ฉันนี่แหละคุณนายยากุซ่า
บทที่2
ในห้องชุดหรูภาวิกรงัวเงียตื่นมายามสายด้วยความหงุดหงิด
เธอทะเลาะกับธัญธาราในแบบที่ไม่เคยเป็น ทุกครั้งทะเลาะกันมีแต่ขึ้นเสียงว่ากล่าวกันแรงๆ
แต่ทะเลาะแล้วก็จบไม่เคยเก็บเอามาคิด แต่คราวนี้กลับกันระหว่างเธอกับเขามีแต่ความเงียบ
เธอเงียบเขาก็เงียบ เธอเลยปึงปังจับตั๋วเครื่องบินเที่ยวคืนนั้นหนีกลับประเทศด้วยความโมโห
หวังจะให้เขายอมลงทุนมาง้ออีกสักนิดแต่ไม่เลย ไม่มีแม้แต่เสียงโทรศัพท์มางอนง้อ
ภาวิกรตั้งใจจะอาละวาดอีกสักรอบแต่หิวเกินกว่าจะออกแรงทำอะไรได้
เธอยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่บ่ายวันก่อน
มื้อสุดท้ายที่มีอะไรตกถึงท้องคือขนมเค้กในร้านคอฟฟี่ช็อปที่ญี่ปุ่น
หญิงสาวจึงโทรสั่งอาหารแล้วไปล้างหน้าแปรงฟัน
อีกนานกว่าจะได้อาหารที่สั่งหญิงสาวจึงเข้าไปในห้องครัว เปิดตู้เย็นหยิบนมที่เหลือมาดื่มอึกๆ
ห้องชุดที่หญิงสาวอยู่ตั้งอยู่บนชั้นสิบของตึกสิบสี่ชั้น แด๊ดดี้ซื้อห้องให้เป็นของขวัญที่สอบติดมหาวิทยาลัย
ห้องนี้กว้างขวางสะดวกสบายเหมาะกับครอบครัวใหญ่
แต่ภาวิกรไม่เคยมาอยู่เพราะพักในหอพักมหาวิทยาลัยมาตลอด
แต่บังเอิญไปทะเลาะกับรูมเมทชาวแคนนาดาเข้า หญิงสาวก็เลยย้ายออกมาอยู่ที่นี่แทน
ยอมไปกลับไกลหน่อยแต่ได้ความสบายใจกลับมาก็นับว่าคุ้ม
ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวว่าจะเหงาเพราะต้องอยู่ตามลำพัง
แม่ก็เลยจัดแจงหารูมเมทใหม่ให้ รูมเมทคนใหม่เป็นสาวน้อยชาวไทย
ใบหน้าอ่อนใส ผมยาวดำขลับ ผิวขาวเรือนร่างบอบบางเหมือนตุ๊กตาแก้ว
นิลยานาแก่กว่าภาวิกรแค่ปีครึ่งภาวิกรจึงไม่คิดจะเรียกว่าพี่
นิสัยน่ารักเป็นแม่บ้านแม่เรือน ขยันทำกับข้าวขยันทำงานบ้าน
ไม่ทำแบบเอาหน้าเหมือนเธอ เธอเลยยกห้องครัวให้นิลยานาครอบครองด้วยความเต็มใจ
ส่วนเรื่องทำความสะอาดแม้จะมีแม่บ้านแต่นิลยานาก็ยังขัดถูกตารางนิ้วของห้องชุดจนสะอาดหมดจด
จะเหลือเพียงห้องเดียวที่ยังไม่ได้แตะต้องก็คือห้องของภาวิกร
ซึ่งเธอถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเลยไม่เข้าไปยุ่ง ห้องนั้นก็เลยกลายเป็นหน้าที่ของแม่บ้านไป
ทีแรกภาวิกรอดห่วงไม่ได้ว่านิลยานาจะกลายเป็นสายสืบของแม่คอยรายงานความประพฤติของเธอ
แต่เอาเข้าจริงทั้งสองกลับเข้ากันได้ดี เพราะนิลยานาเคารพความเป็นส่วนตัวของภาวิกรเสมอ
ไม่เคยปริปากบอกเรื่องส่วนตัวที่เธอไม่อยากให้แม่รู้ออกมาเลยสักครั้ง
อีกอย่างคือพ่อของนิลยานาเสียตั้งแต่เด็ก
ส่วนภาวิกรพ่อกับแม่แยกก็ทางกัน ความที่มีพื้นเพคล้ายกัน
ทำให้ในบางอารมณ์ในบางความรู้สึกทั้งสองเข้าอกเข้าใจกันได้อย่างดีโดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ
สามเดือนแล้วที่นิยานาย้ายมาอยู่ด้วย
ภาวิกรชักเริ่มชินตากับภาพรูมเมทคนใหม่ตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดห้องเสียแล้ว
แพมจะทำอะไรในห้องมั้ย? จะดูดฝุ่นให้
นิลยานาอาสาอย่างมีน้ำใจเพราะสัปดาห์นี้แม่บ้านลาหยุด
ดีเลย ขอบใจนะนาน่า ไม่ได้ทำอะไรหรอกแค่จะอาบน้ำ
ภาวิกรโยนขวดนมเปล่าลงไปในถังขยะแล้วเดินนำไปที่ห้อง
นิลยานาลากเครื่องดูดฝุ่นตามไปติดๆ แล้วลงมือทำความสะอาดทันที
เสียงน้ำผสมเสียงเครื่องดูดฝุ่นดังอยู่นานกว่าคนทำความสะอาดห้องจะรู้ว่าโทรศัพท์ในห้องดังก็นานโข
แพมโทรศัพท์ เสียงตะโกนของนิลยานาดั่งแว่วๆ ผ่านเสียงน้ำซู่ซ่าในห้องน้ำ
ใคร?
แฟนเธอ นิลยานาชะงักไปนิดก็เลือกใช้คำนี้
เดาเอาจากชื่อที่รูมเมทสาวบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าน่าจะใช่
ตาเพี้ยน คนบ้า มนุษย์น้ำแข็ง ไอ้คนใจร้าย และอีกหลายๆ นามที่ยังไม่ได้กล่าวถึงนี้
เป็นชื่อที่มักจะปรากฏอยู่บนมือถือเพื่อนสาวอยู่เป็นนิจ
ชื่อเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเพื่อนหลังจากคุยโทรศัพท์ ตาเพี้ยนกับคนบ้า บ่งบอกว่าหลังคุยกันแล้วอารมณ์ดี
ส่วน มนุษย์น้ำแข็งกับไอ้คนใจร้าย แสดงว่าทะเลาะกัน คราวนี้มีคำว่า คนงี่เง่า
แนวโน้มจึงน่าจะเป็นทะเลาะกับชัวร์
ไม่รับ ปล่อยให้มันดังอย่างนั้นแหละ
ไม่ทันไรเสียงโครมครามในห้องน้ำก็ลอยตามน้ำเสียงหงุดหงิดมาติดๆ
รูมเมทที่รักคงขว้างอะไรในนั้นระบายอารมณ์
นั่นไงนึกไว้ไม่ผิดทะเลาะกัน คู่นี่บทจะดูก็ดีใจหายทบจะทะเลาะก็เล่นเอาปวดหัว
สามวันดีสี่วันไข้ชนิดที่ผู้สังเกตการณ์อย่างเธอปรับอารมณ์ไม่ทัน
สองวันก่อนภาวิกรยังอารมณ์เก็บข้าวเก็บของบอกว่าจะไปหาแฟนอยู่เลย
มาวันนี้กลับอารมณ์เสียเพราะทะเลาะกัน
เสียงเพลงโทรศัพท์ยังดังอย่างต่อเนื่องแสดงถึงความพยายามของผู้โทรให้เห็น
แต่กระนั้นภาวิกรก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมรับ
สิบสายไม่ได้รับก็แล้วยี่สิบสายก็แล้วจนเรื่อยมาถึงสายที่ร้อยสี่สิบเสียงโทรก็เงียบลง
ภาวิกรเหลือบมองโทรศัพท์มือถือแล้วหน้าหงิกหนักข้อยิ่งกว่าเดิม
มีปัญญาโทรมาง้อแค่นี้เองรึไง เชอะ! ไม่รู้ไม่ชี้แล้วคนบ้า
หญิงสาวสะบัดหน้าหนีผละจากโทรศัพท์ไปด้วยอาการหงุดหงิด
สักพักใหญ่สาวสวยที่กำลังอารมณ์เสียก็โผล่มาในชุดยีนเสื้อยืดสีดำเอวลอย
โชว์สะดือที่พึ่งไปเจาะประชดรักมาหมาดๆ เตรียมพร้อมจะออกไปหลั่นล้าข้างนอก
จะไปไหน ปกติเพื่อนสาวมักไม่ค่อยออกไปไหนวันอาทิตย์
ภาวิกรเที่ยวเก่งดื่มเก่งแต่วันอาทิตย์เธอมักจะสงวนไว้สำหรับการคุยโทรศัพท์กับหวานใจ
ไม่ก็นัดเดทแบบข้ามทวีปกับสุดที่รัก
แม้จะสงสัยจับจิตว่าสาวน้อยลูกครึ่งไทยอเมริกันอย่างภาวิกรไปพบรักกับหวานใจได้อย่างไร
นิลยานาก็ไม่เคยเอ่ยปากถามเพราะกว่ากลัวจะเสียมารยาท
ไปหาแด๊ดดี้
เดี๋ยวแพม เอามือถือไปด้วย อ๊ะ! มีข้อความแน่ะ
นิลยานาคว้ามือถือวิ่งอ้อมเตียงไปให้เพื่อนสาว
แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าแล้วเดินลิ่วๆ ออกไป ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่อยากจะเอาไปให้รำคาญใจ
หญิงสาวมองมือถือแล้วนึกสารคนโทรมา
อยากโทรไปบอกเสียให้รู้แล้วรู้รอดว่าคนที่เขาต้องการจะคุยด้วยออกไปข้างนอกแล้วทิ้งมือถือไว้กับเธอ
แต่ก็ทำไม่ได้เพราะมันเสียมารยาทอีกนั่นแหละ
และด้วยความมารยาทดีของนิลยานา คนโทรจึงยังคงต้องจิ้มต่อไปด้วยความอดทน
ภาวิกรเดินลงลิฟต์มาที่จอดรถชั้นล่าง อารมณ์ขุ่นจนไม่สนใจทักทายเพื่อนบ้านอย่างที่เคยทำ
หญิงสาวตรงไปที่รถสปอร์ตสีเงินเหยียบคันเร่งขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เธออยากแวะไปหาพ่อ เธอไม่ได้แวะไปหาเสียนาน
ป่านนี้โดนยัยหญ้าอ่อนคาเรนเขมือบจนไม่เหลือซากเสียแล้วกระมัง
คาเรนเป็นหลานสาวของพ่อบุญธรรมธัญธารา แรกๆ เธอเคยขัดขวางไม่ให้แด๊ดดี้กับคาเรนรักกัน
เพราะยังหวังลึกๆ ว่าแด๊ดดี้กับแม่จะกลับมาคืนดีได้
สิ่งที่เธอหวังเป็นได้เพียงความหวังเลื่อนลอยไม่มีวันเป็นความจริงไปได้เลย
เธอจึงเลิกขัดขวางหันมาพยายามทำใจยอมรับว่าที่เม่เลี้ยงที่อายุแก่กว่าไม่กี่ปี
ตอนคาเรนหมั้นกับแด๊ดดี้ภาวิกรเคยรู้สึกเหมือนกลายเป็นส่วนเกิน
ยังดีที่ได้นิลยานาปลอบหญิงสาวก็มีพ่อเลี้ยงเหมือนกันจึงเข้าใจความรู้สึก
ในที่สุดภาวิกรก็ทำใจได้ยอมรับคาเรนเป็นแม่เลี้ยงได้อย่างสนิทใจ
ตอนนี้แด๊ดดี้กับคาเรนกำลังจะแต่งงานกัน
หญิงสาวยินดีเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้อย่างเต็มใจเมื่ออีกฝ่ายร้องขอ
ประตูของคฤหาสน์ชาร์ริ่งเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อหญิงสาวกดแตรรถ
ภาวิกรขับรถเข้าไปในตัวบ้านซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวางกินเนื้อที่ยี่สิบกว่าเอเคอร์ (1 เอเคอร์ ประมาณ ๒ ไร่ครึ่ง)
คฤหาสน์หลังนี้ด้านหน้าเป็นสวนสไตล์วิกตอเรียกว้าง ตกแต่งด้วยกุหลาบนานาพันธุ์
ด้านหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว คอร์ดเทนนิส สนามกอล์ฟ มีสปาร์และบาร์ส่วนตัวตั้งอยู่ด้วย
ส่วนนี้แด๊ดดี้มักใช้เอาไว้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเป็นประจำ
หน้าประตูพ่อบ้านหน้าตาญี่ปุ่นจ๋ามาคอยเปิดประตูให้เธอ
หญิงสาวเดาเอาว่าคงเป็นคนใหม่ที่คาเรนจ้างมา ตั้งแต่เจ้าหล่อนมาอยู่
อะไรๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิดทีละหน่อย หญิงสาวไม่อาลัยสภาพเดิมๆ นัก
เพราะไม่ได้โตมาที่นี่ พ่อซื้อคฤหาสน์หลังนี้หลังจากหย่ากับแม่หลายปี เธอมาอยู่ที่นี่นานๆ ครั้ง
ดังนั้นเลยไม่ได้ผูกพันกับสถานที่ บ้านแม่ที่เมืองไทยต่างหากที่เธอรักและไม่อยากให้มีใครไปเปลี่ยนแปลงอะไร
ถึงจะไม่สนใจว่าว่าที่แม่เลี้ยงจะแต่งบ้านแบบไหนแต่พอเข้าไปเธอก็ต้องงงเผลอคิดว่าเข้าบ้านผิด
บ้านสไตล์วิกตอเรียจ๋าในอดีตเปลี่ยนไปตกแต่งแบบเมืองเขตร้อนให้ความรู้สึกอาโลฮ่าไปอีกแบบ
แต่พอเข้าไปในห้องรับแขกมันกลับปูด้วยเสื่อตาตามิแบบญี่ปุ่น
พนังเพดานของตกแต่งทั้งหลายราวกับจำลองแบบห้องชงชาอย่างที่เคยเห็นในพิพิธภัณฑ์มาเลยทีเดียว
ในห้องแด๊ดดี้กับคาเรนในชุดกิโมโนแบบเต็มยศ กำลังนั่งซดชาอยู่ด้วยกัน
แพมมาพอดีเชียวแด๊ดดี้กับคาเรนกำลังจะโทรหาลูกอยู่พอดี
แด๊ดดี้กับคุณคาเรนมีอะไรเหรอคะ หรือว่าจะไม่จัดงานแต่งกันแล้ว ภาวิกรแหย่
รักกันออกหวานแหววปานนั้นมีรึจะยกเลิกงานแต่งง่ายๆ
แหมๆ คุณแพมล่ะก็ล้อเล่นอยู่เรื่อย จะเลื่อนให้เร็วขึ้นต่างหากละค่ะ
ช้ากว่านี้ใส่ชุดเจ้าสาวไม่ได้กันพอดี หมดสวยแย่
ว่าแล้วคุณหนูคาเรนเธอก็หัวเราะโฮะๆ เป็นนัยเหมือนจะบอกอะไรสักอย่าง
อย่าบอกนะคะว่าแพมจะมีน้อง หญิงสาวเดา
จริงดังคาดตอนนี้คาเรนท้องได้สามเดือนกว่าแล้ว งานแต่งที่จะแต่งกลางปีจึงเลื่อนมาเร็วขึ้นอีกสองเดือน
ดีใจมั้ยแพมที่จะมีน้อง มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ดถามลูกสาวที่เงียบไป
แพมไม่ดีใจสักนิด แพมไม่อยากได้น้องสักหน่อย อีกหน่อยมีน้องแด๊ดดี้ก็คงไม่รักแพมแล้ว ไม่สนใจแพมแล้ว
หญิงสาวก้มหน้าลงร้องไห้กระซิกๆ
มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ดเลยหน้าตื่น ไม่คิดว่าข่าวดีของเขาจะทำให้ลูกสาวสุดที่รักน้อยใจ
เขารีบเข้าไปโอ๋ลูกปลอบว่าอย่างร้องไห้
ยังไงแด๊ดดี้ก็ยังรักแพมเหมือนเดิม ส่วนคาเรนก็หน้าเสียวางตัวไม่ถูก
ภาวิกรเคยแต่ประท้วงไม่พอใจแบบเงียบๆ ไม่เคยแสดงออกให้พ่อเห็น
มาเจอสงครามน้ำตาต่อหน้าเธอเลยไม่ทันเตรียมใจรับมือ
ถูกโอ๋ได้สักพักภาวิกรก็หัวเราะร่าบอกว่าแกล้งเล่น เธอยินดีด้วยกับทั้งสองคนที่กำลังจะมีลูก
อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคะ แพมแกล้งเล่นหรอก น้องแพมทั้งคนแพมไม่อิจฉาหรอกค่ะ
อยากได้มาตั้งนานแล้ว แต่แพมของตั้งชื่อนะคะได้มั้ย
เด็กซน ทำอย่างนี้แด๊ดดีตกใจหมดเลย
มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ดถอนใจอย่างโล่งอก
ลูกสาวเขาดื้อแสนดื้อบทไม่ยอมแล้วยังไงก็บังคับไม่ได้
เขาหวั่นใจอยู่มากตอนบอกลูกว่าจะแต่งงานใหม่ พอทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีก็พอวางใจได้
มิสเตอร์เอ็ดเวิร์ดคุยกับลูกสาวและว่าที่ภรรยาตามกฎหมายพักใหญ่จึงขอตัวไปทำงาน
ทิ้งสองสาวให้นั่งคุยเล่นตามประสาผู้หญิง เมื่อก่อนอาจจะมีการปะทะคารมกันบ้าง
จากคุณ :
ตารกา
- [
4 พ.ค. 49 20:02:03
]