Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เซรีญา The Dragon's Gate (10) ติดต่อทีมงาน

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10109516/W10109516.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10161148/W10161148.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10183691/W10183691.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/06/W10737872/W10737872.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/07/W10823758/W10823758.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10933375/W10933375.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11142234/W11142234.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11146239/W11146239.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11151078/W11151078.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11205594/W11205594.html

###

คุณ pinupaong @ โฮก!

คุณน้ำหวาน @ เล่นงานเลยเหรอขอรับ...โอเค

คุณดอกบัวขาวน้อยในสระกว้าง @ ตาเกจคงไม่ยอมซูฮกใครง่าย ๆ เชียร์เซรีดีกว่าเน่อ

คุณ chaiyanun @ นั่นสิคะ...อืมมมม

คุณ varavari @ เฉาะเลยฤาท่าน...

พี่โร @ เอ่อ โหดมากคับ...

เป้ @ เด็กชายเกจที่ถูกรังแก...

คุณนริน @ เป็นแฟนกันนานเลยติดเชื้อกันเน่อ

คุณ Canossa @ มันพิมพ์ผิดน่ะคับ แต่ทำไมเซนเซอร์ไม่รู้ ไม่คิดว่าหยาบนะ

คุณ Draconia @ เค้าเห็นเกจกัดผ้าเช็ดหน้าร่ำไห้อยู่แน่ะ...

คุณ scottie @ เจอกันแล้วค่า ^^

ทินา @ มัน "เกาะเสือ" อะ พิมพ์เกินมา ทำไมกลายเป็นหยาบไม่รู้

คุณ river @ ปัญหาคือทัคคุงก็เก่งเหมือนกันนะขอรับ...

คุณเจรามี @ โอเค ขบโลด

คุณเพียว @ มาต่อแล้วเน่อ

คุณ Sudiarill @ เอ อันนี้ลองอ่านต่อไปดีกว่าเนอะ

คุณแสนดีคนในพื้นที่ @ ตามมาเลยค่า

###

๑๐.

"อย่าลุก" เสียงลอร์คานดังขึ้นข้างหู

เมราลสะท้านนิดหนึ่ง  เมื่อครู่เธอได้ยินเสียงของเขา...และเสียงต่อสู้   แต่ยังไม่อาจเชื่อได้ว่าจะเป็นความจริง  หญิงสีขาวยกมือขึ้น  และรับทราบว่าอีกฝ่ายจับมือเธอไว้  ความเจ็บปวดทำให้ตาที่เกือบบอดยิ่งพร่า  มองไม่เห็นอะไร  ทราบแต่เพียงว่า...ลอร์คานมาจริง ๆ  เธอสะท้านอีกครั้งตอนที่สิงโตทรายจับตัวอุ้มขึ้นพิงร่าง  เขาสำรวจว่ามีบาดแผลที่ใดบ้าง  กระดูกเป็นอะไรไปหรือไม่

"ข้าอัดลิ้นปี่มันสลบแล้ว  มัดมันไว้" ชายหนุ่มบอกตอนที่เธอขยับหันไปอีกทางหนึ่ง "ไม่เป็นไร"

เธอตัวสั่น  สั่นแรงจนสิงโตทรายกลัว   ชายหนุ่มไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร  เขาพูดคำหวานไม่เป็น  นอกจากนั้น ในใจของเขาก็แปลก...นานมาก  นานเกินไป  นานจนแทบไม่อยากเชื่อว่าจะได้ตัวเมราลว่าไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง  ไม่น่าเชื่อว่าจะได้พบกันเช่นนี้เลย

"เจ้าคือเมราลจริง ๆ ใช่ไหม" เขาพึมพำถามเบา ๆ "เมราลจริง ๆ"

ยามเขาถามเช่นนั้น  เมราลจึงค่อยได้สติขึ้นอีกเล็กน้อย  ความเจ็บปวดพอจะซาลงบ้างแล้ว  และเธอก็รู้สึกถึงไออุ่นจากร่างกายอีกฝ่าย   มือเขาอุ่น  ใหญ่หนาหยาบกร้าน  ทำให้รู้สึกปลอดภัย  เธอจำมือนั้นได้  จำความรู้สึกยามอีกฝ่ายอยู่ใกล้  หญิงสาวฝืนร่างกายตน  ขยับจากมือเขา  เบือนหน้ากลับมา  เธอยกมือขึ้น  สัมผัสช้า ๆ ...รู้สึกได้หรอกว่าเป็นลอร์คาน   แต่อยากสัมผัสด้วยมือของตน  ให้แน่ใจว่าไม่ใช่ภาพมายาที่สร้างขึ้นเอง  และจะสลายหายทันทีที่ดวงใจแส่ส่ายไป

ไหล่เขากว้าง  กว้างมาก  หน้าอกก็กว้างเช่นกัน  กล้ามเนื้อหนา  รูปหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยเพราะล่วงเข้าวัยฉกรรจ์  ยังคงไม่ยอมโกนหนวดเครา  ผมก็สากหยาบไม่หวีสาง  เป็นผู้ชายที่ไม่สนใจดูแลตัวเอง

"เจ็บหรือเปล่า" เขาถามอยู่ใกล้ ๆ

"ข้าไม่เป็นไร" เธอบอกได้ในที่สุด

แต่แล้วหญิงสีขาวก็รู้สึกตัว   ลอร์คานช้อนมือซ้ายของเธอขึ้น   เขามองมือนั้น  และเธอก็รู้...เขาต้องเห็นว่าไม่มีกำไลทอง  บนข้อมือมีแต่กำไลมังกรสีดำ  เธอบอกเขาว่าจะไม่ถอดกำไลตลอดไป  ร่างกายซีกซ้ายจะเป็นของเขาแต่ผู้เดียว  ลอร์คานเห็นแบบนี้จะคิดอย่างไร

"ข้า..." หญิงสีขาวพยายามจะอธิบาย

"ข้ามียา" ลอร์คานบอก

คำของเขาทำให้เธองงวูบ   แต่แล้วเมราลจึงเห็นเขารื้อหาของในถุงข้างเอว  สิ่งที่หยิบออกมาคือกระปุกยาขี้ผึ้งธรรมดา  เขาช้อนข้อมือของเธอไว้  กำไลมังกรดำรัดเนื้อตรงนั้นจนกลายเป็นสีแดงช้ำห้อเลือด  เขาก็ทายาให้

"เจ็บหรือเปล่า  ควรรีบไปจากที่นี่  ให้เทรมิสใช้เวทมนตร์รักษา" เขาบอก

...เขาเชื่อท่าน...ดูเหมือนพ่อมดจะเคยบอกอย่างนั้นเมื่อนานมาแล้ว...เขาเชื่อใจท่านกว่าผู้ใด...

ครั้งแล้วครั้งเล่า  การกระทำเหล่านั้นทำให้เธอจำได้  การกระทำเรียบง่าย  ตรงไปตรงมา  มันทำให้เธอทราบว่าตนรักเขาเพราะอะไร  รักเขายิ่งกว่าใคร ๆ เพราะอะไร

เธอทำอะไรไม่ได้  เธอกอดเขาไว้  กอดทั้งยังทายาไม่เสร็จ   ร้องไห้  นานแสนนานแล้วที่ไม่ได้ร้องไห้จริง ๆ  อย่างมากก็เพียงมีน้ำตา  เธอร้องไห้เช่นนี้เขาก็ตกใจ  กอดเธอไว้  เขาเองย่อมรู้สึกอะไรมากมาย

"อย่าร้องไห้" ลอร์คานได้แต่บอก "อย่าร้องไห้  เมราล  มีอะไร  ใครทำอะไรเจ้า  ข้าจะฆ่ามัน"

ที่จริงยังมีเรื่องร้อนอีกมากมาย  มีสิ่งควรเล่า  แต่ชั่วขณะนั้น เมราลไม่อาจพูดอะไรได้  เธอจากเขานานมากแล้ว  นานเกินไป  นานจนความคิดถึงแทบทำให้โลหิตเหือดแห้ง  และหัวใจแหลกสลาย

..................................................................................................................................................................

งานเลี้ยงกำลังจะเลิกรา

ไม่มีพระจันทร์บนฟ้าแล้ว  เซรียังคงยืนคุยกับผู้คนที่กำลังจะจากไป  เธอเก่งเรื่องนี้ขึ้นมาก  แต่ยังเหมือนท่านอา  คือไม่ค่อยชอบงานสังสรรค์เท่าไร   เจ้าชายยาเรฟเป็นคนประเภทให้คบหาคนพูดคุยก็ทำได้   แต่พอเจองานสังสรรค์มีคนใหญ่คนโตโอ้อวดกันนักจะเร่งหนีหาย   กลับวังเสือหรือไม่ก็ออกนอกเมืองหลวง...ไปทำงาน

...ที่จริงการพบปะผู้คนก็เป็นงาน  เจ้าควรเรียนไว้...ท่านอาเคยบอกอย่างนี้...แต่ไม่จำเป็นต้องทนอะไรที่ไร้สาระเกินไปนักหรอก  ชีวิตสั้น  สิ่งที่ไม่สำคัญก็คือสิ่งที่ไม่สำคัญ...

เซรีคิดว่าท่านแม่ได้ยินอะไรแบบนี้  มีหวังบ่นว่าท่านอาสอนอะไรก็ไม่รู้  ท่านแม่เห็นว่าความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญ   แต่ก็อีกนั่นละ  แต่ละคนก็เก่งเรื่องต่างกันไป   เพราะอย่างนั้นท่านพ่อ ท่านอา หรือท่านแม่จึงต่างมีเรื่องที่ตัวเองทำได้และทำไม่ได้   เธอก็เหมือนกัน  เทรมิสก็เหมือนกัน

พอนึกถึงเทรมิส  เจ้าหญิงก็มองหาเขาอีกรอบ  พ่อมดราวกับรู้  ยามแขกตรงหน้าจากไปแล้ว  ชายหนุ่มจึงเข้ามาใกล้  เขาจับแขนเธอหลวม ๆ   ส่งกระบอกไม้ใส่น้ำมา  เจ้าหญิงรับไปดม ๆ เห็นว่าไม่ใช่เหล้าจึงดื่มลงไป

"ที่นี่ปลูกกาแฟได้ด้วย" พ่อมดบอก "เขาได้เมล็ดจากพ่อค้าที่ผ่านมา  มีคนลองปลูกดู  ยังไม่ถึงขั้นจะขาย  แต่หากทำได้เมื่อไร  ก็จะตัดราคากาแฟที่มาจากอีกทวีปทันที"

"ท่านรู้ได้อย่างไร" เจ้าหญิงสงสัย

"ข้าจับคนโคแรนนิอิดกินเข้าไป  เลยมีพลังหยั่งรู้ขึ้นมา"

เซรีย่นจมูกใส่เขาหนึ่งที

ระหว่างเวลานั้น  ผู้เฒ่าซีเกที่ล้ามากแล้วก็เริ่มรวบรวมคนของตน  เขาบ่นว่าตัวไม่ใช่หนุ่ม ๆ แล้ว  ให้อยู่ดึกถึงเพียงนี้ออกจะทรมานสังขารเกินไป  แต่ในที่สุดผู้เฒ่ากลับยังอดรอดู "พวกเด็ก ๆ" ให้ครบคนไม่ได้  ส่งผลให้บรรดาเด็กซึ่งที่จริงก็ไม่เด็กเท่าไรพากันบ่นอุบอิบว่ารู้สึกเหมือนมีแม่แก่ ๆ คอยเฝ้าทีเดียว

"ไม่เฝ้าพวกเจ้า  ขืนไปทำรุ่มร่ามกับผู้หญิงเข้า  ข้าจะเอาหน้ากลับไปหาท่านเมราลได้อย่างไร" ผู้เฒ่าขึ้นเสียงดุ "ว่าแต่ไอ้วิเทนหายไปไหน   ตั้งแต่หัวค่ำมาข้ายังไม่เห็นมันเลย"

"วิเทนมันสบายไปแล้วขอรับ" ใครคนหนึ่งพูดลอย ๆ   คนที่เหลือแถวนั้นเลยพากันชักมีดขึ้นมาดู ๆ

จริงดังว่า วิเทน "สบาย" ไปแล้ว   เพราะแม้ท่านเมราลจะบอกว่าห้ามทำรุ่มร่าม  แต่ไม่ได้ห้ามเกี้ยวแต่อย่างใด  ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่หัวค่ำที่ผู้เฒ่าซีเกยังเห็นหัวเขาอยู่นั้น   ชายหนุ่มก็ดำเนินการเชิงรุกเต็มอัตราเรียบร้อยแล้ว   มีคนเห็นเขาพูดคุยหยอกล้อกับผู้หญิง  ท่องกลอนแถมยังเล่นดนตรีให้ฟัง  ว่าไปพวกผู้หญิงคงชอบอะไรแบบนั้นกระมัง  ในชั่วไม่ช้าไม่นาน  ขณะที่คนอื่นยังได้แต่มองไปมองมา  วิเทนก็เริ่มนั่งคุยกับผู้หญิง...ซึ่งเพิ่มจากหนึ่งคนเป็นสองคน  สามคน...

"มันจะสบายหรือไม่สบายก็เถอะ  ใครก็ได้ไปลากมันกลับมาที" ผู้เฒ่าซีเกกอดอก "ข้ายังไม่อยากเห็นมันถูกพ่อหรือพี่ชายผู้หญิงที่ไหนเชือดตาย"

ระหว่างที่ทุกคนหัวเราะ  แยกย้ายกันออกตาม  เกจก็มองกลับไปทางเจ้าหญิงกับพ่อมด  คนทั้งสองคนคงออกสำรวจเกาะพรุ่งนี้   ชายหนุ่มคิดว่าตนควรไปด้วยเช่นกัน  ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้มาเกี้ยวผู้หญิงอยู่แล้ว  และวันนี้เทรมิส นิ รูฮาห์ก็ทำให้เขาเข้าใจขึ้นมา...การรู้อะไรน้อยไปเป็นอันตราย   ต้องรู้ให้มากกว่านี้   ทั้งไม่ใช่เพียงเรื่องที่ตัวเองสนใจ

เขาควรไปกับสองคนนั้น  เพราะไปคนเดียวก็ไม่มีประโยชน์   แต่ในเวลาอย่างนี้  เกจไม่ทราบจะเข้าแทรกอย่างไร  เขากำลังชั่งใจว่าควรรอเอ่ยปากพรุ่งนี้เช้าหรือไม่   แต่ตอนนั้นเอง คนที่ไปตามวิเทนก็กลับมา

"หมอนั่นไม่อยู่ในงาน  ท่านผู้เฒ่า" ชายหนุ่มหลายคนดังกล่าวบอก "ไม่อยู่ที่ไหนเลย"

...

เมื่อแรกยังไม่มีใครกังวลเท่าไร

พวกเขาคิดว่าวิเทนคงอาจติดตามผู้หญิงในวังเข้าไปที่ไหนสักแห่ง   ไม่อย่างนั้นก็อาจตามผู้หญิงกลับบ้านก็ได้  ทว่าเมื่อผู้เฒ่าคาดคั้นว่าจะต้องค้นหาให้เจอ  จึงมีการค้นอีกครั้ง  ไม่ช้าจ้าวเกาะก็ทราบเรื่อง  ชายชราเอื้อเฟื้อให้คนของตนไปช่วยตามเช่นกัน

ทว่ายามเวลาผ่านไป  ความคิดที่ว่าวิเทนคงรักสนุกเท่านั้นกลับเริ่มเปลี่ยนแปลง  ไม่มีใครพบชายหนุ่มตระกูลช่างต่อเรือที่ใด  เขาไม่อยู่ในรัศมีหนึ่งโยชน์รอบงาน   แม้ให้คนจุดไต้ออกไปดูตามสถานที่ใกล้ ๆ  ก็ไม่ปรากฏร่องรอยเช่นกัน

"มันจะไปไหนได้ไกล" ผู้เฒ่าซีเกเริ่มไม่สบายใจ

แต่ดูเหมือนจ้าวเกาะจะคิดอะไรอีกอย่างหนึ่งแล้ว  ชายชราลูบคาง เริ่มสอบถามว่าใครที่เห็นวิเทนเป็นคนสุดท้าย และเห็นหรือไม่ว่าตอนนั้นเขาอยู่กับใคร

"เขาอยู่กับผู้หญิง" เป็นคำยืนยันจากเพื่อน ๆ แต่เจ้าเกาะไม่ได้พอใจเพียงนั้น  กลับพยายามซักถามต่อให้ได้ว่าผู้หญิงหน้าตาเป็นอย่างไร  พวกโคแรนนิอิดก็ได้แต่มองหน้ากัน  ขณะที่คนสิปาไม่ชินกับหน้าคนโคแรน  คนโคแรนเองก็ไม่ชินกับหน้าคนสิปา  ผู้หญิงสิปาสาว ๆ ในสายตาของพวกชายหนุ่มล้วนมีผิวสีน้ำผึ้ง  หน้าตาคมงามคล้าย ๆ กัน  อย่าว่าแต่เจ้าวิเทนน่าอิจฉาเกินไป  เลยไม่มีใครอยากจะชายตามอง

"พวกนางทัดดอกไม้สีขาว" ในที่สุดก็มีคนตาดีนึกออก "น่าจะใช่  ข้าเห็นดอกไม้แปลกจากคนอื่นเลยจำได้"

"อา..." จ้าวเกาะครางในคอ   ยามได้ยินเสียงอย่างนี้  คนฟังย่อมรู้แล้วว่ามีเรื่องร้าย  ทั้งผู้เฒ่าซีเกทั้งเซรีก็เกือบจะถามขึ้นพร้อมกันว่ามีอะไร

"พิธียังอีกหลายวัน  ข้าไม่คิดว่าพวกนางจะมาเร็วอย่างนี้เลย"

...

พวกนางลงมาจากภูเขา

"นางเป็นธิดาชองงูขาว" จ้าวเกาะอธิบาย  ยามคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจ  เขาจึงบอกต่อ "งูขาวคือธิดาสุดท้องของสิวากับปารัง"

เขาเล่าตำนานกำเนิดโลกคร่าว ๆ อย่างรวดเร็ว  จากนั้นจึงอธิบายว่าสิปาก็เช่นเดียวกับเกาะอีกมากมายในหมู่เกาะลาตา  เป็นเกาะภูเขาไฟ  ภูเขาไฟบางลูกดับสนิทนานแล้ว  บางลูกกลับไม่มีใครแน่ใจ  ยามภูเขาไฟระเบิดพ่นหินเหลวร้อน  ผู้คนก็ต้องย้ายออกจากที่อยู่  กระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ไปที่ใด เพราะหินเหลวจากภูเขาไฟทำให้เกาะอุดมสมบูรณ์   พวกเขาจึงนับถือว่าเทพเจ้าอยู่บนภูเขา  และเชื่อว่าหากให้ความเคารพนับถือกับบรรดาเทพเจ้าแห่งธรรมชาติ  ตนจะได้รับการคุ้มครอง

"มีเทพเจ้าของแผ่นดิน  และเทพเจ้าผู้เป็นบรรพบุรุษ  งูขาวถือว่าเป็นเทพบรรพบุรุษ  แม้นางจะไม่มีทายาทชาย  ยามที่เกาะปีศาจล่มสลาย  มีธิดาของงูขาวกลุ่มหนึ่งหนีมาอยู่ที่สิปา  พวกนางมีวิหารของตัวเองบนเขาเช่นเดียวกับเทพเจ้าอื่น ๆ  ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร"

"เป็นพวกนางหรือที่มาเอาวิเทนไป" ผู้เฒ่าซีเกงุนงง "แต่ท่านจ้าวเกาะ  เหตุใดพวกนางจึงทำอย่างนั้น"

"พวกนางจะลงจากเขาทุกสองสามปี  และจับชายต่างเกาะไปในช่วงพิธีจันทร์เพ็ญ  พวกเราได้แต่เตือนคน  แต่ห้ามนางไม่ได้  ไม่ว่าจะพยายามเท่าไร  นางก็มักได้ตัวคนไป" จ้าวเกาะบอก "แต่ปรกตินางจะมาในระหว่างพิธี  พวกเราจึงยังไม่ได้เตือนท่าน  ที่จริงเราไม่คิดว่า..."

เขาเงียบไป  แต่ทุกคนก็รู้  ที่จริงคงไม่มีใครคิดว่าพวกธิดางูขาวอะไรนั่นจะจับเอาตัวคนโคแรน...พวกโคแรนไม่ใช่ "คนต่างเกาะ" แต่เป็น "คนต่างเผ่า"  คนสิปาที่ไม่แน่ใจก็ยังไม่ทราบว่าควรติดต่อบอกเล่าอะไรให้คนต่างเผ่าฟังมากเท่าไร

"เหตุใดพวกนางจึงจับวิเทน  เขาจะเป็นอะไรไหม" ผู้เฒ่าซีเกถาม

"ชายต่างเกาะมักถูกส่งตัวคืนมาในสามวัน  พวกเขาไม่เคยเป็นอะไร  แต่ก็จะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง" จ้าวเกาะบอก "พ่อของพ่อข้าเคยไปหาพวกนาง  ขอให้นางเลิกทำเช่นนี้  พวกนางว่าทำไม่ได้  จำเป็นต้องกระทำตามคำสั่งเสียของหัวหน้านักบวชที่ตายไป"

"หือ"

"นักบวชหญิงคนนั้นที่สาปแช่งจ้าวเกาะลาตา  ไม่ให้ขึ้นเกาะปีศาจได้" จ้าวเกาะบอก "นางทิ้งคำทำนายไว้ บอกว่าประตูมังกรจะไม่มีวันเปิดอีกครั้ง  ตราบใดที่งูขาวยังไม่ได้สมรสกับนกอินทรี   ในหมู่เกาะลาตา นกอินทรีหมายถึงผู้ชาย  ผู้หญิงคือปลาโลมา  ที่เกาะปีศาจไม่มีทั้งอินทรีและโลมา  มีแต่งูขาว  ดังนั้นจึงหมายความว่าให้สมรสกับชายจากต่างเกาะ  ข้าไม่รู้หรอกว่าประตูมังกรคืออะไร  แต่คงสำคัญสำหรับพวกนาง"

หลังจากนั้น  แม้หลายคนจะยังไม่ค่อยกระจ่างกับระบบอันแปลกประหลาดของสิปา  แต่จ้าวเกาะก็ยืนยันว่าถ้าผู้เฒ่าซีเกไม่สบายใจ  ตนจะส่งคนขึ้นไปถามยังวิหารของพวกงูขาวภายในวันพรุ่งนี้   แน่นอนว่าในฐานะแขก  คนโคแรนย่อมไม่มีทางต่อรองอะไรมากได้   ผู้เฒ่าจึงพาคนของตนกลับที่พักในที่สุด  ต่างคนก็ต่างไม่ใคร่สบายใจ

"วิเทนมันอาจจะกำลังขึ้นสวรรค์อยู่ก็ได้" มีคนพยายามทำตลกขึ้นมา

"ขึ้นสวรรค์หรือ  ข้าว่าแปลกพิกล" อีกคนว่า

"หือ"

"ข้าอาจจะคิดไปเอง  แต่ว่า...งูขาวกับอินทรี" คนตั้งข้อสังเกตมองท้องฟ้า "ท่านเมราลของเราก็เป็นงูขาวเหมือนกัน  ...และประตูมังกร"

"เฮ้ย จะเกี่ยวกันได้อย่างไร" คนฟังตัดบททันที

เกจที่ฟังอยู่ไม่ได้พูดอะไร   แต่เขาก็เริ่มไม่สบายใจเช่นกัน  ความไม่สบายใจมีมากนัก  เมื่อกลับถึงที่พัก  เขาจึงเข้าไปหาเซรี

"พรุ่งนี้พวกท่านจะออกเดินทางเพื่อสำรวจวิหารใช่ไหม" ชายหนุ่มเร่งถามเธอ  ลืมเรื่องอ้อมค้อมไป "ขอให้ข้าไปด้วย  และไปยังวิหารของงูขาวก่อนได้หรือไม่  ข้าไม่สบายใจเรื่องวิเทน"

เจ้าหญิงมองเทรมิส  พ่อมดจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น

"คงต้องมีหนังสือรับรองและอนุญาตจากจ้าวเกาะ  ถ้าจะไปที่อย่างนั้น" เขาบอก "พรุ่งนี้เช้าคงต้องไปขอ  ไม่อย่างนั้นก็อาจจะใช้วิธีขอติดตามคนที่จ้าวเกาะจะส่งขึ้นไปถามเรื่องวิเทน"

พ่อมดเงียบอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะมองเกจ

"ข้าไม่อยากคิดมากไป  แต่...เกจ...นอกจากเรื่องวิเทน  จ้าวเกาะลาตาคนนั้นที่กำลังจะมา  คนเขาเรียกว่าทัคทวานกอินทรีหรือไม่ใช่"

"ท่านคิดเลยเถิดไป  ความฟุ้งซ่านไม่มีประโยชน์ใด" เกจตอบเสียงต่ำทันที "ความเชื่อบางครั้งก็ไม่เป็นแก่นสาร  และคำทำนายก็อาจจะไม่จริง  ท่านเป็นสัตว์ร้าย  ต้องรู้เรื่องนี้ดีไม่ใช่หรือไง"

"แต่นางเป็นราชินีเกล็ดเงินแห่งโคแรนนิอิด" เทรมิสไม่กลัวอาการคุกคามของอีกฝ่าย  เขาไม่สบายใจ "พวกเจ้าคิดว่าถ้าช่วยเผ่าได้  นางจะทำหรือไม่ทำ"

................................................................................................

แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 54 01:03:08

แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 54 01:00:58

แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 54 10:15:11

แก้ไขเมื่อ 30 ต.ค. 54 03:43:40

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 03:41:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com