~@~ "เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร?" ~@~
|
 |
เมื่อคืนได้นั่งดูละครเรื่องหนึ่งทางช่องสาม ที่นั่งดูส่วนหนึ่งเพราะกระแสของเรื่องค่อนข้างเป็นไปในทางที่ "หวือหวา" เสียเหลือเกิน
ที่ว่า เป็นกระแสหวือหวา ก็เป็นเพราะบท เนื้อเรื่องดู "แรง" ทั้ง "คำพูด" และ "การกระทำ" ของตัวนำละคร ส่วนมากคนจะบอกว่าตัวละครตัวนั้นๆ ก็คือ "เรย่า" ที่นำแสดงโดยคุณ ชมพู่ อารยา
แต่อีกหนึ่งตัวละครที่แรงไม่แพ้กันก็คือ "เด่นจันทร์" (ขออภัยที่จำชื่อนักแสดงไม่ได้ - -'' ) ในบทเธอเป็นลูกสาวของนักธุรกิจเจ้าของสายการบินดังแห่งหนึ่ง ดังนั้น ชีวิตทั้งชีวิตของเธอจึงเรียกได้ว่า มีทุกอย่างที่เกือบจะเฟอร์เฟค ยกเว้น "สามี" แย่ๆ ของเธอในเรื่องนั่นเอง
แย่ยังไงบ้าง อาจจะแย่ในทั้งเรื่อง ฐานะ หน้าที่ การงาน โอเคล่ะ ปัจจัยเหล่านั้น ถือว่าเป็นปัจจัยภายนอกที่คนที่มีความพยายาม มุ่งมั่นสามารถพัฒนาให้ทัดเทียมกันได้
แต่เรื่องที่แย่ที่สุดสำหรับผู้ชายคนหนึ่งในฐานะ “สามี” ของผู้หญิงคนหนึ่งคือ เห็นจะไม่พ้นเรื่อง “ความซื่อสัตย์!” นั่นเอง
และประเด็นของกระทู้นี้ มันอยู่ตรงนี้ ...
เมื่อคืนในช่วงหนึ่งของละครตอนนี้ เด่นจันทร์ หยิบยกคำพูด "คลาสสิค" คำพูดหนึ่งมาพูดกับสามีของเธอในเรื่องว่า
เธอว่า … "เสียทองเท่าหัว แต่ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร"
ทำให้อดคิดไม่ได้ จริงหรือ ผู้หญิงเราสมัยใหม่ สมัยยุคมิลเลเนี่ยมนี้ ยังต้องยึดถือประโยคเด็ดนี้แบบเป็นจริง เป็นจังอยู่เกือบหมดทุกคนอยู่หรือเปล่า
สมัยก่อน ประโยคนี้อาจจะเป็นประโยคเด็ด(ขาด) เพราะผู้หญิงเราสมัยโบราณ เพราะเธอย่อมเห็น “สามี” หรือที่เราเรียกกันแบบบ้านๆ ว่า "ผัว" นี่แหละ สำคัญกว่าทอง
เนื่องจากอะไร .. เนื่องจาก เราต้องยอมรับว่า สมัยก่อนนั้นบทบาทของผู้หญิงถูกจำกัดเอาไว้เพียงแคบๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องการ"ศึกษา" ก็คิดดูเอาเถอะ สมัยโบราณการศึกษาของลูกผู้หญิงมีเหมือนผู้ชายในสมัยเดียวกันเสียเมื่อไหร่ ลูกสาวบ้านไหนอ่านออกเขียนได้ นับว่าเก่งมากๆ หรือออกแนวประหลาดกว่าผู้หญิงด้วยกันเสียด้วยซ้ำ คนสมัยก่อนไม่นิยมให้ลูกสาวเรียนหนังสือหนังหา ด้วยเกรงกว่า ถ้าลูกสาวอ่านออกเขียนได้ อาจจะนำเอาไปใช้แต่งเพลงยาวตอบโต้กับผู้ชายเสียอย่างนั้น( สมกับเป็นยุคของความคร่ำครึ คร่ำเคร่งกันเสียเหลือเกิน - - ‘’)
นี่แค่พูดเรื่องการศึกษา ยังถูกกีดกันเสียขนาดนี้ ในบทบาทหน้าที่การงานนอกบ้านก็อย่าได้หวังว่าพวกเธอจะมีโอกาสที่ดีไปกว่านี้
นอกจากเรื่องการศึกษาที่ผู้หญิงสมัยนั้นถูกจำกัดเอาไว้เพียงแคบๆ แล้ว วงจรชีวิตในวัยสาวของผู้หญิงยุคนั้นก็ยังถูกจำกัดเอาไว้เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ อีก พออายุสักสิบสี่ สิบห้า สิบหก ถือพวกเธอถูกจัดว่าเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว พอใครมาขอจึงต้องรีบๆ ยกให้ไปเสีย พอให้พ้นอก และเป็นที่โล่งใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ และถ้ายังไม่ได้แต่งงานออกเรือน ความเป็นสาวสมัยนั้นก็ต้องถูกจำกัดระยะเวลาเอาไว้สั้นๆ แค่เริ่มยี่สิบต้นๆ ขืนเธอยังไม่ได้แต่งงานออกเรือนไป เธอก็จะตกกลายไปเป็น "สาวเทื้อ" ให้เป็นที่หนักอกหนักใจของพ่อและแม่ต่อทันที
อนิจจา… เท่านี้ก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะว่า สำหรับ “ผัว” ของผู้หญิงสักคนในสมัยก่อน จึงมีค่ามากกว่า “ทองก้อนเท่าหัว” อย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงต้องพยายามรักษากันเท่าชีวิต ยื้อยุด ฉุดเอาไว้ไม่ให้ยอมเสียไปให้ใครง่ายๆ
แล้วสมัยนี้เล่า ผู้หญิงสมัยใหม่ยังยึดประโยคเด็ดๆ นี้เอาไว้เหมือนกันทุกคน เหมือนเดิมอีกหรือเปล่า…
พูดถึงสมัยนี้ มานับแค่การศึกษา ในสมัยนี้ได้มีการกำหนดให้การศึกษากลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทั้งหญิงชายต้องได้รับอย่างเท่าเทียมกัน นี่ยังไม่นับบาทในด้านอื่นๆ อีกเช่น หน้าที่การงาน ผู้หญิงบางคนก็ทำได้ดีเท่ากับผู้ชายเหมือนกัน และบางครั้งอาจจะเก่งกว่าผู้ชายบางคนเสียด้วยซ้ำ
มาพูดถึงเรื่องความเป็นสาว สมัยนี้เรามีวิวัฒนาการต่างๆ ที่เข้ามาช่วยหยุดอายุของสาวๆ ยุคใหม่ไว้แค่เพียงแค่ยี่สิบต้นๆ ถ้า “ไม่ใส ไม่เด้ง” แล้วล่ะก็ เห็นจะไม่ใช่สาวสมัยยุคมิลเลเนี่ยมแล้วล่ะ
เอ่ พอได้ลองเปรียบเทียบความแตกต่างของผู้หญิงในสองยุค ด้วยปัจจัยข้างต้นอย่างคร่าวๆ แล้ว เอาเข้าจริงๆ ถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์อย่างเด่นจันทร์เธอ จริงๆ ก็ทำให้ชักจะลังเลขึ้นมาแล้วเหมือนกันล่ะว่า ระหว่าง “ทองก้อนเท่าหัว” กับ “ผัวที่ไม่ได้เรื่อง”คนหนึ่ง อย่างไหนมันจะน่าเลือกเอาไว้ และอย่างไหนน่าจะปล่อยให้เสียไปมากกว่ากันนะ
ถึงเวลารึยัง ที่ผู้หญิงในยุคมิลเลเนี่ยมควรจะหันกลับมาเสียดายทองที่ราคาแพงขึ้นทุกวันๆ ดีกว่า จะไปเสียดายผัว(ที่ไม่ได้เรื่อง ) คนหนึ่งอย่างสามีของเด่นจันทร์
ฝากถึงใครสักคนที่กำลังตกอยู่ในสภาวะคลับคล้ายคลับคลาคุณเด่นจันทร์ หน่อยว่า..
“เสียทองก้อนเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร” ถ้ามันหนักหนาสาหัสจริงๆ กับการรักษา “ผัวแย่ๆ” คนหนึ่งเอาไว้ ก็ควรหันมาเปลี่ยนเป็นคำพูดเสียใหม่ว่า..
"เอาทองก้อนเท่าหัวเก็บไว้ แล้วเชิญเอาผัว(ที่ใช้ไม่ได้) ของฉันไปจะดีกว่า!"
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 54 22:14:27
จากคุณ |
:
พิณพลอย
|
เขียนเมื่อ |
:
8 เม.ย. 54 21:51:49
|
|
|
|