Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    "ยากินแล้วผิวขาว" และประสบการณ์ส่วนตัว ที่ปวดใจ ...{แตกประเด็นจาก Q6674463}

    เราเป็นคนนึงที่เคยทานกลูต้า และเลิกทานมาสักพักแล้วค่ะ

    แล้วใครที่ทานอยู่และยังไม่เห็นผลข้างเคียง ระวังไว้นิดนึงก็ดีนะคะ

    เพราะส่วนตัว เห็นแล้วค่ะ

    ตอนที่เริ่มทาน หาข้อมูลเยอะมาก ก่อนจะตัดสินใจทาน

    เพราะปรกติเป็นคนไม่ทานยาเม็ด ไม่เอาเลย และก็กลัวจะมีผลข้างเคียงด้วย

    แต่อยากสวยนี่นา เลยต้องค้นข้อมูลกันนิดนึง

    ตอนนั้นเป็นช่วงที่กลูต้าบูมใหม่ๆ ในเมืองไทย รู้จักกันเฉพาะบางกลุ่ม หาคนรู้รายละเอียดจริงๆ ไม่ค่อยมี

    เคยถามคุณหมอผิวหนัง(หาหมออยู่) คุณหมอก็ยังตอบไม่ได้ว่าได้ผลจริงมั้ย

    เลยต้องหาข้อมูลเอง ซึ่งเท่าที่มีข้อมูลละเอียดๆ จะเป็นข้อมูลจากของเว็ปผู้ผลิตและค้นพบ

    ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทางยา เพราะฝรั่งเค้าไม่ได้ทานเพื่อให้ผิวขาว

    จริงๆ เค้าใช้ทานในกลุ่มคนไข้ภูมิแพ้น่ะ

    คือมันเป็นสารประกอบแอนตี้ออกซิแดนซ์ หรือเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ อะไรประมาณนี้แหละ
    (ความจำสั้นง่ะ เลยไม่ค่อยชัวร์ว่าอันไหนแน่ แต่คุ้นว่าเป็นสารประกอบมากกว่า แหะๆ)

    โดยตัวมันเองแล้วไม่ใช่สารอันตราย เพราะมันสกัดมาจากผลไม้ชนิดหนึ่ง
    (ขออุบไว้ก่อนเพื่อความตื่นเต้น)

    และร่างกายมนุษย์ก็จะมีการผลิตเองอยู่แล้ว แต่โดยทั่วไปจะผลิตได้น้อย

    เพราะสารตั้งต้นที่มาจากการรับประทานของเรามีปริมาณน้อย แล้วก็เปลี่ยนรูปง่าย สลายง่าย ไรงี้
    (อย่าถามชื่อสารตั้งต้นนะ จำไม่ได้แย้วง่ะ)

    อาหารเสริมในไทยบางตัวเค้าเลยจะไม่ใส่กลูต้าไปตรงๆ เค้าจะใส่สารสังเคราะห์ของสารตั้งต้นลงไปแทน
    (แล้วมานับบวกๆรวมๆ กัน บอกว่ามีกลูต้า 500 mg. ไรงี้ หุหุ)

    แต่ถ้าของฝรั่งเค้า เท่าที่เห็นก็จะเป็นแคปซูลกลูต้าไปเลยตรงๆ บางยี่ห้อก็แพง บางยี่ห้อถูกมากๆ ซื้อ 1แถม 1 ยังมี

    อย่างที่บอกว่าเค้านิยมทานกันในหมู่คนเป็นภูมิแพ้น่ะ


    ฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการขาวซีดจากการทานเนี่ย จริงๆ จะว่าไปมันน่าจะเป็นผลข้างเคียงมากกว่า

    ปกติการจะให้กลูต้าออกฤทธิ์ให้ผิวขาว ที่ฝรั่งเค้าทำกัน แพทย์จะใช้การฉีด ที่เค้าเรียกว่า meso อ่ะ
    (ชื่อเต็มว่าไรไม่รู้ ลืม - -)

    แบบลุงไมเคิลรักเด็กมากไง


    ข้อสำคัญ

    การจะใช้ให้ได้ผลกับสีผิวด้วยการทาน ต้องมีการทานอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย และต้องทานในปริมาณมาก

    อยากรู้ละซิ ว่าคืออะไร ....


    แต่นแต๊น

    นั่นก็คือ

    วิตซี จ๊ะ

    แล้วปริมาณการทานที่จะให้เห็นผลด้านผิวน่ะ มันมากจริงๆ นะ

    คือต้องทานกลูต้าวันละ 500-1000 mg. และทานวิตซีอย่างน้อย 6000 mg. ขึ้นไป

    ใช่แล้วหกพันมิลลิกรัม อ่านไม่ผิดหรอกจ๊ะ

    แต่ตอนนั้นตัดสินใจแน่วแน่ เอาไงก็เอา ชั้นต้องขาวจั๊วให้ได้ ไม่เอาเหลืองๆอีกแล้ว ไม่เอา

    ตับ ไต อะไรไม่กลัวว่าจะพังทั้งนั้น ชั้นจะต้องขาวได้อีก ไม่กลัว ไม่กลัว

    เพราะคิดว่า ยังไงวิตซีก็ละลายในน้ำ ทานน้ำมากๆ ฉี่แยะๆ ก็ไม่มีอะไรตกค้าง

    และก็ไม่มีเอกสารทางวิชาการใดๆ บอกว่ากลูต้ามีพิษต่อตับ หรือไต แถมยังเป็นสารที่ผลิตอยู่แล้วในร่างกาย

    เป็นเหตุให้ไม่เหลือความกลัวใดๆ อยู่ในใจเลย


    จากคนไม่ทานยา ... ก็เลยโดปอาหารเสริมมื้อละเป็นกำมือ หึหึ

    เราทานครบโดสตลอดนะ กลูต้าวันละ 1000 mg. วิตซี วันละ 6000 mg. ตามสูตรเลย

    ผ่านไปไม่ถึง 2 สัปดาห์
    (เร็วเนอะ แต่ไม่ได้โม้)

    เริ่มมีคนทักว่าหน้าใสจัง
    (คิดว่าเป็นอานิสงค์ของวิตซี กับคอลลาเจนที่ทานคู่กันไปด้วยแหละ)

    (อันนี้ไม่เกี่ยวกะกลูต้า แต่บอกไว้สำหรับคนไม่กลัวอ้วนและไม่แพ้อาหารทะเลว่าทานคอลลาเจนแล้วผิวคุณจะเนียนใสได้อีกค่ะ อิอิ)

    ผ่านไปประมาณเดือนกว่าๆ เริ่มเห็นชัดเจนว่าสีผิวเปลี่ยนไปประมาณ 2 เฉด
    (เราว่าระยะเวลากับผลลัพธ์น่าจะไม่เหมือนกันทุกคนนะคะ)

    รองพื้นเฉดเดิมใช้ไม่ได้แล้ว มันดูเหลือง และหลอน - -"

    แต่เนื่องจากปกติไม่ค่อยแต่งหน้าเลยไม่เดือดร้อนอะไร ไว้จะออกงานค่อยว่ากันอีกที หุหุ

    แต่โปรดระวังอย่างแรง เรื่องกันแดด กระหน่ำไปเลย ทาทุกที อย่าเว้น ล้างมือแล้วก็ต้องทาใหม่ อย่าช่างมัน

    เพราะตอนนู๊นเป็นคนไม่ชอบทากันแดด เนื่องจากเนอะหนะ และใส่สูทไปทำงานอยู่แล้วเลยคิดว่าไม่จำเป็น

    ปรากฎว่ามือดำกว่าแขน -*-

    เลยสรุปเอาเองได้อย่างนึงว่า ผิวไวแดดมากขึ้น เพราะมันคล้ำมากกว่าตอนที่ยังไม่ทานกลูต้า
    (ได้รับคำยืนยันจากคนรอบตัว)

    ตอนนั้นผิวขาวขึ้นด้วย เลยทำให้ดูน่าเกลียดมาก มือดูดำปี๋ไปเลยทีเดียว ไปไหนต้องคอยกอดอก (ซ่อนมือ -*-)

    ....

    ทานติดต่อกันเป็นปี เริ่มมีลางมาเตือนภัยอยู่รำไร แต่โง่อยู่ไง เลยไม่รู้

    ช้านมีผมหงอก -*-

    คนในบ้านยังไม่มีใครหงอกเลย .. แต่เราหงอกแล้ว

    ใครๆ ก็ปลอบใจว่าเป็นผมของตายายเอามาฝากไรงี้

    โอเค เลิกคิด เส้นสองเส้น ช่างมัน


    อนิจจัง

    วันนี้มันไม่ใช่เส้นสองเส้นอีกแล้วน่ะสิ แต่กลายเป็นกระจุกเลย -*-

    ไม่ได้จะอวยตัวเองนะ แต่ผมเราเคยดำสวย สุขภาพดี
    (มีแฟนมากี่คนก็ชอบผมเราหมดทุกคน แบบว่าดำ ยาว สุขภาพดี ไร้เคมี หึหึ)

    ตอนนี้ถ้าเส้นไหนไม่หงอกขาว ก็ซีดๆ เป็นสีน้ำตาลไปหมดแล้ว

    จากคนไม่เคยคิดจะทำสีผม (แบบว่าภูมิใจ)

    ตอนนี้อย่าหวังว่าจะมีใครได้เห็นสีผมเดิมชั้นเลย เพราะเราจะคอยเติมโคนทุก 2-4 week

    เหมือนคนแก่เลย >.<


    น่าสงสารมั้ย


    จุดเปลี่ยนตอนนั้น ที่รู้ตัวว่าใช่แน่ๆ กลูต้าทำเจ๊แล้ว ก็เพราะขาเราเริ่มมีด่างขาว

    ไม่รู้เค้าเรียกงี้ป่าว แต่มันเป็นจุดๆ ขาวซีดๆ ขนาดเท่าปลายนิ้วจิ้มๆ อ่ะ มันเพิ่มขึ้นทีละจุดสองจุด

    ตอนนั้นว่าเราก็ขาวแล้ว แต่จุดนี่ก็ยังขาวกว่า ถึงมันเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่มันน่ากลัวตรงที่มันเพิ่มขึ้นอย่างเร็วเลยนี่แหละ


    ณ บัดนั้น เราหยุดทานเลย

    โชคดีที่มันใกล้หมด และยังไม่ได้สั่งของล็อตใหม่
    (มีแอบงก หึหึ)


    จนปัจจุบันนี้ เราก็เลยกลับมาเหลืองเหมือนเดิม และเหมือนจะคล้ำกว่าเดิมนะ

    เพราะรองพื้นเฉดที่เคยใช้ก่อนนู๊น ตอนนี้มันดูหลอกๆ ขาวๆ กว่าหนังหน้าอ่ะ

    และคิดว่าผิวไวแดดมากขึ้นด้วย เพราะรอยแหวน ชัดมาก แต่กลับไม่มีรอยนาฬิกา

    ซอกนิ้ว แบบว่าง่ามนิ้วอ่ะ ก็สีต่างจากหลังมือชัดมาก

    ทั้งที่ปกติเราจะทากันแดดตลอด(เปลี่ยนนิสัยแย้ว) จะไม่ทาก็เฉพาะวันที่อยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหน เท่านั้น

    เดินออกไปซื้อขนม หรือไปไหนก็จะกางร่มยูวีตลอด แต่ก็ไม่รอด หึหึ


    ทั้งนี้ เราทานกลูต้ามาเป็นเวลาประมาณเกือบๆ 2 ปี แบบว่ามากกว่า 20 เดือนอ่ะ

    แล้วเราก็หยุดทานมาแล้วมากกว่าครึ่งปี แบบว่า 7-8 เดือนได้


    ....

    เราไม่รู้ว่าทั้งหมดจะเป็นเพราะกลูต้า อย่างที่เราสันนิษฐานมั้ยนะ

    รู้แต่ว่ามันเกิดขึ้นกับเราจริงๆ และตอนนี้จุดๆ ด่างขาวๆ บนขา ก็หายไปหมดแล้วล่ะ

    แต่ว่าผมเรายังไม่หายหงอก เส้นที่มันหงอก โคนมันก็ยังขาวอยู่เหมือนเดิม


    อืม เซ็ง


    ....

    พอดีเห็นกระทู้ ยาผิวขาว ก็เลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟัง

    ไม่ขอชี้นำนะคะ เพราะการสันนิษฐานของเราก็ไม่ได้มีหลักฐานทางการแพทย์อะไรมายืนยัน

    แค่อยากให้เพื่อนๆ หรือน้องๆ ที่กำลังคิดจะทานอยู่ อ่านเอาไว้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ


    อ้อ อ้อ อ้อ เกือบลืมไปแน่ะค่ะ

    เรื่องผลไม้ที่เค้าสกัดเอากลูต้าออกมาน่ะค่ะ

    นั่นก็คือ grape fruit นั่นเอง ค่ะ

    แต่ถ้าจะทานให้กลูต้าเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มีผลกับสีผิว ก็คงต้องทานวันละหลายสิบโลอยู่นะคะ จะไหวมั้ยน๊อ


    ส่วนตัว ตอนนี้ พอใจกับสิ่งที่มีแล้วค่ะ

    เอาแค่ผิวสะอาด สุขภาพดี พอใจละ จะขาว จะเหลือง ไม่สนละ

    เพราะไม่ว่าผิวจะสีอะไร แต่ใจก็ยังสีแดงเหมือนเดิม เนอะ ^^


    ฮิ๊ววว~~

    จากคุณ : mApLe:online: - [ 6 มิ.ย. 51 16:20:49 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom