พล่ามๆ พรรณนา ในวันเหงาๆ

    วันนี้ เหงา

    เหงาเหมือนทุกๆ วัน ที่เหงา

    เหงาอย่างไม่มีเหตุผล

    คลิ๊กนู้น  ดูนี่ เปิดนั้น  

    อ่านงานคนอื่น คนแล้วคนเล่า  บ้างตอบ  บ้างปล่อยทิ้งไว้ ด้วยไม่รู้จะตอบอะไร
    *
    *
    บางทีคนเราก็แปลก ...  

    รู้สึกอบอุ่น แม้จะนั่งเพียงคนเดียวในห้องที่ว่างเปล่า

    แต่บางครั้ง กลับเหงาท่ามกลางผู้คนรายล้อม

    เคยมีคนบอก ฉัน ว่า ฉันเป็นผู้หญิงที่ยิ้มเก่งที่สุด เท่าที่เค้าเคยรู้จัก  

    บางคน ก็ว่า ฉันไม่เคยทุกข์ร้อน กับอะไร รอบตัวบ้างเลยเหรอ
    *
    *
    แปลก ???  ที่คนเหล่านั้นมักเป็นคนใกล้ตัวฉันมากๆ  เป็นคนที่คล้ายๆ จะเข้าใจทุกอย่าง

    แค่  ** คล้ายๆ **

    เพราะ  คนที่เข้าใจจริงๆ มักไม่มีตัวตน

    บ่อยไป ที่ฉันมัก หลุดมาอีกโลกนึง

    โลกที่ฉันเรียกมันด้วยศัพท์ของฉันเองว่า โลกของใจ

    โลกที่ฉัน อยู่ในมุมที่ว่างเปล่า แต่อบอุ่น

    หลายครั้ง ฉันมักบอกเล่าเรื่องราว ต่างๆ ในชีวิต  สื่อความเหงา ถึงใครบางคน ที่ฉันไม่เคยรู้จัก

    ไม่เคยเห็นหน้า  หรือ แม้กระทั่งได้ยินเสียง

    น่าแปลก ที่บางที เราก็ไว้ใจคนแปลกหน้ามากกว่าคนใกล้ตัว

    ไว้ใจ???

    ไม่รู้จะใช้คำนี้ได้ดีแค่ไหน  เพราะเรื่องของฉันไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะต้องเก็บมันไว้เป็นความลับ

    แต่เพียงเพราะรู้ว่า  ไม่ว่าเรื่องเหล่านี้จะแพร่งพรายไปสู่ใคร ก็ย่อมไม่มีผลกับตัวฉัน

    ฉัน ไว้ใจ เพียงเพราะ มันไกลออกไปเท่านั้น  เราไม่รู้ไม่เห็น  

    หลังจอสี่เหลี่ยม ณ ฝั่งตรงข้าม  เค้าอาจกำลัง หัวเราะ ในความเพ้อเจ้อ ของฉัน ในขณะที่ส่งถ้อยคำความเป็นห่วงอันลึกซึ้งมาให้

    หลังจาก ปิดเครื่องไป  เค้าอาจเอาไปเล่าให้ใครต่อใครรอบตัวฟัง  

    แต่ฉันก็ยังจะคงนอนฝันดี อยู่ที่นี่โดยไม่สนใจ

    ฉันมีความสุข ทุกครั้ง ในโลกใบเล็กๆ อีกใบของฉัน
    *
    *
    เคยได้ยินคนบอกว่า คนทที่ใช้เวลาว่างส่วนมากนั่งอยู่หน้าจอ  มักเป็นคนเก็บตัว ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม

    แต่ฉันว่าไม่จริง  ฉันมีเพื่อน  มีสังคม ออกจะมากเกินไปด้วยซ้ำ  บางที ฉันเองต่างหาก ที่หนีมันออกมา

    อะไรที่มากเกินไปก็เบื่อ  เหมือนกับข้าวที่มีหลายชนิด จนไม่รู้จะเลือกกินอย่างไหน  ผลสุดท้าย ก็พาลกินไม่ลงเอาซะดื้อๆ

    *
    *
    เวลาเหงาๆ  มีที่ที่อยากไปกันมั้งไหม

    เวลาเบื่อจัดๆ  เคยอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษบ้าง

    ที่ที่เรียกกันว่า ที่ชอบๆ  ที่ที่ไม่ต้องรอให้ตายก็ไปได้  มีกันบ้างหรือเปล่า

    ฉันชอบไปสะพานพุทธ  

    ฉันชอบน้ำ  

    เคยคิดเล่นๆ ถ้าเลือกวิธีตายได้อย่างไม่ทรมาร ฉันอยากตายกับน้ำ  

    แต่ก็ได้แค่คิด  เพราะเอาเข้าจริงๆ ก็รู้ว่ามันคงเลือกไม่ได้ขนาดนั้น  

    และ คงไม่อยากสำลักน้ำตายหรอก แค่เวลาสำลักน้ำที่กินแต่ละครั้ง ยังทรมารจะแย่

    สะพานพุทธ ในมุมของฉัน  

    เวลาเหงาจัดๆ  และ สามารถออกไปนอกบ้านได้ดั่งใจ โดยพ่อไม่ว่า แม่ไม่บ่น  ฉันจะไปสะพานพุทธ

    ไปมันคนเดียวนี่แหละ  ไปช่วงเย็นๆ ของเค้ายังไม่ทันจะตั้งขาย

    เดินขึ้นไปบนสะพาน  ฝั่งปากคลองตลาดหันหน้าไปทางนั้น ทิศที่เค้าเรียกกันว่าทิศตะวันตก

    ตอนเย็น พระอาทิตย์จะตกมุมนั้น เหมือนพระอาทิตย์ตกลงไปในน้ำ

    เวลาพระอาทิตย์ใกล้ตก  เราจะเห็นพระอาทิตย์ กลม โต เป็นพิเศษ  สีจะแดงสด อาบท้องฟ้าเป็นสีส้ม

    แสงอ่อนๆ จะสาดลงมาที่พื้นน้ำ มีภาพเบื้อหน้าเป็น วัดสองข้างแม่น้ำเจ้าพระยา

    วัดโพธ์  และ วัดแจ้ง  หรือยังไงเนี่ยแหละ  ไม่แน่ใจนัก

    เจดีย์สูง  รับกับแสงอาทิตย์  ลมพัดโชย ผ่านมาตามสายน้ำ

    เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า  ไฟฟ้าจากบ้านเรือน รวมทั้ง ไฟตามวัดก็จะเปิด

    แสงไสหลากสี ส่องกระทบเจดีย์ กระทบวัด สาดสู่แม่น้ำ

    เป็นประฏิมากรรม เป็น ศิลปะ ที่ธรรมชาติกับมนุษย์ร่วมกันสร้างอย่างลงตัว

    ถ้าวันไหนมีโอกาส ได้อยู่ดึกอีกนิด  แล้วฟ้าเปิด ก็จะมีโอกาสเห็นดาว  แม้ไม่มากมายเต็มท้องฟ้า  แต่ก็ให้อารมณ์ผ่อนคลายได้ไม่น้อย

    เบื้องหน้า  มีท้องฟ้า มีวัด  มีแม่น้ำ มีความสงบ

    ด้านหลัง มีรถยนต์วิ่งขวักไขว่  มีเสียงผู้คนมากมาย ตะโกนคุยแข่งกับเสียงรถราบนท้องถนน

    ทั้ง กระเป๋ารถเมล์  คนที่นั่งบนสามล้อ แม่ค้าแม่ขายที่เข็นของมาขายบนสะพานเพียงผ่านมาแล้วผ่านไป

    เบื้องล่างใต้สะพาน  เป็นตลาดนัดยามค่ำคืน  มีผู้คนดิ้นรน ต่อสู้ ทำมาหากิน

    นั่นไม่ได้ทำให้อรรถรส ของความงามที่ฉันรู้หายไป แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันมากขึ้น

    เหมือนเวลาเราเจอปัญหาสักอย่าง เพียงเราหันหลังให้มัน เราก็อาจจะสงบได้ เมื่อกายพร้อม  ใจพร้อม  เราก็ต้องหันกลับไปเจอกับมันอยู่ดี

    เพราะไม่ว่าอย่างไร  ฉันก็ต้องลงจากสะพาน ข้ามถนนอันจอแจ มาเจอความวุ่นวายข้างล่าง  มาผจญกับผู้คนหลากหลาย  ยกเว้นแต่ ฉันจะโดดลงไปในน้ำเท่านั้นแหละ ฉันถึงจะหนีสภาพนั้นได้พ้น

    ลงจากสะพาน  ฉันชอบไปเดินปากคลองตลาด  ดอกไม้ปากคลอง อาจไม่ได้ถูกจัดอย่างสวยหรูในช่อ ปัก แจกัน แค่ดอกไม้เป็นกำๆ แบบขายส่ง  แต่ฉันก็ชอบ  

    ฉันนิยมซื้อ ดอกมะลิที่เค้าขายเป็นลิตร  ลิตรนึงเท่ากระป๋องนมข้นหวาน ราคา ลิตรละ 10-30 บาท แล้วแต่อายุดอกว่าอ่อนแก่แค่ไหน

    ซื้อดอกมะลิ เป็นลิตร ถุงใหญ่ๆ กลับบ้าน เอาวางในห้อง  สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ชื่นใจ

    แค่นี้ ก็ทำให้วันเหงาๆ ว่างเปล่าวันนึงของฉัน หลับสบาย และ ฝันดี
    z
    z
    z
    Z
    Z
    เฮ้อออออ  อยากไปสะพานพุทธจัง

    วันนี้ อาจมาแปลก  แปลก กว่าทุกๆ วันที่เคยตั้งกระทู้  

    แต่อยากตั้ง  อยากเขียน อยากเล่า อยากบ่น อยากอะไรๆ ตั้งหลายอย่าง  แต่ก้ได้ออกมาแค่นี้แหละ

    ก็บอกแล้ว  พล่ามๆ พรรณนา อย่าไปเอาอะไรมากนักเลยนะคะ  

    แค่อ่านมาได้จนถึงตรงนี้ ก็ ขอบคุณมากแล้วคะ รักคุณ


    จากคุณ : แชมพู เพ้อเจ้อ (*แชมพู*) - [ 19 พ.ค. 46 16:28:43 ]