Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ บทที่ 1 หนึ่งดอกท้อที่หนีตามหนุ่มไป  

บทที่ 1

หนึ่งดอกท้อที่หนีตามหนุ่มไป



บุตรสาวบ้านเทพรั่วสุ่ยแต่งไปยังทะเลบูรพาได้เพียงไม่ถึงสามปี ก็เพิ่มสมาชิกชายให้แก่เทพสมุทร
บูรพาหนึ่งคน ทั้งบ้านรั่วสุ่ยและบ้านเทพสมุทรบูรพาต่างดีใจเป็นล้นพ้นกันทั้งสองบ้าน

ตัวเทพสมุทรบูรพายิ่งลำพองหนักกว่าใคร เที่ยวได้ร่อนเทียบเชิญมาร่วมงานเลี้ยงดื่มสุราฉลองครบเดือน
ของบุตรชายไปทั่วฟ้าทั่วดิน กระทั่งโพรงจิ้งจอกที่อาเตียอาเหนียง(๑)อยู่ก็ยังส่งมาด้วยหนึ่งใบ

อาเตียอาเหนียงได้ออกไปเที่ยวข้างนอกมาหลายร้อยปีแล้ว พี่ใหญ่พี่รองพี่สามต่างทยอยกันแต่งงาน
สร้างครอบครัวแบ่งที่ดินไปปกครอง ส่วนพี่สี่ไปที่เขาซีซาน(๒)ตามหานกปี้ฟัง(๓)ที่หนีหายไป
ด้วยเหตุนี้ เวลานี้โพรงจิ้งจอกจึงเหลือแต่ข้าเป็นเจ้าบ้านอยู่คนเดียว

ข้าถือเทียบเชิญหันหน้าหาม่านน้ำที่นอกถ้ำส่องมองย้อนแสงอยู่พักใหญ่ เนื่องจากนึกมาขึ้นได้ว่า
ตอนที่คลอดข้าอาเหนียงคลอดยาก และดูเหมือนจะเป็นเพราะไปเชิญหมอตำแยประจำครอบครัว
ของทวดของเทพสมุทรบูรพาคนนี้นี่แหละมาช่วยทำคลอด ถึงค่อยลดความทรมานไปได้มาก ดังนั้น
ข้าจึงอุ้มไข่มุกประกายราตรี(๔)ลูกใหญ่ประมาณฟักทองลูกหนึ่ง เตรียมจะไปทะเลบูรพาสักรอบ

ข้าไม่ค่อยเก่งเรื่องจำทางเท่าไรนัก

ก่อนจะออกเดินทาง ข้าจึงไปบ้านของผู้เฒ่าหมีกู่(๕)ที่อยู่ข้างบ้านเพื่อของ่ามกิ่งของต้นหมีกู่มาง่ามหนึ่ง

ต้นหมีกู่มีลายไม้สีดำโดยธรรมชาติ ทั้งยังออกดอกหมีกู่หลากสีสันงดงามตระการตา แต่ดอกหมีกู่นั้น
นอกจากใช้ส่องสว่างในตอนกลางคืนได้แล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อื่นใดอีกเลย

ส่วนที่ถูกใจข้ามากที่สุดกลับเป็นง่ามกิ่งของต้นหมีกู่ โดยขอเพียงพกติดตัวไว้กิ่งหนึ่ง ก็จะไม่มีทาง
หลงทางโดยเด็ดขาด

ร่างเดิมของผู้เฒ่าหมีกู่ก็คือต้นหมีกู่ เป็นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ตรงเขาจาวหยาว(๖)ในแคว้นทางใต้มาตั้งแต่
ตอนแรกเบิกฟ้าผ่าพิภพ(๗)

ตอนที่อาเหนียงกำลังท้องพี่สี่ ได้ทะเลาะงอนอาเตียจนหนีออกจากบ้านไป แล้วไปหลงทางอยู่ที่เขา
จาวหยาว เมื่ออาเตียไปตามหาอาเหนียงจนพบ ได้กลัวว่าครั้งหน้าเวลาอาเหนียงงอนหนีออกจากบ้าน
ตามลำพังจะเกิดหลงทางขึ้นมาอีก จึงจัดการแบกต้นหมีกู่เพียงต้นเดียวของเขาจาวหยาวต้นนั้น
กลับมาที่ชิงชิว เอามาปลูกไว้ตรงหน้าบ้านเสียเลย

ชิงชิวเป็นดินแดนแห่งบุญบ้านเกิดของปวงเซียน ต้นหมีกู่นี้ได้อาบพลังทิพย์แห่งสุริยันจันทราและฤดูกาล
ทั้งสี่(๘)  สามพันปีให้หลังก็บำเพ็ญเพียรจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ และอีกสามพันปีต่อมาก็บรรลุธรรม
กลายเป็นเซียนไม่ใหญ่ไม่เล็กผู้หนึ่ง

อาเตียให้ไม้ไผ่ผู้เฒ่าหมีกู่ไปหลายมัดเป็นของขวัญแสดงความยินดี ผู้เฒ่าหมีกู่จึงใช้ไม้ไผ่เหล่านี้สร้าง
เป็นกระต๊อบมุงหญ้าขึ้นสามหลังข้างๆ โพรงจิ้งจอก มาเป็นเพื่อนบ้านกับพวกเราเสียเลย

เนื่องจากผู้เฒ่าหมีกู่เป็นเซียนของแคว้นชิงชิว จึงได้เรียกอาเตียว่า “จวินซ่าง(๙)” ตามเซียนในแคว้นชิงชิว
คนอื่นๆ

ความจริงแล้วผู้เฒ่าหมีกู่ไม่ได้แก่ หลังจากที่ข้าเกิดมาได้สองพันกว่าปี เขาถึงค่อยบำเพ็ญเพียรจน
กลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ร่างมนุษย์ปากแดงฟันขาว นัยน์ตาดอกท้อ(๑๐)ทั้งคู่ตวัดปลายเฉียงขึ้นบน
อย่างอันตรายท้าทายยิ่ง

บรรดาเซียนสาวๆ กว่าครึ่งในชิงชิวต่างเคยขอให้อาเหนียงช่วยเป็นแม่สื่อไปคุยเรื่องแต่งงานกับผู้เฒ่า
หมีกู่มาก่อนทั้งนั้น แต่ไม่มีรายไหนเจรจาสำเร็จเลยสักราย

ถึงแม้ดูจากรูปกายภายนอกผู้เฒ่าหมีกู่จะเหมือนไอ้หนุ่มเจ้าสำราญก็ตาม ความจริงแล้วเขากลับเคร่งครัด
ในเรื่องมารยาทเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่พบข้า ผู้เฒ่าหมีกู่จะต้องประสานมือน้อมคารวะพร้อมกับ
เรียกอย่างนอบน้อมว่า “กูกู” เสมอ และข้าก็พอใจกับการนี้มาก


<>::<>::<>


ตอนที่ผู้เฒ่าหมีกู่ยื่นกิ่งหมีกู่ให้ข้าในครั้งนี้ สีหน้าออกจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย คาดว่าชีวิตประจำวันบางเรื่อง
คงจะไม่ค่อยลงตัวนัก ซึ่งข้าก็ไม่ได้ถือสาอะไรมากมาย

หลังจากได้กิ่งหมีกู่มา ข้าก็ร่ายคาถาเรียกเมฆมงคล(๑๑)  แล้วขี่เหาะมุ่งหน้าตรงไปยังทะเลบูรพา


<>::<>::<>


ทางตะวันออกของทะเลบูรพามีป่าท้อสิบหลี่

พี่สามได้ยินว่าข้าจะไปงานเลี้ยงที่ทะเลบูรพา ก็ส่งจดหมายมาบอกให้ข้าไปที่บ้านเจ๋อเหยียนขอ
สุราดอกท้อเมา(๑๒)มาด้วยสองกา(๑๓)ในตอนขากลับ

เจ๋อเหยียนก็คือเจ้าของป่าท้อสิบหลี่แห่งนั้นนั่นเอง เป็นหงสา(๑๔)แก่ที่แก่มากเสียจนแม้แต่ตัวเองก็
จำอายุที่แน่ชัดของตัวเองไม่ได้

อาเหนียงบอกว่า เจ๋อเหยียนคือหงสาตนแรกที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อครั้งน้ำท่วมครั้งใหญ่(๑๕)นับตั้งแต่
เบิกฟ้าผ่าพิภพเป็นต้นมา เทพบิดร(๑๖)เป็นผู้เลี้ยงเขาจนเติบใหญ่ด้วยพระองค์เอง ศักดิ์ฐานะของเจ๋อเหยียน
ยังสูงยิ่งกว่าเทียนจวินคนปัจจุบันอยู่หลายส่วนเสียด้วยซ้ำ

ในตอนที่ข้าเกิดมา โลกนี้ก็หาร่องรอยของเทพบิดรไม่พบเสียแล้ว

เมื่อตอนที่อาเตียอาเหนียงพาข้าไปเยี่ยมเจ๋อเหยียน เจ๋อเหยียนเลิกคิ้วเม้มปากยิ้มแล้วหันไปพูดกับ
อาเตียว่า

“นี่คือสาวน้อยคนล่าสุดที่เมียของเจ้าเพิ่มมาให้เจ้าช่วงนี้หรือ? ดูปากนิดจมูกหน่อยนี่สิ”

ความเกี่ยวพันของเจ๋อเหยียนกับแคว้นชิงชิวเริ่มจากอาเหนียงเป็นสำคัญ

ฟังว่าเมื่อร้อยล้านปีก่อน เจ๋อเหยียนเคยมาสู่ขออาเหนียง กระทั่งสินสอดทองหมั้นยังส่งมาให้ถึงหน้า
ประตูแล้วด้วยซ้ำ

แต่คนที่อาเหนียงต้องตากลับเป็นเป็นอาเตียสมองทื่อเหมือนท่อนไม้ของข้า ดังนั้นจึงเชิดคอแข็งไม่
ยอมพยักหน้าจนแล้วจนรอด

เพราะเรื่องนี้ เจ๋อเหยียนยังถึงกับต่อสู้กับอาเตียเสียยกใหญ่ หลังจากสู้กันเสร็จทั้งสองคนกลับสาบาน
เป็นพี่น้องกัน

หลังจากผ่านปีใหม่ อาเตียก็ส่งเกี้ยวแปดคนหาม(๑๗)ไปรับอาเหนียงมาที่ชิงชิว แถมเจ๋อเหยียนยัง
เป็นเจ้าภาพจัดพิธีวิวาห์ให้เองเสียด้วย

ตามลำดับรุ่นแล้ว ข้ากับพวกพี่ชายทั้งสี่คนต่างต้องเรียกเจ๋อเหยียนว่า “ท่านลุง”

แต่เจ๋อเหยียนไม่เคยยอมแก่ตามวัยมาแต่ไหนแต่ไร และมักจะยืนกรานเสียงแข็งว่าความจริงตัวเขา
ยังหนุ่มมาก หากใครกล้าบังอาจไปเรียกเขาเสียแก่งั่กละก็ เขาจะอาฆาตแค้นคนคนนั้นไปเป็นพันๆ
หมื่นๆ ปีเลยเชียวละ

ด้วยเหตุนี้พวกข้าจึงได้แต่เรียกชื่อเจ๋อเหยียนตรงๆ ตามอาเตียอาเหนียงอย่างอกสั่นขวัญแขวน
โดยปริยาย


<>::<>::<>


เชิงอรรถ


1. อาเตีย : ท่านพ่อ, อาเหนียง : ท่านแม่

2. เขาซีซาน (西山 : xi shan) เขาตะวันตก

3. นกปี้ฟัง (毕方 : bifang) คือ นกไฟในตำนานของจีน เป็นนกเทพ รูปร่างคล้ายนกกระเรียน แต่มี
ขาเดียว (ดูภาพประกอบและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้า...)

4. ไข่มุกประกายราตรี (夜明珠 : ye ming zhu : เยี่ยหมิงจู) คือไข่มุกซึ่งเรืองแสงในที่มืด สามารถ
ใช้ส่องสว่างในตอนกลางคืนได้ เป็นไข่มุกที่มีค่ามาก

5. หมีกู่ (迷谷 : mi gu) หุบเขาหลงทาง

6. เขาจาวหยาว (招摇山 : Zhao yao shan)

7. แรกเบิกฟ้าผ่าพิภพ คือ แรกสร้างโลก, ตอนที่โลกเพิ่งถือกำเนิด

8. ฤดูกาลทั้งสี่ คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว

9. จวินซ่าง (君上 : jun shang) แปลว่า องค์เทพเหนือหัว

10. นัยน์ตาดอกท้อ (桃花眼 : taohua yan) นัยน์ตาโตสองชั้น ปลายเรียวยาว ดูเจ้าชู้เย้ายวน

11. เมฆที่พวกเทพเซียนใช้ขี่เหาะไปมา เรียกว่า “เมฆมงคล” (祥云 : xiang yun : เสียงอวิ๋น)

12. สุราดอกท้อเมา (桃花醉 : taohua zui : ถาวฮวาจุ้ย)

13. กาเหล้าในที่นี้จะมีรูปร่างเหมือนไหขนาดเล็ก (ดูรูปประกอบท้ายเล่ม)

14. หงสา (凤凰 : fenghuang : เฟิ่งหวง) นกไฟอมตะในตำนานของจีน (อ่านเพิ่มเติมหน้า...)

15. เหตุการณ์น้ำท่วมโลกครั้งใหญ่ครั้งแรกสุดในตำนานของจีน (อ่านเพิ่มเติมหน้า...)

16. เทพบิดร (父神 : fu shen : ฟู่เสิน) ตามตำนานของจีนจะหมายถึง เทพฝูซี ( : Fuxi)

17. เกี้ยวแปดคนหามไปรับเจ้าสาว (八台大轿迎娶新娘 : ba tai da jiao ying qu xinniang)
เป็นพิธีแต่งงานที่จัดว่าเอิกเกริกใหญ่โตที่สุดในธรรมเนียมจีน

จากคุณ : Linmou
เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 53 08:23:10




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com