Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรือนกุหลาบ บทนำ ติดต่อทีมงาน

ปลายเดือนมกราคม ฤดูหนาวหอบเอาลมเย็นพัดผ่านไปทุกพื้นที่ เช่นเดียวกับหลังโรงเรียนแห่งนี้ เด็กหญิงผิวขาวจัดคนหนึ่งกำลังนั่งจมอยู่กับความรู้สึกหวาดกลัวทางใจ คละเคล้าความเจ็บปวดทางกายที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

ไอหนาวผะผ่าวผิวหน้าจนแก้มขึ้นสีเลือดฝาด เด็กหญิงกอดเข่าตัวสั่นเทิ้ม เสียงสะอื้นไห้ของเธอเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ นิ้วหัวแม่มือข้างขวาถูกกุมไว้แน่น รอยแยกของเนื้อหนังมีโลหิตสีแดงข้นไหลลงมาเป็นทาง ยามเย็นเช่นนี้ผู้คนเบาบางเพราะเริ่มทยอยกลับบ้านกันไปหมดแล้ว เหลือแต่นักเรียนรุ่นพี่บางคนเดินผ่านร่างเธอ แต่ไม่มีใครสนใจจะเข้ามาถามความทุกข์ร้อนของเธอเลยแม้แต่คนเดียว

กวิน..นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่สามเพิ่งเสร็จจากการช่วยงานติดบอร์ดนิทรรศการที่ห้องแนะแนว เขาเดินลงบันไดมาพร้อมกับกระเป๋าหนังสีดำใบกะทัดรัด เด็กหนุ่มเลือกที่จะเดินออกจากโรงเรียนโดยใช้เส้นทางโปรด คือประตูด้านหลัง วันนี้ไม่มีพี่เลี้ยงมารอรับเขาเหมือนเช่นทุกวัน แต่เด็กหนุ่มผมทรงนักเรียนก็ไม่หวาดหวั่นที่ต้องกลับบ้านเพียงลำพัง

เสียงสะอื้นไห้ของเด็กหญิงตัวเล็กร่างผอมคนนั้นเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ กวินยืนมองเธอตัวแข็งทื่ออยู่ตั้งนานแล้วตัดสินใจอยู่นานว่าจะเข้าไปปลอบหรือไปช่วยเธอดีหรือไม่ เสื้อนักเรียนเครื่องแบบเด็กชั้นประถมเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด กวินเป็นคนกลัวเลือด เขารู้สึกหวาดเสียวทุกครั้งที่ได้เห็นสีแดงฉานของมัน เด็กหนุ่มสงสารเธอมาก แต่ก็ต้องชั่งใจหนักหน่อยกว่าจะกล้าขยับขาออกเดินเข้าไปหาเธอในครั้งนี้

“เลือดไหลเต็มเลย ไปโดนอะไรมา” เขาถามเสียงสั่น ใจหนึ่งก็อยากช่วย ใจหนึ่งก็กลัวเลือด

เด็กหญิงผมหยักศกล้อมกรอบใบหน้าเล็กผุดผ่องคนนั้นหันมาตามเสียง ดวงตากลมราวไข่มุกลูกเล็กดวงนั้นเบิกกว้างด้วยความดีใจ ทั้งที่น้ำตายังอาบสองแก้ม

“คัตเตอร์บะ..บาด ค่ะ พี่” คำตอบนั้นค่อยๆหลุดออกมาจากริมฝีปากแดงจิ้มลิ้ม สลับกับเสียงสะอื้นเป็นจังหวะติดต่อกัน มือน้อยยังกุมนิ้วหัวแม่มือข้างขวาไว้แน่นอย่างพยายามจะห้ามเลือด

“หนะ..หนู ล้างน้ำก๊อกแล้ว แต่ มะ มัน ไม่ยอมหยุดซะที” เด็กหญิงอธิบายต่อ กวินมองเลือดที่ไหลเป็นทางด้วยความหวาดเสียวในใจ มือล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนสีน้ำเงินออกมายื่นให้เธอ

“เอามือปิดยังงั้น เลือดมันไม่หยุดหรอก อะนี่ เอาผ้าไปพันซะ” เด็กหญิงตากลมแหงนหน้าขึ้นมองสิ่งที่เขายื่นให้เธอ แต่ก็ยังคงนิ่งงันอยู่อย่างนั้น ไม่เอื้อมมือมารับ ดวงตากลมใสไร้เดียงสาส่งสายใยบางอย่างมาผูกมัดหัวใจเด็กหนุ่มเอาไว้ กวินยอบตัวลงนั่งยองๆ ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

“มา..พี่พันให้ดีกว่า”

บอกพลางคลี่ผ้าเช็ดหน้าผืนโปรดออก แล้วพับม้วนให้แน่นเป็นปึกก่อนจะพันรอบนิ้วโป้งอาบเลือดสดให้กระชับ

“ต้องใช้ผ้าพันยังงี้รู้ไหม ไม่งั้นเลือดออกหมดตัว ถึงตายนะน้อง” กวินขู่อย่างหวังจะให้เธอสำเหนียกรู้อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเสียบ้าง ทว่าเด็กหญิงกลับหยุดร้องไห้ ระบายยิ้มน้อยๆออกมาด้วยความอุ่นใจ

“ขอบคุณค่ะพี่”

เด็กหนุ่มชะงัก  นัยน์ตาสุกสกาวคู่นั้นจ้องมองเขาอย่างจะขอบคุณ ความไร้เดียงสาที่มาพร้อมกับความใสซื่อของเธอ ทำให้เด็กหนุ่มต้องผงะถอยไปเล็กน้อยโดยไม่ทันรู้ตัว กวินรีบปล่อยมือที่สัมผัสผิวนุ่มของเด็กหญิงออก ยกมือปัดป่ายเกาท้ายทอยอย่างเขินๆ เสียงหัวเราะสดใสเล็ดลอดไรฟันน้ำนมขาวสะอาดออกมาเมื่อมองเห็นกิริยาแบบนั้นจากรุ่นพี่ตัวโต

“ไปทำอะไรมาน่ะเรา เลือดถึงได้โชกแบบนี้”

กวินถามแก้เขิน

“หนูกรีดก้นกระป๋องพัดติกจะทำโคมไฟส่งครูอะค่ะ แต่มันกรีดแรงไปหน่อยเลยกินมือหนูไปด้วย”

นัยน์ตายิ้มได้เริ่มเหือดแห้งจากรอยน้ำตา เด็กหญิงแก้มแดงตอบอย่างไม่กล้าสบตา กลัวถูกรุ่นพี่ว่าเหมือนมารดาที่เพิ่งห้ามเธอไม่ให้กระทำการดังกล่าวมาตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน

“กระป๋องอะไรนะ ฟังไม่ถนัด” กวินเงี่ยหูฟังอีกครั้งเมื่อรู้สึกทะ:-)ๆกับคำบางคำในประโยค เสียงหัวเราะใสดังขึ้นอีกคำรบ

“พลาด สะ ติก ค่ะพี่ “

“แหม..พูดซะย่อ พี่ก็งงสิครับ”

“อูย ซี้ด..” เจ้าหญิงตัวบางหยีตาพลางกระชับมือลงบนผ้าด้วยความเจ็บปวด

“เอ้า เจ็บไหมล่ะนั่น ใช้คัตเตอร์ไม่เป็นทีหลังอย่าทำเองอีกนะ อันตราย เอามาให้พี่ช่วยก็ได้”

กวินเสนอตัวทั้งที่เพิ่งรู้จักกับเด็กหญิงครั้งแรก

“ก็หนูกลัวถูกครูตีอะค่ะ วันนี้ครูบอกเป็นวันสุดท้าย ถ้าใครไม่ส่งจะถูกตี” เด็กหญิง เงยหน้าขึ้นจากความเจ็บปวดชั่วคราว แววตาของเธอบอกชัดว่าเกรงกลัวคุณครูคนดังกล่าวมาก ดวงตาที่โตอยู่แล้วแทบจะถลนเมื่อเอ่ยถึง

“แล้วทำไมไม่รีบทำตั้งแต่แรก มาทำเอาป่านนี้ก็ลนน่ะสิ เห็นไหมเจ็บตัวเลย” กวินแกล้งทำเสียงดุ แต่ก็หลุดอมยิ้มอย่างไม่เหลือความน่ากลัวแบบที่ตั้งใจไว้เลย

“คือว่า..อูย ซี้ด” รุ่นน้องหน้าเริ่มซีด พลางส่งเสียงโอครวญเป็นระยะ “หนูหมกงานเองอะค่ะ เพิ่งนึกออกวันนี้ คุณแม่ว่าใหญ่เลย แล้วก็ห้ามไม่ให้หนูแอบทำเองด้วย ปกติคุณแม่จะเป็นคนทำงานประดิษฐ์ยากๆให้ค่ะ”

“นั่นไง เด็กชอบหมกงาน” กวินแกล้งแหย่ แล้วก็ได้ผลคือเด็กหญิงยืดตัวขึ้นทันทีพร้อมกันสั่นศีรษะระรัว

“ไม่ใช่นะคะ หนูไม่ได้ชอบหมกงาน แต่วันนี้ลืมจริงๆ นี่ก็กลัวครูว่า กลัวถูกตี เลยต้องรีบมานั่งทำไงคะ”

“นี่ก็เลิกเรียนแล้วไม่ใช่เหรอ มาทำอะไรเอาป่านนี้” เสียงที่เริ่มแตกห้าวประสาวัยรุ่นแกล้งเอ็ดต่อ

“คือ..หนูโดดเรียนคาบสุดท้าย มานั่งทำตั้งนาน” เด็กหญิงยิ้มแหยๆ แต่ก็เปิดเผยความจริงตาประสาคนซื่อ”หนูกะว่ามาทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเอาไปส่งที่ห้องพักครู”

“เฮ้อ..คนเรา” กวินส่ายหน้าเมื่อได้ฟังคำตอบ “ไม่โดนครูตีเรื่องส่งงานช้า ก็ต้องโดนครูว่าเรื่องโดดเรียนเหมือนกันน่ะแหละ”

เด็กหญิงคนเดิมขมวดคิ้วมุ่นเหมือนกำลังคิดคำนวณอะไรบางอย่าง พักเดียวก็ทำคอตกเบะปากอยากจะร้องไห้

“นั่นสิ..เอ๋อจริงๆเลยเรา”

กวินได้แต่ส่ายหน้าเอ็นดู เด็กคนนี้นอกจากจะน่ารักใสซื่อแล้ว ยังแอบเป๋อบ๊องๆระคนกัน

“อูย..ซี้ด” โลหิตสีแดงเริ่มซึมออกมาจนเกือบจะชุ่มฉ่ำถึงเนื้อผ้าด้านนอก กวินรีบลุกขึ้นยืนพร้อมประคองตัวเด็กหญิงขึ้นมาด้วย

“รีบไปห้องพยาบาลเถอะ พี่ว่าเราต้องหาหมอเย็บแผลแล้วล่ะ”

คนเจ็บรีบส่ายหัวดิก

“ไม่เอาอ่ะ หนูกลัว ไม่อยากหาหมอ”

กวินทำตาดุใส่ทีเล่นทีจริง พลางเอ่ยแกมบังคับ

“ไม่ได้ ปล่อยไว้งี้บาดทะยักกินแหง ไม่หาหมอ นิ้วเน่านะจะบอกให้”
เด็กหญิงทำท่าละล้าละลัง

“อย่างงั้นเลยเหรอคะพี่”
เมื่อเห็นเจ้าหล่อนยังขืนตัวเกร็งไม่ยอมเดินตามเขามา เด็กหนุ่มจึงขู่สำทับเข้าไปอีก

“ไม่ใช่แค่นั้น..นิ้วเน่าแล้วต้องโดนตัดนิ้ว เป็นผู้หญิงนิ้วด้วน”
“หา! จริงง่ะ” เด็กหญิงอ้าปากค้าง ตาแทบถลนออกจากเบ้า

“จริง! เพราะงั้นต้องรีบไปห้องพยาบาล ให้คุณครูพาไปหาหมอ คุณหมอจะได้เย็บแผล นิ้วจะได้ไม่โดนตัด”

กว่ากวินจะพาตัวเด็กขี้แยไปส่งคุณครูฝ่ายพยาบาลได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยปาก ต้องปลอบแล้วปลอบอีกกว่าเด็กหญิงคนนั้นจะยอมก้าวขาออกมาทีละก้าวสองก้าว เด็กหนุ่มไม่ทราบข่าวคราวเรื่องบาดแผล และการส่งพบแพทย์อีกเลยหลังจากมอบตัวเด็กหญิงหน้าตาพริ้มเพราให้อยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่ เขาเดินกลับบ้านคนเดียว กว่าจะถึงก็ปาไปสองทุ่มเศษๆ โดนเอ็ดจากบิดาอีกเล็กน้อย

ทว่ากวินไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้เลย ค่ำคืนแสนสั้นสำหรับเด็กนักเรียนที่กำลังเตรียมสอบในอีกไม่กี่วันข้างหน้ากลับเป็นราตรีอันยาวนานสำหรับเขา ตลอดเวลาที่นอนก่ายหน้าผากก็มีแต่ภาพเด็กหญิงผิวขาวจัดน้ำตาอาบหน้า เด็กหนุ่มเป็นกังวลอย่างมากว่าแผลของเธอจะเป็นอย่างไร ถูกหมอเย็บไปกี่เข็ม เจ็บปวดกี่มากน้อย

กวินไม่รู้อะไรเลย เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ได้ขอไว้ แม้แต่ชื่อแซ่ก็ลืมถาม เขาจึงได้แต่ภาวนาให้ค่ำคืนอันยาวนานผ่านพ้นไปโดยเร็ว พรุ่งนี้จะรีบตามข่าวคราวของเธอมาให้ได้ แม้ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนเพื่อให้ได้พบกันอีกครั้งก็ตาม

และเพียงไม่นาน เวลาแห่งการรอคอยก็มาถึง ระหว่างนั่งแกร่วอยู่บนเก้าอี้หลังโรงเรียน กวินนึกว่าตัวเองจะผิดหวังเสียแล้วที่ตามหาเด็กหญิงคนนั้นไม่พบ ช่วงเวลาเกือบจะพอดีกับที่เขาตัดสินใจลุกขึ้นแล้วออกเดินกลับบ้านคนเดียวอีกวัน เสียงกระจ่างใสก็ดังขึ้นทางด้านหลัง ปลุกหัวใจเด็กหนุ่มผู้เงียบเหงาให้โลดเต้นได้ในพริบตา

“พี่คะ!”

กวินเอี้ยวตัวกลับมาหาต้นเสียงก็พบเด็กหญิงในดวงใจคนนั้นยืนยิ้มน้อยๆ เธอยื่นบางสิ่งในมือมาให้เขาตรงหน้า เด็กหนุ่มเลยเห็นผ้าก๊อซพันแผลที่หัวแม่มือข้างขวาไว้อย่างเรียบร้อย เขาถอนหายใจโล่งอก บาดแผลนั้นที่เขานอนกังวลอยู่ทั้งคืนคงถูกเย็บด้วยแพทย์ฝีมือดีเรียบร้อยแล้วสินะ..

แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 55 21:54:14

จากคุณ : pericardium
เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 55 20:13:04




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com