ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อรู้ว่าน้ำท่วมเริ่มมาแล้ว ก็จะรีบถอดปั้มน้ำข้างล่าง ที่จะปั้มน้ำขึ้นไปเก็บบนแทงค์น้ำที่ดาดฟ้า แล้วยกปั้มน้ำไปไว้บนชั้นลอยของบ้าน ค่อยมาต่อกลับหล้งน้ำแล้งแล้ว ที่บ้านโชคดีที่ห้องน้ำใช้แบบฟลัทวาวล์ ใช้มือกดก้านให้น้ำไหลลงในชักโครก ไม่ใช่แบบถังกดน้ำชักโครกที่มีลูกลอย เพราะบ้านเพื่อนหลายหลังโดนช่วงน้ำท่วม แม้ว่าปั้มน้ำไปเก็บไว้เต็มแทงค์น้ำบนดาดฟ้าแล้ว แต่พอน้ำท่วมเข้าบ้านก็จะดันลูกลอย ทำให้น้ำไหลออกหมดแท้งค์น้ำของบ้าน ต้องอดน้ำไปหลายวันช่วงน้ำท่วม ทำให้หลายหลังตอนนี้ ชั้นข้างล่างสุดของบ้าน ต้องเปลี่ยนชักโครกเป็นแบบราดน้ำ หรือแบบก้านกดแทนหลังน้ำท่วม เพื่อป้องกันปัญหาแบบนี้อีก ส่วนอาหารในตู้เย็นก็จัดการเก็บของ ไปไว้ในชั้นลอยก่อนในส่วนที่ไม่อยู่ในช่องฟรีต(แช่แข็ง) เพราะคาดว่าอย่างมากน่าจะไม่เกิน 0.50 เมตร ส่วนอาหารที่ไว้ในช่องฟรีต(แช่แข็ง) แม้ว่าไฟดับก็ยังเก็บรักษาได้ไม่น้อยกว่าหกชั่วโมง เพราะยังมีน้ำแข็งและความเย็นคงเหลืออยู่ ค่อยลงมาเก็บของขึ้นไปชั้นลอย เพื่อทำการรวนอาหารหรือถนอมอาหารได้ ส่วนของที่ชั้นล่างก็เก็บเท่าที่เก็บได้ วางของไว้บนโต๊ะทำงานกับโต๊ะกินข้าว เพราะประมาท/ประสบการณ์ในอดีต น้ำท่วมหาดใหญ่สูงเต็มทีในปี 2531(ปีงูใหญ่) ก็สูงประมาณ 0.75 เมตรเท่านั้น มีข้อสังเกตที่หาดใหญ่ว่า ทุกรอบสิบสองปี (ปีงูใหญ่) น้ำมักจะท่วมครั้งใหญ่ทุกครั้ง ก็ปี 2555 อีกสองปีก็รอลุ้นอีกครั้งหนึ่ง เลยทำให้เชื่อตามที่เจ้าพ่ออินเทล กล่าวไว่ว่า ประสบการณ์ในอดีตไม่เกี่ยวอะไรกับปัจจุบัน เพราะการพัฒนา cpu/chip แบบใหม่ ๆ ต้องใช้วิธีการที่แตกต่างหรือใหม่กว่าแบบเดิมจึงจะทำได้ดียิ่งขึ้น ส่วนเจ้าพ่อแอปเปิล  กลับมองว่า ให้มองย้อนกลับไปอดีตจะเป็นรากฐานในการพัฒนาอนาคตได้ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 53 23:12:06 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 22:29:36

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อน้ำท่วมแล้วก็ค่อยลงมาดู แต่ให้ระวังโรคฉี่หนูด้วย เพราะในปี 2552 ไปขับจักรยานเล่น เดินเล่นแถวบ้านพักรถไฟที่มีน้ำท่วมประมาณหนึ่งฟุต ไม่ถึงอาทิตย์เป็นไข้สูงเข้าโรงพยาบาล เพราะโรคไวรัสเข้าทางกระแสเลือด แพทย์สันนิษฐานว่าเป็นโรคฉี่หนู ข้อควรระวังก่อนจะลงมาดูน้ำท่วมคือ ระวัง งู หนู แมงป่อง ตะขาบ ที่มักจะลอยน้ำมาหรือว่ายสวนเข้าหาคน เพื่อให้คนเปรียบเหมือนเป็นขอนไม้ ถ้าถูกขบกัดแล้วจะทำให้ลำบากกว่าเดิม รองลงมาคือต้องใส่รองเท้าก่อนเดินด้วย เพราะไม่รู้ว่ามีอะไรตกแตกหรือบาดเท้าได้ เมื่อน้ำเริ่มท่วมขึ้นเรื่อย ๆ โต๊ะ เก้าอี้ ตู้เย็นก็เริ่มจะลอยไปมา ต้องเอาเชือกไนลอนกับเชือกฟาง ผูกรวมไว้กันเท่าที่จะทำได้ มิฉะนั้นก็จะลอยละล่องกระแทกโน่นกระแทกนี่ หรือทำให้ข้าวของในบ้าน/ฝาบ้านเสียหายกว่าเดิมอีก ในช่วงน้ำท่วมจะมีฝนตกลงมาบ้าง ก็ต้องรีบนำสังกะสี/อะไรก็ได้ไปรองน้ำฝนไว้ใช้ เพราะอย่างน้อยก็นำมาใช้ล้างหน้าล้างของ ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็มาดื่มกินได้ ส่วนที่บ้านรองลงในแทงค์น้ำ ให้ท่วมแทงค์ไปเลยก็ไม่เป็นไร เพราะไฟฟ้าไม่ทำงานอยู่แล้ว ก็ได้ใช้น้ำในการกินและหุงหาอาหารได้ ส่วนบ้านเพื่อนหลายหลังก็ต้องรอง จากชายคาบ้านหรือทำเท่าที่จะทำได้ ดีกว่ารอการช่วยเหลือจากภายนอก เพราะถ้าฟังจากวิทยุ/วิทยุสมัครเล่น ก็จะมีเสียงว่าพลเมืองดี/ฮีโร่ ที่จะพยายามไปช่วยรอบนอกก่อน ทั้งที่คนในเมืองก็อดหยากพอ ๆ กัน ภาวะอย่างนี้จะไปซื้อหาอาหารและน้ำดื่มที่ไหน หลังบ้านคนงานรถไฟอดน้ำอดข้าวสองหลัง เลยต้องโยนมาม่ากับน้ำดื่มให้ไปเผื่อแผ่กัน ก่อนที่คนงานรถไฟจะว่าย/ลุยไปที่สถานีรถไฟ เพื่อประทังชีวิตในยามน้ำท่วมได้ มีประวัติว่า บางโรงแรมในหาดใหญ่ช่วงน้ำท่วม ขายมาม่าชามละร้อยบาทให้แขกมาเลย์ หรือร้านอาหารบางแห่งหลังน้ำลด ข้าวผัดห่อละร้อยบาทก็มี ทั้งนี้ยังมีตำนาน/ข่าวเล่าลือจริงว่า ชั้นใต้ดินที่จอดรถยนต์ของโรงแรมในหาดใหญ่ มีแขกไทย/มาเลย์ตายคารถยนต์หรือคาลิฟท์ เพราะขึ้นมาไม่ทันหรือรถล็อค เพราะไฟฟ้าดับแล้วทำงานไม่ได้เลย ทำให้ต้องจมน้ำตายคารถยนต์กับคาลิฟท์ มีการปิดข่าวหรือจ่ายรายการใม่ให้เป็นข่าว เพื่อไม่ให้กระทบต่อชื่อเสียงและการเข้าพักของแขกภายหลัง แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 06:50:01 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 22:30:28

ความคิดเห็นที่ 3 หลังจากน้ำเริ่มลดลงแล้ว ก่อนน้ำที่ท่วมบ้านจะไหลออกจากบ้านหมด ก็ต้องรีบเก็บกวาดเท่าที่จะทำได้ก่อน มิฉะนั้นโคลน/คราบไคลจะฝังลึกแน่นกว่าเดิมหลังจากบ้านแห้ง แล้วเริ่มลงมือติดปั้มน้ำรอน้ำประปาไหล พร้อมกับการไฟฟ้าจ่ายไฟฟ้าตามเดิม จะได้เริ่มลงมือทำความสะอาดบ้านอีกครั้ง ถ้าในบ้านมีจักรยานสำรองไว้สักคันก็ดี ถ้าไม่มีก็อันดับถัดมาคือ รีบซ่อมรถจักรยานยนต์ เพื่อไว้ขับขี่ไปบริเวณวงเวียนน้ำพุ/มอ. ที่น้ำท่วมไม่ถึงแต่อย่างใด บริเวณนั้นเป็นที่ดอน แต่ถ้ามองจากสายตาก็เป็นระนาบเดียวกับถนนใหญ่ แต่พอน้ำท่วมจะเห็นชัดว่าน้ำจะท่วมไม่ถึงเลย การไปแถวนั้นเพื่อซื้อข้าวปลาอาหารแห้งมาเพิ่มเติม การซ่อมรถจักรยานยนต์แบบง่าย ๆ คือ (เฉพาะรุ่นที่สตาร์ทกับเท้าและสตาร์ทกับมือได้) 1. ห้ามสตาร์ทอย่างเด็ดขาด เพราะมีโอกาสไฟชอร์ทเสียหาย 2. ถอดขั้วบวกลบหม้อแบตเตอรี่ออกก่อน แล้วเช็ดให้แห้ง หรือเป่าลมไล่ความชื้น หรือฉีดน้ำยา So.. สารพัดประโยชน์ไม่ทำปฏิกิริยากับไฟฟ้าและเครื่องยนต์มาก 3. ถอดขั้วหัวเทียนออกมาเช็คให้แห้ง ปล่อยรูหัวเทียนทิ้งว่างไว้ พร้อมกับเหยียบคันสตาร์ทเท้าไปเรื่อย ๆ เป็นการไล่น้ำบางส่วนออก กับทำให้ลูกสูบคลายตัว/ไล่น้ำส่วนหนึ่ง ก่อนใส่หัวเทียนกลับ บางท่านให้เอาลมฉีดไล่น้ำลงไปเลย หรือใส่ autulube แทนการฉีดน้ำยา So... ที่ไล่ความชื้นในเครื่องยนต์ออกมา 4. ถอดเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเพราะน้ำบางส่วน อาจไหลย้อนเข้าทางท่อไอเสีย หรือซึมลงในอ่างเครื่องได้ 5. ถอดกรองอากาศออกทำความสะอาดเป่า/ตาก/อบให้แห้ง หรือไม่ใช้เลยเป็นการชั่วคราว 6. ถ่ายน้ำมันเบ็นซินใส่ขวดแก้ว แล้วค่อยรินเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำมัน ออกมาไว้เติมถังน้ำมัน ส่วนที่เป็นน้ำเททิ้งไป 7. หลังเติมน้ำมันก็ถ่ายเททิ้งในคาร์บูเรเตอร์ที่อาจมีน้ำขังอยู่ทิ้งไป 8. หลังจากเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วประมาณหนึ่งอาทิตย์ ต้องเปลี่ยนใหม่อีกครั้ง เพราะสีจะขาวขุ่นเพราะมีน้ำเดิมปนอยู่ 9. เอาน้ำยาสารพัดประโยชน์พวกโซ..  ฉีดเข้าที่พวกปลั๊กไฟฟ้า หรือจุดต่าง ๆ ถ้ามีปั้มลมก็จะช่วยได้เยอะ ในการไล่น้ำไล่ความชื้น 10. ต่อแบตเตอรี่ตามเดิมแล้วขยันสตาร์ทสักพัก พอติดแล้วก็ขับขี่โฉบเฉี่ยวตามเดิมได้ แต่ต้องระมัดระวังพวกตะปู เศษแก้ว ที่อยู่ตามท้องถนน อาจจะทำให้ยางล้อรถจักรยานยนต์รั่ว จะต้องเข็น/รุนกลับบ้าน ลำบากเข้าไปอีก ส่วนตู้เย็นแกะส่วนที่น้ำซีมเข้าเช็ดให้แห้ง แล้วเอาพวกโซ...ฉีดไล่ความชื้นออกแล้วเช็ดอีกครั้ง รวมทั้งปลั๊กไฟที่จมน้ำด้วย ใช้ฉีดเข้าไปได้เลย รอสักพักก็เสียบใช้งานได้เลย ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่อย่างใด บางรายที่หาดใหญ่ลองเสี่ยงเอาทีวีที่จมน้ำ หรือวิทยุที่จมน้ำ มาฉีดล้างน้ำให้สะอาด ล้างคราบโคลนคราบน้ำออกก่อน แล้วฉีดด้วยพวกโซ...อีกเช่นกัน แล้ววางผึ่งแดดผึ่งลมให้แห้ง หลังจากนั้นประมาณอาทิตย์เศษ ก็นำมาใช้งานได้ถือว่าโชคดีไป เคยถามเพื่อนที่ทำแบบนี้ว่าทำไปทำไม ก็ได้คำตอบว่า "เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน ไม่ได้ก็ต้องเสีย หรือซื้อใหม่ หาร้านซ่อมก็ยากอยู่แล้ว" ส่วนรถยนต์ก็หลักการณ์เดียวกัน ของเหลว ของแห้งที่เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนให้หมด เว้นแต่จะโชคร้ายที่กล่องดำ(หรือกล่องอิเลคโทรนิค)จะเสียหาย ถ้ารถยนต์รุ่นเก่าที่ไม่มีกล่องแบบนี้ก็มักจะทำงานได้เลย แต่อย่างว่าเหมือนที่ชอบพูดกันว่า ข้าวของเครื่องใช้ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ถูกน้ำท่วมก็เหมือนรถเริ่มเป็นมะเร็ง เพราะพอสักพักจะเริ่มลาม เสียโน่นเสียนี่ มีรอยผุที่โน่นที่นี่ และอันดับถัดมากลิ่นสาบโคลน แม้ว่าจะทำความสะอาดอย่างไรก็ตาม มีกลิ่นติดอยู่เป็นเดือนแม้ว่าจะล้างสะอาดอย่างไรก็ตาม เว้นแต่จะเปลี่ยนฟองน้ำ ที่หุ้มหลังคา ที่หุ้มฝากระโปรงหน้า แล้วรื้อร้าง renovate หรือซ่อมกันแบบทุกจุดเลย สรุปบทเรียนจากน้ำท่วมคือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนสำคัญที่สุด ให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องน้ำดื่มก่อน อาหารและของแห้งให้สำรองไว้พอหนึ่งอาทิตย์ ช่วงเดือนวิกฤตของทุก ๆ ปี เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะเลือนหายไปเหมือนน้ำท่วมที่ผ่านมา แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 16:15:17 แก้ไขเมื่อ 29 ต.ค. 53 06:59:22 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 22:31:15

ความคิดเห็นที่ 4 บ้านผมที่สวนอ้อยหน้าวชิรพยาบาล เดิมเป็นบ้านชั้นเดียวใต้ถุนสูง สมัยน้ำท่วมใหญ่ พ.ศ.๒๔๘๕ น้ำท่วมถึงใบหูเด็กชายอายุ ๑๑ ขวบ เวลาลุยน้ำต้องเขย่ง ไม่งั้นน้ำเข้าหู ต่อมาอีก  ๒๐ กว่าปีต่อเติมชั้นล่างเพราะนึกว่ามีเขื่อนใหญ่ ๆ แล้วน้ำคงไม่ท่วม แต่เริ่มแรก พ.ศ.๒๕๑๘ น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาไหลข้ามถนนสามเสนมาสุดที่ถนนครราชสีมาหลังบ้าน มีน้ำขึ้นน้ำลงตามเวลาด้วย หน้าบ้านตรงประตูรั้วประมาณหนึ่งฟุต แล้วก็เว้นบ้างท่วมบ้างต่อมาอีกหลายปี สุดท้ายท่วมด้วยน้ำฝน ถ้าฝนตกหนักเต็มที่เกินกว่าครึ่งชั่วโมง ก็จะท่วมชั้นล่างทั้งหมด ประมาณแค่ตาตุ่ม แช่อยู่ประมาณ ๓-๔ ช.ม.จึงจะไหลลง ตกลงบ้านใครเขาไม่ท่วมบ้านผมก็ท่วม ต้องเอาอิฐ บ.ป.ก.รองใต้ตู้โต๊ะ สองก้อน แล้วก็เก็บของบนพื้น กับรอกวาดไล่น้ำออกจากบ้านเท่านั้นครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 05:28:21

ความคิดเห็นที่ 5 ยังจำได้เหมือนกันค่ะ ท่วมหนักไปถึงทุ่งลุงเลย จำได้ว่าวันนั้นฝนตกก็ยังอุตส่าห์นั่งรถไปเรียน หน้าโรงเรียนส่องแสง น้ำสูงถึงเข่าเลย รถเมล์ขับไปได้หน่อยก็ต้องกลับรถเพราะไปต่อไม่ได้ สองข้างทางตั้งแต่หน่ำฮั้วไปถึงทุ่งลุงท่วมหมด จนหันไปพูดกับเพื่อนว่า เพิ่งจะเคยเห็นน้ำท่วมกับตาจริงๆ ก็วันนี้แหละ จากคุณ : latics1 เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 09:17:16

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพประกอบส่วนที่พอจะทำได้บ้างในการซ่อมรถจักรยานยนต์ จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 16:54:37

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพจำลองการดึงของขึ้นบนบันได โดยใช้ไม้พาดตามแบบ ซ่งเอี่ยม ที่ใช้ในการขนคอมพิวเตอร์แมนแฟรม ขึ้นบนชั้นสามของธนาคารไทยแห่งแรก จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 19:18:25

ความคิดเห็นที่ 8 ยังคุยกับชาวถนนบางคนว่าคนที่ไม่เคยเจอน้ำท่วมมาก่อน คงลำบากมากกว่าคนที่ปะเหตุการณ์แบบนี้บ้าง .. กระทู้น่าจะเป็นประโยชน์ให้คนเตรียมพร้อมนะคะ จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 22:23:26

ความคิดเห็นที่ 9 ชักโครกแบบฟลัทวาล์ว น้ำไม่ไหลออกช่วงน้ำท่วม http://www.allkeeper.com/images/view/41675 ชักโครกแบบลูกลอย น้ำดันลูกลอยไหลออกหมดช่วงน้ำท่วม จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 53 00:11:25

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านซะเพลินเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ข้อควรปฏิบัติ น้ำท่วม ได้วิธีเรียนรู้ก่อนน้ำท่วมด้วย สังเกตุธรรมชาติดีที่สุด เพราะมันเป็นภัยธรรมชาติ แต่ก็ได้ปัจจัยสิ่งก่อสร้างของคนไปด้วย ก็เลย เข้าเป็นวิกฤติได้ดีเลยทีเดียวนะคะ คงเป็นบุพเพสันนิสวาสแน่แท้ ที่บ้านน้ำยังไม่ท่วมค่ะ แต่คุณพ่อบอกว่าใกล้แล้ว เพราะแถวบ้าน เป็นที่ต่ำมากค่ะ เป็นที่พัฒนาใหม่ เพราะมีมหาวิทยาลัยมาเปิด ได้สิบกว่าปีแล้ว  คิดจะปลุก บ้านไว้ซักหลัง แถวบ้าน ถมดินนี่สูงเป็น 3-4เมตร กันเลยทีเดียว พากันถมซะเพราะทีด่ินเป็นเงินเป็นทอง ทำหอพัก บ้านจัดสรร บ้านให้เช่า ร้านค้า   ปิดกั้นทางระบายน้ำ เวลาฝนตกมาเนี้ย ถนนสายหลักเป็นทะเลเลย รถวิ่งผ่าน เป็นคลื่นเลยทีเดียว  แต่บริเวณบ้านไม่ท่วมเพราะ เราไม่ได้ถมหมด เหลือที่ไว้สองด้าน เป็นสระน้ำ เหมือนแก้มลิงคอยรองรับน้ำค่ะ ฝนตกมาเท่าไหร่ ไหลลงสระหมด ตรงนี้เลยหมดปัญหาไป หลายคนบอกให้ถมหมด เพราะเสียดายที่ขายได้เงินคงหลายบาท แต่คิดดูไม่มีสระสองสระนี้ คงท่วมไปแล้วแน่ๆเลย สระลึก 7 เมตร รองรับได้มากโขเหมือนกันค่ะ ก่อนหน้านี้ เพื่อนบ้าน ที่มีสระน้ำ บ้านเค้าก็ท่วมเหมือนกัน ต้นไม้ทยอยตายกัน เค้าเลยขอร้อง ระบายน้ำ ลงสระ ต่อท่อ เครื่องสุบน้ำมาลง ทำให้ปลาตาย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ช่วยๆกัน   หน้าแล้งน้ำไม่เคยแห้ง มีน้ำให้รดน้ำต้นไม้อีกด้วย เพื่อนบ้านก็พลอยดีใจไปด้วย มีที่ รองรับน้ำ ใหญ่ขนาดนี้ ว่างๆ ก็พายเรือเล่นกัน บ้านเรากำลังเข้าวิกฤตินะคะ ภัยธรรมชาติก็มีมากโขอยู่แล้ว แต่ถ้าเรายังใจแคบ ไม่ช่วยเหลือ กัน คิดแต่เอาผลประโยชน์ของตัวเอง สุดท้ายเป็นตัวเราเองที่แย่นะคะ เอารูปสระข้างบ้านมาให้ดูค่ะ ทำท่าน้ำ แทนสวนหย่อมไปซะเลย ถูกกว่าถมที่ ทำสวนกว่าเป็นไหนๆ จากคุณ : ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ (ทำอะไรตามใจคือไทยแท้) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 01:17:13

ความคิดเห็นที่ 11 อีกรูปนะคะ ตอนนี้น้ำท่วม ขึ้น จนถึงที่พักแล้วค่ะ บันได้มี 2 ช่วง ช่วงละเก้าขั้น  จบหายไปแล้วช่วงนึงค่ะ จากคุณ : ทำอะไรตามใจคือไทยแท้ (ทำอะไรตามใจคือไทยแท้) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 01:21:23

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณเจ้าของกระทู้และเพื่อนๆที่นำเอาข้อมูลดีๆมาแชร์กันครับ จากคุณ : tuboscope เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 05:16:34

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคะ  มีลูกค้าอยู่ใต้เยอะด้วย  ขอลิงค์กระทู้ไปส่งข่าวนะคะ จากคุณ : ผึ้งน้อยafet เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 11:38:37

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : myBiboon เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 13:43:35

ความคิดเห็นที่ 15 ขณะนี้ท่วมแล้วครับ - -' ใครสนใจสถานการณ์แจ้งเข้ามาได้นะครับ เพื่อการกระจายข่าวสู่ประชาชน http://hatyai.blogtika.com/ จากคุณ : อันใดเอวา (อันใดเอวา) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 20:30:01

ความคิดเห็นที่ 16 ปีนี้จะเป็นยังไงหนอ .... ปีนั้น เราก็ร่วมชะตากรรมด้วยแหละ คอมไป รถไป น้ำหอมหายไป หลังน้ำท่วม ... ฮือๆๆๆๆ เสียดายยยยยย.... จากคุณ : คุณแพท... (Mommy) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 20:36:34

ความคิดเห็นที่ 17 อยากบอกว่าปีนี้น้ำมากเกินคาดหมายค่ะ นั่งคุยกันอยู่ในหมู่เพื่อนว่าฟลัชวาล์วคือ ? ทราบแล้วค่ะ ขอบตุณค่ะ  จากคุณ : tuk-tuk@korat (tuk-tuk@korat) เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 53 21:05:50

ความคิดเห็นที่ 18 เคยได้ยินทางรายการวิทยุว่า มีลูกทุ่งวงหนึ่งไปติดน้ำท่วมที่หาดใหญ่เมื่อสักสามสิบปีก่อน  ที่โรงแรมไม่มีกับข้าวเลย ต้องกินแต่ข้าวเปล่า  แต่วันหนึ่งทางโรงแรมเก็บน้ำพริกเผาแบบกระป๋องใบใหญ่ได้กระป๋องนึง ที่บังเอิญลอยมากับน้ำ ก็เอามาขายให้ลูกค้าในราคาช้อนละ 5 บาท จากคุณ : เสือดำขโมยใจ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 09:44:22

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพหาดใหญ๋ น้ำท่วมเมื่อปี 2519... หาดใหญ๋กับน้ำท่วมเป็นของคู่กัน เข้าใจว่าเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ  ท่วมทุกปี บ้างมากน้อยบ้าง  แต่ปีนี้ท่าทางจะหนักเหมือนกัน  เพิ่งดูข่าวจากทีวี รถเก๋งบางคันท่วมมิดหลังคาเลยในบางจุด  เป็นกำลังใจให้ชาวหาดใหญ่ทุกท่านครับ จากคุณ : มิตรภาพไม่รู้จบ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 13:45:16

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณอา ที่แชร์เรื่องราวความทรงจำสำคัญควรจารึกอย่างหนึ่งของเมืองหาดใหญ่ ขออนุญาตให้กิฟท์ไว้ก่อน แล้วจะมาอ่านเก็บทีหลังนะคะ น้ำท่วมคราาวนี้ ทำเอาวุ่นๆ รอสถานการณ์ดีขึ้นซักหน่อย ตอนนี้ในเมือง ยังคงท่วมมิด น้ำขังอยู่เลย วิทยุ ประกาศขอเรือกันใหญ่ ชาวบ้าน ก็ช่วยเหลือตัวเอง กันไปพอให้รอดไปจนน้ำลด ปีนี้ น้ำมาเร็วจริงๆ แต่ก็ มีประกาศเตือนอยู่ ต้องไปล่ะค่ะ ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวดีๆ ค่ะ จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 18:44:28

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนนั้นอยู่ปีสองค่ะ ใน มอ ฝนตกมาหลายวันมาก กลางคืนราวๆ ตีสองวิ่งตูมกันลงมาจากหอเพราะว่าน้ำท่วมที่จอดรถ วิ่งมาเข็นมอร์'ไซค์กัน จากนั้นกลับขึ้นไปบนหอใหม่ ตื่นเช้ามาโกลาหลมาก เพราะว่าน้ำท่วมเมืองไปแล้ว ใน มอ ไม่ท่วม แต่น้ำขังเป็นจุดๆ ใต้หอเราก็ประมาณก้นอ่ะค่ะ ปีนั้นน้ำท่วมแล้วฝนก็ยังไม่หยุดตก ระบบน้ำประปาใน มอ ตัดไป กลางคืนลงมารองน้ำฝนเพื่อเอาไปใช้ราดส้วม ปีนั้น นศ ใน มอ น้ำไม่ท่วมแต่ไม่มีกิน เพราะไม่ได้เตรียมตัวกันเลย มาปีนี้ก็ท่วมไปแล้วและหนักกว่าปีนั้นอีก นศ ใน มอ ค่อนข้างจะเตรียมตัวดี ได้แต่ภาวนาให้ชาวหาดใหญ่ ปลอดภัยทุกคน อดทน และตั้งสติให้มากนะคะ ประสบการณ์พายุเกย์ที่ชุมพรเมื่อปี 2532 ของเราขอยืนยันว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนจริงๆ เรานับถือในความมีสติของพ่อกับแม่มากที่พาพวกเราเด็กสี่คนรอดตายมาได้ จากสภาพรอบบ้านที่พังยับเยินและบ้านที่เกือบๆ จะยับเยิน สู้ๆ ค่ะ และขอบคุณประสบการณ์ที่เอามาฝากนะคะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันตัวเองมากๆ ค่ะ จากคุณ : แลนซ์ลอท เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 18:52:23

ความคิดเห็นที่ 22 ขอให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างมีสตินะครับ เรื่องไฟฟ้าต้องระวังให้มากๆครับ เรื่องการขับถ่ายก็สำคัญ การอาบน้ำ ทำกิจกรรมก็ลำบาก ขอให้อดทนอย่างสูงครับ บ้านน้ำท่วมทุกปี บรรดาเฟอร์นิเจอร์ไม้ บวมหมด และที่สำคัญระวังเชื้อราดำ ด้วยนะครับ เอาพัดลมเป่าให้แห้งๆไว้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 53 19:51:45

ความคิดเห็นที่ 23 คุณแลนซ์ลอท เล่าเหตุการณ์ตอนพายุเกย์ที่รอดมาได้ให้ฟังหน่อยได้หรือไม่ค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : กระสุนปืน...เฉียด เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 00:29:41

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านเพลินมากค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : emilija เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 01:41:58

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนนี้ข่าวว่าหาดใหญ่น้ำท่วมมากแล้วครับ คุณravio เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ครับ. จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 08:01:58

ความคิดเห็นที่ 26 เด่วมาอ่านต่อครับ...ออกไปข้างนอกแปป จากคุณ : 123 (เทพบุตรสายฟ้า) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 11:09:32

ความคิดเห็นที่ 27 รายละเอียดเยอะดีค่ะ น่าจะเป็นความรู้ให้กับคนที่จะไปอาศัยที่หาดใหญ่ท่านอื่นๆได้ จากคุณ : pompoko เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 23:19:29

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ ravio  ว่ายน้ำอยู่ไหนล่ะนี่ ? จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 01:16:33

ความคิดเห็นที่ 29 ดูข่าวทุกวันเลยค่ะ จากคุณ : ตุ๊ก ค่ะ (tuk-tuk@korat) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 14:38:10

ความคิดเห็นที่ 30 เป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนนะครับ.. จากคุณ : sytama เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 19:32:39

ความคิดเห็นที่ 31 ปีนี้เหมือนปี 2543 น้ำท่วมเท่าเดิม ความเสียหายน้อยกว่าเดิม เพราะเพียงสองวันก็น้ำลดแล้ว ได้เรียนรู้บทเรียนใหม่และประสบการณ์อีกครั้ง เป็นการยืนยันสัจจะรรมพระพุทธเจ้าว่า อนิจจัง วัฏฏะ สังขาระ ตนเป็นที่พึ้่งแห่งตน บุคคลพึงถึงความพร้อมด้วยการไม่ประมาท ไว้มีโอกาสจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วมครั้งนี้ ขอบคุณในความห่่วงใยที่มีให้ชาวหาดใหญ่ทุกคน จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 53 22:18:04

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณนะคะ จากคุณ : kaewbkk เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 11:12:17