่า แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 05:42:20 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 05:16:31 จากคุณ : Geneticist - [ 3 มิ.ย. 52 04:23:34 ]

ความคิดเห็นที่ 118 คุณ แฉลบยอดหญ้า ดูคลิปนี้หน่อยครับ ก่อนจะว่าคนอื่นใจแคบ (Closed minded) คุณ กกร่ม ครับ จนท ภาคใต้ไม่ควรโกรธผม และชาวหว้ากอที่สงสัย แต่ควรร้องเรียนให้เจ้านายทั้งหลายไปทดสอบจริงๆ ก่อน ถ้ามันไม่แม่นจริง ก็ไปสั่ง IMS มาใช้ซะ แพงกว่า 3-4 แสน แต่ชีวิตคนมีค่ากว่านั้นไม่ใช่เหรอ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 05:23:39 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 05:07:41 จากคุณ : Geneticist - [ 3 มิ.ย. 52 04:57:40 ]

ความคิดเห็นที่ 119 GT200 ใช้ได้จริงนะครับ... จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 3 มิ.ย. 52 05:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ปล่อย ๆ เค้าไปเถอะครับ บางครับ การทดสอบทางวิชาการ กับการปฏิบัติงานจริง มันก็ไปด้วยกันไม่ได้ แผ่เมตตาให้กับเค้าเถอะครับ ปล่อยให้เค้าหลงวนกับอัตตา ของตนเองไปจนหาทางออกเจอด้วยตนเองดีกว่าครับ สู้ ๆ ครับ จนท ผู้ปฏิบัติงานทุกคน จากคุณ : pwit - [ 3 มิ.ย. 52 07:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมนิดนึงค่ะ คือว่าเวลาใช้เครื่อง GT เนี่ยค่ะ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะว่ามันเป็นแค่ 'เบื้องต้น' เท่านั้น หากเครื่องมัน detect จนได้จุดตัดมามันต้องมีการพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลอีกค่ะ สมมติใส่การ์ด RDX ไป แล้วเครื่องมันชี้ไปที่คนคนนึงแล้วเราจะจับเค้าเลยซะเมื่อไหร่ มันต้องมีการเก็บตัวอย่างเพิ่มเติมไปตรวจในแล็บเพื่อยืนยันผลอีกค่ะ ถ้าหากผลแล็บบอกว่ามี RDX จริงเราถึงจะดำเนินการกับคนคนนั้นได้ค่ะ จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 3 มิ.ย. 52 08:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 122 อ้อ คงจะเอา IMS กับ GT มาเทียบกันไม่ได้มั้งคะ เพราะเครื่องมันทำงานต่างกันค่ะ IMS มันต้องเข้าไปใกล้กับตัวอย่าง แต่ GT สามารถตรวจจับได้จากระยะไกลค่ะ ซึ่งมันปลอดภัยกับตัวเจ้าหน้าที่มากกว่า จากคุณ : when i'm feeling .. blue - [ 3 มิ.ย. 52 08:26:13 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เห็นด้วยครับ คุณ pwit คราวหน้าจะสั่งซื้อเสื้อเกราะกันกระสุน ก็ให้เขาเช่าพระที่คุณสนธิแขวนคอแทนแล้วกัน เพราะ 1) ใช้กับการปฏิบัติงานจริงได้ ไม่งั้นคุณสนธิจะรอดได้ไง 2) ดีกว่าเสื้อกันกระสุน เพราะเสื้อกันกระสุนไม่สามารถกันอาวุธสงครามได้ ไม่เหมือนพระของคุณสนธิ ที่กระสุนอาวุธสงครามพลาดหมด แค่สะเก็ดถากหัว 3) หลักการทำงานไม่สำคัญ ไม่ต้องไปทดสอบ เพราะมีหลักฐานจากที่คุณสนธิรอดก็พอแล้ว คุณ when i'm feeling .. blue (สาวน้อยพลังจิต) มัำนไม่มีหลักฟิสิกส์อะไรเลยครับ ที่จะตรวจสอบสารที่ไม่ได้ radiate อะไรออกมาแรงๆ โดยที่ไม่ต้องเอาอนุภาคของสารนั้นเข้ามาตรวจสอบเลย ถ้าคุณรู้แต่ไม่อยากเปิดเผย หลังไมค์มากก็ได้ครับ จริงๆ มันก็มีหลักฟิสิกส์ที่ทำได้ตามทฤษฎี คือ Quantum entanglement ถ้า GT200 ทำงานได้ด้วยวิธีนี้ คนประดิษฐ์เป็นมนุษย์ต่างดาวแน่ๆ งงจริงๆ ผมไม่เชื่อว่า GT200 จะทำงานได้ เพราะไม่มีหลักการทำงานที่ชัดเจนรองรับ ผู้ผลิตเคยสร้างของปลอม และวิธีการใช้งานคล้าย Dowsing มากๆ ถ้ามันทำงานได้จริงแบบ Dowsing มันเป็นเครื่องมือทางไสยศาสตร์ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ผมแค่ต้องการให้ใครสักคนเอาเครื่องนี้ไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์ แบบ Sandia lab แต่คำตอบที่ได้ กลับเป็นแนวไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เช่น 1) เอาไปใช้ในสนามแล้วแม่น แต่ก็มีผู้ร้ายรู้ เลยเอาสารที่ GT200 จับไม่ได้มาทำระเบิด แต่ไม่บอกว่าสารนั้นคืออะไร ทำไม GT200 จับไม่ได้ 2) จะพูดทำไม จนท เสียขวัญหมด 3) ประเทศอื่นเขาก็ใช้ หลายหน่วยงานใช้ 4) ทำไมใจแคบไม่เปิดใจรับเรื่องนี้ ทำไมถึงกลัวการทดลองเล็กๆ แค่นี้จังครับ มีอะไรซ่อนกันอยู่หรือเปล่า ถ้ามันแม่นจริง ก็ใช้ต่อไปไม่มีใครว่า (แต่ต้อง Under control conditions นะครับ) เอาผลการทดลองมาแปะที่นี่จะได้ไม่มีคนถามอีก ส่งให้ Global Technical เค้าจะได้ขายเครื่องมือดีๆ อย่างนี้ได้ทั่วโลก เพราะมีเครดิตจากราชการไืทยแล้ว เท่ากับช่วยทำบุญให้ช่วยชีวิตคนได้เยอะๆ ถ้ามันหลอก ก็แค่หยุดซื้อถ้าไม่อยากให้เป็นข่าว แล้วซื้อเครื่องดีกว่าให้ ซึ่งก็มีมากมาย ใช่สุนัขแทนก็ได้ กลัวอะไรกันครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 08:42:05 จากคุณ : Geneticist - [ 3 มิ.ย. 52 08:29:13 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ผมอธิบายไม่กระจ่างแล้วทำไมไม่ถามล่ะครับ...-*- จากการใช้งานจริง เครื่องนี้ใช้ได้ผลจริง แต่ด้วยหลักการอะไรก็ไม่ทราบ ผมไม่สามารถตอบคุณได้ อาจจะเป็น placebo effect ก็ได้ แต่จากการใช้งานจริง มันก็พิสูจน์ตัวมันเองอยู่แล้วว่าคุ้มค่าราคาของมัน ผมไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเรียกเก็บเจ้าเครื่องนี้ เพียงเพราะเราไม่สามารถอธิบายการทำงานของมัน ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีใครเชื่อ GT-200 ถึง 100% มันเป็นแค่เครืองมือช่วยเท่านั้น.... ไม่มีใครฝากชีวิตทั้งหมดไว้กับเครื่องนี้... จากการใช้งานในสนาม เครื่องนี้ใช้งานได้จริง... เรื่องทุจริต คิดว่าหากมีไม่น่าจะเกี่ยวกับการกระบวนการจัดหาเครื่องนี้นะครับ เพราะ หน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานใช้เจ้าเครื่องนี้โดยจัดซื้อแยกกัน บางหน่วยก็ใช้ของเอกชนด้วยซ้ำ เรื่องเครื่อง IMS มีใช้อยู่เช่นกันครับ แต่ไม่ใช่ในระดับหน่วยย่อย... จากคุณ : vandalism - [ 3 มิ.ย. 52 08:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 125 อ้าว กลายเป็นการต่อต้านคนทำงานไปซะแหล่ว ผมว่าบางท่านกำลังหลงประเด็นนะครับ ถ้ามีเครื่องที่สามารถใช้ได้จริง ตามสเปคเจ้า gt200 ห้าล้านก็ไม่แพง ผมคนนึงจะยกมือให้รีบๆซื้อ แจกให้ทั่วเลย ให้มีกันทุกด่านตรวจ ให้ตำรวจมีกันสน.ละหลายๆเครื่อง แต่อยู่บนเงื่อนไขว่า ใช้ได้จริง และอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ ตอนที่เรามีปัญหาเรื่องซื้อเครื่องสแกนกระเป๋าสำหรับสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่มีใครสงสัยเรื่องความสามารถของเครื่อง แต่ท้วงติงกันเรื่องราคา เพราะวิทยาศาสตร์ที่เป็นฐานให้เครื่องสแกนนั่น มันเป็นวิทยาศาสตร์ที่หนักแน่น มีจริง คนใช้ไม่ต้องตั้งสมาธิ วอกแวกไปบ้าง ทะเลาะกับแฟนมาอารมณ์เสีย ฝนตกฟ้าร้อง ก็ยังได้ผลเหมือนเดิม แต่ไอ้เครื่องนี้ พยายามทำใจให้เชื่อ เพราะเห็นมีชื่อหมอพรทิพย์มาเกี่ยวๆอยู่ด้วย แต่ยิ่งคุ้ย ก็ยิ่งเละ วิทยาศาสตร์ที่ผู้ผลิตเอามาอ้าง ฟังแล้วออกเทือกๆเหรียญควอนตั้ม กับน้ำ m-Ret ใส่เรื่อง dia/para megnetism มาให้ฟังดูเท่ๆ ฟังดูขึงขัง แต่ขุดลงไปนิดเดียว แค่ wiki ก็จบแล้วครับ อีกข้อหนึ่งที่สำคัญ เครื่องหน้าตาแบบนี้ มีหลายยี่ห้อเลยครับ ตั้งแต่ GT200  Sniffex  Mole  ADE651 Alpha6 (ตัวนี้เมืองไทยมีด้วย!) ซึ่งหลายตัวก็พิสูจน์แล้วว่า ได้ผลเหมือนปั่นแปะ บางตัวเป็นข่าว Scam กันเลย จนปิดบริษัทหนี ลองถามอากู๋ดูครับ http://www.prosec.com/ADE651.htm เครื่องหน้าตาเหมือนกัน ใช้เสาชี้ๆเหมือนกัน แต่อธิบายว่า "detects traces of both particulates and vapors....  The working principal is based on electrochemical (Thermo-Redox) detection" electrochemical แต่ไม่ต้องใช้แหล่งพลังงาน อะไรมันจะความไวสูงขนาดเอาเสามาเฉยๆ ก็ตรวจจับ vapor ได้ เครื่องตรวจที่เคยเห็น ต้องใช้การดูดอากาศตั้งเยอะเข้าไปถึงจะได้ปริมาณสารที่ต้องการมากพอที่จะตรวจได้อย่างมั่นใจว่าไม่ใช่ตรวจเจอ noise หรือ contamination ลองเปิดทีวีช่องที่ไม่มีสัญญาณ จะเห็นเม็ดๆเต็มไปหมด นั่นคือสัญญาณ noise ครับ มันมีอยู่ทุกที่ทั่วไป ทั้งในโลกนอกโลก และเป็น electro-magnetic noise ด้วย รบกวนการตรวจจับได้ทุกช่วงคลื่นช่วงความถี่ ถ้าสัญญาณที่ต้องการตรวจไม่แรงกว่า noise มากพอ ก็ไม่มีทางตรวจได้ เหมือนทีวีที่รับภาพจากสถานีส่งไกลๆไม่ได้ สารตัวอย่างขนาด picogram มันจะสร้างสัญญาณชนะ noise ให้ตรวจจับจากระยะไกลได้อย่างไร พอคลิกเข้าไปดูสเปค ที่เป็น pdf กลับบอกว่าตรวจโดยอาศัย electrostatic attraction of highly-charged ions อ้าว แล้ว Redox หายไปไหน Power บอกว่าเป็น electrostatic (500 - 2000V) แต่ตรง consumable บอกว่าไม่มี ไม่ต้องใช้ไฟ ไม่มีแบต ไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนต้องเติม แล้วมันเอาพลังงานมาจากไหนเพื่อตรวจจับ เอาพลังงานมาจากไหน เพื่อหันเสา เวปก็หน้าตาคล้ายๆบริษัท Global Technical (ซึ่งโม้ว่าเป็น UK based company แปลเป็นภาษาง่ายๆว่า ตั้วบริษัทในอังกฤษ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นของคนอังกฤษ หรือเป็นอุตสาหกรรม/งานวิจัยอังกฤษ) อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้หนอ ขอย้ำอีกทีครับว่า รักชาติครับ เสียภาษีถูกต้องตรงเป๊ง เห็นใจและให้กำลังใจคนทำงานครับ อยากให้คนที่อยู่แนวหน้าได้ใช้อุปกรณ์ที่ดี มีคุณภาพ เพื่อถนอมชีวิตที่มีค่าของทุกคนไว้ แต่เมื่อเห็นเรื่องที่มีแต่คำถาม และไม่มีคำตอบที่ฟังได้ชัดเจน ก็ต้องถามครับ ไม่ต้องการทำลายกำลังใจ แต่ต้องการความจริงให้กระจ่าง ถ้าเครื่องมันดีจริง ผมกับอีกหลายท่านก็ไม่ได้อะไร นอกจากถูกด่า และถ้ามีหลักฐานว่ามันดีจริง ผมก็พร้อมจะยอมรับ แต่ถ้ามันเป็น scam ก็กลายเป็นเจ้าหน้าที่ออกไปทำงาน แบบเดียวกับวัยรุ่นชาวใต้ที่ถูกหลอกให้เชื่อ ว่ามียามีคาถาอาคมพระเจ้าคุ้มครอง ฯลฯ ทำให้ไม่มีใครเห็น ไม่เกิดอันตรายแน่นอน จนเด็กเชื่อ ถือมีดกันคนละเล่มวิ่งกรูเข้าหมายทำร้ายเจ้าหน้าที่ สูญเสียครับ ถึงท่านที่เคยใช้ครับ ลองฟังเสียงจิ้งจกแก่ๆตัวนี้สักนิด เชื่อไม่เชื่อไม่เป็นไร ท่านมีสมองตัดสินได้ถ้าใช้ได้ผลดีจริง ผมก็ดีใจครับ แต่ถ้าผมถูกหล่ะ you're on the line not me ปล. ถามซ้ำครับ เวลาตรวจหา human แล้ว ตัวคนตรวจไม่ไปรบกวนการตรวจหรือ หรือต้องให้ Mr.Fusion บอตอัจฉริยะเป็นผู้ตรวจ จากคุณ : alan the lamb - [ 3 มิ.ย. 52 08:46:01 ]

ความคิดเห็นที่ 126 อย่าว่าหาเรื่องนะครับ สงสัยจริงๆ ท่านที่มี หรือใช้เครื่องอยู่ ช่วยแกะดูข้างในหน่อยได้หรือเปล่า (น่าจะพอแกะได้) Post ให้เห็นกันจะๆว่ามีอะไรอยู่ข้างใน รอดูอยู่นะครับ  ขอบคุณล่วงหน้า จากคุณ : ตามติด (RHP) - [ 3 มิ.ย. 52 08:59:21 ]

ความคิดเห็นที่ 127 สำหรับความเห็นที่ว่า เครื่องนี้ไม่มีหลักการทางวิทยาศาสตร์ ว่าใช้งานได้จริง แต่การเอาไปใช้ ปรากฏว่าใช้ได้ "จริง" จึงสรุปว่า ควรใช้กันต่อไป มันเป็นเหตุผลที่แปลกๆ นะครับ ถ้าผลการทดลองพิสูจน์ออกมาแล้วว่า ไอ้เครื่อง GT200 นี่ มีประสิทธิภาพเท่ากับ ตีตารางบนแผนที่แล้วใช้เหรียญโยนหัวก้อย ช่องไหนเหรียญออกหัว ก็ค้นช่องนั้น คุณจะยังใช้เหรียญในการหาพิกัดวัตถุระเบิดอยู่มั้ยล่ะครับ คงไม่นะครับ ความต่างของเหรียญกับ GT200 มันก็ (ควรจะ) ต่างกันที่ภาพลักษณ์เท่านั้นเอง เพราะเราเห็นได้ชัดว่า เหรียญมันไม่เกี่ยวอะไรกับระเบิด ในขณะที่เจ้าเครื่อง GT200 นี้ เราได้รับฟังสรรพคุณมาว่า มันทำงานได้ รูปลักษณ์ดูเป็นอุปกรณ์ตรวจค้น เราจึงเชื่อเครื่องนี้มากกว่า ทั้งๆ ที่ประสิทธิภาพเทียบเท่ากัน งั้นหรือครับ? นี่ไม่ใช่เป็นเครื่องสำหรับเรียกขวัญและกำลังใจนะครับ แต่เป็นเครื่องที่ผูกกับความเป็นความตายของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้งาน ดังนั้น ผมไม่เห็นเลยว่า การดิสเครดิตเครื่องนี้ จะเป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ผู้ใช้งานตรงไหน ถ้าพิสูจน์กันได้ว่าเครื่องนี้มันหลอกลวง ไม่ใช่ว่าเจ้าหน้าที่ผู้ใช้จะเป็นคนโง่ งี่เง่า ถูกเขาหลอก หรืออะไรหรอกครับ เพราะทุกคนก็เข้าใจกันว่า เจ้าหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติ ไม่ได้มีหน้าที่มาพิสูจน์รับรองเครื่องพวกนี้ ไอ้คนที่จะโดนด่า จะเป็นคนที่หลอกเอามาขายมากกว่า ว่าเลว ชั่ว หากินกับความเป็นความตายผู้อื่น ที่หลายๆ คนในกระทู้นี้ ยังมากัดติดเรื่องนี้กันอยู่ ก็เพราะเป็นห่วงชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนผู้ฝากชีวิตไว้กับเจ้าหน้าที่เหล่านี้อีกต่อหนึ่งนะครับ ว่าจะเอาชีวิตอันมีค่ามาผูกไว้กับเครื่องมือเก๊ที่มีคนชั่วๆ มาหลอกขาย ถ้าไม่แคร์ ก็คงจะแค่เข้ามาอ่านกระทู้ ทิ้งความเห็นไว้ทำนองว่า "ฮ่าๆๆ โดนหลอกแล้วก็ยังไม่รู้อีก" อะไรทำนองนี้ แต่นี่ไม่ใช่ ขอให้เข้าใจ และกลับมาถกกันด้วยประเด็นทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ ช่วยเก็บเรื่องความรู้สึกไว้ในใจ และร่วมมือกันช่วยกันไขให้เรื่องนี้กระจ่างดีกว่าครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 09:16:01 จากคุณ : PastelSalad - [ 3 มิ.ย. 52 09:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 128 ปิดอะไรกันอยู่หรอ กลิ่นไม่ดี ส่งลิงค์ไป นสพ ดีกว่า จากคุณ : CitizenShip - [ 3 มิ.ย. 52 09:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ผมว่าประเด็นสำคัญ มันอยู่ที่ว่า มันทำงานได้ยังไงมากกว่า เพราะตราบใดที่ตรงนี้ไม่กระจ่าง  มันก้อจะมาสู่ขั้นตอนที่ว่า  เกิดอะไรขึ้นก้อเป็นเพราะคนใช้ๆไม่เป็น หรือ ยังไม่มีข้อมูลนี้ในการ์ด ไม่ใฃ่ว่าไม่เชื่อนะ  แต่ยังไม่เชื่อมากกว่า  ด้วยข้อมูลแค่นี้ หลักการที่นำเสนอมาก้อฟังได้ไม่เต็มที่ แล้วเรื่องที่ผู้ใช้มายืนยัน มันก้อไม่แน่เสมอไปว่ามาจากประสิทธิภาพของเครื่องจริง เพราะ การเข้าไปตรวจ ก้อไปยังพื้นที่ต้องสงสัย การค้นหาก้อถูกโฟกัสจุดอยู่แล้ว ไหนจะประสบการณ์ของคนตรวจอีกอีก   แถมเวลาไม่เจอขึ้นมา ก้อไม่สงสัยเครื่อง  แต่ไปสงสัยว่าเป็นเพราะคนตรวจไม่ได้อบรมบ้าง หรือ เป็นอุปกรณ์ที่ไม่อยู่ในการ์ดบ้าง ผมว่ามันแปลกๆ เอาง่ายๆ  มันต้องมีคำตอบ ที่รับฟังได้ในกรณีของวัตถุที่ตรวจไม่พบ ไม่งั้นเครื่องมันก้อเป็นดาบสองคมสำหรับคนใฃ้ครับ ถ้าเครื่องบอกว่าเจอแล้วจริงๆ ไม่เจอ มันไม่เท่าไหร่ครับ มันแค่เสียเวลา กับค่าใช้จ่าย แต่ถ้าบอกว่าไม่เจอ แต่จริงๆแล้วมีระเบิด นี่สิ  ดูไม่จืดแน่ๆ จากคุณ : ARMS STRONG - [ 3 มิ.ย. 52 09:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อ่านมาจนถึง...ตรงนี้ ก็ยังไม่เจอหลักการ หรือเหตุผลใด ที่ทำให้ เชื่อ ว่าเครื่องนี้ทำงานได้จริง ตามหลักวิทยาศาสตร์ ยิ่งอ่านข้อมูลจากผู้ใช้งานจริงด้วยแล้ว...ยิ่งเห็นชัดเลยว่าคุณถูกหลอกจริงๆ เพราะคุณถูกทำให้เชื่อว่า เจ้าเครื่องนี้ทำงานได้จริง ซึ่งจริงๆ แล้ว เสามันก็หันไปตามความรู้สึกของคนใช้เองแหละว่า วัตถุน่าสงสัยน่าจะอยู่บริเวณใด ถ้าจะให้ผมมั่นใจผลการใช้งานของเครื่องนี้ ผมอยากพิสูจน์ 2 ประเด็นครับ 1. เครื่องนี้ ถ้านำไปติดตั้งบน รถบังคับ แล้วให้เราควบคุมรถ แทนที่เราจะถือเจ้าเครื่องนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลของความรู้สึกของคน ที่มีผลต่อการชี้วัดของเครื่อง  เจ้าเครื่องนี้จะทำงานได้หรือไม่ 2. ทดสอบการ์ดแต่ละชนิด ว่ามันมีข้อมูลของวัตถุที่ต้องการหาจริงหรือไม่? โดยการให้ผู้ใช้ถือเจ้าเครื่องนี้ แต่เราไม่แจ้งว่า การ์ดที่ใส่เข้าไปเป็นการ์ดประเภทใด ผมอยากรู้จังว่าถ้าผู้ใช้ไม่ทราบว่าเขาใช้การ์ดอะไร  เขาจะหาของได้ตรงกับการ์ดที่ใส่อยู่หรือไม่ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าเจ้าเครื่องนี้ทำงานตามหลักของสัญชาตญาณของมนุษย์นะครับ จากคุณ : ยังไม่ได้ระบุชื่อ - [ 3 มิ.ย. 52 09:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 131 อ้อ จริงๆ สิ่งสุดท้ายที่เราสนใจ ไม่ใช่ว่าตัวเครื่องนี้ทำงานยังไงนะครับ การพิจารณาหลักการทำงานเป็นแค่เหตุผลประกอบการพิจารณาเฉยๆ เราจะถือว่า เครื่องนี้เป็นเทคโนโลยีต่างดาว ที่เราไม่อาจเข้าใจกระบวนการทำงานได้เลย ก็ยังได้ครับ เพราะสิ่งสุดท้ายที่เราสนใจจริงๆ คือ เครื่องนี้มันใช้งานได้หรือไม่ โดยไม่สนใจจะทดลองหลักการทำงานของมันเลย ซึ่งการทดลองอย่างเป็นทางการกับเครื่อง MOLE ที่ผลิตโดยบริษัทเดียวกัน ใช้งานเหมือนกัน โดยหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ ก็ปรากฎผลออกมาแล้วว่า เครื่อง MOLE ใช้งานไม่ได้ ดังที่ได้สรุปการทดลองให้ดูแล้ว ซึ่งผมสังหรณ์ว่า ไอ้เครื่อง GT200 นี้ ถ้าเอามาทดลองแบบเดียวกัน ก็น่าจะได้ผลออกมาแบบเดียวกัน ส่วนการเคลมว่า ใช้งานได้ โดยอ้างจากความเห็นผู้ใช้ หรือจำนวนผู้ใช้ ไม่สามารถเป็นข้อโต้แย้งได้ครับ เพราะรูปแบบการรายงานผลการตรวจของเครื่องนี้ (เสาชี้) สามารถมีอคติจากผู้ใช้เจือปนได้มากครับ ถ้าเครื่องมันมีไฟสีแดงดวงเดียวที่จะสว่างวาบขึ้นมาเวลาตรวจเจอ ก็ว่าไปอย่าง รวมถึงอคติเรื่องแนวโน้มการจำผลสำเร็จมากกว่าผลผิดพลาดอีก เราจะมองข้ามความจริงข้อนี้ไปได้หรือครับ? ถ้าอยากพิสูจน์กันจริงๆ ผมขอให้มีคนที่สามารถนำเครื่อง GT200 นี้มาให้ทำการทดลองได้ เท่านั้น ผมสามารถติดต่อขอให้ผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้มาเป็นพยานการทดลองได้เลย ไม่ทราบว่าใครมีหรือติดต่อหาเครื่อง GT200 พร้อมผู้ใช้มาให้ทดสอบได้บ้างครับ? จากคุณ : PastelSalad - [ 3 มิ.ย. 52 09:27:08 ]

ความคิดเห็นที่ 132 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 10:08:52 จากคุณ : นกฮูกผจญภัย - [ 3 มิ.ย. 52 10:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 133 อินเทรนสักนิด กระทู้นี้ fallacy กันเพียบเลยครับ รวมทั้งผมด้วย ... จากคุณ : Phoenix032 - [ 3 มิ.ย. 52 10:21:01 ]

ความคิดเห็นที่ 134 จากที่อ่านมาตั้งแต่ต้นจนมาถึงกระทู้นี้ ผมว่าเจ้าของกระทู้และคนที่มาตอบอีกหลายๆ คน คงไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เจ้าหน้าที่เสียขวัญหรือกำลังใจหรอกครับ   เพียงแต่ ในสิ่งต่างๆ ที่สงสัยก็น่าจะได้รับคำเฉลยให้ครบถ้วน จนหายสงสัย  แต่จากที่อ่านมาภายในกระทู้ ( ไม่ได้ออกไปอ่านตามลิ้งค์ต่างๆ ที่ให้มา) ก็ยังไม่มีใครมาให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้ว่า  โดยหลักการทำงานที่ครบถ้วนแล้ว อุปกรณ์เช่นนี้ จะทำงานอย่างไร  และมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน จริงอยู่ครับ  เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ย่อมที่จะได้รับกำลังใจในการทำงาน และความสะดวกที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน  แต่จากที่อ่านมา ก็เห็นมีข้อความบอกอยู่แล้วนี่ครับว่า  เป็นห่วงเจ้าหน้าที่ๆ ใช้  ถ้าของไม่ดีจริง หรือว่า มีปัญหา  สิ่งที่ต้องสูญเสีย คือเจ้าหน้าที่นะครับ  ก็เลยอยากจะได้รับข้อมูลที่มากพอจะเชื่อได้ว่า  สิ่งนี้ ใช้ได้จริง และสามารถยืนยันได้ด้วยหลักฐานเหมือนอุปกรณ์อิเล้กทรอนิกส์ ทั่วๆ ไปที่สามารถบอกได้ว่า วงจรนี้ มีอุปกรณ์อะไรบ้าง ทำงานอย่างไร เป็นต้น  เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่มากขึ้นของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้ ไม่ดีกว่าหรือครับ อย่างที่ คห. 107  ได้บอกไว้ไงครับว่า 4) ข้อนี้ค่อนข้างอ่อนไหว ถ้ามีคนไม่สบายใจผมจะมาลบทีหลัง ผมว่าเรื่องนี้คงมีคนไม่อยากให้เอาไปทดสอบอย่างเปิดเผย เพราะระเบียบราชการไทยหากเครื่องนี้ทำงานไม่ได้จริง คนที่รับผิดชอบคือคนเซ็นต์อนุมัติ ซึ่งผมคิดว่าต้องมีคนที่มีชื่อเสียงที่ชาวหว้ากอรู้จักดีโดนด้วยแน่ๆ ถ้าเครื่องนี้ทำงานไม่ได้จริง ผมมองในแง่ดีไว้ก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากการทุจริต แต่เป็นการโดนหลอกมากกว่า เพราะบริษัทดูน่าเชื่อถือ เครื่องนี้มีการใช้ทั่วโลก เช่น จีน เม็กซิโก อินเดีย อิรัก ซาอุ และถ้าคุณเป็นผู้ซื้อที่ไม่ได้เรียนฟิสิกส์ มีฝรั่งมาทดลอง แถมอบรมให้ดูคงจะเชื่อได้ไม่ยาก ผมจึงเสนอให้มีการทดลองเงียบๆ ถ้ามันทำงานไม่ได้จริงก็ส่งหนังสือเวียนเตือนไม่ให้สั่งซื้ออีก เพื่อรักษาน้ำใจกัน จากคุณ : WhoAmI - [ 3 มิ.ย. 52 10:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 135 นั่งอ่านมานานแล้ว...ไปๆมาๆ ดูจะกลายเป็นความขัดแย้งของเจ้าของกระทู้กับผู้ปฎิบัติงานไป อยากให้ผู้ปฎิบัติงานทั้งหลายที่เคยใช้เจ้าเครื่องนี้แล้วเข้ามายืนยังว่ามันได้ผล เปิดใจให้กว้างกับเจ้าของกระทู้หน่อยครับ ผมเข้าใจว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆเลย เพียงแต่ผู้ที่ไม่เชื่อเจ้าเครื่องนี้ทั้งหลาย ยังไม่พบข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใดๆที่จะยืนยันว่าเจ้าเครื่องนี้ทำงานอย่างไร ถ้าเจ้าเเครื่องนี้มีความเชื่อถือได้เท่ากับการเดาสุ่มจริง อันนี้จะน่ากลัวมากนะครับ สำหรับผู้นำไปใช้ปฎิบัติงาน(ซึ่งคุณยืนยันว่ามันใช้ได้ผลดี และตรวจพบวัตถุต้องสงสัยได้จำนวนมาก) เพราะว่าขนาดเดาสุ่มๆมันยังเจอเยอะขนาดนี้ แล้วจริงๆมันจะเยอะขนาดไหน! ถ้าผู้ปฎิบัติงานทั้งหลายพอใจกับการใช้เครื่องนี้โดยไม่ต้องการการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ใดๆแล้ว ผมว่าก็เหมือนแขวนพระเครื่องล่ะครับ เราคงไม่ต้องมานั่งคุยกันในห้องหว้ากอนี้ให้เสียเวลา จากคุณ : downsyndr - [ 3 มิ.ย. 52 10:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 136 เรื่องนี้น่าสนใจ ขอตามติดด้วยคน จากคุณ : ขอซักชื่อเหอะ - [ 3 มิ.ย. 52 10:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 137 ถ้าการเปิดเผยหลักการทำงานของเครื่องนี้เพียงเพื่อให้ จขกท สบายใจ แต่ทำให้ผู้ก่อการร้ายหาวิธีหลบเลี่ยงการตรวจจับของเครื่องนี้ได้ 100% และทำให้ จนท ที่ปฏิบัติงานจริงต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงมากขึ้นโดยไม่จำเป็น เพราะเครื่องที่จัดซื้อมาแล้ว ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว จขกท จะรับผิดชอบยังไงครับ ไม่ได้บอกว่าเราไม่ควรพิสูจน์สิ่งที่ไม่รู้ แต่ถ้าความอยากรู้ของคุณตั้งอยู่บนชีวิตของคนอื่น คุณก็น่าจะบอกวิธีรับผิดชอบของคุณด้วย ไม่ใช่ว่าพอเค้าพิสูจน์ได้ คุณก็หายจ้อย (อย่างดีก็ออกมาขอโทษนิดหน่อย) ซึ่งความรู้ที่คุณได้มาก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณ จขกท ดีขึ้นหรือแย่ลง แต่ทำให้ชีวิตของคนที่ปฏิบัติงานจริงต้องเสี่ยงมากขึ้น ผมไม่ได้บอกให้คนเราควรเชื่ออย่างงมงายโดยไม่พิสูจน์ แต่ผมไม่เห็นประโยชน์ของการท้าทายอย่างเอาเป็นเอาตายว่าจะพิสูจน์สิ่งที่พิสูจน์ไปแล้วไม่ว่าจะเป็นจริงหรือเป็นเท็จก็ไม่ได้ทำให้ใครได้ประโยชน์มากขึ้นไปทำไม แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 10:48:36 จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า - [ 3 มิ.ย. 52 10:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 138 คุณ น้ำค้างในยามเช้า อย่างที่คุณ PastelSalad บอกไงครับ ถ้ามีคนบอกหลักการที่น่าเชื่อถือมา (ไม่ต้องตรงนี้หลังไมค์ก็ได้) มันก็เคลียร์ไปขั้นหนึ่ง เป็นการประกอบการพิจารณา แต่ที่ผมต้องการที่สุด คือเอาเครื่องนี้มาทดลองแบบวิทยาศาสตร์จริงๆ ถ้ามันทำงานได้จริง โดยวิธีการทดลองที่น่าเชื่อถือได้ อย่างมากก็อาจจะมีคนฟ้องบริษัทข้อหาแจ้งข้อมูลหลักการทำงานเท็จให้ราชการ แต่เครื่องก็ยังถูกใช้ต่อไป ส่วนหลักการทำงานก็รอเครื่องพัง แล้วแกะดูข้างในแล้วกัน เรื่องนี้พิสูจน์ว่าเท็จแล้วไม่มีประโยชน์เหรอครับ ถ้าเครื่องหลายแสนทำงานเท่าเหรียญสลึง จะปล่อยให้เขาหลอกเอาเงินอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เหรอครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 11:00:15 จากคุณ : Geneticist - [ 3 มิ.ย. 52 10:55:46 ]

ความคิดเห็นที่ 139 พยายามช่วยคิดหาทางออก ก็นึกไม่ออกครับ เพราะ ด้านสนับสนุนว่าไม่ควรตั้งคำถาม 1. #137 การบอกให้หยุดการตั้งคำถาม เพราะผลเสียจะเกิดกับเจ้าหน้าที่ ก็เป็นการคิดที่ใช้เหตุผลไม่ดี เพราะไม่สามารถตอบได้ว่า เครื่องนี้จริงหรือหลอก 2. เจ้าหน้าที่บอกว่า เสียใจที่ได้อ่านกระทู้แบบนี้ ก็ใช้เหตุผลไม่ดี 3. มีคนบอกว่าใคร ๆ ก็ใช้ ทั้ง สหรัฐ จีน ... ด้านที่พยายามหาความจริง 1. การที่ จขกท. บอกว่า ถ้าไม่มีหลักวิทยาศาสตร์อ้างอิงแบบนี้ จ้างร่างทรงไม่ดีกว่าหรือ ไม่ต้องให้เงินตรารั่วไหล ก็เป็นการคิดที่ใช้เหตุผลไม่ดีเช่นกัน 2. การที่หาข้อมูลการทำงานไม่ได้ หรืออาจได้ข้อมูลที่เป็นจริงบางส่วน (ส่วนใหญ่หาได้แต่เครื่องรุ่นเก่า) ก็สรุปว่า ไม่มีหลักการวิทยาศาสตร์รองรับ 3. บางท่านสรุปว่า บริษัทนี้เคยหลอกลวงมาแล้วในรุ่นก่อนหน้า เพราะฉะนั้นรุ่นนี้ก็คล้าย ๆ กัน ... แล้วจะหาทางออกกันอย่างไรดีครับ ฝ่ายเจ้าหน้าที่อาจจะมีคนรู้ แต่บอกไม่ได้ ฝ่ายผู้สงสัยก็ต้องการจะรู้ เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ ... ปล. หลักสูตร fallacy จากคุณ Cryptomnesia http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7930761/X7930761.html จากคุณ : Phoenix032 - [ 3 มิ.ย. 52 11:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 140 ความคิดเห็นที่ 138 เรื่องนี้พิสูจน์ว่าเท็จแล้วไม่มีประโยชน์เหรอ ครับ ถ้าเครื่องหลายแสนทำงานเท่าเหรียญสลึง จะปล่อยให้เขาหลอกเอาเงินอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เหรอครับ จากคุณ : Geneticist ************************************************** 1. การจัดซื้อจัดจ้างของราชการเค้าซื้อเป็น Lot ใหญ่ครับ ไม่ได้ซื้อทีละเครื่อง และเครื่องนี้ก็ซื้อมาแล้ว ดังนั้นควรจะถือค่าเครื่องว่าเป็นต้นทุนจมครับ (Sunk Cost) ดังนั้นการพิสูจน์เรื่องนี้คงไม่ได้ทำให้เราเสียเงินมากขึ้นหรือน้อยลง 2. เครื่องนี้คนที่ใช้อยู่หน้างาน ใช้แล้วทำงานได้ดีตรวจหาระเบิดเจอ และยาบ้าเจอ ในเวลาที่น้อยลง (ผมไม่ได้ใช้คำว่าเจอมากขึ้นนะครับ) ซึ่งคนที่เคยใช้หลายๆ คนก็เข้ามาบอกในกระทู้นี้ว่าใช้ดี 3. ต่อให้สิ่งที่เค้าจัดซื้อเป็นแค่เครื่องมือแหกตาราคาแพง แต่มันทำให้คนที่อยู่หน้างานทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ผมก็ไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะเปิดเผยว่าเครื่องมือมันแหกตาเพียงเพื่อให้ จขกท สบายใจ 4. ถ้าหากการพิสูจน์เรื่องนี้เพื่อทำให้คุณ จขกท สบายใจ ตั้งอยู่บนความเสี่ยงของคนที่อยู่หน้างานจริง คุณ จขกท มีวิธีการรับผิดชอบชีวิตคนกลุ่มนี้อย่างไรครับ จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า - [ 3 มิ.ย. 52 11:15:14 ]

ความคิดเห็นที่ 141 อุปกรณ์ หรือเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ทุกชนิด มีหลักการทำงาน (ทางวิทยาศาสตร์) ที่ไม่เป็นความลับ ดังนั้นถ้าเครื่องนี้ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์จริง ก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องปกปิด หากพิสูจน์ได้ว่าเครื่องนี้สามารถใช้งานได้จริง จะเป็นการป้องปรามผู้ร้ายไปในตัว เครื่องมือขั้นเทพระดับนี้ผู้ร้ายที่ไหนจะกล้าหือ ดังน้น รอการพิสูจน์อยู่ครับ จากคุณ : ตามติด (RHP) - [ 3 มิ.ย. 52 11:22:51 ]

ความคิดเห็นที่ 142 คุณ น้ำค้างในยามเช้า ผมไม่สนเรื่องของที่ซื้อไปแล้วนะครับ ผมเสนอให้หยุดซื้อนะครับ ลองอ่าน คห 107 ดีๆ ผมลองใช้ Google search ดูก็ยังมีการขอสั่งซื้อเพิ่มเรื่อยๆ หลายหน่วยงาน แม้แต่ อบต อบจ ก็ซื้อให้ทหารใช้ ความสบายใจผมไม่สำคัญ เท่าเงินภาษีอากรที่เอาไปประเคนฝรั่งที่อาจจะหลอกเอาเงินง่ายๆ อย่างนี้หรอกครับ ถ้าคุณคิดว่าไม่ควรเปิดเผยเครื่องนี้แม้มันจะหลอกลวงก็ตาม เพราะมันทำให้คนที่ทำงานมีกำลังใจ ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ยอมจ่ายเป็นแสนซื้อของราคาไม่กี่ตังค์ดีกว่า ถ้างั้นเราเอาเงินไปเช่าพระขลังๆ แจกดีกว่ามั้งครับ จากคุณ : Geneticist - [ 3 มิ.ย. 52 11:26:50 ]

ความคิดเห็นที่ 143 สรุปส่ิงที่เกิดขึ้นแล้วก็คือ 1. มีการจัดซื้อแล้ว (เป็น Sunk Cost) 2. คนที่ใช้อยู่หน้างานก็พึงพอใจ ส่วนสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการพิสูจน์ว่าเครื่องนี้ใช้งานได้จริง 1. มีคนคิดหาวิธีหลบเลี่ยงการตรวจจับ เพื่อพยายาม Discredit เครื่องนี้ต่อไป (เช่นเครื่องนี้ก็ไม่ได้ดีเท่าไร ถ้ายาบ้าห่อด้วยใบชาเขียวก็ตรวจจับไม่ได้) 2. ผู้ไม่หวังดีจับเคล็ดได้ก็เอาไปใช้ ทำให้เครื่องไร้ประโยชน์จริงๆ 3. คนที่ทำงานหน้างานเหนื่อยขึ้น 4. เงินที่รัฐจ่ายไปเพื่อซื้อเครื่องกลายเป็นสูญเปล่า 5. จขกท หายสาบสูญ หรือ อย่างดีก็ออกมาขอโทษนิดหน่อย ส่วนสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการพิสูจน์ว่าเครื่องนี้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ทางจิตวิทยา ทำให้คนหน้างานทำงานได้ดีขึ้นแต่ไม่สามารถตรวจจับได้จริง 1. จขกท ภูมิใจที่ธงที่ตั้งไว้ก่อนล่วงหน้ามันถูกต้อง 2. คนที่อยู่หน้างานเสียกำลังใจ 3. คนร้ายที่รู้เรื่องก็ไม่กลัวเครื่องตรวจจับ (เช่นเดียวกันกับถ้าคนรู้ว่าเครื่องเป่า Lกฮ ไม่สามารถตรวจได้จริง อุบัติเหตุจากเมาแล้วขับก็จะมากขึ้น) 4. เงินที่รัฐจ่ายไปเพื่อซื้อเครื่องกลายเป็นสูญเปล่า ดูจากผลลัพธ์ของทั้ง 2 Scenario แล้ว ผมก็ไม่เห็นประโยชน์จากการหาคำตอบของเครื่องนี้ โดยที่ผู้ที่รู้หลักการทำงานไม่อยากเปิดเผย จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า - [ 3 มิ.ย. 52 11:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 145 ตอบคุณน้ำค้างฯ ครับ - การพิสูจน์ว่าใช้ได้จริงไม่จำเป็นต้องพิสูจน์หรือรู้กระบวนการทำงานครับ ดังตัวอย่างการทดลองของ Sandia Lab ที่ผมสรุปให้มา (คห. ๘๔ - ๘๙) ที่แค่เอาทดสอบหาตัวอย่างในกล่องเท่านั้น ดังนั้น เรื่องผู้ไม่หวังดีจะเอาหลักการทำงานของเครื่องไปใช้นี่ ตกไปครับ - การพิสูจน์ว่าเครื่องนี้ใช้ไม่ได้ ไม่ได้เป็นการเพิ่มความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ครับ แต่เป็นการลดความเสี่ยงด้วยซ้ำ เพราะเจ้าหน้าที่จะได้ไม่มีข้อมูลผิดๆ จากเครื่องมือวัดเก๊ให้ตัดสินใจผิดพลาด ระหว่างใช้เครื่องตรวจวัดเก๊ๆ วัดได้ว่าไม่มีระเบิด กับไม่รู้อะไรเลย อย่างไหนจะทำให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงานได้มากกว่ากันครับ? - เครื่องมือแหกตาไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้นครับ  ประสิทธิภาพที่มากขึ้น เร็วขึ้น เป็นเพียงเพราะเจ้าหน้าที่ยอมเสี่ยงง่ายขึ้น เพียงเพราะมีข้อมูลเก๊ๆ จากเครื่องนี้ช่วยให้อุ่นใจเท่านั้นเอง ดังนั้น ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นบนความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ล้วนๆ ครับ ประโยชน์ของเครื่องมือแหกตานี้จึงเทียบเท่าพระเครื่อง - การพิสูจน์ว่าเครื่องนี้แหกตา จะช่วยป้องกันการจัดซื้อลอตใหม่ได้ครับ และอาจฟ้องร้องเรียกเงินคืนจากตัวแทนจำหน่ายได้ด้วยซ้ำ ทำให้มีเงินงบประมาณเหลือไปใช้ซื้อเครื่องมือที่ใช้ได้จริง - ผมว่าเจ้าของกระทู้ไม่ได้ไม่สบายใจที่เครื่องนี้มันเก๊ครับ แต่ไม่สบายใจที่ "คนที่อยู่หน้างานต้องเพิ่มความเสี่ยงเพราะเครื่องมือเก๊" กลับกัน ถ้ามีเจ้าหน้าที่ตายเพราะระเบิดที่เครื่องนี้ตรวจหา (มั่วๆ) ว่าไม่พบ ใครจะรับผิดชอบครับ? หรือเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ที่ตายผิดเองที่ใช้เครื่องเก๊ๆ นี้ไม่เป็น? จากคุณ : PastelSalad - [ 3 มิ.ย. 52 11:37:13 ]

ความคิดเห็นที่ 146 ผมว่ากลิ่นชักตุๆ เนื่องจากความเห็นแย้งมันผิดวิสัยของผู้ใช้ทั่วไป ปกติคนที่รู้ว่าของที่ตัวเองใช้อาจใช้ไม่ได้จริง ย่อมต้องโวยวายและอยากรู้ความจริง โดยเฉพาะของที่มีผลกับชีวิตตัวเองแบบนี้ หรือนั่นเป็นนิสัยของคนบางประเภทเท่านั้น คนทั่วไปไม่ได้เป็นแบบนี้? หรือศรัทธาที่มีต่อเครื่องมันมากกว่าการอยากปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ใครรู้สึกแปลกๆ เหมือนผมบ้างครับ (ไม่ได้เหมานะว่าทุกคนที่เห็นต่างต้องเป็นหน้าม้าตัวแทนจำหน่ายหรือคนมีเอี่ยว) จากคุณ : PastelSalad - [ 3 มิ.ย. 52 11:41:37 ]

ความคิดเห็นที่ 147 โพสแล้วหายตลอดเลย.... ขออภัยที่ต้องโพสเป็นรูปแทน แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 11:43:34 จากคุณ : DOS Shell - [ 3 มิ.ย. 52 11:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 148 กระทู้นี้ น่าสนใจดี จากคุณ : จินหยง - [ 3 มิ.ย. 52 11:44:31 ]

ความคิดเห็นที่ 149 Scenario ที่ 3 ไม่มีการพิสูจน์ และเครื่องนี้ทำงานไม่ได้จริง 1. เจ้าหน้าที่หลอกตัวเอง ว่ามีเครื่องมือดี ทำงานได้ประสิทธิภาพ แต่สักพักมีคนพบว่าสถิติการจับกุม หรือตรวจเจอระเบิดไม่ได้เพิ่มขึ้นจริงๆ คนเสียชีวิตจากระเบิดเท่าเดิม หรือการจับกุมผิดตัวเพิ่มพอๆ กับการจับกุมที่เพิ่มขึ้น แต่การจับได้จริงไม่ต่างจากเดิม 2. ประเทศสูญเสียภาษีอาการไปกับสิ่งไร้ประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ 3. มีประเทศอื่นเอาเรื่องนี้ไปพิสูจน์เอง แล้วประจานประเทศไทย หน่วยราชการไทย ว่าโดนหลอกเป็นที่ขำขันในประชาคมโลก 4. เจ้าหน้าที่แนวหน้าเสี่ยงมากกว่าเดิม เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเครื่องมือที่ใช้ทำงานได้จริง จากคุณ : Geneticist - [ 3 มิ.ย. 52 11:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตนครับ ไม่ควรใช้บรรทัดฐานส่วนบุคคลตัดสินคนอื่น การจะคิดไปเองให้ได้ผลออกมาแบบน่าสงสัยนั้น ทำได้ทั้งสองฝ่ายครับ สมมติ #146 สงสัยกรณีมีเอี่ยวในเครื่อง GT200 อีกฝ่ายก็อาจจะสงสัยว่ามีใครในกลุ่มผู้คัดค้าน มีเอี่ยวกับเครื่องรุ่นอื่น ... หรือ อาจจะคิดไปแรงกว่านั้นก็ได้ครับ จากคุณ : Phoenix032 - [ 3 มิ.ย. 52 11:48:36 ]

ความคิดเห็นที่ 151 ขอสงสัยอะไรสักนิดนะครับ   จาก คหที่ 21 กับ 91   เครื่องทั้ง  2 แบบ น่าจะมีการพิสูจน์ และทดสอบ ว่าสามารถใช้งานได้ในระดับใดเป็นที่เรียบร้อย และเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหมครับ เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ทางทหารใช้ ก็มีการทดสอบ และพิสูจน์แล้ว ว่าใช้ได้ดีเพียงใดใช่ไหมครับ  และหลายคน ถ้าไปตั้งใจค้นคว้าจริงๆ ก็จะสามารถเข้าใจหลักการทำงานได้เช่นกันใช่ไหมครับ   แล้วก็คาดว่า น่าจะมีหลายคนที่เข้าใจในหลักการทำงานของสิ่งเหล่านั้นได้ในระดับนึง แต่ทำไมอุปกณณ์ชิ้นนี้  ถึงไม่สามารถนำมาทดสอบ และพิสูจน์ได้ เหมือนอุปกรณ์ชิ้นอื่นหรือครับ    เพราะถ้าบอกว่าเพื่อความปลอดภัย  แล้วเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ทางทหารใช้  ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตรวจวัตถุระเบิด  กล้องในความมืด  และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีมา ทำไมยังมีการทดสอบ และพิสูจน์ได้อ่ะครับ และทุกวันนี้ก็ยังมีใช้กันอยู่ไม่ใช่หรือครับ แบบ  ตอนแรกผมก็ไม่สงสัยอะไรเท่าไหร่หรอกครับ  แต่ยิ่งอ่านแล้วยิ่ง งง อย่างที่อ่านแล้ว เขาก็มีบอกไว้แล้วนี่นา ว่าทดสอบแบบปิดก็ได้  แล้วถ้าไม่ได้ผลเท่าที่ควร ก็แจ้งหนังสือเวียน แล้วก็จัดหาอุปกรณ์ใหม่ที่ดีกว่าได้ไม่ใช่หรือครับ  โดยไม่ต้องประกาศให้ใครรับรู้ก้ได้     นี่น่าจะดีกว่าถ้าเทียบในเรื่องผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับไม่ใช่หรือครับ   แล้วถ้าหาก ไปสั่งซื้อเพิ่ม โดยที่ของเหล่านั้นใช้ไม่ได้ดังคำที่กล่าวอ้างมา  คนที่เสี่ยงภัย คือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่ใช่หรือครับ  และงบประมาณที่เสียไปในการซื้อของที่ไม่มีคุณภาพนี้ ไม่ยิ่งกว่าหรือครับ  เพราะต้องสั่งซื้อจำนวนมากแล้วใช้ไม่ได้ดีตามที่กล่าวอ้าง   สู้เอาเงินที่จะซื้อเพิ่มไปซื้อของที่ดีกว่าก็ได้ไม่ใช่หรือครับ แบบ สงสัยอ่ะครับ จากคุณ : WhoAmI - [ 3 มิ.ย. 52 11:49:28 ]

ความคิดเห็นที่ 153 ตอบคุณ PastelSalad ครับ จุดยืนของผมคือ ผมมองว่าเครื่องนี้เหมือนกล้องวงจรปิดตามห้างร้าน จากการใช้งานจริงพบว่าทำให้การโจรกรรมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (ไม่ว่าจะมาจากเหตุผลทางจิตวิทยา หรือทางวิทยาศาสตร์ก็ตาม) ผมก็ไม่เห็นเหตุผลอะไรที่จะมาพิสูจน์ว่า"ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถใช้จับคนร้ายได้จริงหรือไม่" เพราะการพิสูจน์เรื่องนี้ไม่ได้ให้ประโยชน์กับใคร จากคุณ : น้ำค้างในยามเช้า - [ 3 มิ.ย. 52 11:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 154 ตรรกของคุณน้ำค้างนี่ เป็นตรรกสมัยปราบคอมมิวนิสเลยแฮะ ให้เป็นลิงสามตัวปิดตาปิดปากปิดหู เอางั้นเรอะ ถ้าดี ผมก็ดีใจด้วย แต่มองในแง่กลับกัน ถ้าไอ้เครื่องมหัศจรรย์นี้มันเป็นของเก๊ คนที่ใช้ๆกันอยู่จะรู้สึกอย่างไร ให้ไปลาดตระเวนแนวหน้า ให้ปืนมากระบอก ถือปืนไปก็อุ่นใจ มีอาวุธไว้ป้องกันตัว ภัยไม่กล้ำกรายแน่ กลับฐานมา ปรากฎว่าหน่วยเหนือจ่ายปืน BB ให้ แล้วบอกกับคนที่ไปเดินเทิ่งๆว่า อ้าวก็ได้ผลนิ กลับมารอดปลอดภัย คนร้ายไม่กล้าแหยม คนที่ออกไปลาดตระเวน เสี่ยงชีวิต มาเจออย่างนี้จะว่าอย่างไร ประเด็นเรื่องคนร้ายรู้ความลับ เครื่องตรวจระเบิดแบบที่ใช้ๆกันเยอะแยะ ทั้ง CTX หรือ IMX ผู้คนเขารู้ละเอียดเชียว ว่าเครื่องทำงานอย่างไร ใช้อะไรเป็นตัวตรวจจับ มีทฤษฎีอะไรเป็นฐานรองรับ แถมรู้ข้อจำกัดกัน เปิดเผยรู้กันทั่วโลก ก็ยังใช้กันได้โดยไม่มีปัญหาอะไร เมื่อรู้ข้อจำกัดของเครื่อง ก็สามารถใช้วิธีอื่นๆเสริม ปิดจุดอ่อนได้ ไอ้ที่อยากรู้เรื่อง GT200 ก็ไม่ต้องละเอียดยิบ ถึงขนาดเอาไปทำระเบิดที่ตรวจไม่ได้ เอาแค่กว้างๆ พอให้เชื่อได้สักนิดว่ามันมีวิทยาศาสตร์รองรับจริงๆก็พอ แต่จนถึงบัดนี้ พยายามขุดแล้ว ก็ยังว่างเปล่า แล้วจะให้เชื่อว่าใช้งานได้จริงได้อย่างไร จากคุณ : alan the lamb - [ 3 มิ.ย. 52 11:53:08 ]

ความคิดเห็นที่ 155 รุปไม่มา T-T >>3. มีประเทศอื่นเอาเรื่องนี้ไปพิสูจน์เอง แล้วประจานประเทศไทย หน่วยราชการไทย ว่าโดนหลอกเป็นที่ขำขันในประชาคมโลก มีแล้ว Why is Thailand Throwing Away Money on Alpha 6? Link - http://sniffexquestions/บล้อคspot.com จากคุณ : DOS Shell - [ 3 มิ.ย. 52 11:56:19 ]

ความคิดเห็นที่ 156 โอเค พอจะเข้าใจ ตรรกะของหลายๆท่านที่ไม่อยากให้พิสูจน์ ยอมรับในความเห็นครับ ดังนั้น เมื่อไม่มีข้อมูลใดๆเพิ่มเติม ในเบื้องต้นอาจสรุปได้ว่า เครื่องนี้ใช้หลักการเดียวกับ Dowsing หรืออุปกรณ์ในงานล้างป่าช้า ซึ่งถ้าออกมาในลักษณะนี้ก็พอรับได้ครับ  เรื่องบางอย่างมันก็พิสูจน์ไม่ได้จริงๆ (ไม่เชื่ออย่าลบหลู่) สรุปแบบนี้ใช้ได้มั๊ยครับ จากคุณ : ตามติด (RHP) - [ 3 มิ.ย. 52 11:58:51 ]

ความคิดเห็นที่ 157 มารับข้อมูลด้วยคนครับ จากคุณ : ninji - [ 3 มิ.ย. 52 12:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 158 เห็นด้วยกับทั้งสองฝ่าย ... ความเห็นที่ 151 น่าสนใจมากครับ จากคุณ : Phoenix032 - [ 3 มิ.ย. 52 12:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 159 ผมว่า คนที่ได้รับผลดีที่สุด ถ้าเรื่องนี้ได้ทำการทดลองอย่างโปร่งใส คือคนที่ลงทำงานในพื้นที่นะครับ ไม่ใช่คนที่เสียภาษี เพราะมันคงประหยัดภาษีไปไม่เท่าไหร่ แต่มันจะช่วยรักษาชีวิตและเวลา ของคนที่ปฏิบัติงานได้อย่างมาก ในฐานะคนที่ปฎิบัติงานในพื้นที่ และได้ใช้เครื่องนี้ เช่นคุณ กกร่ม vandalism when i'm หรือคนอื่นๆ ควรจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการทดลองด้วยซ๊ำ เพราะมันเกี่ยวพันกับการทำงานของคุณโดยตรง ถ้าคุณรักชีวิตของเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายของคุณ หรือรักประเทศชาติอย่างแรงกล้าแล้ว ยิ่งต้องทดลองครับ จะได้หายสงสัย หากเครื่องดีจริง จะเป็นการส่งเสริมขวัญและกำลังใจได้อย่างดีเยี่ยม หากเครื่องไม่ดี คุณจะเป็นผู้ที่เปิดเผยความจริงต่อเพื่อนพี่น้องของเรา และจะได้ไม่มีใครฝากชีวิตไว้กับเครื่องนี้ หรือไปเสียเวลาใช้มัน หรือว่า การทดลองนี้ เป็นการไม่รักชาติอย่างนั้นหรือครับ เป็นการทำลายกำลังใจคนปฎิบัติหน้าที่หรือครับ ผมอยากรู้ ? แล้วการที่ปล่อยให้ใช้เครื่องนี้ไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า เป็นการรักชาติ ? เครื่องจะใช้งานได้ดีขนาดไหน แม่นยำเท่าไหร่ ลดอัตราเสี่ยงลงไปเท่าไหร่ ผมในฐานะที่ไม่ได้ทำงานด้านนี้ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียมากเท่าพวกคุณ ที่บางทีต้องเดิมพันชีวิต หรือเสียเวลา ไว้กับเครื่องมือที่ไม่รู้ว่าใช้งานได้จริงแค่ไหน เป็นผม ผมก็อยากจะรู้ว่าเสื้อกันกระสุนที่รัฐซื้อมาให้ใช้นั้น กันกระสุนได้จริง ไม่ใช่กันได้เพราะบังเอิญ หรือกันได้มั่งไม่ได้มั่งแล้วแต่ดวง หรือพลังบางอย่างของคนใส่ หากพิสูจน์แล้วเรื่องนี้เป็นการทำงานโดยใช้อะไรอย่างอื่น ที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ยิ่งดี เพราะเราจะได้นำงบประมาณมุ่งไปที่การพัฒนาคน ที่มีความสามารถพิเศษ เพิ่มศักยภาพเขาเป็นการเฉพาะ แทนที่จะเอางบไปซื้อเครื่องมือ หรือว่าไม่จริงครับ ส่วนเรื่องความลับการตรวจหาเนี่ยกลัวโจรจะรู้เนี่ย ถึงเค้าจะรู้หลักการ ถ้าเครื่องตรวจจับได้จริง เค้าจะเลี่ยงได้ยังไงล่ะครับ เหมือนเครื่องตรวจระเบิดตามสนามบิน ผมแน่ใจว่าผู้ก่อการร้ายทั่วโลก เข้าถึงหลักการของเครื่องพวกนี้ได้แน่นอน แล้วยังไงล่ะครับ เค้าเลี่ยงมันได้เหรอ แล้วถ้าเลี่ยงได้ก็พัฒนาปิดช่องโหว่มันสิครับ หรือว่าเครื่องนี้จะไม่พัฒนาแล้ว ปล. การ์ดที่ใส่เป็นแบบไหน แถบแม่เหล็ก, smartcard, contactless ? ซึ่งทุกแบบ ต้องใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนหนึ่งในการทำงาน หรืออ่านค่าเอาข้อมูลมันออกมา แน่นอน ต้องมีแบตเตอรี่ พลังจากไฟฟ้าสถิตย์ หรือพวกไฟฉายเขย่า มันไม่พอแน่นอน ยกเว้นจะเป็นพวกการ์ดเจาะรู พิมพ์ผิดซะเยอะ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 12:25:43 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 12:23:16 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 12:19:36 จากคุณ : NHs - [ 3 มิ.ย. 52 12:14:36 ]

ความคิดเห็นที่ 160 เรื่องทางเทคนิคก็ว่ากันไป   สารพัดที่หาอะไรมาสนับสนุนกัน   ก็ว่ากันไป แต่ต้องเข้าใจอย่างนึงนะครับ   ว่าคนที่ทำงานจริงๆ เค้าไม่ได้กินแกลบ  ไม่ต้องเป็นห่วงถึงขนาด  ว่าเค้าจะยึดเอาเครื่องเป็นสรณะ หรอก ความคุ้มค่าของเครื่องไม่ใช่หรือ ที่พูดกัน     ี่ จากคุณ : เข็มแม่เหล็ก - [ 3 มิ.ย. 52 12:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ขอลงชื่อร่วมสังเกตการณ์ครับ จากคุณ : กริธ - [ 3 มิ.ย. 52 12:25:23 ]

ความคิดเห็นที่ 162 อ่านกระทู้นี้แล้วนึกถึงสุภาษิตไทยเลย แกว่งเท้าหาเสี้ยน ฟื้นฝอยหาตะเข็บ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง แต่นักวิทยาศาสตร์ที่แท้ก็ควรทำสิ่งตรงข้ามกับสุภาษิตไทยเหล่านี้ ดูๆ ไปเรื่องนี้คล้ายกับเรื่องของศาสนา กับ วิทยาศาสตร์ ฝั่งหนึ่งเอาความเชื่อและศรัทธา อีกฝั่งเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ แต่ ห้องนี้เป็นห้องวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ก็ย่อมมีนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร อยู่กันเยอะ แล้วก็ตั้งข้อสงสัยกับหลักการทำงานอันแสนคลุมเคลือของเจ้าเครื่องมือนี้ พออีกฝั่งอ้างในประเด็นทางเทคโนโลยีและหลักการทางวิทยาศาสตร์ของเจ้าเครื่องนี้ไม่ได้ ก็หันไปจับเอาเหตุผลด้านความมั่นคงบ้าง ด้านจิตวิทยาบ้าง ด้านพฤติกรรมเชิงสังคมบ้าง มาอ้างแทน ยังดีที่ไม่เอาเรื่องบาปบุญ นรกสวรรค์มาอ้าง การค้นหาความจริงอย่างบริสุทธิ์ใจเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ที่แท้ควรทำไม่ใช่หรือ มันไม่ใช่เรื่องที่ทำแล้วใครได้อะไร ใครเสียอะไร แต่เป็นเรื่องของการค้นหาความจริง ถ้าเรามัวแต่คิดว่าก็ของมันดีอยู่แล้วไม่ต้องไปยุ่งกับมันหรอก ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์จะเกิดได้อย่างไร เปรียบเทียบนิดนึง... คุณเชื่อไหมครับว่าผีมีจริง เอาเหอะ มันจะมีจริงไม่มีจริงไม่รู้ แต่ในสังคมที่นับถือผี ผีเป็นกลไกควบคุมความสงบเรียบร้อย คนจะไม่กล้าทำผิดเพราะกลัวผีลงโทษ คนไม่กล้าตัดไม้ทำลายป่า คนไม่กล้าลักลอบทำผิดประเวณี ฯลฯ สังคมสงบสุข เรียบร้อย ยังงี้แล้วเราก็ไม่ควรไปพิสูจน์หรอกว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติต่างๆ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร พิสูจน์ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา โยนให้เป็นเรื่องของผีให้หมด ถ้าคนไม่เชื่อว่ามีผีจริงซะแล้วก็จะทำผิดมากขึ้น เห็นมั้ย การพิสูจน์เรื่องนี้ไม่ได้ให้ประโยชน์กับใครเลย แบบนี้จะดีหรือ อย่าลืมว่าเรากำลังคุยกันในทางวิทยาศาสตร์นะครับ จากคุณ : ดิบ - [ 3 มิ.ย. 52 12:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 163 ลบดีกว่าเดี๋ยวจะผิดใจกะทหารที่เข้ามาตอบ เอาเป็นว่าทหารชั้นผู้น้อยที่ัรับคำสั่งมาอย่างไร เขาไม่กล้าหือนายหรอกครับ มันผิดธรรมเนียมทหาร จริงไหม แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 52 13:04:02 จากคุณ : Geneticist - [ 3 มิ.ย. 52 12:35:27 ]