น้ำหลากฝั่งวรรษปลายก็หมายอุระอุไร
รื่นเริงบรรเทิงใจ
..บ่จาง
ลมหนาวโชยปะทะพรรณก็บั่นพิษระคาง
เฉกแย้มแอร่มสาง
..ผสาน
บุปผาพฤกษระรินประทิ่นผัสสราญ
โลมรึงก็ตรึงฆาน
บ่คลาย
นั่น..แดงเรื่อชุติทิศวิจิตรบุพประกาย
คือรุ่งอันฟุ้งพราย
รพี
สาดลำแสงระดะแต้มแฉล้มคละปถวี
แดงจับสลับมี
.สมาน
คนหนึ่งหนอ-นยะแต้มก็แย้มสุขอุฬาร
ใครหนึ่งคำนึงขาน
มาคลอ
กายโลมหนาวอุระอุ่นคือกรุ่นรตะพะนอ
กับหนึ่งอันซึ้งหนอ
ไฉน
หวนลมหอมกุสุมาเมื่อบ่ารสประไพ
เปรียบหอมอันห้อมใคร
.ฤควร
หอมหนึ่งนั้นผิวแทรกชำแรกระส่ำกำสรวล
คลายหอมอันล้อมยวน
.ฤยัง
หอมแต่ไกลระยะห่างระหว่างบ่จะประทัง
ให้หอมอันล้อมหลัง
ละเลือน
น้ำใจหลากภวปลายก็หมายจะย้ำจะเยือน
เฉกค่ำย่อมกล้ำเดือน
และดาว
วานลมล่องจรสายชะหมายนยะอันพราว
ถึงใครว่าใครหนาว
..คำนึง.
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 46 14:39:34
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 46 13:14:04
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 46 13:12:42
จากคุณ :
สดายุ...
- [
6 พ.ย. 46 12:20:15
]