Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ม่านม่านชิงหลัว  

เรื่องย่อ ม่านม่านชิงหลัว


ผู้เขียน : จวงจวง



นางเอก เฉิงชิ่ง เป็นคนยุคปัจจุบัน เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี4 วิชาเอกภาษาอังกฤษ พ่อเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แม่ก็เป็นข้าราชการ งานยุ่งมากไม่ค่อยมีเวลาอยู่ดูแลลูก จึงให้ลูกเรียนคาราเต้เป็นวิชาป้องกันตัวตั้งแต่เด็ก ฝีมือคาราเต้ของนางเอกจึงสูงมาก และเพราะต้องดูแลตัวเองตั้งแต่เด็ก นางเอกจึงทำอาหารเก่ง เรียกว่ามีพรสวรรค์ด้านนี้

เริ่มเรื่องมา พ่อแม่นางเอกไปต่างเมืองไม่อยู่บ้าน นางเอกเฝ้าบ้านคนเดียว ตอนเข้านอนยังอยู่ในห้องตัวเอง แต่พอลืมตาตื่นก็พบว่าวิญญาณของตัวเองได้เข้ามาอยู่ในร่างของเด็กผู้หญิงอายุ 6 ขวบคนหนึ่ง ชื่อ หลี่ชิงหลัว

โลกที่เฉิงชิ่งข้ามมิติมานี้เป็นเหมือนโลกคู่ขนานของโลกเรา เป็นเหมือนโลกในยุคจีนโบราณ แต่เป็นยุคที่ไม่ได้มีในประวัติศาสตร์จีนจริงๆ  ดังนั้นเฉิงชิ่งจึงไม่มีทางรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

หลี่ชิงหลัว ร่างใหม่ของเฉิงชิ่ง เป็นลูกสาวของอัครเสนาบดีฝ่ายขวา (หลี่เซี่ยง ) แห่งอาณาจักรหนิง หลี่เซี่ยงมีภรรยา 7 คน ภรรยาหลวง 1 คน ภรรยาน้อย 6 คน และมีลูกสาว 3 คน ไม่มีลูกชาย ลูกสาวคนโตชื่อ หลี่ชิงเหลย แก่กว่าชิงหลัว 4 ปี ลูกสาวคนรองชื่อ หลี่ชิงเฟย แก่กว่าชิงหลัว 2 ปี ทั้งสามคนไม่ได้เกิดกับเมียหลวง แม่ของชิงหลัวเป็นภรรยาคนที่ 7 ในเรื่องจะเรียกว่า ฟูเหรินเจ็ด

เนื่องจากฟูเหรินเจ็ดมาจากหอนางโลม เป็นผู้หญิงที่ได้ชื่อว่างดงามและมีฝีมือด้านศิลปะทั้งดีดพิณ (และเครื่องดนตรีชนิดอื่นอีกหลายชนิด) เล่นหมากล้อม แต่งกลอน วาดภาพเก่งกาจยิ่งกว่าใครในเมืองเฟิงในตอนนั้น พวกภรรยาคนอื่นๆ ของหลี่เซี่ยงโดยเฉพาะภรรยาหลวงจึงไม่ชอบหน้าฟูเหรินเจ็ดเป็นพิเศษ ความจริงตอนอยู่ในหอนางโลมแล้วยังไม่ได้เริ่มทำงาน ฟูเหรินเจ็ดมีชายคนรักที่ตกลงกันว่าจะไปรวบรวมเงินมาไถ่ตัวนางในวันประมูลตัววันแรกอยู่ก่อนแล้ว และในวันประมูลตัว ชายคนรักก็ไถ่ตัวนางไปได้สำเร็จ แต่ระหว่างทางที่เขาพานางกลับบ้าน ทั้งคู่ได้โดนกลุ่มคนชุดดำลอบทำร้าย ชายคนรักถูกฆ่าตาย ส่วนฟูเหรินเจ็ดฟื้นมาอีกที ตัวเองได้อยู่ในคฤหาสน์ของหลี่เซี่ยงและได้กลายเป็น “ฟูเหรินเจ็ด” ของเขาไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้ฟูเหรินเจ็ดจึงเย็นชาและหมดอาลัยตายอยากกับชีวิตมาก หลี่เซี่ยงเห่อนางอยู่ได้แค่ไม่นาน เห็นนางเย็นชาไม่สนใจจะเอาใจเขา ก็เลยเริ่มเบื่อและไม่ค่อยได้มาที่เรือนที่ให้นางอยู่ แถมยังให้นางอยู่เรือนที่เล็กและซอมซ่อที่สุดในภรรยาทั้งเจ็ดคน

เนื่องจากไม่มีลูกชาย หลี่เซี่ยงที่ในหัวมีแต่การแสวงหาอำนาจชื่อเสียงและลาภยศสรรเสริญ จึงหวังใช้ลูกสาวเป็นสะพานสร้างความมั่นคงแห่งฐานอำนาจให้ตน ด้วยการหาทางให้ลูกสาวได้แต่งงานกับพวกราชนิกุลชั้นสูง เช่น องค์ชายรัชทายาท องค์ชายคนอื่นๆ  หรือลูกชายคนโตของผู้ที่มีอำนาจสูง และเพื่อการนี้ เขาจึงให้จ้างครูมาสอนลูกสาวแต่ละคนเรียนฝีมือด้านศิลปะทุกด้านให้เก่งๆ อย่างน้อยต้องมีฝีมือศิลปะด้านใดสักด้านที่โดดเด่นมากๆ  หลี่เซี่ยงได้สั่งให้ลูกสาวมาโชว์ความก้าวหน้าของสิ่งที่เรียนให้ดูต่อหน้าเขาทุกสามเดือน

ในวันที่วิญญาณของเฉิงชิ่งเข้ามาอยู่ในร่างของเด็กหญิงหลี่ชิงหลัว คือวันที่ลูกสาวทั้งสามคนต้องโชว์ความสามารถต่อหน้าหลี่เซี่ยงพอดี และชิงหลัวก็ใช้วิธียกกลอนที่พอจะจำได้บทหนึ่งท่องออกมาเอาตัวรอดพ้นด่านนี้ไปได้

หลี่ชิงเหลยพี่สาวคนโตของชิงหลัวเรียนฝีมือด้านศิลปะได้ดีทุกอย่าง แต่ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากที่สุดคือ ฝีมือดีดพิณ โด่งดังจนได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่มีฝีมือดีดพิณและรูปโฉมงดงามที่สุดในเมืองเฟิงคู่กับ กู้เทียนหลิน ลูกสาวคนเดียวของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย (กู้เซี่ยง) ส่วนหลี่ชิงเฟย พี่สาวคนรอง มีฝีมือทางด้านเขียนลายมือโดดเด่นมาก แต่ด้านหน้าตายังสวยน้อยกว่าพี่สาว ตัวชิงหลัวเอง เนื่องจากไม่ชอบถูกหลี่เซี่ยงชักเชิดเป็นเครื่องมือในการไต่บันไดอำนาจ จึงจงใจหลอกตบตาหลี่เซี่ยงโดยทำเป็นเรียนโน่นเรียนนี่อย่างละนิดอย่างละหน่อย จับฉ่ายมากแต่ไม่เก่งสักอย่าง ความจริงแล้วชิงหลัวหัดเรียนพิณกับแม่ และมีพรสวรรค์อย่างสูงในเรื่องนี้ บวกกับตอนอยู่ในโลกปัจจุบัน เฉิงชิ่งก็เคยเรียนดีดพิณมาบ้างเหมือนกัน ทำให้ฝีมือดีดพิณของชิงหลัวก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จนในตอนที่ชิงหลัวอายุได้ 10 ปี ฝีมือพิณก็เริ่มเหนือชั้นกว่าชิงเหลย หลังจากนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่ฟูเหรินเจ็ดแม่ของชิงหลัว แม่นมจาง ซึ่งเป็นคนใช้เก่าแก่ของฟูเหรินเจ็ด และเสี่ยวอวี้ สาวใช้พี่เลี้ยงของชิงหลัว โดยคนทั้งสี่ต่างอาศัยอยู่ที่เรือนของฟูเหรินเจ็ดที่อยู่ไกลจาก
เรือนใหญ่ที่หลี่เซี่ยงพักอยู่มากที่สุด เวลาชิงหลัวดีดพิณจึงไม่ต้องกลัวว่าใครจะมารู้ว่านางเป็นคนดีด

เรือนที่ฟูเหรินเจ็ดพักนี้ นอกจากจะอยู่ไกลจากเรือนใหญ่ของหลี่เซี่ยงมากที่สุดแล้ว ยังอยู่ติดกับป่าไผ่ภายในคฤหาสน์ และป่าไผ่นี้ก็อยู่ติดกำแพงคฤหาสน์ ชิงหลัวตื่นเช้ามาฝึกคาราเต้ในป่าไผ่นี้ทุกวันไม่เคยขาด หลังจากมาอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ได้ไม่กี่ปี ชิงหลัวก็ได้รู้เรื่องชีวิตอาภัพของฟูเหรินเจ็ด บวกกับความรักใคร่เอ็นดูที่ฟูเหรินเจ็ดมีต่อชิงหลัวทำให้ชิงหลัวรักนางเหมือนแม่แท้ๆ และคิดที่จะหาทางพานางหนีออกไปจากคฤหาสน์ที่เป็นเหมือนคุกคุมขังอิสรภาพแห่งนี้ให้ได้สักวัน ชิงหลัวเริ่มแผนขั้นต้นด้วยการไปเดินสำรวจแถวๆ กำแพง แล้วหาทางย้ายหินมาวางซ้อนเป็นบันไดให้ปีนขึ้นไปจนถึงกำแพงได้ จากนั้นหาเถาวัลย์และอื่นๆ มาทำเป็นฉากบังไม่ให้ใครมองเห็นหรือรู้ว่าตรงนี้มีหินวางกองซ้อนเป็นบันไดอยู่

แต่การจะหนีออกไปใช้ชีวิตนอกคฤหาสน์ของหลี่เซี่ยงจำเป็นต้องมีเงินทุนรองรังที่มากพอ แล้วเงินเดือนที่หลี่เซี่ยงให้ฟูเหรินเจ็ดกับชิงหลัวนั้นน้อยมากๆ แค่คนละสามตำลึงต่อเดือน เงินเท่านี้ลำพังจ่ายเป็นเงินเดือนให้แม่นมจางกับเสี่ยวอวี้ก็แทบหมดแล้ว ไม่มีให้เหลือเก็บจริงๆ  ดังนั้นชิงหลัวจึงพยายามคิดหาทางหาเงินไปด้วย แต่ยังคิดไม่ออก

หลังจากชิงหลัวสร้างบันไดจากกองหินได้ไม่นาน องค์หญิงซึ่งเป็นอาสาวของฮ่องเต้ก็จะจัดงานเลี้ยงชมสวนดอกท้อ จึงจะเชิญเหล่าคุณหญิงคุณชายลูกท่านหลานเธอที่ยังหนุ่มสาวและยังไม่มีคู่หมดทั้งเมืองเฟิง (ชื่อเมืองหลวง) ไปร่วมงานกัน จุดประสงค์รองของงานนี้คือให้หนุ่มสาวที่ยังไม่มีคู่มีโอกาสได้ไปเจอหน้าพูดคุยและเลือกคู่กัน ส่วนจุดประสงค์หลักคือ ในงานนี้ องค์ชายรัชทายาทได้รับเชิญด้วย และจะเลือกคู่จากในงานนี้

เวลานั้นในเมืองเฟิงมีคุณชายลูกท่านหลานเธออยู่ 5 คนที่เนื้อหอมที่สุด คือ ยังโสด หน้าตาบุคลิกดีมาก ฐานะชาติตระกูลดีมาก หน้าที่การงานดีมาก ทุกคนอายุอยู่ในช่วง 20 – 26 ปีทั้งหมด ได้แก่

คนที่ 1 องค์ชายรัชทายาท หลิวเจี้ยน เป็นโอรสองค์เดียวของฮองเฮา

คนที่ 2 องค์ชายสี่ หลิวเฟย เป็นโอรสองค์เดียวของฮองเฮาองค์ก่อนซึ่งเสียไปแล้ว

คนที่ 3 หลิวเจว๋ ลูกชายคนเดียวของ อานชิงหวาง ซึ่งเป็นน้องชายร่วมมารดาคนเดียวของฮ่องเต้

คนที่ 4 กู้เทียนเสียง ลูกชายคนเดียวของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย (กู้เซี่ยง)

คนที่ 5 เฉิงซือเยว่ จอหงวนที่หนุ่มที่สุดตั้งแต่เคยมีมา

และทุกคนได้รับเชิญมาในงานนี้กันหมด (แต่มาจริงๆ ไม่ครบทุกคน องค์ชายสี่ หลิวเฟย ไม่ได้มา) พวกสาวๆ ลูกผู้ลากมากดีทั้งหลายจึงตั้งใจรอมางานนี้กันมาก ชิงหลัวก็อยากไปเหมือนกัน ไม่ใช่ไปหาคู่ แค่ไปดูบรรยากาศงานเลี้ยงเลือกคู่สมัยโบราณ

สาวๆ ตัวเก็งที่ถูกเล็งตัวให้องค์ชายรัชทายาทหลิวเจี้ยนเลือกเป็นว่าที่พระชายานั้นมีด้วยกัน 3 คน คือ

หลี่ชิงเหลย ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตของอัครเสนาบดีฝ่ายขวา (ก็พี่สาวคนโตของชิงหลัวนั่นแหละ)

กู้เทียนหลิน ลูกสาวคนเล็กและลูกสาวคนเดียวของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย

หวางเยี่ยนหุย ลูกสาวของพี่ชายของฮองเฮา

หลี่ชิงเหลยกับกู้เทียนหลินนั้นได้ชื่อว่ามีฝีมือพิณและหน้าตาเป็นเอกในเมืองเฟิงควบคู่กัน ส่วนหวางเยี่ยนหุยได้ชื่อว่าเป็นนักปราชญ์หญิง เพราะมีพ่อเป็นแม่ทัพ และตัวเองก็เป็นอัจฉริยะ เก่งในด้านการศึกษาค่ายกลการจัดวางขบวนทัพมาแต่เด็ก แล้วยังเป็นจอมวางแผนอีกด้วย

เนื่องจากว่า 1 ใน 3 ตัวเก็งว่าที่คู่ครองขององค์ชายรัชทายาทหลิวเจี้ยนมีหลี่ชิงเหลยพี่สาวของชิงหลัวอยู่ด้วย คฤหาสน์ของหลี่เซี่ยงจึงได้รับเชิญไปในงานเลี้ยงนี้ด้วยเช่นกัน และภรรยาหลวงของหลี่เซี่ยงเป็นคนพาลูกสาวทั้งสามคนไป

ชิงหลัวนั้น เนื่องจากมีแม่เป็นอดีตหญิงงามอันดับหนึ่งของเมืองเฟิงมาก่อน และตัวนางก็หน้าเหมือนแม่ จึงสวยมากๆ แต่เพราะไม่อยากถูกหลี่เซี่ยงใช้เป็นเครื่องมือ จึงจงใจไว้ผมม้าลงมาปิดคิ้ว จนดูว่าหน้าตาก็แค่ดูดีเฉยๆ ไม่ถึงกับสวยเลิศลอยอะไร ตอนไปงานเลี้ยงนี้ ชิงหลัวจงใจใส่ชุดที่ดูคล้ายสาวใช้ไป ความจริงภรรยาหลวงของหลี่เซี่ยงเห็นแล้วไม่ชอบใจ คิดจะให้ไปเปลี่ยน แต่คิดอีกที ชิงหลัวเพิ่งอายุแค่ 12 ปี ไม่ใช่ลูกสาวที่จะให้ได้คู่ในงานนี้ จึงปล่อยไป

ในโลกนั้น ผู้หญิงอายุ 13 ปีก็หมั้นได้แล้ว แต่จะแต่งงานไปอยู่กินกับฝ่ายชายได้จริงๆ ก็เมื่ออายุครบ 15 ปี

จากคุณ : Linmou
เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 52 21:12:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com