ความคิดเห็นที่ 1 Delusions of parasitosis (DP) เป็นอาการหลงผิดแบบ somatic type อย่างหนึ่ง คือ อาการหลงผิดที่ผู้ป่วยมีความเชื่ออย่างฝังใจว่า  ตัวเองถูกรบกวนด้วยตัวพยาธิหรือแมลงต่างๆ  เจาะ กัด หรือไต่ตามผิวหนัง ผู้ป่วยมักแสดงอาการย้ำคิดย้ำทำที่จะทำลายตัวปรสิตนั้นออกไป อาจจะใช้การแกะเกา  ใช้อุปกรณ์ขุดเจาะผิวหนัง การใช้ยาฆ่าแมลง บางรายอาจใช้ไฟหรือเทียนลนเพื่อจะไล่แมลงออกไป ผู้ป่วยอาจนำของที่คิดว่าเป็นแมลง เช่น เศษผม ผิวหนัง เลือดแห้งๆ ใส่มาในกล่องเพื่อให้ดู เรียกว่า "matchbox sign" ผิวหนังจะมีรอยแกะเกา (excoriations), ตุ่มนูนจากการเกา (prurigo nodules) หรือแผล (ulcerations) โรคหลงผิดแบบนี้บางทีจะพบว่าคนในครอบครัวก็มีอาการด้วย เรียกว่า "folie a deux "บางทีพบว่าเป็นทั้งครอบครัวเลยก็มี (คล้ายๆอุปทานหมู่) (มีอาการอย่างหนึ่ง ที่คล้ายๆ DP คือ "formication" แต่แยกจากกันตรงที่ formication จะเป็นความรู้สึกเหมือนมีแมลงมาไต่ กัดหรือ ต่อย แต่ผู้ป่วยจะไม่มั่นใจว่ามีจริงหรือไม่ อาจพบในคนไข้ที่ใช้ยาเสพติดอย่าง ยาบ้า หรือ amphetamine ส่วนผู้ที่ติดโคเคนที่มีความรู้สึกว่าแมลงคลานอยู่ในผิวหนังเรียก ว่า cocaine bugs หรือ coke bugs)   รอยแกะเกา (excoriations)ของผู้ป่วย   Delusions of parasitosis แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 53 00:19:07 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 53 23:40:04 จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:37:22

ความคิดเห็นที่ 2 การวินิจฉัย และการวินิจฉัยแยกโรค ลำดับแรกต้องแยกจากโรคที่มีการติดเชื้อจริงๆ เช่น โรคหิด เหา และโรคเรื้อรังที่มีอาการคันตามผิวหนัง เช่น โรคตับ โรคไตวายเรื้อรัง  HIV โรคผิวหนังบางตัว เช่น dermatitis herpetiformis  รวมทั้งโรคจิตเภทซึ่งอาจจะมีอาการหวาดระแวงคิดว่าโดนแมลงรุกรานด้วย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ไม่มีการตรวจที่ยืนยันว่าเป็นโรคนี้ เพียงแต่ต้องทำเพื่อแยกโรคอื่นๆออกไป ได้แก่ การตรวจผิวหนัง ว่ามีการติดเชื้อของหิด เหา เชื้อราหรือไม่  ตรวจทางระบบประสาท ตรวจเลือดดูว่ามีโรคอื่นที่ทำให้คันหรือไม่ เช่น ตรวจการทำงานของ ตับ ไต ไทรอยด์  ตรวจหาสารเสพติด เช่น แอมเฟตามีน  โคเคน สิ่งที่สำคัญก็ควรทำการตัดชิ้นเนื้อผิวหนัง (skin biopsy) ไปตรวจ เพื่อจะช่วยวินิจฉัยบางโรคที่ทำให้คัน เช่น  dermatitis herpetiformis จะมีลักษณะเฉพาะ และเมื่อตรวจชิ้นเนื้อว่าปกติ ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจโรคของตัวเองมากขึ้น การรักษา ยาที่ใช้มานานในการรักษา DP คือ pimozide โดยออกฤทธิ์ต้านระบบ central opiate receptor ทำให้ลดอาการคัน และลด formication และตัวใหม่ๆที่ใช้ก็คือ olanzapine และ risperidone เนื่องจาก pimozide มีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง นอกจากนี้ควรรักษาแบบประคับประคองจิตใจของคนไข้ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้แกล้งป่วยหรือจะหลอกลวงใคร บางทีคนไข้ก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองนั้นป่วยทางจิต ซึ่งเป็นธรรมดา http://dermatology.cdlib.org/146/review/delusions/robles.html http://www.doctor.or.th/node/7903 http://emedicine.medscape.com/article/1121818-overview รูป "matchbox sign"ของสะสมที่ผู้ป่วยนำมาให้แพทย์โดยคิดว่าเป็นแมลง จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:39:09

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับคนไข้ในข่าว(ลำปาง) ...  ได้คุยกับคุณหมอผิวหนังที่ตรวจคนไข้ เธอบอกว่า คนไข้พูดคุยรู้เรื่องดี แต่มีความเชื่อฝังใจจริงๆอย่างในข่าวว่า ตรวจร่างกายแล้วไม่ได้ตรงกับที่เล่ามา อย่างคนไข้บอกว่ามีแมลงเป็นร้อยๆ บินออกมาจากศีรษะ แต่ก็ไม่พบว่ามีแผลหรือรอยที่ศีรษะแม้แต่แผลเดียว ตามร่างกายดูสะอาดสะอ้านพอสมควร (ตามปกติแล้ว คนไข้ที่พบไข่แมลงตามร่างกายจะ poor hygiene สุดๆ)  มีรอยแกะเกา (excoriations) ตุ่มนูนจากการเกา (prurigo nodules)แห้งๆตามแขนขา... มีแผลเดียวที่มีการอักเสบ (ตอนนี้รักษาหายแล้ว) ไม่พบมีไข่หรือตัวแมลงที่แผลแต่อย่างใด คนไข้ได้รับการทำ skin biopsy รวมทั้งการตรวจห้องปฏิบัติการเพื่อแยกโรคอื่นๆไปแล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆในเรื่องส่วนตัวคงไม่กล่าวถึงค่ะ สรุปว่าคนไข้รายนี้ป่วยเป็นโรคทางจิตเวชตามที่อธิบายมาจริงๆค่ะ  ซึ่งเป็นรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะตัวเขาไม่ได้แกล้ง คิดว่าตัวเองป่วยจริงๆ เพราะโรคนี้ถ้าเราเป็นจริงๆก็คงทรมานน่าดู เคยอ่านรายงานเจอว่ามีคนไข้ฆ่าตัวตายเพราะโรคหลงผิดแบบนี้ด้วยค่ะ ส่วนถ้าใครกลัวว่าวินิจฉัยโรคจะมั่ว ขอบอกว่ามันมี  criteria ในการวินิจฉัยอยู่ค่ะ และเคสนี้ก็เป็นที่สนใจ มีอาจารย์หลายท่านมาช่วยดู ตอนนี้คนไข้อยู่ในห้องแยก อาการดีขึ้นแล้วค่ะ อีกอย่างก็ไม่มีใครเห็นแมลงที่ว่าเช่นกัน ^ ^ บางท่านคิดว่า โรคจิตหลงผิด คือ "คนบ้า" ไม่ใช่นะคะ  ผู้ป่วยกลุ่มนี้เขาสามารถใช้ชีวิตปกติกับคนอื่นๆ ได้ พูดจารู้เรื่อง ทำอะไรได้ทุกอย่างเหมือนคนทั่วไป เนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้คิดว่าตัวเองเจ็บป่วย บางทีจึงไม่เข้ารับการรักษาค่ะ ที่เป็นเรื่องก็คงเพราะสื่อมากกว่า อย่างคลิปเจ้ากรรมนี้ ใครเป็นคนถ่ายก็ไม่รู้ เราว่าตัวแมลงมันแปะบนผิวหนังแท้ๆ ไม่ได้ไชออกมาเสียหน่อย   แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 53 23:43:47 จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:42:05

ความคิดเห็นที่ 4 โรคผิวหนังที่เกี่ยวกับจิตใจอื่นๆ Morgellons disease ผู้ป่วยโรคนี้จะมีความเชื่อฝังใจว่ามีเส้นใยไฟเบอร์ หรือวัสดุอื่นๆ ฝังหรือผุดออกมาจากผิวหนัง ผู้ป่วยจะแกะ และขุดผิวหนัง อาจใช้อุปกรณ์อื่นๆ เช่น แหนบ ที่ตัดเล็บ ขุดสิ่งที่ตัวเองคิดว่าฝังอยู่   พบ  matchbox sign คือการสะสมเศษวัสดุต่างๆคล้าย DP เหมือนกัน ผู้ป่วยโรคนี้จะแกะเกาผิวหนังจนเกิดแผลรูปร่างแปลกๆ เป็นหนองเป็นตุ่ม ช้ำเลือดช้ำหนอง จนดูเหมือนเป็นโรคผิวหนัง อาจมีอาการอื่น เช่น เหนื่อยล้า สมาธิสั้น สาเหตุของโรคยังเป็นที่ถกเถียง ว่าเป็นอาการทางจิตที่เกิดจากการใช้สารเคมี  เชื้อโรคบางตัว การใช้อาวุธชีวภาพ การกระทำของมนุษย์ต่างดาว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเกี่ยวกับทฤษฎีต่างๆ เหล่านี้ ส่วนการรักษาไม่มียาทำให้หายขาด ได้แต่ทำจิตบำบัด รักษาแผลที่อักเสบ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:47:23

ความคิดเห็นที่ 5 Body dysmorphic disorders (BDD หรือ dysmorphophobia) ผู้ป่วยกังวลว่ามีความผิดปกติของผิวหนัง หรือมีความผิดปกติ หรืออวัยวะไม่ได้สัดส่วน เช่น จมูก, เปลือกตา, คิ้ว, ริมฝีปาก, ฟัน, เต้านม, อวัยวะเพศ บางคนกังวลเรื่องผมบาง, ขนดก, รูขุมขนโต  ซึ่งมักจะทำให้แพทย์ผิวหนังปวดหัวอย่างมาก โรคนี้คุณกิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เคยเขียนไว้ละเอียดในกระทู้นี้ค่ะ http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/03/X9015345/X9015345.html จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:48:39

ความคิดเห็นที่ 6 DSM-IV หรือเปล่าครับ เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันนะ แปลกดี จากคุณ : บิดพริ้ว เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:49:36

ความคิดเห็นที่ 7 รูป 2 แอบหลอน... จากคุณ : haman_zaa เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:54:19

ความคิดเห็นที่ 8 ไหนๆก็ ผมเสริมอีกโรคครับ Hypochondriasis โรคที่ผู้ป่วยชอบคิดว่าเป็นตนเองเป็นโรคนั้นโรคนี้อยู่เสมอ ผู้ป่วยโรคนี้มีความคิดหรือความหมกมุ่นอยู่กับความกลัวว่าตนเองจะมีโรคร้ายแรง จากการเข้าใจอาการทางร่างกายไม่ถูกต้อง ความเชื่อดังกล่าวไม่รุนแรงถึงขั้นหลงผิดดังใน Delusional disorder, Somatic type และมิได้เป็นความหมกมุ่นสนใจแต่เฉพาะรูปร่างหน้าตา ดังใน Body dysmorphic disorder ความหมกมุ่นนี้มีอยู่ตลอด แม้ว่าจะได้รับการตรวจและยืนยันตามสมควร อาการเป็นนานอย่างน้อย 6 เดือน ความหมกมุ่นนี้ทำให้ผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมานอย่างมีความสำคัญทางการแพทย์หรือกิจกรรมทางด้านสังคม การงาน หรือด้านอื่นๆ ที่สำคัญบกพร่องลง ความหมกมุ่นนี้ไม่เข้าได้ดีกับโรควิตกกังวล โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคตื่นตระหนก (Panic disorder) โรคซึ้มเศร้า MDD โรคกังวลจากการแยกจาก (Separation anxiety) หรือโรค Somatoform อื่นๆ (จากเกณฑ์วินิจฉัยของ DSM-IV-TR ครับ) แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 53 23:58:06 จากคุณ : บิดพริ้ว เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:56:36

ความคิดเห็นที่ 9 หวัดดีค่าคุณหมูเหมียว เย้ๆ มีทู้เราด้วยอ่า จากคุณ : กิ๊ฟไม่ใช่ตุ๊กตา เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 23:59:10

ความคิดเห็นที่ 10 กรณีศึกษาที่น่าสนใจทีเดียว จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 00:03:56

ความคิดเห็นที่ 11 Olfactory reference syndrome (delusions of bromhidrosis, โรคจิตหลงผิดว่ามีกลิ่นตัว) ผู้ป่วยจะวิตกกังวลว่าจะมีกลิ่นตัว,กลิ่นปาก หรือกลิ่นจากช่องคลอด มากกว่าปกติ ทำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการเข้าสังคม เก็บเนื้อเก็บตัว   ย้ำคิด ย้ำทำ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยกว่าปกติ มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการลมชักจากสมองส่วน  temporalด้านขวา  ว่าอาการหลงผิดเรื้อรังว่าร่างกายมีกลิ่นตัว จึงมีข้อสันนิษฐานว่าภาวะนี้อาจมีความสัมพันธ์ระหว่างรอยโรคที่สมองซีกขวา ( right hemisphere lesions) จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 00:11:29

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีค่ะ คุณ บิดพริ้ว ขอบคุณที่เพิ่มข้อมูลให้นะคะ คุณ haman_zaa รูปใหญ่หลอนกว่านี้อีกค่า นี่ย่อแล้ว คุณน้องกิ๊ฟ กระทู้นี้ที่เอามาแปะ ชอบสุดๆเลยค่า ^ ^ คุณ~รักความรุนแรง~  เพื่อนหมอ skin ยังเล่าถึงเคสอื่นด้วยค่ะ ไว้เธออ่านมาเจอทู้นี้ ค่อยให้เจ้าตัวเล่าละกัน เขียนพอหอมปากหอมคอแค่นี้ละกันค่ะ  ความไม่มีโรค (ทั้งกายและใจ) เป็นลาภที่ประเสริฐจริงๆ ^ ^ รูป “matchbox sign” ที่คนไข้พยายามเอามาให้แพทย์ดู http://www.aafp.org/afp/2001/1201/p1873.html จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 00:12:02

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นกระทู้ที่กำลังต้องการในหว้ากอทีเดียว //แจกกีบ แนะนำ เก็บเข้าคลังกระทู้ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 00:18:23

ความคิดเห็นที่ 14 ปัญหาเรื่องรายละเอียดของผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเวลาออกข่าวแพทย์มักไม่บอกทั้งหมด เพื่อปกป้องผู้ป่วยตามสิทธิ และตามจรรยาบรรณของแพทย์ ก็เลยทำให้ข่าวไม่เคลียร์ สำหรับคนทั่วไป ดังนั้นสื่อจึงไปสัมภาษณ์กับทางผู้ป่วยเป็นหลัก ก็เลยยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปกันใหญ่ จากคุณ : vandalism เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 00:41:04

ความคิดเห็นที่ 15 โรค ฮินามิซาว่า มีที่มาแบบนี้นี่เอง ขอบคุณมากครับ จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 01:35:02

ความคิดเห็นที่ 16 มาให้ข้อมูลด้วยนะครับ โรคนี้ ถูกนำไปแต่งเป็นการ์ตูน ด้วย เป็นการ์ตูนดังมากๆในช่วงนึงเลยแหละ ชื่อเรื่อง แว่วเสียงเรไร ชื่ออย่างเป็นทางการ : ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง อาการของโรคในการ์ตูนคือ คนที่ถูกเกาคิดว่ามีหนอนทะลักออกจากตัว คันๆๆ เลยเกาไม่หยุด เอามือเกาคอจนตายเลยครับ เนื้อหาในเรื่องออกแนว ปริศนา ลึกลับ หลอน จริตนิดๆ ให้ผู้อ่านหาคำอธิบายเอง สำหรับผู้ที่สนใจโรคนี้ แนะนำให้อ่านครับ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 53 01:40:47 จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 01:37:59

ความคิดเห็นที่ 17 ดูในกระทู้แนะนำ แล้วรู้สึกว่า สรยุทธนี่มันเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณจริงๆ ปล. หมอโดนด่าฟรีอีกแล้วมั้งเนี่ย จากคุณ : Mdiic~* เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 02:44:23

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมาก ครับ ที่ช่วยนำมาฝากเพื่อนๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 03:07:05

ความคิดเห็นที่ 19 ญาติของน้องที่ทำงาน มีอาการคล้าย re.8 คือไปหาหมอทุกสัปดาห์ แล้วบอกหมอว่าสงสัยว่าตัวเองเป็นมะเร็งตรงนั้น ตรงนี้ เป็นโรคนั้น โรคนี้ หมอก็ตรวจให้ แต่ไม่เจออะไร เค้าก็แข็งแรงดี ญาติๆเค้าคิดว่าคนนี้แค่เพี้ยนๆ แถมมีฐานะดี ก็เลยไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรกับเค้ามาก จากคุณ : == พิ้งค์กี้ == เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 08:46:51

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณน้องหมอหนึ่งมากค่ะ กำลังคาใจอยู่พอดี ทั้งข้อมูลจากข่าว ภาพจากคลิปและบทสัมภาษณ์ต่างๆ จากคุณ : HeLL_Is_HeRe เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 08:53:13

ความคิดเห็นที่ 21 มีหนังเรื่องนึง เกี่ยวกะโรคนี้เลย BUG (2006) http://www.imdb.com/title/tt0470705/ หนังสนุกมาก การแสดงสุดยอด เชื่อเลยว่าจิตจริงๆ กำกับโดย William Friedkin ผู้กำกับ The Exorcist (1973) เชียวนา รับรองว่าหนังเจ๋งจริงๆ เมืองไทยมีขายตามร้านทั่วไป ราคาไม่เกิน 89 บาท จากคุณ : นังหนูซู่ซ่า เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 09:38:34

ความคิดเห็นที่ 22 เชื่อดิ ทีมงานเฮีย ส. ก็เข้ามาอ่านกระทู้นี้...... แต่จะทำเนียนๆ ไม่เอาข้อมูลในนี้ไปออกรายการตอนเช้าๆแกหรอก.... แกจะทำเนียนๆ ให้เรื่องมันซาๆ แล้วก็หายไปกับสังคม รอเรื่องใหม่มาให้แกจับมาปั่นเล่นอีก...... สาธุ..... จากคุณ : Sakurachan (Tomoeda) เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 09:48:19

ความคิดเห็นที่ 23   ลงชื่อครับ จากคุณ : นักปาด..มิรู้พลั้ง เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 09:51:01

ความคิดเห็นที่ 24   น่ากลัวอ่ะ จากคุณ : ทามาก็อดอุนจิ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 10:06:50

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตให้แล้วครับ ความรู้ดีๆแบบนี้ จะต้องแจกจ่ายให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง ขอบคุณครับ จากคุณ : Paultinus เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 11:27:54

ความคิดเห็นที่ 27 ดูดไอซ์ ก็มีแมลง ออกจากแขนเหมือนกัน เห็นมากับตา (ว่ามันหลอน!!) จากคุณ : whitespacebar (whitespacebar) เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 12:21:49

ความคิดเห็นที่ 28 2""""""""""""" อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 12:31:06

ความคิดเห็นที่ 29 ปัญหาต่อไป คือคนไข้จะอยู่ในสังคมได้ไหม คอยดูกันต่อไป คนไทยมีทัศนะคติแปลกๆ กับโรคทางจิต ไม่ยอมรับ ไม่ให้โอกาส รังเกียจคนป่วย ในขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยยอมพาคนไข้ไปรักษาให้ถูกต้อง คนไข้ที่ป่วยเล็กน้อยก็โดนมองเป็นตัวประหลาด ไม่ได้โอกาสทางสังคม ขณะที่คนไข้หนักๆ ก็ปล่อยให้เดินเพ่นพ่าน ไปทำร้ายผู้คนเขา จนถึงตายก็หลายครั้ง และก็ไม่มีคนรับผิดชอบ จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 12:43:21

ความคิดเห็นที่ 30 สุดยอด ขอบคุณมากๆจ้า แวะมาโหวตก่อน ทั้งกระทู้นี้และกระทู้ด้านบนด้วย จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 12:51:20

ความคิดเห็นที่ 31 นึกถึงหนังที่ Ashley Judd เล่น เรื่อง Bug จากคุณ : Anzopika เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 12:53:39

ความคิดเห็นที่ 32 อยากรู้ว่าเป็นกันทั้งบ้านหรือเปล่า เพราะแม่คนป่วยก็บอกเองว่าบินออกมาแล้ว200-300 ตัวเนี่ย จากคุณ : บุรี เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 12:58:10

ความคิดเห็นที่ 33 นึกถึง Animation เรื่อง A Scanner Darkly ขึ้นมาเลย http://www.youtube.com/watch?v=xnXk_ykK_bw แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 53 13:43:03 จากคุณ : kee20th เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 13:42:37

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบอ่านกระทู้แบบนี้มากๆ เลยค่ะ :) จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 15:47:36

ความคิดเห็นที่ 35 สนับสนุนๆ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 53 16:24:55 จากคุณ : dip kid เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 16:14:22

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณค่ะ เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากเลย แต่อยากได้เพิ่มอีกนิดว่า เกณฑ์ที่ใช้มาจาก DSM , ICD หรือเกณฑ์ไหนน่ะ เหมือนที่คุณบิดพริ้วกล่าวน่ะ เผื่อเวลานำไปประกอบข้อมูลอื่น จะได้แยกแยะแต่ละประเภทได้ง่ายขึ้น และสามารถอ้างได้ค่ะว่า อิงจากเกณฑ์ใด แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 53 16:33:40 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 16:32:22

ความคิดเห็นที่ 37 คิดถึงหนังเรื่อง a scanner darkly เหมือนคห 33 เลย จากคุณ : raulpapa เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 19:20:41

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณครับ ^ ^ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 20:34:53

ความคิดเห็นที่ 39 ตอบคุณ บุรี แม่คนไข้เขาไม่ได้ "เห็น" ด้วยตาค่ะ แต่เขา "เชื่อ" ที่ลูกชายบอก บ้านนี้ป่วยคนเดียวค่ะ ตอบคุณ ขี้เหงาเอาแต่ใจ สำหรับเกณฑ์ในการวินิจฉัยนั้น เท่าที่อ่านมาค่อนข้างซับซ้อนพอสมควรค่ะ เพราะว่าภาวะนี้อาจไม่ได้เจอเดี่ยว ๆ ถ้าเป็นภาวะ primary delusional parasitosisจริงๆ จะเข้าได้กับ "delusional disorder, somatic type" ของ DSM-IV ซึ่งต้อง exclude โรคหรือภาวะจิตเวชอื่นๆที่เจอร่วมกันออกไป ถ้าเป็น  seconddry delusional parasitosis ก็ต้องแยกอีกว่าเป็น organic หรือ functional น่ะค่ะ... ไม่รู้จะรู้ไปทำไม ปวดหัว - - " ถ้าสนใจจริงๆลองดูที่ http://bjp.rcpsych.org/cgi/reprint/191/3/198.pdf นะคะ ตรง Appendix1 (ยาวมาก) นี่ตัดมาบางส่วน จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 22:40:36

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพของ ความเห็นที่2 น่ากลัวจังค่ะ จากคุณ : athena_b เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 22:49:52

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาอ่านจ้า... ได้ความรู้มากมาย แต่คืนนี้คงอ่านไม่จบ ไว้ต่อพรุ่งนี้ดีกว่า ฟิ้วๆ จากคุณ : มหาโจรแห่งบ้านลี้ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 23:42:46

ความคิดเห็นที่ 42 รูป2น่ากลัวมากครับ จากคุณ : บราวนี่ชีสเค้กท็อปปิ้งวิคครีม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 05:50:10

ความคิดเห็นที่ 43   เห็นความเห็นแนะนำในบางเวปแล้วก็เหนื่อยแทน แบบว่าเชื่อกูเกิ้ลกับวิกิมากว่าหมอเนี่ย ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน จากคุณ : Busy_Mommy เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 06:53:27

ความคิดเห็นที่ 44 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 09:33:01

ความคิดเห็นที่ 45 gr8 thx จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 11:42:52

ความคิดเห็นที่ 46 งงที่ว่า ไม่มีการไปเล่นข่าวนี้ต่อด้วย พอหมอออกมาบอกแล้วก็จบเลย ทำเงียบๆไว้ ไม่มีภาพข่าวอาการปัจจุบันของผู้ป่วยให้เห็น จากคุณ : doxday เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 18:40:43

ความคิดเห็นที่ 47 oh....yeah จากคุณ : thaiMBA เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 20:02:59

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณสำหรับการค้นคว้าครับ ^^ ... จากคุณ : yibby เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 20:21:36

ความคิดเห็นที่ 49   ความคิดเห็นที่ 46 งงที่ว่า ไม่มีการไปเล่นข่าวนี้ต่อด้วย พอหมอออกมาบอกแล้วก็จบเลย ทำเงียบๆไว้ ไม่มีภาพข่าวอาการปัจจุบันของผู้ป่วยให้เห็น ตอบ เพราะสื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นเรื่องที่เกิดจากโรคทางจิตของผู้ป่วยเอง และคณะแพทย์ขอไม่ให้ไปรบกวนผู้ป่วย เพราะจะทำให้หายช้า แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว สรุปว่าสื่อก็มีจรรยาบรรณของสื่อ รู้ว่าแค่ไหนควรหยุด ก็หยุดค่ะ ไม่ได้เอาแต่ขายข่าวอย่างเดียว จากคุณ : nana เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 21:45:53 A:61.7.155.139 X: TicketID:275048

ความคิดเห็นที่ 50 แล้วตกลงมันมีคนไปขอหวยไหมอ่ะ?? จากคุณ : ปลาทองมองแมว เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 23:05:46

ความคิดเห็นที่ 51 เห็นแล้วนึกถึงหนังเรื่อง BUG อย่างที่ คห 21 แนะนำเลย แถมเป็นโรคที่แพร่เชื้อให้คนที่อยู่ด้วยไ้ด้อีกด้วย (โดยการอุปทานหมู่) หนังสนุกดี พระเอกเล่นเก๊งเก่ง จากคุณ : ปูเทียมไก่ชุบ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 23:10:18

ความคิดเห็นที่ 52 โรคเกี่ยวกับตับก็มีอาการคันผิวด้วยเหรอ?  หมอไม่เคยบอกแฮ่ะ จากคุณ : ลูกป๋าโย เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 23:32:52

ความคิดเห็นที่ 53 ... อืม อ่านทบทวนความรู้ที่ร่ำเรียนมา... จากคุณ : Tortar_magic เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 11:37:27

ความคิดเห็นที่ 54 Thank you จากคุณ : Dream on friday เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 20:45:31

ความคิดเห็นที่ 55 อืม........หลอน.น.น.น.น.......สุดๆ...จนได้เรื่อง....... จากคุณ : มอกก๋ายมา เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 16:41:56

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับบทความครับ จากคุณ : ิBETARA (BETARA) เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 17:11:45

ความคิดเห็นที่ 57 <<<ถามหน่อยคะเพื่อนเรามีอาการแบบนี้เป็นโรคจิตอ่อนๆหรือป่าวคะ?>>> จากคุณ : PoonfaH เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 22:55:28

ความคิดเห็นที่ 58 <<<ถามหน่อยคะเพื่อนเรามีอาการแบบนี้เป็นโรคจิตอ่อนๆหรือป่าวคะ?>>> จากคุณ : PoonfaH เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 22:56:08

ความคิดเห็นที่ 59 ถามหน่อยคะเพื่อนเรามีอาการแบบนี้เป็นโรคจิตอ่อนๆหรือป่าวคะ? จากคุณ : PoonfaH เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 22:59:37

ความคิดเห็นที่ 60 ชนิดของโรคจิตหลงผิด Erotomanic Type: หลงผิดว่ามีคนมาหลงรัก ซึ่งมักเป็นผู้ที่มีสถานภาพสูงกว่าผู้ป่วย Grandiose Type: หลงผิดว่าตนเองมีคุณค่ามาก มีอำนาจมาก มีความรู้สูง มีคุณลักษณะโดดเด่น หรือมีความสัมพันธ์เป็นพิเศษกับเทพ หรือบุคคลสำคัญ Jealous Type: หลงผิดว่าคู่ครองไม่ซื่อสัตย์ต่อตน Persecutory type: หลงผิดว่ามีคน (หรือผู้ที่ผู้ป่วยใกล้ชิด) ปองร้ายหรือกลั่นแกล้งตนเอง Somatic Type: หลงผิดว่าตนเองมีความไม่สมประกอบหรือมีภาวะความเจ็บป่วยทางกาย Mixed Type: มีอาการหลงผิดมากกว่าหนึ่งอาการข้างต้น และไม่มีอาการใดเด่น ................................................................................... อ่านแล้วนึกถึงคุณน้ำอบคนดัง ณ ห้องสมุด จากคุณ : นางเอกหนังไทย เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 53 21:12:16