CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    นาซาลอส(NASALOS) : บทที่ 8 สถานการณ์บังคับ (ครึ่งหลัง)

    เนื่องจากกระทู้ตกไปอยู่ที่คลังเก็บกระทู้เก่าแล้ว   ดังนั้นนี่เป็นลิงค์ไปที่คลังค่ะ

    บทที่ 1 นครหลวงแห่งนาซาลอส
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/W3968853/W3968853.html
    บทที่ 2 พบ
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/01/W4010402/W4010402.html
    บทที่ 3 สัญญาณเตือนแห่งภัยพิบัติ
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/01/W4058161/W4058161.html
    บทที่ 4 ปริศนาในแววตาสีมรกต
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/02/W4086420/W4086420.html
    บทที่ 5 สิงห์ขาวและสิงห์ดำ
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/02/W4111220/W4111220.html
    บทที่ 6 (ครึ่งแรก) ท่านชายและนายน้อย
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/02/W4143904/W4143904.html
    บทที่ 6 (ครึ่งหลัง) ท่านชายและนายน้อย
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/03/W4171384/W4171384.html
    บทที่ 7 (ครึ่งแรก ) การเผชิญหน้า
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/03/W4191459/W4191459.html

    บทที่ 7 (ครึ่งหลัง ) การเผชิญหน้า
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/03/W4243551/W4243551.html
    บทที่ 8 (ครึ่งแรก) สถานการณ์บังคับ
    http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2006/05/W4364194/W4364194.html



    ขออภัยทุกท่านอย่างมากค่ะ  ที่มาอัพช้ามากถึงมากที่สุด
    เพราะชีวิตเด็กปีสี่มันช่างวุ่นวายและงานเยอะยิ่งนัก

    โพสตอนใหม่ ด้วยใจคิด ถึงทุกท่าน
    คุณผู้อ่าน  ที่ยังคง เฝ้าไถ่ถาม
    ว่าเมื่อไหร่ ลงตอนใหม่ จะติดตาม
    ดูฤกษ์ยาม  วันนี้เอง ที่ได้ลง

    อัพเดตแล้ว  ยังเฝ้า แต่ครุ่นคิด
    เขียนได้นิด ไม่อาจเร่ง ตามประสงค์
    โอ้ชีวิต  เด็กปีสี่ ที่ต้องปลง
    ยังมึนงง เพราะรายงาน บานตะไท

    อย่างน้อยที่สุด  จินตาเรียนแล็บ อาทิตย์ละสามวัน  
    ส่งรายงานอาทิตย์ละสามฉบับ  
    และรายงานชิ้นใหญ่ประจำวิชาแต่ละวิชาอีก ทุกวิชา  
    ตามมาด้วยสอบย่อย  สัมมนาที่ต้องปวดหัวกับงานวิจัยภาษาอังกฤษ
    และโดนอาจารย์ Psycho เรื่องสมัครงานให้ได้ก่อนเรียนจบ

    อยากจะเร่งมือเขียนให้มากกว่านี้
    อยากให้วันหนึ่งมี 40 ชั่วโมง
    ขอพื้นที่เล็ก ๆ ให้ยังเป็นเด็กอยู่ได้ไหม

    พร่ำบ่นมากเกินไปแล้ว  ขอโทษด้วยนะคะ


    คุณ scottie  ---- ขอบคุณที่ยังตามอ่านอยู่ค่ะ
    ถามว่าดาเรนเวียร์กับเจ้าหญิงใช่คนเดียวกันหรือเปล่า  
    แสดงว่าจินตาเขียนงง  ขออภัยค่ะ

    คำตอบ เขียนไปยังไงเรื่องก็เป็นอย่างนั้นค่ะ    



    คุณ  Psycho man  ---- ^____^  (ยิ้มตอบ)
    ดาเรนเวียร์เธอก็เป็นของเธออย่างนี้มาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ  
    ไม่น่าจะเรียกพลิกบทบาท  
    แต่น่าจะเรียกว่าธาตุแท้เริ่มเผยออกมาให้เห็นจะดีกว่าค่ะ(เอ...ฟังดูแปลก  ๆ แฮะ)
     

    คุณ run saya    -----  ไม่เป็นไรค่ะคุณรัน เพราะคราวนี้จินตามาสายกว่า
    คำถาม ลาซฯกับเซฟฯ ผู้ใดจะรับประทานแห้ว

    คำตอบ  คิดว่าคงไม่มีใครแห้ว  แต่น่าจะถามว่าใครจะโชคร้ายมากกว่า
    คำใบ้  จินตาชอบแกล้งมันทั้งคู่  แต่การแกล้งเซฟฯจะยากกว่าหน่อย  
    แกล้งลาซดูจะง่ายกว่าเพราะมีช่องให้แกล้งเยอะ

    คำถามกลับ -- คุณรันที่ขอให้เป็น... ใครหรอคะ? อยากรู้
    เห็นเว้นช่องว่างไว้ให้เติมคำ



    เชิญติดตามตอนต่อไปค่ะ
    ขออนุญาตเอา ตอน 8 ครึ่งแรกมาใส่ไว้ด้วย  เพราะเกรงว่าผู้อ่านอาจจะลืมแล้ว T_T




    บทที่  8
    สถานการณ์บังคับ



    อาชาสีขาวชะลอความเร็วลงจากควบเต็มฝีเท้าเป็นเหยาะย่าง แล้วค่อยหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมืองด้านทิศใต้ของเอนเดอร์เรียส

    “ อย่าพึ่งเข้าเมืองตอนนี้เลย  เพราะเส้นทางสัญจรในเอนเดอร์เรียสถูกปิดหมดแล้ว   ถ้าจะเข้าก็ต้องจูงม้าเดินฝ่าฝูงคนไป    ข้าว่าย้อนกลับไปรอที่หมู่บ้านใกล้ๆ  จนพิธีบวงสรวงเทพแห่งเหมันต์ผ่านไปก่อนจะดีกว่า ”

    ยามรักษาการณ์นายหนึ่งในจำนวนสิบนายเอ่ยแนะ ผู้อยู่บนหลังอาชาไม่ตอบคำแต่บังคับม้าให้ตรงเข้าสู่นครหลวงแห่งนาซาลอสทันที

    “ มาสายจนได้  แย่จริง ”  ดาเรนเวียร์บ่นพึมพำ  

    นางเฝ้าครุ่นคิดว่าจะผ่านด่านตรวจก่อนเข้าสู่ถนนสายหลักอย่างไรไม่ให้โจ่งแจ้งจนเกินไป     แต่เมื่อมาถึงหน้าด่าน  ปากบางได้รูปก็แย้มเล็กน้อย  เพราะเมื่อสังเกตจากเครื่องแบบที่ต่างสีแล้วจึงรู้ว่าจากทหารที่เฝ้าประจำด่านทั้งหมดราวสี่สิบนาย     ส่วนหนึ่งเป็นทหารราชองครักษ์ในพระราชวัง

    “ ถนนสายนี้ปิดชั่วคราว    ใช้สัญจรไม่ได้จนกว่าพิธีบวงสรวงจะเสร็จสิ้น   และขบวนเสด็จจะผ่านไปแล้ว ”   ทหารที่ยืนอยู่ใกล้นางที่สุดกล่าวขึงขัง

    “ ใครเป็นนายด่าน ”  หญิงสาวย้อนถามเหมือนไม่ได้ใส่ใจฟัง

    นายทหารราชองครักษ์ผู้ประดับเครื่องหมายแสดงยศสูงที่สุดในที่นั้นก้าวออกมาหาดาเรนเวียร์ เพราะรู้สึกว่าเสียงกังวานใสแต่ทรงอำนาจของนางช่างคุ้นหูยิ่งนัก

    “ ข้าเอง ”

    มือเรียวยกขึ้นแตะหมวกเสื้อคลุมที่ปิดบังใบหน้าไว้เกือบครึ่งแล้วดึงลง    

    นายด่านอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นเจ้าของเสียงถนัดตาเขารีบคุกเข่าพลางร้องสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาให้เปิดทางดังลั่น  
    ความงุนงงทำให้ผู้รับคำสั่งยังมิได้ปฏิบัติตามในทันที  จนเขาต้องตวาดซ้ำ

    “ พวกเจ้าไม่ได้ยินหรือ   ข้าบอกให้เปิดทาง   มัวชักช้าอยู่ทำไม ”

    คราวนี้ทุกนายที่ขวางทางอยู่ต่างพากันหลีกออกไปเรียงแถวหน้ากระดานริมสองข้างทางอย่างสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อยที่สุดด้วยความรวดเร็ว

    “ ขอบใจ ”  ดาเรนเวียร์ยิ้มขำ  แล้วโน้มตัวลงกระซิบบอกไรน์    

    อาชาคู่ใจของนางวิ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง  หากแต่ก็ต้องหยุดยิ้มทันควัน   อารมณ์สดใสเปลี่ยนไปเป็นขุ่นมัว   เมื่อได้ยินเสียงขานด้วยความปรารถนาดีโดยที่นางมิได้สั่ง    อีกทั้งยังไม่ต้องการเป็นที่สุด

    “  เจ้าหญิงพระราชขนิษฐาเสด็จ  ”

    ‘ เจ้าพวกนี้  อยากจะให้ชาวเอนเดอร์เรียสรู้กันหมดทั้งเมืองเลยหรือไง  ว่าข้ามาสาย  มันน่าสั่งขังลืมนัก ’  

    เจ้าหญิงแห่งนาซาลอสกริ้วอยู่ในพระทัย   แต่ก็ไม่เคยต้องทรงจนมุมแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่คับขันเพียงใดก็ตาม  

    ทรงปล่อยพระหัตถ์ซ้ายจากสายบังเหียนแล้วยกขึ้นโบกทักทายประชาชนที่เฝ้าอยู่สองข้างทางในบริเวณนั้นด้วยสีพระพักตร์ที่เปี่ยมด้วยรอยแย้มพระโอษฐ์อันแสนงดงาม    จนเสียงถวายพระพรด้วยความชื่นชมยินดีดังกระหึ่มขึ้น   เหมือนเช่นทุกคราที่แสดงพระองค์ต่อมหาสมาคมด้วยพระจริยาวัตรอันสง่างามไร้ซึ่งข้อตำหนิด้วยประการทั้งปวงเสมอ  

    พระเนตรสีมรกตทอดมองภาพนครหลวงเอนเดอร์เรียสที่ประดับประดาด้วยผ้าสีขาว   เครื่องแต่งกายของชาวนครในวันนี้ก็ล้วนแต่เป็นสีขาว    

    มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่เหมือนรอยธุลีแต้มอยู่ท่ามกลางหิมะแห่งเหมันต์อันขาวพิสุทธิ์

    หิมะที่ชาวนาซาลอสเชื่อกันว่าเทพแห่งเหมันต์ทรงโปรยลงมาจากสรวงสรรค์เอลลาริส   เพื่อให้ห่มคลุมแผ่นดินให้พ้นจากความวุ่นวาย    ให้โลกได้นิทราภายใต้ความหนาวเย็น    ก่อนที่จะตื่นขึ้นเพราะความอบอุ่นในยามที่พืชพรรณผลิใบออกมาใหม่

    หลายสิ่งในธรรมชาติอาจสงบลง  เว้นแต่เพียงพระอารมณ์ที่บางคราก็รุนแรงได้ไม่แพ้พายุหิมะ เพราะเหมันต์เป็นช่วงเวลาที่แสนจะทรงชิงชัง


    เจ้าหญิงทรงลงจากหลังม้าด้วยพระอิริยาบถเร่งร้อนเมื่อมาถึงจุดหมาย    เลอารีเอลอันศักดิ์สิทธิ์  

    ทหารราชองครักษ์ขานพระนามเสียงดังกึกก้อง

    “ เจ้าหญิงนาเดเวนเซล  พระราชขนิษฐาเสด็จ ”

    ประชาชนที่ชุมนุมอยู่ ณ จัตุรัสด้านหน้ามหาวิหารถวายบังคมพร้อมเพรียงกันยามก้าวพระบาทผ่าน  เบื้องพระพักตร์คือบานทวารที่เปิดกว้าง  

    มงกุฎดาวแห่งนาซาลอสดำเนินตรงเข้าสู่ห้องโถงเอก   สายพระเนตรแลกวาดไปทั่วบริเวณ  ความโล่งใจคือสิ่งแรกที่ทรงสังเกตเห็นในสีหน้าของสมุหกลาโหม  อัครมหาเสนาบดี รวมทั้งเหล่าขุนนางข้าราชบริพาร  ยกเว้นแต่เพียงผู้เดียว

    “ เสนาบดีวัง  ท่านต้องนึกตำหนิอะไรข้าอยู่แน่ ๆ ”

    ผู้ถูกกล่าวโทษแทบสะดุ้ง  

    “  หามิได้พะย่ะค่ะ   แต่สีของฉลองพระองค์ออกจะไม่เหมาะสมต่อพิธีนัก ”

    ...ตาเฒ่าหัวโบราณจอมเจ้าระเบียบ...

    "ท้องฟ้ายามค่ำคืนในฤดูหนาวมิได้เป็นสีดำหรอกหรือ "  

    นาเดเวนเซลทรงเถียงแม้จะทรงทราบดีว่าในพิธีบวงสรวงเทพแห่งเหมันต์นี้   ต้องใช้เครื่องแต่งกายสีขาว   แต่เพราะพระปรีชาสามารถในการหาข้อแก้ต่างเข้าข้างพระองค์เองได้ในทุกสถานการณ์เป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งราชสำนัก    จึงไม่อาจทรงยอมรับผิดโดยง่ายดายได้

    อัยฮีลซึ่งรอการเสด็จมาถึงด้วยความกระวนกระวายมาตลอดรีบนำฉลองพระองค์คลุมยาวสีขาวมาถวาย  ก่อนที่เรื่องจะลุกลาม    ทรงถอดฉลองพระองค์สีเทาที่ทรงอยู่ก่อนส่งให้นาง   แล้วรับองค์ใหม่มาเปลี่ยน

    “ ข้าคงไม่ได้มาช้าเกินไปใช่ไหม ”  

    พระเนตรสีมรกตทอแววประหลาดยามรับสั่งถาม   อัยฮีลเข้าใจทันทีว่าในพระดำรัสอันแสนปกติธรรมดานั้น    มีความนัยแฝงอยู่     แท้จริงแล้วทรงหมายถึงเรื่องที่เป็นเหตุให้ต้องเสด็จไปไกลถึงแอตฮีน  

    “ เพคะ  ยังไม่สายเกินไป ”

    เมื่อทรงได้รับตำตอบที่ทำให้ความกังวลในพระทัยคลายลงแล้ว  นาเดเวนเซลจึงเสด็จผ่านบานทวารบานทวารชั้นที่สองเข้าสู่เขตของพระราชวงศ์    ราชนิกุลที่มีฐานันดรศักดิ์ต่ำกว่าต่างน้อมเศียรถวายความเคารพ      

    เจ้าชายผู้ประทับอยู่ในแถวหน้าสุดแสดงถึงพระยศที่เป็นรองพระองค์เพียงขั้นเดียวเงยพักตร์ขึ้นคล้ายกับมีพระประสงค์จะทูลสิ่งใด      แต่มงกุฎดาวกลับก้าวพระบาทผ่านไปโดยไม่ใส่พระทัยราวกับผู้ที่ทรงเห็นเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า

    ก่อนจะทรงหยุดย่อพระองค์ถวายความเคารพและแย้มพระโอษฐ์อ่อนหวานกับเจ้าหญิงนามาเอลมิน  พระปิตุจฉา    แล้วทำสายพระเนตรล้อเลียนให้เซฟาร์ลอสที่ยืนอยู่เคียงข้างมารดา     เพราะทรงทราบดีว่าการที่ต้องสวมเครื่องแต่งกายสีขาวแบบเป็นพิธีการและวางท่าสง่างามเป็นท่านชายนั้นไม่ใช่เรื่องที่เจ้าตัวชื่นชอบเลยแม้แต่น้อย

    นาเดเวนเซลดำเนินผ่านบานทวารชั้นที่สามเข้าไปสู่มณฑลพิธีอันเป็นเขตเฉพาะราชาแห่งนาซาลอส    ผู้แทนราชวงศ์นาร์วาซาร์ดฝ่ายสตรี   ประมุขแห่งศาสนจักรและนักบวชชั้นสูงผู้มีอาวุโสสูงสุดอีกเพียงสิบเอ็ดรูปเท่านั้น

    พระเนตรสีมรกตสองคู่แลสบกัน    
    คู่หนึ่งฉายแววโล่งพระทัยขณะที่อีกคู่หนึ่งฉายแววอ้อน

    “ ขอโทษค่ะที่มาสาย ”    นาเดเวนเซลทูลด้วยสีพระพักตร์สำนึกผิด

    “ ไม่เป็นไร  แค่น้องมาถึงภายในวันนี้ได้  พี่ก็ดีใจมากแล้ว ”  นาซาเนเซททรงพระสรวล

    “ แต่น้องไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะคะ  ”   นาเดเวนเซลทรงคร่ำครวญเพราะพระดำรัสล้อเลียนของพระเชษฐา

    “ พี่ก็ดีใจจริง ๆ นะ ”     มงกุฎฟ้าทรงยืนยันโดยเลียนถ้อยรับสั่งของพระขนิษฐา

    นาเดเวนเซลคงจะตรัสตอบ   หากว่าสังฆาจารย์เฟนเนฟไม่ทูลเตือนขึ้นว่า
    “ ในเมื่อผู้แทนราชวงศ์ฝ่ายสตรีเสด็จมาถึงแล้ว    ก็ควรเริ่มพิธีบวงสรวงได้แล้ว ”

    “ ขอโทษค่ะ  ท่านอาจารย์  ”  

    มงกุฎดาวทรงระลึกขึ้นได้จึงก้าวไปประทับในตำแหน่งของพระองค์ทางด้านซ้ายของแท่นบูชาที่หน้าฐานรองรับรูปสลักแห่งคณาเทพ    

    เสียงสวดมนต์น้อมถวายความเคารพศรัทธาอย่างสูงสุดแด่เทพเจ้าเริ่มจากเบาแล้วจึงค่อยดังขึ้นจนสะท้อนก้องราวกับจะสามารถลอยขึ้นไปถึงสรวงสวรรค์เบื้องบนได้โดยผ่านสายลมที่พัดผ่าน





    อัยฮีลหลบออกจากห้องโถงเอกทางประตูด้านข้างอย่างเงียบเชียบ   ปล่อยให้เทนนาชเฝ้าอยู่ในพิธีต่อไปเพียงผู้เดียว  

    หลังจากพ้นจากสายตาของบุคคลอื่นแล้ว    นางก็ค้นฉลองพระองค์คลุมเพราะอ่านสัญญาณที่ทรงส่งผ่านแววพระเนตรได้  เมื่อพบห่อผ้าขนาดประมาณฝ่ามือจึงคาดว่านี่คือฮอร์ซิมที่ทรงนำมา...

    แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 13:27:20

    แก้ไขเมื่อ 24 ก.ค. 49 21:48:28

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 49 10:17:01

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 49 10:16:27

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 49 10:13:23

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 49 10:13:06

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 49 10:11:47

    แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 49 10:04:35

    จากคุณ : จินตานุภาพ - [ 28 มิ.ย. 49 21:46:59 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com