อัศวินียกชุดแสคลายดอกเล็ก ๆสีฟ้าสดใสทาบตัว พีระพรละสายตาจากรายการโทรทัศน์หันมาช่วยวิจารณ์
ชุดนี้น่าจะ O.K. นะมิ้ว น่ารักดีแล้วก็ดูสุภาพ ไม่หวือหวาเกินไปด้วยถ้าพี่เค้าจัดงานเล็กๆ ที่บ้าน เชิญแขกไม่กี่คนกินอาหารเย็น
O.K. ใช่ป๊ะ งั้นเดี๋ยวมิ้วไปอาบน้ำก่อนละกัน พี่รุ่งบอกว่าจะมารับราวๆ ๕ โมงเย็น
เย็นนี้เธอมีนัดทานข้าวที่บ้านร้อยเอกชเยศซึ่งเป็นบ้านพักในกองพันอยู่ห่างจากโรงพยาบาลเกือบ ๒๐ กม. ด้วยรุ่งลาวัลย์โทรมาชวนกึ่งบังคับ
วันเกิดพี่เองจ๊ะมิ้ว ทุกปีก็ไม่เคยจัดหรอกนะนอกจากไปทำบุญที่วัดแต่ปีนี้คุณสามีเค้าเกิดใจดีอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ อยากจัดงานวันเกิดให้เรา พี่เห็นว่าช่วงนี้พี่โป้งเค้าก็ดูเครียด ๆ กับงานด้วยก็เลยคิดว่า ดีเหมือนกัน ชวนครอบครัวเพื่อนๆ พี่เค้าที่สนิทกัน ๒-๓ ครอบครัวมากินข้าวด้วยกัน ถือเป็นการพักผ่อนพบปะสังสรรค์กันไปด้วย
ตอนแรกอัศวินีก็ลำบากใจเพราะเป็นงานตอนเย็น พี่ๆ ที่โรงพยาบาลก็เตือนตั้งแต่มาทำงานใหม่ๆถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากให้ออกไปข้างนอกตอนเย็นเพราะอันตราย อีกทั้งเธอก็ไม่ค่อยสะดวกเพราะไม่มีรถ แต่ด้วยความเกรงใจอีกฝ่ายจึงรับคำ อีกทั้งรุ่งลาวัลย์บอกว่า
เรื่องเดินทางไม่ต้องห่วงนะจ๊ะเดี๋ยวพี่ไปซื้อของมาทำอาหารแล้วพี่จะแวะไปรับมิ้วที่โรงพยาบาลด้วย ส่วนขากลับก็ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพวกพี่มาส่งหรือไม่ก็นอนบ้านพี่ก็ได้ จะได้คุยกันให้ฉ่ำปอดเลย ปกติกับแฟนเพื่อนพี่โป้งพวกพี่ถ้ามีโอกาสก็นัดเจอกันประจำ
ดูท่าทางพวกพี่สนิทกันดีนะคะ
จ๊ะ ก็รู้จักกันมาตั้งแต่พี่ๆ เค้ายังเรียนโรงเรียนเหล่าทั้งนั้น คนที่สนิทก็สนิทกันแต่บางคนที่เค้าหัวสูงหรือคุยกันคนละภาษาก็ไม่สนิทหรอก เจอกันก็ทักตามมารยาท
มิ้วเกรงใจที่โป้งกับพี่รุ้งสิคะต้องมารับมาส่ง หญิงสาวเอ่ย
ไฮ้...จะมาเกรงจงเกรงใจอะไรกัน น้องสาวพี่เบียร์มาทั้งทีพวกพี่ไม่ดูแลก็หรือใช่ที่ เมื่อก่อนไปเที่ยวแถวลพบุรีหรือสระบุรีก็พี่ชายน้องมิ้วแหล่ะดูแลเลี้ยงดูปูเสื่ออิ่มหนำสำราญเพราะฉะนั้นอย่าพูดคำว่าเกรงใจอีกเป็นอันขาด ไม่งั้นพี่โกรธจริงๆ ด้วย
รุ่งลาวัลย์ขับรถญี่ปุ่นคันเล็กๆ มารับ ระหว่างนั่งรถมาด้วยกันรุ่งลาวัลย์คุยโน่นคุยนี่ให้ฟังไม่ได้ขาดปาก อัศวินีก็คุยเก่งอยู่แล้วพอเจอกันก็มีเรื่องมาคุยกันมากมายตามประสาผู้หญิง ดังนั้นพอรถจอดหน้าบ้านพักโชเฟอร์ถึงกับบอกว่า
อ้าว...ถึงบ้านแล้ว เร็วจริง ก่อนออกตัว
แคบหน่อยนะจ๊ะ บ้านพักทหารก็แบบนี้แหล่ะ แถมข้างในก็สุดแสนจะรกเพราะน้องการ์ตูนเค้ารื้อของเล่นออกมาเล่นสร้างบ้านมั่งหม้อข้าวหม้อแกงมั่งกับเพื่อนๆ เค้า เมื่อตอนพี่เข้าซื้อของในเมืองก็เลยวานพี่เป้ช่วยรับกลับมาจากโรงเรียน เดี๋ยวเย็นนี้มิ้วจะได้เจอ ลูกสาวเค้าก็ตัวเท่า ๆ กับน้องการ์ตูนชื่อหนูน้ำ
สองสาวช่วยกันขนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาหารจากท้ายรถเข้าไปครัว
สักครู่แขกสตรีก็ถือหม้อข้าวบ้างหรืออาหารบ้างมาสมทบ ทั้งหมด ๓ คน เห็นบอกว่าสามีจะตามมาทีหลัง เจอหน้ากันก็ส่งเสียงทักทายสนุกสนานเหมือนที่รุ่งลาวัลย์เคยเล่าจริงๆ พอรุ่งลาวัลย์แนะนำให้รู้จักกันแม้จะพึ่งเคยเจอกันก็เถอะแต่ทุกคนก็ช่างเป็นมิตรนัก พูดคุยสนุกสนานราวกับรู้จักกันมานานปีพลอยให้อัศวินีผสมโรงได้อย่างไม่ขัดเขิน
สบายเลยนะน้อง ไม่ใช่บ้านพี่หรอกแต่พี่ก็เดินเข้าเดินออกจนเหมือนบ้านตัวเองแหล่ะ
นี่ ๆ วันนี้ฉันซื้อหัวปลีมาด้วยนะแก วันก่อนได้ยินนิด้าบ่นอยากกินยำหัวปลี
รุ่งลาวัลย์รื้อของออกมาวุ่นวาย คนที่ถูกเชิญมาเป็นแขกก็สำรวจดูข้าวของก่อนช่วยกันประกอบอาหารเย็น
ทำตัวตามสบายเลยนะมิ้ว พวกพี่ก็แบบนี้แหล่ะ เฮฮาปาร์ตี้ไปตามเรื่องเครียดนักไม่ดีแก่เร็วเดี๋ยวสามีไปมีเมียน้อย
เฮ้ย...แล้วเค้กแกอยู่ไหนวะ
แช่น้ำขวดไว้ยัง
อย่าลืมแช่เบียร์ด้วยนะยะ น้ำไม่มีดีกรีสามีชั้นไม่กินนะแก กลัวผิดสำแดง
วุ่นวายอะไรกันสาวๆ
อัศวินีได้ยินเพียงเสียงห้าวทุ้มเพราะหันหลังให้ประตูครัว สาละวนอยู่กับการล้างผักในอ่าง
อ้าว...พี่อาร์ม มาเร็วจังเลยค่ะ
เจ้าของบ้านฝ่ายหญิงเอ่ยทักพอดีกับที่อัศวินียกผักขึ้นใส่ถาด เช็ดมือเรียบร้อยหันกลับมาตั้งใจจะไหว้ตามมารยาทก็พอดีที่รุ่งลาวัลย์แนะนำ
พี่อาร์มรู้จักน้องมิ้วหน่อยสิคะ น้องสาวพี่เบียร์ไงคะ
อัศวินียกมือไหว้พอเงยหน้าขึ้นก็ถึงกับอึ้งไปชั่วครู่เมื่อสบตากับบุรุษร่างสูงใหญ่หน้าตาดุดันที่วันนี้เดาะสวมเสื้อโปโลสีสันแสบตาลวดลายน่าเวียนหัวกับกางเกงยีนส์สีมอๆ เข่าขาด แบบที่วัยรุ่นหลายคนต้องอาย
อ๊ายหยา...เมื่อกลางวันก็ทีหนึ่งแล้ว ทำไมนะ...ทำไมโลกถึงได้กลมอะไรเช่นนี้ พวงแก้วเนียนใสซับด้วยเลือดฝาดคล้ายสีของกลีบกุหลาบยามสบตากับดวงตาคมคู่นั้น ดวงตาที่เหมือนกับจะยิ้มได้อยู่ตลอดเวลา
เจอกันอีกแล้วนะครับ
อุ๊ยตาย...! เห็นน้องเค้าหน้าตาดีหน่อยไม่ได้นะคะ งูบนหัวโผล่เชียว
ปูเป้-เปรมิกา ค้อนขวับ
แหม...งูเงออะไรกัน ไม่มี๊...เราออกจะเรียบร้อย เคยเจอน้องเค้าแล้วที่สนามบินหาดใหญ่ ไม่เชื่อก็ถามน้องเค้าดูสิ
จริงหรอค่ะน้องมิ้ว
ค่ะพี่ เคยเดินชนกันที่สนามบินหาดใหญ่เมื่อตอนที่มิ้วพึ่งมาจากกรุงเทพฯ
เห็นไหม๊...แล้วก็มาว่าเรา คนตัวโตที่ดูหน้าดุดันแต่ยามนี้ทั้งปากและตาดูเหมือนจะยิ้มได้เอ่ยด้วยความสนิทสนม
บรรดาแม่บ้านยังมิวายค่อนขอด
น่ากลัวเห็นคนหน้าตาดีแล้วงูบ่นหัวส่ายหนักก็เลยจงใจเดินชนน้องเค้า
แน่ะ...ว่าไปนั่น อ้อ...แล้วไม่ใช่แค่ที่สนามบินนะ ที่โรงพยาบาลก็เจอไปทีแล้ว แล้วเมื่อกลางวันก็ยังเจอน้องเค้าที่หมู่บ้านเพราะน้องเค้าไปออกหน่วย แน่ะ...เห็นไหม๊ว่าเราเจอกันบ่อยแล้วเพียงแต่ยังไม่รู้จักกันเป็นทางการเท่านั้นเอง
ถ้างั้นรุ่งว่านิมนต์ไปหน้าบ้านพูดคุยทำความรู้จักกันกับน้องเค้าดีกว่าค่ะพี่อาร์ม ในนี้คับแคบ พี่อาร์มอยู่คนเดียวก็แทบจะเต็มครัวแล้ว แหม..อย่าให้ได้เป็นนายกสมาคมแม่บ้านทหารบกนะ จะเซ็นอนุมัติให้สร้างบ้านพักทุกหลังเท่าบ้านพักนายพลเลย
โอ๊ย...สาธุ...สาธุ
เดี๋ยวเหาก็กินหัวหรอกแก
ดูทีวีรอก็ได้ค่ะ เดี๋ยวซักพักพี่โป้งคงกลับมา
เอ๊ะ...แล้วนี่พ่อบ้านบ้านอื่นไปไหนกันหมด ทำไมกล้า
ทิ้งให้พวกผู้หญิงจับกลุ่มกันเดี๋ยวก็ได้วางแผนทำมิดีมิร้ายสามีพอดี
ฆ่าให้ตายเลย เราได้จะเงินประกัน เมื่อคืนใครใช้ให้พาเพื่อนมากินเหล้าที่บ้าน พอเหล้าหมดเพื่อนตัวดีก็คลานกลับบ้านใครบ้านเรา ส่วนคุณสามีสุดที่รักนะคะเมื่อเช้าก็รีบอาบน้ำตาลีตาลานไปทำงาน เป้ก็ทิ้งไว้รก ๆ แบบนั้นแหล่ะ ไม่เก็บหรอก เก็บแล้วเคยตัว อยากกินก็กินไปแต่กินแล้วต้องเก็บเอง
ส่วนสามีดิชั้นนะคะ ป่านนี้ไม่รู้ปลุกปล้ำลูกลิงน้อยอาบน้ำเสร็จหรือยัง เมื่อตอนออกมาเจ้าลูกชายชวนพ่อเล่นสเก๊ตฟองสบู่ในห้องน้ำ
ทำไมบ้านแกเล่นพิเรนทร์จริง เกิดหัวร้างข้างแตกมันสมองไหลจะทำยังไง คนพูดบรรยายซะน่ากลัวหากอีกฝ่ายกลับยักไหล่
ก็ไม่ทำยังไง มีสามีใหม่ซะก็สิ้นเรื่อง
ชายหนุ่มคนเดียวในห้องนั้นเกาหัวแกร๊ก
ดูความคิดแต่ละคนซิ แล้วมันน่าให้เรามีเมียไหม๊เนี่ย
โอ๊ย...! อย่ามาพูดเลย อย่างพี่อาร์มยกสินสอดมาเป็นล้านแถมข้าวสารให้ทุกเดือนยังไม่รู้จะมีใครเอาหรือเปล่า
เวรกรรม พูดซะพี่เสียหายหมดเลย
เชิญหน้าบ้านดีกว่าค่ะพี่อาร์มรุ่งลาวัลย์ไล่อีกทีเพราะถ้าขืนกองทัพยังอยู่ เหล่าแม่บ้านไม่เป็นอันได้ทำอาหาร ก็คณะนี้เค้าคุยกันไปขัดคอกันไปได้ตลอดเวลานี่นา
น้องมิ้วแน่ะ ออกไปนั่งคุยเป็นเพื่อนพี่อาร์มเค้าหน่อย ทางนี้เดี๋ยวพวกพี่จัดการแป๊บเดียวเสร็จ
แม่บ้าน ๓ สาวที่พึ่งมาสมทบแม้จะไม่เคยล่วงรู้ใน แผน มาก่อน แต่พอสบตากันก็เป็นอันรู้ความหมาย เบือนหน้าไปแอบยิ้มกันคนละทาง
อัศวินีมีท่าทางอึกอักเล็กน้อย ให้เธอออกไปนั่งคุยเป็นเพื่อนผู้ชายที่ตัวเองแอบปิ๊งอยู่นี่นะ...อายชะมัด...แล้วอีกอย่าง...เกรงจะไม่งามสิคะ ก็ดิชั้นเป็นกุลสตรีศรีสยามนี่นา แต่หล่อนก็ไม่ต้องลำบากใจมากนักเมื่อเด็กๆ วิ่งเข้ามาหาบรรดาคุณแม่ในครัวพลางร้องหิวข้าว...หิวข้าว...รุ่งลาวัลย์จึงได้ทียัดเยียดชามข้าวใส่มือให้ทั้งอัศวินีและกองทัพ บอกหน้าตาเฉยว่า
วานป้อนข้าวลิงน้อยพวกนี้ด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ใช่ๆ ช่วยกันซ้อมไว้ จะได้ชินพอมีของตัวเองจะได้คล่อง
เปรมิกาหันมาสนับสนุนครั้นแล้วก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมสบตาเอาซะดื้อ ๆ เมื่อชายหนุ่มหรี่ตามองด้วยความรู้เท่าทัน
จากคุณ :
เรือไฟ
- [
28 เม.ย. 51 11:08:09
]