Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เซรีญา The Dragon's Gate (2) ติดต่อทีมงาน

ข้อยมีแฟนเพจละเน้อ  แต่พันทิพไม่ยอมให้พิมพ์ลิ้งค์ ไม่รู้ทำไม  มันคือ เฟสบุ๊คดอทคอม/lawit.pannida ใครสนใจแวะไปได้จ้า

###

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10109516/W10109516.html

###

ทินา @ เมาชัวร์ (เหม่อ)

คุณวารี @ คนเขียนก็คิดถึงค่า T-T

แมวแป้ง @ นั่นสินะ  มันจะออกมาเป็นไงหว่า

คุณไหมฝัน @ ทุกคนเปลี่ยนไป  แต่ก็ยังเหมือนเดิมเนอะ :)

คุณ Poji @ ช้าไปหน่อย  คนเขียนเปื่อยไปหนึ่งอาทิตย์  แต่มาต่อละจ้า

คุณ scottie @ เซรีญา แปลว่า That will be คับผม

หน่าจัง @ ชอบตอนที่มันเหยียบบี้แบนนี่แหละ  เคี๊ยก

เป้ @ คงไม่ยาวขนาดภาคโน้นหรอก - -''

คุณซาลาสซา @ หุหุ มีระแวงนิด ๆ ด้วย

คุณ paina @ >w< คนเขียนก็ต้องอ่านซ้ำใหม่คับ

คุณ LaGooNz @ เทรมิสเป็นผู้ใหญ่กว่า  แบบว่ามันเจอเรื่องโหดในชีวิตมาน่ะนะ

น้องเฟย์ @ ดีใจเหมือนกันจ้า > <

อมมี่ @ คิดถึงเมราลกะเซรีเหมือนกันเน้อ

คุณ chaiyanun @ คนเขียนก็ต้องอ่านใหม่อีกรอบค่า ^^'

น้องธาร @ ไม่เป็นอะจ้า  มีโครงแล้ว  จริง ๆ นะ

แพร @ อ่านแต่ตอนพิเศษไปก่อนเน้อ > <

น้อง kurobina @ พี่ก็คิดถึงเหมือนกัน  ตัวแยกเขี้ยวนั่น T-T

เจรามี @ เกจก็โตขึ้นอะ   เมราลก็...มีต้นแบบเป็นแชลลัมเลยอาจจะออกมาดุหน่อยนะ

คุณ ratichan @ ขอบคุณจ้า T-T

คุณนริน @ มาต่อละจ้า ^______^

คุณ ice_ngungi @ กว่าจะได้ออกคงอีกพักใหญ่เลยค่ะ ^^'

คุณชิสุมุมห้อง @ ไม่เป็นมั้ง...อย่าเป็นเลย - -''
ไว้อ่านต่อไปละกันเน้อ

###

๒.

"ท่านเมราลจะว่าอะไรหรือไม่   หากข้าให้คนวาดภาพของท่านไป" ทูตลาตาเอ่ยถามหลังจบการเจรจา

ที่จริงจะว่าเป็นการเจรจาก็ไม่ถูกนัก   ทูตไม่ใช่ผู้ตัดสินใจเรื่องนี้   เขาเพียงแต่มีหน้าที่มาฟังว่าทางโคแรนนิอิดต้องการอะไรกันแน่   นอกจากนั้นก็สำรวจรายละเอียดต่าง ๆ ว่าเผ่านี้จะมีลับลมคมในเป็นอันตรายหรือไม่  เท่าที่ฟังมาตลอด  ทูตก็ยังคงไม่เห็นอันตรายร้ายแรงอะไร   พวกโคแรนเพียงขาดแคลนผู้คนจึงต้องการแรงงานเพิ่มเติม   ต้องการหญิงสาวไปให้กำเนิดลูกหลาน   พวกเขาสุภาพพอที่จะไม่ก่อสงครามกวาดต้อนเอา...อาจเพราะไม่มีกำลังพอจะทำอย่างนั้นก็ได้   แต่ถือว่าแสดงความเป็นมิตรมากทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ตลอดการเจรจาดังกล่าว  ทูตก็ยังคงสนใจเรื่องอื่นมากกว่า   เขามองราชินีแห่งโคแรนนิอิด   เธอเป็นคนน่าสนใจ   นอกจากความงามที่ปรากฏตรงหน้าแล้ว   ข้างในกลับไม่อาจถือได้ว่าเป็นหญิงในอุดมคติเท่าไรนัก   แต่ก็เหมาะสมกับตำแหน่งราชินี    เป็นคนฉลาด  ทรนง  ไม่มีความคิดจะลงให้ใครโดยง่าย  แม้พูดจาสุภาพอ่อนน้อมก็เห็นได้ชัดว่าไม่คิดยอมเสียเปรียบแต่อย่างใด  ชวนให้นึกว่าเผ่าเล็ก ๆ นี้คงมีเวทมนตร์หรืออะไรดีซ่อนไว้จริง ๆ   จึงได้มีความกล้าถึงเพียงนี้    ยิ่งมองหญิงตรงหน้ามากเท่าไร  ทูตก็ยิ่งสนใจ   ปรกติยามเดินทางมาต่างถิ่น  เขาจะมีคนวาดภาพประจำตัว   สำหรับร่างภาพบางอย่างกลับไปเสนอจ้าวเกาะในภายหลัง   ที่จริงเขาก็ตั้งใจจะขอวาดภาพเมราลแต่แรกเช่นกัน   ทว่าเวลานี้คงมีสาเหตุอื่น ๆ อีกนอกจากเพียงเพราะเธอเป็นราชินีประหลาดของเผ่าลึกลับที่มาตั้งรกรากใกล้ ๆ กระมัง

ผลที่ได้รับน่าสนใจ  ...เมราลเลิกคิ้วนิดหนึ่งเมื่อได้ยินคำถามดังกล่าว  ก่อนจะแย้มริมฝีปากว่าตนไม่ขัดข้อง   อย่างไรก็ตาม เธอออกตัวอย่างสุภาพและแนบเนียนหลังจากนั้นไม่นานว่าตนปวารณาตัวถือพรหมจรรย์   ซึ่งทูตย่อมแปลความหมายได้เองทันทีว่าเธอขอให้เขาเสนอรูปดังกล่าวในฐานะราชินีแห่งโคแรนนิอิด  ไม่ใช่หญิงสาวที่น่าสนใจ

"เหตุใดท่านเมราลจึงปวารณาตัวเช่นนั้น   แล้วภายหน้าท่านจะสืบทอดตำแหน่งอย่างไร" ทูตอดถามไม่ได้

"ผู้ใดมีความสามารถก็จะมอบตำแหน่งให้ผู้นั้น   ที่จริงเผ่าเราก็เป็นเช่นนี้มานานแล้ว" อีกฝ่ายตอบอย่างสงบ

"เช่นนั้นหรือ  น่าสนใจ..."

อย่างไรก็ตาม ทูตก็หาโอกาสเรียกช่างประจำตัวมาวาดภาพเธออยู่ดี   ...เป็นแต่ภาพลายเส้นไม่ได้ลงสีสัน  มีภาพใบหน้าตรง  และภาพทั้งตัวที่นั่งเอียงไปด้านข้างเล็กน้อย   เมราลใส่เกราะเกล็ดและกระโปรง  ปิดมิดชิดแทบจะตั้งแต่คอจนถึงข้อเท้า   เธอบอกว่าตนไม่ทนแสงไม่ทนลมแรง   จึงต้องสวมใส่เสื้อผ้าเช่นนี้เอง

ทูตอยู่ที่เผ่าโคแรนนิอิดได้สามวันก็บอกลา  ลงเรือใหญ่ของตนข้ามกลับไป  แจ้งว่าไม่ช้าจะส่งข่าวการตัดสินใจของเจ้าเกาะมา

"ข้าทราบมาว่าจ้าวเกาะลาตาชื่อทัคทวา มีสนมหลายคน  มีบุตรธิดาจากหญิงเหล่านั้นรวมแล้วประมาณหกเจ็ดคนได้   แต่เขายังไม่ได้ยกย่องสนมคนใดเป็นราชินี   ไม่ได้ยกบุตรคนใดเป็นทายาทเช่นกัน" อาสลา ผู้รวบรวมข่าวของเมราลบอกเธอในภายหลัง "เขาเป็นคนห้าวหาญ  ผู้คนเรียกว่าทัคทวา นกอินทรี  ปีนี้เกิดความไม่สงบที่เกาะมัสสุลาทางใต้   ทัคทวาไปที่นั่น  ชั่วสามวันก็ปราบได้ราบคาบ   หัวหน้าผู้ก่อความไม่สงบนั้นถูกเขาโยนให้จระเข้กิน"

เมราลพยักหน้า  แต่นอกจากเอ่ยขอบคุณแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร   ในใจเพียงคิดว่าต่อไปต้องวางแผนความสัมพันธ์ให้ดี   หญิงสาวคิดว่าตนเลยวัยแต่งงานตามปรกติไปแล้ว   ทั้งทราบอยู่ก่อนว่าทัคทวามีผู้หญิงหลายคน  และชอบเด็กสาวอายุน้อยหัวอ่อน   จึงค่อนข้างแน่ใจหลายส่วนว่าตนคงไม่ใช่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับจ้าวเกาะเท่าไรนัก  ...สมรสกับเธอก็ไม่ได้อะไร   โคแรนนิอิดยังเป็นเผ่ายากจนอยู่มาก   เธอเองก็มีเพียงความงามที่เปราะบาง

แต่ยามได้ฟังคำรายงานนั้น  หญิงสีขาวอดนึกถึงลอร์คานไม่ได้   เธอเชื่อว่าหากเกิดความไม่สงบใด  ลอร์คานคงปราบได้ในชั่วไม่นานเช่นกัน   เขาเป็นคนทราย  จึงฆ่าคนที่สมควรฆ่าเสมอ  ไม่มีลักษณะประนีประนอมมากเท่าคนอันเซลมา   แต่ลอร์คานไม่ฆ่าคนโดยไร้เหตุผล   ทั้งไม่ใช้วิธีโหดร้ายให้ผู้คนสยดสยองหวั่นเกรง   เขาเป็นคนหมดจดอย่างยิ่ง   เมราลก็ชอบเขาตรงนี้เอง

...

จากเกาะมังกรขาวไปยังเกาะใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะลาตา   ใช้เวลาประมาณสามวัน   ทั้งนี้หมายถึงมีการลัดเลาะเลียบเกาะเล็กเกาะน้อย  และมีการขึ้นบกพักค้างแรมบ้าง   แต่ถ้าหากเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืน  ก็อาจใช้เวลาน้อยกว่านั้น   คราวนี้ทูตลาตารู้สึกว่าต้องเร่งสักหน่อย   จึงใช้วิธีแวะพักสั้น ๆ ตามเกาะรายทางเพียงเพื่อเปลี่ยนฝีพาย   เขาเปลี่ยนฝีพายสองครั้ง   ก็ถึงเกาะใหญ่ในเวลาสองวัน

หมู่เกาะลาตามีวัฒนธรรมของตนเอง   ค่อนข้างแตกต่างจากคนบนแผ่นดินใหญ่   เมื่อห่างไกลจากเกาะเสือมาทางตะวันออกเป็นอันมาก  อากาศจึงร้อนชื้นกว่า   ผู้คนใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น   แต่ชอบสวมเครื่องประดับงดงาม  ของประดับของคนธรรมดาอาจจะทำจากเปลือกหอย  ลูกปัด  และไม้   ส่วนของคนร่ำรวยมีฐานะจะทำจากอัญมณี  ตลอดจนเงินและทองซึ่งหาในเกาะไม่ได้   ต้องใช้วิธีแลกเปลี่ยนกับพ่อค้าจากต่างแดน

ลาตาเป็นเกาะอุดมสมบูรณ์มาก   ควรว่าอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าอันเซลมา   เพราะอากาศไม่ใคร่เปลี่ยนแปลงนัก  จึงมีพืชผลตลอดปี   เกาะใหญ่ ๆ จะถูกปราบที่ทางเป็นไร่นาหมดแล้ว   แต่เกาะเล็กไม่น้อยก็ยังคงเป็นป่า  ทัคทวาเป็นคนทะเยอทะยาน   หลายปีนี้เขายังเกณฑ์คนให้ปราบเกาะน้อยบางแห่ง   ตัดป่าทำเป็นไร่นา  สะสมอาหาร   เขาอยู่ห่างไกลทวีปจนเกินกว่าจะคิดปกครองแผ่นดินใหญ่ได้โดยง่าย   ดังนั้นจึงเริ่มด้วยการปราบเกาะรอบ ๆ ที่ยังไม่อยู่ใต้ปกครอง   มีเพียงเกาะปีศาจหรือเกาะมังกรขาวของเมราลเท่านั้นที่ยังไม่ได้แตะต้องทำอะไร  ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะก่อนนี้บนเกาะแทบไม่มีใคร   ทั้งยังห่างไกลจากเกาะอื่น ๆ จนไม่ใคร่มีประโยชน์เท่าไรนัก  อีกประการหนึ่ง   เกาะปีศาจก็มีตำนานประหลาดพิลึกมากมาย   ทัคทวาทะเยอทะยานย่อมคิดเอาน้ำใจผู้คน  ไม่ต้องการบุ่มบ่ามทำผิดจากจารีตประเพณีโดยไม่จำเป็น

วันนั้นทัคทวาอยู่ที่วัง   วังของเขาตั้งอยู่บนเขา   ชาวลาตานับถือนกอินทรี   บนภูเขาสูงที่สุดบนเกาะใหญ่  ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับไปแล้ว   เชื่อกันว่าเป็นรังของนกอินทรีจ้าว   นกอินทรีเหล่านี้ได้รับความคุ้มครองจากจ้าวเกาะเสมอ   ทัคทวาเองยามเป็นเด็กหนุ่มก็เคยปีนขึ้นไปถึงยอดเขา   และกลับลงมาพร้อมกับลูกนกอินทรีโดยอมไว้ในปาก   เขาเลี้ยงนกอินทรีแต่นั้นมา   มีโรงเลี้ยงใหญ่โต   มีนกอินทรีและเหยี่ยวหลายคู่   ยามอยู่นอกวัง  ผู้คนมักเห็นทัคทวามีนกอินทรีเกาะบ่า   เขาทราบดีว่ามีสัญลักษณ์เช่นนี้กับตัว   ผู้คนจะรู้สึกว่าน่าเกรงขาม   ให้ความรู้สึกว่าเป็นจ้าวเกาะจริง ๆ

วังของทัคทวาแผ่ออกไปตามสันเขา  ลักษณะคล้ายนกอินทรีกางปีกเช่นกัน   มีอาคารกลาง  อาคารซ้ายขวา  และเรือนด้านหลัง   ปรกติทัคทวาจะพบปะผู้คนในอาคารกลาง   วันนั้นทูตก็ไปพบเขาที่นั่นเอง

ทูตเร่งเดินทางมา   ย่อมเหนื่อยอยู่บ้าง   แต่เขาก็เร่งกลับบ้านไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย  ก่อนจะมาพบจ้าวเกาะแทบจะในทันที   ตอนนั้นยังเช้าอยู่   ทัคทวาออกว่าราชการตามปรกติทั่วไป   เขาเป็นคนสูงปานกลาง   หากดูผาด ๆ จะรู้สึกผอม   แต่ที่จริงแล้วกล้ามเนื้อแน่นอย่างยิ่ง   ไม่มีอะไรขาดเกินแม้แต่นิดเดียว   ปีนี้เขาอายุสามสิบห้า   รูปร่างสง่างาม   มีหญิงไม่น้อยพอใจมากหากเขาเลือกเป็นสนมกำนัล   ผู้คนอยากให้เขาตั้งใครสักคนเป็นราชินี   และตั้งบุตรสักคนเป็นทายาท   แต่ทัคทวายังไม่คิดอะไรเช่นนั้น   เขาคาดหมายว่าตนจะใช้ชีวิตทำการใหญ่ไปได้อีกหลายปี   อีกประการหนึ่ง   เขากำลังดูบุตรตนว่าคนใดจะหน่วยก้านดีบ้าง   เขาคิดว่าหากตั้งทายาท  ต้องตั้งที่ความสามารถ   ตั้งคนอ่อนแอไม่เด็ดขาดจะเกิดปัญหา   การแย่งชิงอำนาจเป็นเรื่องธรรมดาในเกาะลาตา   หากตั้งคนอ่อนแอขึ้นมา  การแย่งชิงก็จะยิ่งนองเลือด  ไม่มีผลดีอะไร

"ไปถึงเกาะปีศาจมา  เป็นอย่างไร" จ้าวเกาะเอ่ยถามทูตทันทีที่เห็นหน้า

"ข้าแต่จ้าวเกาะ   คนเหล่านั้นยังดูไม่มีพิษภัย"

ทูตยืนพูดอยู่ตรงหน้า   ข้าราชการอื่น ๆ ก็ยืนอยู่ด้านข้าง   มีเพียงทัคทวาที่นั่งบนที่สูง   วันนี้เขาสวมชุดลำลอง  ใส่กางเกง  ไม่ใส่เสื้อ   เพียงประดับสร้อย  ใส่ปลอกแขน   สวมคาดหน้าผากประดับขนนกอินทรี   ทูตรายงานเขาเรื่องความเป็นไปในหมู่โคแรนนิอิดคร่าว ๆ เท่าที่ทราบ   ...คนเหล่านั้นหน้าตาแปลกประหลาด   ร่างกายไม่ใหญ่  ผิวสีอ่อน  ผมสีอ่อน  ดวงตาเป็นสีฟ้าบ้างเทาบ้าง   สวมเครื่องแต่งกายทอจากใยพืช   ข้างเกาะยังคงมีเรือลำใหญ่ที่พวกเขาใช้เดินทางมา   เรือมโหฬารอย่างยิ่ง   แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะจุคนมากมายได้   แต่คนโคแรนนิอิดเองอธิบายว่าเรือนั้นมีเวทมนตร์    ทูตไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเรือดังกล่าว   เขาจึงเพียงสังเกตการณ์บนเกาะเท่าที่จะทำได้

"ผู้คนยังยากจนอยู่มาก   คิดว่าอีกนานกว่าจะเพาะปลูกหรือทำสินค้าใดมาค้าขายได้   บนเกาะส่วนใหญ่ยังเป็นป่า  ปราบถางกันไม่ไหว   คนไม่สนใจสินแร่   ไม่สนใจเครื่องประดับหรือสิ่งงดงามอะไรเป็นพิเศษ   ที่จริง...บางส่วนคล้ายคนคลั่งศาสนา   พวกนั้นนับถือราชินีของตนมาก   ราชินีชื่อ เมราล เชอยิน   ข้าคิดว่านางเป็นทั้งราชินีและนักบวชหญิงในเวลาเดียวกัน   ปีนี้นางอายุ 29 ปี   ถือเพศพรหมจรรย์"

ทูตพูดเช่นนั้นแล้วก็ส่งม้วนภาพของเมราลให้ทัคทวา   เกาะลาตาทำกระดาษใยพืชได้แล้ว   ค่อนข้างคุณภาพดีมาก   จ้าวเกาะคลี่ภาพออกดู   เมื่อแรกยังไม่คิดอะไร   แต่ครั้งคลี่สุดแล้วก็สะดุ้งนิดหนึ่ง

"งามยิ่งนัก   ราวกับไม่ใช่คน" เขาว่า

"นางมีสิ่งผิดคนทั้งปวงอยู่มาก   ผิวนางขาวเป็นสีน้ำนม   ผมก็สีขาวเงิน  ดวงตาเป็นสีแดงราวทับทิม" ทูตรายงาน "ผู้คนในเผ่าเชื่อว่านางเป็นหญิงวิเศษ   เขาไม่ได้พูดให้ข้าฟังเท่าไร...ยังระแวงคนแปลกหน้าไม่น้อย  แต่เท่าที่ฟังมา   คิดว่านางเป็นแม่มดมีคาถาอาคม   อาจมีฤทธิ์อยู่บ้าง   นางเป็นคนถือดี   คงมีดีในตัว"

"อืม"

ทูตอธิบายต่อไปว่าพวกโคแรนนิอิดต้องการหญิงสาวไปทำไม   เขาว่าเท่าที่เห็นก็ไม่น่าเสียหาย   เพราะพวกโคแรนนิอิดดูไม่มีฤทธิ์เดช   ต่อให้มีเวทมนตร์จริง   คนก็น้อยจนแม้ใช้กำลังเข้ารบคงเอาชนะได้   อีกอย่างหนึ่ง ให้คนลาตาไปสมรสกับพวกนั้น   ไม่ช้าอาจสามารถกลืนทั้งเผ่าให้เป็นส่วนหนึ่งของลาตา   สิ่งดีใดที่โคแรนนิอิดเก็บซ่อนไว้   ก็คงจะเอามาได้ด้วยวิธีนั้นเอง

"อีกประการหนึ่ง  ข้าคิดว่า..." ทูตเอ่ยในที่สุด "พวกนั้นมาตั้งรกรากที่เกาะปีศาจ   แต่ไม่รู้ว่าทราบเรื่องทวารมังกรหรือไม่"

ทัคทวาเงยหน้าขึ้นมา   คนอื่น ๆ ในโถงท้องพระโรงก็มองหน้าทูตเช่นกัน

เรื่องทวารมังกรนี้เป็นเรื่องเก่าแก่   เล่ากันมาหลายร้อยปีแล้ว   เขาว่าครั้งหนึ่งเกาะปีศาจไม่ได้มีชื่อเช่นนี้   หากแต่ชื่อทวารมังกร    ที่นั่นมีของวิเศษทรงฤทธิ์อำนาจยิ่ง   ไม่มีใครทราบว่าเป็นอะไร   ของนั้นมีสตรีพรหมจารีรักษาไว้   ต่อมาจ้าวเกาะลาตาได้สมรสกับสตรีพรหมจารีคนหนึ่ง   ก็ได้ของวิเศษมา   เขาใช้ของดังกล่าวปราบทั่วทั้งหมู่เกาะ   เป็นใหญ่ในเขตนี้ได้   ตำนานเล่าขานว่ายามเขาเป็นใหญ่   ก็ทำการผิดสัญญากับสตรีผู้รักษาของ   นางจึงนำสิ่งวิเศษดังกล่าวจากไป   พร้อมกล่าวสาปแช่งว่าจ้าวเกาะลาตาผู้ใดกล้าเหยียบแผ่นดินนี้จะต้องตาย

ภายหลังเคยมีจ้าวเกาะที่ไม่เชื่อ   เดินทางไปเกาะปีศาจ   และสาบสูญไปจากค่ายพักอย่างปริศนา   คนของเขาไปตามพบอีกครั้งก็เป็นศพอยู่กลางป่า   ร่างกายแขวนอยู่บนกิ่งไม้   ดูราวหลับไป   ไม่ทราบว่าตายด้วยวิธีใด  แต่นั้นผู้คนจึงเชื่อว่าที่นี่เป็นเกาะปีศาจ   ไม่อาจอยู่อาศัยได้   นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทัคทวาไม่ยึดครองเกาะดังกล่าวสักที

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 54 12:59:47




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com