เขานำกำไลโลหะวงหนึ่งออกมา เป็นกำไลรูปร่างคล้ายมังกรแบบลาตาขดปลายจมูกและปลายหางเข้าหากัน มังกรลาตาตัวยาวเกือบคล้ายงูสายฟ้า แต่มีขาและหัวคล้ายสัตว์เลื้อยคลาน เป็นสัตว์ดุร้ายที่มีเขา มีปีกค้างคาว มีหางเป็นปลายเงี่ยงแหลมน่ากลัว
"เขาว่านี่เป็นกุญแจสำหรับ 'ประตูมังกร'" ทัคทวาบอกต่อไป
ไหล่ของเมราลเกือบสะท้าน ดีแต่เธอบังคับไว้ได้ ยามหันไปก็เห็นจ้าวเกาะลาตาลองใส่กำไลคล้ายเล่น มันใหญ่กว่าข้อมือของเขาเล็กน้อย ใส่แล้วก็ถอดได้โดยง่าย
เมื่อกี้เขาว่าอะไร...กุญแจ
"ท่านเมราลจะลองสวมดูไหม" ทัคทวาถอดกำไลแล้วยื่นให้
"ข้าไม่..."
แต่เขาจับมือของเธอแล้ว สวมกำไลเข้าไปโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
..................................................................................................................................................................
ลอร์คานร้องออกมา
เสียงร้องคำรามสั้น ทำให้คนที่เหลือในห้องตกใจ ยามหันไปก็เห็นสิงโตทรายกุมข้อมือข้างซ้ายไว้ มือข้างนั้นสั่นเทา มีแสงขาวออกมา
แสงขาวเรืองคล้ายเปลวควัน พวยพุ่งรอบมือไปจนตลอดข้อ ลอร์คานเจ็บจนเห็นได้ชัด มือซ้ายของเขาเกร็งจนงอเป็นกรงเล็บ เหงื่อกาฬไหลออกมา เทรมิสที่ถลันเข้าไปแต่แรกเร่งคว้ามือข้างนั้นไว้ กดลงกับโต๊ะ เขาแกะมือพี่ชายให้กางคว่ำลง และกดมือทั้งสองข้างของตนทับลงไป
"เกิดอะไรขึ้น" เซรีตกใจ
"พลังไหลย้อนทวน!"
..................................................................................................................................................................
เมราลกระชากมือของตนไปจากทัคทวา
"โอ้ ขออภัย" อีกฝ่ายยกมือขึ้นทั้งสองข้าง ยิ้มละไมในหน้า "ข้าไม่ได้เจตนา เพียงตั้งใจให้ท่านเมราลลองดู"
หญิงสีขาวมองเขา ก่อนจะตัดสินใจยิ้มตอบเช่นกัน ไม่มีประโยชน์ใดที่จะแสดงอารมณ์ออกมา
"ท่านทัคทวาทำเช่นนี้ ข้าก็ต้องตกใจ" เธอบอกเรียบ ๆ ก่อนจะก้มลงจับวงกำไลไว้ แต่แล้วทันทีที่แตะถูก ก็รู้สึกราวมีพลังอะไรบางอย่างแล่นเปรี๊ยะออกมา
พลังแรงมากจนเมราลอุทานเบา ๆ เธอตกใจจนต้องเพ่งมองกำไลอีกครั้ง มันแปลบจนข้อมือสั่นชา ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งที่เมื่อครู่กำไลหลวมใหญ่กว่าข้อมือของผู้ชายแบบทัคทวา มาเวลานี้กำไลนั้นกลับพอดีกับข้อมือผอมบางของเธอ มันพอดีจนเห็นได้ชัดว่าดึงออกจากมือไม่ได้ เกือบคล้ายปลอกข้อมือ...หรือตรวน...ที่จะต้องถอดตรงสลักหรือใช้กุญแจมาไขเอา
หญิงสีขาวเงยหน้าขึ้นมองจ้าวเกาะลาตา
"ที่จริง...กุญแจมีสองวง" ทัคทวายิ้มเล็กน้อย เลิกผ้าคลุมไหล่ของตนขึ้น มาเวลานี้เอง เมราลจึงเห็นว่าอีกฝ่ายสวมกำไลต้นแขนอยู่ ท่ามกลางเครื่องประดับทองและเงินมากมาย กำไลวงนั้นเป็นสีดำสนิท ทำเป็นรูปมังกรลาตาขดตัวเป็นวงเช่นกัน
"ท่านเมราลทราบหรือไม่ จ้าวเกาะลาตาได้กำไลสองวงนี้จากนักบวชพรหมจรรย์ กำไลต้นแขนขวากับกำไลข้อมือซ้าย" จ้าวเกาะกระซิบแผ่วเบา "หลายร้อยปีนี้มันตกทอดมาในตระกูลของข้า ท่านทราบหรือไม่ว่าตั้งแต่เด็กมา ข้าฝัน ข้าฝันเห็นหญิงงาม ผิวขาว ดวงตาสีแดง ข้าเห็นหน้านางไม่ถนัด แต่ทราบว่านางต้องคล้ายท่าน นางบอกข้าเสมอว่าต้องการสิ่งใด ให้กลับมาเอาไป ยามทราบว่าราชินีแห่งเกาะมังกรขาวเป็นหญิงเช่นนั้น ข้าก็ดีใจ"
"ท่านพูดอะไร"
"กำไลสองวงนี้เป็นของหมั้น นักบวชหญิงพรหมจรรย์รักจ้าวเกาะลาตายิ่งนัก เขาบอกนางว่าข้ากลัวเจ้า เจ้ามีพลังมากกว่าข้า นางก็ว่าถ้าอย่างนั้นข้าจะให้ท่านมีอำนาจเหนือข้าแล้วกัน ข้าจะให้กำไลอันเป็นกุญแจประตูมังกรกับท่าน กำไลขวาจะบังคับกำไลซ้าย น่าสนุกที่มันใช้ได้กับท่านเมราลด้วย"
หญิงสีขาวชาวาบทันที ครั้นแล้วเธอก็รู้สึกได้ว่าทัคทวาคว้าตัวตนไว้ แขนแข็งแรงรัดเอวบอบบาง มืออีกข้างจับหลังศีรษะ ปากประกบปากแต่เมื่อไรไม่ทราบ เขาจูบเธออย่างเย้ยหยันหยาบคาย
ยามได้สติ เมราลก็ผลักออกโดยแรง เงื้อมือขึ้นจะใช้พลัง ก่อนจะพบว่าตนใช้อะไรไม่ได้ เธอไม่ได้นำมากาติดตัวมาด้วย คนทั้งหมดล้วนขึ้นไปบนดาดฟ้า ไม่มีใครอยู่ใต้ท้องเรือ
เธอประมาทเกินไป
"นางงูพิษร้าย" ทัคทวายกมือป้ายปาก "ข้ายังไม่คิดทำอะไรเจ้า แต่คืนนี้เจ้าจะต้องมาหาข้าที่เรือของข้า เราจะเจรจากัน ข้ารู้ดีว่ามีพลังในแผ่นดินนี้ และเจ้าจะต้องนำมาให้ข้า"
เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเมราลถอยกรูด เห็นรอยยิ้มเย้ยหยันชัดเจน
"หากไม่มา ผู้ใดก็ถอดกำไลนี้ไม่ได้ เจ้าจะต้องตกอยู่ใต้อำนาจข้าไปจนตาย"
ครั้นแล้วเจ้าเกาะลาตาค้อมศีรษะให้เธอหน่อยหนึ่ง ก่อนจะหันหลังจากไป
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ก.ค. 54 00:44:34
|
|
|
|