Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    >>>>>>>……..จอมใจนักรบ ตอนที่ ๙........<<<<<<<

    อัศวินียกชุดแสคลายดอกเล็ก ๆสีฟ้าสดใสทาบตัว   พีระพรละสายตาจากรายการโทรทัศน์หันมาช่วยวิจารณ์

    “ชุดนี้น่าจะ  O.K. นะมิ้ว   น่ารักดีแล้วก็ดูสุภาพ  ไม่หวือหวาเกินไปด้วยถ้าพี่เค้าจัดงานเล็กๆ  ที่บ้าน   เชิญแขกไม่กี่คนกินอาหารเย็น”

    “O.K. ใช่ป๊ะ    งั้นเดี๋ยวมิ้วไปอาบน้ำก่อนละกัน  พี่รุ่งบอกว่าจะมารับราวๆ  ๕ โมงเย็น”

    เย็นนี้เธอมีนัดทานข้าวที่บ้านร้อยเอกชเยศซึ่งเป็นบ้านพักในกองพันอยู่ห่างจากโรงพยาบาลเกือบ ๒๐  กม.    ด้วยรุ่งลาวัลย์โทรมาชวนกึ่งบังคับ

    “วันเกิดพี่เองจ๊ะมิ้ว   ทุกปีก็ไม่เคยจัดหรอกนะนอกจากไปทำบุญที่วัดแต่ปีนี้คุณสามีเค้าเกิดใจดีอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้   อยากจัดงานวันเกิดให้เรา   พี่เห็นว่าช่วงนี้พี่โป้งเค้าก็ดูเครียด  ๆ กับงานด้วยก็เลยคิดว่า   ดีเหมือนกัน   ชวนครอบครัวเพื่อนๆ พี่เค้าที่สนิทกัน  ๒-๓  ครอบครัวมากินข้าวด้วยกัน  ถือเป็นการพักผ่อนพบปะสังสรรค์กันไปด้วย”

    ตอนแรกอัศวินีก็ลำบากใจเพราะเป็นงานตอนเย็น   พี่ๆ ที่โรงพยาบาลก็เตือนตั้งแต่มาทำงานใหม่ๆถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากให้ออกไปข้างนอกตอนเย็นเพราะอันตราย   อีกทั้งเธอก็ไม่ค่อยสะดวกเพราะไม่มีรถ   แต่ด้วยความเกรงใจอีกฝ่ายจึงรับคำ   อีกทั้งรุ่งลาวัลย์บอกว่า

    “เรื่องเดินทางไม่ต้องห่วงนะจ๊ะเดี๋ยวพี่ไปซื้อของมาทำอาหารแล้วพี่จะแวะไปรับมิ้วที่โรงพยาบาลด้วย   ส่วนขากลับก็ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพวกพี่มาส่งหรือไม่ก็นอนบ้านพี่ก็ได้   จะได้คุยกันให้ฉ่ำปอดเลย   ปกติกับแฟนเพื่อนพี่โป้งพวกพี่ถ้ามีโอกาสก็นัดเจอกันประจำ”

    “ดูท่าทางพวกพี่สนิทกันดีนะคะ”

    “จ๊ะ   ก็รู้จักกันมาตั้งแต่พี่ๆ เค้ายังเรียนโรงเรียนเหล่าทั้งนั้น    คนที่สนิทก็สนิทกันแต่บางคนที่เค้าหัวสูงหรือคุยกันคนละภาษาก็ไม่สนิทหรอก   เจอกันก็ทักตามมารยาท”
    “มิ้วเกรงใจที่โป้งกับพี่รุ้งสิคะต้องมารับมาส่ง”  หญิงสาวเอ่ย

    “ไฮ้...จะมาเกรงจงเกรงใจอะไรกัน   น้องสาวพี่เบียร์มาทั้งทีพวกพี่ไม่ดูแลก็หรือใช่ที่   เมื่อก่อนไปเที่ยวแถวลพบุรีหรือสระบุรีก็พี่ชายน้องมิ้วแหล่ะดูแลเลี้ยงดูปูเสื่ออิ่มหนำสำราญเพราะฉะนั้นอย่าพูดคำว่าเกรงใจอีกเป็นอันขาด  ไม่งั้นพี่โกรธจริงๆ  ด้วย”

    รุ่งลาวัลย์ขับรถญี่ปุ่นคันเล็กๆ  มารับ  ระหว่างนั่งรถมาด้วยกันรุ่งลาวัลย์คุยโน่นคุยนี่ให้ฟังไม่ได้ขาดปาก   อัศวินีก็คุยเก่งอยู่แล้วพอเจอกันก็มีเรื่องมาคุยกันมากมายตามประสาผู้หญิง    ดังนั้นพอรถจอดหน้าบ้านพักโชเฟอร์ถึงกับบอกว่า

    “อ้าว...ถึงบ้านแล้ว   เร็วจริง” ก่อนออกตัว

    “แคบหน่อยนะจ๊ะ   บ้านพักทหารก็แบบนี้แหล่ะ   แถมข้างในก็สุดแสนจะรกเพราะน้องการ์ตูนเค้ารื้อของเล่นออกมาเล่นสร้างบ้านมั่งหม้อข้าวหม้อแกงมั่งกับเพื่อนๆ เค้า   เมื่อตอนพี่เข้าซื้อของในเมืองก็เลยวานพี่เป้ช่วยรับกลับมาจากโรงเรียน    เดี๋ยวเย็นนี้มิ้วจะได้เจอ   ลูกสาวเค้าก็ตัวเท่า ๆ กับน้องการ์ตูนชื่อหนูน้ำ”

    สองสาวช่วยกันขนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาหารจากท้ายรถเข้าไปครัว

    สักครู่แขกสตรีก็ถือหม้อข้าวบ้างหรืออาหารบ้างมาสมทบ  ทั้งหมด  ๓ คน  เห็นบอกว่าสามีจะตามมาทีหลัง   เจอหน้ากันก็ส่งเสียงทักทายสนุกสนานเหมือนที่รุ่งลาวัลย์เคยเล่าจริงๆ   พอรุ่งลาวัลย์แนะนำให้รู้จักกันแม้จะพึ่งเคยเจอกันก็เถอะแต่ทุกคนก็ช่างเป็นมิตรนัก   พูดคุยสนุกสนานราวกับรู้จักกันมานานปีพลอยให้อัศวินีผสมโรงได้อย่างไม่ขัดเขิน

    “สบายเลยนะน้อง  ไม่ใช่บ้านพี่หรอกแต่พี่ก็เดินเข้าเดินออกจนเหมือนบ้านตัวเองแหล่ะ”

    “นี่ ๆ วันนี้ฉันซื้อหัวปลีมาด้วยนะแก   วันก่อนได้ยินนิด้าบ่นอยากกินยำหัวปลี”

    รุ่งลาวัลย์รื้อของออกมาวุ่นวาย   คนที่ถูกเชิญมาเป็นแขกก็สำรวจดูข้าวของก่อนช่วยกันประกอบอาหารเย็น

    “ทำตัวตามสบายเลยนะมิ้ว   พวกพี่ก็แบบนี้แหล่ะ   เฮฮาปาร์ตี้ไปตามเรื่องเครียดนักไม่ดีแก่เร็วเดี๋ยวสามีไปมีเมียน้อย”

    “เฮ้ย...แล้วเค้กแกอยู่ไหนวะ”

    “แช่น้ำขวดไว้ยัง”

    “อย่าลืมแช่เบียร์ด้วยนะยะ  น้ำไม่มีดีกรีสามีชั้นไม่กินนะแก   กลัวผิดสำแดง”

    “วุ่นวายอะไรกันสาวๆ”

    อัศวินีได้ยินเพียงเสียงห้าวทุ้มเพราะหันหลังให้ประตูครัว    สาละวนอยู่กับการล้างผักในอ่าง

    “อ้าว...พี่อาร์ม   มาเร็วจังเลยค่ะ”

    เจ้าของบ้านฝ่ายหญิงเอ่ยทักพอดีกับที่อัศวินียกผักขึ้นใส่ถาด   เช็ดมือเรียบร้อยหันกลับมาตั้งใจจะไหว้ตามมารยาทก็พอดีที่รุ่งลาวัลย์แนะนำ

    “พี่อาร์มรู้จักน้องมิ้วหน่อยสิคะ   น้องสาวพี่เบียร์ไงคะ”

    อัศวินียกมือไหว้พอเงยหน้าขึ้นก็ถึงกับอึ้งไปชั่วครู่เมื่อสบตากับบุรุษร่างสูงใหญ่หน้าตาดุดันที่วันนี้เดาะสวมเสื้อโปโลสีสันแสบตาลวดลายน่าเวียนหัวกับกางเกงยีนส์สีมอๆ เข่าขาด   แบบที่วัยรุ่นหลายคนต้องอาย

    อ๊ายหยา...เมื่อกลางวันก็ทีหนึ่งแล้ว    ทำไมนะ...ทำไมโลกถึงได้กลมอะไรเช่นนี้   พวงแก้วเนียนใสซับด้วยเลือดฝาดคล้ายสีของกลีบกุหลาบยามสบตากับดวงตาคมคู่นั้น   ดวงตาที่เหมือนกับจะยิ้มได้อยู่ตลอดเวลา  

    “เจอกันอีกแล้วนะครับ”

    “อุ๊ยตาย...!  เห็นน้องเค้าหน้าตาดีหน่อยไม่ได้นะคะ   งูบนหัวโผล่เชียว”

    ปูเป้-เปรมิกา   ค้อนขวับ  

    “แหม...งูเงออะไรกัน   ไม่มี๊...เราออกจะเรียบร้อย    เคยเจอน้องเค้าแล้วที่สนามบินหาดใหญ่   ไม่เชื่อก็ถามน้องเค้าดูสิ”

    “จริงหรอค่ะน้องมิ้ว”

    “ค่ะพี่   เคยเดินชนกันที่สนามบินหาดใหญ่เมื่อตอนที่มิ้วพึ่งมาจากกรุงเทพฯ”

    “เห็นไหม๊...แล้วก็มาว่าเรา” คนตัวโตที่ดูหน้าดุดันแต่ยามนี้ทั้งปากและตาดูเหมือนจะยิ้มได้เอ่ยด้วยความสนิทสนม
    บรรดาแม่บ้านยังมิวายค่อนขอด

    “น่ากลัวเห็นคนหน้าตาดีแล้วงูบ่นหัวส่ายหนักก็เลยจงใจเดินชนน้องเค้า”

    “แน่ะ...ว่าไปนั่น  อ้อ...แล้วไม่ใช่แค่ที่สนามบินนะ   ที่โรงพยาบาลก็เจอไปทีแล้ว    แล้วเมื่อกลางวันก็ยังเจอน้องเค้าที่หมู่บ้านเพราะน้องเค้าไปออกหน่วย   แน่ะ...เห็นไหม๊ว่าเราเจอกันบ่อยแล้วเพียงแต่ยังไม่รู้จักกันเป็นทางการเท่านั้นเอง”

    “ถ้างั้นรุ่งว่านิมนต์ไปหน้าบ้านพูดคุยทำความรู้จักกันกับน้องเค้าดีกว่าค่ะพี่อาร์ม   ในนี้คับแคบ  พี่อาร์มอยู่คนเดียวก็แทบจะเต็มครัวแล้ว   แหม..อย่าให้ได้เป็นนายกสมาคมแม่บ้านทหารบกนะ   จะเซ็นอนุมัติให้สร้างบ้านพักทุกหลังเท่าบ้านพักนายพลเลย”

    “โอ๊ย...สาธุ...สาธุ”

    “เดี๋ยวเหาก็กินหัวหรอกแก”

    “ดูทีวีรอก็ได้ค่ะ  เดี๋ยวซักพักพี่โป้งคงกลับมา”

    “เอ๊ะ...แล้วนี่พ่อบ้านบ้านอื่นไปไหนกันหมด   ทำไมกล้า
    ทิ้งให้พวกผู้หญิงจับกลุ่มกันเดี๋ยวก็ได้วางแผนทำมิดีมิร้ายสามีพอดี”

    “ฆ่าให้ตายเลย   เราได้จะเงินประกัน   เมื่อคืนใครใช้ให้พาเพื่อนมากินเหล้าที่บ้าน   พอเหล้าหมดเพื่อนตัวดีก็คลานกลับบ้านใครบ้านเรา    ส่วนคุณสามีสุดที่รักนะคะเมื่อเช้าก็รีบอาบน้ำตาลีตาลานไปทำงาน    เป้ก็ทิ้งไว้รก ๆ แบบนั้นแหล่ะ   ไม่เก็บหรอก   เก็บแล้วเคยตัว   อยากกินก็กินไปแต่กินแล้วต้องเก็บเอง”

    “ส่วนสามีดิชั้นนะคะ   ป่านนี้ไม่รู้ปลุกปล้ำลูกลิงน้อยอาบน้ำเสร็จหรือยัง  เมื่อตอนออกมาเจ้าลูกชายชวนพ่อเล่นสเก๊ตฟองสบู่ในห้องน้ำ”

    “ทำไมบ้านแกเล่นพิเรนทร์จริง    เกิดหัวร้างข้างแตกมันสมองไหลจะทำยังไง” คนพูดบรรยายซะน่ากลัวหากอีกฝ่ายกลับยักไหล่

    “ก็ไม่ทำยังไง   มีสามีใหม่ซะก็สิ้นเรื่อง”  

    ชายหนุ่มคนเดียวในห้องนั้นเกาหัวแกร๊ก

    “ดูความคิดแต่ละคนซิ   แล้วมันน่าให้เรามีเมียไหม๊เนี่ย”

    “โอ๊ย...!  อย่ามาพูดเลย   อย่างพี่อาร์มยกสินสอดมาเป็นล้านแถมข้าวสารให้ทุกเดือนยังไม่รู้จะมีใครเอาหรือเปล่า”

    “เวรกรรม  พูดซะพี่เสียหายหมดเลย”  

    “เชิญหน้าบ้านดีกว่าค่ะพี่อาร์ม”รุ่งลาวัลย์ไล่อีกทีเพราะถ้าขืนกองทัพยังอยู่    เหล่าแม่บ้านไม่เป็นอันได้ทำอาหาร   ก็คณะนี้เค้าคุยกันไปขัดคอกันไปได้ตลอดเวลานี่นา

    “น้องมิ้วแน่ะ   ออกไปนั่งคุยเป็นเพื่อนพี่อาร์มเค้าหน่อย    ทางนี้เดี๋ยวพวกพี่จัดการแป๊บเดียวเสร็จ”

    แม่บ้าน ๓ สาวที่พึ่งมาสมทบแม้จะไม่เคยล่วงรู้ใน  “แผน”  มาก่อน   แต่พอสบตากันก็เป็นอันรู้ความหมาย    เบือนหน้าไปแอบยิ้มกันคนละทาง

    อัศวินีมีท่าทางอึกอักเล็กน้อย   ให้เธอออกไปนั่งคุยเป็นเพื่อนผู้ชายที่ตัวเองแอบปิ๊งอยู่นี่นะ...อายชะมัด...แล้วอีกอย่าง...เกรงจะไม่งามสิคะ  ก็ดิชั้นเป็นกุลสตรีศรีสยามนี่นา   แต่หล่อนก็ไม่ต้องลำบากใจมากนักเมื่อเด็กๆ วิ่งเข้ามาหาบรรดาคุณแม่ในครัวพลางร้องหิวข้าว...หิวข้าว...รุ่งลาวัลย์จึงได้ทียัดเยียดชามข้าวใส่มือให้ทั้งอัศวินีและกองทัพ   บอกหน้าตาเฉยว่า

    “วานป้อนข้าวลิงน้อยพวกนี้ด้วยนะคะ     จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง”

    “ใช่ๆ  ช่วยกันซ้อมไว้   จะได้ชินพอมีของตัวเองจะได้คล่อง”

    เปรมิกาหันมาสนับสนุนครั้นแล้วก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้    ไม่ยอมสบตาเอาซะดื้อ ๆ เมื่อชายหนุ่มหรี่ตามองด้วยความรู้เท่าทัน

    จากคุณ : เรือไฟ - [ 28 เม.ย. 51 11:08:09 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom