ต่อจากตอนที่แล้ว...
ฝนตกลงมาไม่ขาดสายเมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินแชนนอน (Shannon Airport) ความหนาวเย็นที่มากับสายฝนทําให้อารมณ์เขาดีอย่างประหลาด ชายหนุ่มรู้ว่าเขาหลับตามาตลอดทางที่เครื่องบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก( Atlantis) และดูเหมือนไอ้ความฝันบ้าๆนั้นจะไล่ตามเขามาติดๆเช่นกัน
เขาผ่านเข้าด่านศุลกากรอย่างง่ายดายและยังจัดการหารถเช่าได้เสร็จสรรพ เขาจัดการทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วเพราะเป็นฤดูนักท่องเที่ยวทุกคนทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วทันใจ
ขณะที่ชายหนุ่มจัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อยเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คิดอะไรมากเขาพยายามที่จะไม่คิดว่าตัวเองกําลังจะเป็นโรคประสาทอย่างหนึ่งอย่างใดไปหรือเปล่าในขณะนี้
เขาก้าวเข้าไปนั่งในรถที่เช่ามาและนั่งอยู่ตรงนั้นเหม่อลอยท่ามกลางแสงสลัวคิดหาคําตอบให้กับตัวเองว่าจะทํายังไงต่อไปกับชีวิตเขาเองและตัวเขากําลังจะไปที่ไหนกันแน่เขาอายุสามสิบแล้วไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไปเป็นถึงนักถ่ายภาพผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเขาสามารถที่จะเรียกราคาค่าถ่ายรูปเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่เขาต้องการจะไปถ่ายที่ไหนก็ได้ตามความชอบใจของเขา ชายหนุ่มคิดอยู่เสมอว่าตัวเองช่างโชคดีเสียนี้กระไรที่โชคชะตากําหนดให้เขาได้ทําในสิ่งที่เขารักและได้ใช้สถานที่ตรงไหนก็ได้ที่เขาต้องการจะถ่าย ถ่ายภาพหน้าตาผู้คนในแสงสว่างในความมืดและเลือกองค์ประกอบต่างๆตามที่เขาพอใจถ่ายทอดออกมาเป็นรูปภาพ
เขายอมรับกับตัวเองว่าในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาเขาทํางานไม่เคยหยุดหย่อนและที่น่าขําก็คือตอนนี้ท้ายรถ
วอลโว่ที่เช่ามาก็มีอุปกรณ์การถ่ายรูปอยู่ครบถ้วนและกล้องคู่ใจของเขา นิคอล (Nikon) อยู่ในกล่องของมันวางอยู่ข้างเขานี่เองเขาไม่สามารถจะหันหลังให้มันได้สักครั้ง เขาไม่อยากจะหนีจากอะไรที่เขารักอีกต่อไป
ในช่วงเวลานั้นเองที่อยู่ๆเขาก็เกิดความรู้สึกประหลาดขนลุกขึ้นมาเฉยๆเขารู้สึกแว่วๆเหมือนได้ยินเสียงผู้หญิงกําลังร้องไห้อยู่ ไม่มีอะไรหรอกน่าก็แค่เสียงฝนตกเขาปลอบตัวเองและยกมือขึ้นลูบหน้าที่หล่อเหล่าของเขา รูปหน้าของเขายาวรีและมีโหนกแก้มสูงที่สืบเชื้อสายมาจากสายเลือด เคลติก**บรรพบุรุษของเขาจมูกของเขาคมสันริมฝีปากเต็มอิ่มได้รูปสวย มันยิ้มอยู่เป็นประจําหรือมันเคยยิ้มอยู่บ่อยๆจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้เองที่มันหยุดยิ้ม
(**Celtic หรือ เคลติกก็คือพวกชาวเซลส์ที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะอังกฤษก่อนชาว Anglo-Saxonมาถึงปัจจุบันอยู่อย่างกระจัดกระจายตามสก๊อตแลนด์ ไอร์แลนด์ และเวลส์)
สีตาของชายหนุ่มเป็นสีเทาแก่ล้วนๆไม่มีสีเขียวหรือฟ้าเจือปนอยู่เลยแม้แต่นิดเดียวคิ้วหนาเป็นเส้นโค้งน่าดูแต่ดูเหมือนในเวลานี้มันจะขมวดเข้าหากันในยามที่เขาเหม่อลอยครุ่นคิดอยู่เสมอ ผมชายหนุ่มเป็นสีดําสนิทได้รูปยาวประคอเสื้อของเขาดึงดูดให้สาวสวยหลายคนชื่นชอบเขามาแล้ว
แต่ก็อีกนั่นแหละมันนานหลายเดือนมาแล้วที่เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงและเขาเองก็ไม่ได้ต้องการจะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนขึ้นมาเฉยๆเช่นกัน หรือว่าเราทํางานมากเกินไปหรือเปล่านะบางทีมันอาจจะมาจากการทํางานเคร่งเครียดมากเกินไปก็ได้แต่เขาก็ยังหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ว่าทําไมเขาต้องมานั่งเคร่งเครียดกับหน้าที่การงานที่กําลังรุ่งเรืองอยู่ในขณะนี้ ร่างกายเขาก็แข็งแรงดีไม่ได้เจ็บป่วยเป็นอะไรเขาเพิ่งจะไปตรวจสุขภาพทั่วไปเมื่อไม่นานนี้เองแต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้บอกหมอ
เขารู้ว่าเขาไม่ได้บอกหมอถึงความฝันของเขา ความฝันที่เขาดูเหมือนจะจํามันได้ลางๆในยามที่เขาตื่นขึ้นมา ไอ้ความฝันที่เขามีอยู่หลายครั้งติดๆกันนี้เองที่ทําให้เขาข้ามนํ้าข้ามทะเลมาสามพันไมล์
ใช่แล้วให้ตายห่-แล้วมันเรื่องอะไรที่เขาจะบอกกับหมอเรื่องความฝันบ้าๆนี่ เขาไม่ต้องการกลับไปเป็นเหมือนตอนนั้นอีกครั้ง เขาไปหาหมอโรคจิตมากเกินพอในวัยเยาว์ หมอพวกนั้นทั้งหว่านล้อมตั้งคําถามและทดสอบอะไรเขามากมายทําให้เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหลและงี่เง่าเป็นที่สุด เขาไม่ชอบไอ้ความรู้สึกอ่อนแอและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนี้เขาก็ไม่ใช่เด็กๆอีกต่อไปแล้วเขาจะจัดการกับไอ้ความฝันบ้าๆนี่เองตามวิธีการของเขา
เขาคิดว่าตัวเองกําลังจะเป็นโรคประสาทบางทีการได้มาพักผ่อนหย่อนใจนอนหลับและเปลี่ยนบรรยากาศก็น่าจะรักษาอาการนี้ได้และนี้ก็เป็นสาเหตุที่เขามาที่ไอร์แลนด์ก็แค่สาเหตุนี้เท่่านั้น ชายหนุ่มสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างไร้จุดหมาย
ในขณะที่ขับรถเขาก็ระลึกถึงความฝันที่เขาฝันเมื่อตอนเป็นเด็กๆในความรู้่สึกของเขาในตอนนั้นมันชัดเจนมากเหมือนความจริงไม่ใช่ความฝัน ฝันถึงปราสาทและแม่มด และก็ผู้หญิงที่มีผมสีแดงยาวประบ่าหล่อนพูดคุยกับเขาด้วยสําเนียงของพวกไอร์แลนด์และในบางครั้งก็พูดกับเขาในภาษาที่เขาเองไม่เข้าใจแต่เขาก็สามารถฟังมันรู้เรื่องได้อย่างน่าประหลาด
และในความฝันครั้งหนึ่งที่เขาจําได้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผมเป็นสีแดงยาวประบ่าเหมือนนํ้าตกที่ไหลลงมาจากที่สูงซึ่งเหมือนกับผู้หญิงคนนั้นรวมทั้งตาสีนํ้าเงินนั้นด้วย เขาหัวเราะกับเด็กผู้หญิงคนนั้นในความฝัน เล่นด้วยกันด้วยควาบริสุทธิ์ไร้เดียงสา จําได้ว่าตอนนั้นพ่อกับแม่เขาประหลาดใจเมื่อเขาบอกกล่าวถึงเพื่อนในความฝันแต่พวกท่านไม่ได้คิดอะไรมากในตอนนั้นคิดว่าเป็นธรรมดาเด็กที่เป็นลูกคนเดียวอย่างเขาจะมีจินตนาการแบบนั้น
แต่พ่อแม่ของเขาเริ่มจะกังวลเมื่อลูกชายเริ่มจะรู้จะเห็นและพูดถึงสถานที่ผู้คนที่เขาไม่น่าจะรู้จักแม้แต่น้อย พวกท่านเป็นกังวลเมื่อเขาหลับตาลงทุกคืนเขาจะถูกรบกวนจากอะไรบางอย่างกังวลมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาเริ่มจะเดินเหินและพูดคุยทั้งที่ยังหลับอยู่เหมือนล่องลอยอยู่ในความฝันไม่รู้จบ
พ่อแม่ของเขานําเขาไปหาหมอหลายต่อหลายคน หมอโรคจิตก็หลายครั้งหลายหน และผู้ใหญ่หลายคนเริ่มจะมองเขาแปลกๆโดยที่คนเหล่านั้นไม่คิดว่าเขาจะเห็นถึงการมองแปลกๆของพวกเขาและนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทําให้เขาหยุดพูดถึงความฝันพวกนั้น
ในขณะที่เขาเติบโตขึ้นเด็กผู้หญิงในความฝันของเขาก็เติบโตขึ้นเช่นกัน หล่อนมีรูปร่างสูงโปร่งน่ารัก มีหน้าอกที่เขาเริ่มจะมองเห็น เอวหล่อนเล็กนิดเดียว และยังขาคู่เรียวยาวที่เขาสังเกตเห็น ความรู้สึกและความต้องการของเขาที่มีต่อเธอมันเริ่มจะเปลี่ยนไปมันไม่บริสุทธิ์และมันทําให้เขาหวั่นไหวร้อนรุ่มเหมือนไฟรน
ความรู้สึกใหม่ๆที่เขาคิดต่อเธอทําให้เขากลัวขึ้นมาและมันทําให้เขาโกรธขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้ จนกระทั่งเขาพยายามจะหยุดความฝันเหล่านั้นที่มีเสียงอ่อนหวานน่ารักของเธอที่เข้ามาอยู่ในความฝันของเขาทุกคืน เขาพยายามไม่คิดถึงเธอต่อไปอีกเพีื่อที่เขาจะได้ไม่ทรมานอีกต่อไป และในที่สุดมันก็หยุดลงไม่มีความฝันพวกนั้นอีกต่อไป
เขามีความสุขกับชีวิตของเขาหลังจากนั้นเขาได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ใช่ความฝัน คาลบอกตัวเองเช่นนั้นเสมอมาว่าเขาเลือกที่จะมีชีวิตที่ปราศจากความฝันเหล่านั้น และเขาก็จะตัดขาดจากมันอีกครั้งอย่างแน่นอน เขามาที่นี่ก็เพื่อมาพิสูจน์ตัวเองว่าเขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาทั่วไปที่กําลังประสบปัญหาจากการทํางานหนักมากเกินไปเท่านั้นเขาจะทําตัวให้สนุกสนานและดื่มดํ่่ากับธรรมชาติที่สวยงามของไอร์แลนด์ ถ่ายรูปที่เขาพอใจและถ้ามีความจําเป็นจริงๆก็จะใช้ยานอนหลับที่หมอให้มาเขาจะได้ไม่ฝันอีก
เขาขับรถท่ามกลางสายฝนที่โถมกําลังเข้าหาฝั่งทะเลอยู่ไม่ขาดสาย ลมพายุพัดพาเข้ามาหาฝั่งอย่างบ้าคลั่งจากท้องทะเลไกลโพ้นนั้นทําให้ฤดูร้อนของที่นี่ถูกบุกรุกด้วยลมหนาวที่พัดมา
สายฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายตีกระทบที่ปัดฝนหน้ารถของเขาอยู่ตลอดเวลาและหมอกก็เริ่มจะลงมาสู่ท้องถนน บรรยากาศในตอนนี้ไม่น่าจะทําให้เขาอยากไปเที่ยวชมอะไรเลยแต่เขากับรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน และมันเหมือนกับว่าอะไรบางอย่าง หรือใครบางคน กําลังพยายามจะดูดเขาเข้าไปในพายุที่บ้าคลั่งนั่น และความคิดเหลวไหลอันนั้นก็ทําให้เขาอดหัวเราะให้กับตัวเองไม่ได้ มันก็แค่รู้สึกอารมณ์ดีที่ได้เปลี่ยนบรรยากาศไปในที่ใหม่ๆเท่านั้นเองและเขากําลังมุ่งหวังที่จะได้เห็นอะไรใหม่ๆเพื่อที่เขาจะได้ถ่ายภาพอีกครั้ง
ชายหนุ่มรู้สึกอยากดื่มกาแฟขึ้นมาเต็มแก่ หรือหิวขึ้นมาเฉยๆ แต่เขาก็ลืมความอยากทั้งหลายไปเมื่อได้ดื่มดํ่ากับธรรมชาติรอบตัวเขาในขณะนี้ เขาคอยที่จะหาอะไรกินทีหลังก็ได้เขาจะไปหยุดที่ไหนสักแห่งแถวผับหรือโรงแรมข้างทาง แต่สําหรับตอนนี้เขาเลือกที่จะชื่นชมกับความงามของภูมิประเทศ สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ และเหมือนโลกจะหยุดหมุนอยู่แค่ตรงนี้เท่านั้น
และมันเหมือนกับว่าเขารู้จักกับสถานที่นี้มาก่อน บางทีอาจจะหยุดถ่ายรูปแถวนี้เอาไว้เพื่อที่เขาจะได้ดูรูปเมื่อยามระลึกถึงที่นี่ เมื่อคิดไปแล้วบรรพบุรุษเขาเคยท่องไปในหุบเขาเหล่านี้ เมื่อมองดูภูเขาสีเขียวๆ พวกนั้นน่าจะมีพวกนักรบเคยอยู่แถวๆนี้เขาคิดในใจ ไม่ใช่มีนักรบคนหนึ่งหรอกหรือที่ทาสีตัวเองจนทั่วตัวเป็นสีนํ้าเงินและวิ่งออกมาอย่างหึกเหิมเพื่อจะทําให้ศัตรูเสียขวัญ นักรบคนนี้สวมเกาะป้องกันตัวและห้อยดาบอันใหญ่และห้อยทวนเอาไว้ป้องกันข้าศึกศัตรูที่มาลุกลานผืนแผ่นดินของเขาและต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาแย่งเอาอิสรภาพจากพวกเขาไปได้
มีต่อ...
จากคุณ :
โรส สลาลินน์
- [
5 ส.ค. 46 05:34:52
A:12.108.141.190 X:
]