ความคิดเห็นที่ 1
.
บทที่ 8 ผู้ชาย
ไม่เหมือนกัน
นายเป็นอะไรรึเปล่าเป้
คนถูกทักกะพริบตาปริบๆ ทั้งที่ยังจับจ้องท่อนแขนขาวสวยของเพื่อนหนุ่มค้างอยู่ ...ท่อนแขนข้างเดียวกันกับที่พาดทับอยู่บนหน้าตักเขาเมื่อตอนอยู่ในสนามเทนนิส... สายตาเลื่อนไล้ต่อไปยังข้อมือแข็งแรง ที่แม้จะเล็กกว่าข้อมือเขา แต่ก็กวัดแกว่งไม้เทนนิสรับลูกหนักๆ ของเขาได้เกือบทุกครั้ง
เลือดร้อนๆ สูบฉีดขึ้นสูงและลงต่ำในเวลาเดียวกัน เปมะรู้สึกอุ่นวาบตั้งแต่ซอกคอ ไล่เรื่อยผ่านหน้าอก ลงไปถึงช่วงท้อง
'เจ้าชาย' คงจะเสร็จกับอะไรที่ทำอยู่แล้ว หันกลับมาเผชิญหน้าเขาเต็มตัว เปมะค่อยๆ บังคับสายตาจากข้อมือของเพื่อน ไล่ย้อนขึ้นไปตามท่อนแขน จนถึงกล้ามสวยเหนือช่วงศอก...
...ที่โผล่พ้นปลายแขนเสื้อลงมา
อธิกก้าวเข้ามาประชิด ยกมือขึ้นอังหน้าผากเขา บ่นพึมพำ
อืม... เหมือนตัวร้อนๆ แฮะ นายมีไข้เหรอเป้
หลังมือที่แตะลงมาทำให้เปมะถึงกับสะดุ้ง
หืม... อะไรนะ... เปล่าหรอก เล่นเสร็จใหม่ๆ ก็งี้แหละ มองหน้าขาวที่อยู่ห่างออกไปแค่คืบเศษแล้วก็กลั้นใจพูด นั่งคุยกันแป๊บได้มั้ยติ๊ก
จ้างดิ 'เจ้าชายผีเสื้อ' ตอบยิ้มๆ
นายจะเอาอะไร 'นายหมาป่า' ถามเสียงแผ่วเบา
เฮ้ย... ล้อเล่น เราไม่เอาไรนายหรอก อธิกหันกลับไปเขย่าประตูตาข่ายทางเข้าสระน้ำเบาๆ อีกที ให้แน่ใจว่าล็อคเก่าแก่ที่ไขกุญแจปิดไปเมื่อกี๊ยังทำงานถูกต้องไม่เกเร แล้วหันกลับมาเดินนำเพื่อนหนุ่มไปที่ม้าหินใต้ร่มเงาต้นหูกวางตรงข้างรั้ว มา... นั่งๆ
เปมะก้าวตามเงียบๆ เบี่ยงตัวหย่อนก้นลงตรงที่เพื่อนชี้
มีอะไรเหรอเป้ ทำไมทำหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้นล่ะ อธิกทิ้งตัวลงฝั่งตรงข้าม เท้าศอกพาดแขนลงบนโต๊ะ โน้มตัวเข้ามาหา สีหน้าติดจะกังวล
เรา... มีเรื่องที่คิดว่านายควรจะรู้... ฝ่ายนู้นนั่งนิ่งรอฟัง เปมะระบายลมหายใจแล้วรีบพูดต่อก่อนที่ตัวเองจะเปลี่ยนใจ ...เราเป็นเกย์
ดูเหมือนละอองของความเงียบจะค่อยๆ ร่วงหล่นโปรยปรายลงมาจากร่มเงาของต้นหูกวางช้าๆ อย่างกับหิมะในการ์ตูน แต่ละอองของความเงียบคงจะมีขนาดฟูฟ่องใหญ่โตพอๆ กับลูกบาส เพราะเพียงอึดใจเดียว เปมะก็รู้สึกเหมือนกับโดนกองลูกบาส เอ๊ย... กองความเงียบท่วมหัวท่วมหูจนหายใจไม่ออก
...เขาทำลงไปแล้ว...
ในที่สุด เขาก็ทำมันลงไปแล้ว ไม่เสียทีที่เตรียมตัวเตรียมใจไว้พร้อม มุข 'ผู้ชายเหมือนกัน' ตื้นๆ ที่ 'เจ้าชาย' ของเขาพูดอยู่หลายครั้ง ในที่สุดมันก็สำเร็จ
เขาได้อาบน้ำพร้อมกับอธิก โดยไม่มีอะไรปกคลุมปิดบังให้เกะกะสายตา...
...สายตาชั่วร้ายของเขาที่โลมเลียมไปบนเนื้อตัวของเพื่อนอย่างหื่นกระหาย
...สวย...
เจ้าชายผีเสื้อของเขา... บริสุทธิ์ผุดผ่อง สวยงามเหลือเกิน...
เปมะรู้สึกทุเรศตัวเอง
อธิกไม่เอะใจเลยซักนิดว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของคนเลว ที่ฉวยโอกาสใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างเพื่อน มาหาประโยชน์เข้าตัว...
...อย่างหน้าด้านๆ
ถ้าเพื่อนจะโกรธ แล้วบอกเขาว่า ไม่ต้องโทรมาอีกแล้ว ไม่ต้องมาเจอกันอีกแล้ว เปมะก็จะไม่แปลกใจเลยจริงๆ
อืม... ขอบใจนะที่บอก ที่จริง... มันเป็นเรื่องของนาย ไม่ต้องบอกเราก็ได้
เปมะกะพริบตาปริบๆ
นี่เขาฟังอะไรผิดไปรึเปล่า... หรือเขาพูดอะไรผิดไป ถ้าจำไม่ผิด เขาเพิ่งบอกว่าตัวเองเป็นเกย์ ไม่ได้บอกว่าเป็นหวัดซะหน่อย...
ตะ... แต่... เงยขึ้นมองหน้าขาวของเพื่อนอย่างเป็นงง นาย... ไม่โกรธเหรอ
คนตรงข้ามยิ้มตอบ ส่ายหน้า เปมะฉุกใจคิด รอยยิ้มผุดวาบขึ้น
หรือว่านาย...
เปล่าๆ อธิกรีบยกมือขึ้นห้ามก่อนที่จะถูกคาดเดาอะไรไปเลยเถิด เราไม่ได้เป็นเกย์
รอยยิ้มร่วงหายไปจากริมฝีปากเปมะรวดเร็วพอๆ กับขามา หนุ่มเข้มนิ่งอึ้งฟังเพื่อนพูดต่อ
ที่เราไม่โกรธ ก็เพราะมันไม่มีอะไรน่าโกรธนี่หว่า นายจะเป็นเกย์หรือเปล่า มันก็เรื่องของนาย แต่เราก็ขอบใจนะที่บอกให้รู้ ขอบใจที่ไว้ใจเราว่ะเป้
เปมะกะพริบตาปริบๆ พยายามนึกว่าตัวเองพลาดประโยคไหนไปรึเปล่า ทำไมฟังแล้วมันผิดที่ผิดทางยังไงชอบกล
ติ๊ก... นายฟังเรานะ โน้มตัวมาข้างหน้า เอาแขนพาดลงบนโต๊ะมั่ง ทำเสียงขึงขัง นายเข้าใจคำว่าเกย์รึเปล่า
เข้าใจสิเว้ย ฝ่ายนู้นไม่ขึงขังด้วย แถมยังหัวเราะอีกต่างหาก นายคิดว่าเรามาจากหลังเขารึไงวะ เกย์ที่นายว่าก็หมายถึงผู้ชายที่ชอบผู้ชาย ยากตรงไหน
งั้นนายก็เข้าใจว่าเราชอบผู้ชาย
อื้อ ตอนนี้เข้าใจแล้ว
งั้นนายก็เข้าใจว่าเรา... มีความรู้สึกทางเพศกับผู้ชาย
ฝ่ายนู้นนิ่งไปนิดนึง เปมะรู้สึกใจหายวูบ ...คราวนี้เข้าใจแล้วสินะ...
นายคิดว่าเราไร้เดียงสามากเหรอเป้ อธิกลุกจากม้าหินฝั่งตรงข้ามมานั่งข้างๆ ขอนั่งใกล้ๆ หน่อยเหอะ ถ้านายพูดจาทำนองว่าเรางี่เงาอีกที จะได้ตบหัวถนัดๆ
อ้าว... หนุ่มหน้าเข้มเป็นฝ่ายยืดตัวหนีหนุ่มหน้าขาวซะเอง เราก็แค่... งง... ว่าทำไมนายไม่โกรธ... ติ๊ก... นายลืมอะไรไปรึเปล่า เราเป็นเกย์นะ แล้วเมื่อกี๊เราก็เพิ่งแก้ผ้าอาบน้ำ... พร้อมกับนาย... เข้าใจรึยัง
อธิกเอามะเหงกเคาะหัวเพื่อนใหม่หน้าเข้มเบาๆ หนึ่งที
เข้าใจ ไม่ได้โง่ แล้วก็ไม่ลืมด้วย ไม่ได้ความจำเสื่อมนี่หว่า... เอาล่ะ ตานายตอบเรามั่งนะ เปมะ เราเป็นผู้ชาย นายล่ะ เป็นผู้ชายรึเปล่า
เป็นดิเว้ย
ทีนี้เก็บเรื่องเกย์ไม่เกย์เอาไว้ก่อน เราเป็นผู้ชาย นายเป็นผู้ชาย เล่นเทนนิสด้วยกัน อาบน้ำพร้อมกัน ต่างคนต่างอาบ มีอะไรเสียหายรึเปล่า
อืม... คงไม่มั้ง
สรุปว่าไม่มี ทีนี้นายเป็นเกย์ ก็แปลว่านายชอบผู้ชาย ซึ่งนายจะชอบใครก็เป็นเรื่องของนาย ไม่ใช่เรื่องของเรา เล่นเทนนิสด้วยกัน อาบน้ำพร้อมกัน ต่างคนต่างอาบ นายไม่ได้ทำอะไรเรา มีอะไรเสียหายตรงไหน
แปลก... เปมะคราง เพ่งพิศใบหน้าขาวที่ตอนนี้ดูจริงจังกับการอธิบาย อดไม่ได้ที่จะยกมือขวาขึ้นมาเท้าคางข้างแก้มเพื่อมองเพื่อนให้ถนัดๆ นายคิดอะไรแปลกๆ ว่ะติ๊ก เรามั่นใจว่าบอกแล้วนายต้องโกรธ หรืออาจจะเลิกคบเราไปเลยก็ได้ ถ้าเป็นคนอื่น เราคงถูกชกคว่ำไปแล้ว
หนุ่มน้อยหน้าขาวยิ้มกว้าง
ถ้านายอยากโดนชกคว่ำ บอกกันดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องพูดจาอ้อมค้อม
อยากขำแต่ขำไม่ออก เปมะส่ายหน้าทั้งยังเท้าคาง ระบายลมหายใจเหยียดยาว
นายไม่คิดมั่งเหรอ ว่าเราเอาเปรียบนาย เรามีความรู้สึกทางเพศกับผู้ชาย แล้วเราก็ดูนายโป๊เนี่ย
ดูแล้วเอาไปได้เหรอ อธิกเอนหลังพิงพนักม้าหิน ยกมือขึ้นกอดอก ไม่สึกไม่หรอนี่หว่า
แล้วนาย... ไม่รังเกียจที่เราเป็นเกย์เหรอ
หนุ่มน้อยเจ้าถิ่นเบือนหน้าออกไปยังฝั่งตรงข้ามสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ของโรงเรียนเพื่อนบ้าน
เรามี... คนรู้จัก... คนนึงเป็นเกย์ เขาเป็นคนดีมากๆ ดีกว่าคนอื่นๆ ที่เรารู้จักตั้งหลายคน เราสนิทกับเขา รู้จักตัวตนจริงๆ ของเขาตั้งนาน กว่าจะรู้ว่าเขาเป็นเกย์ มันทำให้เรารู้ว่าคนก็คือคน แต่ละคนก็คือแต่ละคน ไม่เหมือนกัน เป็นเกย์หรือไม่เป็นเกย์ มันก็เหมือนกับคนตัวสูงตัวเตี้ย ตัวอ้วนตัวผอม เราไม่รังเกียจใครเพราะเรื่องพวกนั้นหรอก อธิกเบือนหน้ากลับมา แล้วนายล่ะ นายเป็นเกย์ นายไม่รังเกียจเราที่เป็นสเตรทเหรอ
หือ... สเตรทอะไร เปมะทำหน้าเหรอ
อ้าว หนุ่มหน้าขาวร้องเสียงหลง เป็นเกย์ ไม่รู้จักคำว่าสเตรทเหรอวะ ต้องให้คนไม่ได้เป็นเกย์อย่างเราสอนเหรอเนี่ย เวรกรรมจริงๆ สเตรทก็แปลว่าคนที่ไม่ได้เป็นเกย์ไงเล้า
อ๊อ... เปมะทำปากหวอ บ้าดิ เราจะไปรังเกียจพวกนายได้ไง พวกเราน่ะมันคนส่วนน้อย ต้องหลบๆ ซ่อนๆ พวกนายอ้ะคนส่วนใหญ่
ไม่เกี่ยวนี่หว่า อธิกโต้ คนส่วนน้อยรังเกียจคนส่วนใหญ่ก็มีถมไป สรุปว่า... นายรังเกียจ
เฮ้ยยย... คราวนี้หนุ่มหน้าเข้มร้องเสียงหลงมั่ง สรุปง่ายๆ งั้นได้ไงล่ะ เดี๋ยวเพื่อนๆ นายยกขบวนมารุมตื้บเราพอดี หันซ้ายหันขวาประกอบ แล้วถอนหายใจ เราจะรังเกียจ 'พวกนาย' ได้ไงล่ะติ๊ก พ่อแม่ เพื่อน ครู คนในรถเมล์รถไฟฟ้า มีแต่ 'พวกนาย' ทั้งนั้น เราน่ะมันคนส่วนน้อยนะ
ไม่รู้ตัวเลย ไม่รู้ตัวซักนิด ว่านายเปมะผู้เข้มแข็ง เจ้าของสายตาเรียบนิ่งคมกริบกระชากใจใครต่อใคร พูดประโยคสุดท้ายออกมาด้วยน้ำเสียงหวั่นไหวซะขนาดนั้น
ที่รู้ก็แค่ว่า เพื่อนหนุ่มต่างโรงเรียนนิ่งไป แล้วกลับขยับลุกมานั่งเบียดกับเขาบนม้าหินตัวเดียวกัน ยกแขนขึ้นพาดบ่าเขาไว้ ...แบบเพื่อนผู้ชาย...
เราคิดอย่างงี้นะเป้ เสียงอบอุ่นดังอยู่ข้างหู ทุกคนในโลกนี้เป็นคนส่วนน้อยด้วยกันทั้งนั้นแหละ ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาเกณฑ์ไหนมาใช้แบ่งตะหาก ถนัดมือซ้ายก็เป็นคนส่วนน้อย ไม่เล่นเน็ตก็อาจจะเป็นคนส่วนน้อย อีกหน่อยพอเราโตขึ้น ถ้าไม่มีรถขับก็อาจจะเป็นคนส่วนน้อยในที่ทำงานก็ได้ เราก็เลยคิดว่าไม่เห็นเป็นไรนี่หว่า ดีซะอีก ชีวิตจะได้มีรสชาติ อย่างเราก็ไม่เคยมีเพื่อนสนิทเป็นเกย์มาก่อน ถ้าเราได้สนิทกับนายก็ยิ่งดีใหญ่ คราวนี้เราจะได้ภูมิใจได้ว่ามีเพื่อนสนิทไม่เหมือนใครไงล่ะ
เปมะขมวดคิ้ว ...ตกลงนี่มันปลอบหรือหลอกด่าฟะ... หันไปตั้งใจจะทำตาขวางใส่ แต่เห็นแก้มขาวๆ อยู่ห่างจากปลายจมูกตัวเองแค่คืบแล้วก็อึ้ง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่อาบน้ำกรุ่นกำจายมาจากซอกคอเย้ายวนตรงหน้า แขนเพื่อนโอบพาดอยู่บนหลัง ทำให้ไหล่เขากดแนบอยู่ตรงซอกรักแร้เพื่อนไปโดยปริยาย
...อีกแล้ว... ทำไมนายช่างซื่ออย่างงี้นะติ๊ก... ทำไมนายช่างไว้ใจ...
ขนาดเขายังไม่อยากไว้ใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ
.
จากคุณ :
พิธันดร
- [
11 ก.ย. 49 07:11:32
]
|
|
|