เรื่องสยองขวัญของจันทร์เจ้า
ผี วิญญาณ สิ่งเร้นลับ
เป็นเรื่องที่คนเรามักจะกลัว แต่ก็ชอบที่จะฟัง
สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่ทั้งคนเขียนประสบมาด้วยตัวเอง
และคนรู้จักเล่าสู่กันฟัง
นำมาเรียบเรียงในรูปแบบของตัวอักษรให้น่าอ่านมากขึ้นกว่าเดิม
*/*/*/*/*
เรื่องที่ 1 ผีโพรงที่ลำตะคอง (หลอนครั้งแรก)
ผีโพรง เป็นผีชนิดหนึ่งกล่าวกันว่าเป็นวิญญาณผีป่าที่ถูกผู้มีวิชานำมาเลี้ยงโดยนิยมใส่ไว้ในกระบอกไม้ขนาดเล็กเพื่อพกติดตัว และเมื่อถึงเวลาอันได้แกคืนแรมสิบห้าค่ำ ผู้เลี้ยงจะต้องปล่อยให้ผีโพรงออกไปหาของกินหรือตั้งเครื่องเซ่นให้มิเช่นนั้นจะเป็นภัยต่อตัวเอง
ผีโพง เป็นผีอีกจำพวกหนึ่ง จัดอยู่ในกลุ่มผีกระสือ มีลักษณะเป็นดวงไฟกลมโตสว่างจ้า ชอบออกหาอาหารยามค่ำคืนที่เงียบสงัดซึ่งส่วนมากจะได้แก่ของสดของคาวหรือกบเขียด ผีโพงมักจะหลีกเลี่ยงการพบกับคน หากเจอให้แกสร้งทำเป็นไม่เห็นหรือไม่สนใจมิเช่นนั้นแล้วอาจถูกตามรังควานได้ บางแห่งกล่าวว่าแสงที่เห็นนั้นคือไฟที่พุ่งออกมาจากจมูก
ผีโขมด เป็นผีอีกจำพวกหนึ่งอยู่ในกลุ่มผีกระสือหรือผีโพง เห็นเป็นแสงเรืองวาวในความมืดทำให้หลงผิดคิดว่ามีคนถือคบไฟเดินอยู่ข้างหน้าแต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้จะหายไป บางแห่งผีโขมดจะเป็นผีป่าชนิดหนึ่งซึ่งมีแขนขายาวมีขนรุงรังรูปร่างคล้ายลิง ชอบกินเนื้อสัตว์หรือของสด บางประเภทจะดุร้ายจนถึงขนาดรวมตัวกันเป็นฝูงและโจมตีเหยื่อ
ทั้งผีกระสือ ผีโพงและผีโขมด ทางวิทยาศาสตร์อธิบายว่าเป็นแสงที่เกิดจากกาซมีเทน (methane) ที่เกิดจากการเน่าเปื่อยผุพังของสารอินทรีย์แล้วติดไฟในอากาศ จนเป็นแสงวอบแวบในความมืด ซึ่งมักพบในที่ลุ่มชื้นแฉะ หลุมถ่ายมูลหรือแม้แต่คอกสัตว์ที่ไม่ได้รับการทำความสะอาด จนทำให้ผู้พบเห็นเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นภูตผี
*/*/*/*/*/*/*
เกริ่นแนวความรู้กันพอสังเขปเรียบร้อยแล้ว คราวนี้กลับมาฟังเรื่องราวของผีโพรงที่พี่เคยเจอมากับตัวเองกันสักที
เหตุเกิดประมาณ ห้าหรือหกปีมาแล้ว ตอนนั้นการไปท่องเที่ยวที่เขาใหญ่เป็นที่นิยมมาก พี่ได้บ้านพักจากเพื่อนสนิทของน้องสาว โดยที่พักแห่งนั้นเป็นรีสอร์ทส่วนตัวตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขาขนาดย่อมและมีแม่น้ำลำตะคองไหลผ่านทางด้านข้างซึ่งเลี้ยวโค้งเลียบผ่านแล้วไหลหักโค้งอีกครั้งตัดผ่านด้านทางเข้า คือหากจะเข้ารีสอร์ทนี้ต้องขับรถข้ามแม่น้ำลำตะคองไปก่อน
ลักษณะของรีสอร์ทนี้คือเมือเข้าไปล้วจะมีบ้านพักขนาดกะทัดรัดสามหลังเรียงกันทางด้านขวามือ และบ้านพักที่มีขนาดใหญ่กว่าสองหลังด้านซ้าย โดยมีถนนผ่านทุกหลังเป็นวงกลม จะเข้าบ้านพักทั้งสองฝั่งต้องผ่านวงเวียนขนาดเล็กซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ราวสองคนโอบ เล่ากันว่าบ้านพักหลังใหญ่ไปสร้างทักรังงูเห่า ดังนั้นมักไม่ค่อยได้ใช้เนื่องจากวันดีคืนดีจะมีงูเลื้อยออกมานอนคุยด้วย ส่วนมาเพื่อนฝูงของน้องนิยมเลือกบ้านสามหลังทางฝั่งขวามือมากกว่า
ไปครั้งแรก พวกพี่ไปกันหกคนหมาน้อยตัวหนึ่ง ได้บ้านพักหลังแรกซึ่งมีขนาดค่อนข้างเล็กชั้นเดียว ด้านหลังเป็นครัวมีห้องน้ำทั้งด้านบนและด้านล่างซึ่งติดกับแม่น้ำลำตะคอง เวลาไปนั่งจะได้ยินเสียงน้ำไหลด้วย แต่เข้าแค่ครั้งเดียวก็เผ่นแทบไม่ทัน
บรรยากาศโดยรอบดีมาก เงียบสงบสมกับเป็นรีสอร์ทกลางป่า พอขนข้าวของไปเก็บเรียบร้อยก็เริ่มเดินสำรวจกันตามประสาคนไม่ค่อยอยากรู้เรื่องของชาวบ้าน ตอนที่ไปถึงก็ราวๆเก้าโมงเศษซึ่งนับว่ายังเช้าอยู่มาก พี่กับน้องสาวมองไปที่บ้านพักหลังที่สองแล้รู้สึกแปลกใจเพราะเห็นกองไฟยังกรุ่นอยู่ โซดายังอยู่ในลังซึ่งเปิดกินกันไปไม่กี่ขวด พอเดินไปดูใกล้ๆยิ่งแปลกใจมากขึ้นเพราะภายในบ้านมีเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้บางชิ้นตกเลื่อนอยู่ เหมือนคนรีบร้อนขนของออกไปยังไงยังงั้น ที่สำคัญน้องสาวเห็นพระห้อยอยู่ที่ประตูบ้านด้านหลังด้วย แต่มันล็อค เลยได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ
ตกค่ำหลังจากกินข้าวปลาอาหารและนั่งเล่นกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ดับไฟเข้านอน โดนนอนรวมกันในห้องโถงใหญ่นั่นแหละ พอดึกได้ยินเสียงคนเดินวอนรอบบ้าน ก็พยายามเงี่ยหูฟังเพราะกลัวขโมยมากกว่าอย่างอื่น แต่ยิ่งฟังมันยิ่งแปลก เพราะบ้านก็ไม่ใช่หลังเล็กๆ เสียงฝีเท้าที่ได้ยินมันดังมาจากด้านตรงกันข้ากับที่นอนกัน แค่ลมหายใจมันก็เดินมาอยู่ที่หัวนอน แล้วกลับลงไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านอีก ทีนี้หัวนอนตรงพี่มันเป็นชอ่งกระจกเล็กๆเลยเงยหน้าขึ้นไปมอง ตำแหน่งของมันเราจะต้องเห็นในส่วนเอวหรือสะโพกแต่มันไม่ใช่ค่ะ มันเป็นส่วนน่อง ซึ่งหมายความว่าเจ้าของขาคู่นี้ต้องมีความสูงเกินหลังคาบ้านอย่างแน่นอน ทำไงน่ะเหรอ กอดหมาคลุมโปงแล้วหลับไปเลยน่ะสิ
ตอนเช้าแม่ถามว่าใครไปปีนต้นจำปีข้างบ้าน น้องสาวบุญธรรมบอก หนูเองค่ะ แล้วเขาทำหน้าแบบแม่รู้ได้ยังไง แม่บอกว่าเมื่อคืนมีผู้หญิงสวยมากลงมาจากต้นจำปีแล้วฟ้องว่าลูกแม่ไปไต่ต้นไม้เขาเล่นข้ามหัวไปข้ามหัวมา ดีว่าที่มากับแม่ไม่ยังงั้นโดนถีบตกต้นไปแล้ว พอฟังจบหน้าซีดกันเป็นแถบ พี่เลยรีบเล่าเรื่องเมื่อคืนให้แม่ฟัง แม่เขามองไปที่ต้นไม้ใหญ่ตรงวงเวียนแล้วบอกสั้นๆว่า
เขามาดูแลพวกเราเท่านั้นเอง
อ้อลืมเรื่องห้องน้ำด้านล่างไป คือตอนที่พี่ไปเข้าน่ะ กำลังปล่อยเบาพร้อมนั่งฟังเสียงน้ำไหลอย่างเพลิดเพลิน ปรากฏว่าโถที่นั่งมันสั่นค่ะ....สั่นแบบโยกแล้วมีเสียงเหมือนหัวเราะดัง
แฮ่ะ แฮ่ะ แฮ่ะ
รีบชะโงกหน้ามองออกมาด้านนอก ไม่มีใครซักคน
ใครจะอยู่ล่ะ เผ่นสิ
จบภาคแรกค่ะ
*/*/*/*/*
ตอนนี้มูนนี่จำต้องค่อยๆลดการลงนิยายเรื่องที่ได้ตีพิมพ์ ซึ่งงานที่เหลือจะเป็นเรื่อง เซ็นซู พัดคู่ปราบมารกับ นักล่าแห่งรัตติกาล เท่านั้น
มูนนี่จึงขอนำเรื่องเล่าสยองที่ตัวเองและคนรู้จักเคยประสบมาให้ทุกท่านได้อ่านกันก่อนนะคะ เป็นการเล่าในเชิงสนุกสนานจะได้ไม่น่ากลัวมากนัก แต่เป็ฯเรื่องที่มูนนี่เจอมากับตัวเองจริงๆค่ะ
ป.ล.มูนนี่ไม่รู้จะจัดหมวดเรื่องเล่าแบบนี้ให้อยู่ในกลุ่มไหน เลยขอลงในหมวดเรื่องสั้นก็แล้วกันนะคะ
อ้อ บังเอิญมูนนี่เขียนเป็นเรื่องเล่าภายในเว็บของตัวเอง เลยใช้คำแทนตัวว่าพี่ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 52 01:33:43
จากคุณ :
Moony_Lupin
- [
23 ก.พ. 52 01:30:29
]