กานต์กับพี่หมิงชอบกันใช่ไหม หนูยีถามเพื่อนรักด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ประโยคสั้นๆนี้ประโยคเดียวคนถูกถามถึงกับสำลักน้ำอัดลมสีดำยี่ห้อดัง ไอค๊อกแค๊กจนหนูยีต้องเอื้อมมือลูบหลัง แต่พอเจ้าตัวหยุดไอแล้วตั้งสติได้ก็จัดการโวยวายใส่เจ้าตัวต้นเหตุให้เกิดอาการสำลักน้ำเฉียบพลันทันที
ยายหนูยี! ไปเอาความคิดนี้มาจากไหนเนี้ย แต่คนถูกโวยวายหามีท่าทางตกใจในท่าทีของเพื่อนรักไม่
ทำไม ยีจะคิดเองบ้างไม่ได้หรอกานต์
ไอ้เรื่องแบบนี้หล่อนคิดเองเป็นที่ไหนกัน บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ใครเป่าหูหล่อน คราวนี้กลับเป็นคนตัวเล็กกว่าโวยวายกลับบ้าง ก็ประโยคนี้ฟังยังไงมันก็ว่าเธอชัดๆ
กานต์!! กานต์พูดเหมือนกับหนูยีโง่หยั่งงั้นละ หนูยีไม่ได้โง่นะที่จะดูเรื่องแบบนี้ไม่ออกนะ
หล่อนนะไม่โง่ แต่หล่อนนะซื่อบวกบื้อด้วยรู้ตัวไว้ซะ
ก๊านนนนนนนนต์....อ๊านนนน...น อู้อออ อือออ คนตัวสูงกว่าจัดการปิดปากคนตัวเล็กก่อนที่เสียงโวยวายไม่เล็กเหมือนเจ้าตัวจะเรียกร้องความสนใจจากลูกค้าคนอื่นภายในร้านที่ทั้งสองนั่ง มากไปกว่านี้ ก็เจ้าหนูยีดันเล่นร้องออกมาเสียเต็มเสียงแบบนั้น ยังดีที่ร้านที่สองสาวมานั่งลูกค้าไม่เยอะและโต๊ะแต่ละตัวก็ห่างกันพอสมควรทำให้ไม่เป็นจุดสนใจมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นกานต์ยังต้องส่งยิ้มเหย่ไปให้ลูกค้าคนอื่นที่มองมาเป็นการกลบเกลื่อน แล้วหันมากระซิบเสียงดุใส่ตัวต้นเหตุให้เธอขายหน้า
หยุดโวยวายเลยยัยหนูยี อายคนอื่นเขาเข้าใจไหม คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักทำมือเป็นสัญญาณให้เพื่อนรักปล่อยตัวเองได้แล้ว คนกระซิบถึงยอมปล่อยให้ปากคนช่างโวยวายกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง พร้อมกลับเสียงบ่นอุบอิบว่า หนูยีไม่ได้ซื่อบวกบื้อเสียหน่อย
ว่าไงยัยหนูยี ใครบอกหล่อนให้หล่อนมาสืบ
ไม่มีใครให้หนูยีมาสืบทั้งนั้นละ หนูยีอยากรู้เอง เจ้าตัวบอกงอนๆ แต่คนอยากรู้ไม่สนใจยังคงคาดคั้นต่อไป
งั้นบอกมาว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น
ก็เพราะกานต์กับพี่หมิงชอบทะเลาะกันนะสิ เถียงกันได้ทุกวัน งอนกันได้ทุกวัน แต่ก็ยังคุยกันทุกวันเหมือนกัน
แค่เนี้ยนะ!
ไม่ใช่แค่นี้นะ หนูยีสังเกตมานานแล้ว เจ้าตัวยืนยันด้วยความมั่นใจ
ใช้ตาถั่วๆสังเกตนะสิยัยหนูยี จะบ้าเรอะเหตุผลแค่นั้นมาตัดสินว่าใครชอบใครได้ที่ไหนกัน
ยีไม่ได้มั่วนะกานต์ ยีเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้นะ ยีศึกษามาดีไอ้ทะเลาะกันแบบนี้ร้อยทั้งร้อย ชอบกันชัวร์
เฮ้ย ไปเอามาจากไหน คนถามเริ่มรู้สึกไม่ไว้วางใจกับระบบความคิดของเพื่อนสาวตรงหน้าเท่าไหร่ เพราะท่าทางมั่นใจเต็มร้อยกับความคิด(ที่แปลกๆ)ทีไร มักจะไม่ได้เรื่องทุกที
ยีอ่านนิยายมา
นั่นไง ฉันว่าแล้ว... ทำไมซื้อหวยมันไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ
มั่วแล้วยายหนูยี เชื่อถืออะไรกับนิยาย นิยายไม่ใช่ชีวิตจริงนะ
แต่นิยายส่วนใหญ่ก็มาจากชีวิตจริงนะกานต์ เจ้าตัวยังเถียงไม่เลิก
ชีวิตจริงของคนส่วนน้อยนะสิ ใช้ไม่ได้กับกานต์หรอก
ทำไมกานต์ต้องปิดบังความรู้สึกของตัวเองด้วยละ ถ้าชอบก็บอกว่าชอบไปเลย ยีไม่ว่ากานต์หรอก ยัยหนูยียังคงยึดมั่นความคิดเดิมและดูท่าจะคิดเป็นจริงเป็นจังกับความคิดตัวเองไม่เลิก
มันไม่เกี่ยวกับว่ายีจะว่าไม่ว่า แต่กานต์ไม่ได้ชอบไอ้หนอนเน่ามัน! ฟังดีๆนะหนูยี กานต์-ไม่-ได้-ชอบ-ไอ้-หนอน-เน่า กานต์ยืนยันอย่างหนักแน่น สบตากับเพื่อนรักอย่างไม่ปิดบังหวังจะย้ำให้เจ้าตัวเลิกคิดจับคู่เธอให้กับไอ้หนอนเน่ามันได้แล้ว
แต่ว่า.. หนูยียังไม่ยอมเลิกเจ้าตัวจึงรีบพูดตัดหน้าและย้ำอีกครั้งก่อนที่คนตัวเล็กจะพูดจบ
กานต์กับไอ้หนอนเน่าเป็นเพื่อนกันเท่านั้น
แต่เพื่อนกันก็ไม่ต้องทะเลาะกันแล้วก็ไม่โทรคุยกันทุกวันนะกานต์ อย่างหนูยีกับกานต์ก็เพื่อนกันยังไม่เห็นทะเลาะกันเลย
เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันทุกวันแล้วละ นานๆคุยกันทีนะหนูยี พูดถึงตรงนี้น้ำเสียงของคนตัวสูงกว่าฟังแปลกๆ ให้ความรู้สึกเหงาๆ อ้าว! ทำไมละเกิดอะไรขึ้นหรอกานต์
ไอ้หนอนมันคงมีผู้หญิงคนใหม่แล้วละ มันถึงได้ลืมเพื่อนคนนี้แล้ว คนอารมณ์ไหวพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจและตัดพ้อไปถึงชายอีกคน จนคนตัวเล็กกว่าต้องปลอบ
ไม่หรอกกานต์ พี่หมิงเขาไม่เป็นคนลืมพี่ลืมน้องลืมเพื่อนหรอก ยิ่งกับกานต์ยิ่งลืมไม่ได้ใหญ่เลยจริงๆนะ
หนูยีไม่ต้องปลอบเราหรอก เราไม่เป็นไร
ยีไม่ได้ปลอบนะ ยีพูดความจริง ที่ไม่ติดต่อมาเหตุผลเพราะอาจจะงานยุ่งก็ได้ พี่หมิงไม่มีทางลืมกานต์หรอก ก็หัวใจพี่หมิงอยู่กับกานต์นี่ คำพูดที่จริงจังแต่น้ำเสียงไม่ได้เข้ากันเลย แถมประโยคท้ายๆคนอารมณ์ไหวก็รู้ว่าไม่เป็นความจริง แต่คำพูดของผู้หญิงตรงหน้าก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมรับ
แต่ข่าวที่ได้ยินมา ไอ้หนอนมันติดพันกับผู้หญิงนะหนูยี พากันไปทุกงานด้วย โทรหากันทุกวัน ใครๆก็ว่ามันหลงผู้หญิงคนนั้นจนโงหัวไม่ขึ้น ข่าวใหม่ที่ได้รู้ทำให้คนตัวเล็กกว่าตกใจ
จริงหรอกานต์! ทำไมยีไม่รู้เลยละ มันอาจเป็นแค่ข่าวลือก็ได้นะกานต์ ไม่ได้แล้วอย่างนี้ต้องเช็คข่าวก่อน
ว่าแล้วเจ้าตัวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่ต้องการ รอสัญญาณดังไม่กี่ครั้งแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ก็รับสาย
สวัสดีจ้าเจ้ายี ไม่โทรหาพี่เลยนะ ปลายสายส่งเสียงทักทายปนต่อว่า
สวัสดีค่ะพี่นัท หนูยีมีเรื่องจะถามค่ะ ไม่พูดพล่ามทำเพลงยิงคำถามเข้าประเด็นทันที
อ้าว ไอ้เราก็นึกว่าน้องคิดถึงโทรมาหา ที่ไหนได้มีเรื่องจะถามเราเสียอีก
งา...หนูยีก็คิดถึงพี่นัทมากๆนะคะ แต่หนูยีมีเรื่องด่วนต้องถามพี่นัทจริงๆค่ะ เรื่องสำคัญมากๆเลย คนตัวเล็กรีบพูดเอาใจพี่สาวพร้อมวกกลับเข้าประเด็นที่ต้องการต่อทันที
เอ๊า ว่ามามีเรื่องอะไร
คือพี่หมิงมีแฟนแล้วหรอคะพี่นัท
เฮ้ย! จริงหรอ ทำไมพี่ไม่รู้เรื่อง หนอยยยยย ไอ้หมิง!มีแฟนแล้วไม่ยอมบอกพี่บอกเชื้ออย่างนี้ต้องจัดการ ปลายสายคาดโทษคนที่ถูกอ้างถึง
อ้าว พี่นัทไม่รู้หรอค่ะ
พี่ไม่เห็นรู้เลย ไหนยีเล่ามาสิเรื่องมันเป็นไง
หนูยีก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่นัท ยีแค่ได้ข่าวว่าพี่หมิงไปติดผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วยังหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ยีไม่รู้เลยลองโทรมาหาพี่นัทนี่ละค่ะ ว่าพี่นัทรู้เรื่องนี้หรือเปล่า
โถ่ยี แค่ติดผู้หญิงแล้วก็บอกว่ามันมีแฟน ไอ้การติดผู้หญิงกับมีแฟนนี่มันต่างกันนะเจ้ายี
นั่นละค่ะ ตกลงพี่นัทรู้หรอคะ
พี่ก็ไม่แน่ใจนะ แต่มีข่าวมาเหมือนกันว่า ช่วงนี้ใครๆก็ต่างเห็นมันอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งบ่อยๆ เกาะกันเป็นปลาท่องโก๋เลยละ คำบอกเล่าจากปลายสายทำให้คนตั้งตัวเป็นนักสืบตาโตดีใจกับข่าวที่ได้รับ
แสดงว่าข่าวนี้เป็นความจริงนะสิคะ
เฮ้ย พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน มันลือมานะยี พี่นัทแย้ง
ไม่เป็นไรค่ะ แต่พี่นัทก็รู้แบบนี้หนูยีว่ามีมูลนะคะ เดี๋ยวเรื่องนี้หนูยีต้องสืบให้ได้
ดีมากเจ้ายี สืบได้เรื่องยังไงโทรมารายงานพี่ด้วยนะ
ได้ค่ะ รับรองยีรายงานพี่นัทแน่นอนค่ะ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะพี่นัทหนูยีจะรีบไปสืบค่ะ
ได้ๆ ดูแลตัวเองดีๆนะเจ้ายี
ค่ะพี่นัท
หลังจากตัดสายจากพี่นัทแล้ว นักสืบ(ที่เจ้าตัวตั้งตำแหน่งเอง) ก็หันไปบอกเพื่อนสาวที่นั่งฟังข้างๆว่า
แน่แล้วกานต์ ข่าวมีมูลพี่นัทก็ได้ข่าวว่าพี่หมิงติดหญิง
อืม คนอารมณ์ไหวรับคำด้วยท่าทีซึมลงไปกว่าเดิมจนเพื่อนรักอย่างหนูยีเริ่มรู้สึกกังวลแทนแต่ก็ปลอบเพื่อนอารมณ์ไหวไปอีกอย่างว่า
กานต์อย่าพึ่งคิดมากสิ อาจจะไม่จริงก็ได้ เดี๋ยวยีสืบให้ เอาให้ชัวร์ๆเลยนะ แป๊บนะเดี๋ยวยีโทรไปสืบให้
ว่าแล้วเจ้าตัวก็กดโทรศัพท์โทรไปหาแหล่งข้อมูลอีกแหล่งที่ต้องการทันที จนคนข้างๆห้ามไม่ทัน หรืออาจจะเป็นเพราะความอยากรู้ ทำให้เจ้าตัวเงียบและรอฟังข่าวจากการสืบของนักสืบสาวตรงหน้า
ฮาโหลพี่หมิง หนูยีมีเรื่องที่ต้องสืบค่ะพี่หมิงช่วยหนูยีหน่อย
หนูยีพูดทักทายตอบคนปลายสายทำให้รู้ว่าปลายสายรับโทรศัทพ์แล้ว แต่ชื่อที่หนูยีทักนี่สิทำให้คนอารมณ์ไหวตกใจ นี่โทรไปหาตัวต้นเรื่องตรงๆเลยหรอเนี้ย สงสายตาเป็นคำถามไปหานักสืบตรงหน้า แต่ได้คำตอบที่ทำท่าทำทางมาบอกให้เงียบๆไว้เดี๋ยวจัดการเอง คนอารมณ์ไหวจึงรอฟัง
นักสืบสาวจึงหันสมาธิกลับไปที่โทรศัทพ์อีกครั้ง
เดี๋ยวๆหนูยี มาถึงไม่ทักทายก็เข้าประเด็นเลยเรอะ
หนูยีทักฮาโหลแล้วไงพี่หมิง
อย่างนั้นเขาไม่เรียกทักทายนะหนูยี
งั้นสวัสดีค่ะพี่หมิง สบายดีนะคะ หนูยีสบายดี ตกลงพี่หมิงช่วยหนูยีสืบนะ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอเคช่วยก็ช่วย แล้วไปเล่นเป็นนักสืบสืบเรื่องอะไรอีกละคราวนี้
จากคุณ :
หนูยี
- [
22 ส.ค. 50 01:27:35
]