ความคิดเห็นที่ 1 bridezilla  !!! จากคุณ : opleka เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 14:40:50

ความคิดเห็นที่ 2 อาการค่ิอนข้างหนักนะคับเนี่ย เลื่อนออกไำปก่อนดีมั้ยคับ จะถึงขั้นเลิกเลยเหรอ ^^ จากคุณ : arahan เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 14:42:16

ความคิดเห็นที่ 3 เราว่าคุณติดเที่ยว ติดเพื่อน กลัวไม่ได้เที่ยวกับเพื่อน จริงๆแต่งงานนี่เรื่องใหญ่นะถามตัวเองก่อนว่ารักเค้าป่าว อยากใช้ชีวิตกับเค้าหรือเปล่า ถ้าคิดว่ารักแต่อยากจะเลิกเพราะกลัวไม่ได้สนุกกับเพื่อนก็คิดดีๆละกันเพราะสุดท้ายคนที่จะอยู่กับเรา แก่ไปกับเรา กุมมือเราก่อนตายเนี่ย ก็คงต้องเป็นสามีไม่ใช่เพื่อนที่สนุกสนานเฮฮามาด้วยกันหรอกนะ คิดดีนะคะ ยังไงก็เอาใจช่วย ^ ^ จากคุณ : Nameless Monster เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 14:52:44

ความคิดเห็นที่ 4 อยากช่วยตอบนะคะ แต่ไม่เคยแต่งงานเลยไม่รู้จะตอบยังไงดี ^^" เราว่าไปตั้งถามห้องชานเรือนดีกว่า ห้องนั้นมีแต่แม่ๆ ผ่านการแต่งงานมาแล้วทั้งนั้น น่าจะเข้าใจความรู้สึกและให้คำปรึกษาได้ดีกว่าค่ะ :) จากคุณ : If Love Were All เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 14:54:41

ความคิดเห็นที่ 5 ผมคงเสียใจถ้าแฟนผมคิดได้แค่นี้ จากคุณ : Fallen Joker เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 14:54:56

ความคิดเห็นที่ 6 เคยเป็น แต่หายแล้ว ความรักจากเพื่อนหรือจะสู้ความรักจากแฟน จากคุณ : ชอบชมจันทร์ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:04:45

ความคิดเห็นที่ 7 คุณแค่แต่งไม่ใช่กำลังจะมีลูกนะคะ ตั้งสติก่อน ถ้าคุณคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน คุณต้องรับได้ทั้งส่วนที่แย่ที่สุด และ ดีสุดด้วยเช่นกัน ดีที่สุดนี้อาจหมายถึงเค้าทำดีกับคนอื่น ดีคุณมองว่ามันไม่ดี ลองย้อนกลับไปวันที่คิดจะแต่งว่าทำไมอยากแต่ง แล้วทำไมตอนนี้สับสน คือ การแต่งงานแบบไทย ต้องเข้าใจอีกว่า คุณไม่แต่งกันสอง คุณแต่งเหมือนได้ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง แล้วคุณรับได้ไหม จะโชคดีไปถ้าบ้านไหนเค้าปล่อยให้จัดการกันเอง ใช้ชีวติกันเอง ไม่ยุ่งเกี่ยว นอกจากจะขอความช่วยเหลือ เพราะที่ชานเรือน มีทุกวัน เรื่องแม่สามี ลูกสะใภ้ / เบื่อสามีมากกก ประมาณนั้น ซึ่งคนที่พิมพ์อยู่นี้ก็เป็น ไอ้เรื่องเที่ยวจะกลายเป็นเรื่องเล็ก ถ้าคุณเจอ เรื่องแม่สามี พ่อสามี ญาติสามี เรื่องสามีเปลี่ยนไป คุณแค่ต้องการแต่งงาน หรือ คนที่เข้าใจ หรือ คนที่จะอยู่ด้วยยามคุณทุกข์ สุข เหงาเศร้า หรือ คนที่คิดว่าเค้าเหมาะกับคุณ หรือ คนที่ดีในสาย หรือสุดท้าย คุณต้องการผู้ชายคนนั้นมาใช้ชีวิตร่วมกับคุณรึเปล่า ? ไม่มีใครดีที่สุดและแย่ที่สุด อยากบอกว่าทุกวันนี้ก็เคยคิดว่าทำไมถึงแต่งกับไอ้ผู้ชาย ตื่นสาย กินจุ นอนกรน เร้อเหม็น เจ้าอารมณ์ หงุดหงิดง่าย สรุป เค้าเป้นนดีของลูก แค่เนี้ย นอกนั้นก้มองข้าม ๆ ไปบ้าง พิมพ์ซะยาวหวังว่าจะช่วยได้นะคะ เพิ่มเติม มาจากชานเรือน จะมาดู รีวิวแต่งหน้า เจอกระทู้นี้เลยซะหน่อย แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 15:13:15 จากคุณ : Nachama เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:11:54

ความคิดเห็นที่ 8 อย่างงี้รึป่าวคะ ที่เค้าเรียกกันว่า "เจ้าสาวกลัวฝน"................. ยังไงก้อเอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : memory in mind my เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:18:21

ความคิดเห็นที่ 9 เคยเป็นค่ะ แต่ก็ผ่านมาได้ บางทีเรากลัวไปหมดอ่ะค่ะ ลองถาตัวเอง ว่าอยู่กับเค้าแล้วมีความสุขกว่าอยู่คนเดียวมั้ย ถ้าคำตอบคือ ใช่ก็แต่ง ไม่ใช่ก็คิดอีกทีว่าจะแต่งมั้ย ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย มันจะคุยแล้วก็เคลียร์กันได้เอง สบายๆค่ะ จากคุณ : ทำไมเค้าไม่ได้อ่ะ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:25:03

ความคิดเห็นที่ 10 กังวลมากไปจะกลายเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนนะคะ หากเราลังเล และตัดสินใจวิ่งหนีไป ล้มเลิกงานแต่งเอาเสียง่ายๆเพราะความกังวลของคุณฝ่ายเดียว มันอาจทำให้คุณพลาดโอกาสที่ดีหลายๆอย่างไปก็เป็นได้ เช่น คนรักของคุณอาจไม่เชื่อใจคุณในเรื่องของการตัดสินใจอะไรอีกต่อไป หรือ หากคุณขอเลิกกับเค้า แล้วมาคิดได้ทีหลัง คุณอาจเสียเค้าให้คนอื่นไปแล้ว จะขอแก้ตัวกลับมาใหม่ก็อาจไม่เหมือนเดิม หรือ ถ้าเลื่อนการแต่งงานไปแบบไม่มีกำหนด คุณก็อาจเสียโอกาสสูญเสียเวลาในการสร้างครอบครัว ตามแบบฉบับของคุณกับเค้าได้ การแต่งงาน ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้นค่ะ ถ้าไม่ได้มีลูกด้วยกัน ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ถ้าแต่งไปแล้วมาพบทีหลังว่า ไปกันไม่ได้จริง หรือ เค้าเปลี่ยนไป เราเปลี่ยนไป ไม่เหมือนตอนคบกันเป็นแฟน ถ้าอยากจะเลิก ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร แต่.. ถ้าคบกันจนรู้จักนิสัยใจคอกันมาอย่างดีอยู่แล้ว ถึงขึ้นได้ตกลงปลงใจแต่งงานกัน มันก็การันตีได้ส่วนนึงแล้วล่ะค่ะ ว่า หลังแต่งคุณก็คงไม่ได้ประสบปํญหาอะไรกับเรื่องพวกนี้มากนัก เพราะก็รู้ๆนิสัยกันดีอยู่แล้ว อาการสติแตกแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณคนเดียวหรอกค่ะ โดยส่วนใหญ่เป็นกันแทบทุกคู่ ก่อนแต่ง บางทีก็เครียด นู่นนี่นั่น ทุกอย่างเหมือนจะดูไม่ได้ดังใจ ทำให้หงุดหงิดไปซะทุกเรื่อง เครียดจนร้องไห้ก็มี อย่าว่าแต่กับว่าที่เจ้าสาวเลยค่ะ กับตัวเจ้าบ่าวเอง ยังเคยเจอมาเหมือนกัน เครียด เหนื่อย หงุดหงิด บางทีรู้สึกว่าอุปสรรคเยอะ ทำไม อะไรก็ไม่ราบรื่นติดขัดไปหมด เครียดเพราะเจ้าสาว อยู่ๆ เกิดเอาแต่ใจ อยากได้นู่นนี่นั่นเพิ่มขึ้นมาซะงั้น เกินงบ ไม่ได้ดังใจแม่หล่อนก็ งอนจะไม่แต่งด้วย ซะงั้น อะไรประมาณนี้ ฉะนั้น อยากให้กำลังใจคุณน่ะค่ะ ว่า ไม่ต้องกังวลค่ะ ถ้าเราเป็นตัวของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไรให้เค้าและเราได้เรียนรุ้ซึ่งกันและกันมาโดยตลอดอยุ่แล้ว คุณก็ควรทำใจให้สบายค่ะ ว่ามันจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี อะไรมันจะเกิด อย่างน้อย มันก็เกิดกับคุณทั้งคู่ ไม่ใช่คุณ เพียงคนเดียว ผ่านไปด้วยกันกับคนที่คุณรัก คิดอย่างนี้แล้วมันจะมีความสุขค่ะ เราเป็นคนนึงที่เคยเกิดอาการ "เครียด ก่อนแต่ง" มาเหมือนกัน ร้องไห้กับแม่จน บอกแม่ว่าไม่อยากแต่ง แต่ในที่สุด ก็ได้คุณแม่ นั่นแหล่ะค่ะ ที่ให้กำลังใจ จนเราหันกลับมามองใหม่ ตั้งหลักใหม่ คิดใหม่ ดูรูป ดูชุดแต่งงาน สวยๆ เห็นแล้วก็มีความสุข มีกำลังใจขึ้นมา แล้วก็มองมุมใหม่เป็นแง่บวกมากขึ้นเลย ส่วนกับน้องชายเรา ก็ เป็นว่าที่เจ้าบ่าว ที่เกิดอาการ "เครียด ก่อนแต่ง" ยิ่งกว่าเจ้าสาว แต่ไม่ได้เครียดกับเจ้าสาวเรื่อง She อยากได้อะไรมากมาย แต่เครียด แทบทุกอย่าง เรื่องญาติฝายหญิง เรื่อง สถานที่ เรื่องวงดนตรี เรื่องสงสารพี่สาว กับแม่และพ่อ ที่ตัวเองไม่มีเวลาให้  สงสารพี่สาวที่ทำออแกไนซ์งานให้เองทำเอง ทั้งหมด ไม่ได้หลับไม่ได้นอน อะไรสารพัดที่ อยู่ๆเราไม่คิดว่าเค้าจะเครียด กลับเครียดเฉยเลย แต่พอสรุปถึงวันงาน ทุกอย่างออกมาน่าชื่นใจ น่ายินดีมาก ตื้นตันใจ ร้องไห้กันไม่รู้ว่ากี่รอบต่อกี่รอบเลย จริงๆ เอาล่ะค่ะ พิมพ์ซะยาวเลย ขอโทษทีจ้ะ  ก็อยากจะให้กำลังใจคุณนะคะว่า ไม่ต้องกังวลมากค่ะ ค่อยๆคิด ค่อยๆคุยกับเค้าก็ได้ ถ้าเราอยากสบายใจ คุยกันแล้วเดินหน้าต่อ ไปด้วยกัน คุณกับเค้าเท่านั้นค่ะ ที่จะรู้ได้ ว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร สู้ๆ นะคะ ทำให้ชีวิตคู่เป็นสีชมพู ค่ะ  สุดท้ายนี้ขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าสาวคนใหม่ด้วยจ้ะ ^^ จากคุณ : rescue1302 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:26:11

ความคิดเห็นที่ 11 เรากลัวไม่มี "ปั๋ว" มากกว่าค่ะ จากคุณ : ซ้ำก็ช่าง ไม่ซ้ำก็ช่าง เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:34:07

ความคิดเห็นที่ 12 . แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 16:17:17 จากคุณ : Eddieshop เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:39:46

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ทำให้ได้คิดจริงๆ ดันกลัวอนาคตที่ยังไม่เกิด ป.ล คุณ Fallen Joker : เจ็บสุดอ่ะ T_T จากคุณ : BaBaPaPa AnGie เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:44:24

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ได้มีเจตนาร้ายนะครับ ^^""" ค่อยๆทบทวนดีๆนะครับ แต่ไม่ใช่คิดมากฟุ้งซ่านน้า จากคุณ : Fallen Joker เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 15:56:00

ความคิดเห็นที่ 15 เคยเป็นค่ะ. เกือบแย่เหมือนกัน โชคดีที่คิดได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงเสียใจไปตลอดชีวิต จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 16:23:39

ความคิดเห็นที่ 16 รักเขาไหมล่ะครับ ถ้ารักกันแล้ว ทุกอย่างจะดีเองน่ะผมว่า จากคุณ : Noomnoi in Love เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 16:39:26

ความคิดเห็นที่ 17 ยังไม่พร้อมรึเปล่าวคะ ยังไงก็คิดให้ดีนะคะ ชีวิตคู่จะได้มีความสุข จากคุณ : เชี่ยนหมากคุณยาย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 16:39:55

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นเหมือนกันค่ะ ติดเที่ยว ติดเพื่อน แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานมีน้องค่ะ ทีนี้รู้เลยว่าใครสำคัญสำหรับเรา อิอิ จากคุณ : เขียนบน iPhone (แม่น้องมิวนิค) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 17:01:54

ความคิดเห็นที่ 19 กำลังจะแต่งปีหน้านี้ค่ะ  กลัวและกังวลเยอะแยะไปหมด เพราะต้องลาออกจากงาน ย้ายไปอยู่กับเขา (อยู่ไกลกันค่ะ) ตอนนี้พยายามโฟกัสแค่ว่าเราอยากอยู่และใช้ชีวิตกับเขา เชื่อมั่นว่าเขาจะดูแลเราได้  อยากบอกเจ้าของกระทู้ว่า  หากมั่นใจว่าเขาคือคนที่ใช่  ไม่ต้องกลัวค่ะ เชื่อว่าทุกปัญหาที่เกิด คุณทั้ง 2 คน คงผ่านมันไปได้  สำคัญคือ ต้องไม่หยุดสื่อสารกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 17:21:48 จากคุณ : มะม่วงน้ำดอกไม้ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 17:19:39

ความคิดเห็นที่ 20 เหมือนยังไม่พร้อมจะใช้ชีวิตคู่เลยนะคะ จากคุณ : เบรานิ่ง เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 17:35:34

ความคิดเห็นที่ 21 เพราะอะไรคุณถึงตกลงแต่งงานกับเค้าละคะ ^^ จากคุณ : Pimya_P เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 18:04:42

ความคิดเห็นที่ 22 คนอยากแต่งไม่ได้แต่ง คนได้แต่งดันไม่อยากซะงั้น ฮ่าๆ เอาเอ็มวีไปดูละกันค่ะ http://youtu.be/rZebsgzPSSU แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 54 18:37:38 จากคุณ : TC (Helianthus annuus) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 18:37:00

ความคิดเห็นที่ 23 สัปดาห์สุดท้าย คุณจะยิ่งสติแตกกว่าเดิม สำหรับเรานะ 1.ครอบครัวเจ้าบ่าวเห็นเรามากขึ้น จากเดิมที่ไม่ไปคลุกคลี เข้ามาเจ้ากี้ เจ้าการจุกจิก 2. พ่อแม่ ตัวเองก็มากมาย แม่เราดราม่า ถึงขนาดบ่นกับพ่อว่าจะไม่ไปงานแต่ง  เราแทบจะวิ๊ดใส่หูแม่ 3.เพื่อนฝูงก็บ่นระงม การ์ด ไม่ได้แจกด้วยตัวเองบ้าง ฝากไปยังไม่ได้รับบ้าง 4. ชุดแต่งงาน ก็ตลก แก้เข้า ออก อยู่ตลอด ไม่ถูกใจสักที มีคนทักว่าไม่สวย เรียบเกินไป ทำไมงานแต่ง ใส่แบบนี้ 5.พิธีการมากมาย พวกผู้ใหญ่ เข้ามาวุ่นวาย 6. โน่นก็ไม่ทัน นี่ก็ไม่เสร็จ เราก็เลย วิ๊ดดด ใส่แฟนแล้ว  แฟนก็วิ๊ดกลับมาเหมือนกัน อยาก เลิก อยาก เืลื่อน เลยตั้งสติดีๆ หาวิธีแก้ปัญหา  กลับพบว่ามันก็ำไม่ได้ยากอ่ะไร ทำตารางสรุปให้ชัดเจน จากคุณ : The_198x เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 18:42:36

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่เป็นนะคะ ทั้งๆที่ถ้าถามเราสองปีที่แล้วว่าจะแต่งไม้ ไม่ไหวแน่นอน ถึงตอนนี้ก็มีหลายๆอย่างที่ยังต้องปรับเข้าหากัน ทั้งวิธีการใช้ชีวิต ครอบครัวแต่ละฝ่าย ฯลฯ สิ่งที่ทำให้ตกลงแต่ง ก็คือความมั่นใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราสองคนเป็นทีมเดียวกัน ไม่มีใครหันหลังให้ใครแน่นอน แล้วก็ต่างฝ่ายต่างก็เห็นใจ เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน เรื่องปรับตัว สังคมแต่ละฝ่าย ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ ไม่ใชว่าแต่งปุ๊บ ตัวติดกันปั๊บซะหน่อย ขอให้ค่อยๆคิด ค่อยๆแก้ไขกันนะคะ จากคุณ : เพชรช่วง เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 19:40:51

ความคิดเห็นที่ 25 ก่อนแต่ง...ลืมตามองเค้าให้เห็นทั้ง 2 ข้าง แต่งแล้ว...จงปิดตามองเค้าแค่ข้างเดียว คำสอนจากคุณพ่อคุณแม่เราค่ะ จากคุณ : หม่ามี๊ของเด็กๆ (หม่ามี๊ของเด็กๆ) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 19:51:52

ความคิดเห็นที่ 26 แปลกดีน่ะ ถ้าเป็นเรา เรากลับคิดว่าเราคงจะเฝ้ารอวันนั้นเร็วๆ อยากอยู่ด้วยกัน เราว่าการคิดไปในทางลบแบบนั้น บางทีก็ดูเห็นแก่ตัวน่ะ ใจเย็นๆค่ะ คุณสองคนมาได้ถึงจุดนี้แล้วทั้งที จะไปกลัวอะไรแค่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แถมเป็นแค่ความกังวลด้านเดียว มองในแง่ดีเอาไว้ จะได้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขนะคะ ปล.แอบสงสารแฟนคุณนิดๆ ถ้ารู้เค้าอาจจะเสียใจน่ะ T^T จากคุณ : guyyard เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:06:53

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณทุกคนมากๆนะคะ รักกันค่ะ ^ ^ แต่เราอาจจะยังไม่พร้อมจริงๆ พอจะแต่งงานมีเรื่องเข้ามาหลายอย่างมากๆ  อย่างที่ คุณ The_198x ว่าเลยค่ะ มีคนมาบอกให้ทำนู่นนี่เยอะมาก เรามันเป็นคนไม่รับคำสั่งใครอยู่แล้ว และพาลจะไม่ทำซะดื้อๆ เลยอาการหนักหน่อย เคยคุยกับคุณแฟนว่าเลื่อนก่อนมั๊ย เพราะเราวีนกระจาย เป็นฝันร้ายของเค้าเลย เค้าก็ไม่ยอมคงเป็นเพราะหลายอย่างเตรียมไว้แล้ว คุณแฟนแสนดีมาก คงหาคนที่ใจเย็นและรักเราขนาดนี้ไม่ได้อีกแล้ว ไม่เคยโกรธเลย พยายามคุยด้วยเหตุผลตลอด แต่เรามัน... ตอนนี้เรากำลังพยายามเข้าสู่โหมดปรับความเข้าใจกับตัวเองอยู่ค่ะ คิดว่าอีกซักพักคงโอเคขึ้น ขอบคุณทุกคนที่เค้ามาแสดงความเห็นนะคะ เอากลับไปคิดทุกอันค่ะ : ) จากคุณ : BaBaPaPa AnGie เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 20:55:10

ความคิดเห็นที่ 28 ใจเย็นๆนะคะ อย่าคาดหวัง อย่าคิดในสิ่งที่ยังไม่เกิด ทำตัวให้เป็นตัวของตัวเองที่สุด ก่อนและหลังแต่ง ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยค่ะ มีแต่ดีขึ้นเพราะมีอะไรที่มากขึ้น(พูดประสาคนแต่งมาครบปีแล้วค่ะ) จากคุณ : peterpancake เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 21:05:35

ความคิดเห็นที่ 29 ดีแล้วค่ะ ที่ตั้งคำถามนี้ก่อนแต่ง (ดีกว่าคิดได้หลังแต่ง) พยายามหาคำตอบให้ได้ด้วยเหตุและผลนะคะ จากคุณ : cuccy เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 22:15:49

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วคุณคิดว่าถ้าเลิกแล้ว เพื่อนๆคุณจะอยู่ "มันส์" กะคุณไปได้นานเท่าไหร่ เดี๋ยวพวกเขาก็แต่งบ้างล่ะ ถึงตอนนั้นคุณจะไปห้ามเขาเหรอว่า อย่าแต่งนะเว้ย ชั้นอุตส่าห์เลิกกะแฟนเพื่อพวกแก ทีนี้ล่ะจะเห็นว่าบทเพื่อนมันจะอยากแต่งอะไรก็ฉุดไม่อยู่ แล้วพอกลับเป็นโสด เดี๋ยวก็ทุรนทุรายหาคู่กันใหม่อีก พอหาไม่ได้ก็จะมากลุ้มใจ ผู้ชายแท้ยิ่งน้อยๆอยู่ (เดี๋ยวนี้อัตราส่วน ชายต่อหญิงเท่าแล้วเนี่ย เมื่อไม่นานนี้รู้สึกจะ 1 : 7) แต่ถ้าจะเลิกเพราะแฟนทำไม่ถูกใจ อันนี้มันก็คงห้ามไม่ได้ แต่อยากบอกว่า คุณเปลี่ยนใครไม่ได้หรอก ต้องเปลี่ยนที่ใจตัวเราเอง จากคุณ : lovely beagle เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 22:33:12

ความคิดเห็นที่ 31 เจ้าสาวกลัวฝนแน่ๆเลยคนนี้ เปลี่ยนจากกลัวมาเป็นตื่นเต้นดีกว่าค่ะ ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ แต่งงานแล้วใช่ว่าจะตัวติดกันซะเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็ได้มีเวลาออกไปนู่นมานี่ เจอเพื่อน นัดเที่ยวเองแหละค่ะ ไม่ต้องกังวลหรอก กลัวแต่ว่าาพอแต่งงานแล้ว แฟนจะไม่สนใจนี่สิ จากคุณ : ไม่เห็นจะยากเลย เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 23:13:44

ความคิดเห็นที่ 32 ถามตัวเองว่าอยู่โดยไม่มีเค้าได้มั๊ยล่ะ? ตอนเราจะแต่งเราก็งงๆนะ เพราะมันไม่ใช่ความรู้สึกแบบร๊ากรัก มันเหมือนคนรู้ใจกัน เรียบๆเรื่อยๆ แต่ถ้าให้อยู่โดยไม่มีเค้าไม่เอาดีก่า จากคุณ : เด็กเอบวก เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 23:20:09

ความคิดเห็นที่ 33 อย่าแต่งเลยค่ะ จากคุณ : Superstarie เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 23:26:01

ความคิดเห็นที่ 34 ใจเย็นค่ะ อาการแบบนี้ไม่ได้เกิดกับคุณคนเดียว และอีกหลายคนที่ไม่ได้อยู๋ในภาวะนี้จะไม่เข้าใจหรอก ตอนเพื่อนเรามาปรึกษา เราบอกว่ามันคิดมากไป แต่งไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก พอมาตาตัวเองมั่ง โทรไปหา เพื่อนหัวเราะใส่เลย มันเป็นอาการที่เรียกว่า Marriage blues ค่ะ บางคนเป็นมาก บางคนเป็นน้อย ที่คล้ายกันคือจะเกิดอาการกลัวลึกๆ ลังเลว่า มันจะดีมั้ย หลังจากนี้ชีวิตจะเปลี่ยนแปลงยังไง ยิ่งถ้าเป็นโสดมานาน คือแต่งงานช้า เราจะยิ่งหวงความเป้นอิสระของตัวเอง ว่าที่เจ้าสาวบางคนเลยซึมเศร้าบ้าง หรือบางคนก้เหวี่ยงวีน แล้วยิ่งต้องจัดงานแต่งที่มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะๆ จนไม่เป้นตัวของตัวเอง ก็สติแตกได้เหมือนกัน ของเราช่วงนั้นเป็นไม่หนัก เพียงแต่เกิดลังเลว่าคนนี้จะ ..ใช่คนที่อยู่ด้วยไปตลอดชีวิต..มั้ย ขนาดคบมาเก้าปีนะ แล้วพอบ่นให้เค้าฟัง เจอสวนมาเนิบๆ..."ไม่แต่ง โดนเตะ" เราเลยต้องแต่งค่ะ ไม่ใช่ละ... จริงๆ แล้วเค้าก้คือคนที่เรารัก และรักเรามาตลอดนั่นแหละ ไม่ใช่คนที่จะมาเปลี่ยนชีวิตเราหรอก เอ่อ แล้วคุณชายทั้งหลาย กรุณาทำความเข้าใจกับว่าที่เจ้าสาวคุณด้วยนะคะ ปกติคุณจะเจอมนุษย์เมนส์อยู่แล้วทุกเดือน พอมาก่อนแต่งงานคุณอาจเจอความแปรปรวนและอำนาจทำลายล้างเป้นสองเท่า แต่เชื่อเถอะ ใจเย็นกันไว้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไปด้วยดีเอง สุดท้ายนี้ ขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าสาวด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : After Sunset_Before Sunrise เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 54 23:50:28

ความคิดเห็นที่ 35 เพื่อนที่คุณเคยเที่ยวด้วย อีกหน่อยเค้าก็ต้องมีครอบครัว มีลูก มีงาน คงไม่ได้ว่างจะไปกับคุณหรอกค่ะ แฟนคุณต่างหากที่เป็นคู่ชีวิต คู่คิดจะอยู่กับคุณ แชร์ชีวิตกับคุณแทบจะตลอดเวลา อย่าได้กลัวว่าจะทำอะไรไม่ได้ ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ มันไม่เลวร้ายแบบที่คิดหรอกนะค่ะ แคร์เค้าให้มากๆ กำลังจะร่วมกันสร้างครอบครัว อย่าได้คิดอะไรล่วงหน้า จนทำให้ความรักพังตอนนี้เลยค่ะ จากคุณ : ~Orange be Ora~ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 01:04:18

ความคิดเห็นที่ 36 มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตนี่คะ ถ้าเกิดอาการคิดมาก ก็ไม่น่าแปลกใจ แต่อยากให้ลองตั้งสติดีๆ แล้วใช้เหตุผลให้มากกว่านี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : kika_kikaru เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 13:14:05

ความคิดเห็นที่ 37 ใจเย็นๆนะคะ เราก็เคยเป็นค่ะ จากที่ปกติดีๆกัน ช่วงก่อนแต่งนี่ทะเลาะกันได้แทบทุกวัน ทุกเรื่อง แล้วก็มานั่งสงสัยตัวเองว่าจะแต่งดีมั้ย? ไม่แต่ง อยู่เป็นโสดก็มีความสุขดีนี่นา... (อ้าว!) มันเป็นอาการที่เรียกว่า wedding cold feet ค่ะ ขอลอกคำพูดคุณ After Sunset_Before Sunrise หน่อยนะคะ "... อาการแบบนี้ไม่ได้เกิดกับคุณคนเดียว และอีกหลายคนที่ไม่ได้อยู๋ในภาวะนี้จะไม่เข้าใจหรอก ..." ตั้งสติดีๆนะคะ ตอนนี้อาจจะยังสติแตกอยู่ แต่ขอให้เชื่อการตัดสินใจของตัวเองตอนสติยังไม่แตกเถอะค่ะ ถ้ารักกัน เข้ากันได้ อยากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน และพร้อมในหลายๆด้าน เราว่ามันเป็นเหตุผลที่พอเพียงที่จะแต่งงานแล้วค่ะ ปล. ลองอ่านนี่ดูเล่นๆก็ได้ค่ะ http://weddings.about.com/od/weddingstressmanagement/a/coldfeet.htm เมื่อ 2 ปีที่แล้วก่อนแต่งงานเราก็สติแตก เลยพยายามหาบทความเรื่องแบบนี้อ่าน ทำให้สบายใจขึ้นว่า มันเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก เราไม่ได้เป็นอยู่คนเดียวนะ และพยายามหาทางแก้ค่ะ (วิธีของเราืคือ หาวันหยุดไปต่างจังหวัดด้วยกัน โดยไม่พูดเรื่องงานแต่งงานเลย ใช้เวลาดีๆอยู่ด้วยกัน แล้วสติก็กลับมาค่ะ พยายามหาวิธีที่เข้ากับคุณและว่าที่เจ้าบ่าวนะคะ) จากคุณ : midori เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 54 22:10:32

ความคิดเห็นที่ 38 แต่งแล้วชีวิตก้อเหมือนเดิมนะคะ เราทำตัวเหมือนเดิม มันก้อเหมือนเดิมแล้ว  หนำซ้ำยังดีกว่าเดิมนะคะ ^^ อย่ากัวไปเลยค่า จากคุณ : aRt's aNgeL เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 10:02:51

ความคิดเห็นที่ 39 เราก็กำลังจะแต่งเดือน พ.ย.นี้เหมือนกันจ้าา ก็ไม่ได้มีอาการวิตกกังวลอะไรอย่างที่ จขกท.ว่านะคะ ก็เตรียมงานกันไปเรื่อยๆ สนุกดีออกค่ะ มีเรื่องให้ทำตั้งเยอะแยะ ไหนจะไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง พิมพ์การ์ด หาของชำร่วย หาสถานที่ อาหาร ธีมงาน ดอกไม้ และอีกจิปาถะ เราว่าทำใจสบายๆ ดีกว่ามั้ยคะ ไม่ต้องไปวิตกกับมันมากหรอกค่ะ จากคุณ : mojii เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 22:54:45

ความคิดเห็นที่ 40 เคยเป็นค่ะ กังวลทุกอย่าง เครียดไปหมด แต่พอถึงวันแต่งก็ภาวนาขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ทำใจให้สบายนะคะ นึกถึงวันที่คุณตื่นเช้ามาแล้วมีคนรู้ใจนอนอยู่ข้าง ๆ สิค่ะ เราว่ามันรู้สึกดีมาก ๆ เลยนะ ถึงแม้ว่าคืนวันแต่งงานจะสลบเหมือดกันทั้งคู่ก็ตาม จากคุณ : สวยอย่างแรงนิ เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 23:59:56

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่เคยเป็นเลยค่ะ แบบว่ารอมานานแล้วอะไรประมาณนี้แต่งๆซะที กลัวเจ้าบ่าวเปลี่ยนใจ อิอิ จากคุณ : ##TUKTA## เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 02:46:44

ความคิดเห็นที่ 42 ต้อง ยอมรับ ความเปลียนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนะคะ คุณไม่ได้มีตัวคนเดียวอีกแล้ว อะไรบางอย่างมันก็ต้องเปลี่ยนไปเสมอ จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 07:54:00

ความคิดเห็นที่ 43 เราเป็นคนนึงที่อยากแต่งงานมากมาย แต่แล้ววันหนึ่งที่ลูกพี่ลูกน้อง(พี่สาว) แต่งงาน เราอึดอัดมาก วินาทีที่เขาสวมแหวน ในใจคิดแต่ว่า "ดูสิ ๆ เขามีเจ้าของแล้ว เขาจองไว้แล้ว กรี๊ดๆๆๆๆ" แบบว่ากลัวถูกจอง เราเลยรู้ตัวเองว่าสงสัยอาจจะไม่อยากมีก็ได้ ตอนนี้ก็อยากแต่งอีกแล้ว แต่ จากวันนั้นถึงวันนี้ยังโสดเหมือนเดิม (เบื่อ ๆ อยาก ๆ ) อ้าว...ไม่ได้ช่วยอะไร จขกท เลย  แหะๆ จากคุณ : honeynut เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 10:10:59

ความคิดเห็นที่ 44 มันเป็นอาการวิตกกังวลมากกว่าค่ะ   ใจเย็นตั้ง สติ ลองถามตัวเองอีกครั้ง ว่า...ตัวเองต้องการอะไรในตอนนี้ ??? ฟังๆดูจากเรื่องราวแล้ว คุณกลัวไม่มีเพื่อนเที่ยว. ติดเพื่อน .แต่อย่ากลัวไปเลยค่ะ  พอมีชีวิตคู่เข้าจริงๆ  ตัวเราเองและเพื่อนจะห่างไปจาก   ชีวิตกันและกันโดยอัตโนมัติ  (ไม่ได้หมายถึงเลิกคบกันนะค่ะ) เพื่อนพร้อมเสมอ เมื่อเรา พร้อม จงจำไว้  อิอิ. ถ้าคนสองตกลง เตรียมจะแต่งงานกัน มันคงไม่ใช่อารมย์ชั่ววูบแน่นอน  และคงไม่มีเหตุผลไหน ทำให้ต้องเลิกกัน เพราะกลัวไม่ได้เที่ยวกับเพื่อนหรอกน่ะค่ะ เพื่อนไม่หนีหายไหนตราบใดที่เรายังต้องการมัน จากคุณ : เต่าไม่ชอบคลาน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:27:30

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้าเพื่อนแต่งงานไปหมด คุณจะไปเที่ยวกับใครล่ะ จากคุณ : Alex on the rock เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:31:44

ความคิดเห็นที่ 46 เป็นธรรมดาค่ะ ก่อนกุ๊กจะแต่งงานกุ๊กก็เป็นค่ะ มันจะกลัวไปหมด หงุดหงิดไปซะทุกอย่าง จะเริ่มออกแนวคิดมาก ว่าเค้าคนนี้จะใช่จริง ๆ หรือปล่าว ตอนนั้นมีปัญหากันถึงกับว่าจะเลิกกันเลยค่ะ ทะเลาะกันด้วยความงี่เง่าของคน 2 คน เหมือนจะ Negative Thinking ซะ 90% เลยค่ะ ตอนแรกเริ่มจากปัญหาเรื่องงานแต่งงาน เช่น เรื่องของชำร่วย เรื่องการ์ด เรื่องผู้ใหญ่ เนื่องจากเราลงมือทำเองหมดทุกอย่าง จึงรู้สึกเหนื่อย แล้วก็แอบเข้าข้างตัวเอง คิดว่าฝ่ายชายไม่ได้ลงมือทำอะไรบ้างเลย ปล่อยให้เราเหนื่อยอยู่คนเดียว ตอนนั้นท้อมาก คิดมาก ว่าถ้าเรื่องไม่เลยเถิดมาขนาดนี้ (ผู้ใหญ่คุยกันเรียบร้อย ทาบทามเรียบร้อย) คงไม่แต่ง และด้วยความงี่เง่าของผู้หญิงนี่เอง จึงทำให้ผู้ชายรู้สึกกลัวตามไปด้วย 555 แต่ในที่สุดก็เข้าใจกันค่ะ จริง ๆ แล้วเค้าทำอะไรให้เรา เพื่อเราตั้งหลายอย่าง แต่เรานั่นแหละ ไม่ยอมมองเห็นมัน สุดท้ายก็จบแบบ Happy Ending ค่ะ ชีวิตแต่งงานไม่ได้แย่เหมือนที่คิดไว้ มีคนคอยดูแล เอาใจใส่ ไม่เหงา เป็นเพื่อนคุย ทำให้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนละคนเลย เป็นผู้ใหญ๋มากขึ้น ไม่งอแงเหมือนเด็ก ๆ 555 ตอนแรกก็กลัวว่าจะขาดอิสระ แต่พอแต่งงาน มีชีวิตคู่จริง ๆ แล้วจะพบกว่า การมีชีวิตคู่จะทำให้อิสระเราหมดไปนะคะ ปัจจุบันนี้ก็ยังคบกับเพื่อนสนิท เพื่อนที่ทำงาน แล้วก็อีกหลาย ๆ คนได้เหมือนเดิม ไปเที่ยว ไปกิน ไปทำอะไร ๆ ได้เหมือนเดิม บางทีอาจจะดึงเค้าเข้ามาในกลุ่มเราด้วยก็ได้ ตอนนี้แฟนก็สนิทกับกลุ่มเพื่อน ๆ ค่ะ ตอนนี้ที่แอบกลัวก็คือ การมีลูก (T_T) คือยังไม่พร้อมอ่ะค่ะ แต่แฟนอยากให้มีมาก ๆ ไม่รู้จะทำยังไงดี 5555 จากคุณ : HoTLiPz เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 14:07:32

ความคิดเห็นที่ 47 สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆๆๆ แล้วก็เดินหน้าต่อไปคะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ว่าถ้าต้องตัดสินใจเรื่องอะไรก็ตาม คิดให้ดีๆสักนิดก่อนนะคะ...ว่ามันจะโอเคไหม..ถึงมันจะผิดพลาด  หรือคิดว่า ฉันคิดดีแล้วก็ตาม..สู้ๆคะ >,<" จากคุณ : aommybz เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:56:15

ความคิดเห็นที่ 48 เข้าใจๆ จากคุณ : กิ๊บส์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 16:27:20

ความคิดเห็นที่ 49 กรรม แล้วตอนแรกที่ตัดสินใจแต่ง คิดยังไงล่ะค่ะ นึกถึงตอนรักกัน ไม่มีเค้า เราจะอยู่ได้มั๊ย? จากคุณ : JJ_narak เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 18:45:57

ความคิดเห็นที่ 50 เราเคยเป็นค่ะ แต่ไม่ใช้เพราะกลัวจะไปเที่ยวไม่ได้นะ แต่เพราะคนนู้นก็จะเอาอย่างงั้น คนนั้นก็จะเอาอย่างงี้ แทบจะระเบิดกันเลยที่เดียว หวิดจะเลิก เอาอาทิตย์สุดท้ายก่อนจะถึงวันงาน ร้องไห้กับเพื่อนไม่อยากจะแต่งแล้ว แต่พอผ่านวันงานมาก็หายค่ะ เลิฟๆกันเหมือนเดิม เพราะไม่มีผู้ใหญ่มาสั่งนู้นสั่งนี้แล้ว จากคุณ : viwi_only (viwi_only) เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 10:33:40

ความคิดเห็นที่ 51 เราก็เป็นนะคะ แต่ออกแนวว่า เรายังอยากอยู่กับครอบครัวตัวเอง กลัวคิดถึงพ่อแม่เรา น้องๆเรา (เราแต่งออกไปอยู่บ้านสามีค่ะ) ยิ่งอาทิตย์ก่อนแต่งนี่นอนร้องไห้ทุกคืนเลย ตอนเก็บเสื้อผ้ายิ่งเศร้ามากๆอ่ะค่ะ ออกแนวใจหายที่ต้องออกจากบ้านนี้ไป ประมาณเนี้ยะ ส่วนเรื่องเที่ยว เราว่าแต่งกันแล้วยิ่งดีซะอีก อยู่บ้านเดียวกัน  ไปเที่ยวพร้อมกันได้  ที่สำคัญไม่ต้องขออนุญาตพ่อแม่เราเหมือนเดิม 555  เราโชคดีที่แฟนเราเข้ากับเพื่อนๆเราได้ดีค่ะ แล้วก็เที่ยวเหมือนกันอยู่แล้ว ก็เลยโอเค  พอแต่งแล้วมีหลายอย่างที่ต้องปรับตัวนะคะ ก็จะเป็นเรื่องของครอบครัวเค้าแทน พอตอนนี้จะคิดเรื่องมีลูก ก็เริ่มห่วงเรื่องเที่ยวเพราะเพิ่งจะได้เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน 2 ต่อ 2 ทั้งตจว. และ ตปท.  แต่สรุปว่าแฟนเราบอกเองว่าเค้าใจยังไม่พร้อม.. เราก็เหมือนกัน .. (รอดไป) สู้ๆนะคะ  นึกถึงข้อดีของกันและกันไว้ จากคุณ : mao_ja เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 11:20:49

ความคิดเห็นที่ 52 กระทู้นี้ดีจังค่ะ ประสบการณ์แต่ละคนหลากหลายดี เราก็ไม่อยากแต่งงานค่ะ อยากอยู่กับพ่อแม่แบบนี้ต่อไป 55+ จากคุณ : Much the same เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 12:02:15

ความคิดเห็นที่ 53 อยากสติแตกบ้างง่ะ ปล เจ้าบ่าวเค้ายังไม่เกิดเลย เศร้ากว่าเยอะ จากคุณ : aMMa82 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 14:23:07

ความคิดเห็นที่ 54 ค่อยๆปรับตัวไปนะคะ เราเองพึ่งแต่งได้ 4 เดือนกว่าก็ทะเลาะกันบ่อยไป เรื่องที่เค้าทำอะไรไม่ถูกใจเราเนี่ยแหละ แต่สุดท้ายเราเองก็มาเสียใจอยู่ดีว่าไม่น่าทะเลาะกันเลย ส่วนเรื่องไปเที่ยวกับเพื่อน ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะคะ จขกท.ก็บอกเองว่าแฟนไม่ห้าม แต่ถ้าเราไม่สบายใจจริงๆก็ต้องคุยกันค่ะ มีอะไรต้องคุยกันเยอะๆเข้าไว้ค่ะ อย่าคิดไปเอง ช่วงเตรียมงานแต่งก็เป็นบททดสอบอย่างนึงค่ะ สำหรับเราเอง เราคิดว่ามันเป็น final exam สำหรับการเป็นแฟนกันแล้วค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ อยู่ด้วยกันสองคนดีออก เวลาตกใจเสียงฟ้าร้องก็มีคนคอยปลอบไงคะ จากคุณ : TinyTammarind เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 14:55:07

ความคิดเห็นที่ 55 เพื่อนเราเป็นค่ะ เพื่อนเราเป็นผู้หญิงนะคะอยากแต่งงานมาก  จัดโน่นนี่เองวางแผนงานเองทุกอย่าง พออีก 1 เดือนจะแต่งงาน มาปรึกษาว่าอยากเลิกกับแฟนเฉยเลย รู้สึกสับสน คุ้มคลั่ง ฯ การ์ดก็แจกไปแล้ว ทางบ้านผู้หญิงก็เลยวุ่นกันใหญ่ว่าเอาไงแน่ เพื่อนๆก็ลุ้นจนสุดท้ายก็ต้องแต่งเพราะจัดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พอแต่งเสร็จตอนนี้ก็สวีทหวานเหมือนเดิมค่ะ  555  เพื่อนก็งงว่าตัวเองเป็นอะไร จากคุณ : มู๋เจ เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 20:23:46

ความคิดเห็นที่ 56 เราไงคะ สติกระเจิงเลย ยิ่งสามวันก่อนแต่ง องค์ลงเหมือนผีบ้าเลย 55+ ใจเย็นๆค่ะ อย่าเครียดนะคะ ค่อยๆทำไป แล้วมันจะผ่านไปด้วยดีค่ะ ^^ จากคุณ : เพนกวินบินได้ เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 54 19:30:07