 |
เด็กไทยแท้ตาสีฟ้า มีเพียง1ในแสนราย
พบเด็กไทย 100% นัยน์ตาสีฟ้า ครอบครัวหวั่นอันตรายส่งตัวให้จักษุแพทย์ตรวจ ระบุผลม่านตาปกติ แต่มีอันตรายเพราะระบบป้องกันแสงน้อยกว่าคนปกติ เผยข้อมูลสถิติมีเพียง 1 ใน 1 แสนราย
เรื่องราวเด็กผิดปกตินัยน์ตาสีฟ้า ซึ่งได้ออกรายการ "มันแปลกดีนะ" ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงพยาบาลสระบุรี ซึ่งนายกริช มีสุข อายุ 27 ปี และนางสุชาดา อรุณเรือง อายุ 24 ปี ผู้เป็นบิดามารดาของ ด.ช.ปฏิภาณ มีสุข หรือน้องเก้า อายุ 3 ปี อาศัยอยู่ในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ได้นำน้องเก้า-ปฏิภาณ มาตรวจที่โรงพยาบาล พญ.ดวงพร ชัยฤทธิกุล จักษุแพทย์ รพ.สระบุรี กล่าวภายหลังการตรวจอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุด้วยการวัดสายตา, ตรวจประสาทตา และเช็กม่านตา ก่อนสรุปเคสสาเหตุที่ทำให้น้องเก้ากลายเป็นเด็กไทยตาสีฟ้า เกิดขึ้นเพราะเม็ดสีม่านตาผิดปกติ ซึ่งจะแตกต่างจากชาวต่างชาติตาสีฟ้าที่มีเม็ดสีม่านตาเป็นสีโดยธรรมชาติ สำหรับชาวเอเชียปกติเม็ดสีม่านตาจะเป็นสีดำ เมื่อเป็นสีอื่นถือเป็นความผิดปกติ
ส่วนผลการตรวจสายตาของน้องเก้าอยู่ในเกณฑ์ปกติของเด็กในวัยนี้ จอประสาทตาอยู่ในเกณฑ์ดี ข้อมูลที่เคยพบโรคในกลุ่มมีม่านตาผิดปกตินั้น จะมีเรื่องของจอประสาทตาที่ผิดปกติได้ แต่สำหรับเคสของน้องเก้าถือว่าจอประสาทตาอยู่ในเกณฑ์ดี หากแต่เมื่อเม็ดสีในชั้นม่านตาผิดปกติ ย่อมมีอาการแพ้แสง ซึ่งเกิดจากเม็ดสีที่จางกว่าปกติไม่สามารถกรองแสงได้ อาการนี้เป็นความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ไม่สามารถรักษาได้ แต่ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้ จากสถิติอาการเช่นนี้เกิดขึ้นน้อยมาก มีเพียง 1 ใน 150,000 ราย จักษุแพทย์ รพ.สระบุรี ยังเชื่อว่าเรื่องราวเด็กไทย 100% ตาสีฟ้า กรณีน้องเก้า น่าจะเป็นข้อมูลอันมีประโยชน์ให้กับสังคมไทย กรณีครอบครัวคนไทยอาจมีความผิดปกติมีนัยน์ตาสีฟ้า เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุ และป้องกันอันตรายจากอาการแพ้แสง และหากมีการพบอาการดังกล่าวควรแจ้งทางจักษุแพทย์ จะได้แนะนำว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรต่อไป.
http://webboard.mthai.com/5/2006-04-04/218678.html
จากคุณ |
:
*แอ๊ปเปิ้ล รสพีช*
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ค. 54 21:56:41
|
|
|
|
 |