ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้ผมเรียกมันว่า Hydrocarbon เฉยๆหนะ .... แต่อยากจำเพาะให้มันชัดเจนมากขึ้นครับ จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 15:50:21

ความคิดเห็นที่ 2 ตอบนะคะ 1. aromatic hydrocarbon ไม่เท่ากับ aromatic compound ค่ะ เพราะ aromatic hydrocarbon ต้องมีเฉพาะ C และ H แต่ aromatic compound อาจจะมีอะตอมอื่นๆ อีกก็ได้ เช่น O, N ฯลฯ สรุปแบบคณิตศาสตร์ก็คือ aromatic hydrocarbon เป็น subset ของ aromatic compound 2. aromatic hydrocarbon นิยามจริงๆ มันคือสาร hydrocarbon ที่มีกลิ่นหอมอ่ะค่ะ - -' คือโครงสร้างโมเลกุลมันต้องมีส่วนของ cyclic ที่มีพันธะเดี่ยวสลับคู่ (conjugated double bond) ซึ่งตามนิยาม โอเคว่ามันไม่จำเป็นว่าต้องเป็นวง 6 เหลี่ยม (benzene) เสมอไป แต่ส่วนใหญ่ที่พบมันก็เป็นวง 6 เหลี่ยมนั่นแหละค่ะ เลยมีคนนิยามว่ามีวง benzene เป็นส่วนประกอบ เพราะการเกิดวง aromatic มันบังคับว่ามุมของพันธะมันต้องกาง 120o ถึงจะสบายสุด (เนื่องจาก C atom เป็น sp2) ดังนั้นจำนวนสมาชิกของวงมันต้องไม่หนีจาก 6 มาก ไม่งั้นพันธะมันบิดแล้ว break หมด และถ้าจะให้โมเลกุลมันเป็นพันธะเดี่ยวสลับคู่ได้ ก็คือจำนวนสมาชิกในวงมันต้องเป็นเลขคู่ แต่ว่าอย่าง 5 หรือ 7 เหลี่ยมมันก็เกิดได้ เพียงแต่มันต้องอยู่ในรูป ion ไม่อย่างนั้นมัน resonance ไม่ได้ครบวง ส่วน 8 เหลี่ยมมันก็เกิดได้ แต่ว่ามันไม่ใช่ 8 เหลี่ยมแบนๆ ในระนาบ เหมือนที่วาดในกระดาษแล้วนะคะ เพราะมันพยายามบิดมุมให้ใกล้เคียง 120o มากที่สุด (จริงๆ ถ้าไม่ใช่ 6 เหลี่ยม โมเลกุลมันก็บิดหมดแหละ และถ้ายิ่งบิดก็ยิ่งเกิด resonance ของวงไม่ได้) ปกติถ้าจำนวนอะตอมเยอะๆ มันเลยต่อเป็น 6 เหลี่ยมหลายๆ วงมากกว่า กำลังงงว่าคุณ จขกท กำลังจะทำอะไรอ่ะคะ ************************************************************************** แก้ไขเพิ่มเติม วง 8 เหลี่ยมก็ไม่มีคุณสมบัติเป็น aromatic แล้วนะคะ เพราะว่าโมเลกุลบิดมากจนเกิด resonance ไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 17:58:51 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 17:08:32 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 17:04:54 จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:03:44

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าพันธะมันบิดแล้ว...ยังเรียก aromatic hydrocarbon เปล่าครับ แต่ถ้าหากผมนิยามศัพท์ใหม่ขึ้นมาเลย(ทางคณิตศาสตร์ชอบใช้มุขนี้กัน) ว่า near aromatic hydrocarbon  จะขัดแย้งกับความรู้สึกหรือ ทฤษฎีพื้นฐานของทางเคมีไหมครับ จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:13:58

ความคิดเห็นที่ 4 1. aromatic hydrocarbon = aromatic compound ? 2. aromatic hydrocarbon นิยามว่าอย่างไรครับ เพราะหนังสือบางเล่มเขาบอกว่า เป็น hydrocarbon ที่มีส่วนประกอบเป็นเบนซิน >>>>>>>>>> ผมตอบจากพอจำได้แล้วกัน รายละเอียดให้อากู๋ค้นน่าจะมี   1)  ใช่ และ ไม่ใช่ --ใช่ เช่น Benzene เป็นทั้ง Aromatic HC และ Aromatic Compound --ไม่ใช่ ทุกตัว Aromatic HC มีสูตรโครงสร้าง Cn H2n-6 ที่รู้จักดี คือ Benzene C6 H6   (เพิ่มเติม n อย่างน้อย 6 ตัวขึ้นไป) Aromatic Compound จะมีกลุ่ม aromatic HC เป็นส่วนประกอบหลายตัว ซึ่งมีสูตร Cn H2n-6 นอกจาก CH อาจมีตัวอื่นประกอบด้วย และมี Benzene ด้วย 2) Aromatic HC เป็นกลุ่ม HC ที่มีสูตรโครงสร้างไม่สมบูรณ์ unsaturated ที่มาของคำ aromatic เพราะมันมีกลิ่นหอม .. หลายสิบปีก่อนเคยใช้เป็นส่วนประกอบน้ำหอม เคยเป็นส่วนประกอบผสมในน้ำมันเบนซิน (ไม่ใช่ Benzene) เนื่องจากมันมีค่า Octane สูง แก้ไขเพิ่มเติม ค่า n แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 17:19:05 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:15:50

ความคิดเห็นที่ 5 ปล....เรื่องที่ทำอยู่อาจจะ นามธรรม หน่อยครับ โครงสร้างที่ศึกษาอาจไม่มีอยู่จริงก็ได้ ผมห่วงแต่ว่า จะใช้คำผิดหนะครับ บางทีมันอาจไม่มีอยู่จริง หรือไม่ชัวร์อันนี้ยอมรับได้ ขอแค่ไม่ผิดกับหลักการหรือความรู้สึกทางเคมีหนะครับ ....แต่ก็ขอบคุณมากนะครับ ที่แนะนำ จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:19:14

ความคิดเห็นที่ 6 คห. 3 จะไปนิยามอะไรอีก นิยามที่มีอยู่แล้วเยอะแยะ เวียนหัวเปล่าๆ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:22:44

ความคิดเห็นที่ 7 ท่านบนๆ ตอบไปหมดแล้วเอาเพิ่มเติมละกัน -Hydrocarbon ประกอบด้วย C และ H "เท่านั้น" -Aromatic Hydrocarbon = สารประกอบอะโรมาติกที่ประกอบด้วย C / H เท่านั้น -Aromatic Compound = สารประกอบอะโรมาติก ใดๆ เดิมที สารประกอบอะโรมาติกใช้เรียก fraction ที่มีกลิ่นหอมจากการกลั่น เช่น Benzol (benzene), Toluol (toluene) แต่ต่อมาเปลี่ยนคำนิยามให้อิงกับสภาพโครงสร้าง สารที่มีสมบัติความเป็นอะโรมาติก จะต้อง - มีลักษณะเป็นวง (cyclic) - สมาชิกทุกตัวในวง ต้องมี p-orbital (ที่มาของ "พันธะคู่สลับเดี่ยว") - p-orbital เหล่านั้นต้องขนานกัน (parallel) ทำให้ออร์บิตัลสามารถซ้อนทับ (overlap) กันได้ ซึ่งสงผลให้เกิดความไม่ประจำที่ (delocalization) ของอิเล็กตรอน - จำนวนอิเล็กตรอนในระบบดังกล่าว เป็นไปตามสูตร 4n+2 เมื่อ n คือจำนวนเต็ม 0,1,2,... จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:35:54

ความคิดเห็นที่ 8 - แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 17:58:28 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 17:58:16 จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:54:15

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบ คห#3 ถ้าพันธะมันบิดแล้ว...ยังเรียก aromatic hydrocarbon เปล่าครับ - ถ้าโมเลกุลบิดมากจน resonance ในวงไม่ได้ (ไม่เกิด conjugated double bond)   สมบัติทางเคมีมันก็ไม่เป็น aromatic แล้วค่ะ จะเหมือนแค่ alkene ธรรมดา   น่าจะเรียก cyclic polyalkene มากกว่า แต่ถ้าหากผมนิยามศัพท์ใหม่ขึ้นมาเลย(ทางคณิตศาสตร์ชอบใช้มุขนี้กัน) ว่า near aromatic hydrocarbon  จะขัดแย้งกับความรู้สึกหรือ ทฤษฎีพื้นฐานของทางเคมีไหมครับ - โอย ขัดมากค่า (ขออนุญาตขำ และขำ คห#6 ด้วย ) ถ้าจะให้แนะนำน่าจะใช้คำว่า "monocyclic hydrocarbon ที่มีพันธะเดี่ยวสลับคู่" ดูกลางๆ ดีนะ เพราะไม่ได้ระบุว่าออกมาแล้วจะมีคุณสมบัติเป็น aromatic หรือ polyalkene และชื่อหัวข้อก็ได้ระบุด้วยว่าจะศึกษาเฉพาะวงเดียว ไม่เอาแบบหลายวง เพิ่มเติม ตะกี้ไปค้นรูปวงแปดเหลี่ยม C8H8 มา มันไม่เป็น aromatic แล้วนะคะ เพราะว่ามันบิดเกินไปจน resonance ไม่ได้ ขออภัยที่เข้าใจผิด แหะๆ -/\- แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 18:00:47 จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:57:09

ความคิดเห็นที่ 10 แปะรูปใหม่ มันไม่ชัด จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 17:58:48

ความคิดเห็นที่ 11 #3 ไม่จำเป็นต้องนิยามครับ ทั้งนี้เนื่องจาก สมบัติความเป็นอะโรมาติก (Aromaticity) นั้น นิยามจากความเสถียรที่เกิดขึ้นจากรูปแบบโครงสร้าง (energy stabilization) ดังนั้นเราจึงพิจารณาจากระดับพลังงานของ electron ในออร์บิตัลผสม เทียบกับแรกเริ่ม ดังนั้น ความเป็น aromatic จึงไม่ absolute นั่นเอง โดยเรียกค่าผลต่างของพลังงานนี้ว่า Aromatic stabilization energy ยิ่ง orbital มันซ้อนทับกันได้ดี ได้สนิท (perfect overlap) เท่าไร ความเป็นอะโรมาติกก็ยิ่งมากเท่านั้น (พลังงานลดต่ำลงได้มาก = เสถียรขึ้นมาก) และเมื่อวงเริ่มบบิดเบี้ยวทำให้ p-orbital ขนานกันน้อยลงๆ ความเป็นอะโรมาติก ก็ลดลงตามลำดับ (พลังงานลดต่ำลงได้น้อยกว่า = เสถียรน้อยกว่า) แต่เพื่อการจัดประเภทที่ง่าย เราก็สามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่เลยคือ - Non-aromatic ไม่เป็นอะโรมาติก เนื่องจากขาดสมบัติที่โพสไปใน#7 เช่น ไม่เป็นวง ออร์บิตัลไม่ขนาน ฯลฯ - Aromatic สารอะโรมาติกส์ พิจารณาตามใน #7 ต้องมี "ครบทุกข้อ" - Antiaromatic สารแอนไทอะโรมาติกส์ โครงสร้างที่ได้ กลับมีพลังงานสูงขึ้น (เสถียรน้อยลง) ลองดูรูปประกอบด้านล่าง กำหนดให้ cyclohexane เป็นฐาน(ค่าพลังงานอ้างอิง) เมื่อโมเลกุลมีพันธะคู่ มันเสถียรน้อยลง(พลังงานสูงขึ้น) ดังรูปโมเลกุลที่ 1 และ 2 ส่วนโมเลกุลที่ 3 นั้นเป็นค่าพลังงานในทางทฤษฏี เมื่อมี 3 พันธะคู่ แต่เมื่อวัดจริง (โมเลกุลที่4) กลับเสถียรกว่าที่คาด เนื่องจาก aromaticity นี้เอง ค่าผลต่างพลังงานนี้ละครับ(ลูกศรสีแดงตรงโมเลกุลที่4) ที่จะบ่งบอกถึงความเป็นอะโรมาติก #9 หากต้องการใช้ คำว่า "สารไฮโดรคาร์บอนที่มีพันธะคู่สลับเดี่ยว" ในทางเคมีนิยามศัพท์คำนี้ไว้แล้ว เรียกว่าสารจำพวก แอนนูลีน (Annulenes) http://en.wikipedia.org/wiki/Annulene จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 18:11:19

ความคิดเห็นที่ 12 กำ รูปดูยากแท้ จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 18:12:12

ความคิดเห็นที่ 13 ไม่ทราบว่าท่าน จขกท มีประเด็นใดยังข้องใจหรือไม่ครับ จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 18:16:56

ความคิดเห็นที่ 14 คือความจริงแล้ว ผมกำลังศึกษาโครงสร้างที่เกิดจากรูป n เหลี่ยมใดๆ มาประกอบกันหนะ เช่น 8 เหลี่ยม 4-5 อันมาประกอบกัน หรือมากกว่านั้น(ศึกษาเชิงนามธรรม อาจไม่มีอยู่จริง) จึงคิดว่าน่าจะใช้คำว่า monocyclic hydrocarbon  หรือ Annulenes ไม่ได้(ไม่แน่ใจ) ตอนนี้จึงสนใจคำนี้ครับ คือน่าจะจำเพาะมากขึ้น คำว่า cyclic hydrocarbon มีคำอื่นๆแนะนำไหมครับ ?? จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 18:22:27

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้คำว่า Polycyclic Hydrocarbon น่าจะได้นะครับ คำนี้ไม่เจาะจงว่าต้องมีสมบัติอะโรมาติกหรือไม่ และวงเหล่านั้นต่อกันยังไงก็ได้ด้วย ขอให้มี>1วง ไม่จำกัดจำนวนวง ในแต่ละวงนั้นเป็นวงกี่เหลี่ยมก็ได้ และต่อยังไงก็ได้ ไม่ว่าจะเอาด้านติดกัน(fused) เอามุมชนกัน(spiro) หรือหลอมรวมเป็นก้อนๆเหมือนลูกบอล ก็ยังได้ น่าจะตรงกับที่ จขกท ต้องการที่สุดนะครับ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 18:30:10 จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 18:25:41

ความคิดเห็นที่ 16 กำลังงงว่าตกลงต้องมีพันธะคู่มั้ย? นี่เรากำลังทำอะไรกันอยู่ จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 18:30:01

ความคิดเห็นที่ 17 #16 พันธะคู่ไม่มีจริงในระบบ aromatic ครับ :) มีจริงแค่โครงสร้างเรโซแนนซ์ที่เราเขียนออกมา และเหมือน จขกท กะลังต้องการนิยามสารที่เขาศึกษา(ในจินตนาการ)มากกว่าตัวอะโรมาติกเอง จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 18:31:39

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ ช่วยได้มากเลย ^^ จากคุณ : Axiom of Choice เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 18:41:49

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอ่านครับ จากคุณ : Organic_D เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 19:42:03

ความคิดเห็นที่ 20 อยากบอกว่า อ่านไม่รู้เรื่องเลย พูดเรื่องอะไรกันอ่ะ ผมคืนอาจาร์ยไปหมดแล้ว ตอนนี้รู้สึกว่าเหมือนไม่เคยผ่านวิชาเคมี มาก่อนเลยอ่ะ งงสุดๆ  แต่ชอบครับเข้ามาอ่านแล้วชื่นใจ อยากให้มีกระทู้แบบนี้เยอะๆครับ เบื่อกระทู้ป้าเช็งเต็มทน จากคุณ : Beastie_Thai เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 01:12:35

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามายืนยันว่ามัน "หอมมาก" จากคุณ : lukva เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 12:22:08

ความคิดเห็นที่ 22 สมัยเรียนเจอเรียนคู่กับชีวะ Derivative เยอะมาก จำไม่ไหวสอบตก จากคุณ : kongp (kongp) เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 55 15:05:48