Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    + + เรื่องของเธอกับเขา + + ((อ้างว่ารักแล้วนินทา ภาคพิเศษ))

    “กานต์กับพี่หมิงชอบกันใช่ไหม”   หนูยีถามเพื่อนรักด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ประโยคสั้นๆนี้ประโยคเดียวคนถูกถามถึงกับสำลักน้ำอัดลมสีดำยี่ห้อดัง ไอค๊อกแค๊กจนหนูยีต้องเอื้อมมือลูบหลัง  แต่พอเจ้าตัวหยุดไอแล้วตั้งสติได้ก็จัดการโวยวายใส่เจ้าตัวต้นเหตุให้เกิดอาการสำลักน้ำเฉียบพลันทันที

    “ยายหนูยี! ไปเอาความคิดนี้มาจากไหนเนี้ย”  แต่คนถูกโวยวายหามีท่าทางตกใจในท่าทีของเพื่อนรักไม่

    “ทำไม ยีจะคิดเองบ้างไม่ได้หรอกานต์”

    “ไอ้เรื่องแบบนี้หล่อนคิดเองเป็นที่ไหนกัน  บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ใครเป่าหูหล่อน”  คราวนี้กลับเป็นคนตัวเล็กกว่าโวยวายกลับบ้าง ก็ประโยคนี้ฟังยังไงมันก็ว่าเธอชัดๆ

    “กานต์!!  กานต์พูดเหมือนกับหนูยีโง่หยั่งงั้นละ  หนูยีไม่ได้โง่นะที่จะดูเรื่องแบบนี้ไม่ออกนะ”  

    “หล่อนนะไม่โง่  แต่หล่อนนะซื่อบวกบื้อด้วยรู้ตัวไว้ซะ”

    “ก๊านนนนนนนนต์....อ๊านนนน...น  อู้อออ  อือออ”  คนตัวสูงกว่าจัดการปิดปากคนตัวเล็กก่อนที่เสียงโวยวายไม่เล็กเหมือนเจ้าตัวจะเรียกร้องความสนใจจากลูกค้าคนอื่นภายในร้านที่ทั้งสองนั่ง มากไปกว่านี้   ก็เจ้าหนูยีดันเล่นร้องออกมาเสียเต็มเสียงแบบนั้น ยังดีที่ร้านที่สองสาวมานั่งลูกค้าไม่เยอะและโต๊ะแต่ละตัวก็ห่างกันพอสมควรทำให้ไม่เป็นจุดสนใจมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นกานต์ยังต้องส่งยิ้มเหย่ไปให้ลูกค้าคนอื่นที่มองมาเป็นการกลบเกลื่อน แล้วหันมากระซิบเสียงดุใส่ตัวต้นเหตุให้เธอขายหน้า

    “หยุดโวยวายเลยยัยหนูยี อายคนอื่นเขาเข้าใจไหม”    คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักทำมือเป็นสัญญาณให้เพื่อนรักปล่อยตัวเองได้แล้ว  คนกระซิบถึงยอมปล่อยให้ปากคนช่างโวยวายกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง พร้อมกลับเสียงบ่นอุบอิบว่า “หนูยีไม่ได้ซื่อบวกบื้อเสียหน่อย”

    “ว่าไงยัยหนูยี ใครบอกหล่อนให้หล่อนมาสืบ”

    “ไม่มีใครให้หนูยีมาสืบทั้งนั้นละ หนูยีอยากรู้เอง” เจ้าตัวบอกงอนๆ แต่คนอยากรู้ไม่สนใจยังคงคาดคั้นต่อไป

    “งั้นบอกมาว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น”

    “ก็เพราะกานต์กับพี่หมิงชอบทะเลาะกันนะสิ  เถียงกันได้ทุกวัน งอนกันได้ทุกวัน แต่ก็ยังคุยกันทุกวันเหมือนกัน”

    “แค่เนี้ยนะ!”

    “ไม่ใช่แค่นี้นะ  หนูยีสังเกตมานานแล้ว”  เจ้าตัวยืนยันด้วยความมั่นใจ

    “ใช้ตาถั่วๆสังเกตนะสิยัยหนูยี  จะบ้าเรอะเหตุผลแค่นั้นมาตัดสินว่าใครชอบใครได้ที่ไหนกัน”

    “ยีไม่ได้มั่วนะกานต์   ยีเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้นะ ยีศึกษามาดีไอ้ทะเลาะกันแบบนี้ร้อยทั้งร้อย ชอบกันชัวร์”  

    “เฮ้ย ไปเอามาจากไหน”  คนถามเริ่มรู้สึกไม่ไว้วางใจกับระบบความคิดของเพื่อนสาวตรงหน้าเท่าไหร่  เพราะท่าทางมั่นใจเต็มร้อยกับความคิด(ที่แปลกๆ)ทีไร  มักจะไม่ได้เรื่องทุกที

    “ยีอ่านนิยายมา”  

    นั่นไง ฉันว่าแล้ว... ทำไมซื้อหวยมันไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ

    “มั่วแล้วยายหนูยี  เชื่อถืออะไรกับนิยาย นิยายไม่ใช่ชีวิตจริงนะ”

    “แต่นิยายส่วนใหญ่ก็มาจากชีวิตจริงนะกานต์”   เจ้าตัวยังเถียงไม่เลิก

    “ชีวิตจริงของคนส่วนน้อยนะสิ  ใช้ไม่ได้กับกานต์หรอก”

    “ทำไมกานต์ต้องปิดบังความรู้สึกของตัวเองด้วยละ  ถ้าชอบก็บอกว่าชอบไปเลย ยีไม่ว่ากานต์หรอก”  ยัยหนูยียังคงยึดมั่นความคิดเดิมและดูท่าจะคิดเป็นจริงเป็นจังกับความคิดตัวเองไม่เลิก

    “มันไม่เกี่ยวกับว่ายีจะว่าไม่ว่า  แต่กานต์ไม่ได้ชอบไอ้หนอนเน่ามัน!  ฟังดีๆนะหนูยี กานต์-ไม่-ได้-ชอบ-ไอ้-หนอน-เน่า”   กานต์ยืนยันอย่างหนักแน่น สบตากับเพื่อนรักอย่างไม่ปิดบังหวังจะย้ำให้เจ้าตัวเลิกคิดจับคู่เธอให้กับไอ้หนอนเน่ามันได้แล้ว

    “แต่ว่า..”  หนูยียังไม่ยอมเลิกเจ้าตัวจึงรีบพูดตัดหน้าและย้ำอีกครั้งก่อนที่คนตัวเล็กจะพูดจบ
    “กานต์กับไอ้หนอนเน่าเป็นเพื่อนกันเท่านั้น”

    “แต่เพื่อนกันก็ไม่ต้องทะเลาะกันแล้วก็ไม่โทรคุยกันทุกวันนะกานต์  อย่างหนูยีกับกานต์ก็เพื่อนกันยังไม่เห็นทะเลาะกันเลย”

    “เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันทุกวันแล้วละ  นานๆคุยกันทีนะหนูยี”  พูดถึงตรงนี้น้ำเสียงของคนตัวสูงกว่าฟังแปลกๆ ให้ความรู้สึกเหงาๆ “อ้าว! ทำไมละเกิดอะไรขึ้นหรอกานต์”

    “ไอ้หนอนมันคงมีผู้หญิงคนใหม่แล้วละ มันถึงได้ลืมเพื่อนคนนี้แล้ว”  คนอารมณ์ไหวพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจและตัดพ้อไปถึงชายอีกคน  จนคนตัวเล็กกว่าต้องปลอบ

    “ไม่หรอกกานต์ พี่หมิงเขาไม่เป็นคนลืมพี่ลืมน้องลืมเพื่อนหรอก  ยิ่งกับกานต์ยิ่งลืมไม่ได้ใหญ่เลยจริงๆนะ”

    “หนูยีไม่ต้องปลอบเราหรอก เราไม่เป็นไร”

    “ยีไม่ได้ปลอบนะ ยีพูดความจริง  ที่ไม่ติดต่อมาเหตุผลเพราะอาจจะงานยุ่งก็ได้ พี่หมิงไม่มีทางลืมกานต์หรอก ก็หัวใจพี่หมิงอยู่กับกานต์นี่”   คำพูดที่จริงจังแต่น้ำเสียงไม่ได้เข้ากันเลย แถมประโยคท้ายๆคนอารมณ์ไหวก็รู้ว่าไม่เป็นความจริง แต่คำพูดของผู้หญิงตรงหน้าก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง  แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมรับ

    “แต่ข่าวที่ได้ยินมา  ไอ้หนอนมันติดพันกับผู้หญิงนะหนูยี  พากันไปทุกงานด้วย โทรหากันทุกวัน  ใครๆก็ว่ามันหลงผู้หญิงคนนั้นจนโงหัวไม่ขึ้น”   ข่าวใหม่ที่ได้รู้ทำให้คนตัวเล็กกว่าตกใจ

    “จริงหรอกานต์! ทำไมยีไม่รู้เลยละ  มันอาจเป็นแค่ข่าวลือก็ได้นะกานต์ ไม่ได้แล้วอย่างนี้ต้องเช็คข่าวก่อน”
    ว่าแล้วเจ้าตัวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่ต้องการ  รอสัญญาณดังไม่กี่ครั้งแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ก็รับสาย

    “สวัสดีจ้าเจ้ายี ไม่โทรหาพี่เลยนะ” ปลายสายส่งเสียงทักทายปนต่อว่า

    “สวัสดีค่ะพี่นัท หนูยีมีเรื่องจะถามค่ะ”  ไม่พูดพล่ามทำเพลงยิงคำถามเข้าประเด็นทันที

    “อ้าว  ไอ้เราก็นึกว่าน้องคิดถึงโทรมาหา  ที่ไหนได้มีเรื่องจะถามเราเสียอีก”

    “งา...หนูยีก็คิดถึงพี่นัทมากๆนะคะ  แต่หนูยีมีเรื่องด่วนต้องถามพี่นัทจริงๆค่ะ เรื่องสำคัญมากๆเลย” คนตัวเล็กรีบพูดเอาใจพี่สาวพร้อมวกกลับเข้าประเด็นที่ต้องการต่อทันที

    “เอ๊า ว่ามามีเรื่องอะไร”

    “คือพี่หมิงมีแฟนแล้วหรอคะพี่นัท”  

    “เฮ้ย! จริงหรอ ทำไมพี่ไม่รู้เรื่อง หนอยยยยย ไอ้หมิง!มีแฟนแล้วไม่ยอมบอกพี่บอกเชื้ออย่างนี้ต้องจัดการ” ปลายสายคาดโทษคนที่ถูกอ้างถึง

    “อ้าว พี่นัทไม่รู้หรอค่ะ”

    “พี่ไม่เห็นรู้เลย ไหนยีเล่ามาสิเรื่องมันเป็นไง”

    “หนูยีก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่นัท  ยีแค่ได้ข่าวว่าพี่หมิงไปติดผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วยังหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ยีไม่รู้เลยลองโทรมาหาพี่นัทนี่ละค่ะ  ว่าพี่นัทรู้เรื่องนี้หรือเปล่า”

    “โถ่ยี แค่ติดผู้หญิงแล้วก็บอกว่ามันมีแฟน   ไอ้การติดผู้หญิงกับมีแฟนนี่มันต่างกันนะเจ้ายี”

    “นั่นละค่ะ  ตกลงพี่นัทรู้หรอคะ”

    “พี่ก็ไม่แน่ใจนะ แต่มีข่าวมาเหมือนกันว่า ช่วงนี้ใครๆก็ต่างเห็นมันอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งบ่อยๆ เกาะกันเป็นปลาท่องโก๋เลยละ”  คำบอกเล่าจากปลายสายทำให้คนตั้งตัวเป็นนักสืบตาโตดีใจกับข่าวที่ได้รับ

    “แสดงว่าข่าวนี้เป็นความจริงนะสิคะ”

    “เฮ้ย พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันลือมานะยี”  พี่นัทแย้ง

    “ไม่เป็นไรค่ะ แต่พี่นัทก็รู้แบบนี้หนูยีว่ามีมูลนะคะ  เดี๋ยวเรื่องนี้หนูยีต้องสืบให้ได้”

    “ดีมากเจ้ายี  สืบได้เรื่องยังไงโทรมารายงานพี่ด้วยนะ”

    “ได้ค่ะ รับรองยีรายงานพี่นัทแน่นอนค่ะ  เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะพี่นัทหนูยีจะรีบไปสืบค่ะ”

    “ได้ๆ  ดูแลตัวเองดีๆนะเจ้ายี”

    “ค่ะพี่นัท”  
    หลังจากตัดสายจากพี่นัทแล้ว นักสืบ(ที่เจ้าตัวตั้งตำแหน่งเอง) ก็หันไปบอกเพื่อนสาวที่นั่งฟังข้างๆว่า

    “แน่แล้วกานต์  ข่าวมีมูลพี่นัทก็ได้ข่าวว่าพี่หมิงติดหญิง”

    “อืม”   คนอารมณ์ไหวรับคำด้วยท่าทีซึมลงไปกว่าเดิมจนเพื่อนรักอย่างหนูยีเริ่มรู้สึกกังวลแทนแต่ก็ปลอบเพื่อนอารมณ์ไหวไปอีกอย่างว่า

    “กานต์อย่าพึ่งคิดมากสิ อาจจะไม่จริงก็ได้ เดี๋ยวยีสืบให้ เอาให้ชัวร์ๆเลยนะ  แป๊บนะเดี๋ยวยีโทรไปสืบให้”

    ว่าแล้วเจ้าตัวก็กดโทรศัพท์โทรไปหาแหล่งข้อมูลอีกแหล่งที่ต้องการทันที จนคนข้างๆห้ามไม่ทัน หรืออาจจะเป็นเพราะความอยากรู้ ทำให้เจ้าตัวเงียบและรอฟังข่าวจากการสืบของนักสืบสาวตรงหน้า


    “ฮาโหลพี่หมิง หนูยีมีเรื่องที่ต้องสืบค่ะพี่หมิงช่วยหนูยีหน่อย”  

    หนูยีพูดทักทายตอบคนปลายสายทำให้รู้ว่าปลายสายรับโทรศัทพ์แล้ว แต่ชื่อที่หนูยีทักนี่สิทำให้คนอารมณ์ไหวตกใจ  ‘นี่โทรไปหาตัวต้นเรื่องตรงๆเลยหรอเนี้ย’ สงสายตาเป็นคำถามไปหานักสืบตรงหน้า แต่ได้คำตอบที่ทำท่าทำทางมาบอกให้เงียบๆไว้เดี๋ยวจัดการเอง  คนอารมณ์ไหวจึงรอฟัง  
    นักสืบสาวจึงหันสมาธิกลับไปที่โทรศัทพ์อีกครั้ง
    “เดี๋ยวๆหนูยี มาถึงไม่ทักทายก็เข้าประเด็นเลยเรอะ”

    “หนูยีทักฮาโหลแล้วไงพี่หมิง”

    “อย่างนั้นเขาไม่เรียกทักทายนะหนูยี”

    “งั้นสวัสดีค่ะพี่หมิง สบายดีนะคะ หนูยีสบายดี ตกลงพี่หมิงช่วยหนูยีสืบนะ”

    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอเคช่วยก็ช่วย แล้วไปเล่นเป็นนักสืบสืบเรื่องอะไรอีกละคราวนี้”

    จากคุณ : หนูยี - [ 22 ส.ค. 50 01:27:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom