Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ติ๊ต่างว่า...เรื่องนี้น่ารักที่สุดในโลก(๙.ถึงคิวที่รออยู่)

    ปอชร...pallchohn@yahoo.co.th

    ตอนที่๑.สีที่ไม่เคยหมดรส...ตัวก็โยกโคลง...http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5653106/W5653106.html#1

    ตอนที่๒.ฝนนั้นโปรย..ใจโชยพัด...http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5653204/W5653204.html#2

    ตอนที่๓.แคมป์ในใจ-ตอนที่๔.โอ้ยโหยวบ้านป่า...http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5661299/W5661299.html

    ตอนที่๕.เหตุเกิด...เมื่อฝันถึงกาลนั้น-๖.ข้าวเหนียว...แด่...http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5671808/W5671808.html

    ตอนที่๗.ความลับ…ช่าง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5685138/W5685138.html

    ตอนที่๘.มหันตภัยจาก…ดวงดำ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W5696204/W5696204.html#3



    ๙.ถึงคิวที่รออยู่



    “ขออะไรอีกซักอย่างนะ...ได้ปะ...” ต่างนั่งคุยกับเพื่อนต้อยติ่งแสดงความรู้สึกที่มีอะไรในใจ เอ่ยแล้วเงียบมองลำต้นและสายน้ำ

    .........

    ต้อยติ่งไหวตามลมน้อยๆ เหมือนตอบรับด้วยปฏิกิริยาของลมเพลมพัด

    “แกนี่ไม่ไหวเลย...พูดไม่ได้ซักคำ...แต่ไม่ต้องเศร้าหรอก...ฉันก็ชอบอยู่นะที่แกเป็นแบบนี้...ไว้เจอกันตอนเย็น...” ต่างลุกจะเดินไป...นึกอะไรได้เอ่ยว่า...

    “เอ้อ...ฉันกินส้มตำกับปีกไก่แล้วว่ะ...ทำไมมันจืดไม่มีรสเชียวก็ไม่รุ...สงสัยโดนหลอกแหงๆเราทั้งคู่...”

    ต่างเริ่มซอยเท้าที่สัมผัสหญ้าชุ่มชื้นต้องแดดพราวละอองน้ำค้าง...สักพักก็ระเหยไปในอากาศ...ใจของใจไม่หมุนเวียนเช่นนั้น เพราะยังวนเวียนคิดเรื่องที่ผ่านมาดังเดิม....


    เพลงชาติร้อง...ดังกึกก้องเสียงประสานเด็กๆแว่วกระทบโสต ต่างรีบแจ้นเข้าประตูโรงเรียน ยืนสมทบกับเด็กที่มาสายหลังเสาธงเรียงหน้ากระดานมีเพียงสี่คนรวมเค้าด้วย...เขารู้สึกสะทกสะเทิ้นในใจ...จึกๆยังไงไม่ทราบเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เอ้อระเหย...จนมาสาย...แม่รู้เข้า...ต้องผิดหวังแน่เลย...รู้แล้วบอกพ่อสงสัยกลุ้มด้วยอีกคน...

    งั้นอย่าให้รู้ก็ละกัน...ให้ต้อยติ่ง...ไมยราบรู้ก็พอ...ความลับ...เจ้าพวกนี้เก็บได้

    แต่เห็นจะไม่เป็นอย่างนั้นน่ะซิ.....

    กิที่ยืนหน้าสุดอยู่ในแถวประจำชั้นยิ้มทั้งยังร้องเพลง...เหมือนยินดีที่...เพื่อนเราทำได้...สมควรได้ยืนเด่นซะ...

    กุลยืนอยู่คนที่หกในแถวหญิงจ๋าของเธอ...มองเค้าด้วยความรู้สึกเหมือนเอ่ย...ไม่คาดหวังอยู่แล้ว...เป็นเรื่องธรรมดาของคนอย่างนาย....สักวันต้องเป็นแบบนี้...ทำตัวได้ดีมากนะ...

    ต่างยิ้ม....ปากร้องเพลงชาติ...แต่ใจคิดเองเออเอง...อย่างน้อยก็ยังได้เรียนหนังสือทั้งวันล่ะน่า...ไม่ตกไม่หล่น...แล้วชำเลืองมองต้นเสียงที่ค่อยเคลื่อนเข้ามาใกล้จากตำแหน่งบริเวณโรงอาหารถึงข้างหลังส้นเท้าเหมือนมีอะไรเป็นขนๆมาเบียด

    โฮ้ว....โฮ้ว...ววว....

    ที่แท้ก็เป็นจ้าวเหว่าที่มาทิ้งตัวนอนใกล้ๆหอนเอื้อนตามคนร้องเพลง...เบียดเขาให้รำคาญแล้วยังใช้ให้เงาตัวเค้าบังแดดให้ร่มอีก...มันน่านัก...ดีที่เกรงใจครูอ้อย...เลยถองส้นเท้าเบาๆให้เพื่อนรู้ว่ากำลังเบียดเบียนกันและกัน....แต่แม่เจ้า..!! มันหน้าหนาเหมือนเขาจริงๆ....ทนได้...ไม่ไปซะอย่าง

    เขารีบบันทึกไว้ในใจ...เพื่อนที่ว่านอนสอนยากคือหมาสี่ขา...ทำโทษซะ...ถ้ามาขอหมัดเขาทราย...จะไม่แบ่งให้ด้วย...สองครั้ง

    ลมโชย ต้องหน้าพัดแรงมาหน่อยให้คลายร้อนจากแดดแปดโมง...

    ต่างทำตาโต...ลืมซะสนิท....เมื่อกี้...เขาเห็นยัยกุลใช่มั้ย !


    เมื่อเข้าห้องเรียนได้ก็มองที่โต๊ะกุลกันยาเธอ...ทุกอย่างยังเหมือนเดิม...กระเป๋าของเธอสีเหมือนไฟจราจรมีเพี้ยนเพียง...สีแดงเป็นสีชมพูแจ่มให้อรรถรส...ดูแล้วดูอีกก็ยังไม่หน่าย นั่งข้างๆน่ะเป็นกระเป๋าไอ้บิ้ม เพื่อนเกลอ...ดูแล้วก็เฉยๆ...มองผ่านๆก็พอ

    *0*~ ยังไม่ย้ายวันนี้นี่หว่า...แล้วจะไปเมื่อไหร่วะ...เดี๋ยวต้องถามให้รู้

    ทั้งห้องเริ่มนั่งกันประจำที่...พู่ยืนรอต่างที่วางรองเท้าบนชั้นหันมา...เอ่ยถามทันที

    “มืงตื่นสายเหรอวะ” เขาถามแล้วเดินเคียงกันไปที่โต๊ะ

    “วันนี้กูอ้อยอิ่งไปหน่อยว่ะ...” ต่างก้มเห็นสิ่งที่คุ้นเคยอีกอย่างแล้ว...เอ่ยว่า “ถุงเท้ารุ่ยมืงคู่นี้อีกละ...จะเล่นไถลหน้าห้องได้เหรอวะ...วันเนี้ย” ถุงเท้าพู่ที่ขาดเป็นรูทั้งนิ้วก้อย....นิ้วโป้งรวมส้นเท้าอีก ร่วมขบวนไปออกันอยู่ที่ถุงเท้าข้างซ้ายข้างเดียวเสียหมด...เห็นแล้วไม่สมดุลดูอดสูแทนเพื่อนปนนึกขำ....ต่างเกรงว่าเขาจะเจอแรงเสียดทานจากพื้นหน้าห้องที่เงามันแผล็บมาได้สองวัน เนื้อเท้าสัมผัสพื้นแทนถุงเท้า...จะร้อนลอกเอาตอนไถลไปมา...

    “ก็ถึงคิวต้องใช้วันนี้นี่หว่า...” พู่เอ่ยถุงเท้ามีใช้อย่างจำกัด...เค้ามีสามคู่สลับกันเท่านั้น “เดี๋ยวกูเอาถุงหิ้วห่อข้าวห่อตีนก็ได้...ลื่นปรื๊ด”

    “เออ...อย่ามาหัวทิ่มทับกูก็ละกัน”

    ก็แบบว่าการไถลเชือนแชบนระเบียงอาคารเป็นที่ยอดฮิตกันทั่วเมื่อไม่กี่วันก่อน...ดูแออัดกันทันทีเมื่อได้เวลาพัก...มนุษย์ไฟฟ้าก็เอาด้วยเพราะสนุก...หิ่งห้อยผู้พิทักษ์ก็เช่นกัน


    ต่างเห็นหน้ากิ...รู้แกวระแคะระคาย...ก่อนเพื่อนจะถามเรื่องเดิมที่พู่พึ่งทำมาเมื่อกี๊ ก็เลยชิงเอ่ยเรื่องอะไรก็ได้ที่นึกออก...เมื่อนั่งเก้าอี้

    “มืงรู้ปะ...ไอ้กุลมันจะย้ายโรงเรียน...”

    “อ้าว...ไปไหนเหรอวะ...”

    “ไป......ไป...เชี่ยมใหม่” ต่างพยายามนึกถึงน้ำเสียงที่กุลเอ่ย...ได้ยินมาประมาณเนี้ย

    “กูว่าสงสัยเบื่อเป็นซาโนะเต็มแก่แล้วว่ะ...เบื่อมืงด้วยกูว่า”

    “ดู...ดู...ดู...มืงว่าไป...กูอุตส่าห์พาไปตะแลดตลาดมา...สนุกดีออก...เมื่อวานมืงก็ชอบไม่ใช่เหรอ...เห็นขำอยู่ได้ตอนเดินกลับ...”

    “เบื่ออยู่แล้ว...ก็มืงพามันไปหกล้ม...ตัวเลอะหมดกลับบ้านโดนดุหรือเปล่าไม่รุ แต่กูก็ขำมันนั้นแหละ...ตัวแข็งทื่อเชียว” กิเอ่ยชำเลืองบิ้มที่เป็นคนเริ่มประเด็นนี้เมื่อวาน...เรื่องเผชิญหน้าคนบ้า...กุลนั้นแข็งได้ที่

    ต่างมองหน้าเพื่อนไม่สบอารมณ์เท่าไหร่...ไอ้นี่ชักใบให้เรือเสีย...

    “มืงไม่รู้สึกแย่บ้างเหรอ...ไม่มีการบ้านให้ดูบ้าง...ไม่รู้ด้วยลูกแก้วสวยๆซื้อที่ไหน”

    “เดี๋ยวก็ไปถามมันไว้ละกันว่าซื้อที่ไหน...แล้วเราก็ค่อยเรียนไปเรื่อยๆ...เดี๋ยวเราก็เก่งเองแหละ...ช้าหน่อยเท่านั้นเอง” กิเอ่ยไม่สะทกสะท้าน

    ต่างมองเพื่อน...ใช้อะไรคิดได้สร้างสรรค์แบบนี้...มองโลกได้ดีจริงๆ...

    นั่งทบทวนแล้ว...ถ้าเธอจะย้ายที่เรียนจริงๆ...ต้องไม่ใช่เพราะเขาแน่...ก็เขาถามเธอเมื่อวานนี่นา...เธอตัดสินใจจะไปเชียงใหม่ก่อนไปร่อนที่ตลาดซะอีก...ไม่ใช่เพราะหกล้ม...

    ครั้นครูประจำชั้นชื่ออ้อยเดินเข้าห้อง....จึงเริ่มที่ภาษาอังกฤษขีดเขียนเรียนกันทันที...



    *0*



    “มืงว่าถ้าเราไม่ได้กินอะไรที่มันอยากกินมากๆ...แล้วจะซึมเมาอ่อนๆมั้ยวะ” ต่างถามบิ้มผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารการบริโภคเหมือนๆกัน

    ทั้งสองไถลคลอกันไปจดสุดอาคาร...เกาะเสาแล้วพักเหนื่อย...หลังคล้อยจากถ้วยส้มตำตามด้วยซดน้ำก๊อกจากถังปูน

    “ไม่ตายหรอก...แต่คงทรมานหน่อย...เวลาเห็นใครมากินไอ้ที่เราอยาก.....ล่อหน้าาา..!!!....” บิ้มซู้ด...ปาก บรรเทาอาการเผ็ดจากพริกส้มตำป้ามี

    ครั้นต่างกำลังจะเอ่ยคำ....เขากลับรู้สึกหวิวๆ ตัวโยกๆโอนเอน...

    ครืนนน...!!!!..

    “เหยยย......” ต่างอุทานออกมาแบบไม่รู้ตัว...บิ้มไม่รู้ร้องว่าอะไรแต่อ้าปากค้าง

    อาคารไหวสั่นรุนแรงขึ้นเหมือนถูกจับเขย่าโดยสัตว์ประหลาด...ต่างรีบยึดเสาอาคารไว้มั่น บิ้มมองหน้าเขาเกาะเสาไว้เหมือนกันใบหน้าเลิ่กลั่ก ชั่วอายุของเขาเหตุการณ์สั่นๆนี้ไม่เคยเจอมาก่อน...ขอบอก

    อาคารที่เหมือนอ่อนยวบโย้เย้...เริ่มบรรเทาลง…กลับมาแข็งอีกครั้ง

    ก๊อง...แก๋ง....ตุบๆๆๆ...!!

    ต่างมองขึ้นไปบนชั้นสามอาคารถัดไปที่มีใต้ถุนโล่งใช้วิ่งเล่นบ่อยๆก่อนกลับบ้าน เพราะสิ่งของที่ตกลงมาจึงมองหาผู้เป็นเจ้าของ...

    จากคุณ : ปอชร - [ 14 ส.ค. 50 12:26:01 A:124.121.36.96 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom