 |
คำเตือน
ข้อควรระวังทั่วไป
เพื่อลดโอกาสของการระคายเคือง ควรระวังในการใช้ยา โดยอย่าให้ยาเข้าตา หรือถูกเปลือกตา มุมจมูก มุมปาก หรือบริเวณเนื่อเยื่ออ่อนอื่นๆ ผู้ใช้ยังสามารถที่จะกำจัดขน หรือผมได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงขั้นตอนเหล่านี้ ในตอนกลางคืนก่อนที่จะใช้ยา เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย
น้ำยาดัดผม สารช่วยในการกำจัดขน สบู่ยาและแชมพูยาสามารถทำให้ผิว ปกติระคายเคืองได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเหล่านี้กับบริเวณที่จะใช้ยา เรติน-เอ
การระคายเคืองเฉพาะที่
ไม่แนะนำให้ใช้ยาเรติน-เอกับผิวที่มีอาการระคายเคือง เช่น บวมแดง ผิวลอก คัน แดดเผา เป็นต้น ควรรอให้อาการเหล่านี้หายดีก่อนจึงจะใช้ยา ในบางรายที่ค่อนข้างไวต่อการแพ้นั้น ตัวยาเรติน-เอ อาจทำให้เกิดอาการ บวมแดง คัน แสบร้อน พุพอง ผิวลองบริเวณที่ทายา ถ้าเกิดอาการระคายเคืองดังกล่าว แนะนำให้ลดจำนวนครั้งในการทาลงหรือหยุดทาชั่วคราว
Tretinoin อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรงต่อผู้ที่มีผิวหนัง อักเสบ และควรใช้ยาด้วยความระมัดระวังในผู้ป่วยเหล่านี้ ถ้าผู้ใช้ยานี้แล้ว เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรงหรืออย่างต่อเนื่องยาวนาน ไม่แนะนำให้ใช้ ยาอีกต่อไป และในกรณีที่มีความจำเป็น ควรปรึกษาแพทย์
สภาพอากาศที่เลวร้าย เช่น ลมแรง อากาศหนาว และความชื้นต่ำ อาจทำให้ เกิดการระคายเคืองต่อผิวของผู้ใช้ยาเรติน-เอ และอาจทำให้ผิวหนังแห้งมากขึ้น
ผิวที่ถูกแสงแดดขณะใช้ยา
การถูกแสงแดดหรือแสงจากหลอดไฟแสงยูวีอาจทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้น ดังนั้นในช่วงระหว่างการใช้ยา ควรหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดหรือถูกแสงแดดให้น้อยที่สุด สำหรับผู้ใช้ยาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดด ควรทายากันแดดหรือสวมใส่เสื้อผ้า ที่สามารถบังแสงแดดบริเวณที่ทายาก่อนออกสู่แสงแดด
การใช้ยาในเด็ก
ยังไม่มีการศึกษาการใช้ในเด็ก ทั้งในแง่ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยา
หญิงมีครรภ์และระหว่างให้นมบุตร
ยา Tretinoin ชนิดทาภายนอกไม่มีผลต่อความผิดปกติของตัวอ่อนของหนูและกระต่าย ทดลองโดยให้ยาทาซึ่งมีขนาดมากกว่าที่ใช้ในคนถึง 1,000 เท่าในหนู และ 320 เท่าในกระต่าย ทดลองโดยเทียบกับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ทายาเรติน-เอ 0.1% เป็นปริมาณ 250 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตามขนาดการใช้ยาทาในระดับเดียวกันนี้ ทำให้การสร้างกระดูกช้าลงในกระต่ายทดลอง ในหนูทดลองพบว่า การเพิ่มขึ้นของกระดูกซี่โครงที่มากกว่าปกติ ขึ้นอยู่กับขนาดยาที่ใช้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะแตกต่างไปจากการเปลี่ยนแปลงในขณะปกติ การเปลี่ยนแปลงของการสร้างกระดูกมีกจะกลับเป็นปกติหลังจากสัตว์ทดลองหย่านมแล้ว
มีบางรายงานกล่าวถึงความผิดปกติของเด็กที่คลอดจากแม่ที่ใช้ Tretinoin ชนิดทาระหว่างการตั้งครรภ์ ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอและควบคุมอย่างรัดกุม ในหญิงมีครรภ์และระดับยา Tretinoin ที่ทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกก็ยังไม่สามารถระบุได้
จากการศึกษาย้อนหลังพบว่าเด็กที่คลอดจากมารดาที่ใช้ยา tretinoin ชนิดทาในช่วง 3 เดือนแรก ของการตั้งครรภ์ เมื่อเปรียบเทียบกับทารกที่คลอดจากมารดาที่ไม่ได้ใช้ยา ก็ไม่พบว่ามีความผิดปกติที่เกิดขึ้นในทารกทั้งสองกลุ่ม ดังนั้นการใช้ยา Tretinoin ชนิดทาในช่วงตั้งครรภ์ควรพิจารณาถึงประโยชน์ และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับทารก
ยังไม่ทราบว่า Tretinoin ขับออกมาทางน้ำนมมารดาหรือไม่ แต่เนื่องจากมียาจำนวนมาก สามารถขับออกมาทางน้ำนมมารดาได้ จึงควรระวังหากใช้ยาเรติน-เอ ในขณะที่ต้องให้นมบุตร
อาการไม่พึงประสงค์
อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบคือ ผิวแห้ง แสบร้อน แดง คัน ผื่น ผิวลอก และสีผิวเข้มและจางกว่าปกติ ในบางรายอาจพบว่าเกิดแผลพุพอง และเป็นสะเก็ดของผิวหนัง การบวมและระคายเคืองดวงตา ซึ่งอาการเหล่านี้พบว่าเกิดน้อยรายมาก
การเกิดปฏิกิริยาต่อกันของยา
ในการใช้ยาร่วมกับยาทาชนิดอื่น สบู่ยา น้ำยาทำความสะอาดผิว เครื่องสำอางที่มีผลทำให้ผิวแห้ง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์สมานผิวหรือเครื่องเทศหรือน้ำมะนาว
ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจเกิดปฏิกิยากับ Tretinoin ได้ นอกจากนี้ควรระวังเป็นพิเศษ หากใช้ทาร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของซัลเฟอร์, รีซอซินอล และ ซาลิซิลิค แอซิด หากจำเป็นต้องใช้ร่วมกันควรใช้หลังจากที่ได้ทายาเหล่านี้ไปก่อนแล้วทิ้งช่วงให้ห่างกัน จนยาเหล่านั้นซึมเข้าผิวหนังจนหมดแล้วจึงค่อยทาเรติน-เอ
การใช้ยาเกินขนาด
ยาเรติน-เอ ใช้ทาภายนอกเท่านั้น ในกรณีรับประทานยาโดยอุบัติเหตุควรทำให้อาเจียน หรือล้างท้องโดยด่วน การรับประทานยาเรติน-เอ อาจทำให้เกิดผลเสียแบบเดียวกับ การรับประทานเรติน-เอเกินขนาด
การเก็บรักษา เก็บรักษายาในอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่า
คำเตือน 1. ใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรอย่างใกล้ชิด
2. ห้ามใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
3. ห้ามใช้ยานี้ในหญิงมีครรภ์เพราะอาจทำให้ทารกพิการได้
จากคุณ |
:
bemynails
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ม.ค. 54 13:26:25
|
|
|
|
 |