เนื่องจากกระทู้ตกไปอยู่ที่คลังเก็บกระทู้เก่าแล้ว ดังนั้นนี่เป็นลิงค์ไปที่คลังค่ะ
บทที่ 1 นครหลวงแห่งนาซาลอส
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/W3968853/W3968853.html
บทที่ 2 พบ
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/01/W4010402/W4010402.html
บทที่ 3 สัญญาณเตือนแห่งภัยพิบัติ
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/01/W4058161/W4058161.html
บทที่ 4 ปริศนาในแววตาสีมรกต
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/02/W4086420/W4086420.html
บทที่ 5 สิงห์ขาวและสิงห์ดำ
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/02/W4111220/W4111220.html
บทที่ 6 (ครึ่งแรก) ท่านชายและนายน้อย
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/02/W4143904/W4143904.html
บทที่ 6 (ครึ่งหลัง) ท่านชายและนายน้อย
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/03/W4171384/W4171384.html
บทที่ 7 (ครึ่งแรก ) การเผชิญหน้า
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/03/W4191459/W4191459.html
มาแล้วค่ะ คราวนี้หายไปนาน
เนื่องจากว่าบทนี้เป็นบทที่เขียนสำรองไว้บทสุดท้ายค่ะ
หลังจากนี้อาจจะ...หายศีรษะไปนานหน่อยนะคะกว่าจะได้ลงต่อ
ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านเรื่องนี้
นักอ่านเงาจะทักทายกันบ้างก็ได้นะคะ คนเขียนไม่กัด ฉีดวัคซีนแล้ว เอ๊ย... ไม่ว่ากันค่ะ
scottie ---- ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ
สองคนนี้จะคุยกันในลักษณะนี้ไปอีกนาน
ความจริงแล้วสองคนนี้เป็นพ่อลูกที่รักกันม๊ากมาก (?)
ที่คิดไว้อยากเขียนความทรงจำสมัยอดีตตอนที่เซฟาร์ลอสมันยังเล็กๆอยู่ด้วย น่าจะสนุกดี ติดตามต่อไปนะคะ
GTW ---- ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจเรื่องการฝึกงาน ก็หวังว่าจะผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แค่เดือนเดียวเท่านั้น ตามด้วยการทำรายงานการฝึกงานส่งอาจารย์อีก (แอบเช็ดเหงื่อล่วงหน้า)
ส่วนเรื่องที่พ่อของเซฟาร์ลอสจะเกรงกลัว เอ๊ย... เกรงใจแม่ของเซฟาร์ลอสเป็นพิเศษ เปป็นเพราะมีเหตุปัจจัยให้เป็นเช่นนั้นค่ะ ซึ่งก็จะเอ่ยถึงในตอนต่อ ๆ ไป
จะว่าไปแล้ว ครอบครัวนี้ดูภายนอกแล้วอาจจะเป็นครอบครัวปกติ แต่ว่า...
อ่านต่อไปก็จะทราบเองค่ะ
(และเป็นครอบครัวที่จินตาชอบที่สุดในเรื่องด้วยค่ะ)
run saya ---- คุณรัน ที่แท้แล้วเราเป็นพวกเดียวกันนี่เอง 5555
อันว่าปรากฏการณ์ one-touch book นั้น เกิดขึ้นกับจินตา 3 ครั้งเชียวนะคะกว่าจะเข็ด
ส่วนเรื่องความกล้าในการหยิบหนังสือประเภทหวานปกแหววขึ้นมาดูนั้น กล้าสิคะ ปกแบบไหนก็กล้าหยิบทั้งนั้นค่ะในร้านหนังสือ (ขนาดยืนอ่านจนจบเล่มยังกล้า แต่เป็นเล่มบางหน่อย)
ส่วนแนวเรื่องนางเอกใบ้ที่เล่าไปในคราวที่แล้ว ถ้าเปรียบพล็อดเป็นกระดูก เรื่องนี้ก็คงยังเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอยู่เลยค่ะ อีกนานกว่าจะได้เขียน
ลาซฯ และเซฟฯ นั้น (ไม่ต้องเกรงใจค่ะเรื่องย่อ เพราะจินตาเองย่อสั้นกว่าอีก)
สองคนนี้บุคลิกจะต่างกันอยู่มาก ถ้าชอบแบบลาซฯ แสดงว่าเราชอบพระเอกแนวเดียวกัน
ส่วนเซฟฯ ฮาและติดดินหรือคะ
อืม....จินตาไม่นึกเลยค่ะว่าเขียนออกมาแล้วมันจะฮาได้ ติดดินด้วย ความจริงจินตารู้สึกว่ามันออกจะแบบทหารๆ มั้ง ก็เลยดูติดดิน
เบต้า-รีดเดอร์ของจินตาเคยให้ความเห็นไว้ว่า อ่านบทที่ 6 แล้วรู้สึกว่า หางจิ้งจอกของเซฟฯมันโผล่
เข้าเรื่องกันต่อเลยค่ะ
บทที่ 7 การเผชิญหน้า(ต่อ)
ถ้วยชาที่ว่างเปล่าถูกยกออกไปและแทนที่ด้วยถ้วยใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดช่วงบ่าย ตราบจนกระทั่งดวงตะวันใกล้จะแตะเส้นขอบฟ้า ลาซานาร์ทเล่าถึงเรื่องราวของอาณาจักรต่าง ๆ ตั้งแต่มหาอาณาจักรไปจนถึงอาณาจักรเล็ก ๆ อาณาจักรที่ร้อนแห้งแล้งและอาณาจักรที่ใบไม้เป็นสีเขียวตลอดทั้งปี อาณาจักรที่แทบไม่เคยมีใครรู้จักและอาณาจักรที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ อาณาจักรที่เป็นเกาะกลางมหาสมุทรและอาณาจักรที่อยู่บนเทือกเขา อาณาจักรที่เงียบสงบและอาณาจักรที่คึกคักจนเกือบเป็นสับสนวุ่นวาย
ดาเรนเวียร์เพียงแต่นิ่งฟังเงียบ ๆ แววตาของนางบ่งบอกว่าสนใจและรับรู้ในเรื่องที่เขาเล่า แต่ก็ดูคล้ายนางกำลังครุ่นคิดถึงบางสิ่งอยู่ด้วย ทั้งสองต่างก็ลืมมื้อเที่ยงไปเสียสนิท
เท่าที่ข้าฟัง รู้สึกว่าเจ้าก็ดูจะมีความสุขดีกับการใช้ชีวิตในแบบของเจ้า ดาเรนเวียร์เอ่ยขึ้นในที่สุด นัยน์ตาสีมรกตเริ่มฉายแววเย้ยหยัน
ความสุขที่ได้มาจากการหนีความรับผิดชอบที่มีต่อครอบครัว ละทิ้งภาระหน้าที่ที่มีต่อแผ่นดิน และยังทำให้ท่านสมุหกลาโหมต้องจมอยู่กับความทุกข์ความกังวลมานานถึงสิบปี
ในความรู้สึกของลาซานาร์ท ถ้อยคำที่ได้ฟังนั้นเป็นเหมือนคมมีดที่บาดลึกเข้ามาในใจ
ข้ายอมรับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าทำผิดดังเช่นที่ท่านกล่าวโทษจริงโดยไม่มีข้อโต้แย้ง นัยน์ตาสีฟ้าอันเคยแจ่มใสแปรเปลี่ยนเป็นหม่นหมอง
แต่ข้าก็ไม่คิดที่จะทำผิดตลอดไป
ไม่คิดที่จะทำผิดตลอดไป ดาเรนเวียร์ทวนคำพูดของอีกฝ่ายแล้วเหยียดยิ้มดูแคลน
เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าจะทำได้ หากแน่ใจก็ตอบมาว่าเจ้ากลับมาเพื่ออะไร เพื่อกลับมารับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เจ้าเคยปฏิเสธ หรือเพียงแค่ผ่านมาก็เลยแวะเยี่ยมเยือนญาติผู้ใหญ่ ก่อนที่จะกลับไปใช้ชีวิตอิสระของเจ้าต่อไป
ลาซานาร์ทไม่อาจตอบคำถามของนางได้ เพราะในนาทีนั้นชายหนุ่มก็ยังไม่อาจตัดสินใจได้ว่าตนเองจะทำอย่างไรต่อไป สาเหตุแท้จริงที่ทำให้เขาต้องออกจากบ้านไปเมื่อสิบที่แล้ว เป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายให้ใครเข้าใจ ถึงแม้จะบอกไปตามตรงนางก็คงคิดว่าเขาเพียงแต่แก้ตัวเท่านั้น
ระหว่างวิถีชีวิตอิสระที่ตัวตนของจิตวิญญาณเพรียกหา กับเกียรติศักดิ์ของตระกูลที่จะต้องรับผิดชอบในภาระหน้าที่อันมีต่อแผ่นดิน ท่านจะเลือกสิ่งใด
พริบตาหนึ่ง ลาซานาร์ทคิดว่าเขาเห็นความผิดหวังปรากฏขึ้นในแววตานาง
ใบไม้ทุกใบนับตั้งแต่แรกผลิจนปลิดร่วงจากก้าน ดอกไม้ทุกดอกนับตั้งแต่เบ่งบานจนโรยราล้วนแต่มีหน้าที่ต่อต้นของมัน เช่นเดียวกับคนทุกคนนับตั้งแต่ถือกำเนิดตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต ย่อมต้องมีหน้าที่ต่อแผ่นดินของตน น้ำเสียงของดาเรนเวียร์ชัดเจนและจริงจังราวกับจะสลักทุกถ้อยคำที่กล่าวลงไปในใจของผู้ฟัง
ข้าไม่คิดที่จะเลือก เพราะเลือดเนื้อ ชีวิต และจิตวิญญาณของข้าเป็นของนาซาลอส
นัยน์ตาสีมรกตฉายความมุ่งมั่นอันแรงกล้าอย่างที่ลาซานาร์ทไม่เคยพบในแววตาของผู้ใด เวลานั้นเขารู้สึกเหมือนได้เห็นเงาอันแลดูคล้ายมงกุฎบนเรือนผมสีดำสนิทดั่งเงาแห่งรัตติกาลนั้น
แม้แต่ต้นหญ้าก็ยังทำประโยชน์ให้ผืนแผ่นดิน ชีวิตของเจ้าจะเป็นอย่างไร จะมีค่าหรือไร้ค่ายิ่งกว่าหญ้าต้นหนึ่ง มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง
ดาเรนเวียร์ลุกขึ้นเป็นสัญญาณว่านางต้องการจะจบการสนทนาครั้งนี้ลง ก่อนจะจากไป ลาซานาร์ทได้แต่มองตามหลังนาง โดยมิเอ่ยปากอีกแม้เพียงคำ
...แล้ววันหนึ่ง ท่านก็จะเข้าใจ...
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 49 10:24:27
แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 49 10:19:45
จากคุณ :
จินตานุภาพ
- [
31 มี.ค. 49 12:51:50
]