ความคิดเห็นที่ 169
ผมว่าเรามาหาที่มา เป้าหมาย,วัตถุประสงค์ จริงๆของการตั้งกฏ(หัวเกรียน) นี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร?เหมาะสมไหม? กับวัยและวุฒิภาวะแบบนี้ มากกว่าที่เราจะไปถามถึงว่าประเทศไหน?มีหรือไม่มีแบบนี้ เพราะที่มาที่ไปของประวัติศาสตร์วัฒนธรรม วิวัฒนาการทางสังคม จนกลายมาเป็นอัตลักษณ์ทางสังคมของแต่ล่ะความต่างแต่ล่ะประเทศไม่เหมือนกัน เรื่องแบบนี้จึงเอาไปเทียบเคียงกับประเทศอื่นแล้วยึดเป็นเหตุผลหลักทางตรรกะ ไปหาเหตุผลความถูกต้อง ถึงแม้มันจะเป็นเงื่อนไขหนึ่งโยทั้งหมดไม่ได้(มาตรฐานต่างชาติทั่วโลก กับโลกยุคโลกาภิวัฒน์เราจะมาปิดหูปิดตามกับอัตลักษณ์ฉัน วัฒนธรรมที่ไม่สอดคล้องกับระบบนิเวสน์ใหม่)
เราควรเทียบเคียงในเหตุผลรองว่าความเป็นตัวตนของอัตลักษณ์ เรา มันเหมาะสมสอดคล้องกับอัตตลักษณ์เรา บนความเกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อมใหม่ของสังคมโลกอย่างไร? และควรจะเป็นตามมัชฌิมาแบบไหน?ขนาดไหน?จึงจะ"พอดี" คือ"สมดุล" สอดคล้องกับธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงและตัวตนหรืออัตลักษณ์ของตัวเรา
กฏเรื่องหัวเกรียนนี้มีที่มาที่ไปแน่นอน มันคือส่วนหนึ่งในอัตลักษณ์ของสังคมไทย ผ่านวัฒนธรรมที่ดีงามของระบบอาวุโสการกตัญญูรู้คุณความน้อมน้อมถ่อมตน,ความมีสัมมาคารวะ ต่อผู้ใหญ่กว่า คือความงามในด้านบวกของระบบอาวุโส แต่แน่นอนทุกอย่างมีบวกมีลบ มันจึงเป็นหน้าที่ของสังคมจะมาชั่งน้ำหนักหาความ"พอดี" (สมดุล) ไม่ใช่สุดโต่ง ลงทางแคบ กับสมถะ"พอเพียง" ยึดมั่นในอัตตาฉัน หรือลบกว่านั้นคือ อำนาจนิยมฉัน เพราะด้านลบของระบบอาวุโสจริงๆคือ "อำนาจนิยม"
กับสังคมปัจจุบันนนี้เราจึงต้องเอาโจทย์นี้มมาชั่งน้ำหนักร่วมกันว่าความ"พอดี"อยู่ตรงไหน? ระหว่าง"อำนาจนิยม" กับ "ความอ่อนน้อมถ่อมตน" ความรู้จักบทบาทหน้าที่ ความเข้าใจในกฎระเบียบ บนความมีเหตุผล มีที่มาที่ไป ไม่ใช่กฏนี้มาจากผู้คุมกฏ และมีสภาพบังคับใช้กับผู้มีหน้าที่อยู่ใต้กฏโดยปราศจาคเหตุผล ที่มาที่ไปของความเหมาะสม(แบบอำนาจนิยมของอัตตาแบบนักปกครองเผด็จการไม่ใช่พื้นฐานประชาธิปไตย)
เรื่องนี้ต้องคิดในหลายๆมิติ ทั้งวิทยาศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางสรีระ เรื่องฮอร์โมนส่งไปถึงพฤติกรรมวิธีคิด ,จิตวิทยา,วุฒิภาวะ จินตนาการ,ความคิดสร้างสรรค์ จะถูกฆาตรกรรมโดยกรอบที่ไม่เหมาะสมที่กรอบของอำนาจนิยม(ถ้าแรงไป) หรือกรอบจริยธรรม อัตลักษณ์ของสังคม รู้สิทธิรู้หน้าที่รู้บทบาท ความเหมาะสมพอดี อยู่ ตรงไหน?
ปัจจุบันยังสอดคล้องหรือไม่ ? เรื่องนี้ต้องหาคำตอบร่วมกัน เพราะกฎนี้มันต้องใช้ร่วมกันทั้งผู้คุมกฏ และผู้ถูกคุมกฏ ต้องมาหาเหตุผลร่วมกันจากการรวมความต่างจึงต้องเข้าใจในความต่างของกันและกันของวัยแต่ละวัย วุฒิภาวะ การเปลี่ยนแปลงทางสรีระพฤติกรรมที่ต่างกัน ไม่ใช่ให้อำนาจนิยมฉันไปครอบ พลังบางพลัง(ความคิดสร้างสรรค์จินตนาการที่มาจากการเปิดกว้างทางความคิดความมีเหตุผล อธิบายในที่มาที่ไปของบางกรอบบนความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ ที่สอดคล้องเป็นจริงสมเหตุสมผล อธิบาย ให้เข้าใจเห็นจริงได้) ความรับผิดชอบกับการอยู่ด้วยกันบนโลกของความต่างของอีกกลุ่มต่างไว้
แม้เรื่องแบบนี้จะยากเกินกว่าความเข้าใจของวัยนี้ แต่ผมว่าเด็กระดับม.ปลายนี้ รู้เรื่องแล้ว และควรอธิบายอย่างยิ่ง และไม่ควรเอาเรื่องแบบนี้ไปเหมาเข่ง ในทางอำนาจนิยมแบบเจตนาของระบบอาวุโสที่ไม่แยกแยะหรือมีเหตุผลกับกลุ่มนี้ ไม่ว่ากันกฎนี้ถ้าอยากจะใช้ ด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่ แต่ต้องอธิบายทำความเข้าใจในเหตุผลที่มาที่ไป ของกฏนี้ เพราะวัยนี้คิดเป็นแล้ว?
เพราะผมเคยผ่านมา และพิสูจน์ได้เสมอว่า มันเป็นคำถามโลกแตกของเด็กวัยนี้ทุกยุคทุกสมัย ผมจึงสรุปจากที่เคยเห็นผลนี้ว่ากฏ(หัวเกรียน)นี้ ไม่เหมาะสมกับเด็กบางกลุ่ม(ม.ปลาย) เรื่องนี้ตามทรรศนะผมเห็นว่าควรยืดหยุ่น ควรต้องมีเหตุผลร่วมกัน และไม่ควรเหมาเข่ง เพราะเด็กวัยนี้คิดเป็น มีเหตุผลแล้ว
และเรื่องนี้สำคัญ?มันเป็นการออกจากบล็อกสตารท์ของวัยที่ต้องใช้ความเชื่อมั่นในความเร็วต้นที่มีพลัง ไม่ใช่ไปดร็อป ศักยภาพในพลังที่จะถูกปลดปล่อยนั้นด้วยอำนาจนิยม ที่อาจจะไม่เหมาะสมลงไป บังคับให้เขาออกจากบล็อกสตาร์ทด้วยสเต็ปท เท้าที่สวยงาม เป็นระเบียบแบบทหาร(หัวเกรียนเหมือนกัน) แต่เราต้องแยกแยะว่า ทหาร เขามีแผนที่ชีวิต และเป้าหมายในหน้าที่แบบไหน? ตรงนั้นมันไม่ใช่อำนาจนิยม แต่นั้นมันเป็นหน้าที่
แต่เด็กมัธยมปลาย(ผมเน้นตรงนี้) นั้นเขายังต้องออกจากบล้อกสตาร์ท ด้วยความมั่นใจด้วยการปลดปล่อยศักภาพจริงๆของตัวเอง ประลองกำลังให้เขารู้ว่าเขามีขนาดไหน? ไม่ใช่ให้กรอบอำนาจนิยม ไปให้เขาเข้าแถวตอนหนึ่งเป็นแกะตามค่านิยมหรือกรอบ จากการติดยึดการการเล่นเกมส์ "รีรีข้าวสาร "ของผู้ใหญ่ แล้วเอาอัตตาแบบอำนาจนิยมนั้นมาใส่ให้กับเด็ก
นั้นคือเขียนแผนที่พล้อตกราฟ เป็นเนวิเกฯให้เสร็จว่าจากอาร์ซีนั้นต้องไปอาร์ซีนี้แล้วก็จบตามคอร์สหรือกรอบอำนาจนิยมแบบนี้ ใครแกะดำ เด็กคนนั้นตายไปพร้อมกับกรอบที่แข็งแรง แบบนั้นตั้งแต่แค่คิดกบฏ ต่อกรอบแบบนั้นแล้ว คือสังคมยังไม่ได้สร้างรูปแบบหรือการให้โอกาสที่หลากหลาย ต่อสูตรสำเร็จการใช้ชีวิต เลย
แผนที่หรือตำแหน่งอาร์ซีต่างๆถูกคิดถูกขีดกรอบ ไว้ไม่กี่รูปแบบ หลายสิบปีก็ยังเดิมๆ เหมือนตะแกรงคัดเกรด ที่ถูกผูกขาดไว้ตามกรอบอำนาจนิยมของคนรุ่นก่อนจะสร้างรูปแบบไว้ โดยไม่ค่อยให้โอกาสความหลากหลายของความต่างแบบแกะดำ หรือความคิดนอกกรอบ พวกนี้ ถ้าจะเหมือนถูกกดไว้โดยระบบ หรือกรอบของสังคม
ต้องใช้ความสามารถพิเศษกว่าปกติถึง หลายสิบหลายร้อยเท่าแล้วแต่กรณี แล้วแต่สายป่านใครยาว (แล้วเด็กวัยนี้จะมีความอดทนต่อจิตสำนึกดีใด้ขนาดไหน? กับการที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด ที่มากกว่าคนปกติ ในระบบ) หรือระบบแบบนี้บางทีมันคอยคุมกำเนิด ม้าตีนต้นฝีท้าวจัด แต่วิ่งออกนอกลู่วิ่งขาดความหลากหลายในระบบเปิดที่จะให้โอกาส พลังบางอย่างที่ซ่อนไว้จนมันตาย หรือไม่ตายก็ แหยงๆ หมดความเชื่อมั่น จนถึงเลือกทางผิดไปเลย คือไม่ยอมเป็นมิตรกับระบบ หรือกบฏ สุดท้ายตายเพราะวิ่งชนกำแพง???
ผมสัมผัสคนแบบนี้มาเยอะเพราะในระบบหรือกรอบวิธีคิดแบบเรามันผลักให้คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิต บนความน่าจะเป็นบนความเสี่ยงสูงมาก กับการออกจากบล็อกสตาร์ท แล้วมีคนคอยกำหนดเสต็ปท้าว ไม่ยอมให้ ปลดปล่อยพลังเต็มทีตามจินตนาการตามความฝัน จนบางคนหาตัวเองไม่เจอทั้งชีวิต เพราะกรอบแบบนี้คอยเคาะหัวไว้ ถึงขังเดี่ยว หรือมีชีวิตโดดเดี่ยวไปเลย คนพวกนี้โอกาสประสบความสำเร็จคือหนึ่งในหลายสิบล้านยากกว่าคนที่ไปตามกรอบทั่วๆไป หลายสิบหลายร้อยเท่า ตามโอกาสของสายป่านและจังหว่ะชีวิต จะไปเกยตื้นตรงไหน? หรือบางคนก็ขนาดหาฝั่งไม่เจอ เพราะไปละเมอเพ้อพกกับ จินตนาการของคนที่ใกล้ตายแล้วตายไปพร้อมกับจินตนาการที่ยิ่งใหญ่ แบบเรื่อง"มหาชนก"
ผมเชื่อในประสบการณ์ และวิธีคิดของผมว่าเรื่อง"มหาชนกนั้น เป็นจินตนาการที่ยิ่งใหญ่ของคนใกล้ตาย ของคนที่เจอวิบากกรรม ที่เรียกว่า 99.999 %คือตาย แล้วจริงๆผมก็เชื่อว่าตาย ? แต่ที่เราได้อ่านนั้นคือจินตนาการที่ยิ่งใหญ่ ของคนที่ตายไปพร้อมกับการจินตนาการถึงนางฟ้าถึงโลกในความฝันของตัวเอง แต่ปัจจุบันคือใกล้ตายแล้วก็ตายไปพร้อมกับ อุบัติกรรมตรงนั้น ผมจึงไม่อยากให้สังคมไทยสร้างเงื่อนไขในระบบ ให้เด็กไทยบางคน ต้องไปผจญภัยแบบนั้น หรืออาจจะดีกว่านั้นไม่ตาย ก็หาตัวเองไม่เจอทั้งชีวิต หรือไม่ก็เป็นได้แค่ไม้ดัด ซึ่งก็แล้วแต่โอกาสและสายป่านในตัวเลือกทีไม่ค่อยหลากหลาย แต่ผูกขาดในระบบ???
จากคุณ :
*****เอ้าอะตอมก็ได้ใครจะมาสนใจ
- [
20 ม.ค. 48 22:51:08
A:61.91.96.8 X: TicketID:001922
]
|
|
|