ผมเชื่อว่า เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ตามหนองน้ำบางแห่ง อาจมีก๊าซมีเทน หรือ ก๊าซบางอย่างที่ติดไฟได้ แล้วปุดออกมา และด้วยความบังเอิญอาจไปโดนไฟของตะเกียงหรือคบไฟ ของสมัยก่อน ที่ยังไม่มีไฟฉาย เกิดเป็นลูกไฟ แล้วมอดไปอย่างรวดเร็ว และอาจจะมีแค่ 1-2 ลูกเท่านั้น
และทำไมต้องเกิดเฉพาะเวลากลางคืน ซึ่งหลายคนชอบอ้างว่า แรงดึงดูดของดวงจนทร์บ้างละ อากาศเย็นบ้างละ ซึ่งไม่มีข้อยืนยันหรือเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่อธิบายได้ ผมขอสันนิษฐานว่าในสมัยก่อน ที่เห็นลูกไฟที่ว่านี้เฉพาะในเวลากลางคืน ก็เพราะมีการจุดตะเกียง หรือ คบไฟนั่นเอง
คนสมัยนั้นก็คงต้องแปลกใจ แล้วนำไปเล่าต่อ ๆ กันไป ก็ย่อมมีรายละเอียดเพี้ยนไปบ้าง และขยายความน่ามหัศจรรย์ไปเรื่อย ๆ
การที่มีคนบอกว่า เคยมีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าเคยเห็น ลูกไฟเช่นนี้ตั้งแต่หลายสิบปีที่แล้ว มีความเชื่อถือได้น้อย เพราะ
1. เป็นการบอกเล่าจากความทรงจำ ย่อมไม่มีหลักฐานยืนยัน
2. ส่วนใหญ่ที่บอกว่าเคยเห็น ก็ไม่ได้มีการบอกรายละเอียดว่า ลูกไฟที่เห็นเป็นเช่นไรกันแน่ และหลายคนที่บอกมาก็ไม่เหมือนลูกไฟในปัจจุบัน
ผมขอสรุปเองว่า
1. สมัยก่อนอาจจะมี ก๊าซที่ลุกเป็นไฟ ออกมาจากหนองน้ำบ้าง แต่คงไม่ใช่ลูกกลมแบบนี้ และไม่ได้ลอยในลักษณะนี้ คงจะลอยขึ้นอย่างสะเปะสะปะ และมอดเร็ว ซึ่งปัจจุบันคงไม่เห็นอีกแล้ว เพราะสภาพแหล่งน้ำเปลี่ยนไปมาก
2. ลูกไฟทุกลูก (ผมขอย้ำว่า ทุกลูก) ที่เห็นในปัจจุบัน เป็นการกระทำของคนทั้งสิ้น
ผมขอบอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ศรัทธา ไม่ใช่ความเชื่อโบราณ แต่เป็นการหลอกลวงทั้งเพ
คำพูดที่ว่า "ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่" เป็นเพียงเกราะป้องกันการถูกพิสูจน์ เราควรใช้คำว่า "ไม่เชื่อก็ต้องพิสูจน์" หรือ "ไม่เชื่อก็ต้องตีแผ่"