Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ปัญญาอ่อน ???  

whiterose

           หนูแหวนเป็นเด็กออธิสทิก อธิบายง่ายๆ ก็คือมีปัญหาในการสื่อสารกับผู้อื่น เรื่องที่คนทั้งโลกคุยกันได้หนูแหวนกลับไม่ค่อยเข้าใจ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หนูแหวนมีเพื่อนสนิทชื่ออ้อมดาว ทั้งสองคนพบกันตั้งแต่ไปหาจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลเดียวกัน อ้อมดาวไม่ได้เป็นออธิสธิกอย่างหนูแหวนที่ต้องคอยมีนักบำบัดคอยกระตุ้นพัฒนาการทางสติปัญญา อ้อมดาวแค่ต้องคอยไปพบหมอเพื่อนกระตุ้นสัญชาติญาณในการเอาตัวรอด

           ต่อหน้าพ่อแม่สองสาว บางคนให้เกียรติโดยการเรียกว่าผู้หญิงมีปัญหาทางจิต แต่ลับหลังผู้คนขนานนามว่า “คนปัญญาอ่อน”

           ปัญหาของทั้งคนนี้คือ...

            หนูแหวนชอบถามอะไรออกไปโต้งๆ จนคนถูกถามหน้าแตกไปถึงบรรพบุรุษ อย่างเช่น “พี่สวยจัง ทำไมผัวพี่หน้าเหมือนศพ แล้วลูกพี่จะหน้าเหมือนพี่ หรือเหมือนศพ”

            ส่วนอ้อมดาวเท้าเหยียบแก้ว จนเลือดสาด แต่กลับนั่งมองด้วยความสงสัยว่าแก้วมันแตกได้อย่างไร ใครทำ กาวยี่ห้อไหนใช้ต่อแก้วให้เหมือนเดิม ถ้าไม่มีใครมาเห็นอ้อมดาวคงนั่นเลือดท่วมไปทั้งอย่างนั้น แต่ยังดีที่อ้อมดาวไม่เคยทำร้ายใคร นอกจากเอามีดจิ้มตัวเองไปวันๆ

            หนูแหวนไม่เคยถึงกับต้องนอนโรงพยาบาล แค่พ่อแม่สั่งให้หุบปาก แต่อ้อมดาวนั้นต้องเข้าแผนกจิตเวชบ่อยเลยทีเดียว ทั้งสองคนอยู่ในครอบครัวมีฐานะพอสมควร และที่เหมือนกันอีกอย่างคือทั้งสองคนจะทำให้คนคิดบวกมีความสุข แต่ทำให้คนคิดลบร้อนตัวเสมอ

           ทั้งสองคนชอบไปโรงพยาบาลตามหมอนัดมาก เพราะจะได้เจอกันในที่ที่มีแต่คนเข้าใจ หมอใจดี พยาบาลก็... ใจดี ทุกคนก็ดีหมดเพราะมีคนปล่อยให้หนูแหวนพูดทุกอย่าง แม้จะดุก็ดุสุภาพ และไม่มีใครตีมืออ้อมดาวเมื่อเอาส้อมมาลองจิ้มต้นขาดูว่าหนึ่งทีได้สี่รูจริงหรือไม่

            หากวันไหนหนูแหวนกับอ้อมดาวไปโรงพยาบาลพร้อมๆ กัน พ่อแม่จะจับแต่งตัวให้น่ารักเหมือนตุ๊กตาจนมีคนมานั่งดูเป็นแถวทีเดียว หนูแหวนอายุ 18 อ้อมดาวอายุ 21 ทั้งคู่หน้าตาดี ผิวพรรณดีเพราะไม่เคยโดนแดดโดนลม ใครจะปล่อยให้ไปไหนมาไหน ก็หนูแหวนคุยกับดวงอาทิตย์ได้ทั้งวัน ส่วนอ้อมดาวอาจยืนจ้องแสงอาทิตย์จนแก้วตาไหม้ก็ได้

             ความน่ารักไร้เดียงสาจนผู้คนมองผ่านกลายเป็นน่าทนุถนอมไปบางครั้ง ทำให้หนุ่มๆ นักศึกษาแพทย์หรือไม่ก็พวกอินเทอร์มาวนเวียน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับแผนกจิตเวชสักหน่อย
เจออ้อมดาวก็โชคดีไป เพราะอ้อมดาวมีทีท่าบางอย่างเป็นผู้ใหญ่ แต่เจอหนูแหวนเมื่อไหร่พวกพี่ๆ อาจหน้าหงาย

            พวกพี่ๆ ชอบเข้ามาถามเรื่องเดิมๆ เช่น “ทำอะไรจ๊ะ สาวๆ”

             อ้อมดาวจะตอบแค่ว่า “นั่งคุยกัน” แล้วขอปากกาพวกเขามาลองขูดท้องแขนดู

            แต่หนูแหวนจะตอบยาวกว่านั้น “นั่งคุยกันค่ะ พวกพี่ผิวพรรณดีจัง คงเพราะเรียนหมอเลยอยู่แต่ในที่ร่ม แล้วจริงมั้ยที่พวกเขาว่าหมอส่วนใหญ่เป็นตุ๊ด หรือไม่ก็พวกชอบเพศเดียวกัน พวกพี่...”
             ความจริงหนูแหวน อยากบอกแค่ว่าพวกพี่เขาหล่อ หนูแหวนก็อยากมีแฟนหล่อๆ สนใจจะเป็นแฟนหนูแหวนมั้ย หนูแหวนทำกับข้าวเก่ง แต่ใครจะอยู่ฟังจนจบ พวกพี่ก็หายไปแล้ว

             แต่ยังมีอินเทอร์นจากมหาวิทยาลัยแถวเชียงใหม่สองคน คนหนึ่งชื่อหมอคริสต์ อีกคนชื่อหมอเวกชอบมายืนดูหนูแหวนกับอ้อมดาวคุยกันในห้องบำบัดกลุ่ม พวกเขาไม่ถึงกับมาคุยด้วย แต่พวกเจ้าหน้าที่ในแผนกรู้ดีว่าหมอสองคนนั้นแอบตรวจสอบวันเวลาพบหมอของผู้ป่วยทางจิตสาวสวยสองคนนี้เสมอ บางทีมารอก่อนหมอจิตเวชที่ต้องตรวจเสียอีก

             เจ้าหน้าที่ล้อว่าหนูแหวนแฟนหมอคริสต์ อ้อมดาวแฟนหมอเวก เพราะหมอคริสต์เคยขำจนเกือบสำลักกาแฟเมื่อหนูแหวนถามว่า “พี่หมอเหมือนคนฉลาด แล้ว... ที่จริงพี่ฉลาดหรือเปล่า”
             ส่วนหมอเวกเคยต้องถึงกับต้องช่วยออกแรงแทนเจ้าหน้าที่ห้องบำบัดเพื่อแคะช้อนพลาสติกออกจากปากของอ้อมดาวตอนมีเลี้ยงพิเศษที่ห้องบำบัดกลุ่ม อ้อมดาวคิดว่ารูปทรงของช้อนน่าจะพอดีกับสรีระของช่องคอตัวเอง

            ไม่ว่าใครจะว่าอะไรยังไงหมอคริสต์กับหมอเวกเดินยิ้มออกไปจากห้องบำบัดกลุ่มทุกที และยังเคยพาสองสาวไปห้องบริจาคเลือดด้วยตัวเองมาแล้ว เล่นเอาฮากันทั้งห้องรับบริจาค เมื่อหนูแหวนถามเจ้าหน้าที่ว่า “พวกพี่แน่ใจเหรอว่าเลือดคนโรคจิตนั้นปลอดภัย”
            ส่วนอ้อมดาวสงสัยว่า “ทำไมต้องคอยเจาะเลือดให้เสียเวลา คาเข็มเจาะไว้เลยก็ไม่เห็นเป็นไร” อ้อมดาวจะคาเข็มไว้อย่างนั้น เล่นเอาหมอเวกต้องอธิบายหลายนาทีกว่าอ้อมดาวจะยอมให้ดึงเข็มออก แต่ที่จริงอ้อมดาวยอมเพราะหมอเวกบอกว่า

           “คนไข้รอพี่อยู่”


            ทั้งสองคนเคยพาสองสาวไปรับประทานอาหารอีสาน อาหารที่สองสาวไม่เคยถูกอนุญาตให้กินที่บ้าน เพราะพ่อของหนูแหวนไม่ชอบ ส่วนอ้อมดาวไม่มีความสามารถในการเอาตัวรอดตอนรับประทานอาหารแปลกๆ แต่เมื่อคนที่พาไปเป็นถึงหมอหนุ่มร่างกายแข็งแรงและท่าทางฉลาด ผู้ปกครองถึงยอมให้ไปด้วย

             แต่ทั้งคู่สั่งอาหารเสร็จ ก็นั่งฟังสองสาวคุยกันด้วยภาษาพิเศษตามเคย
             แต่หนูแหวนก็เริ่มทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นอาหารประหลาดๆ ซึ่งเป็นกลิ่นปลาร้าจากโต๊ะข้างๆ ก็ไปถาม “พวกพี่กินศพกันเหรอ เหม็นชิกหาย” แล้วหนูแหวนก็วิ่งไปบอกทุกโต๊ะ “ร้านนี้มีศพขายๆ”

             หมอคริสต์ต้องวิ่งไปลากตัวกลับมา บอกกับทุกคนว่า “ขอโทษครับ น้องผมเป็นเด็กขี้เล่น”

            โต๊ะไกลๆ ตอบมาว่า “พวกขี้เล่นระวังได้เล่นขี้”

             หมอเวกเอาแต่นั่งหัวเราะหนูแหวน แต่กว่าจะรู้ว่าตัวเองดูแลอ้อมดาวไม่ได้เลย ก็เห็นพริกเผา หมดขวด อ้อมดาวนั่งเหงื่อตกหน้าตาแดงแป๊ดกำลังไปหยิบพริกเผาจากโต๊ะข้างมากินต่อ ปากพึมพำว่า เผ็ด

           “เฮ้ย อ้อมดาว เผ็ดแล้วก็หยุดกินสิ” หมอเวกแย่งขวดพริกกลับ แต่อ้อมดาวร้องไห้จะกินต่อให้ได้ มันแค่เผ็ด ทำไมเธอต้องหยุดกินเพราะมันเผ็ด

             หนูแหวนช่วยแก้ให้เพื่อน เมื่อเห็นหมอสองคนทำท่าดุเพื่อนรัก “ถึงหยุดกิน อ้อมดาวก็ยังเผ็ดค่ะ อ้อมดาวไม่รู้เรื่อง อย่ามาดุกันสิคะ คิดว่าตัวเองเป็นหมอรู้ว่าอะไรเผ็ดไม่เผ็ดแล้วจะเป็นคนฉลาดกันรึไง”

             โต๊ะข้างๆ เริ่มหัวเราะ และคงรู้ว่าผู้หญิงสวยสองคนนี้คงหลุดจากโรงพยาบาลบ้ามากับหมอจบใหม่แน่ๆ

             สองหมอต้องยกเลิกอาหารอีสาน พวกเขารู้ว่าอ้อมดาวแปลกแต่ไม่คิดว่าจะแปลกไปขนาดนี้ หลังจากส่งสองสาวถึงบ้านแล้วหมอจบใหม่ทั้งคู่กลับมานั่งหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่ในรถ


             แต่แล้วก็มาถึงวันเศร้าของหมอคริสต์กับหมอเวก ...

             เมื่ออ้อมดาวกับหนูแหวนไปเห่อผู้ชายคนหนึ่งอยากออกหน้านอกตา เป็นผู้ป่วยจิตเวชชายคนใหม่หน้าตาหล่อเหลา เขาชื่อกุมภาพันธ์ อายุ 25 ปี เข้ามาบำบัดอาการทางจิตเนื่องจากโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง

             คนทั่วไปเห็นเวลากุมภาพันธ์อยู่ในอารมณ์ปกติอาจดูไม่ออกว่าเขาผิดปกติทางจิต เขาเป็นผู้ช่วยโค้ชสอนกอล์ฟให้เด็กๆ และคงเทิร์นโปรไม่ยาก แต่ถูกรับเข้าอยู่โรงพยาบาลเมื่อต้นปีที่ผ่านเสียก่อน เพราะเขามีอาการภาวะสารสื่อประสาทไม่สมดุล เขากลายเป็นเด็กขี้แยไม่มีใครเอาความเศร้าเขาอยู่ เขาทำร้ายตัวเอง คิดฆ่าตัวตาย ฟูมฟายกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแม้แต่ตอนลูกหมาแทะรองเท้าแตะแล้วไม่เอามาวางที่เดิม

             แต่เขากลับกลายเป็นเพื่อนที่ดีของหนูแหวนกับอ้อมดาว สองสาวเห่อกุมภาพันธ์มาก เพราะเขาใจดี และทั้งสามคนก็ติดกันเป็นตังเม จากที่เคยพบกันแค่วันพฤหัส ผู้ปกครองของทั้งสามคนนัดให้พบกันบ่อยขึ้น

              มีคนล้อเรื่องสองสาวเป็นแฟนหมอเวกหมอคริสต์หรือกุมภาพันธ์เยอะแยะ แต่ที่จริงพวกเขารู้ดีว่าสติของทั้งสองนั้นเข้าขั้นปัญญาทึบที่จะเข้าใจความสลับซับซ้อนของหัวใจอย่างมนุษย์เดินดินทั่วๆ ไป



              และแล้วก็เศร้ากว่านั้น เมื่อช่วงหลังไม่ปรากฏร่างของคนไข้โรคจิตทั้งสามคนอีก
              มีข่าวคราวสั้นๆ จากคนรู้จักไม่กี่คนในกลุ่มเจ้าหน้าที่ห้องบำบัดบอกว่า
              หนูแหวนถูกคนร้ายแทงตายต่อหน้าพ่อแม่
              อ้อมดาวถูกรถชนตายในโรงรถบ้านตัวเอง
              กุมภาพันธ์ ฆ่าตัวตายสำเร็จ


ปล. จบเรื่องราวคนปัญญาอ่อน ที่จริงมันมีอีกนะ มีเรื่องกุมภาพันธ์ชกกับหมอเวกอีก แต่ขี้เกียจโกหกต่อเพราะยังไงก็ต้องตาย ครือเว่... คนปัญญาอ่อนก็เหนื่อยเป็นนะ wink

จากคุณ : rainfull
เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 23:15:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com