เถ้าแก่ยี่สิบเจ็ด
|
|
ยังจำได้ว่ามีรถเข็นคันใหญ่ บรรทุกโถใส่น้ำดื่มประเภท น้ำแดง น้ำเขียว น้ำสัปรส น้ำลิ้นจี่ น้ำลำไย มีลังหุ้มสังกะสีหรือแสตนเลส(ไม่แน่ใจ)ขนาดใหญ่ ใส่น้ำแข็งก้อนใหญ่แบบให้ทุบละเอียดที่ดึงออกมาจากรถได้ พร้อมถังน้ำใส่น้ำไว้ล้างแก้วที่นักเรียนดื่มเสร็จแล้วสองถัง รถรุนขายอยู่บนถนนหน้าเส้นทางเข้าออกโรงเรียนแสงทองวิทยา พอจำได้ว่าเคยซื้ออยู่ช่วงวันไหนที่มีเงินเหลือเก็บจากเมื่อวาน หรือช่วงเดินกลับบ้านตอนเย็นแล้วยังมีเงินเหลือบ้าง แต่ส่วนมากก็จะไม่มีเงินเพียงพอในการซื้อ เพราะใช้ในช่วงพักกับช่วงกลางวันก็หมดแล้ว หรือบางครั้งก็พยายามเก็บเงินออม/สะสมตามนโยบายประหยัด หรือได้รับจากการอบรมในเรื่องการอดออมจากครู
ต่อมาเริ่มสังเกตว่า ทำไมจึงมีเด็กนักเรียนรุ่นพี่และรุ่น ๆ กันมุงอยู่กับคนขายน้ำคนนี้ เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ และมีเสียงเฮฮากันตลอด สอบถามเพื่อนสนิทที่เข้าไปในกลุ่มจึงทราบว่า กำลังเล่นการพนันประเภทหนึ่งกับคนขายน้ำรายนี้
คนขายน้ำรายนี้เป็นลูกจีนค่อนข้างท้วมหน้าสี่เหลี่ยมวัยหนุ่มวัยฉกรรจ์ ในช่วงที่เริ่มรุนรถเข็นมาขายน้ำที่หน้าโรงเรียนแสงทองวิทยา นักเรียนรุ่นพี่พยายามสอบถามสืบเสาะชื่อจริงชื่อเล่น แกก็ไม่ยอมบอกหรือให้คนรู้ว่าแกชื่ออะไร จนมีครั้งหนึ่งมีคนถามว่าตอนนี้แกอายุเท่าไร แกเลยบอกว่าแกอายุยี่สิบเจ็ดปี ตั้งแต่นั้นเลยเรียกกันต่อมาว่า ยี่สิบเจ็ด หรือเรียกเร็ว ๆ ว่า ยีบเจ็ด เป็นฉายาและชื่อประจำตัวแกมาตลอดในกลุ่มเด็กนักเรียนแสงทอง
แต่บางคนบอกว่าน่าจะมาจากการสันนิษฐานจาก ที่แกชอบมาเล่นกับเด็กนักเรียนคือ เป็นลวดเหล็กแข็งตัวยาวประมาณหกนิ้ว ที่ทำมาจากลวดวงล้อจักรยาน แล้วมาทำเครื่องหมาย/ใส่หมายเลขหนึ่งถึงเก้า ใส่ไว้ในกระบอกเหล็กทรงกลมพวกท่อน้ำหรือกระบอกทองเหลือง แล้วหมุน ๆ ให้ดึงก้านเหล็กดังกล่าวขึ้นมา หรือไม่ก็ใส่ในถุงผ้าสีมืดทึบแล้วให้ดึงก้านเหล็กขึ้นมา จากแรกเริ่มก็เป็นการให้ดึงทายหมายเลข ถ้าทายถูกก็ได้กินฟรีหรือแถมอีกหนึ่งแก้วเป็นต้น
ต่อมาก็พัฒนามาเป็นการเล่นพนัน คือมีการเพิ่มจำนวนสามก้านต่อเลขหมาย รวมแล้วได้จำนวนยี่สิบเจ็ดอัน เวลาเล่นพนันก็เล่นได้หลายแบบ เช่น ทายว่าอันที่ดึงออกเลขอะไร จะแทงเป็นเลขสูง (6-9) หรือเลขต่ำ (1-4) ถ้าเลขกลางคือ 5 เจ้ามือกิน (โอกาสเจ้ามือมากกว่าอยู่แล้ว) หรือเล่นแบบแทงสองอันให้ได้เก้าแต้มหรือสิบแต้ม หรือแล้วแต่เลขที่จะตกลงกัน ส่วนถ้าแบบสามแต้มก็อาจจะเล่นแบบยี่สิบหนึ่งแต้ม หรือแบบยอดรวมคือยี่สิบเจ็ดแต้ม เป็นต้น (ถ้าเขียนผิดพลาดก็โปรดแจ้งด้วย เพราะลืมเลีอนไปมากแล้ว เนื่องจากแค่เมียงมอง และสอบถามจากเพื่อนมาเขียนจากความทรงจำ)
เด็กนักเรียนที่ชอบเล่นพนันกับแก ก็มักจะมุงรอบตัวแกแล้วพนันกันแทงในอัตราต่ำ ๆ บางครั้งก็มีลูกติดพันมากในช่วงมีการแทงการลุ้น ใครจะมาซื้อน้ำแกก็บอกให้ตักเอง เด็กหลายคนเลยถือโอกาสตักเติมฟรี หรือไม่ก็ไม่จ่ายตังค์แกเสียเลยก็มี
กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการละเล่น หรือความบันเทิงส่วนหนึ่งของเด็กนักเรียน สร้างเสียงเฮฮาและสนุกสนานได้ลุ้นกันมาก คาดว่าเงินทองได้เสียคงไม่กี่บาท เพราะน้ำสมัยนั้นแก้วละหนึ่งบาทหรือสองบาทหรือไง บางครั้งดังมาก ๆ ก็จะมีครูโรงเรียนเดินมาดู แกก็จะหยุดไปสักพัก พร้อม ๆ กับนักเรียนต่างรีบเก็บกระเป๋ากลับบ้านหลังเลิกเรียน หรือเดินเข้าโรงเรียนตามปรกติตอนเช้าก่อนเข้าเรียน แล้วเริ่มใหม่ในช่วงระยะเวลาที่ สี่สูญพูนสวัสดิ์ ภัยพิบัติลาภบ่มี
แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 53 14:34:26
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
9 เม.ย. 53 09:27:45
|
|
|
|