|  | 
กะไว้แล้วครับว่าต้องมีผู้ที่คิดอย่างนี้จริงๆ  ผมขอสรุปดังนี้ละกันนะครับ1. ท่านเจ้าของกระทู้ยังไม่เคยไปดูหรือเห็นเหตุการณ์ด้วยตนเอง จึงวิเคราะห์ไว้เช่นนั้น
 2. พระธาตุที่มีออกมานั้น ผมขอบอกว่าน้ำมนต์กลายเป็นพระธาตุครับ ไม่ใช่พระธาตุออกมาพร้อมน้ำมนต์ เพราะไม่มีหยดน้ำออกมาเลยสักหยด และพื้นวิหารก็เป็นพื้นกระเบื้องครับถ้าเป็นน้ำพื้นกระเบื้องต้องมีเปียกบ้างครับ แต่จริงแล้วพื้นกระเบื้องไม่เปียกเลยครับ
 3. พระธาตุที่ออกมานั้นไม่ได้เป็นเกล็ดเหมือนแก้วอย่างเดียวครับ แต่มีพระธาตุที่มีลักษณะเป็นก้อนทึบผิวขรุขระสีน้ำตาลที่เรียกว่าพระธาตุพระสีวลีออกมาด้วยครับ
 4. คุณวู้ดดี้เตรียมของไปเองหมดเลยครับที่เอาไปพิสูจน์ครับ ไม่ว่าจะเป็น บาตรน้ำมนต์ น้ำขวดสำหรับใช้ทำน้ำมนต์ ด้ามพรมน้ำมนต์ แล้วคุณวู้ดดี้ยังได้ผ่าพิสูจน์ด้ามพรมน้ำมนต์ของพระท่านด้วยครับ ยังไม่พอครับคุณวู้ดดี้ยังได้ลองพรมน้ำมนต์เองด้วยครับ แต่ไม่มีพระธาตุออกมา พอให้พระท่านพรมน้ำมนต์ก็กลับมีพระธาตุออกมาแทนน้ำมนต์ครับ ขอย้ำนะครับว่าน้ำมนต์กลายเป็นพระธาตุ ไม่ใช่พระธาตุออกมาพร้อมน้ำมนต์นะครับเพราะเวลาที่พระท่านพรมน้ำมนต์นั้นไม่มีน้ำโดนญาติโยมหรือตกลงบนพื้นสักหยดเลยครับ
 5. เรื่องพระธาตุนั้น ผมแนะนำให้ไปหาหนังสือเกี่ยวกับพระธาตุของอาจารย์ทศพล จังพานิชย์กุล มาอ่านศึกษาดูครับจะได้เข้าใจว่าพระธาตุคืออะไร ซึ่งพระธาตุนี้แบ่งได้เป็นสามกลุ่มครับ 1. กลุ่มแรกเรียกว่า "พระบรมสารีริกธาตุ" ซึ่งแปรสภาพมาจากอวัยวะส่วนต่างๆ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ 2. กลุ่มที่สองเรียกว่า "พระอรหันตธาตุ" ซึ่งเป็นพระธาตุของพระสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ เช่นพระธาตุของพระสารีบุตร, พระธาตุของพระอานนท์, พระธาตุของพระสีวลี เป็นต้นครับ ซึ่งพระสาวกของพระพุทธองค์นั้นมีทั้งหมด 50 ท่านครับ 3. กลุ่มที่สามเรียกว่า "พระธาตุพระอริยสงฆ์" ซึ่งเป็นพระธาตุของพระอริยสงฆ์ต่างๆ ครับ เช่น พระธาตุของหลวงปู่มั่น, พระธาตุของหลวงปู่แหวน, พระธาตุของหลวงตามหาบัว อย่างนี้เป็นต้นครับ
 6. ขออนุญาตเสริมเป็นความรู้ให้อีกเรื่องครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนาครับ คือในจารึกทางพุทธศาสนาของเรานั้น ได้มีการจารึกกล่าวถึง พุทธทำนาย ไว้ครับ โดยมีตอนหนึ่งในพุทธทำนายได้กล่าวไว้ว่า เมื่อกาลเวลาผ่านมาถึงในยุคใกล้เปลี่ยนพุทธศาสดาซึ่งในเวลานั้นผู้คนจะหลงมัวเมาในกิเลสตัณหาทั้งปวงทำให้คนเราเหินห่างละเลยการปฏิบัติตามหลักพระธรรมของพระพุทธองค์ เป็นเหตุให้เหล่ามนุษย์มีแต่ปัญหาความวุ่นวายความเดือดร้อนจากเหตุและเภทภัยต่างๆ ในช่วงเวลานั้นจะเกิดมี พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุของพระสาวกและพระอริยสงฆ์เกิดขึ้นเป็นอัศจรรย์ให้มนุษย์ได้ประจักษ์เพื่อเหล่ามนุษย์ทั้งหลายจะได้หวนคำนึงถึงหลักธรรมของพระพุทธองค์ และเมื่อถึงกาลสิ้นยุคของพระพุทธองค์นั้นพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดก็จะเสด็จมารวมกันปรากฏเป็นร่างของพระพุทธองค์ขึ้นแล้วก็จะสลายไปจนหมดครับ  ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมผมแนะนำให้หาหนังสือเกี่ยวกับพุทธประวัติมาอ่านมากๆ นะครับ ที่ทำเป็นภาพยนต์แอนนิเมชั่นให้โหลดมาดูได้จากอินเทอร์เน็ตก็มีครับ แล้วหาพระธรรมไตรปิฎกมาอ่านศึกษาดูนะครับ
 
				 
				
					| จากคุณ | : 
chutchawhan     |  
					| เขียนเมื่อ | : 
14 มี.ค. 54 16:07:30 |  
					|  |  |  |  |