แม่ ย่า
ดาเรน
ยายแก่คนหนึ่งนั่งชันเข่าพิงรั้วอยู่ที่ประตูบ้าน แกแต่งตัวแปลกๆ อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมมารู้ทีหลังว่าแกนุ่งโจงกระเบน ข้างตัวแกมีชะลอมสานด้วยไม้ไผ่สองใบวางอยู่ แกมองผมยิ้มๆ และบอกว่าจะมาหาแม่ผม ผมจึงพาแกเข้าไปนั่งคอยที่ชานเรือนและหาน้ำให้กิน
เมื่อแม่กลับมาจากขายของผมจึงรู้ว่ายายคนนั้นคือย่าของผมเอง ย่ามาจากบ้านนอกเพื่อจะมาหาพ่อซึ่งไม่ได้กลับไปบ้านเกิดหลายปีแล้ว ย่าตามไปที่บ้านเก่าที่พวกเราย้ายมา คนแถวนั้นบอกหนทางที่อยู่ใหม่ของเราให้ย่ารู้ ย่าจึงตามมาถูก
ย่าแปลกใจและดูเป็นกังวลเมื่อรู้ว่าพ่อไม่ได้อยู่กับเราหลายปีแล้ว และไม่มีใครรู้ว่าพ่อไปอยู่ที่ไหนหรือยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ย่าขอพักอยู่กับเราสองสามวันพอหายเหนื่อยก็จะกลับบ้านนอก...แต่อีกสองสามวันต่อมาย่าก็ยังอยู่ และอยู่กับเราเรื่อยมา...
ย่าทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ย่าจะแก่มากแล้วแต่ย่าก็ยังแข็งแรงช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ตั้งเยอะซ้ำบางทีก็คุยอะไรๆให้ผมได้รู้เรื่องสมัยเก่าๆ
ย่าเป็นหลานจีนมาจากผืนแผ่นดินใหญ่ ย่ามีเตี่ย มีก๋ง และประเพณีจีนแปลกๆ มาให้ผมเห็นอยู่เนืองๆ ย่าไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษตามวาระต่างๆ ที่ผมไม่รู้จัก แต่ย่ากินหมากนุ่งโจงกระเบนตัดผมทรงดอกกระทุ่มอย่างโบราณ เพราะเตี่ยของย่ามีเมียเป็นคนไทยและก๋งก็มีเมียคนไทยเช่นเดียวกัน
ย่าคงเคยเป็นคนสวยคนหนึ่ง ย่ามีผมดกสีดอกเลาและคิ้วหนา จมูกโด่งแม้ปลายจะยุบลงบ้าง ลักยิ้มแก้มบุ๋ม ผิวตรงโหนกแก้มยังตึงใสเป็นสีชมพู...เพราะ...เพราะย่าชอบกินเหล้าจีนชื่อเซี่ยงชุนเป็นประจำ ซึ่งเป็นข้อเสียข้อหนึ่งของย่า
มีข้อหนึ่งก็ต้องมีข้อสอง ย่ากินหมาก และถึงแม้ย่าจะมีกระป๋องใส่น้ำหมากแล้วก็ตามแต่ย่ามักจะปรี๊ดๆ ตามท่อน้ำหลังบ้านหรือข้างรั้วบ้านซึ่งก็แทบจะอยู่ติดกับตัวบ้านนั่นเอง...กลิ่นเหม็นจึงตามมา
ข้อสามอันเนื่องมาจากข้อหนึ่ง ตอนเย็นๆ ย่าจะเดินไปเดินมาระหว่างร้านของชำเล็กๆ ปากซอยกับบ้านเพื่อกินเหล้า ย่ากินเหล้าทีละก้งแล้วกลับบ้าน พอกลับถึงบ้านก็เดินออกไปกินอีกก้ง จนเดินไม่ไหวย่าจึงหยุดและเข้านอน...ที่สำคัญคือไม่อาบน้ำ!...และผมนอนข้างๆ ย่าในมุ้งเดียวกัน
ข้อดีของย่าก็มี ย่าขยันทำงาน แม้มือจะสั่นเพราะอยากกินเหล้าย่าก็ไม่หยุดทำงาน ย่าทำกับข้าวอร่อย...ตั้งแต่ย่ามาอยู่ด้วยผมได้กินกับข้าวแปลกๆ แม้ว่าบางทีย่าจะควานมือลงไปในหม้อแกงต้มผักกาดดองเพื่อหยิบชิ้นหมูขึ้นมากินแกล้มเหล้าเซี่ยงชุนแล้วเช็ดมือกับโจงกระเบนของแก...ผมแอบเห็น
ย่ารู้ตัวดีว่าชอบทำกับข้าวและกินข้าวจุย่าจึงหาเงินใช้เองด้วยการรับจ้างปอกมะขามป้อม..ลึกเข้าไปในซอยชุมชนที่ผมอยู่มีโรงงานเล็กๆ ที่ทำผลไม้ดอง ย่าจะคอยสังเกตรถขนผลไม้ของโรงงานที่ขับผ่านหน้าบ้าน ถ้าขับผ่านเข้าไปพร้อมมีผลไม้บรรทุกอยู่ย่าจะรีบฉวยกระป๋องเดินไปที่โรงงาน ต้องรีบเข้าไปแย่งกันรับมะขามป้อมมาปอก ย่าหิ้วมะขามป้อมมาหนึ่งกระป๋องและหิ้วน้ำสำหรับดองมาอีกหนึ่งกระป๋องดูทุลักทุเล บางวันถ้าผมอยู่พอดีผมจะไปช่วยย่าหิ้ว
ย่าใช้มีดเล็กค่อยปอกวนไปรอบๆ จนไม่มีเปลือกเหลืออยู่แล้วจึงควั่นถี่ๆ รอบลูกมะขามป้อมนั้น แล้วจึงโยนใส่ไปในน้ำสำหรับดอง ย่านั่งชันเข่าปอกมะขามป้อมง่วน ตาจ้องที่เม็ดมะขามหน้าสั่นไปมา หูฟังนิยายหรือพระเล่านิทานจากวิทยุเครื่องเก่าของเรา...นานวันเข้าผมก็ปอกมะขามป้อมเป็น แม่ก็ปอกเป็น และกลายเป็นอาชีพเสริมใหม่ของเราทั้งสาม คราวนี้ไม่เพียงย่า แต่คือทั้งผมและแม่ที่วิ่งตามรถขนผลไม้ไปที่โรงงาน...
ผมเริ่มสนิทกับย่ามากขึ้น ย่าบอกว่าผมหน้าเหมือนพ่อมากย่าจึงชอบแอบมองผมบ่อยๆ ย่าคงคิดถึงพ่อเพราะพ่อเป็นลูกคนเดียวของย่า ใหม่ๆ ผมรู้สึกเฉยๆ แต่หันไปมองทีไรก็เห็นย่ามองเหม่อมาทางผมทุกที ผมรู้สึกแปลกๆ
วันหนึ่งต้นเดือนสิงหาคม...ย่าหิ้วตะกร้าไปซื้อกับข้าวที่ร้านชำเจ้าประจำ แม่ออกไปขายขนมเช่นเคย ผมไม่ได้ไปโรงเรียนเพราะเป็นวันหยุด นั่งเล่นอยู่หน้าบ้านคอยสังเกตรถขนผลไม้ไปด้วย จนย่ากลับมาแล้วรถก็ไม่วิ่งผ่านมาสักที วันนี้คงไม่มีของ ผมจึงไปเล่นกับเพื่อนข้างบ้านที่หมาบ้านเขาออกลูกตัวเล็กน่ารักหลายตัว
ผมได้ลูกหมาอ้วนจ้ำม่ำกลับมาบ้านหนึ่งตัว ผมดีใจมากอุ้มไปอวดย่าซึ่งทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน ย่าทำหน้าเฉยๆ หันกลับไปทำกับข้าวต่อ ขนเจ้าอ้วนเป็นสีน้ำตาลเข้มปุกปุยแต่ตามตัวมีเห็บเต็มไปหมดผมจึงนั่งหาเห็บให้มัน หาเท่าไรก็ไม่หมดสักที มันร้องอิ๊ดๆ ไม่รู้เจ็บหรือคันจากการถูกเห็บกัด...ผมกำลังเมื่อยและเบื่อจากการก้มๆ เงยๆ หาเห็บ ย่าเดินมาจากหลังบ้านใช้ให้ไปซื้อน้ำปลาที่ร้านชำ ผมจึงวางเจ้าอ้วนไว้กับกองผ้าขี้ริ้ว ย่ารับปากจะช่วยผมหาเห็บเจ้าอ้วนให้
ผมกลับมา หิ้วขวดน้ำปลาผ่านกองผ้าขี้ริ้วโดยไม่ได้เฉลียวใจอะไร เจ้าอ้วนน้ำตาลนอนหลับอุตุ ย่าบอกว่าเห็บมันเยอะมากบางตัวกัดฝังเข้าไปในเนื้อดึงไม่ออกย่าจึงใช้ยาฉีดยุงพ่นลงไปมันจึงตายหลุดออกมา...ย่าผมก็เก่งเหมือนกัน
จนเย็นมากแม่กลับมาจากขายขนมแล้วเจ้าอ้วนก็ยังไม่ตื่น นอนนิ่งอยู่บนผ้าขี้ริ้ว ผมอยากเล่นกับมันจึงเขย่าตัวปลุก แต่เจ้าอ้วนตัวแข็งทื่อไม่กระดุกกระดิกเลย ผมตกใจ เสียใจ รีบเรียกแม่มาดู แม่บอกว่ามันทนพิษยาฆ่ายุงที่ย่าฉีดไปไม่ไหวจึงตายพร้อมกับเห็บที่ตัวมัน
ผมร้องไห้โหวิ่งไปต่อว่าย่าที่หลังบ้าน ย่านั่งหน้าสั่นไม่วิตกทุกข์ร้อนอะไร ผมกล่าวหาว่าย่าเป็นคนฆ่าเจ้าอ้วนเพราะย่าไม่ชอบมัน และเลยต่อว่าเรื่องย่ากินเหล้า ย่าไม่อาบน้ำและชอบจ้องมองผม...ย่านั่งเฉยไม่พูดอะไรสักคำปล่อยให้ผมว่าเอาๆ พอผมเงียบย่าก็เดินออกไปปากซอย ไปกินเซี่ยงชุน
ย่าไม่กลับมาอย่างเคย ผมเอะใจจะออกไปตามกลับบ้านพอดีเห็นย่าค่อยๆ เดินคลำรั้วบ้านข้างทางมา ผมรีบหลบเข้าบ้านทำไมรู้ไม่ชี้อยู่บนชานเรือน ย่าตัวเหม็นคลุ้งค่อยๆ เดินผ่านผมไป สักเดี๋ยวก็เดินกลับมาและลงจากเรือน
ย่าค่อยๆ กระดื๊บเท้าเข้าไปในรองเท้าแตะ กว่าจะใส่ได้ทั้งสองข้างย่ายืนโงนเงนอยู่นาน ในที่สุดย่าก็สะเงาะสะแงะออกจากรั้วบ้านไป สักครู่มีเสียงดังตุ้บและเพิงรั้วบ้านเอียงวูบ ผมรีบออกไปดู เห็นย่านอนคลุกฝุ่นอยู่ข้างรั้วผมตะโกนเรียกแม่ให้มาช่วยพาย่าเข้าบ้านแทนที่จะตรงเข้าไปช่วยทันที...ผมไม่กล้าโดนตัวย่า...
ผมนึกอายแก่ใจตนเองจริงๆ เพราะในคืนต่อมาขณะที่ผมนั่งตบยุงทำการบ้าน ย่ายกเตาเล็กๆ ที่มีกากมะพร้าวติดไฟสุมไล่ยุงมาวางใกล้ๆ แล้วแกก็นั่งชันเข่ามองผมทำการบ้านจนเสร็จ
วันหนึ่งคุณครูสอนให้เด็กนักเรียนทำดอกมะลิให้แม่ในวันแม่ คุณครูหัดให้ทำทั้งเด็กนักเรียนหญิงและชาย ผมทำอย่างเก้ๆ กังๆ จนหมดเวลาก็ไม่มีใครทำสำเร็จจึงต้องไปทำเป็นการบ้าน ซึ่งผมก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี ย่าเห็นผมนั่งปล้ำกับกระดาษย่นสีขาวชิ้นเล็กๆ ที่กลายเป็นสีขี้มือ ย่าจึงเข้ามาช่วยผมทำ และมันก็สำเร็จเป็นช่อถึงแม้จะไม่ค่อยสวยแต่ผมก็มีไปส่งคุณครู
แล้ววันแม่ก็มาถึง...เย็นนั้นผมรีบกลับจากโรงเรียนไม่เถลไถลเล่นกับเพื่อนอย่างเคย รีบอาบน้ำทำการบ้านและรอแม่กลับจากขายของ กว่าแม่จะกลับบ้านก็เกือบค่ำ ผมรอจนกินข้าวเรียบร้อยแล้วจึงหยิบดอกมะลิที่ผมทำออกมา...ผมกำลังจะกอดและหอมแก้มแม่อย่างที่ตั้งใจไว้แต่ย่านั่งหน้าสั่นมองอยู่ผมจึงลังเล...ย่านะย่า ผมนึกต่อว่าในใจ
ในที่สุดผมก็หักห้ามความอายวางดอกมะลิบนตักแม่และก้มลงกราบ ยืดตัวขึ้นกอดและจะหอมแก้มแม่ พลันสายตาผมเหลือบมองเห็นย่านั่งน้ำตาคลอมองผมอย่างเหม่อๆ ย่าหน้าสั่นมากขึ้นเพราะกลั้นน้ำตาและความในใจไว้อย่างที่ย่าชอบทำ...แต่แล้วย่าก็กลั้นไม่อยู่ น้ำตาไหลออกมา...
ผมคิดได้เดี๋ยวนั้นเองว่าย่าก็คือแม่คนหนึ่งเช่นกัน แม่ที่มีลูกชายคนเดียวเหมือนแม่ผม ลูกชายซึ่งหายไปอย่างไร้วี่แววเหลือแต่หลานชายซึ่งไม่ค่อยได้รักและสนใจย่าเลย...น้ำตายังซึมออกมาจากดวงตาฝ้าฟางของย่า...
ย่าจ๋า...รอก่อนนะ ให้ผมหอมแก้มแม่เสร็จก่อนแล้วผมจะไปหอมแก้มย่า
.
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 51 18:58:41
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 51 18:57:41
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 51 17:53:58