CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    นาซาลอส : บทที่ 4 ปริศนาในแววตาสีมรกต

    คุณ scottie --- ถ้าอยากทราบคำตอบก็ต้องอ่านต่อไปค่ะ  ^^

    คุณrun saya --- ดีใจค่ะที่ชอบลาซ   จินตาก็ชอบในฐานะที่เป็นลูกชายคนแรก  
    แต่ลาซก็ยังไม่ใช่ลูกรักของจินตานะ  อิ...อิ...
    อันว่าตัวละครโหด ๆ ยังมีอีกมากมายในเรื่องนี่ค่ะ



    บทที่ 1 นครหลวงแห่งนาซาลอสhttp://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3968853/W3968853.html
    บทที่ 2 พบhttp://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4010402/W4010402.html
    บทที่ 3 สัญญาณเตือนแห่งภัยพิบัติhttp://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4058161/W4058161.html



    บทที่ 4 ปริศนาในแววตาสีมรกต

    “ ท่านผู้เฒ่าไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าฟังเลยหรือเอริฟ ”    ดาเรนเวียร์ถามหลังจากที่เล่าเรื่องของสามตระกูลใหญ่แห่งนาซาลอสจบลงแล้ว

    “เรื่องนี้ต้องอยู่ในหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งที่ท่านตาเคยให้ข้าอ่านแน่ๆ  แต่ข้าคงแอบโยนหนังสือเล่มนั้นทิ้งก่อนจะอ่านจบ ”  เด็กชายตอบพลางยิ้มแหย ๆ
    “ว่าแต่ทำไมท่านถึงเล่าเรื่องนี้ให้ข้าฟังล่ะ   ทั้ง ๆ ที่เรื่องอื่นเกี่ยวกับนาซาลอสที่น่าสนใจก็มีตั้งมากมาย”

    “  เพราะข้าอยากให้เจ้าเอาเรื่องนี้ไปเตือนสติใครคนหนึ่ง  ” ดาเรนเวียร์ตอบ  
    นัยน์ตาสีมรกตทอแววครุ่นคิดลึกซึ้ง เมื่อมองไปเห็นลาซานาร์ทกำลังเดินตรงเข้ามาใกล้

    “ ท่านหมายถึงใครหรือ ”  เอริฟถามต่ออย่างสงสัย

    “  คนคนนั้นกำลังเดินเข้ามาหาเจ้าแล้ว ”  ดาเรนเวียร์เอ่ยแล้วลุกขึ้นเดินจากไปราวกับไม่ปรารถนาจะพบกับผู้ที่นางกล่าวถึง

    “  อรุณสวัสดิ์  ลาซานาร์ท ”   เด็กชายทักทายชายหนุ่ม

    “  อรุณสวัสดิ์   เอริฟ  ”   ลาซานาร์ททักทายตอบ

    “  เมื่อครู่นี้ข้าคุยกับดาเรนเวียร์    นางพูดอะไรแปลก ๆ  ”  

    “  เรื่องอะไรหรือที่เจ้าว่าแปลก  ”  

    “ นางเล่าเรื่องสามตระกูลใหญ่ให้ข้าฟัง   แล้วก็บอกว่าให้ข้าเอาเรื่องนี้มาเตือนท่าน    ข้าว่ามันไม่เห็นจะเกี่ยวกับท่านตรงไหนเลย   ”     เอริฟเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

    คำบอกเล่าของเอริฟทำให้ลาซานาร์ทนิ่งคิด ค้นหาถึงความหมายที่นางซ่อนเร้นไว้    
    ‘ หรือว่าดาเรนเวียร์จะรู้ว่าข้าคือ… ’

    “  ลาซานาร์ท!    ลาซานาร์ท! ”  

    “  ทำไมหรือ   เอริฟ ”   เสียงเรียกของอีกฝ่ายดึงเขาขึ้นมาจากห้วงแห่งความคิด

    “  ข้าเห็นท่านเงียบไป   ”   สายตาของเด็กชายเต็มไปด้วยความงุนงงขณะที่มองคู่สนทนา
    “  มีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้ายังไม่ได้บอกท่าน     ข้าถามนางว่าทำไมเมื่อวานนี้นางช่วยเรา     นางตอบว่าเพราะนางรู้จักกับครอบครัวของท่าน "  

    คำพูดนี้เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า  การคาดเดาของชายหนุ่มไม่ผิด  ดาเรนเวียร์รู้ความเป็นมาและรู้ฐานะที่แท้จริงของเขา



                   
    นัยน์ตาสีมรกตยังคงจับจ้องอยู่ที่ทั้งสองจากอีกมุมหนึ่ง  ดาเรนเวียร์อยู่ในอิริยาบถนั้นครู่หนึ่ง    จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากเบื้องหลัง

    “  ท่านกำลังสนใจลาซานาร์ทอยู่ใช่หรือไม่  ”  

    ดาเรนเวียร์หันกลับไป   ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นนักบวชหนุ่ม   แต่สีหน้าและแววตาสงบสำรวมจนสามารถน้อมนำให้ผู้ที่พบเกิดความศรัทธาได้โดยปราศจากความลังเล  

    “ ใช่แล้วเฟเลส    ข้าสนใจเขา ”   ดาเรนเวียร์ตอบด้วยรอยยิ้มแฝงเล่ห์

    “ ถ้าอย่างนั้น ข้าคงต้องรีบไปสวดมนต์แล้วอธิษฐานขอให้ทวยเทพบนสรวงสวรรค์โปรดคุ้มครองเขา ”   เฟเลสกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    “ ทำไม  การได้รับความสนใจจากข้าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากนักหรือ ”  หญิงสาวขมวดคิ้ว

    “  ทุกครั้งที่ท่านสนใจใคร  คนผู้นั้นถ้าไม่ใช่สามารถใช้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ได้     ก็ต้องเป็นหมากตัวสำคัญบนกระดานการเมือง  ”  นักบวชหนุ่มเบนสายตาไปทางลาซานาร์ท
    “  แล้วครั้งนี้   ท่านจัดเขาไว้ในประเภทไหน  ”

    “  ก็ว่าจะจัดไว้ในประเภทของเล่นประดับบารมี  ”   ดาเรนเวียร์ตวัดเสียงประชด

    “ ลาซานาร์ทเป็นเด็กดี  ”

    “ ท่านนี่พูดอะไรเหมือนอาจารย์ไปเสียทุกอย่างเลยนะ  ”    ดาเรนเวียร์วิจารณ์   ก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะทอประกายวาววับ   จนเฟเลสเริ่มรู้สึกได้ถึงอันตราย
    “  คิดออกแล้ว   ข้าจะทำให้ท่านได้สืบทอดตำแหน่งประมุขแห่งศาสนจักรต่อจากอาจารย์   ดีไหม  ”

                       
    นักบวชหนุ่มแทบจะรักษาความสงบในสีหน้าไว้ไม่ได้   เมื่อได้ยินคำพูดของศิษย์ร่วมอาจารย์  รวมทั้งแววตาที่ยากจะบอกได้ว่านางล้อเล่นหรือคิดจะทำจริงกันแน่    จนต้องเอ่ยขึ้นว่า
    “  ได้   ข้าจะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของท่านอีกต่อไป  แต่ท่านก็จะต้องไม่ดึงการศาสนาไปข้องเกี่ยวกับการเมืองด้วยเช่นกัน   ”

    “  ตกลงเจ้าค่ะท่านนักบวช ”   ดาเรนเวียร์หัวเราะร่าเริงก่อนจะแตะหน้าผากแสดงคารวะอย่างงดงาม แล้วเดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่ง
                 
    เฟเลสมองตามหลังดาเรนเวียร์ไปอย่างอ่อนใจที่สุดท้ายตนเองก็ต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้นางอีกจนได้


                     



    คำพูดที่ของดาเรนเวียร์เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ลาซานาร์ทตัดสินใจเก็บปัญหาคดีประหลาดในโลกเวทมนตร์เอาไว้หาทางแก้ไขในภายหลัง     เวลานี้ชายหนุ่มคิดว่าตนเองควรจะแก้ปมยุ่งยากเรื่องครอบครัวที่ก่อขึ้นมาตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนได้แล้ว    อีกไม่นานวันครบรอบการจากไปของบิดาและมารดาก็จะมาถึง    เขาต้องรวบรวมความกล้าที่จะไปพบญาติผู้ใหญ่ทั้งสองให้ได้ก่อนจะถึงวันนั้น
                     
    ลาซานาร์ทออกจากมหาวิหารเลอารีเอล  ชายหนุ่มทอดสายตามองภาพนครหลวงแห่งนาซาลอสในยามเหมันต์เนิ่นนาน    หิมะที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าในราตรีที่ผ่านมาปกคลุมเอนเดอร์เรียสจนแลดูคล้ายนครสีขาวในเทพนิยาย    แม้จะล่วงเลยเข้าสู่ยามสายของวัน     หากแต่ดวงตะวันเบื้องบนก็ยังคงเห็นเป็นเพียงเงาสว่างเบื้องหลังเมฆขาวที่บดบังเต็มท้องฟ้า
                       
    เขาก้าวเท้าไปตามถนนสายหลักของมหานคร  จนกระทั่งรู้สึกราวกับว่ามีสายตาของใครจับจ้องมา    นัยน์ตาสีฟ้าแลกวาดไปทั่วบริเวณรอบตัว      แต่ก็ไม่พบเห็นสิ่งผิดปกติใดใด    จึงเดินต่อไปโดยไม่คิดสงสัย    
                       
    แต่เหมือนกับการเดินทางของเขาจะถูกบางสิ่งที่มองไม่เห็นกลั่นแกล้งให้ปราศจากความราบรื่น      
                       
    ชายหนุ่มพบกับหญิงชราที่หอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังและทำหล่น     จนลาซานาร์ทอดไม่ได้ที่จะต้องช่วยเก็บและช่วยถือไปส่งถึงที่บ้านของนาง
                       
    ชายกลางคนผู้หนึ่งที่ถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าแล้วร้องขอความช่วยเหลือ    ชายหนุ่มก็ต้องเข้าไปช่วยวิ่งตามจับเจ้าหัวขโมยเพื่อเอาเงินมาคืนให้
                       
    เด็กหญิงที่หกล้มขาเจ็บนั่งร้องไห้อยู่กลางถนน     จนเขาต้องเข้าไปปลอบด้วยการเสกผีเสื้อสีรุ้งให้ตัวหนึ่ง     ก่อนจะพาไปหาหมอแล้วอุ้มไปส่งจนถึงมือพ่อแม่
                       
    สุดท้ายชายหนุ่มเดินมาจนถึงทะเลสาบกว้างอันเป็นแหล่งน้ำของเอนเดอร์เรียส   มันอยู่ไม่ไกลจากจุดหมายของเขานัก      น้ำในทะเลสาบแม้จะยังไม่ถึงกับเป็นน้ำแข็งเพราะพึ่งย่างเข้าสู่เหมันต์      แต่มันคงเย็นยะเยือกยิ่งเสียกว่าสายลมหนาวที่พัดผ่านมาในยามนี้มากมายนัก
                       
    นกสีขาวตัวน้อยใกล้จะจมน้ำ    จากอาการดิ้นรน เห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถบินขึ้นมาเองได้    แต่เพราะมันอยู่ห่างจากฝั่งเกินกว่าที่จะเอื้อมมือถึง       ลาซานาร์ทจึงต้องลุยลงไปในน้ำเพื่อคว้าตัวมันกลับขึ้นมา   เนื่องจากความลึกของน้ำที่มีไม่น้อย      เสื้อผ้าของชายหนุ่มจึงแทบจะไม่มีส่วนไหนเลยที่ยังไม่เปียก
                         
    นกตัวนั้นมีร่องรอยบาดเจ็บที่ปีก   คล้ายกับแผลภายนอกหายดีแล้ว     แต่กระดูกหรือเอ็นภายในเสียหายจนบินไม่ได้   ลาซานาร์ทร่ายมนตราเพื่อรักษามัน  จนมันกระพือปีกได้เป็นปกติ   แล้วจึงปล่อยให้มันโผบินขึ้นสู่ฟ้า    ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยนขณะที่มองมันบินจากไปจนสุดสายตา
                         
    ในนาทีนั้น    ความรู้สึกเหมือนกับถูกใครบางคนเฝ้ามองอยู่ก็กลับมาอีกครั้ง เสียงฝีเท้าที่ย่ำบนหิมะบอกให้รู้ว่าคนคนนั้นเดินเข้ามาใกล้และหยุดยืนอยู่ข้างหลัง     ลาซานาร์ทลุกขึ้นและหันกลับไปในทันที    
                           
    นัยน์ตาสีมรกตวาววับมองตอบกลับมา    ดาเรนเวียร์นั่นเองที่เป็นเจ้าของสายตาลึกลับนั้น
    “  เจ้านี่ช่างใจดีเหลือเกินนะ    ถึงขนาดยอมลงไปในน้ำที่เย็นขนาดนั้นเพื่อช่วยมัน    ทั้ง ๆ ที่มันเป็นแค่นกตัวหนึ่งเท่านั้นเอง ”    นางเป็นฝ่ายเริ่มต้นการสนทนาขึ้น    

    “  ถึงจะเป็นเพียงแค่นก    แต่ก็นับเป็นหนึ่งชีวิตเหมือนกัน  ”  ลาซานาร์ทตอบพลางยิ้มน้อย ๆ

    “ ข้าต้องขอบใจเจ้า   ที่ทำให้ข้าไม่ต้องรู้สึกผิดไปมากกว่านี้  ”  ดาเรนเวียร์เอ่ยด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

    “ รู้สึกผิด ? ”  ชายหนุ่มทวนคำอย่างงุนงง

    “ ข้าเองที่เป็นคนหักปีกเจ้านกตัวนั้นแล้วเอามันไปโยนลงในทะเลสาบ   เพราะข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะยอมช่วยมันหรือไม่    ยังดีที่เจ้าช่วยมันขึ้นมา    ถ้าไม่อย่างนั้นเกิดมันจมน้ำตายไป   ข้าคงรู้สึกผิดแย่เลย  ”  ดาเรนเวียร์อธิบายหน้าตาเฉย

    “ ท่าน !  ”   ลาซานาร์ทได้แต่ตะลึงกับคำพูดของอีกฝ่าย

    “    แล้วก็ผลทดสอบความใจดีของเจ้าออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว    เพราะเจ้าช่วยเหลือทุกคนตามที่ข้าวางแผนล่อเอาไว้     แถมยังช่วยได้ดีเกินกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก ” ดาเรนเวียร์ยังคงกล่าวต่อไป   นัยน์ตาของนางทอแววสนุกสนานราวกับเด็กที่ได้เล่นของเล่นชิ้นใหม่
                   
    ลาซานาร์ทรู้สึกว่าอารมณ์ของเขาในยามนี้นั้นแม้แต่ตัวเองยังไม่สามารถจะหาถ้อยคำใดมาบรรยายได้  สุดท้ายได้แต่เอ่ยเป็นเชิงถามเพื่อให้แน่ใจ
    “ หรือว่าที่ข้ารู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองอยู่ตั้งแต่ออกมาจากมหาวิหาร    คนผู้นั้นก็คือท่าน  ”    

    “ เจ้ารู้ตัวด้วยหรือ  ”   ดาเรนเวียร์ว่า  ก่อนจะทำสีหน้าครุ่นคิด
    “ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าวิชาสะกดรอยของข้ายังไม่กล้าแข็งพอสินะ   ”

    “แต่ข้าว่าประเด็นสำคัญของเรื่องนี้  มันน่าจะอยู่ที่ท่านทำเช่นนี้เพื่ออะไรมากกว่า ”  น้ำเสียงที่ลาซานาร์ทใช้กล่าวถามถึงเหตุผลออกไปฟังดูอ่อนล้าเสียจนชายหนุ่มอดนึกไม่ได้ว่า
                 
    เอ…หรือว่าเขาจะเหน็ดเหนื่อยจริง ๆ    ไม่ใช่เหนื่อยกายหากแต่เป็นเหนื่อยใจ      
                 
    สายลมหนาวพัดผ่านมา  จนผมยาวสยายของดาเรนเวียร์พลิ้วไหวดุจม่านราตรี   ลาซานาร์ทเผลอมองตามภาพนั้นอยู่ชั่วครู่    ก่อนที่สติจะถูกเรียกให้คืนกลับมาเพราะเสียงจามของตัวเอง

    “ ถ้าปล่อยเอาไว้อย่างนี้   เจ้าต้องป่วยเพราะความหนาวแน่ ”  ดาเรนเวียร์เริ่มรู้สึกได้ว่าคงจะแกล้งอีกฝ่ายมากเกินไป      จึงนิ่งคิดก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
    “ ตามข้ามา ”

    “ ท่านจะพาข้าไปไหน? ”  ลาซานาร์ทยังไม่ยอมหยุดสงสัย

    “  เอาเป็นว่า   ข้าจะรับผิดชอบที่ทำให้เจ้าเปียกปอนแบบนี้ก็แล้วกัน ”   ดาเรนเวียร์ตัดบท


                 


    ดาเรนเวียร์พาลาซานาร์ทมาที่ร้านแพรพรรณที่อยู่ใกล้ที่สุด     เป็นร้านขนาดใหญ่และมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยกำลังเลือกซื้อสินค้าอยู่     ชายผู้หนึ่งซึ่งเมื่อสังเกตจากท่าทีและเครื่องแต่งกายแล้วคงจะเป็นเจ้าของร้านรีบเข้ามาเอ่ยต้อนรับทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้าไปในร้าน
    “ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงต้องการแพรพรรณชนิดใด  หรือพัสตราภรณ์แบบไหนดีขอรับ   ทางร้านเรามี…”

    “ ข้าอยากให้เจ้าไปจัดหาพัสตราภรณ์บุรุษให้เขาเปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลย ” ดาเรนเวียร์เอ่ยแทรกขึ้นก่อนเพราะเกรงว่าผู้ที่มาด้วยจะอาการย่ำแย่ไปกว่าที่เป็นอยู่  หากต้องรอฟังการโฆษณาของพ่อค้าผู้นี้จนจบ

                 
    พ่อค้ามองประเมินสภาพของชายหนุ่ม      จนดาเรนเวียร์เริ่มขัดใจ
    “ เจ้าไม่ได้ยินหรือ    ว่าเมื่อครู่ข้าสั่งให้เจ้าไปทำตามที่ข้าต้องการเดี๋ยวนี้ ”  
    น้ำเสียงและท่าทีอันทรงอำนาจของดาเรนเวียร์ดูราวกับจะข่มให้เจ้าของร้านกลายเป็นเพียงเด็กรับใช้ไป

    “ ขอรับ   ขออภัยขอรับ ”  เขากล่าวขออภัยละล่ำละลัก    แล้วรีบเรียกลูกน้องคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดให้มาพาลาซานาร์ทเข้าไปภายในร้าน


    แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 49 19:06:57

    แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 15:36:50

    จากคุณ : จินตานุภาพ - [ 7 ก.พ. 49 15:33:22 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป